ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน ? รวมวิธีดูแลและป้องกันอาการบวมหลังฉีดคาง

ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน 

ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน ? อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์คางเป็นเรื่องปกติไหม ? สำหรับคนที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์คาง หรือสนใจปรับรูปหน้า เสริมคางด้วยฟิลเลอร์ ใบทความนี้หมอจะมาไขข้อสงสัยต่าง ๆ หลังฉีดคาง ทั้งด้านระยะเวลาหลังฉีด ถ้าสถานการณ์ปกติ ฉีดฟิลเลอร์คางกี่วันหายบวม แล้วอาการบวมแบบไหน ถือว่า

ไม่ปกติ เจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีแก้ไข พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเองอย่างไร ให้ยุบบวมไว เห็นผลเร็ว 

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน

1. อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์คาง ถือว่าเป็นเรื่องปกติไหม ?
   • ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์คาง
2. ถ้าสถานการณ์ปกติ ฉีดฟิลเลอร์คางกี่วันหายบวม ? มีปัจจัยอะไรบ้าง ?
3. ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วอยากให้หายบวมไว ๆ ควรทำอย่างไร ?
   • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง มีวิธีป้องกันการเกิดอาการบวม ได้บ้างไหม ?
   • การดูแลตัวเอง – และข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง 
4. ฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน ? ที่ถือว่าไม่ปกติแล้ว
   • อาการบวมดังกล่าวเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไร ?
5. เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ติดตามผลลัพธ์หลังฉีด จนปลอดภัย หายบวม
   • ฉีดฟิลเลอร์คางที่ V Square Clinic กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บวมน้อย ผลลัพธ์ชัดเจน
   • รวมรีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง เคสจริง จาก V Square Clinic

อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์คาง ถือว่าเป็นเรื่องปกติไหม ?

อาการบวมเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นอาการที่พบได้ปกติโดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ หรือบางเคสอาจมีผื่นหรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้เอง คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม ? มีวิธีการป้องกันและแก้ไข อย่างไรบ้าง ?

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์คาง

• หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 24 ชั่วโมง มีอาการบวมเป็นเรื่องปกติ  
• อาการบวมจะเพิ่มขึ้น  ในช่วง 1-3 วัน  
• ค่อย ๆ หายยุบบวมใน 5-7 วัน  
• เห็นผลเต็มที่ใน 14 วัน (2 สัปดาห์) 

ถ้าสถานการณ์ปกติ ฉีดฟิลเลอร์คางกี่วันหายบวม ? มีปัจจัยอะไรบ้าง ?

โดยทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์คางจะมีอาการบวมประมาณ 3-7 วัน และจะค่อย ๆ ยุบบวม ฟิลเลอร์จะเข้าที่ใน 2 สัปดาห์ครับ ซึ่งในแต่ละคนอาจมีอาการบวมแตกต่างกัน บางคนบวมมาก บวมน้อย หรือบางคนฉีดแล้วไม่บวมเลย บางคนฉีดยี่ห้อนี้แล้วบวม อีกยี่ห้อไม่บวม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

1. อาการบวมจากเข็ม ในคนไข้ที่มีผิวบอบบางอาจมีอาการเขียวช้ำ หรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม เป็นอาการบวมที่เกิดขึ้นได้เป็นอาการปกติ ไม่เป็นอันตรายครับ
2. ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไป เป็นอาการบวมใต้คางที่พบได้จากแพทย์ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์ ฉีดผิดตำแหน่ง/ฉีดผิดชั้นผิว และใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไป
3. ใช้รุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม การฉีดคางต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เนื้อแน่น ไม่ฟู เพื่อให้ปั้นเป็นทรงได้สวย หากใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่ฟูมาก ๆ อาจทำให้คางดูบวมได้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วอยากให้หายบวมไว ๆ ควรทำอย่างไร ?

การลดบวมจากการฉีดฟิลเลอร์คางอาจใช้เวลาไม่นานหากมีการดูแลอย่างเหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ครับ โดยต้องระวังเรื่องของการกดทับหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อป้องกันการเกิดภาวะอักเสบหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง มีวิธีป้องกันการเกิดอาการบวม ได้บ้างไหม ?

การลดโอกาสเกิดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์คางสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ก่อนการทำฉีด

• ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คาง ควรพูดคุยกับแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงวิธีการลดอาการบวมหลังจากฉีดฟิลเลอร์คาง
• ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs,วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba และวิตามิน E
• งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
• ลดการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณเกลือสูง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการบวมหลังฉีด
• หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนทำหัตถการ

การดูแลตัวเอง – และข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

คนไข้ควรมีวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์คางอย่างถูกต้อง เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น เห็นผลลัพธ์คางสวย เข้าทรง ลดการบวมช้ำ การอักเสบ รวมทั้งยังช่วยรักษาอายุของฟิลเลอร์ให้คงสภาพได้ยาวนาน ไม่ให้สลายเร็ว หมอแนะนำข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ดังนี้

• หลังฉีดฟิลเลอร์คางควรดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูและอยู่ได้นานขึ้น
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
• งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดหรือออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
• หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด งดทำเลเซอร์/RF 1 เดือน งดซาวน่า 48 ชั่วโมง
• หลีกเลี่ยงใช้เครื่องสำอางหลังฉีด 24 ชั่วโมง

สำหรับข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง หมอจะแนะนำเรื่องการกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ มีข้อห้ามที่ควรหลีกเลี่ยง ดังนี้

• หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ห้ามแตะ แกะ เกา กดหรือนวดบริเวณคาง โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี อาจทำให้คางเสียทรง และได้ผลลัพธ์ที่ไม่สวยครับ
• ห้ามใช้มือเท้าคาง ใส่หมวกกันน็อกที่รัดแน่น หรือทำให้คางที่เพิ่งฉีดมาถูกกดทับ โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนไปผิดตำแหน่ง
• ไม่ควรนอนคว่ำหน้า เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง ทำให้รูปทรงคางไม่พุ่งสวย
• พยายามอย่าขยับใบหน้าเยอะบริเวณจุดที่ฉีดในช่วง 3 วันแรก ไม่ล้างหน้า หรือขัดหน้าแรง ๆ
• งดทาครีมบริเวณรอยเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์คาง 1 คืน

ฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน ? ที่ถือว่าไม่ปกติแล้ว

ฉีดฟิลเลอร์คางกี่วันหายบวม ? ปกติฟิลเลอร์คางจะหายบวมเกือบ 100% ใน 14 วัน ฟิลเลอร์จะผสานกลืนไปกับผิว เห็นรูปทรงคางชัดเจนเต็มที่ แต่หากหลังจาก 14 วันไปแล้วยังมีอาการบวมอยู่ อาจเป็นอาการบวมที่ผิดปกติ ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน ทำให้คางย้อย ดูผิดรูปได้ครับ

อาการบวมดังกล่าวเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

อาการบวมที่ผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์คาง มักเกิดจากเกิดแพทย์ขาดประสบการณ์ที่ฉีดผิดตำแหน่ง ฉีดตื้นเกินไป เนื่องจากบริเวณคางจะมีกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า Mentalis เป็นจุดที่ต้องระวังในการฉีดฟิลเลอร์คางครับ  เพราะหากฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง หรือฉีดในผิวชั้นตื้นเกินไป พอเวลาผ่านไปในระยะ 6 เดือน-1 ปี เนื้อฟิลเลอร์จะถูกกล้ามเนื้อมัดนี้ดึงมารวมกัน ทำให้เป็นก้อนได้

นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ถ้าเลือกไม่เหมาะสม หรือใช้ปริมาณมากไป ก็อาจจะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้เช่นกัน

ส่วนวิธีแก้ไขมี 3 วิธี ได้แก่ การฉีดสลายฟิลเลอร์ การขูดฟิลเลอร์ และการผ่าตัดเพื่อเอาฟิลเลอร์ออก ทั้งนี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อหาวิธีที่หมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหาครับ 

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ติดตามผลลัพธ์หลังฉีด จนปลอดภัย หายบวม

การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คางที่มีความปลอดภัยและมีการติดตามผลลัพธ์หลังฉีด เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ หมอแนะนำวิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คางดังนี้

1. ค้นหาคลินิกที่ได้มาตรฐาน: เลือกคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก แสดงให้เห็นชัดเจน บรรยากาศภายในคลินิกสะอาด สว่าง โปร่ง ปลอดเชื้อ มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ 
2. เลือกแพทย์มีประสบการณ์: ในการฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถตรวจสอบได้จากรีวิวของผู้ใช้บริการหรือเว็บไซต์ของคลินิกเพื่อดูประวัติและความชำนาญของแพทย์
3. ศึกษาผลิตภัณฑ์ที่ใช้: ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้-ฟิลเลอร์ปลอม และสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์คางว่า ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจาก อย. หรือไม่ 
4. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์และความเสี่ยง: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการฉีดฟิลเลอร์คางและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น อาการบวมเข็ม เขียวช้ำ เป็นผื่น
5. ตรวจสอบการติดตามผลลัพธ์: สอบถามว่าคลินิกมีการติดตามผลลัพธ์หลังการทำฟิลเลอร์คางอย่างไร รวมถึงมีการรักษาอย่างเหมาะสมหรือไม่ในกรณีที่มีปัญหาหลังจากการทำฟิลเลอร์

บทความแนะนำ : ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี ? อัปเดต Top คลินิกฉีดฟิลเลอร์คาง ใช้ยาแท้ หมอเก่ง การันตีคุณภาพ

ฉีดฟิลเลอร์คางที่ V Square Clinic กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บวมน้อย ผลลัพธ์ชัดเจน

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้คุณภาพดี การันตีด้วยมาตรฐานสากล ให้คำแนะนำและทำหัตถการโดยทีมแพทย์มีประสบการณ์ และชำนาญด้านศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) ปั้นทรงสวย ฉีดด้วยเทคนิคเฉพาะ หมอมือเบา บวมช้ำน้อย แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด หลังทำมีการนัดติดตามผลอย่างต่อเนื่องทุกเคส มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ

รวมรีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง เคสจริง จาก V Square Clinic

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ V Square Clinic จากผู้ใช้บริการจริง ก่อน-หลังทำ

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์คางจะมีอาการบวมเข็มประมาณ 3-7 วัน สามารถหายได้เอง และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ประมาณ 14 วัน หลังจากนั้นหากยังมีอาการบวม เป็นก้อน หรือรู้สึกปวด ถือเป็นอาการบวมที่ผิดปกติ อาจเกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาครับ 

สำหรับใครที่อยากให้คางยุบบวมไว ๆ แนะนำว่าหลังฉีดฟิลเลอร์คางควรดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ สามารถช่วยลดอาการบวมหลังฉีด ทำให้ได้รูปทรงคางที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น 

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ