ฉีดโบท็อกหน้าผาก
รอยย่นบริเวณหน้าผาก เป็นหนึ่งในริ้วรอยที่สังเกตเห็นได้ชัดบนใบหน้า เกิดจากอายุที่มากขึ้นและการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ จากที่เคยเห็นเป็นริ้วรอยเล็ก ๆ นานวันก็จะยิ่งลึก ทำให้ดูมีอายุ ไม่สดชื่นสดใส วิธีแก้ไขที่ให้ผลลัพธ์ดีและได้รับความนิยม คือ การฉีดโบท็อกหน้าผากครับ
ฉีดโบท็อกหน้าผากคืออะไร ? ต่างจากการผ่าตัดอย่างไร ? ใครควรฉีดโบท็อกหน้าผาก ? หลังฉีดอยู่ได้นานเท่าไร ? จะต้องใช้กี่ยูนิตถึงช่วยลดริ้วรอย ได้ผลจริงไหม กี่วันเห็นผล ? หมอมีคำตอบมาฝากครับ
สารบัญ โบท็อกหน้าผาก
ฉีดโบท็อกหน้าผาก คืออะไร ?
การฉีดโบท็อกหน้าผาก คือ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิดเอ (Botulinum Toxin A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียชื่อ คลอสตริเดียม โบลูทินัม (Clostridium Botulinum) เข้าไปออกฤทธิ์ยับยั้งเซลล์ประสาทไม่ให้ผลิตสาร อะซีติลโคลีน (Acetylcholine) ที่ทำหน้าที่สั่งให้กล้ามเนื้อยืดและหด ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้ชั่วคราว
เมื่อแพทย์นำมาใช้ฉีดในตำแหน่งหน้าผาก เวลาที่แสดงสีหน้า เลิกคิ้ว ขมวดคิ้ว บริเวณที่ฉีดจะไม่เกิดการย่น และช่วยให้ลดริ้วรอยคลี่ออก ริ้วรอยบริเวณหน้าผากจึงลดลง ผิวเรียบเนียนขึ้นได้ครับ
รอยย่นบนหน้าผาก เกิดจากสาเหตุใด ?
รอยย่นบนหน้าผาก เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ แต่สาเหตุหลัก คือ อายุที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนและชั้นไขมันเสื่อมสภาพหรือมีปริมาณลดลง จึงเกิดรอยย่น รอยพับได้ง่าย เมื่อมีการแสดงสีหน้า
นอกจากอายุที่มากขึ้นแล้วยังมีสาเหตุอื่น ที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยก่อนวัย เช่น
- รังสียูวีเอ (UVA) จากแสงแดด : สามารถทำให้คอลลาเจน หรือเซลล์เนื้อเยื่อของผิวหนัง เสื่อมสภาพเร็ว
- การสูบบุหรี่ : เพราะนิโคตินในบุหรี่ทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลง ทำให้ผิวบาง ผิวหย่อนยานและผิวแห้ง เกิดริ้วรอยได้ง่าย
- การดื่มแอลกอฮอล์ : จะส่งผลเสียต่อผิวพรรณ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดวิตามินบี ซึ่งผิวหนังต้องอาศัยวิตามินบี จึงจะมีสุขภาพผิวที่ดี การขาดวิตามินบีทำให้ผิวพรรณซีด เหี่ยว แห้งง่ายครับ
ข้อควรรู้ : รอยย่นบนหน้าผาก พบมากในผู้ชาย เนื่องจากไม่ค่อยใส่ใจดูแลผิวดูแลตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไปริ้วรอยเหล่านี้จะค่อย ๆ ลึกขึ้น ชัดขึ้น และอาจทำให้รู้สึกเสียความมั่นใจได้
วิธีการแก้ปัญหารอยย่นบนหน้าผากมีอะไรบ้าง ?
วิธีแก้ปัญหารอยย่นบนหน้าผาก ให้ดูเรียบเนียน สามารถทำได้หลายวิธีครับ ทั้งแบบวิธีทางธรรมชาติ และการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้าช่วย โดยเฉพาะ “ การฉีดโบท็อกหน้าผาก ” เป็นวิธีแรก ๆ ที่หมอแนะนำครับ เพราะสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างตรงจุด ส่วนวิธีอื่น ๆ ที่สามารถช่วยลดริ้วรอยหน้าผากได้ มีดังนี้
1. ลดรอยเหี่ยวย่นหน้าผากแบบธรรมชาติ
การลดรอยเหี่ยวย่นแบบธรรมชาติที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินมาก คือการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวบริเวณหน้าผาก ด้วยการมาร์กผิวด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น แตงกว่า น้ำผึ้ง ว่านหางจระเข้ ที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ สามารถทำได้บ่อย ๆ โดยทำทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก ก่อนทาครีมบำรุงผิวตามปกติ วิธีนี้ยังสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ ได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาครับ ไม่สามารถเห็นผลได้เร็ว และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง มีริ้วรอยเล็ก ๆ เท่านั้น
2. วิธีลดริ้วรอยหน้าผากด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดริ้วรอยหน้าผาก ให้ลดลงได้ครับ โดยผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาสรรพคุณว่า สามารถต่อต้านริ้วรอย และช่วยลดริ้วรอยได้ มักมีส่วนผสมของสารโคเอนไซม์ คิวเทน ,กรดไฮยาลูรอน,เพนทาเป๊ปไทด์ และ ซาโปนิน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นการบำรุงผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่น อิ่มน้ำ
ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ให้เลือก สะดวกสบายมากขึ้น แต่ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานถึงเห็นผล เหมาะกับริ้วรอยเล็ก ๆ และผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าครับ
3. วิธีลดริ้วรอยหน้าผากด้วยแผ่นแปะมาสก์หน้าผาก
แผ่นแปะมาสก์หน้าผาก ปัจจุบันมีวางจำหน่ายหลายยี่ห้อครับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก สามารถใช้แผ่นมาร์กแปะหน้าผากขณะหลับโดยไม่เสียเวลา แผ่นมาสก์หน้าผาก สามารถช่วยแก้รอยย่นได้ด้วยการบังคับกล้ามเนื้อหน้าผากไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหว ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมงหรือข้ามคืน เมื่อผิวขยับน้อยลง ริ้วรอยก็จะไม่เห็นชัด ประกอบกับบางยี่ห้อมีการใส่ตัวยาช่วยบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื่น ก็ช่วยให้ผิวบริเวณหน้าผากสุขภาพดีขึ้นได้ครับ
4. การฉีดฟิลเลอร์ ลดริ้วรอยหน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อลดริ้วรอยหน้าผาก คือการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอน (HA) ที่มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำ เติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและเพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง หลังฉีดจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเรียบเนียนและช่วยลดริ้วรอยได้ครับ
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยังช่วย แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม หรือเสริมโหงวเฮ้งได้ด้วย เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากมีแผล ต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการยุบตัวบริเวณหน้าผาก ให้ดูเต็มสวยขึ้น และช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณหน้าผากหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที เป็นวิธีการลดริ้วรอยเล็ก ๆ และเติมเต็มหน้าผากที่สามารถอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
5. Hifu Ultraformer III ลดริ้วรอยหน้าผาก
Hifu Ultraformer III คือ เครื่องมือยกกระชับผิวหย่อนคล้อย สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยบนหน้าผากได้ รวมถึง ริ้วรอยรอบดวงตา หว่างคิ้ว หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก เหนียง คอ รวมทั้งยังช่วยยกกระชับปรับหน้าเรียว สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ หลังทำเห็นผลทันทีประมาณ 20% โดยจะรู้สึกผิวกระชับขึ้น หลังจากนั้น 3-4 เดือน จะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอย หลังทำสามารถใช้หน้าได้ทันทีครับ
6. การผ่าตัดดึงหน้าลดริ้วรอย
การศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าผากลดริ้วรอย เป็นการผ่าตัดยกหนังหน้าผากและคิ้วขึ้นไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม โดยใช้การผ่าตัดหนังศีรษะส่วนเกินและตัดแต่งกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผากและหัวคิ้วออก หรือใช้วัสดุทางการแพทย์ที่มีลักษณะเป็นหมุดขนาดเล็ก ยึดผิวหนัง ลดริ้วรอย โดยไม่จำเป็นต้องตัดหนังศีรษะทิ้ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการดึงหน้าเพื่อคืนความอ่อนเยาว์ วิธีนี้ต้องใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน และมักมีอาการชาบริเวณกระหม่อมตามมาครับ
ฉีดโบท็อกหน้าผาก ดีอย่างไร ?
สำหรับคนที่อยากได้ผลลัพธ์ที่เร็ว อยากให้ใบหน้ากลับมาตึงสวย การฉีด Botox หน้าผากเป็นทางเลือกที่ดี และเป็นวิธีแรกที่หมอแนะนำ เพราะสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยครับ
- เป็นหัตถการที่แก้ไขได้ตรงจุด และช่วยลดริ้วรอยอื่น ๆ บริเวณใบหน้าได้ เช่น รอยตีนกา รอยขมวดระหว่างคิ้ว
- ช่วยให้ผิวบริเวณหน้าผาก เรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น
- สามารถชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคตได้
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน ราคาไม่แพง คุ้มค่า คุ้มราคา
- คงผลลัพธ์ได้นานหลายเดือน เพื่อคงผลลัพธ์สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้
Botox รอยขมวดระหว่างคิ้ว
รอยขมวดระหว่างคิ้ว หรือ Labella Frown Lines เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีสาเหตุการเกิดริ้วรอยเหมือนกับบริเวณหน้าผากครับ อายุที่มากขึ้น และการแสดงสีหน้าทำให้กล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างคิ้ว ย่น เป็นรอยพับมองเห็นแนวของรอยย่นจะเป็นแนวตั้ง สามารถแก้ไขได้ดีด้วยการฉีด Botox รอยขมวดระหว่างคิ้ว เช่นกัน
โดยทั่วไปคนไข้ที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ก็จะฉีดโบท็อกแก้ไขทั้ง 2 ตำแหน่งไปพร้อม ๆ กัน รวมถึงริ้วรอยตำแหน่งอื่น ๆ เช่น รอยตีนกา ริ้วรอยหางตา หลังฉีดโบท็อกจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทบริเวณรอยต่อของเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อครับ จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยระหว่างคิ้วลงได้ครับ
ฉีดโบท็อกหน้าผาก เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีริ้วรอยหน้าผาก เมื่อเลิกคิ้วจะเห็นริ้วรอยชัดขึ้น
- ผู้ที่มีริ้วรอยหน้าผากชัดเจน แม้จะไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ
- ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยหน้าผาก โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า
- ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยหน้าผากอย่างเห็นผล ในเวลาอันรวดเร็ว
- ผู้ที่ไม่อยากมีริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ต้องการป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต
ฉีดโบท็อกหน้าผาก กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดโบหน้าผากลดริ้วรอย ผิวจะเริ่มตึงขึ้นในช่วง 3-4 วัน แรกหลังทำ และหลังฉีดใช้เวลา 7-14 วัน จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเต็มที่ แต่ยังสามารถแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติอยู่ครับ
รีวิวโบท็อกหน้าผาก
ตัวอย่างรีวิวฉีดโบท็อกหน้าผากผลลัพธ์หลังทำ 7 และ 12 วัน
ฉีดโบท็อกหน้าผากอยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?
ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกหน้าผาก โดยทั่วไปจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน โดยโบท็อกแท้สามารถสลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกเพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ เมื่อโบท็อกหน้าผากหมดฤทธิ์แล้วสามารถฉีดเพิ่มเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ต่อไปได้เรื่อย ๆ
ฉีดโบท็อกหน้าผากใช้กี่ยูนิต ?
การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากกจะใช้โบท็อกประมาณ 30 Unit แต่ละเคสอาจใช้ปริมาณโบท็อกมากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ ก่อนฉีดหมอจะประเมินและแนะนำปริมาณที่เหมาะสมให้ครับ
โบท็อกหน้าผากยี่ห้อไหนดี ?
ปัจจุบันโบท็อกมีหลากหลายยี่ห้อ จากหลายประเทศที่ได้รับการรับรองจากอย. ไทย และมีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย เช่น Allergan (โบท็อกอเมริกา), Dysport (โบท็อกอังกฤษ), Xeomin (โบท็อกเยอรมัน), Nabota (โบท็อกเกาหลี) และ Aestox (โบท็อกเกาหลี)
สำหรับการฉีดลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รวมถึงริ้วรอยจุดอื่น ๆ บนใบหน้า คนส่วนใหญ่นิยมใช้โบท็อกเกาหลี เพราะมีราคาที่ไม่สูงมาก แต่ความบริสุทธิ์ ระยะเวลาออกฤทธิ์ ก็จะอยู่ได้สั้นกว่าโบท็อกอเมริกาครับ
การดูแลตัวเองก่อน – หลังการฉีดโบท็อกหน้าผาก
- การดูแลก่อนฉีดโบท็อกหน้าผาก
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก ยี่ห้อไหน ต่างกันอย่างไรบ้าง
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรอง มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย
- ใช้โบท็อกของแท้และฉีดกับแพทย์โดยตรงเท่านั้น
- ควรงดยาในกลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือดเช่น NSAIDs, แอสไพริน
- งดสครับหน้า 2-3 วันก่อนฉีด จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเขียวช้ำ
- หลังฉีดโบท็อกหน้าผาก
- ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง เพื่อลดการปลิวของโบท็อก
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ส่งผลให้หน้าแดง เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การนั่งทานชาบูหน้าเตาร้อน ๆ
- ทานอาหารที่มีธาตุสังกะสีในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดี
- งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดนอนราบ นอนคว่ำ ก้มหน้า
อาการหลังฉีดโบท็อกหน้าผาก มีอะไรบ้าง ?
โดยทั่วไปอาการหลังฉีดโบท็อกไม่ค่อยมีครับ อาจรู้สึกตึง ๆ เล็กน้อยเป็นเรื่องปกติครับ แต่ก็มีบางรายที่อาจมีอาการปวดหัว อาการนี้อาจเกิดได้จากการแพ้โบท็อก (พบได้น้อยมาก) หากมีอาการควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ในกรณีที่หลังฉีดโบท็อกหน้าผากแล้วรู้สึกตึงมาก ตึงเกินไป อาจเกิดได้จากหมอใช้ปริมาณโบท็อกมากเกินไปครับ ซึ่งวิธีนี้ควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะจะสามารถคำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมสำหรับคนไข้ได้อย่างแม่นยำ
ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกหน้าผาก
- หลังฉีดโบท็อก ห้ามนอนราบ 3 ชั่วโมง และไม่ควรก้มหน้าลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด ดื่มแอลกอฮอล์ และงดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด ในช่วง 2 อาทิตย์หลังฉีดครับ
- ควรหลีกอาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบ และส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อก ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เช่น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก รวมถึงงดสูบบุหรี่
- อาการที่ต้องหน้าเตา เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู
- อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง เช่น เมนูยำต่าง ๆ
- อาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง ปลาร้า
- อาหารดิบ สุก ๆ ดิบ ๆ เช่น อาหารทะเล เนื้อที่ปรุงไม่สุก หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ
- อาหารรสหวาน เช่น ชานม น้ำหวาน นมวัว
ฉีดโบท็อกหน้าผากที่ไหนดี ?
ฉีดโบท็อกหน้าผากที่ไหนดี ? ให้ดูจากความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก โดยพิจารณาจาก
- คลินิกได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาต 11 หลักแสดงให้เห็นชัดเจน มีอุปกรณ์และเครื่องมือในการช่วยเหลือยามฉุกเฉิน มีพื้นที่และห้องการทำหัตถการที่กว้างขวาง มีความสะอาด ไม่ทึบหรือแออัด
- มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ในฉีดโบท็อกลดริ้วรอย/ปรับรูปหน้าอยู่ประจำคลินิก และมีเทคนิคในการฉีดที่ถูกต้องและแม่นยำ สามารถประเมินปริมาณยาที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และปลอดภัย
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ โดยดูจากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งรีวิวที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ มีความเป็นปัจจุบัน
- ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกแท้ ที่สามารถตรวจสอบได้ แพทย์ควรแกะกล่องและเปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และให้กล่องคนไข้กลับบ้านได้เพื่อให้คนขั้นสามารถเช็กกับบริษัทที่นำเข้าได้
- ราคาย่อมเยา ไม่สูงหรือต่ำต่างไปจากคลินิกอื่น ๆ มากเกินไป ซึ่งความแตกต่างของราคานั้นมักจะขึ้นกับประสบการณ์ของแพทย์
- มีการนัดดูผล ติดตามผลการรักษา และมีช่องทางให้สอบถามข้อมูลได้อย่างสะดวก
ฉีดโบท็อกหน้าผากที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
ที่ V Square Clinic เลือกใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกแท้ 100% ดูแลโดยแพทย์ที่ประสบการณ์ โดยก่อนฉีดหมอจะแกะกล่องโบท็อกและเปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถนำกล่องกลับบ้านเพื่อตรวจสอบได้อีกครั้ง ว่าเป็นโบท็อกแท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องหรือไม่
ราคาโบท็อกลดรอยย่นหน้าผาก โปรโมชั่น V Square Clinic
การโบท็อกหน้าผากราคาไม่แพงครับ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ชัดเจน คนไข้สามารถวางแผนงบประมาณได้ก่อนฉีด โดยราคาจะต่างกันที่ยี่ห้อและปริมาณยูนิตที่ใช้ โดยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำปริมาณโบท็อกที่เหมาะสมให้คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดครับ สำหรับที่ V Square Clinic มีโปรโมชั่น ดังนี้
สรุป
การฉีดโบท็อกหน้าผาก เป็นวิธีลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก และริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างเห็นผล คุ้มค่า และมีความปลอดภัย เมื่อฉีดโบท็อกแท้ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกหน้าผาก รวมถึงหัตถการอื่น ๆ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการนั้นอย่างละเอียด ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นหลัก ก็จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามที่คาดหวังครับ