Hifu กับ Botox ต่างกันอย่างไร เลือกทำแบบไหนดี ทำพร้อมกันได้ไหม ?

Categories
ฉีดโบท็อกซ์
Hifu กับ Botox

Hifu กับ Botox

Hifu กับ Botox ต่างกันอย่างไร ? มีจุดเหมือนกันไหม ? เชื่อว่าเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยครับ เพราะผลลัพธ์หลังทำหัตถการที่เห็นในโฆษณาก็จะเป็นเรื่องปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย คล้าย ๆ กัน

แต่จริง ๆ ทั้งสองหัตถการมีจุดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ ในบทความนี้หมอจะมาอธิบายว่า Hifu กับ Botox อันไหนดีกว่ากัน  มีข้อดี – ข้อเสียต่างกันอย่างไร  ทำพร้อมกันได้ไหม หรือควรทำอันไหนก่อน ? ทำที่ไหนดี พร้อมแนะนำว่าหลังทำมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นานครับ

สารบัญ Hifu กับ Botox

  1. Hifu กับ Botox ต่างกันอย่างไร ?
  2. Hifu
  3. Botox
  4. Hifu กับ Botox มีจุดที่เหมือนกันไหม อย่างไร ?
  5. Hifu กับ Botox อันไหนดีกว่ากัน พิจารณาจากอะไรบ้าง ?
  6. Hifu กับ Botox มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไรบ้าง ?
  7. รีวิวผลลัพธ์ ทำ Hifu กับ ฉีดโบท็อก ดีอย่างไร ?
  8. หลังทำ Hifu กับ Botox มีข้อห้ามและวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ?
  9. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Hifu กับ Botox
  10. Hifu กับ Botox ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ผลลัพธ์ชัดเจน
  11. ทำไฮฟู กับ ฉีดโบท็อก ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
  12. ราคา โปรโมชั่น Hifu กับ Botox ที่ V Square Clinic
  13. ฉีด Botox แล้วทำ Hifu ได้ไหม ?
  14. Q&A ข้อควรรู้เพิ่มเติม Hifu กับ Botox

Hifu กับ Botox ต่างกันอย่างไร ?

จริง ๆ แล้ว ทั้ง Hifu และ Botox สามารถช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าได้ครับ แต่จะใช้วิธีต่างกัน แก้ปัญหาต่างกัน ในชั้นผิวที่แตกต่างกันครับ หมอจะอธิบายดังนี้

Hifu

Hifu คืออะไร? ทำไม? Hifu Ultraformer III ยิ่งทำต่อเนื่องยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

Hifu (High Intensity Focus Ultrasound) คือเครื่องมือยกกระชับผิว ที่ไม่ต้องฉีด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้นโดยมีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์) ยิงพลังงานเข้าไปในชั้นผิว ทำให้เกิดความร้อนสะสม 60°C-70°C เนื้อเยื่อจะหดตัวแน่นขึ้น 

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวชั้นบนยกกระชับขึ้น โดยไม่ทำให้ผิวชั้นบนร้อน ไม่ทำให้ผิวไหม้ เนื่องจากมีระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเครื่องที่ได้มาตรฐาน มีการยิงพลังงานสม่ำเสมอ

Hifu

ประโยชน์ของการทำ Hifu ได้แก่ สามารถกระตุ้น Collagen ได้ทุกชั้นผิว ลดรูขุมขนกว้าง ผิวกระชับ กรอบหน้าชัด  หน้าเรียบเนียนใส ผิวนุ่มขึ้น กระชับแก้ม เหนียง ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น ร่องมุมปาก ร่องแก้ม พวงแก้ม ใต้ตา หน้าผาก เปลือกตาบน ลำคอ รวมถึงกระชับแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง สะโพก และช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคตได้

VSQ Tips

ข้อควรรู้ : หากเริ่มทำ Hifu ตั้งแต่อายุน้อย ๆ จะช่วยป้องกันหรือชะลอไม่ให้เกิดร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ทำให้รักษาใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ไว้ได้นานขึ้น

Botox

ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ดีไหม ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง ?

Botox (Botulinum Toxin Type A) คือตัวยาที่สกัดมาจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostridium botulinum เมื่อฉีดแล้วจะออกฤทธิ์กับระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง ตัวโบท็อกถ้ามาในขวดที่ยังไม่ได้แกะจะเป็นผลึกขาว ๆ อยู่ก้นขวด หมอต้องผสมน้ำเกลือให้ละลายก่อนฉีด 

โบท็อกเป็นโปรตีนน้ำใส ๆ เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อจะแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท ส่วนที่ไม่ถูกดูดซึมจะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. หลังฉีด และถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่น ไม่มีอันตราย

Botox

การออกฤทธิ์ของโบท็อกหลัก ๆ จะใช้ประโยชน์สองแบบ คือเพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า (เวลาแสดงสีหน้ากล้ามเนื้อจะหดตัวเพื่อให้เป็นสีหน้าแบบต่าง ๆ พอฉีดโบท็อกกล้ามเนื้อก็จะคลายออก) ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นหน้าผาก หางตา ตีนกา กระชับกรอบหน้า อีกอย่างคือสามารถลดขนาดกล้ามเนื้อได้ ก็จะใช้ฉีดลดกรามให้เล็กลง ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น หรือฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามแขน น่องขา


Hifu กับ Botox มีจุดที่เหมือนกันไหม อย่างไร ?

Hifu กับ Botox มีจุดที่เหมือนกันคือช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้เหมือนกัน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ เพราะปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 


Hifu กับ Botox อันไหนดีกว่ากัน พิจารณาจากอะไรบ้าง ?

Hifu กับ Botox อันไหนจะดีกว่า ขึ้นอยู่กับว่าใครเหมาะกับหัตถการไหนมากกว่ากันครับ เช่น ในคนที่มีกรามใหญ่ ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก การทำ Hifu จะช่วยให้กรามเล็กลงไม่ได้ครับ หรือในคนที่มีปัญหาผิว อยากกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้น กระชับขึ้น ก็จะเหมาะกับการทำ Hifu มากกว่า

แต่ทั้งนี้คนไข้สามารถทำทั้ง 2 หัตถการร่วมกันได้ครับ แต่ต้องให้แพทย์ประเมินว่าควรทำอันไหนก่อนหลัง จะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น


Hifu กับ Botox มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไรบ้าง ?

ข้อดี – ข้อเสีย ของ Hifu

ข้อดี Hifuข้อเสีย Hifu 
  • เหมาะกับคนที่กลัวเข็ม มีริ้วรอยไม่ลึกมาก
  • สามารถทำได้หลายครั้ง ยิ่งทำยิ่งเห็นผลชัดเจน
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
  • ปลอดภัย มีระบบป้องกันความร้อนที่มากเกินไป ไม่ทำให้ผิวไหม้
  • เห็นผลทันทีประมาณ 20% และเห็นผลเต็มที่ใน 3-4 เดือน
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-6 เดือน (สามารถอยู่ได้ถึง 1 ปี หากคนไข้ทนเจ็บได้ ใช้พลังงานสูงได้)
  • ไม่เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยลึก ร่องลึกมาก ๆ เพราะทำแล้วอาจจะไม่เห็นผลตามที่คาดหวัง
  • ผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร
  • หลังทำอาจจะมีอาการบวมเล็กน้อย แต่จะค่อย ๆ หายไปเอง
  • มีราคาสูงกว่าการฉีดโบท็อก

ข้อดี – ข้อเสีย ของ Botox

ข้อดี Botoxข้อเสีย Botox 
  • เหมาะกับคนที่ต้องการลดริ้วรอย หรือปรับรูปหน้า ลดกราม ลดน่อง ลดกล้ามแขน
  • หลังฉีดไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น (มีรอยเข็มเล็ก ๆ)
  • ฤทธิ์ของโบท็อกจะสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับว่าฉีดจุดไหน)
  • สามารถฉีดโบท็อกเพิ่มได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม (เว้นจากครั้งล่าสุดอย่างน้อย 3 เดือน และไม่เกิน 5-6 เดือน)
  • ราคาถูกกว่าการทำ Hifu
  • ไม่เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยลึก ร่องลึกมาก ๆ เพราะทำแล้วอาจจะไม่เห็นผลตามที่คาดหวัง
  • ไม่เห็นผลทันที และผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร
  • หลังทำอาจมีรอยช้ำจากเข็มเล็กน้อย แต่จะค่อย ๆ หายไปเอง ทายาได้
  • ระวังยาหิ้ว ยาปลอม ห้ามฉีดเด็ดขาด

รีวิวผลลัพธ์ ทำ Hifu กับ ฉีดโบท็อก ดีอย่างไร ?

รีวิว Hifu

รีวิวผลลัพธ์ ก่อน-หลัง ทำ Hifu

รีวิว Hifu
รีวิว Hifu
รีวิว Hifu

รีวิว Hifu ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย

รีวิว Hifu
รีวิว Hifu โดย คุณพีช

รีวิว Hifu ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย

รีวิว Botox

รีวิวผลลัพธ์ ก่อน-หลัง ฉีดโบท็อก

รีวิว Botox ลดริ้วรอย
รีวิว Botox ลดริ้วรอย

รีวิวโบท็อกลดริ้วรอย

รีวิว Botox ลดกราม
รีวิว Botox ลดกราม

รีวิวโบท็อกลดกราม


หลังทำ Hifu กับ Botox มีข้อห้ามและวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ?

การดูแลและข้อห้ามหลังทำ Hifu

การดูแลและข้อห้ามหลังทำ Hifu
  • หลังทำสามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ แต่ไม่ควรบีบ ถูก กด นวดหน้าแรง ๆ อาจทำให้ระบมได้
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้งสัก 1-2 สัปดาห์ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เพื่อป้องกันแสงแดด จะช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิว
  • หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  • งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง

การดูแลและข้อห้ามหลังทำ Botox

การดูแลและข้อห้ามหลังทำ Botox
  • หลังฉีดโบท็อกทันทีในแต่ละบริเวณ ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง เป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
  • หากฉีดโบท็อกกราม พยายามไม่เคี้ยวอาหารเหนียว ๆ จะทำให้กรามเด้งกลับมาไวขึ้น ฤทธิ์โบท็อกสลายเร็วขึ้น
  • ควรงดนอนราบ 3 ชม. งดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจเพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น โบท็อกจะปลิวไปเยอะขึ้น
  • การกินแร่ธาตุ zinc ช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น (ในบางเคสก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงของโบท็อกได้มากขึ้นครับ เพราะเสริมฤทธิ์รุนแรงเกินไป ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์)
  • ไม่แกะ เกา ในจุดเป็นรอยเข็ม และงดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
  •  2 สัปดาห์ หลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่า, ออกกำลังกายหนัก ๆ, ตากแดด, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF Thermage 
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก รวมถึงบุหรี่
  • งดอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Hifu กับ Botox

ผลข้างเคียงหลังทำหัตถการทั้ง Hifu และ Botox ที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ เช่น หน้าบวม รอยแดง รอยเข็ม อาหารเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองไม่เกิน 3 วันครับ หากมีอาการปวดก็สามารถทานยาได้ตามอาการ

ส่วนผลข้างเคียงที่ไม่ปกติ เช่น

  • ทำ Hifu แล้วผิวไหม้ หน้าไม่เท่ากัน หรือผิวไม่เรียบเนียนเสมอกัน เกิดจาก 2 กรณี คือ 1. เครื่องแท้ แต่แพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ใช้พลังงานไม่เหมาะสม ทำให้เกิดผลข้างเคียง 2. เครื่องปลอม ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย พลังงานไม่คงที่ ไม่สม่ำเสมอ ในจุดที่พลังงานสูงเกินไปทำให้ผิวไหม้ได้
  • ฉีดโบท็อกแล้วหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ตาตก เกิดจาก 2 กรณี คือ 1. ใช้ยาแท้ แต่แพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ฉีดผิดตำแหน่ง ไปโดนกล้ามเนื้อมัดที่ไม่ต้องการ หรือผสมน้ำเกลือมากเกินไป ยากระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น 2. ยาปลอม ยาหิ้ว ตรวจสอบแหล่งที่มาไม่ได้ ฉีดแล้วนอกจากทำให้เกิดผลข้างเคียง อาจทำให้มีการอักเสบ ติดเชื้อ หรือดื้อโบท็อกได้

Hifu กับ Botox ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ผลลัพธ์ชัดเจน 

ข้อสำคัญที่จะทำให้การทำ Hifu กับ Botox ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย คือการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แนะนำให้พิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ครับ

  1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้ว่าผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขใบอนุญาต 11 หลัก เปิดอย่างถูกต้อง อยู่ในทำเลที่น่าเชื่อถือ สะอาด สว่าง ปลอดภัย
  2. ตรวจสอบประวัติของแพทย์ผู้ทำหัตถการ ว่าเป็นแพทย์จริง มีประสบการณ์ สามารถนำชื่อ-นามสกุล เช็กได้ที่เว็บไซต์ของแพทยสภา
  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกใช้ยาแท้ เครื่องแท้ ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ 
  4. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ ทั้งแบบรูปภาพและคลิปวิดีโอ เพื่อให้เห็นขั้นตอนการทำและผลลัพธ์หลังทำอย่างชัดเจน
  5. คลินิกมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากคนไข้มีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์ได้ เช่น เบอร์โทร, Line@, Facebook Messenger

ทำไฮฟู กับ ฉีดโบท็อก ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ที่ V Square Clinic เราคัดสรรทีมแพทย์เก่ง มีฝีมือ มีประสบการณ์กว่า 15 ปี เข้ามาประจำคลินิกแต่ละสาขา สามารถปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย และแนะนำหัตถการได้ในเคสที่หลากหลาย ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะกับแต่ละคน การันตีด้วยรางวัลยอดขายและความนิยมระดับประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่เปิดคลินิก

ทำไฮฟู กับ ฉีดโบท็อก ที่ V Square Clinic รางวัล 8 ปีซ้อน

นอกจากนี้ V Square Clinic ยังคัดสรรเฉพาะตัวยาระดับพรีเมี่ยม และเครื่องมือที่มีความทันสมัย คุ้มค่า คุ้มราคา มีความปลอดภัย เข้ามาให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการและปัญหาที่แตกต่างกันในคนไข้แต่ละคน ไม่มีเซลส์ ทุกเคสจะได้ปรึกษากับหมอโดยตรง ได้รับคำแนะนำตามหลักการแพทย์ เป็นสิ่งที่คนไข้ที่เคยมาใช้บริการประทับใจและบอกต่อเป็นจำนวนมาก

ราคา โปรโมชั่น Hifu กับ Botox ที่ V Square Clinic

โปร Hifu
Landingpage-botox_2

ฉีด Botox แล้วทำ Hifu ได้ไหม ?

สามารถทำได้ครับ แต่หมอแนะนำให้รอโบท็อกออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ก่อน (ประมาณ 14 วัน) แล้วจึงทำ Hifu เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และกระชับผิวในจุดที่โบท็อกเข้าไม่ถึง


Q&A ข้อควรรู้เพิ่มเติม Hifu กับ Botox

ทำ Hifu กับ Botox พร้อมกันได้ไหม ?

สามารถทำพร้อมกันได้ครับ โดยต้องทำ Hifu ก่อน แล้วจึงค่อยฉีดโบท็อก

ทำ Hifu กับ Botox พร้อมกัน ดีกว่าไหม ? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?

ทำ Hifu กับ Botox พร้อมกัน ดีกว่าไหม ?  ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีปัญหาผิวตรงไหน และต้องการผลลัพธ์แบบไหนครับ เช่น หากคนไข้ต้องการลดกราม ลดริ้วรอยทั่วหน้า กระชับผิว แบบนี้คือยังไงก็ต้องฉีดโบท็อกกับ Hifu อยู่แล้วเพราะไฮฟู่ลดกรามไม่ได้ครับ สามารถทำพร้อมกันได้เลย

แต่หากคนไข้ต้องการลดริ้วรอยทั่วหน้าเพียงอย่างเดียว อาจจะลองฉีดโบท็อกก่อน รอให้โบท็อกออกฤทธิ์เต็มที่แล้วดูผลลัพธ์ หากพอใจแล้วก็อาจจะไม่ต้องทำ Hifu ก็ได้ครับ ก็จะช่วยประหยัดไปได้ หรือหลังจากนั้นอาจจะทำ Hifu เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มเติมก็ได้เช่นกันครับ

Hifu กับ Botox ควรทำอันไหนก่อนกัน ?

ถ้าทำพร้อมกัน ต้องทำ Hifu ก่อนครับ เพราะถ้าฉีดโบท็อกก่อนการทำ Hifu จะส่งผลกระทบต่อการกระจายตัวยาของโบท็อกได้ แต่ถ้าทำคนละวัน ควรเว้นช่วงแต่ละหัตถการอย่างน้อย 2 สัปดาห์ครับ


สรุป

Hifu กับ Botox เป็นหัถตถการที่สามารถช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า จะเหมาะกับใครก็ขึ้นอยู่กับว่ามีปัญหาอะไรและต้องการผลลัพธ์แบบไหนครับ หากยังไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ช่วยประเมินตามความเหมาะสม จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าที่สุดครับ

นอกจากนี้สิ่งที่หมออยากให้คนไข้ให้ความสำคัญ คือการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ยาแท้ เครื่องแท้ โดยควรคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกเสม


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน