ถุงใต้ตา ใต้ตาบวม ใต้ตาหย่อนคล้อย รักษาได้ รวมวิธีแก้ไขให้ใต้ตาเรียบตึง

Categories
สาระความรู้
ถุงใต้ตา

ถุงใต้ตา

ถุงใต้ตา หรือถุงไขมันใต้ตา มักเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจ เพราะมองเห็นได้ชัดเวลาส่องกระจก ปกปิดได้ยาก และยังเป็นตำแหน่งที่คนอื่นมองเห็นได้ง่าย จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เข้าใจปัญหา จะได้รักษาถุงใต้ตาอย่างตรงจุดและถูกวิธีครับ

บทความนี้ หมอรวมข้อมูลถุงใต้ตาที่ครบที่สุด ทุกคำถามที่สงสัย ตำแหน่งถุงใต้ตา คือ ปัญหาที่พบในบริเวณใดของดวงตา ถุงใต้ตาเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ? มีวิธีการป้องกันการเกิดปัญหาถุงใต้ตาได้ไหม ? ปัญหาถุงใต้ตา สามารถรักษาให้หายขาดถาวรได้ไหม ? รักษาอาการถุงใต้ตาบวม ใต้ตาหย่อนคล้อยด้วยวิธีไหนได้บ้าง ? มีผลข้างเคียงและอันตรายจากการรักษาปัญหาถุงใต้ตาไหม ? อยากให้ใต้ตากลับมาเต่งตึง เรียบเนียน วิธีไหนเห็นผลที่สุด

สารบัญ ถุงใต้ตา


ถุงใต้ตา คือ บริเวณใดของดวงตา

ถุงใต้ตา (Bags Under Eyes) จะอยู่บริเวณใต้ดวงตาหรือบริเวณเบ้าตาด้านล่าง มีลักษณะเป็นถุงไขมันขนาดใหญ่ ทำให้ใต้ตาบวม ปูด ตุ่ย หรือใต้ตาหย่อนคล้อยลงมา รวมถึงมีริ้วรอย ร่องใต้ตา ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน

ตำแหน่งถุงใต้ตา
ตำแหน่งและลักษณะถุงใต้ตา

อาการใดบ้างที่บ่งบอกว่า เกิดปัญหาถุงใต้ตา ?

ในเบื้องต้นสามารถเช็กได้ครับว่า ใต้ตามีถุงใต้ตาหรือยัง ? รวมถึงอาการอื่น ๆ ที่มักเกิดขึ้นร่วมกับปัญหาถุงใต้ตาว่ามีอะไรบ้าง ?

ปัญหาถุงใต้ตา

  • ถุงใต้ตาบวม เป็นอาการที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเมื่อเกิดปัญหาถุงใต้ตา เกิดจากการสะสมของของเหลวหรือไขมันบริเวณใต้ตา ทำให้บริเวณนี้ดูพองขึ้นและมีลักษณะเป็นถุง นอกจากนี้การขยี้ตาบ่อย ๆ ร้องไห้ นอนหลับไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ถุงใต้ตาบวมได้ครับ
  • ใต้ตาหย่อนคล้อย เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลง ทำให้เนื้อเยื่อที่พยุงถุงไขมันบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อยลง ในรายที่ถุงใต้ตามีขนาดใหญ่ อาจรุนแรงถึงขั้นดึงเปลือกตาลง ทำให้เปลือกตาล่างปลิ้นออกมา (Ectropion)
  • ร่องใต้ตา ปัญหาถุงใต้ตา ยังทำให้เห็นร่องใต้ตาชัดขึ้น เนื่องจากไขมันบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อยลง การเสื่อมสภาพของผิวเมื่ออายุมากขึ้น กระดูกใต้ตายุบตัว ทำให้เกิดร่องยุบบริเวณเบ้าตาร่วมด้วย
  • ริ้วรอยใต้ตา ถ้าเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยใต้ตา เป็นเส้นเล็ก ๆ หรือรอยย่นที่ปรากฏรอบดวงตา เป็นสัญญาณของผิวหนังบริเวณใต้ตาเริ่มขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย อาจนำไปสู่อาการถุงใต้ตาในระยะเริ่มต้นได้ครับ
  • ใต้ตาคล้ำ แม้จะดูแลหรือทาครีมบำรุงใต้ตาแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น เมื่อมีของเหลวมาสะสมบริเวณใต้ตามากขึ้น ไม่เพียงทำให้เปลือกตาล่างดูบวมขึ้นเท่านั้น ยังทำให้ใต้ตาคล้ำยิ่งขึ้น มองเห็นถุงใต้ตาเด่นชัดขึ้น

ปัญหาถุงใต้ตา เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ?

ปัญหาถุงใต้ตา เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ละสาเหตุมีผลต่อการเกิดปัญหาถุงใต้ตาที่แตกต่างกัน ก่อนเลือกวิธีรักษา ควรทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหาก่อนครับ

สาเหตุถุงใต้ตา
สาเหตุการเกิดถุงใต้ตา

สาเหตุการเกิดปัญหาถุงใต้ตา

  • อายุมากขึ้น ผิวใต้ตาสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาหย่อนลง เนื่องจากคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลดลง
  • การยุบตัวของกระดูก เมื่อกระดูกใต้ตายุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย
  • พันธุกรรม หากครอบครัวมีประวัติการเกิดถุงใต้ตา สมาชิกในครอบครัวก็มีโอกาสที่จะมีปัญหาถุงใต้ตาได้ง่ายกว่าคนทั่วไปครับ
  • อาการภูมิแพ้ ทำให้เส้นเลือดบริเวณรอบดวงตาขยายใหญ่ ผิวใต้ตาบวมเป็นถุงใต้ตาและใต้ตาคล้ำ
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น พักผ่อนไม่เพียงพอ บริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ขยี้ตาแรง ๆ ใช้สายตามากเกินไป ละเลยการดูแลผิวรอบดวงตา ก็เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดการสะสมของเหลวบริเวณใต้ตาได้เช่นกันครับ

ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย สามารถรักษาให้หายขาดถาวรได้ไหม ?

การรักษาปัญหาถุงใต้ตาและใต้ตาหย่อนคล้อยสามารถทำได้ครับ แต่การรักษาให้หายขาดถาวรขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรงของปัญหา และการเลือกวิธีการรักษาครับ ควรปรึกษาแพทย์จะช่วยให้คำแนะนำได้และแก้ไขได้ตรงจุด เหมาะสมกับแต่ละบุคคลครับ

ประเมินปัญหาถุงใต้ตา หมอกวาง
แพทย์ประเมินปัญหาถุงใต้ตา

วิธีการรักษาและแก้ปัญหาถุงใต้ตา มีแบบไหนบ้าง ?

หลังจากประเมินปัญหา รู้สาเหตุของการเกิดถุงใต้ตาแล้ว การเลือกวิธีการรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยการรักษาและแก้ปัญหาถุงใต้ตาสามารถทำได้หลายวิธีครับ ทั้งวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และวิธีทางการแพทย์

วิธีการรักษาและแก้ปัญหาถุงใต้ตา

1.พักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยรักษาและแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา

การนอนหลับไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการสะสมของของเหลวใต้ตา ใต้ตาบวม การแก้ไขสามารถเริ่มจากปรับพฤติกรรมการนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายมีเวลาฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวหนัง ช่วยลดการบวมและถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ทาครีมบำรุงใต้ตา ช่วยลดถุงใต้ตา

การดูแลผิวใต้ตาด้วยการทาครีมบำรุง เช่น ครีมทาใต้ตา อายครีม ช่วยลดปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่ก็ต้องอาศัยระยะเวลาและความสม่ำเสมอในการบำรุงครับ ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยทำควบคู่กับการดูแลตัวเอง เช่น งดดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้นครับ

3.แผ่นแปะ mask ใต้ตา ช่วยรักษาและแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา

มาสก์ใต้ตา เป็นอีกวิธีที่ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาและลดใต้ตาบวม ควรเลือกที่มีส่วนผสมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและต้านอนุมูลอิสระ เช่น ไฮยาลูรอนิก แอซิด คอลลาเจน และวิตามินซี หากใช้เป็นประจำจะช่วยลดถุงใต้ตาบวมและทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูสดใสขึ้น

4.ประคบเย็น ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาบวม

การประคบเย็นเป็นวิธีที่ช่วยลดการบวมและการอักเสบได้ดี อาจใช้เป็นถุงน้ำแข็งหรือช้อนเย็นประคบบริเวณใต้ตา ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและลดการสะสมของของเหลวในบริเวณใต้ตา หรือใช้แตงกวาฝานแช่เย็น วางบนเปลือกตาประมาณ 10-15 นาที ก็ช่วยลดความบวมและเพิ่มความสดชื่นให้ผิวใต้ตาได้ครับ

5.ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อรักษาเติมเต็มถุงใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีแก้ไขถุงใต้ตาที่ตรงจุด และปลอดภัย เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก หมอจะใช้ฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เติมเต็มในชั้นกระดูกใต้ตาที่ยุบตัวลง หรือฉีดยกพยุงชั้นเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อที่อ่อนตัวลง ช่วยลดถุงใต้ตาและทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น

ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัย สลายได้เองตามธรรมชาติ ผ่านการรับรองจากอย. มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นให้เลือกใช้ครับ ระยะเวลาอยู่ได้นานตั้งแต่ 6-24 เดือน แม้ผลลัพธ์จะไม่อยู่ถาวร แต่หลังฟิลเลอร์สลาย สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ ระยะเวลาอยู่ได้นาน และราคา ถือว่าคุ้มค่า จึงเป็นวิธีที่นิยมในการแก้ปัญหาถุงใต้ตาในปัจจุบันเมื่อเทียบกับวิธีอื่น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอรุ้ง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาถุงใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยังสามารถรักษาอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกับปัญหาถุงใต้ตา เช่น ใต้ตาหย่อนคล้อย ร่องใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ โดยจะใช้เทคนิคในการฉีดที่แตกต่างกัน เช่น ฉีดชดเชยชั้นผิวหนัง ชั้นกระดูก ชั้นไขมัน ฉีดยกพยุงผิว เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ

6.รักษาถุงใต้ตาด้วยคลื่น RF (Radio Frequency) จาก Thermage FLX

เครื่องยกกระชับ Thermage FLX ทำงานโดยใช้คลื่น RF (Radio Frequency) ยิงพลังงานความร้อนลงไปใต้ชั้นผิว มีหัวยิง Eye Tip สำหรับยกกระชับผิวรอบดวงตา ลดไขมันใต้ตา และทำให้ผิวใต้ตาเต่งตึงและยกกระชับขึ้น เป็นวิธีแก้ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย ริ้วรอยใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีด แต่ราคาค่อนข้างสูง

thermage ใต้ตา หมอบาส
ทำ thermage ใต้ตา ลดถุงใต้ตา

7.ทำ Hifu Ultraformer ยกกระชับถุงใต้ตาหย่อนคล้อย

Hifu Ultraformer III จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องยกกระชับ ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงในการยกกระชับผิวหนังใต้ตาที่หย่อนคล้อย พลังงานจะลงลึกในชั้นผิว ทำให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้นช่วย ลดถุงใต้ตาได้บางส่วน สามารถทำร่วมกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะทำให้ใช้ฟิลเลอร์ในการเติมน้อยลงครับ

คลิกดูรีวิว Hifu ใต้ตายกกระชับขึ้น เรียบเนียนขึ้น

8.เลเซอร์ถุงใต้ตา

การเลเซอร์ถุงใต้ตา เป็นการผ่าตัดนำถุงใต้ตาออกจากด้านในของหนังตาด้วยแสงเลเซอร์ โดยจะเจาะเป็นรูแผลขนาดเล็ก ประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร และค่อย ๆ ดึงถุงไขมันออก ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ เพราะถ้านำไขมันใต้ตาออกจนหมด จะทำให้ร่องใต้ตาลึกได้ครับ หลังทำจะมีอาการบวมช้ำ แต่น้อยกว่าการผ่าตัดด้วยการผ่าตัดถุงใต้ตาจากภายนอก

9.ผ่าตัดรักษาอาการถุงใต้ตาหย่อนคล้อย

การผ่าตัดถุงใต้ตา (Lower Blepharoplasty) เป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินและกระชับผิวหนังใต้ตาที่หย่อนคล้อย โดยแพทย์จะผ่าตัดเก็บหนังส่วนเกินออกไปด้วยได้ เหมาะกับคนที่มีถุงไขมันใต้ตาเยอะมาก ๆ สามารถกำจัดถุงใต้ตาได้ถาวร แต่ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาหลับไม่สนิท หรือเปลือกตาล่างแบะออก จากการตัดหนังตาส่วนเกินออกมากเกินไป

10.รักษาถุงใต้ตาด้วยการดูดไขมัน

การดูดไขมันใต้ตาเป็นวิธีลดถุงใต้ตาอีกหนึ่งวิธีครับ เหมาะกับคนที่มีถุงใต้ตาไขมันนูนออกมา แต่ผิวหนังไม่หย่อนคล้อยมากถึงขนาดต้องผ่าตัด แต่การดูดไขมันใต้ตาจะมีแผลด้านในเปลือกตา (ถ้ามองภายนอกจะไม่มีแผล) เนื่องจากเป็นการดูดไขมันจากด้านในเปลือกตาออก ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ


การรักษาและแก้ปัญหาถุงใต้ตา มีอันตรายหรือผลข้างเคียงไหม ?

การรักษาปัญหาถุงใต้ตา มีความปลอดภัย แต่ก็อาจมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ หากเลือกวิธีที่มีความเสี่ยง ทำโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์

อันตรายและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาปัญหาถุงใต้ตา

วิธีรักษาถุงใต้ตาแต่ละวิธี มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจนมั่นใจทั้งวิธีที่ใช้ คลินิกที่ให้บริการ แพทย์ที่มีประสบการณ์ หมอยกตัวอย่างเคสผ่าตัดถุงใต้ตา ต้องใช้เทคนิคและความชำนาญระดับสูง เพราะหากผ่าตัดไม่ดี อาจทำให้แผลไม่ชิดขอบตาพอดี รอยแผลไม่ซ่อนตามแนวขนตา มองเห็นแผลผ่าตัดได้ชัด ทำให้คนไข้เสียความมั่นใจมากขึ้น

นอกจากวิธีการรักษาแล้ว การดูแลตัวเองหลังทำก็สำคัญครับ แต่ละวิธีจะมีวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกัน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ บวม ช้ำ หรือเกิดแผลเป็น


มีวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาถุงใต้ตาไหม ?

ถุงใต้ตา ป้องกันได้ สามารถทำได้หลายวิธี เพื่อป้องกันไม่เกิดถุงใต้ตา หมอแนะนำวิธี ดังนี้

  • นอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ช่วยให้ร่างกายมีเวลาฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวหนัง
  • ดื่มน้ำเปล่า 8-10 แก้ว ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังและลดการสะสมของของเหลวในร่างกาย
  • ลดการบริโภคโซเดียม อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง ขนมขบเคี้ยว ช่วยลดการบวมของถุงใต้ตา
  • ทาครีมกันแดด SPF สูง ทั่วหน้า รวมถึงบริเวณใต้ตา เพื่อปกป้องผิวหนังรอบดวงตาจากแสงแดด
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอย ถุงใต้ตาได้ง่ายขึ้น
  • ดูแลสุขภาพผิวรอบดวงตา ใช้ครีมบำรุงผิวรอบดวงตาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้ผิว
  • นวดเบา ๆ รอบดวงตา ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดการบวม
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตา ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาและถุงใต้ตา
  • ออกกำลังกาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลือง ลดการเกิดถุงใต้ตา

แม้ว่าการป้องกันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่บางครั้งก็ไม่สามารถป้องกันปัญหาถุงใต้ตาได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจากพันธุกรรมหรืออายุที่เพิ่มขึ้น หากมีปัญหาถุงใต้ตาและไม่สามารถป้องกันได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ


มีปัญหาถุงใต้ตา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อจะได้เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา และเลือกวิธีการรักษาถุงใต้ตาที่เหมาะสมที่สุด

ปรึกษาปัญหาถุงใต้ตา กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ V Square Clinic

ปรึกษาหมอแก้ถุงใต้ตา หมอกัน
รักษาถุงใต้ตาที่ V Square Clinic

ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์สูง ตรวจประเมินสภาพผิวรอบดวงตาอย่างละเอียด เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดถุงใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากอายุที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือปัจจัยอื่น ๆ รวมถึงระดับความรุนแรงของปัญหาถุงใต้ตาขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อยมาก หย่อนคล้อยน้อย และแนะนำวิธีที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล

ถ้าคนไข้อยากเห็นผลทันที ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น หมอแนะนำฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่ตรงจุด แต่ถ้าคนไข้ไม่อยากฉีด ก็สามารถเลือกใช้เครื่องมือในกลุ่มเครื่องยกกระชับ เช่น Hifu Ultraformer III, Thermage FLX แก้ปัญหาถุงใต้ตาได้ครับ


สรุป

การมีถุงใต้ตา ใต้ตาบวม และใต้ตาหย่อนคล้อยเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มขึ้น พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือการสะสมของไขมันและของเหลวใต้ตา การป้องกันและรักษาปัญหาถุงใต้ตาสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวใต้ตา การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงใต้ตา ไปจนถึงใช้วิธีทางการแพทย์ครับ หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการรักษาถุงใต้ตา ใต้ตาบวม หรือใต้ตาหย่อนคล้อย V Square Clinic มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ ใช้หัตถการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้ใต้ตากลับมาสดใส เรียบเนียนได้แบบเร่งด่วนครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน