![Coolsculpting](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/Coolsculpting-2.jpg)
Coolsculpting
Coolsculpting วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินที่ถูกพูดถึงมากในปัจจุบัน เพราะถูกจัดอยู่ในสุดยอดนวัตกรรมการกำจัดไขมันที่เห็นผลเร็ว มีความปลอดภัย ใครที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน และกำลังมองหาวิธีที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยง Coolsculpting เป็นตัวเลือกที่ดี ที่หมอแนะนำครับ
ในบทความนี้ หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับ Coolsculpting คืออะไร ? หลังทำเห็นผลจริงไหม ? ขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร เจ็บไหม ? ต่างจากการดูดไขมันอย่างไร ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง? รวมถึงข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำที่ไหนดี ต้องทำกี่ครั้ง กี่วันเห็นผล ? ราคาเท่าไร แพงไหม ? ทั้งหมดนี้หมอรวบรวมมาตอบไว้ให้แล้วครับ
สารบัญ coolsculpting
![ทำ Coolsculpting กำจัดไขมัน](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/รีวิวCoolsculpting.webp)
Coolsculpting คืออะไร ?
Coolsculpting คือ นวัตกรรมสลายไขมันด้วยความเย็นติดลบ เป็นการทำลายไขมันผ่านกระบวนการ ไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) ที่คิดค้นและพัฒนาโดย นายแพทย์ Dieter Manstein และ นายแพทย์ R.Rox Anderson จากมหาวิทยาลัย Harvard สหรัฐอเมริกา สามารถกำจัดเซลล์ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ได้อย่างถาวร
ข้อดีของ Coolsculpting คือมีความปลอดภัยสูง ไม่อันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก และเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ เนื่องจาก Coolsculpting มีระบบ Freeze detect ที่ช่วยให้เครื่องจะหยุดทำงานทันทีที่ตรวจเจอความเย็นในผิวชั้นบนที่มากเกินไป
![จุดเด่น Coolsculpting](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/จุดเด่น-Coolsculpting.webp)
นอกจากนี้ในระหว่างการทำ Coolsculpting คนไข้สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปด้วยได้ เช่น ใช้สมาร์ทโฟน ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ ที่สำคัญหลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
Cryolipolysis คืออะไร เกี่ยวข้องกับ Coolsculpting อย่างไร ?
Cryolipolysis คือชื่อเทคโนโลยี ส่วน Coolsculpting เป็นชื่อเครื่องครับ โดยเครื่อง Coolsculpting มีหลักการทำงานด้วยการใช้เทคโนโลยีแช่แข็งไขมัน หรือ Cryolipolysis เป็นเทคโนโลยีสลายไขมันใต้ผิวหนังด้วยความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งแบบ Non-invasive จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เจ็บตัว
เป็นเครื่องมือแรกและเครื่องเดียวในขณะนี้ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถลดไขมันในร่างกาย (ไม่ใช่การลดน้ำหนัก) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US. FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย.ไทย
กลไกการทำงานของเครื่อง Coolsculpting ช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนังได้อย่างไร ?
เครื่อง coolsculpting จะทำงานโดยส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง -11°C ลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เข้าสู่ชั้นไขมัน เปลี่ยนสภาพเซลล์ไขมันให้กลายเป็นผลึกน้ำแข็ง ทำให้ไขมันตาย ก่อนจะสลายตัวไปตามระบบของร่างกาย และถูกขับออกมาจากร่างกายตามธรรมชาติ
![เซลล์ไขมัน](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/เซลล์ไขมัน.webp)
จากนั้นเซลล์ไขมันที่เหลือจะเรียงตัวใหม่ครับ ทำให้ชั้นไขมันบางลง ส่งผลให้รูปร่างได้สัดส่วนมากขึ้น การันตีผลลัพธ์ ด้วยงานวิจัยทางการแพทย์กว่า 70 งานวิจัย ที่ยืนยันผลการรักษาว่า Coolsculpting สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณที่ทำได้จริง โดยไขมันลดลงได้ถึง 20-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง
![coolsculpting คืออะไร](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/coolsculpting-คืออะไร.webp)
Coolsculpting ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
โปรแกรม Coolsclupting เป็นเทคโนโลยีการกำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายด้วยความเย็นแบบเฉพาะจุด สามารถสลายไขมันส่วนเกินได้หลายจุด แต่ที่ได้รับความนิยม คือบริเวณ หน้าท้อง เอว (ห่วงยาง) ต้นแขน ต้นขา สะโพก โดยแต่ละส่วนจะใช้หัวเครื่องที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมครับ
![ตำแหน่งการทำ Coolsculpting](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/ตำแหน่งการทำ-Coolsculpting-1024x1024.webp)
Coolsculpting หน้าท้อง เอว (ห่วงยาง)
ไขมันหน้าท้อง หรือ ห่วงยางรอบเอว เป็นตำแหน่งที่มีไขมันสะสมอยู่มากครับ หลายคนพยายามควบคุมอาหาร รวมถึงออกกำลังกาย แต่ไขมันส่วนเกินที่สะสมในบริเวณนี้ไม่ได้หายไปง่าย ๆ เนื่องจากเป็นไขมันดื้อที่ลดยาก จึงต้องใช้เวลา และไม่ควรหักโหมออกกำลังกาย หรืออดอาหาร เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ และเสียสุขภาพได้ แต่การลดไขมันด้วยเครื่อง Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สามารถกำจัดไขมันดื้อบริเวณนี้ได้อย่างรวดเร็วครับ
![รีวิวCoolsculpting หน้าท้อง](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/รีวิวCoolsculpting-หน้าท้อง.webp)
โปรแกรม Coolsculpting สามารถกำจัดเซลล์ไขมันบริเวณหน้าท้องได้ตั้งแต่ครั้งแรก สามารถลดไขมันลงได้ถาวร ช่วยปรับสัดส่วน รูปร่างให้เข้าที่ได้เร็วครับ
![รีวิวCoolsculpting หน้าท้อง](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/รีวิวCoolsculpting-หน้าท้อง-1.webp)
Coolsculpting สะโพก
บริเวณสะโพกใหญ่ เป็นอีกจุดที่ Coolsculpting สามารถช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้ อาจจะไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก แต่ช่วยลดขนาดสะโพกให้เล็กลงได้ครับ ทำให้รูปร่างสมส่วนสวยงามมากขึ้น
Coolsculpting ต้นขา
ในส่วนของไขมันส่วนเกิน บริเวณต้นขา เทคโนโลยี Coolsculpting สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปอย่างถาวร ทั้งต้นขาด้านในและต้นขาด้านนอก
![Coolsculpting ต้นขาด้านนอก](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/Coolsculpting-ต้นขาด้านนอก.webp)
![Coolsculpting ต้นขาด้านใน](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/Coolsculpting-ต้นขาด้านใน.webp)
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาขาเบียด ต้นขาใหญ่ ไม่เรียวสวย จากไขมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ลดยากเช่นกัน แม้หลายคนจะพยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหาร แต่ยังมีไขมันสะสมอยู่มากครับ
Coolsculpting แขน
ออกกำลังกายหนักแต่ต้นแขนก็ไม่ลง ใช้ Coolsculpting ช่วยได้ครับ บริเวณต้นแขนเป็นตำแหน่งหนึ่งในร่างกายที่มีไขมันส่วนเกินสะสมมากไม่ต่างจากต้นขา เมื่อมีไขมันสะสมอยู่มาก จึงทำให้เกิดปัญหาต้นแขนใหญ่ ต้นแขนหย่อนไม่กระชับ และลดลงได้ยาก
![Coolsculpting ต้นแขน](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/Coolsculpting-ต้นแขน1.webp)
![เคสพี่ตุ้ยCool_1200x1200_2 (1)](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2024/01/เคสพี่ตุ้ยCool_1200x1200_2-1.jpg)
Coolsculpting ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดี ในการกำจัดไขมันต้นแขนได้แบบถาวร และเห็นผลรวดเร็วครับ
ทั้งนี้ผู้ที่เหมาะกับการทำ Coolsclupting ควรมีปัญหาไขมันส่วนเกินในระดับปานกลาง (BMI < 35) ที่พยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว ก็ยังมีไขมันสะสมอยู่ รวมไปถึงคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการลดและกระชับสัดส่วนก็ทำได้เช่นกันครับ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกทำ Coolsculpting
ก่อนตัดสินใจทำ CoolSculpting ต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนครับ แม้ว่าการทำ CoolSculpting จะสามารถช่วยลดจำนวนเซลล์ไขมันลงถาวร แต่ในกรณีที่คนไข้ มีปริมาณไขมันสะสมมากเกินไป (ค่า BMI มากกว่า 35 ) การทำ CoolSculpting จะเห็นผลน้อยและช้า การดูดไขมันอาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งครับ
![CoolSculpting เหมาะกับใคร](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/CoolSculpting-เหมาะกับใคร.webp)
การสลายไขมัน มีวิธีการใดบ้าง ?
หากต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน นอกจาก CoolSculpting ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่สามารถช่วยได้โดยมีทั้งข้อดี – ข้อเสีย และระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน รวมถึงราคาค่าใช้จ่าย ความคุ้มค่าในแต่ละปัญหาของแต่ละบุคคลด้วยครับ หมอขอยกตัวอย่างวิธีสลายไขมันส่วนเกิน ที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ดังนี้
1. Coolwave สลายไขมัน
Coolwave เป็นชื่อเรียกเฉพาะที่ตั้งขึ้นครับ เป็นหนึ่งเทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยความเย็น ร่วมกับการใช้คลื่น Shock waves เพื่อกำจัดไขมัน เป็นเทคโนโลยีจากเยอรมัน มีกลไกการทำงานที่ต่างกับ Coolsculpting รวมถึงหัวเครื่องที่ใช้ก็ยังแตกต่างกัน โดย Coolsculpting มีหัวหลากหลายขนาดที่สามารถปรับเข้าสัดส่วนตามร่างกาย สามารถกำจัดไขมันเฉพาะจุดได้ดี หากจัดอันดับ Coolsculpting ถือเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในตอนนี้ครับ
2. ดูดไขมัน
การดูดไขมันจะเหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันมาก ๆ ปัจจุบันเครื่องดูดไขมันมีหลายเครื่องครับ แต่หลักการคือใช้พลังงานที่แตกต่างกันในการทำให้ก้อนไขมันแตกตัว จากนั้นจะดูดไขมันออกมาจากร่างกาย อาจเป็นวิธีที่ง่าย เห็นผลเร็ว หากคนไข้ไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวช้ำ และมีเวลาสำหรับการพักฟื้นนานประมาณ 1 เดือน
![ดูดไขมัน](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/ดูดไขมัน-.webp)
3. ฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน
การฉีดเมโสแฟต เป็นการใช้สารต่าง ๆ ที่มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถออกฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมัน ฉีดเข้าตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด นิยมใช้เพื่อลดแก้มลดเหนียงครับ เนื่องจากมีปริมาณไขมันไม่มาก หากต้องการฉีดส่วนอื่น ๆ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ก็จะต้องใช้ปริมาณตัวยามากขึ้น และอาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน เนื่องจากการออกฤทธิ์ของตัวยานั้นขึ้นกับปัจจัยของร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งไขมันหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา จัดอยู่ในกลุ่มไขมันดื้อที่ลดยากครับ
Coolsculpting กับ การดูดไขมัน มีข้อดี – ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร ?
การทำ Coolsculpting และการดูดไขมัน เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกิน มีจุดเด่นที่แตกต่างกันครับ
![ดูดไขมันกับCoolSculpting](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/ดูดไขมันกับCoolSculpting.webp)
การดูดไขมัน เป็นหัตถการที่ทำให้เสียเลือด เกิดแผล ถือเป็นการผ่าตัดเล็ก สามารถดูดไขมันจำนวนมาก ๆ ออกได้เร็ว แต่ก่อนทำต้องฉีดยาชา หรือในกรณีที่ต้องดูดไขมันจำนวนมาก อาจต้องใช้ยาสลบ ในจุดนี้ค่อนข้างมีความเสี่ยงครับ รวมถึงหลังดูดไขมันผิวหนังจะไม่เรียบเนียน มองเห็นเป็นคลื่น
หากคนไข้ไม่อยากรับความเสี่ยงนี้ หรือไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากมีแผล การทำ Coolsculpting จะตอบโจทย์มากกว่าเพราะไม่ทำให้เกิดบาดแผล ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องพักฟื้น หลังทำผิวจะตึงกระชับ เพราะการสลายไขมันด้วยความเย็นจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ผิวบริเวณที่ทำจึงมีความกระชับ โดยจะเห็นผลชัดเจนใน 3 เดือน ที่สำคัญคือการสลายไขมันด้วยความเย็น มีราคาถูกกว่าการดูดไขมันมากครับ
ทำ Coolsculpting เจ็บไหม ?
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่ากระบวนการสลายไขมันด้วย coolsculpting ไม่ทำให้เกิดบาดแผล และไม่ต้องใช้ยาชา หรือยาสลบ ดังนั้นข้อกังวลเรื่องความเจ็บในขั้นตอนระหว่างทำไม่มีครับ หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ
อาการหลังทำ Coolsculpting
จากประสบการณ์ที่หมอเคยลองทำด้วยตัวเอง จะมีปวด ๆ เมื่อย ๆ ตอนนวดหลังจากแช่แข็งไขมัน (ซึ่งจำเป็นต้องนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตาย หากไม่นวดจะได้ผลน้อยลง 60% ครับ) ปวด เมื่อย ไม่นานครับ ประมาณ 2 นาทีเท่านั้น ในบางเคสอาจมีอาการปวดระบมในช่วง 7-10 วันหลังทำจะคล้าย ๆ อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกายหนัก ๆ ในจุดที่ทำ
นอกจากนี้ ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกอาจจะมีอาการบวมในจุดที่ทำ และจะมีอาการชาและคันเล็กน้อยในช่วง 1 เดือนแรกครับ
ทำ Coolsculpting มีผลข้างเคียงหรือไม่ อย่างไร ?
การทำ Coolsculpting มีความปลอดภัยสูงครับ ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ตัวเครื่องผ่านการรับรองเรื่องคุณภาพมาตรฐาน US FDA approved และมีการใช้ Coolsculpting แล้วกว่า 74 ประเทศทั่วโลก ส่วนผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังทำจากกระบวนการแช่แข็ง มีครับแต่เป็นเรื่องปกติ เช่น
- ผิวเขียวช้ำ : เนื่องจาก coolsculpting แช่แข็งไขมัน จึงจำเป็นต้องนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตาย หากไม่นวดจะได้ผลน้อยลง 60% ซึ่งหลังนวดอาจมีอาการเขียวช้ำได้ในบางเคส โดยเฉพาะคนผิวขาว ผิวบาง
- เกิดรอยดำที่ผิวชั่วคราว ซึ่งจะหายไปได้เองใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือนครับ
- บวมในจุดที่ทำ : หลังทำ Coolsculpting จะมีอาการบวมในจุดที่ทำ ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก เนื่องจากยังมีเซลล์ไขมันตายและค้างอยู่ ร่างกายต้องใช้เวลา เพื่อค่อย ๆ ลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบเลือดและระบบน้ำเหลือง ใน 3-4 สัปดาห์ อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงเอง และจะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนเล็กลงด้วยครับ
นอกจากนี้ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่สามารถเกิดได้แต่มีโอกาสเกิดน้อยมาก (อัตรา 1:20,000 เคส) ได้แก่ การเกิด Paradoxical Adipose Hyperplasia คือก้อนไขมันใหญ่ขึ้นหลังทำ ไม่ยุบลง ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ทางบริษัท Allergan บริษัทผู้ผลิต Coolsculpting มีระบบรับประกัน จะรับผิดชอบแก้ไขให้ฟรีครับ
Coolsculpting ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
การทำ Coolsculpting 1 ครั้ง จะสลายเซลล์ไขมันได้ 20-30% 1 หนีบสามารถกำจัดไขมันออกได้ 60-70 CC สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำครับ
ทำ Coolsculpting กี่วันเห็นผล ?
หลังจากสลายไขมันด้วยความเย็นแล้ว 1-2 สัปดาห์แรก จะมีอาการบวมในจุดที่ไขมันตายและค้างอยู่ โดยใน 3-4 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนเล็กลง กระชับขึ้น โดยจะใช้เวลา 3 เดือน ถึงจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ครับสามารถกลับมาทำซ้ำในจุดเดิมได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์มากขึ้น
![Coolsculpting กี่วันเห็นผล](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/Coolsculpting-กี่วันเห็นผล--1024x1024.webp)
Coolsculpting รีวิวผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ
ตัวอย่างรีวิวผลลัพธ์หลังการทำ CoolSculpting
![รีวิว Coolsculptingต้นขา](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/รีวิว-Coolsculptingต้นขา.webp)
![รีวิว Coolsculptingสะโพก](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/รีวิว-Coolsculptingสะโพก-.webp)
![รีวิว Coolsculpting ต้นแขน](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/รีวิว-Coolsculpting-ต้นแขน-892x1024.webp)
![รีวิว Coolsculpting หน้าท้อง ห่วงยาง](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2023/03/รีวิว-Coolsculpting-หน้าท้อง-ห่วงยาง-663x1024.webp)
การเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting
การทำ CoolSculpting จะคล้ายกับการทำทรีทเม้นท์ทั่วไป ไม่ได้เป็นการผ่าตัด ดังนั้นขั้นตอนการเตรียมตัวจึงไม่ยุ่งยากครับ คนไข้สามารถเข้ามาปรึกษาหมอที่คลินิกเพื่อทำการตรวจประเมินว่าสามารถสลายไขมันด้วยการทำ Coolsculpting ได้หรือไม่ หากทำได้ หมอจะนัดคิวแล้วก็สามารถทำได้เลยครับ
ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังทำ Coolsculpting
หลังทำ CoolSculpting ไม่มีข้อห้าม หรือวิธีการดูแลตัวเองพิเศษครับ คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ส่วนใครที่อยากรักษาผลลัพธ์ให้สัดส่วนสวยงาม สุขภาพดีระยะยาว หมอแนะนำให้หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดไขมันสะสม ทำให้เซลล์ไขมันขยายตัวขึ้นอีก
ทำ Coolsculpting แล้วไม่ได้ผล เป็นเพราะอะไร เกิดจากอะไรได้บ้าง ?
หากทำ coolsculpting แล้วไม่ได้ผล มี 2 กรณีครับ
- Coolsculpting ของปลอม ปัจจุบันมีเครื่องลอกเลียนแบบ ค่อนข้างมากครับ เพราะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม ซึ่งเครื่องลอกเลียนแบบที่ไม่มาตรฐาน แน่นอนว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ขณะเดียวกันยังอาจเสี่ยงต่อการเกิด freeze burn (ผิวไหม้จากความเย็น) ได้ด้วย
- คนไข้ไม่เหมาะกับการทำ coolsculpting ในเคสที่มีปริมาณไขมันมากเกินไป พอทำมาแล้วเห็นผลไม่ชัดเจน ไขมันไม่หายไปตามที่คาดหวัง (ซึ่งคลินิกที่ดีแพทย์จะต้องประเมินและแนะนำว่าคนไข้เหมาะกับ coolsculpting หรือไม่ อย่างตรงไปตรงมา)
ทำ Coolsculpting ที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไร ไม่ให้ผิดหวัง
ปัจจุบันมีเครื่อง Coolsculpting ปลอมอยู่มากครับ เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมั่นใจว่าใช้เครื่อง Coolsculpting แท้ที่มีคุณภาพ ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการทำโปรแกรม Coolsculpting โดยตรง แนะนำให้พิจารณาปัจจัยเหล่านี้ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกครับ
1. เลือกคลินิกได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ
ควรตรวจสอบกว่าคลินิกนั้น เปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมาย มีใบอนุญาตรับรองที่ถูกต้องหรือไม่ รวมถึงบรรยากาศคลินิกควรสะอาด ไม่คับแคบ มีเครื่องมือทันสมัยพร้อมให้บริการ และใช้เครื่อง Coolsculpting ของแท้เท่านั้น เพื่อได้ผลลัพธ์อย่างแท้จริงและปลอดภัย
2. ต้องดูแลโดยแพทย์และ Specialist สำหรับทำ Coolsculpting โดยเฉพาะ
ขั้นตอนการสลายไขมันด้วยความเย็น ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ หรือ Specialist ที่ผ่านการอบรมทำ Coolsculpting มาโดยเฉพาะ เพื่อประเมินการรักษาได้อย่างตรงจุดและเหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละเคส พร้อมติดตามผลหลังทำ
3. ราคาสมเหตุสมผล
อัตราค่าบริการ Coolsculpting ควรอยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป เนื่องจากหากเลือกทำที่มีราคาถูกเกินไป อาจเสี่ยงที่จะไปเจอกับเครื่องเลียนแบบหรือเครื่องปลอมได้
4. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
รีวิวต่าง ๆ จากผู้เคยใช้บริการ เป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา หากยังไม่แน่ใจว่าทำ Coolsculpting เห็นผลหรือไม่ ให้ดูจากรีวิวของคนไข้ที่เคยมาใช้บริการครับ หากทำแล้วไม่เห็นผล หรือมีผลข้างเคียงก็จะมี feedback กลับมาให้เห็น สามารถเช็กที่หน้ารีวิวของ Page Facebook หรือกระทู้ต่าง ๆ ได้
ทำ Coolsculpting ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
ที่ V Square Clinic จะดูแลและให้คำแนะนำโดยแพทย์ หรือ Specialist ที่มีประสบการณ์ในการทำ CoolSculpting โดยเฉพาะ ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านการทำ CoolSculpting มานานกว่า 3 ปี นอกจากนี้ ที่ V Square Clinic ยังอำนวยความสะดวกให้กับคนไข้ดังนี้
- ให้บริการสลายไขมัน CoolSculpting โดยทำในห้องที่มีขนาดเหมาะสม สะดวกสบาย ไม่อึดอัด ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดอย่างน้อยประมาณ 20 ตารางเมตร
- ในช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่ทำ CoolSculpting ทาง V Square Clinic เน้นมอบความสบายให้แก่ลูกค้าอย่างสูงสุด จึงเลือกใช้เก้าอี้ Lazboy รุ่นท็อป ที่มีความกว้างมากเป็นพิเศษ
- เพิ่มเทคนิคพิเศษในขั้นตอนการทำ CoolSculpting ที่จะช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติ
- ช่วงโปรโมชั่นการันตีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับราคาที่อื่น ๆ ในท้องตลาด โดยไม่มีโปรโมชั่นแอบแฝง
- มีรีวิวจากดารา เซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียง เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
![ตัวช่วยเรื่องหุ่นปังของเหล่าดารา 2024 คุณต่าย ตุ้ย แอนดี้](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2024/01/ตัวช่วยเรื่องหุ่นปังของเหล่าดารา-2024.jpg)
Coolsculpting ราคาโปรโมชั่น 2024
ราคาการทำ Coolsculpting จะขึ้นอยู่กับจำนวนหนีบที่ใช้ครับ (1 หนีบ = 1 ฝ่ามือ) ที่ V Square Clinic ราคาต่อ 1 หนีบอยู่ที่ 8,500.- พร้อมเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติครับ
![Coolsculpting ราคาโปรโมชั่น](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2024/01/โปรแกรมCoolsculpting.jpg)
Promotion CoolSculpting
![Coolsculpting ราคาโปรโมชั่น](https://vsquareclinic.co/wp-content/uploads/2024/01/Landingpage_รวมโปร-coolsculpting_TH.jpg)
ปัจจุบัน ที่ V Square Clinic มีบริการ CoolSculpting อยู่ 3 สาขา
- สาขาเกตเวย์เอกมัย โทรนัดคิว 099 005 9000
- สาขา สยามสแควร์วัน (Bangkok) โทรนัดคิว 093 110 9000
- สาขาเซ็นทรัลบางนา โทรนัดคิว 099 105 9000
Q&A Coolsculpting
1. ทำ Coolsculpting ได้ผลจริงไหม ?
เครื่อง Coolsculpting ของแท้ สามารถลดไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลได้จริงครับ
มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยและสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)
2. ทำ Coolsculpting เหนียงได้ไหม ?
Coolsculpting เหนียง สามารถทำได้ครับ โดยใช้หัว Mini แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม แนะนำทำ Hifu ลดเหนียงครับ เพราะสามารถช่วยเรื่องยกกระชับได้ด้วย หรือในกรณีที่มีไขมันใต้คางมาก ๆ สามารถฉีดเมโสแฟต เพื่อสลายไขมัน ได้เช่นกัน ราคาคุ้มค่า และเห็นผลลัพธ์ได้ดีเช่นกัน
3. ผู้ที่ไม่เหมาะกับทำ Coolsculpting มีไหม ?
หมอไม่แนะนำให้ทำ Coolsculpting ในกลุ่มคนเหล่านี้
- หญิงตั้งครรภ์
- หญิงที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่แพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น
- ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่ติดอุปกรณ์ใด ๆ ในร่างกาย อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัดในบริเวณที่จะทำการรักษา
สรุป
Coolsculpting นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลรูปร่างสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมและต้องการกำจัดไขมันเฉพาะส่วน สามารถสลายไขมันส่วนเกินได้อย่างถาวร ในจุดต่าง ๆเช่น หน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา ใครที่สนใจสลายไขมันด้วยความเย็น หมอขอเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญครับ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และตัดสินใจทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น