ฟิลเลอร์ปาก
ปัจจุบันฟิลเลอร์ปาก เป็นวิธีปรับทรงปากที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทำปากได้หลายทรง ไม่ว่าจะเป็นปากกระจับ เกาหลี ปากอวบอิ่ม สายฝอ. ปรับแต่งปากให้มีความสมมาตรมากขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปากแห้ง การฉีดฟิลเลอร์ปากมีความยืดหยุ่นมากกว่าการผ่าตัด สามารถแก้ไขได้ง่าย เห็นผลทันที และใช้เวลาทำหัตถการไม่นาน
แต่ก็ใช้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหน กับใครก็ได้ การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจ หมอมีข้อแนะนำเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก คืออะไร มีทรงไหน แบบไหนบ้าง แต่ละแบบใช้กี่ CC เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหน รุ่นอะไรดี ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน ราคาเท่าไร และวิธีเลือกคลินิก ต้องพิจารณาจากอะไร ?
สารบัญ ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) มีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่ยืดหยุ่น มีความคงตัว เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะช่วยเพิ่มเนื้อปาก ทำให้ปากอวบอิ่ม ชุ่มชื้น และสามารถปั้นเป็นทรงต่าง ๆ ได้
ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA)
กรดไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติเด่นคืออุ้มน้ำได้ดี ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น รักษาความชุ่มชื้น และป้องกันริ้วรอยบนผิวหนัง สำหรับสารเติมเต็มที่ปลอดภัย และผ่านการรับรองจากอย. ไทย คือ Hyaluronic Acid (Filler) เท่านั้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีอะไรบ้าง ?
ข้อดีของฟิลเลอร์ปาก หมอสรุปมาเป็นข้อ ๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย ดังนี้
- เป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัย สลายหมด ไม่มีสารตกค้าง
- สามารถฉีดสลาย หรือฉีดเพิ่มได้ โดยไม่มีผลข้างเคียง ต่างจากการผ่าตัดปากที่เป็นการปรับทรงปากถาวร ถ้าตัดเนื้อปากออกไปแล้วก็แก้ไขได้ยาก
- ไม่ต้องมีการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการมาก หลังทำกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ช่วยปรับทรงปากให้เป็นทรงได้ตามต้องการ เช่น ปากกระจับ ปากเกาหลี ปากอวบอิ่ม เซ็กซี่
- ช่วยบำรุงริมฝีปากให้มีความชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก มีสีสันสดใสขึ้น
- หลังฉีดจะได้ทรงปากที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ปากราคาอยู่ที่ประมาณ 14,000-16,000/1 CC (ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์และเทคนิคของแพทย์)
ทรงฉีดฟิลเลอร์ปาก มีแบบไหนบ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทำปากได้เกือบทุกทรงปาก ยกเว้นการทำให้ริมฝีปากบางลงครับ (ต้องใช้การผ่าตัด) ทรงฟิลเลอร์ปากที่ได้รับความนิยมหลัก ๆ จะมีอยู่สองสไตล์ คือ ปากเกาหลี และปากสายฝอ. ซึ่งจุดเด่นของทรงปากทั้งสองจะมีลักษณะต่างกันไปครับ
ทรงฉีดปากเกาหลี
ทรงปากเกาหลี จะเป็นสไตล์น่ารัก ๆ ปากมีกระจับเล็กน้อย ยกมุมปากขึ้น เพิ่มความอวบอิ่มเล็กน้อย เป็นทรงที่เข้ากับใบหน้าของคนไทยส่วนใหญ่ ฉีดแล้วดูธรรมชาติ ช่วยให้ใบหน้าหวานละมุนขึ้น
ทรงฉีดปากกระจับ
ทรงปากกระจับ จะเป็นลักษณะปากคล้าย ๆ ปีกนก ขอบปากชัดเจน ช่วงระหว่างริมฝีปากบนเป็นติ่งลงมา เป็นทรงที่คนไทยนิยมฉีดกันมาก โดยมีอิทธิพลมาจากปากของดารา อินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ การมีปากกระจับชัดเจน จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และดูเซ็กซี่มากขึ้น
บทความแนะนำ : แชร์ไอเดีย ปากกระจับ เสริมโหงวเฮ้ง แบบไหนดี ? ทำอย่างไรบ้าง ?
ทรงฉีดปากสายฝอ
ทรงปากสายฝอ จุดเด่นคือริมฝีปากที่หนา ทรงและขอบปากชัดเจน ปากจะดูเจ่อนิด ๆ ในสัดส่วนใบหน้าโดยรวมปากจะเด่นออกมา เหมาะกับคนที่มีโครงสร้างใบหน้าคม ๆ จมูกโด่ง ตาโต คางยาว
นอกจากนี้ยังมีทรงปากแยกย่อย ๆ ออกไปอีกหลายทรง เช่น Classy Kysse, Cherry Kysse, Heavy Upper Lips, Full Lips, Cupid’ Bow สามารถอ่านจุดเด่นของปากแต่ละทรงได้ที่บทความ 9 ทรงปากยอดนิยม ปากกระจับ สายฝอ เลือกทรงปากแบบไหน ได้โหงวเฮ้งดี สวยรับกับใบหน้า
ฉีดปากแต่ละทรง ต้องใช้กี่ CC ?
ฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละทรง ต้องใช้กี่ CC ขึ้นอยู่กับทรงปากเดิมแต่ละคนครับ ในเคสที่ปากบาง ๆ ไม่มีขอบปาก ปากไม่เป็นทรง อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ 2-3 CC ทั้งเพื่อสร้างขอบปาก เติมกระจับ ยกมุมปาก และเพิ่มความอวบอิ่ม หมอจะประเมินให้ตามความเหมาะสม ส่วนใหญ่คนไข้ที่ต้องใช้ฟิลเลอร์มากกว่า 1 CC จะเป็นทรงปากสายฝอ ที่จุดเด่นคือการเพิ่มความหนาของปากให้เด่นชัด
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี ?
ฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น แต่ละรุ่นมีลักษณะเนื้อที่แตกต่างกัน เหมาะฉีดกับทรงและบริเวณที่แตกต่างกันครับ ก่อนฉีดหมอจะประเมินและแนะนำรุ่นฟิลเลอร์ปากที่เหมาะกับคนไข้แต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
- Restylane Kysse
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 12 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Restylane Kysse ฟิลเลอร์สุดฮิตเพื่อเทรนด์ฉีดปากโดยเฉพาะ
- Restylane Vital Light
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้ง โดยไม่ต้องเพิ่มความหนามาก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน - Restylane Volyme
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดมุมปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน - Restylane Refyne
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน - Juvederm Ultra Plus
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง อยู่ได้นาน 12 เดือน - Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง แน่น ฟูปานกลาง อยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มและอยู่ได้นาน อยู่ได้นาน 18 เดือน - Juvederm Volift
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้ 12 เดือน - Juvederm Volite
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ได้นาน 8-12 เดือน - Teoxane RHA 2
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ยืดหยุ่น ทนต่อแรงขยับได้ดี ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน - Teoxane RHA 3
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ค่อนไปทางแน่นปานกลาง ทนต่อแรงขยับได้ดี เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม อยู่ได้นาน 12-18 เดือน - Belotero Volume
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก ใช้ฉีดเก็บรายละเอียดได้ดี เหมาะสำหรับเติมเต็มเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปาก อยู่ได้นาน 12-18 เดือน - Belotero Revive
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีส่วนประกอบของ HA และ GLYCEROL เพิ่มการกักเก็บความชุ่มชื่นใต้ชั้นผิว เพิ่มความแข็งแรงให้กับเกราะป้องกันผิว อยู่ได้นาน 6-12 เดือน - Definisse Touch
- ฟิลเลอร์เนื้อเบา เนียนละเอียด แต่ยังขึ้นรูปได้ดี ช่วยยกพยุงและปรับรูปหน้า อย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้กี่เดือน แต่ละแบบอยู่ได้นานต่างกันไหม ?
ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ แม้จะเป็นสาร Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่มีเทคโนโลยีและขั้นตอนในการผลิตแตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ จึงทำให้เกิดคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน ระยะเวลาที่อยู่ได้นานก็จะไม่เท่ากันครับ สำหรับปากจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย เช่น หลีกเลี่ยงการทานของร้อน หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่จะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว
ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ราคาเท่าไร ?
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ปากต้องฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ ราคาจะเริ่มที่ประมาณ 14,000.-/1 CC ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และจำนวน CC ที่ใช้ครับ การฉีดปากไม่จำเป็นต้องฉีดครั้งละหลายซีซี คนไข้สามารถค่อย ๆ ฉีดเพื่อดูผลลัพธ์ก่อน ถ้าต้องการความอวบอิ่มเพิ่มก็สามารถมาเติมเพิ่มได้ครับ
โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ปาก ที่ V Square Clinic
รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
รีวิว หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ก่อน-หลังทำทันที จะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดชัดเจน
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ?
เพราะบริเวณริมฝีปากเป็นจุดที่เนื้ออ่อนนิ่ม ระหว่างฉีดคนไข้อาจรู้สึกตอนที่หมอแทงเข็มและตอนที่กำลังฉีดเนื้อฟิลเลอร์เข้าไป แต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก จะมีการทำความสะอาดบริเวณที่ฉีด และฉีดยาชาให้ทุกเคส สำหรับคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่แปะยาชาเพิ่มได้
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ควรกด บีบ นวด หรือพยายามปั้นทรงปากด้วยตัวเอง จะทำให้ปากเสียรูปทรง
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจเกิดทำให้ปากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่าย
- งดการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังหนัก ๆ ที่จะทำให้ปากเสียรูปทรง รวมถึงการใช้หลอดดูดน้ำ การจูบ
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู และอยู่ได้นานขึ้น
- ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
อ่านเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลตัวเองอย่างไร ? เพื่อผลลัพธ์ที่สวยและอยู่ได้นาน
ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันถึงจะทาลิปได้
ใน 12 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแนะนำให้งดทาลิปสติกก่อนครับ เพราะจะยังมีแผลจากรอยเข็มอยู่ แต่หลังจากนั้นสามารถทาลิปได้ตามปกติ
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดได้จาก 2 สาเหตุ ได้แก่
- แพทย์ที่ฉีดมีประสบการณ์ไม่มากพอ ใช้เทคนิคการฉีดผิดพลาด ฉีดตื้นเกินไป หรือเลือกรุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ทำให้เห็นฟิลเลอร์กองเป็นก้อน
- ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฉีดกับหมอกระเป๋า หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้หลังฉีดมีอาการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นก้อนแข็ง
ฉีดสลายฟิลเลอร์ปาก
สำหรับคนไข้ที่ฉีดปากมาแล้วมีปัญหา เป็นก้อน ทรงไม่สวย อยากแก้ไข สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ปากได้ครับ แต่ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ HA เท่านั้น โดยใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) เข้าไปบังบริเวณที่ต้องการสลายฟิลเลอร์ จะเข้าไปลดการกักเก็บน้ำ ไขมัน และทำลายการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์ ช่วยปรับสมดุลให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์กลับมาเรียบเสมอกันเหมือนเดิม หรือใกล้เคียงเดิมมากที่สุด
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไร ที่ไหนดี ?
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านรับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ ก่อนฉีดควรตรวจดูที่กล่องและขวดบรรจุภัณฑ์ก่อนฉีดทุกครั้ง
- คลินิกไม่ควรอับทึบ สะอาด โปร่ง สว่างเพียงพอ มีอุปกรณ์ เครื่องมือ ยาและเวชภัณฑ์อย่างครบถ้วน พร้อมใช้ มีห้องหัตถการและพื้นที่กว้างขวาง
- แพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถออกแบบทรงปาก และเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละคนได้ ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเป็นธรรมชาติ
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถเข้าไปลบหรือแก้ไขได้ และไม่ควรดูรีวิวที่เป็นรูปภาพเพียงอย่างเดียว ควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดีโอประกอบกัน เพราะสามารถตกแต่งได้ยากกว่า ทำให้เห็นผลจริง ๆ หลังฉีด
- คลินิกควรมีช่องทางติดต่อที่สะดวก และมีการนัดติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เช่น Line@ Facebook หรือเบอร์โทรศัพท์ หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยสามารถสอบถามแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรง
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ? รวม checklists ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเข้าคลินิกฉีดปาก
Q&A ฉีดฟิลเลอร์ปาก
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม ?
A : การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นจุดที่มีเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก และมีเส้นเลือดหลักที่อยู่ลึกลงไปเพียงเส้นเดียว แพทย์สามารถใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็มแหลม ฉีดฟิลเลอร์ให้มีความปลอดภัยได้ ไม่ทำอันตรายต่อเส้นเลือดสำคัญ
Q : ฟิลเลอร์ 1 CC เพียงพอต่อการฉีดปากหรือไม่ ?
A : โดยปกติการฉีดฟิลเลอร์ปาก จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC ครับ หากเป็นคนที่ปากเป็นทรงอยู่แล้ว ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม หรือฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปากแห้ง ปริมาณฟิลเลอร์ 1 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนครับ
Q : ผ่าตัดปากมาแล้ว สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากได้ไหม ?
A : สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากได้ครับ ในกรณีที่คนไข้เคยผ่าตัดปากมาก่อน ต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เนื่องจากการผ่าตัดจะทำให้เกิดพังผืดปิดกั้น ต้องใช้ความระมัดระวังในการฉีดมากขึ้น เพราะมีความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดมากกว่าเคสปกติ
*หากเกิดกรณีฟิลเลอร์อุดตัน สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์โดยใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL)
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ เหมาะกับใครบ้าง ?
A : โดยส่วนใหญ่การฉีดปากกระจับ จะเหมาะกับโครงสร้างใบหน้าของคนเอเชียอยู่แล้ว ทำให้ใบหน้ามีมิติ ดูเซ็กซี่มากขึ้น ซึ่งเวลาคนไข้เข้ามาปรึกษาหมอหลายคนจะมี reference ทรงปากที่ต้องการมาด้วย ในการฉีดฟิลเลอร์หมอจะช่วยประเมินเรื่องรูปทรงปากเดิม ว่าสามารถเติมฟิลเลอร์และปรับทรงได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงกับความต้องการของคนไข้และเข้ากับใบหน้ามากที่สุด
สรุป
ฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับเทรนด์ความงามในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะเทรนด์ปาก ทั้งปากกระจับ ปากอวบอิ่มเซ็กซี่ การฉีดฟิลเลอร์ปากมีความยืดหยุ่นมากกว่าการผ่าตัด ฉีดแล้วสามารถแก้ไขได้ง่ายกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น การดูแลตัวเองก็ไม่ยุ่งยาก ทั้งนี้ควรพิถีพิถันในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มั่นใจว่าปลอดภัย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่า