Hyabell Filler คืออะไร ? ทำความรู้จักฟิลเลอร์สัญชาติ เยอรมนี เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ?

Categories
ฉีดฟิลเลอร์
Hyabell Filler

รู้จัก Hyabell Filler สัญชาติเยอรมนี

Hyabell Filler ถือเป็นฟิลเลอร์ที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวในท้องตลาดตอนนี้ครับ ด้วยความที่ทางแบรนด์ได้ชูจุดเด่นของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการผลิต ทำให้มีการจำหน่ายและใช้งานกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจุดเด่นที่ว่าคือ

  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และคงอยู่ได้นาน
  • เนื้อฟิลเลอร์เรียงตัวกันเป็นระเบียบ มีขนาดใกล้เคียงกัน กระจายตัวได้ดี
  • ปลอดภัย ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล
  • เนื้อฟิลเลอร์ฉีดง่าย ลดแรงที่ใช้ในการฉีด จึงลดความเสี่ยงต่อการบวมช้ำ

แล้วฟิลเลอร์ Hyabell คืออะไร ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไร ? เหมาะกับใครบ้าง ? ราคาเท่าไหร่ ? ในบทความนี้หมอจะมาสรุปจุดเด่น พร้อมเทียบความต่างกับตัวอื่น เพื่อให้คนไข้ใช้เป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจฉีดครับ

คลิกอ่านหัวข้อ ฟิลเลอร์ Hyabell


Hyabell Filler คืออะไร ? เป็นของประเทศอะไร ?

Hyabell Filler

Hyabell Filler (ไฮยาเบล) คือ ฟิลเลอร์จากประเทศเยอรมนีครับ ผลิตโดยบริษัท Adoderm GmbH ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีผิวพรรณและศัลยกรรมความงาม ปัจจุบันมีการจำหน่ายและใช้งานกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

สำหรับในประเทศไทย ฟิลเลอร์ Hyabell ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก อย.ไทย เป็นที่เรียบร้อย โดยมีการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องโดยบริษัท KNA Interpharma ประเทศไทย

ส่วนการใช้งาน ฟิลเลอร์ Hyabell ได้ถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติการกักเก็บน้ำสูง สามารถดึงดูดและรักษาความชุ่มชื้นได้ดี เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังจะช่วยเติมเต็มร่องลึก เพิ่มปริมาตร และปรับรูปหน้าให้มีมิติ เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ขึ้นครับ

อยากรู้จัก “ฟิลเลอร์” มากขึ้นใช่ไหม ? อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ คลิกเลย!

ฟิลเลอร์ คือ

Hyabell Filler ใช้เทคโนโลยีอะไรในการผลิต ?

Hyabell Filler ใช้เทคโนโลยีอะไรในการผลิต

Hyabell Filler ผลิตด้วยเทคโนโลยี MPT (Monophasic Particle Technology) ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ ADODERM ที่ช่วยให้โมเลกุลของ HA เรียงตัวกันเป็นระเบียบ มีขนาดที่ใกล้เคียงกัน เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง อยู่ได้นาน และกระจายตัวได้อย่างสมดุล

นอกจากนี้ฟิลเลอร์ Hyabell แต่ละรุ่น ยังมีการเลือกใช้ Crosslinker ในปริมาณที่แตกต่างกัน ทำให้แต่ละตัวมีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถเลือกใช้ได้ตามปัญหาของคนไข้แต่ละคน

อีกหนึ่งจุดเด่นของเทคโนโลยี MPT คือ ช่วยลดแรงที่ใช้ในการฉีด (Extrusion Force) ทำให้แพทย์สามารถฉีดได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการบวมช้ำ และทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามมากขึ้นครับ


จุดเด่นฟิลเลอร์ Hyabell สัญชาติเยอรมันที่ต่างจากตัวอื่น

Hyabell Filler มีจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจากฟิลเลอร์ตัวอื่น ๆ ในท้องตลาดดังนี้ครับ

  • ฟิลเลอร์ยุโรปตัวแรกที่มีผสมยาชา ทำให้ฉีดง่ายขึ้น เจ็บน้อยลง และกระจายตัวดีขึ้น
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ไม่จับตัวเป็นก้อน และอยู่ได้นาน
  • มีกระบวนการเชื่อมขวาง (Cross-linking) ที่ทำให้โมเลกุลของกรดไฮยาลูรอนิกมีความเสถียรและคงทน
  • เป็นฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอน จึงสลายได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
  • ได้รับการรับรองจากยุโรป (CE Certified) ปลอดภัย มาตรฐานระดับโลก
  • ใช้เทคโนโลยี MPT ทำให้ได้เนื้อเจลเนียนนุ่ม ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน
  • ตอบโจทย์ทุกปัญหาบนใบหน้า เติมเต็มให้เป็นธรรมชาติ เข้ากับผิวได้ดี ลดการบวมและช้ำหลังฉีด
  • มี 4 รุ่น ให้เลือกใช้ แต่ละรุ่นมีโครงสร้างโมเลกุลที่แตกต่างกัน เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งบนใบหน้า

Filler Hyabell ฉีดตำแหน่งใดได้บ้าง ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์ขมับ
ฟิลเลอร์กรอบหน้า
ฟิลเลอร์หน้าผาก
ฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์แก้มส้ม
ฟิลเลอร์ปาก

Hyabell Filler สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้าครับ ได้แก่

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเติมเต็มใต้ตาลึก ลดริ้วรอย ลดขอบตาดำ
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึก ให้ใบหน้าดูเด็กลง
  • ฟิลเลอร์ขมับ เติมเต็มขมับตอบให้ใบหน้าดูสมดุล
  • ฟิลเลอร์กรอบหน้า ช่วยปรับกรอบหน้าให้ดูคมชัดขึ้น
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก ปรับรูปหน้าผากให้ดูโหนกนูนอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ฟิลเลอร์คาง ช่วยให้คางดูเรียวและได้รูป
  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม เพิ่มวอลลุ่มบริเวณหน้าแก้ม ให้ใบหน้าดูเด็กลง
  • ฟิลเลอร์ปาก เติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม

Hyabell Filler มีทั้งหมดกี่รุ่น เหมาะกับฉีดบริเวณใด ?

ฟิลเลอร์ Hyabell มีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันครับ แต่ละรุ่นออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาผิวในบริเวณต่าง ๆ โดยมีระดับความแข็งและความยืดหยุ่นที่เหมาะสมต่างกัน พร้อมทั้งมีการผสม Lidocaine 3% ทุกสูตร เพื่อช่วยให้ฉีดได้สบายยิ่งขึ้น

1. Hyabell Lips (เนื้อบางเบา นุ่มที่สุด)

Hyabell Lips
  • เหมาะสำหรับ : ฉีดปาก เติมความชุ่มชื้น เพิ่มความชัดให้ริมฝีปาก ลดริ้วรอยเล็ก ๆ มุมปาก ร่องใต้ตา ริ้วรอยหางตา หรือแก้ปัญหาริ้วรอยร่องตื้นหลุมสิว
  • ระยะเวลาคงอยู่ : 6-9 เดือน

2. Hyabell Basic (เนื้อเจลแน่นปานกลาง)

Hyabell Basic
  • เหมาะสำหรับ : ฉีดแก้ไขริ้วรอยตื้น ๆ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใต้ตา หรือฉีดปากเพิ่มวอลลุ่ม
  • ระยะเวลาคงอยู่ : 9-12 เดือน

3. Hyabell Deep (เนื้อเจลแน่น)

Hyabell Deep
  • เหมาะสำหรับ : ฉีดยกกระชับ ปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก เช่น ขมับ, หน้าแก้ม, คาง และกรอบหน้า
  • ระยะเวลาคงอยู่ : 9-12 เดือน

4. Hyabell Ultra (เนื้อเจลแน่นที่สุด)

Hyabell Ultra
  • เหมาะสำหรับ : ปรับรูปหน้า ยกกระชับ เติมเต็มในระดับผิวชั้นลึก เช่น Mid-face, คาง, กรอบหน้า, ขมับ, ใต้ตา และหน้าผาก
  • ระยะเวลาคงอยู่: 12-18 เดือน

ฟิลเลอร์ Hyabell เหมาะกับใคร ?

Hyabell Filler เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสริมความงามแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

  • ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำตา หรือริ้วรอยต่างๆ ที่ต้องการเติมเต็ม
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มปริมาตรให้กับส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น แก้ม ริมฝีปาก คาง หรือขมับที่บุ๋ม
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป แม้ว่าไม่มีข้อจำกัดด้านอายุที่ชัดเจน แต่ช่วงอายุนี้มักเป็นช่วงที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการฉีดฟิลเลอร์
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนหรือย้อนกลับได้หากไม่พอใจ
  • ผู้ที่เข้าใจข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์และมีความคาดหวังที่เป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์ Hyabell อาจไม่เหมาะกับ

  • ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์
  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ตัวเองรุนแรง
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
  • ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์
  • ผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
VSQ Tips

ข้อควรรู้ : การประเมินความเหมาะสมควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ซึ่งจะพิจารณาประวัติทางการแพทย์ สภาพผิว โครงสร้างใบหน้า และความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด


Hyabell Filler อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ระยะเวลาของ Hyabell Filler ขึ้นอยู่กับรุ่นและตำแหน่งที่ฉีด โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้นาน 6-18 เดือนครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระบบเผาผลาญของร่างกาย พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลหลังฉีด

  • Hyabell Lips อยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน
  • Hyabell Basic อยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน
  • Hyabell Deep อยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน
  • Hyabell Ultra อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน
VSQ Tips

ข้อควรรู้ : การดูแลหลังฉีดมีผลต่ออายุของฟิลเลอร์ เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อนจัด แอลกอฮอล์ และการสัมผัสบริเวณที่ฉีดบ่อย ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น


เปรียบเทียบ Hyabell Filler กับยี่ห้ออื่น ๆ ต่างกันอย่างไร ?

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละแบรนด์มีเทคโนโลยีและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล รวมถึงคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด โดยแต่ละยี่ห้อมีความต่างกันดังนี้ครับ

ฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ Belotero
ฟิลเลอร์ Neuramis
ฟิลเลอร์ Definisse
ฟิลเลอร์ Flore
ฟิลเลอร์ Yvoire
ฟิลเลอร์ Biohyalux
ฟิลเลอร์ Teoxane
  • ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน ผลิตด้วย NASHA และ OBT Technology มีจุดเด่นที่ขนาดโมเลกุลมีเม็ดใหญ่ ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง ยืดหยุ่นดี สามารถใช้เติมเต็มในหลายบริเวณ นิยมฉีดยกพยุงผิว
  • ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา ผลิตด้วย Hylacross และ Vycross Technology มีจุดเด่นที่ความเรียบเนียน และมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ครอบคลุมปัญหาทุกตำแหน่งของใบหน้า
  • ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วย CPM Technology มีจุดเด่นเรื่องความแน่นและความยืดหยุ่นของเนื้อฟิลเลอร์ สามารถคงรูปได้ดี มีความเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน
  • ฟิลเลอร์ Neuramis เกาหลี ผลิตด้วย Shape Technology มีจุดเด่นเรื่องความคงตัว สามารถเติมเต็ม ปรับรูปหน้าได้หลายตำแหน่ง โดยเฉพาะปัญหาริ้วรอย ร่องตื้นที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกตามวัย
  • ฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี ผลิตด้วย XTR™ Technology เด่นในเรื่อง Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุงได้ดี ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โอกาสแพ้และบวมหลังฉีดน้อย
  • ฟิลเลอร์ Flore เกาหลี ผลิตด้วย HCCL™ Technology เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีความหลากหลาย ทั้งความแข็งและความยืดหยุ่น แน่นกระชับ คงรูปได้ดี และยังสามารถใช้ฉีดปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้นได้
  • ฟิลเลอร์ Yvoire เกาหลี ผลิตด้วย HICE Cross-link Technology เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัว ยึดเกาะแน่น ไม่ไหลย้อย เหมาะกับเติมเต็มในชั้นลึก
  • ฟิลเลอร์ Biohyalux จีน ผลิตด้วย BioBT Technology เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คงรูปได้ดี มีความคงทน อยู่ได้นาน ฟิลเลอร์ไม่บวมน้ำ ช่วยปรับรูปหน้า หรือทดแทนในชั้นผิวที่ยุบลงได้ดี
  • ฟิลเลอร์ Teoxane สวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วย RHA Technology เด่นในเรื่องโครงสร้างโมเลกุลและพันธะของ Filler ที่มีความใกล้เคียงกับผิว ช่วยเติมเต็มผิว เพิ่มมิติ ยืดหยุ่นได้ดีเวลาเคลื่อนไหวใบหน้า
  • ฟิลเลอร์ Perfectha ฝรั่งเศส ผลิตด้วย E-Brid Technology เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและความหนืด คงตัวสูงและอยู่ได้นาน มีหลายรุ่นให้เลือกใช้
  • ฟิลเลอร์ e.p.t.q เกาหลี ผลิตด้วย 2CM Technology และ Downing process เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น เนียนละเอียด ฉีดได้หลายตำแหน่ง สลายช้าลง และอยู่ได้นานขึ้น
  • ฟิลเลอร์ Neauvia อิตาลี ผลิตด้วย SXT Technology ผสมกับ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ทนความร้อนได้ดี ช่วยเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจนในคราวเดียวกัน
  • ฟิลเลอร์ Revanesse แคนนาดา ผลิตด้วย Thixofix Cross-Linking Technology เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นที่เหมาะสม คงทน สามารถปรับตัวเข้ากับเนื้อเยื่อใต้ผิวได้ดี ทำให้ง่ายต่อการฉีดของแพทย์
  • ฟิลเลอร์ Revolax เกาหลี ผลิตด้วย HEXALink Technology เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีโครงสร้างแบบตาข่าย ทำให้เนื้อเจลมีความเรียบเนียน ฉีดแล้วกลืนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน
  • ฟิลเลอร์ Volifil เกาหลี ผลิตด้วย HCCL และ PP Process เด่นในเรื่องความคงทน มีโครงสร้างเนื้อเจลแบบเนื้อเดียวกัน ทำให้เนื้อเจลมีความสม่ำเสมอ กระจายตัวได้ดีในผิว ไม่เป็นก้อนหรือไหลเมื่อฉีดเข้าไปในชั้นผิว

อยากรู้ ? ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ตำแหน่งไหน ใช้ยี่ห้ออะไร คลิก!

ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
VSQ Tips

ข้อควรรู้ : ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อใดก็ตาม หมอแนะนำให้เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ เพราะแพทย์จะช่วยวิเคราะห์ปัญหา พร้อมแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม รวมถึงปริมาณ CC ที่ต้องใช้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุด


ฉีด Hyabell Filler ราคาเท่าไหร่ ?

ฟิลเลอร์ Hyabell ราคาเริ่มต้นที่ 8,000.-/1 CC ครับ อาจต่างกันไปตามหลายปัจจัย เช่น

  • รุ่นของ Hyabell Filler แต่ละรุ่นมีความเข้มข้นของ HA และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
  • ปริมาณ CC ที่ใช้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล
  • บริเวณที่ฉีด เช่น การฉีดใต้ตาหรือริมฝีปากอาจใช้ปริมาณที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับการฉีดปรับโครงหน้า
  • คลินิกและแพทย์ที่ทำการฉีด ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

โปรโมชันโปรแกรมฟิลเลอร์ ราคาพิเศษ ที่ V Square Clinic

ฟิลเลอร์ ราคา

วิธีเช็กฟิลเลอร์ Hyabell ของแท้

วิธีเช็กฟิลเลอร์ Hyabell ของแท้

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ปลอมจำนวนมากในตลาด ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงและอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นการเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

คนไข้สามารถตรวจสอบฟิลเลอร์ Hyabell ของแท้ได้ตามวิธีต่อไปนี้ครับ

  • กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแกะ ดัดแปลง หรือรอยเปิดที่ผิดปกติ
  • สังเกตฉลากภาษาไทย ต้องมีฉลากระบุข้อมูลชัดเจน รวมถึงชื่อบริษัทผู้นำเข้าและเลขทะเบียน อย.
  • ตรวจสอบเลขล็อต (Lot Number) และ QR Code เพื่อสแกนตรวจสอบผลิตภัณฑ์ผ่านระบบของผู้ผลิตได้
  • โทรสอบถามเลข Lot. กับบริษัทนำเข้าโดยตรง

เพื่อความปลอดภัยสูงสุด การเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ควรเลือกรับบริการจากคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างดี และใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ? อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม
(พญ.วรรณศิลป์ สุขสมานพันธ์ เลข ว.49758)

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น เช็กให้ชัวร์! ปลอดภัยก่อนฉีด


ฉีด Hyabell Filler ดีไหม คุ้มค่าหรือไม่ ?

Hyabell Filler เป็นฟิลเลอร์ที่ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ดี คุ้มค่าอีกตัวนึงครับ ด้วยตัวยาที่ผลิตจากเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัว กระจายตัวดี หลังฉีดจึงดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดีของการฉีด Hyabell Filler

  • ปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก อย. ไทย และมาตรฐานยุโรป
  • มีหลายรุ่นให้เลือก เหมาะกับการแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกัน
  • เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ
  • เนื้อฟิลเลอร์มีส่วนผสมของยาชาทุกรุ่น จึงช่วยลดความเจ็บขณะฉีดได้
  • อยู่ได้นาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้

Hyabell Filler ผ่าน อย. หรือไม่ ?

Hyabell Filler ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย ซึ่งยืนยันถึงความปลอดภัยและมาตรฐานการผลิตระดับสากล นอกจากนี้ยังผ่านการรับรองมาตรฐาน CE จากยุโรป และ MDSAP ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกครับ

คนไข้สามารถเช็กรายชื่อยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ไทย ได้ที่ ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ไทย ล่าสุด! มียี่ห้อไหนบ้าง ? เช็กให้ชัวร์ ปลอดภัยก่อนฉีด


หลังฉีด Hyabell Filler ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากและอุณหภูมิสูง (เช่น ซาวน่า ฟิตเนส) เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ฉีด 24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและใช้ครีมกันแดด SPF 30+ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ประคบเย็นหากมีอาการบวม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Hyabell Filler

ฉีดฟิลเลอร์ Hyabell เจ็บไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ Hyabell ไม่เจ็บครับ เนื่องจาก Hyabell Filler ทุกรุ่นมีส่วนผสมของยาชา จึงช่วยลดความเจ็บขณะฉีดได้

Hyabell Filler สลายได้หมดจริงไหม ?

Hyabell Filler หลังฉีดสามารถสลายหมด เนื่องจากใช้ไฮยาลูโรนิกแอซิดแท้ 100% ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ

ฉีด Hyabell Filler แล้วเป็นก้อนไหม ?

เนื่องจากฟิลเลอร์ Hyabell ใช้เทคโนโลยี MPT (Monophasic Particle Technology) ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวในผิวหนังได้ดี จึงมีโอกาสเป็นก้อนน้อยครับ แต่ต้องฉีดกับแพทย์มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเท่านั้น

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ? อันตรายไหม ? มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ Hyabell กี่วันเห็นผล ?

การฉีด Hyabel Filler เห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด และเข้าที่สมบูรณ์ภายใน 7-14 วัน ครับ

ฟิลเลอร์ Hyabell มีผลข้างเคียงไหม ?

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังฉีด Hyabell Filler มักเป็นอาการเล็กน้อยและหายได้เองครับ เช่น

  • รอยแดงหรือบวมบริเวณที่ฉีด (มักหายภายใน 1-3 วัน)
  • จ้ำเลือดหรือรอยฟกช้ำ (มักหายภายใน 1 สัปดาห์)
  • รู้สึกไม่สบายหรือเจ็บเล็กน้อย
  • อาการคันหรือผื่นแดงเล็กน้อย

สรุป Hyabell Filler คุ้มค่าแค่ไหน ?

หากคนไข้กำลังมองหาฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ Hyabell Filler ถือเป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจครับ เนื่องจาก

  • ฟิลเลอร์จากเยอรมนี ปลอดภัย มาตรฐานยุโรป
  • ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน
  • ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวดูเต่งตึง
  • เห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรก อยู่ได้นาน 6-18 เดือน และสลายได้เอง 100%

อย่างไรก็ตาม ควรเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ Hyabell ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้และผ่านการรับรอง อย.ไทยด้วยนะครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ปรึกษาหมอ