Hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผล ?
Hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผล ? ทำแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ? ใครที่สนใจการทำ Hifu และอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จำนวนช็อต/ไลน์ ในแต่ละตำแหน่ง ? หลังทำ Hifu กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ?
Hifu ช็อต (shot) กับ ไลน์ (line) แตกต่างกันอย่างไร ? ในบทความนี้หมอมีข้อมูลต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางตัดสินใจก่อนทำไฮฟู่ครับ
สารบัญ Hifu กี่ช็อตเห็นผล
Hifu ช็อต (shot) กับ ไลน์ (line) แตกต่างกันอย่างไร ?
Hifu ที่เป็นช็อต (shot) กับ Hifu ที่เป็นไลน์ (line) จริง ๆ ไม่ได้มีความต่างกันครับ สามารถใช้ได้ทั้งคู่ เหตุผลที่เรียกต่างกันอย่างแรกเลย คืออาจเกิดจากความคุ้นเคยจากการใช้เครื่องเลเซอร์หน้าที่นับการยิง 1 ครั้ง เป็น 1 ช็อต ทำให้เรียกการทำ hifu เป็นช็อตไปด้วย หรือเหตุผลอย่างที่สอง คือ คลินิกแต่ละแห่งใช้เครื่อง hifu ต่างกัน เช่น คลินิกบางแห่งใช้หัวยิงแบบ Single Shot และบางแห่งใช้หัวยิงแบบ Line shot
Single shot
เครื่อง Hifu หัวยิงแบบ Single Shot จะมีลักษณะเรียวเล็กคล้ายหัวปากกา มีการส่งพลังงานออกมาเป็นจุด (ช็อต) เพียง 1 จุด แล้วค่อย ๆ ยิงเรียงกันคล้ายจุดไข่ปลา
Line Shot
เครื่อง hifu หัวยิงแบบ Line Shot จะยิงพลังงานงานออกมา 1 เส้น ใน 1 เส้นนั้นจะประกอบด้วยจุดพลังงาน 0.5-1 mm. เรียงกันประมาณ 15-25 จุด ความยาวประมาณ 2.5 cm (1 line = 1 เส้น) ดังนั้น 1 line = 15-25 จุดเรียงกัน จึงให้ผลลัพธ์ดีกว่า Hifu ทั่วไปถึง 5 เท่าครับ
ทำ Hifu แต่ละตำแหน่ง ใช้กี่ช็อต (Shot) / ไลน์ (Line)
Hifu Ultraformer III สามารถทำได้หลายตำแหน่งครับ ตำแหน่งที่นิยมทำ ได้แก่
- แก้ม หรือ เหนียง ประมาณ 100 line
- แก้ม และ เหนียง ประมาณ 300 line
- ใต้ตา และ ร่องแก้ม ประมาณ 300 line
- ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน ประมาณ 700 line
- ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา ประมาณ 1,000 line
เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกทำกับหมอที่มีประสบการณ์ สามารถคำนวณจำนวนไลน์ที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม แม่นยำ และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ
ทำ Hifu กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?
หลังทำ Hifu สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่วันแรกประมาณ 20% ครับ หลังจากนั้น 2-3 เดือน จะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้น ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด เหนียงลดลง และจะคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-6 เดือน ซึ่งถ้าใช้ค่าพลังงานที่สูง ในบางรายสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลครับ
Hifu ควรทำซ้ำไหม ? ทำบ่อย ๆ ดีไหม ?
หากต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน และป้องกันผิวหย่อนคล้อยในอนาคต หมอแนะนำให้กลับมาทำซ้ำครับ เพราะการทำไฮฟู่ ยิ่งทำจะยิ่งเห็นผลดี แนะนำให้กลับมาทำซ้ำ ทุก 3 หรือ 6 เดือน เพื่อคงสภาพผิว หรือหากคนไข้ใช้เครื่อง Hifu Ultraformer III สามารถเลือกใช้หัวยิง Cherry Pink เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้าง collagen ลดริ้วรอย ซึ่งหัวยิงนี้สามารถทำซ้ำได้ทุก 1 เดือนโดยไม่มีผลข้างเคียงครับ
Hifu ยิ่งทำช็อตเยอะ ยิ่งเห็นผล จริงไหม ?
บางคลินิกบอกให้คนไข้ทำ Hifu โดยใช้จำนวนช็อตเยอะ ๆ เพราะอ้างว่ายิ่งทำช็อตเยอะ จะยิ่งเห็นผล ซึ่งอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดครับ อย่างในกรณีที่คนไข้มีปัญหาแก้มตอบ แต่มีร่องแก้มลึก ต้องการให้หน้าดูยกขึ้น หากทำ Hifu โดยใช้จำนวนช็อตเยอะก็จะยิ่งทำให้แก้มดูตอบกว่าเดิม หรือในกรณีที่คนไข้มีไขมันบริเวณแก้มเยอะ มีแก้มห้อย ต้องการทำ Hifu หลายช็อตลดแก้ม การทำ hifu 1 ครั้ง ผลลัพธ์หลังทำก็อาจไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง
ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน จะต้องให้แพทย์ช่วยประเมิน บางเคสอาจทำไฮฟู่ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ
ทำ Hifu แล้วไม่ได้ผล เกิดจากอะไร ?
หากใช้เครื่องไฮฟูเกรดดี เครื่องแท้ มีคุณภาพ หลังทำจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนครับ หากคนไข้ทำ Hifu แล้วไม่เห็นผล อาจมีสาเหตุดังนี้
1. ใช้เครื่อง Hifu ไม่ได้มาตรฐาน
เครื่องไฮฟู่เกรดต่ำหรือเครื่องเลียนแบบ จะให้ผลลัพธ์แตกต่างจากเครื่อง Hifu Ultraformer III ครับ เพราะเครื่องเลียนแบบจะปล่อยพลังงานไม่คงที่ แรงบ้าง เบาบ้าง หมอจึงไม่กล้าใช้พลังงานสูง เพราะหากใช้พลังงานแรงเกินไป อาจทำให้ผิวไหม้ หน้าบวม ถ้าโดนเส้นประสาทก็อาจทำให้หน้าเบี้ยวได้ และหากหมอใช้พลังงานต่ำ จะต้องใช้เวลาในการยิงนานขึ้น เจ็บมากขึ้น โดยที่ได้ผลลัพธ์เท่าเดิม หรือไม่เห็นผลเลย เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาครับ
2. แพทย์ไม่มีประสบการณ์
การทำ Hifu หมอจะต้องมีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือ เพื่อที่จะสามารถวางแผนการแก้ไขและคำนวณจำนวนไลน์ที่เหมาะสม รวมถึงมีเทคนิคพิเศษในการยิงบางจุดที่ต้องใช้ความแม่นยำ เช่น Hifu ใต้ตา ถุงใต้ตา ยกหนังตาตก ยกมุมปาก เพราะหากยิงไม่ถูกต้องอาจยิงโดนเส้นประสาททำให้หน้าบวม ผิวไหม้ ปากเบี้ยวได้
3. สภาพผิวของแต่ละคน
สภาพผิวของแต่ละบุคคล เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์การทำ Hifu เห็นผลต่างกันครับ เช่น คนไข้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยมาก ๆ มีแก้มย้วย ไขมันบนใบหน้าเยอะ ในการทำ Hifu ครั้งแรกอาจเห็นผลไม่ชัดเจน ดังนั้นก่อนทำ Hifu จำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินก่อนว่า คนไข้มีปัญหาอะไรและต้องการแก้ปัญหาจุดใดบ้าง เพื่อแพทย์จะได้ให้แนะนำวิธีที่ดีและเหมาะสมที่สุดครับ
4. การดูแลตัวเองหลังทำ Hifu
การดูแลตัวเองหลังทำ Hifu เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามครับ คนไข้ส่วนมากมักจะคาดหวังผลที่เกินจริงจากคำโฆษณาของเซลส์ หรือรูปภาพเคสรีวิวที่ผ่านการตัดต่อ บางคนจึงทำพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว เช่น ตากแดดจัด ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เซลล์ผิวจึงไม่ได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ หลังทำ Hifu ไม่เห็นผลเท่าที่ควร
ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังทำ Hifu
- หลังทำ Hifu สามารถทาครีมบำรุง ดูแลผิวหน้าได้ตามปกติ
- ควรทาครีมกันแดด เป็นประจำ แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เสริมจากเดิมเพื่อป้องกันแสงแดด รวมถึงหลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้ง 1-2 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิวประจำ
- หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ
- ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ได้
รีวิวทำ Hifu
ตัวอย่างผลการปรับรูปหน้าด้วย Hifu โดยทีมแพทย์ V Square Clinic
บทความแนะนำ
สรุป
สรุป ควรทำ Hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผล ? การทำ Hifu ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า ควรให้แพทย์ประเมินปัญหาใบหน้าของคนไข้ เพื่อแนะนำจำนวนช็อตที่ใช้ในการยิงที่เหมาะสม และที่สำคัญควรทำภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน ที่มั่นใจได้ว่าใช้เครื่อง Hifu แท้ เพื่อความปลอดภัย และคุ้มค่ามากที่สุดครับ