Hifu ข้อเสีย
Hifuข้อเสีย มีอะไรบ้าง ? เนื่องจาก Hifu เป็นหัตถการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยจุดเด่นในการช่วยยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูง ทำให้หลายคนอาจเกิดความสงสัยครับว่า แล้ว Hifu มีข้อเสียบ้างไหม ?
ที่จริงแล้วทุกหัตถการมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หรือข้อควรระวังในการทำครับ ในบทความนี้หมอได้อธิบายทั้งข้อดี-ข้อเสียของไฮฟูไว้อย่างละเอียด พร้อมแนะนำมีวิธีปฏิบัติตัวก่อน-หลังทำ Hifu ให้เห็นผล และวิธีเลือกคลินิกทำ Hifu ที่ไหนดีให้ปลอดภัย ไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนทำไฮฟู
สารบัญ Hifu ข้อเสีย
Hifu มีข้อดี อะไรบ้าง ?
เมื่อพูดถึงวิธียกกระชับผิว แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย หัตถการแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงก็คือ การทำ Hifu ครับ
บทความแนะนำ
ด้วยข้อดีของ Hifu ทำให้เป็นหัตถการยอดนิยมได้ไม่ยาก ซึ่งจะมีอะไรบ้าง หมอได้สรุปข้อดีของ Hifu ไว้ด้วยกัน 6 ข้อดังนี้
1. ช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย
Hifu สามารถทำได้หลายบริเวณตั้งแต่ใบหน้า เหนียง คอ ต้นแขน และต้นขา โดยใช้หลักการทำงานของคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ยิงลงไปถึงชั้นผิวหนัง SMAS (ชั้นผิวเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า) ทำให้ชั้นผิวเกิดการหดตัวและยกกระชับขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวยกกระชับ เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์มากขึ้นครับ
โดย Hifu สามารถช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย ดังนี้
- ยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อยของผิว
- ลดริ้วรอยบนใบหน้า ริ้วรอยร่องแก้ม ร่องมุมปาก ริ้วรอยรอบดวงตา
- แก้ปัญหาหนังตาตก หางตา หางคิ้วตก
- ลดแก้ม ลดเหนียง
- กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแน่น ลดรูขุมขนกว้าง
2. Hifu มีหัวยิงหลายระดับตามความลึกของผิว
จุดเด่นของ Hifu Ultrafomer III คือ มีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ แก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม โดยสามารถยิงได้ทุกบริเวณที่ต้องการให้ผิวกระชับขึ้น
- ผิวชั้นบน (Upper Dermis) ใช้หัวความลึก 1.5-2.0 mm ช่วยเรื่องยกกระชับ ลดริ้วรอย ร่องลึกในระดับที่ไม่ลึกมากกระตุ้นคอลลาเจน
- ผิวชั้นกลาง (Lower Dermis) ใช้หัวความลึก 3.0 mm ช่วยลดไขมันและเซลลูไลท์ กระชับใบหน้า
- ผิวชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) ใช้หัวความลึก 4.5 mm ช่วยกระชับกล้ามเนื้อ ยกแก้ม เป็นชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าให้กระชับ
และหัวยิงรุ่นใหม่ Cherry Pink ระดับความลึก 2.0 mm เป็นหัวยิงที่มีเฉพาะใน Hifu Ultraformer III มีจุดเด่นคือ พลังงานมีความเสถียร แม่นยำ สามารถสะสมความร้อนได้สูงถึง 8 เท่า จึงช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดกว่าเดิมครับ
3. ราคามีความย่อมเยา
การทำไฮฟูมีราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับเครื่องมืออื่น ๆ โดยราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนไลน์ที่ใช้ หมอจะเป็นผู้ประเมินตามตำแหน่งที่ยิง และปัญหาของคนไข้เป็นรายเคสไปครับ แต่ถ้าหากให้หมอแนะนำเพื่อใช้เป็นแนวทางในการคำนวณค่าใช้จ่าย หมอแนะนำดังนี้
- แก้ม หรือ เหนียง ประมาณ 100 line
- แก้ม และ เหนียง ประมาณ 300 line
- ใต้ตา และ ร่องแก้ม ประมาณ 300 line
- ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน ประมาณ 600 line
- ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา ประมาณ 1,000 line
อ่านเพิ่มเติม : ทำ Hifu กี่ช็อตเห็นผล ?
ที่ V Square Clinic Hifu Ultraformer III 100 line จะเริ่มต้นที่ 3,999.-
4. ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่า ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
Hifu เป็นหัตถการยกกระชับผิวที่ไม่เป็นการทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก (Non-Invasive Treatment) สามารถยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าได้โดยไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังทำ นับว่าเป็นอีกจุดเด่นของ Hifu เลยครับ
5. เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ
หลังทำ Hifu สามารถเห็นผลลัพธ์การยกกระชับได้ประมาณ 20% จากผลลัพธ์ที่จะได้ทั้งหมด โดยจะเห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นใน 1 เดือน เมื่อผิวเริ่มมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ๆ และจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ประมาณ 2-3 เดือนหลังทำครับ
6. ทำได้บ่อย และทำร่วมกับหัตถการอื่นได้โดยไม่มีผลข้างเคียง
Hifu เป็นหัตถการที่สามารถกลับมาทำได้ซ้ำได้ ยิ่งทำยิ่งดี จะช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคต และยังสามารถทำร่วมกับหัตถการความงามอื่น ๆ เช่น ร้อยไหม ฟิลเลอร์ โบท็อกได้โดยไม่มีผลข้างเคียง โดยก่อนทำแนะนำให้ปรึกษาหมอก่อนเพื่อให้หมอเรียงลำดับการทำหัตถการตามความเหมาะสม
- Hifu + ฟิลเลอร์ : เคสนี้ทำ Hifu ยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย แล้วฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึกที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูกให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้นได้ทันทีหลังทำ และเมื่อผ่านไป 2-3 เดือน ผิวหน้าจะยกกระชับขึ้น เต่งตึงขึ้นอีกจากการทำไฮฟู่ครับ
- Hifu + โบท็อกซ์ + เมโสแฟต + ฟิลเลอร์ : เคสนี้ทำ Hifu 600 line ยกกระชับผิวทั่วใบหน้า ร่วมกับฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าให้เรียวยิ่งขึ้น เติมเต็มร่องลึกใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ และฉีดเมโสแฟตเพื่อสสลายไขมันสะสมบริเวณแก้มและเหนียงครับ
Hifuข้อเสีย มีอะไรบ้าง ?
1. Hifuข้อเสีย ตรงที่รู้สึกเจ็บขณะทำเล็กน้อย
Hifu ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวย ไม่เจ็บคือไม่ได้ผลครับ เนื่องจากเป็นการยิงพลังงานสูงลงลึกถึงชั้นผิว SMAS ทำให้รู้สึกปวด ๆ ตึง ๆ หรืออุ่น ๆ บริเวณใต้ชั้นผิวระหว่างทำ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ รวมถึงก่อนทำจะมีการแปะยาชา สามารถช่วยลดความเจ็บได้ครับ
2. ข้อเสียHifu อาจมีอาการบวม รอยแดง
หลังทำ Hifu อาจมีอาการบวม รอยแดง โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีผิวบางช้ำง่าย เป็นอาการข้างเคียงที่พบได้เป็นปกติครับ ไม่อันตราย โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลงไปได้เองประมาณ 2-3 วัน ระหว่างนั้นควรปฏิบัติตามวิธีดูแลตัวเองหลังทำ Hifu จะช่วยให้อาการบวมยุบได้ไวขึ้น
3. ข้อเสียของการทำไฮฟู คือ ผลลัพธ์อยู่ไม่ได้ถาวร
ผลลัพธ์จากการรักษาอยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับระดับความเจ็บ สภาพผิวเดิม รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำก็มีส่วนต่อระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ครับ
4. Hifuข้อเสีย อาจทำให้หน้าเบิร์น ปากเบี้ยว ไม่เห็นผลลัพธ์
หากไม่ระวังในการเลือกคลินิก อาจเจอเครื่อง Hifu ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน มีพลังงานไม่คงที่ ทำให้หมอต้องลดความเสี่ยงด้วยการใช้พลังงานต่ำ ทำให้ตอนยิงจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ทำแล้วก็จะไม่เห็นผล หรือผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน และในบางเคสอาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น หน้าไหม้ ปากเบี้ยวได้เลยครับ
5. Hifuข้อเสีย อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน
ไฮฟู่เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงน้อย แต่ไม่สามารถทำได้ในทุกคนครับ โดยกลุ่มคนที่ไม่ควรทำ Hifu ได้แก่
- ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ แนะนำให้รอคลอดก่อนแล้วค่อยมาทำครับ
- ผู้ที่มีสิวอักเสบบนใบหน้า
- ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเริม
- ผู้ที่มีบาดแผลที่ยังไม่หายดี มีแผลคีลอยด์
- ผู้ที่เป็นโรคไต หรือผู้ที่มีโรคที่เกิดจากระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ที่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (pacemaker)
- ผู้ที่สูญเสียความรู้สึก หรือการรับความรู้สึกบกพร่อง
ข้อควรรู้ ข้อห้าม การปฏิบัติตัวก่อน – หลังทำ Hifu ให้เห็นผลชัดเจน
ข้อควรปฏิบัติก่อนทำ Hifu
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- เตรียมข้อมูลโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ยาที่กำลังรับประทานอยู่ไว้แจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการ สำหรับใครที่มีปัญหาโรคผิวหนังอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำครับ
ข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามหลังทำ Hifu
- ทาครีมบำรุงได้ตามปกติ และควรทาครีมที่มี SPF สูง
- หากมีอาการตึงผิว สามารถทานยาแก้ปวดได้
- หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้ง 1-2 สัปดาห์ เพื่อฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
- ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ
- งดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำลายคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร
Hifu – Ulthera – Thermage มีข้อดี – ข้อเสีย ต่างกันอย่างไรบ้าง ?
ทั้ง Hifu, Ulthera และ Thermage ต่างก็เป็นเครื่องมือยกกระชับที่มุ่งให้ผลลัพธ์ในการลดความหย่อนคล้อยของผิว ลดเลือนริ้วรอย แต่ก็มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันครับ โดยหมอขอเปรียบเทียบทั้งสามหัตถการในด้านการยกกระชับ ความเจ็บ ระยะเวลาคงผลลัพธ์ และราคา ดังนี้ครับ
- การยกกระชับ
ในด้านการยกกระชับ Hifu และ Ulthera จะเด่นกว่า Thermage เพราะสามารถยิงพลังงานสูงลงได้ถึงชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวสำคัญที่มีผลต่อการยกกระชับหน้าครับ และ Ulthera ที่มีจุดพลังงานที่ใหญ่กว่า Hifu ทำให้ประสิทธิภาพของการยกกระชับและระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า แต่ก็จะรู้สึกเจ็บได้มากกว่าการทำ Hifu
ส่วนการทำเทอร์มาจสามารถส่งพลังงานถึงชั้นผิวหนังแท้ รวมถึงชั้นไขมัน จึงเด่นในเรื่องของการสลายไขมัน เพิ่ม Skin Quality (ผิวเด็ก) ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน มากกว่าการยกกระชับ
- ระดับความเจ็บ
จากกระบวนการทำงานในการยกกระชับผิวส่งผลให้การทำหัตถการงานผิวด้วยเครื่องยกกระชับจะรู้สึกเจ็บขณะทำครับ แต่ Thermage จะยิงพลังงานลงผิวในลักษณะก้อนพลังงานความร้อนทำให้รู้สึกเจ็บได้มากกว่าการทำ Hifu กับ Ulthera ที่ยิงในลักษณะจุดไข่ปลาเรียงกันเป็นเส้นตรง
โดยถ้าให้เรียงลำดับความเจ็บตามความคิดเห็นของคนไข้ส่วนใหญ่ที่เคยใช้บริการ จะบอกว่า Thermage > Ulthera > Hifu ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับความอดทนต่อความเจ็บของแต่ละคนด้วยครับ
- ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์
- Hifu ผลลัพธ์อยู่ได้ 5-6 เดือน
- Ulthera ผลลัพธ์อยู่ได้ 1 ปี
- Thermage ผลลัพธ์อยู่ได้ 1-2 ปี
- ราคา
ในบรรดาเครื่องมือยกกระชับผิว Hifu มีราคาที่ย่อมเยาสุดครับ ใครที่มีงบประมาณปานกลาง เจ็บไม่มาก ไม่ได้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องการชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย การทำ Hifu จะให้ความคุ้มค่าที่สุด
ส่วนการทำ Ulthera หรือ Thermage จะมีราคาที่สูงขึ้นมาอีกครับ ข้อดีคือจะเห็นผลได้ยาวนานกว่า แต่ก็เจ็บได้มากกว่า ซึ่งหลายคนอาจไม่สามารถทนเจ็บได้ทำให้ต้องขอปรับลดพลังงานลง จึงไม่ค่อยคุ้มค่าในคนที่ทนเจ็บได้น้อย
ไฮฟูดีไหม ทำไมถึงเป็นที่นิยม ?
Hifu ดีไหม ? การทำ Hifu เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ตามหาวิธียกกระชับผิวในราคาที่คุ้มค่าครับ สามารถช่วยยกกระชับผิวหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ และทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ต้น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดปัญหาก็สามารถทำได้ครับ เป็นการป้องกันและชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต
ทำ Hifu ที่ไหนดี ? มีวิธีเลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ?
- คลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมาย ได้รับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักที่เห็นชัดเจนติดอยู่หน้าคลินิก ภายในคลินิกสะอาด ปลอดเชื้อ ไม่แออัด
- ใช้เครื่อง Hifu ที่ได้มาตรฐาน เป็นเครื่องเกรดดี ผ่านการรับรองความปลอดภัย และนำเข้ามาอย่างถูกต้อง
- แพทย์มีประสบการณ์ ในการใช้เครื่องไฮฟู สามารถวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ประเมินจำนวนไลน์ได้เหมาะสมกับปัญหา ยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ และต้องเป็นแพทย์จริงที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภาครับ
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ควรดูรีวิวที่แสดงความคิดเห็นต่อการใช้บริการ ผลลัพธ์ที่ได้ในแหล่งที่เป็นกลาง เพราะทางคลินิกจะไม่สามารถลบออกเองได้ และคลินิกควรมีรีวิวก่อนทำหลังทำที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน โดยควรดูทั้งแบบรูปภาพและวิดีโอ
สรุป
Hifuข้อเสีย เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วถือว่าจะมีน้อยกว่าครับ ในขณะที่ข้อดีจะมีมากกว่า รวมถึงราคามีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ โดยการจะทำไฮฟูให้เห็นผลได้ชัดเจน แนะนำว่าควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่องไฮฟู่ที่มีคุณภาพ รวมถึงควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมิน และวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด