Hifu
Hifu (ไฮฟู) เป็นนวัตกรรมยกกระชับ ที่ได้รับความนิยมในยุคนี้ เพราะสามารถยกกระชับผิว คืนความอ่อนเยาว์ได้อย่างเห็นผล ใครที่ต้องการทราบรายละเอียดการทำ Hifu คืออะไร ? เหมาะกับใคร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง รวมถึงข้อมูลก่อนทำ Hifu ที่ควรรู้ เช่น ทำไฮฟูตำแหน่งไหนได้บ้าง, ทำ Hifu อยู่ได้นานไหม, ทำ Hifu กี่วันเห็นผล, แตกต่างจากวิธียกกระชับอื่น ๆ อย่างไร, เจ็บไหม หรือ ควรทำ Hifu ที่ไหนดี ?
หมอรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ พร้อมตัวอย่างรีวิว Hifu และข้อสรุป Hifu ดีไหม ดีอย่างไร ไว้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ Hifu
Hifu (ไฮฟู) คืออะไร ?
Hifu หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นเครื่องมือยกกระชับผิว ที่ยกกระชับได้ทั้งใบหน้าและลำตัว ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย และกระตุ้นคอลลาเจน โดยไม่ต้องผ่าตัด
การทำ Hifu มีความปลอดภัยและแทบไม่มีผลข้างเคียงครับ เพราะทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง (พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ตรวจครรภ์) เมื่อยิงเข้าไปในชั้นผิวแต่ละชั้น ผิวจะหดตัวเสมือนกับการเย็บเนื้อ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ โดยพลังงานสามารถลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ผลลัพธ์ที่ได้จึงคล้ายการดึงหน้า ผิวยกกระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ทำ Hifu ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
Hifu ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเรื่องการยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนในทุกชั้นผิว ทำให้ผิวแน่นขึ้นกว่าเดิม แก้ปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ เช่น
- ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนผิวหน้า
- ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา
- ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก ยกหางคิ้ว
- ช่วยกระชับไขมันใต้คาง ลดริ้วรอยที่คอ ลดเหนียง กระชับกรอบหน้า
- ช่วยยกกระชับผิวบริเวณตัวได้ เช่น เอว, หน้าท้อง, สะโพก, ต้นแขน, ท้องแขน, ต้นขา
นอกจากนี้ Hifu ยังสามารถป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคตได้อีกด้วยครับ
Hifu Ultraformer III คืออะไร ?
Hifu Ultraformer III คือ เครื่อง Hifu Macrofocus (Hight Intensity Focus Ultrasound Macrofocus) ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดรองจาก Ulthera ได้รับการพัฒนาและรับรองมาตรฐานจากยุโรป มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง ขณะทำพลังงานจะคงที่ ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน ไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก ไม่ทำให้เกิดแผล หลังทำสามารถใช้หน้าได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
นอกจากนี้ Hifu Ultraformer III ยังมีหัวยิงหลายหัวครับ แพทย์จึงสามารถเลือกใช้จัดการกับปัญหาได้อย่างเหมาะสมในแต่ละระดับชั้นผิว ดังนี้
- หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm ใช้กับผิวหนังชั้นบน ช่วยเรื่องริ้วรอย ร่องลึกในระดับที่ไม่ลึกมาก เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หว่างคิ้ว และหน้าผาก
- หัวยิงความลึก 3.0 mm ใช้กับผิวชั้นกลาง ช่วยลดไขมันและเซลลูไลท์ กระชับใบหน้า กระตุ้นคอลลาเจนบริเวณแก้ม ลดความหย่อนคล้อยของผิว
- หัวยิงความลึก 4.5 mm ใช้กับผิวชั้น SMAS ที่ปกติจะใช้ผ่าตัดดึงหน้าให้กระชับ ช่วยยกแก้ม เหนียง ลำคอ และเก็บกรอบหน้า
- หัว Cherry Pink หัวยิงความลึก 2.0 mm ที่ใช้ได้กับเฉพาะเครื่อง Hifu Ultraformer III เท่านั้น ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น กระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ยกคิ้ว ยกหนังตาตก แก้ปัญหาร่องแก้ม ด้วย Technology MF2 Macro Focus Ultrasound ที่ให้พลังงานสะสมได้สูงกว่า 8 เท่า ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เห็นผลเร็ว และเจ็บน้อยลง
V Square Clinic เลือกใช้เครื่อง Hifu Ultraformer III เพราะหากเทียบผลลัพธ์กับราคาถือว่ามีความคุ้มค่า สามารถกระชับผิวบริเวณใบหน้า เหนียง คอ ต้นแขน และต้นขา และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน-อีลาสติน ทำให้ผิวหน้ายืดหยุ่นมากขึ้น จึงช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ทำ Hifu ดีไหม เหมาะกับใคร ?
Hifu เป็นเครื่องมือยกกระชับที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย สามารถทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ผู้ที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด รวมถึงผู้ที่มีความต้องการดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
- ผู้ที่มีริ้วรอยน้อย ๆ ร่องใต้ตาร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก
- ผู้ที่ต้องการกระชับผิวโดยไม่ผ่าตัด ไม่ใช้เข็มฉีดยา
- ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หลังทำใช้หน้าได้เลย ไม่มีแผล
ทำ Hifu ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
Hifu สามารถทำได้ทุกบริเวณที่ต้องการยกกระชับ เพราะมีหัวยิงไฮฟู่หลายระดับความลึก จึงสามารถช่วยยกกระชับผิวแต่ละตำแหน่งได้อย่างเห็นผล โดยบริเวณที่ทำแล้วเห็นผลลัพธ์ชัดเจน แบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่
- บริเวณใบหน้า : เหนียง คอ ร่องมุมปาก ร่องแก้ม พวงแก้ม ใต้ตา หน้าผาก เปลือกตาบน และกรอบหน้า
- บริเวณร่างกาย : ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง และสะโพก
ทำ Hifu แต่ละตำแหน่งต้องใช้กี่ Line ?
จำนวนไลน์ (Line) ที่ใช้ในการทำ Hifu หมอจะพิจารณาจากตำแหน่ง และปัญหาของผิวของคนไข้ครับ จากนั้นจะประเมินจำนวน Line ที่เหมาะสม ซึ่งแต่ละคนจะใช้จำนวนไลน์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากมีปริมาณไขมัน ความหย่อนคล้อย สภาพผิวแต่ละคนต่างกันครับ แต่โดยเฉลี่ยจะใช้จำนวน Line ดังนี้
- แก้ม หรือ เหนียง ประมาณ 100 line
- แก้ม และ เหนียง ประมาณ 300 line
- ใต้ตา และ ร่องแก้ม ประมาณ 300 line
- ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน ประมาณ 700 line
- ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา ประมาณ 1,000 line
ข้อดี – ข้อเสียของการทำ Hifu
เปรียบเทียบข้อดี – ข้อเสีย ของการทำ Hifu
| ข้อดี ของการทำ Hifu | ข้อเสีย ของการทำ Hifu |
|---|---|
| ✓ เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด | ✗ มีรอยแดงเล็กน้อยหลังทำ สามารถหายได้เองใน 1-2 ชม. |
| ✓ ผู้ที่มีริ้วรอยเล็กน้อย ไม่ลึกมาก | ✗ การทำ Hifu ขณะทำจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ปวด ๆ ตึง ๆ บริเวณใต้ชั้นผิว เป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ แต่จะไม่แสบร้อน |
| ✓ ช่วยยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน | ✗ หากเลือกใช้เครื่อง Hifu ไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้หน้าไหม้ หน้าบวม และอาจโดนเส้นประสาททำให้หน้าเบี้ยวได้ |
| ✓ หลังทำเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันที 20%เห็นผลเต็มที่ใน 3-4 เดือน | |
| ✓ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยในอนาคตได้ | |
| ✓ สามารถกระชับผิวได้ทุกบริเวณที่ต้องการ โดยจะมีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิว | |
| ✓ สามารถยกกระชับถึงชั้น SMAS ที่เป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า |
ทำ Hifu เจ็บไหม ?
การทำ Hifu เจ็บครับ แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ และก่อนทำ Hifu จะมีการแปะยาชา เพื่อลดอาการเจ็บ ส่วนความรู้สึกในระหว่างทำคนไข้อาจรู้สึกปวด ๆ ตึง ๆ เพราะพลังงานที่ลงไปใต้ชั้นผิว ซึ่งหากสามารถทนเจ็บได้มาก ก็จะยิ่งส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อการยกกระชับครับ
ทำ Hifu กี่วันเห็นผล ?
การทำ Hifu สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำได้ตั้งแต่ครั้งแรกครับ ผิวยกกระชับขึ้น 20% หลังจากนั้นภายใน 1-2 เดือน จะค่อย ๆ กระชับมากขึ้น และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3-4 เดือน หากต้องการให้ผิวกระชับขึ้นอีก สามารถทำ Hifu เพิ่มได้ทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้เซลล์ Fibroblast สร้าง Collagen ได้เต็มที่ถึงจะคุ้มค่าครับ จากนั้นค่อยกลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์และป้องกันความหย่อนคล้อยในอนาคต
ทำ Hifu หน้าบวมกี่วัน ?
หลังทำ Hifu อาจมีอาการบวมเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติครับ โดยเฉพาะถ้าใช้เครื่องเกรดดีพลังงานสูง จะบวม 1-2 สัปดาห์ ขณะเดียวกันผลลัพธ์ที่ได้ ก็จะอยู่ได้นานขึ้น
ทำ Hifu อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?
หลังทำไฮฟู อยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือนครับ แต่บางรายก็อาจจะคงผลลัพธ์ได้นานถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับคนไข้สามารถทนเจ็บได้หรือไม่ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำอย่างถูกวิธีก็จะยิ่งคงผลลัพธ์ยาวนานขึ้นครับ
การเตรียมตัวก่อนทำ Hifu
Hifu เป็นหัตถการที่ไม่ทำให้เกิดแผล จึงไม่มีขั้นตอนการเตรียมตัวที่ยุ่งยาก หมอแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
- การพักผ่อนที่เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารให้ควบ 5 หมู่
- เน้นทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ก่อนทำควรงดแต่งหน้า ทารองพื้น ทาแป้ง หรือครีมบำรุงผิวหน้าอื่น ๆ
หากคนไข้นัดทำ Hifu ในวันที่ต้องทำงาน หรือเลิกงานมาทำ ก่อนเริ่มทำ Hifu ทางคลินิกจะมีการทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางที่ตกค้างให้ครับ
การดูแลตัวเองหลังทำ Hifu
เพื่อรักษาผิวที่กระชับให้อยู่ได้นาน คนไข้ควรดูแลตัวเองร่วมด้วย เช่น หมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงแสงแดด ลดเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เช่น ความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การดื่มน้ำน้อย
Hifu -Ulthera SPT – Thermage FLX ต่างกันอย่างไร ?
Hifu / Ulthera SPT / Thermage FLX เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวเหมือนกันครับ ต่างกันที่ขนาดและประเภทของคลื่นพลังงาน ความสามารถให้การยิงที่ลงลึกได้ในระดับชั้นผิวที่ต่างกัน ทำให้ทั้ง 3 เครื่อง เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Hifu macrofocus หรือ Hifu Ultraformer III จะส่งพลังงานเป็นจุดขนาด 0.5-1 mm พลังงานคงที่ คล้ายจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว ลงลึกชั้น smas ทำให้เกิดการหดของเนื้อเยื่อตามทิศทางของเส้น หมอสามารถออกแบบ Vector ในการยิง ยิงเรียงเป็นเส้นตรงเพื่อยกกระชับผิวตามแนวที่ต้องการได้
- Ulthera เป็นจุดขนาด 1 mm ยิงลงลึกถึงใต้ผิวหนังชั้น SMAS (ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า) ตัวเครื่องมีจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ ทำให้ยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ต้องการยกกระชับผิว ให้ดูอ่อนเยาว์ และปรับรูปหน้าให้มีกรอบหน้าชัด และผิวเรียบเนียน
- Thermage เป็นก้อนความร้อนขนาด 3-16 cm2 พลังงานจะครอบคลุมพื้นที่ได้ดีกว่าแบบจุด เน้นช่วยเรื่องผิวได้ดี ช่วยให้ผิวแน่นกระชับขึ้น และเพิ่ม Skin Quality (ผิวเด็ก) เหมาะสำหรับคนที่ทนความเจ็บได้ในระดับสูงจึงจะคุ้มค่าในการทำ
Hifu – ร้อยไหม – เมโสแฟต ต่างกันอย่างไร ?
3 หัตถการนี้ สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว วีเชฟได้ครับ แต่มีวิธีการและแก้ปัญหาต่างกันครับ
- Hifu โดดเด่นในเรื่องการยกกระชับผิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน หากมีริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก แต่ต้องการกระชับผิวให้หน้าเรียว มีกรอบหน้าที่ชัดขึ้น สามารถใช้ Hifu ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว และลดริ้วรอยได้ รวมถึงป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคตได้
- ร้อยไหม เป็นการใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงสอดลงในชั้นผิวหนัง ช่วยยกกระชับใบหน้า สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้ทันที สามารถทำได้ทั้งการร้อยไหมปรับรูปหน้า ร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมกระชับหน้า ร้อยไหมจมูก ช่วยปรับรูปหน้าเรียว V Shape ดูมีสัดส่วน ผิวดูเต่งตึง อ่อนกว่าวัย
- เมโสแฟต (Meso Fat) เป็นการฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมัน สามารถฉีดลดแก้ม ลดเหนียง แก้ปัญหาแก้มย้อย แก้มห้อย ที่มีสาเหตุจากไขมันได้ เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มหรือเหนียงมากหรือต้องการลดสัดส่วนไขมันในบางจุด ช่วยให้ใบหน้าเล็กลง ดูเรียวสมส่วนมากขึ้น
ทั้งนี้ หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถทำหัตถการหลายอย่างพร้อมกันได้ครับ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ เช่น ต้องการทำ Hifu เพื่อยกกระชับหน้า ร่วมกับ ฉีดเมโสแฟต เพื่อลดแก้ม เหนียง ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ก่อนทำแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหา และเรียงลำดับการทำที่เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ครับ
เปรียบเทียบการทำ Hifu กับการฉีดโบท็อก?
Hifu กับ Botox เป็นหัตถการที่ช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า ซึ่งต่างกันที่วิธีการครับ
- โบท็อก : เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง สามารถลดริ้วรอยลดขนาดที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อได้
- Hifu : เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงลงไปในชั้นผิว พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้ผิวยกกระชับขึ้น
ทั้ง Hifu กับ Botox เป็นการลดริ้วรอยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทั้ง 2 หัตถการนี้สามารถควบคู่กันได้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ
รีวิวการทำ Hifu
ตัวอย่างผลการปรับรูปหน้าด้วย Hifu โดยทีมแพทย์ V Square Clinic
ในบางเคสจะเห็นว่าคนไข้ทำ Hifu ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นทันทีหลังทำครับ
Hifu ราคาแพงไหม ?
ราคา Hifu ในคลินิกที่ได้มาตรฐานจะไม่ต่างกันมากครับ ขึ้นอยู่กับจำนวน Line ตำแหน่งที่ทำ และโปรโมชั่นโดยปกติคนไข้จะนิยมทำ Hifu ลดริ้วรอยและยกกระชับทั่วหน้า ใช้ประมาณ 600 line /18,000.- หากเทียบกับเครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ ที่ราคาสูงกว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Hifu ก็ไม่ได้ต่างกันมาก ถือเป็นหัตถการที่มีความคุ้มค่าครับ โดยจำนวนไลน์ที่ใช้หมอจะประเมินให้เหมาะกับปัญหาและงบประมาณของแต่ละคน
อ่านบทความเพิ่มเติม : ทำ Hifu ราคาเท่าไร ? คุ้มค่าไหม ?
เลือกทำ Hifu Ultraformer III ที่ไหนดี ?
อันดับแรกที่ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับการทำ Hifu คือต้องมั่นใจว่าเครื่องที่ใช้เป็นเครื่องที่มีคุณภาพ ทำโดยแพทย์ที่ประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยมีหลักในการพิจารณาเลือกคลินิกดังนี้
- มีใบอนุญาตให้ประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข ติดไว้ในบริเวณที่ที่เปิดเผยและเห็นได้ชัดเจน
- ด้านหน้าคลินิกต้องมีแผ่นป้ายขนาดใหญ่แสดงชื่อคลินิก ประเภท และลักษณะการให้บริการ รวมถึงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
- สถานที่ตั้งของคลินิกต้องสังเกตเห็นได้ง่าย เดินทางสะดวก มีที่จอดรถรองรับ และมีสาขาครอบคลุม
- มีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย บรรยากาศภายในคลินิกมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด ถูกต้องตามหลักสุขอนามัย
อ่านบทความเพิ่มเติม : ทำ Hifu ที่ไหนดี ?
ทำ Hifu Ultraformer III ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
ที่ V Square Clinic ใช้เครื่องทำ Hifu ยี่ห้อ Ultraformer lll ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากยุโรป เป็นเครื่องคุณภาพเกรดสูงปล่อยพลังงานคงที่ ทำหัตถการโดยแพทย์ประสบการณ์สูงมีความรู้ทางกายวิภาค ผ่านการเทรนนิ่งและพัฒนาเทคนิคอย่างต่อเนื่อง สามารถใช้เครื่อง Hifu ได้เป็นอย่างดี สามารถประเมินปัญหาได้อย่างแม่นยำตรงจุด มีตัวอย่างเคสรีวิว ให้คนไข้พิจารณาประกอบการตัดสินใจ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย เพิ่มความมั่นใจก่อนตัดสินใจทำหัตถการครับ
โปรโมชั่น Hifu Ultraformer III (อัปเดตปี 2024)
ที่ V Square Clinic หมอจะเป็นผู้ประเมินตามปัญหาของผิวคนไข้ร่วมกับความต้องการ และงบประมาณตามความเหมาะสมครับ
Q&A ทำไฮฟู (Hifu)
ทำ Hifu มีผลข้างเคียงหรือไม่ อย่างไร ?
ผลข้างเคียงหลังทำ Hifu แบ่งออกเป็น 2 กรณีครับ
1.กรณีที่ใช้เครื่องแท้ มีคุณภาพ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะคนที่มีผิวบอบบางคือ หลังทำ Hifu อาจมีรอยแดงเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องปกติ และสามารถหายได้เองใน 1-2 ชั่วโมงครับ
2.กรณีใช้เครื่อง Hifu คุณภาพต่ำ หรือเครื่อง Hifu ปลอม หลังทำอาจทำให้ ผิวไหม้ หน้าบวม ปากเบี้ยว ได้ครับ เพราะพลังงานไม่คงที่
ทำ Hifu ร่วมกับวิธีการอื่น ๆ ได้ไหม ?
การทำ Hifu สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ครับ เช่น การทำไฮฟู่ควบคู่กับการร้อยไหม โบท็อก ฟิลเลอร์ โดยปรึกษาแพทย์ที่ทำหัตถการ เพื่อประเมินและเรียงลำดับการทำได้อย่างถูกต้อง เห็นผล และปลอดภัยมากที่สุดครับ
ทำ Hifu 100 Lines เพียงพอไหม ?
การทำ Hifu 100 Line สามารถให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีหรือไม่นั้น ในบางเคสที่มีปัญหาเล็กน้อย ต้องเก็บรายละเอียด ก็สามารถทำได้และเห็นผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งจำนวนไลน์ในการยิงจะขึ้นอยู่กับปัญหาและจุดที่ต้องการแก้ไข้ครับ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวนไลน์ ตามความเหมาะสมของปัญหา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
HIFU เห็นผลทันที จริงไหม ?
หลังทำ Hifu จะเห็นผลทันที 20% ว่าผิวยกกระชับขึ้น (จะต้องเป็นเครื่องแท้ มีคุณภาพได้มาตรฐานเท่านั้น) หลังจากนั้นภายใน 1-2 เดือน จะเห็นผลชัดเจนขึ้น เห็นผลเต็มที่ตอน 3-4 เดือนครับ
Mini Hifu คืออะไร ได้ผลจริงไหม ?
เครื่อง Mini Hifu เครื่อง Hifu ที่หาซื้อได้ตามเว็บไซต์ออนไลน์ ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อครับ มีการโฆษณาว่า มีประสิทธิภาพใกล้เคียง หรือเทียบเท่าเครื่อง Hifu ตามคลินิก ซึ่งความจริงแล้วเครื่อง Mini Hifu ยังไม่สามารถการันตีคุณภาพและปลอดภัย โดยส่วนใหญ่ที่ราคาถูกมาก ๆ จะใช้พลังงานต่ำเพื่อลดโอกาสทำให้ผิว Burn จึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง และไม่สามารถเทียบเท่ากับเครื่อง Hifu ที่มีคุณภาพที่ทำในคลินิกได้ครับ
สรุป
การทำ Hifu ถือเป็นวิธีการยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และช่วยให้ผิวกระชับเรียบเนียนขึ้น ดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเห็นผล เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า และความปลอดภัย ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกทำกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ และใช้เครื่อง Hifu ที่ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ
