หลักการทำงานและประโยชน์ของHifu
แท้จริงแล้ว หลักการทำงานและประโยชน์ของ Hifu เป็นอย่างไร ? ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง ? ทำไมถึงเป็นเคล็ดลับหน้าเด็กที่หลายคนอยากบอกต่อ
เพราะเมื่ออายุขึ้นเลขสอง คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวเสื่อมลงตามวัย ทำให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยได้ง่ายครับ แต่ปัจจุบันเราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยการใช้หลักการทำงานของ Hifu ที่จะช่วยจัดการกับปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างเห็นผล และทำได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีผลเสีย
บทความนี้หมอจะพามาเจาะลึกกันครับ
สารบัญ หลักการทำงานและประโยชน์ของ Hifu
Hifu มีหลักการทำงานอย่างไร ?
หลักการทำงานของ Hifu ไม่ได้มีความซับซ้อนมากครับ โดยแพทย์จะทำการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงลงสู่ชั้นผิวในลักษณะจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เพื่อให้เกิดความร้อน 45-70°C ความร้อนจะทำให้ชั้นผิวหดตัว (นึกภาพคล้ายกับวางเนื้อบนกระทะร้อน ๆ แล้วเนื้อหดตัวลง) และเกิดกระบวนการกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยยกกระชับและเรียบเนียน ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
Hifu สามารถใช้ยกกระชับผิวและลดริ้วรอยได้ทั้งใบหน้า เหนียง ลำคอ ร่างกาย หรือแม้แต่บริเวณที่ผิวมีความบอบบางอย่างรอบดวงตาก็สามารถทำได้ครับ เพราะคลื่นเสียงที่ใช้พัฒนามาจากคลื่นอัลตราซาวด์ที่ใช้ในการตรวจครรภ์ จึงมีความปลอดภัยสูง
โดยในปัจจุบันเครื่อง Hifu มีหลายยี่ห้อหลายเกรด รุ่นที่ดีและคุ้มค่าที่สุดในตอนนี้ที่หมอแนะนำจะเป็นยี่ห้อ Ultraformer lll เนื่องจากเป็นพลังงาน Macrofocus ปล่อยพลังงานได้สม่ำเสมอ มีรอบพลังงานไวที่สุดจึงเจ็บน้อยลง รวมถึงมีหัวที่ยิงหลายระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม
- ระดับหัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm ใช้กับผิวชั้นบน ช่วยเรื่องลดริ้วรอยร่องตื้น
- ระดับหัวยิงความลึก 3.0 mm ใช้กับผิวชั้นกลาง ช่วยลดไขมันและเซลลูไลท์ กระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อยของผิว
- ระดับหัวยิงความลึก 4.5 mm ใช้กับผิวชั้น smas สามารถช่วยยกแก้ม เหนียง และลำคอ
นอกจากนี้ความพิเศษของ Hifu Ultraformer III คือ มีหัวยิง Cherry Pink ระดับความลึก 2.0 รูปทรง Narrow shape เล็ก เรียว บาง ปล่อยพลังงานได้เสถียรมากขึ้น ความร้อนสะสมได้สูงถึง 8 เท่า สามารถแก้ไขทุกปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยจะมีแค่ Ultraformer III เท่านั้นที่สามารถใช้หัวนี้ได้ครับ
ประโยชน์ของ Hifu มีอะไรบ้าง ?
จากหลักการทำงานของ Hifu หมอขอแบ่งประโยชน์ของ Hifu ออกเป็น 3 ด้านดังนี้
ประโยชน์ของ Hifu ด้านการกระตุ้นคอลลาเจน
เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวจะเริ่มเสื่อมสภาพและลดน้อยลง เป็นผลให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่าย มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ โดย Hifu เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ถูกออกแบบมาให้สามารถกระตุ้น Collagen ได้ในทุกชั้นผิว จึงมีความโดดเด่นในเรื่องนี้เป็นอย่างมากครับ
โดยใช้หลักการทำงานของคลื่นเสียงยิงลงสู่ชั้นผิวขนาดจุดโฟกัส 0.5-1 mm เพื่อให้เกิดความร้อนทำให้ผิวเกิดการหดตัวและกระตุ้นการสร้างเซลล์ Fibroblasts ที่ทำหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง รูขุมขนดีขึ้น เรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ
ประโยชน์ของ Hifu ด้านการยกกระชับผิว
Hifu สามารถปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งตรงไปถึงชั้นผิว SMAS (ชั้นผิวเดียวกับการผ่าตัดยกกระชับหน้า) ทำให้ผิวชั้นนี้เกิดการหดตัวลงเสมือนกับการเย็บดึงหน้าโดยไม่ได้ทำให้เกิดแผลที่ผิวชั้นนอก เหมาะกับคนที่ต้องการลดความหย่อนคล้อย ยกกระชับผิวให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้นแต่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้นครับ
ข้อควรรู้ : SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic system) เป็นชั้นผิวที่มีคอลลาเจนแนวนอนที่เกาะกันเป็นเส้นใย หากชั้นผิว SMAS เสื่อมลงก็จะส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อยของใบหน้า ดังนั้นหากต้องการยกกระชับผิวให้เห็นผลต้องยกได้ถึงชั้นผิว SMAS โดยเครื่องยกกระชับผิวที่สามารถยิงลงได้ถึงชั้นผิว SMAS ตอนนี้จะมี Hifu และ Ulthera ครับ
หลังทำไฮฟูสามารถเห็นผลลัพธ์การยกกระชับได้ทันทีประมาณ 20% และจะค่อย ๆ เห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อเกิดการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่ ๆ ใต้ชั้นผิว ถ้าหากต้องการให้ผิวกระชับขึ้นอีก ก็สามารถทำ Hifu เพิ่มได้ทุก ๆ 3 เดือนครับ
ประโยชน์ของ Hifu ด้านการลดริ้วรอย
ประโยชน์ของ Hifu นอกจากจะช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยแล้ว Hifu ยังสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องตื้นบนใบหน้าได้ครับ เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยร่องแก้มที่ไม่ได้ลึกมาก ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ หรือเป็นอีกทางเลือกในเคสที่ดื้อโบท็อก ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยแล้วไม่เห็นผล ก็สามารถทำไฮฟูเพื่อช่วยลดริ้วรอยหรือชะลอการเกิดริ้วรอยแทนครับ
ทำ Hifu ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- ลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าและลำคอ
- แก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า หน้าผาก หางตา ร่องแก้ม คอ
- ช่วยแก้ปัญหาหางตา หางคิ้ว หนังตาตก
- ช่วยแก้ปัญหาเหนียง คางสองชั้น
- ช่วยปรับหน้าเรียว เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
- ช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ให้ผิวกระชับ ดูเต่งตึง
- ช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคต
นอกจาก Hifu แล้วสามารถกระตุ้น Collagen ด้วยวิธีไหนได้อีกบ้าง ?
นอกจากการทำ Hifu แล้ว ยังมีหัตถการความงามอื่น ๆ ที่สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ครับ โดยสามารถทำร่วมกับ Hifu ได้ จะช่วยเสริมให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยควรทำหัตถการไหนก่อน แนะนำให้ปรึกษาหมอเพื่อให้หมอเรียงลำดับการทำหัตถการตามความเหมาะสม
วิธีช่วยยกกระชับ กระตุ้น collagen
- Ulthera
Ulthera มีหลักการทำงานคล้ายกับเครื่อง Hifu ในเรื่องพลังงานที่ใช้และกลไกการยกกระชับ แต่ Ulthera จะมีขนาดจุดพลังงานที่ใหญ่กว่าครับ ส่งผลให้ประสิทธิภาพที่ได้แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของผลลัพธ์และระยะเวลา โดยอัลเทอร่าจะยกกระชับได้มากกว่าและผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า แต่ก็จะรู้สึกเจ็บได้มากกว่า รวมถึงราคาสูงกว่าการทำ Hifu ครับ
- Thermage FLX
เครื่อง Thermage FLX เทคโนโลยียกกระชับผิว สลายไขมันด้วยเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ สามารถส่งพลังงานความร้อนที่ 40-50°C เป็นวงกว้างได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) จึงเด่นในเรื่องการลดไขมัน ลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นกระชับขึ้น เฟิร์มขึ้น
- ร้อยไหมยกกระชับ
ร้อยไหมเป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ครับ โดยแพทย์จะทำการสอดไหมเข้าสู่ใต้ชั้นผิว ผิวจะถูกเงี่ยงไหมเกี่ยวขึ้นไปตามแนวที่วางไว้ ส่งผลให้บริเวณนั้นเกิดการสร้างเส้นใยอิลาสตินขึ้นมาช่วยประคองผิว รวมถึงช่วยกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ช่วยให้ผิวมีความกระชับเต่งตึงขึ้น
- Gouri
Gouri คือ สารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) ประเภท PCL ที่อยู่ในรูปของสารละลายหรือ ไหมน้ำ นำมาฉีดเพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวแน่น กระชับ ยืดหยุ่น แข็งแรงขึ้น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นเล็ก ๆ ดูจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้น
- Sculptra
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนเช่นเดียวกันครับ อยู่ในรูปแบบของ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ที่ต้องนำไปละลายน้ำก่อนฉีด หลังฉีดจะช่วยให้ผิวมีการสร้างคอลลาเจน Type 1 มากขึ้น สร้างความแข็งแรงให้กับผิวภายใน ผิวอิ่มฟูและดูยกกระชับขึ้น
- Exosome
Exosome จัดอยู่ในกลุ่มเมโสหน้าใสครับ เป็นสารชีวโมเลกุล กว่า 1,000 ชนิด ที่สำคัญต่อผิว เน้นกระตุ้นการซ่อมแซมผิวชั้นบน สร้างไฟโบรบลาสต์ที่ผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ลดริ้วรอย รวมถึงช่วยชะลอและป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ
ข้อควรรู้ และการปฏิบัติตัวก่อน – หลังทำ Hifu ให้ได้ผล
ก่อนทำ Hifu ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
ก่อนทำ Hifu ไม่ต้องเตรียมตัวมากครับ แนะนำให้นอนพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงงดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีปัญหาติดเชื้อที่ผิวหนัง ควรแจ้งข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
หรือในผู้ที่ได้ทำหัตถการอื่น เช่น โบท็อก หรือฉีดฟิลเลอร์มาก่อนหน้า ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เพราะอาจต้องมีการเว้นระยะห่างเพื่อให้แต่ละหัตถการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยหมอจะประเมินเป็นรายเคสและแนะนำลำดับหัตถการตามระยะเวลาที่เหมาะสมครับ
หลังทำ Hifu ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
- ไม่ควรนวดหรือถูบริเวณใบหน้าแรง ๆ
- หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- เลี่ยงการออกแดดกลางแจ้ง 1-2 สัปดาห์ และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่
- หลีกเลี่ยงการสตรีมซาวด์น่า นวดหน้าด้วยความร้อน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะไปทำลายคอลลาเจนที่กำลังสร้างตัวใต้ผิวหนัง
ข้อแนะนำเพิ่มเติม : หลังทำ Hifu ควรหมั่นดูแลบำรุงผิวร่วมด้วย เช่น การทาครีมบำรุง พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะทำให้ผิวได้ฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ และเป็นการช่วยเสริมให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวครับ
อ่านเพิ่มเติม : ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการทำ Hifu มีอะไรบ้าง ? อันตรายไหม ?
สรุป
จากหลักการทำงานและประโยชน์ของ Hifu ทำให้ไฮฟูมีจุดเด่นในเรื่องยกกระชับผิวหย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าเรียว V-Shape กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น เป็นวิธีการปรับรูปหน้า แก้ปัญหาผิวที่ตอบโจทย์อย่างมากในผู้ที่ไม่อยากใช้เข็ม ไม่ต้องการผ่าตัด
สำหรับใครที่สนใจทำ Hifu หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา หรือส่งรูปมาให้หมอช่วยประเมินเบื้องต้นก่อนได้ครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย