Diode Laser
Diode Laser คือ เทคโนโลยีกำจัดขน ที่หลายคลินิกเลเซอร์ขนเลือกใช้ นอกจากใช้กำจัดขนยังเป็นที่นิยมสำหรับการใช้ทำหัตถการอะไรบ้าง ? สามารถช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ? มีข้อดี – ข้อเสียอะไรบ้าง ? Diode Laser กำจัดขนเหมาะกับใคร ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? มีผลเสีย ผลข้างเคียงหรือไม่ ? ก่อน – หลังทำ Laser Diode ขนมีข้อควรทราบและการดูแลตัวเองอย่างไร ?
ถ้าเปรียบเทียบ Diode กับ Yag Laser มีความแตกต่างกันอย่างไร ? ทำ Diode Laser ราคาเท่าไร ? เลือกคลินิกทำ Diode Laser ควรพิจารณาอะไรบ้าง ? บทความนี้ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ Diode Laser ก่อนตัดสินใจทำดีไหม ? หรือจะเลือกใช้วิธีกำจัดขนแบบอื่น เครื่องเลเซอร์แบบอื่นดีครับ
สารบัญ Diode Laser
Diode Laser คือ เทคโนโลยีกำจัดขนที่นิยมแพร่หลาย
Diode Laser คือ เทคโนโลยีกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 800-1,350 nm สามารถกำจัดขนบริเวณต่าง ๆ ได้ดี โดยพลังงานจากเลเซอร์จะทะลุผ่านชั้นผิวหนังไปยังผิวหนังชั้นลึก (Deep Dermis) เพื่อจับกับเม็ดสีเมลานิน หรือเมลาโนไซด์ (Melanocyte) ซึ่งเป็นตัวดูดซับพลังงานเลเซอร์ แล้วเปลี่ยนเป็นความร้อนไปทำลายรากขน
Diode Laser ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง ?
Diode Laser ใช้ในการกำจัดขนเป็นหลัก ทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย นิยมใช้กำจัดขนในบริเวณกว้าง ๆ ขนเส้นใหญ่ เช่น เลเซอร์ขนแขน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์ขนหลัง เลเซอร์ขนหน้าอก เลเซอร์ขนหน้าท้อง
Diode Laser สามารถกำจัดขนได้ถาวรไหม ?
ปัจจุบันการทำเลเซอร์ขน ถือเป็นวิธีการกำจัดขนถาวร สำหรับ Diode Laser ต้องทำซ้ำ ทำหลายครั้งต่อเนื่องครับ ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนถาวร เพราะความยาวคลื่นของ Diode Laser (จำนวนครั้งในการทำจึงมากกว่าถ้าเทียบกับ YAG Laser)
Diode Laser นอกจากช่วยเรื่องกำจัดขนแล้วสามารถช่วยเรื่องอะไรอีกบ้าง ?
- ลดการเกิดขนคุด ที่เกิดจากการโกนขนหรือถอนขน
- ลดรอยแดง รอยดำ รอยสิว ผิวกระจ่างใส
- กระชับรูขุมขน ลดหลุมสิวตื้น ๆ
- กระตุ้นคอลลาเจน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
นิยมใช้ Diode Laser กำจัดขนตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
ตำแหน่งทำ Diode Laser
- เลเซอร์ขนหน้า
- เลเซอร์หนวด เครา
- เลเซอร์ขนรักแร้
- เลเซอร์ขนหน้าอก
- เลเซอร์ขนหน้าท้อง
- เลเซอร์ขนแขน
- เลเซอร์ขนขา
- เลเซอร์ขนหลัง
- เลเซอร์บิกินี
- เลเซอร์บราซิลเลี่ยน
- เลเซอร์ขนน้องชาย
เลเซอร์ไดโอด กำจัดขนได้หลายตำแหน่ง แต่ส่วนมากจะนิยมใช้กำจัดขนในบริเวณกว้าง หรือบริเวณที่ไม่ได้ต้องการความละเอียดมาก ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิกจะเลือกใช้
ใครบ้างที่เหมาะสำหรับการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Diode
- ผู้ที่ต้องการกำจัดขนส่วนเกินในร่างกาย เช่น ขนแขน ขนขา ขนหน้าอก
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน ในการแต่งตัว เช่น ชุดว่ายน้ำ
- ผู้ที่ต้องการดูแลเรื่องความสะอาด ลดกลิ่นอับชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์
- ผู้ที่ต้องการลดปัญหาขนคุด ตุ่มหนังไก่ รูขุมขนอักเสบ จากการถอน โกน แวกซ์
- ผู้ที่มีขนสีเข้ม เช่น สีน้ำตาล สีดำ เส้นขนขนาดใหญ่
- ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการวิธีที่สะดวกในการกำจัดขน
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน กำจัดขนได้ถาวร
ถ้าใครที่ไม่เหมาะกับ Laser Diode แล้วควรกำจัดขนวิธีการไหนดี ?
Diode Laser ไม่เหมาะกับคนที่มีขนเส้นบาง เพราะถ้าหากยิงเบาจะเป็นการกระตุ้นทำให้เส้นขนหนาได้ แต่ถ้าจะใช้วิธีถอนขน โกนขน หรือแวกซ์ขน หมอไม่ได้แนะนำครับ ยังมีเลเซอร์แบบอื่นที่ได้รับความนิยม เช่น YAG Laser ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง กำจัดขนได้ลงลึกถึงรากขน และมีความปลอดภัย
วิธีกำจัดขนอื่น ๆ และเหมาะกับใคร ?
หลายคนอาจเคยกำจัดขน เช่น ถอน โกน หรือแวกซ์มาแล้ว วิธีเหล่านี้เป็นวิธีกำจัดขนแบบดั้งเดิม ซึ่งมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันในการเลือกใช้
- ถอนขน เหมาะกับคนที่ต้องการวิธีที่ง่าย ทำเองได้ และประหยัดค่าใช้จ่าย อุปกรณ์มีแค่แหนบดึงขน แต่วิธีนี้ใช้ไม่ได้กับทุกตำแหน่ง ค่อนข้างเจ็บ ทำให้มีเลือดออกบริเวณรูขุมขนได้ และการถอนขนยังมีโอกาสที่เส้นขนจะขาด ทำให้เกิดขนคุด ตุ่มหนังไก่ด้วยครับ
- โกนขน เหมาะกับคนที่อยากได้ความสะดวก ทำด้วยตัวเองได้ที่บ้าน มีทั้งแบบที่ใช้มีดโกน หรือใช้เครื่องโกนขนไฟฟ้า ผลลัพธ์ไม่ต่างกันมากครับ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง อาจถูกคมมีดบาด เสี่ยงเกิดขนคุด ผิวเป็นตุ่มนูน เวลาลูบจะรู้สึกว่าผิวสาก ๆ คัน ขนขึ้นใหม่แข็งเป็นตอ
- แวกซ์ขน เหมาะกับคนที่อยากคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานกว่าการถอนและโกน ทำได้เอง แต่ถ้าพูดถึงความเจ็บแล้ว เจ็บกว่า เพราะเป็นการดึงกระชากขนออกจากรูขุมขน อาจเกิดแผล เลือดออก รูขุมขนอักเสบ เป็นตุ่มหนังไก่ ขนงอกใหม่เป็นขนคุด โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบอบบาง เช่น รักแร้ บิกินี
การกำจัดขนด้วยตัวเอง ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ไม่ใช่วิธีกำจัดขนที่ถาวร ถ้าทำไม่ถูกวิธี มีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ ถ้าต้องการวิธีกำจัดขนที่ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ถาวร แนะนำวิธีเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งมีหลายแบบครับ หมออธิบายในหัวข้อถัดไป
เครื่อง Laser กำจัดขนอื่น ๆ
- Ruby laser ความยาวคลื่นสั้นที่สุดอยู่ที่ 694 nm เหมาะสำหรับคนที่มีสีผิวขาวเท่านั้น ได้รับความนิยมในยุโรป ไม่เหมาะสำหรับชาวเอเชียที่มีสีผิวเข้มซึ่งอาจเสี่ยงเกิดผิวไหม้ ประสิทธิภาพการกำจัดขนปานกลาง ดีกว่า IPL แต่ไม่สามารถทำลายขนได้ถึงรากแบบเลเซอร์ชนิดอื่น
- IPL (IPL Intense Pulsed Light) เป็นการใช้คลื่นแสงกำจัดขน ทำให้เส้นขนมีสีอ่อนและบางลง IPL ความยาวคลื่นที่ 515-1200 nm ใช้วิธีการยิงลำแสงสเปกตรัมในวงกว้าง ทำให้ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ อาจทำให้เจ็บและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
- Alexandrite Laser ความยาวคลื่นที่ 755 nm นิยมทำในยุโรป เหมาะกับการกำจัดขนแขน ขนขาที่เป็นบริเวณกว้างๆ แต่ไม่เหมาะกับผิวสีเข้ม
- Yag Laser ความยาวคลื่นที่ 1064 nm สามารถกำจัดขนได้ดี โดยเฉพาะบริเวณจุดเล็ก ๆ หรือบริเวณที่ต้องการเก็บรายละเอียด เช่น ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ขนรักแร้ ขนหน้า เหมาะกับทุกสีผิว
- Cool Yag 1064 โปรแกรมกำจัดขน ความยาวคลื่นที่ 1064 nm ลงลึกถึงรากขน ด้วยเครื่องเลเซอร์กำจัดขนมาตรฐานยุโรป ยี่ห้อ Light B Evo จากอิตาลี ผ่านการรับรองจาก FDA อเมริกา ยุโรป ไทย มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดขน เหมาะกับทุกสีผิว สีขน มาพร้อมเครื่องเป่าลมเย็น Cryo 7 จากเยอรมัน ปรับระดับความเย็นได้ 9 ระดับ ถึง -30 องศาเซลเซียส ช่วยให้ไม่เจ็บ ไม่แสบ สบายผิว
เลเซอร์กำจัดขนด้วย Diode Laser มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไรบ้าง ?
การทำเลเซอร์ขน Diode Laser มีข้อดี-ข้อเสีย ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดีของ Laser Diode
- มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดขนหลายตำแหน่ง
- ผลลัพธ์อยู่ได้ในระยะยาว เมื่อเทียบกับวิธีแบบดั้งเดิม
- ใช้ได้กับผู้ที่มีผิวสีอ่อนไปจนถึงปานกลาง ได้ผลดีกับขนสีเข้ม
- ลดความเสี่ยงของการเกิดขนคุดและการระคายเคืองผิวหนัง
- ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว
- เจ็บน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการแวกซ์ดึงขน
- ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน สะดวกสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด
ข้อเสียของเลเซอร์ Diode
- ความยาวคลื่นของเลเซอร์สามารถผ่านลงไปถึงผิวหนังชั้นลึกได้
- มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ในระยะยาวถือว่าคุ้มค่า
- ในช่วงแรกหากไม่ได้ทำต่อเนื่อง อาจได้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน
- ถ้าไม่ได้ทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ขน ยิงพลังงานเบา จะเป็นการกระตุ้นทำให้เส้นขนหนาได้
- ถ้าเครื่อง diode laser ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน เสี่ยงเกิดผิวไหม้
ข้อควรทราบและขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับทำเลเซอร์ Diode
- หลีกเลี่ยงการถอนหรือแวกซ์อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการบริการ
- หลีกเลี่ยงการสครับผิว ขัดตัว อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นแผลถลอก
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ AHA BHA เป็นเวลา 3 วัน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดก่อนใช้บริการอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ถ้ามีโรคประจำตัว มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งกับทางคลินิกก่อน
ทำ Diode เจ็บไหม ? อันตรายไหม ?
ระดับความเจ็บของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บแบบทนได้ แต่บางคนอาจจะบอกว่าไม่เจ็บ ขึ้นอยู่กับความไวต่อความรู้สึก และตำแหน่งที่ทำ ถ้ามีประสบการณ์ผ่านการเลเซอร์ขนมาหลายครั้งแล้ว ความรู้สึกจะค่อย ๆ ลดลง เนื่องจากจำนวนเส้นขนลดลงและผิวหนังคุ้นเคยกับการทำเลเซอร์
ยี่ห้อเครื่อง Diode Laser ที่ใช้ก็มีผลต่อความเจ็บครับ บางยี่ห้อมีระบบเป่าลมเย็น แต่จะไม่สามารถปรับระดับความเย็นได้ หรือบางยี่ห้อก็ไม่มี ดังนั้นความเจ็บจึงขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ด้วย
ส่วนอันตรายจากการทำ Diode Laser ที่พบจะเป็นเรื่องของผิวไหม้ แสบร้อนผิว ซึ่งจะเกิดจากการใช้เครื่องเลเซอร์ขนเกรดต่ำ ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านอย. หรือไม่ได้ทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ ใช้เครื่องมือได้ไม่แม่นยำ เลือกโหมดการทำงานไม่เหมาะสม เช่น Static Mode, Dynamic Mode ซึ่งมีระดับการปล่อยความเร็วในการยิง (Frequency) ที่ต่างกัน เหมาะกับสภาพผิวที่ต่างกัน
ข้อควรทราบก่อนทำ Diode Laser
ก่อนทำจึงควรรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ Diode Laser เข้าใจหลักการทำงานของเลเซอร์ในการกำจัดขน เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียกับวิธีกำจัดขนอื่น ๆ เหมาะกับใคร ? เจ็บไหม ? อันตรายไหม ? ตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น
เมื่อตัดสินใจทำ Laser Diode แล้วต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ?
นอกจากเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทำเลเซอร์แล้ว ขั้นตอนการทำก็สำคัญครับ เพื่อปฏิบัติตัวในวันที่ไปเลเซอร์ขนได้อย่างถูกต้อง
- เมื่อมาถึงคลินิกตามวัน-เวลานัด จะมีเจ้าหน้าที่สาขาจะคอยดูแลอำนวยความสะดวก
- เตรียมความพร้อมผิวในบริเวณที่จะทำเลเซอร์ เช่น ทำความสะอาด โกนหรือเล็มขน
- ทาเจลเย็นหรือแปะยาชาทิ้งไว้ รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาที
- ยิงเลเซอร์กำจัดขน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำ
- หลังยิงเลเซอร์เสร็จ จะมีการทาครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และดูแลตัวเองตามแนะนำ
หลังทำ Diode Laser มีข้อควรรู้อะไรบ้าง ?
หลังทำ Diode Laser ควรดูแลตัวเองตามวิธีดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ ส่วนเรื่องของผลลัพธ์ หลายคนอาจจะยังมีความเข้าใจผิดว่าทำเลเซอร์แล้วขนจะหลุดร่วงในทันที เห็นผลชัดเจนเลย แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ครับ
หลังทำ Diode Laser กี่วันเห็นผล และควรทำต่อเนื่องกี่ครั้ง ?
ในการทำเลเซอร์ขน ครั้งแรกขนจะยังไม่ร่วงในทันที แต่จะเริ่มเห็นผลว่าขนหลุดร่วงหลังการทำไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ แนะนำให้ทำต่อเนื่อง 5-8 ครั้งขึ้นไป โดยทำทุก 1 เดือน
การดูแลตัวเองหลังทำ Laser Diode
- แนะนำทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
- งดกิจกรรมที่มีการใช้ความร้อน เช่น ซาวน่า โยคะร้อน อบไอน้ำ อาบน้ำอุ่น เป็นเวลา 2-3 วัน
- งดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสม ของ AHA หรือกรดผลไม้ หรือ whitening บริเวณที่ทำ 2-3 วัน
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังที่เหงื่อออกมาก ๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง
- งดเกา หรือขัดสครับผิวบริเวณที่ทำ ในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- งดแวกซ์ ดึง ถอนขน ทุกกรณี ในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- งดลงสระว่ายน้ำ ทะเล ในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- งดแวกซ์ หรือกำจัดขนวิธีอื่น ๆ ในช่วง 3-4 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับบริการเลเซอร์ขนในครั้งถัดไป
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Diode Laser และวิธีการป้องกันแก้ไข
ผลข้างเคียงหลังทำ diode laser จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
- ผลข้างเคียงไม่เป็นอันตราย เป็นชั่วคราว หายได้เอง เช่น อาการบวมแดงเล็กน้อยหลังทำ
- ผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ที่พบบ่อย คือ ผิวไหม้ แสบร้อนผิว มักเกิดกับการใช้เครื่องเกรดต่ำ
วิธีการป้องกันและแก้ไข ถ้าเป็นจากกรณีแรก ไม่ต้องกังวลครับ สามารถหายได้เอง ไม่เกิน 1 วัน แต่ถ้าเป็นกรณีที่ 2 ควรให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกคลินิก ทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ ใช้เครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงครับ
ในส่วนของอันตราย ถ้าผิวไหม้ อาจต้องใช้ยาแก้อักเสบทาหรือดูว่ามีการติดเชื้อร่วมด้วยหรือไม่ หมั่นสังเกตอาการ ถ้ามีอาการคล้ายกับการอักเสบหรือติดเชื้อ เช่น ปวด บวม แดงมาก มีหนองไหล ควรรีบไปพบแพทย์
Diode VS Yag Laser เลือกแบบไหน ? ต่างกันอย่างไร ?
ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีกำจัดขนที่ทันสมัย และคลินิกเลเซอร์ขนส่วนใหญ่เลือกใช้ จะมี Diode Laser กับ Yag Laser โดยในหัวข้อนี้หมอจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Yag Laser เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นครับ
Yag Laser
- Yag Laser มีความยาวคลื่นที่ 1064 nm สามารถกำจัดขนได้ดี ส่งพลังงานลงลึกถึงเซลล์รากขน กำจัดขนได้ถึงราก จำนวนครั้งในการทำจึงน้อยกว่า Diode Laser แต่เจ็บมากกว่า ราคาสูงกว่าเลเซอร์ประเภทอื่น ๆ เหมาะกับการกำจัดขนที่หนาและเข้ม นิยมใช้กำจัดขนในบริเวณเล็ก ๆ หรือต้องการความละเอียด เช่น ขนหน้า หนวดเครา รักแร้ จิมิ เหมาะกับทุกสีผิว
เปรียบเทียบข้อแตกต่าง Diode กับ Yag Laser
| Diode laser | YAG laser (Long Pulsed Nd Yag) | |
|---|---|---|
| ความยาวคลื่น | 800-1350 nm | 1064 nm |
| ตำแหน่งที่ทำ | เหมาะกับบริเวณกว้าง ๆ เช่น ขนแขน ขนขา | กำจัดขนได้ดี โดยเฉพาะบริเวณจุดเล็ก ๆ หรือบริเวณที่ต้องเก็บรายละเอียด เช่น ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ขนรักแร้ ขนบริเวณใบหน้า |
| เส้นขน/สีผิว | เหมาะกับคนผิวขาวและเส้นขนขนาดใหญ่ | เหมาะกับทุกสีผิวและทุกขนาดของเส้นขน |
| ความเจ็บ | ต้องแปะยาชา เพื่อลดความเจ็บ หรือใช้เจลเย็นในการลดความร้อนระหว่างทำ | มีระบบเป่าลมเย็น หรือเครื่องเป่าลมเย็น ทำให้ไม่เจ็บ รู้สึกสบายผิวขณะทำ |
กำจัดขน Diode Laser ราคา เท่าไร ?
Diode Laser ราคาแต่ละคลินิกไม่เท่ากัน เริ่มต้นตั้งแต่ร้อยไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ ความหนาแน่นของเส้นขน และจำนวนครั้งที่ทำ โดยส่วนใหญ่ราคาจะมีแบบเป็นครั้ง และเป็นคอร์สให้เลือก แต่ไม่ควรเลือกจากโปรโมชันราคาถูกเพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลายปัจจัยให้ต้องพิจารณาครับ
เลือกคลินิกทำ Diode Laser ควรพิจารณาอะไรบ้าง ?
- คลินิกเลเซอร์ขนที่ได้มาตรฐาน มีชื่อเสียงด้านการเลเซอร์ขน
- มีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเลเซอร์ขนประจำคลินิก
- ดูแลให้คำแนะนำ และทำเลเซอร์ขนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ขน
- ใช้เครื่องเลเซอร์ขนที่ได้ประสิทธิภาพ ปลอดภัย
- ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป มีโปรโมชันคุ้มค่าคุ้มราคา
- มีหลายสาขาให้เลือกใช้บริการ เดินทางสะดวก ในห้างหรือใกล้ห้าง
- ได้รับการรีวิวเลเซอร์ขนแขนที่ดีจากผู้ใช้บริการตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ
Q&A Diode Laser
Diode Laser กี่ครั้งเห็นผล ?
ถ้าทำ 1 ครั้ง ในคนที่มีขนไม่เยอะมาก 2-3 สัปดาห์แรกเส้นขนจะค่อย ๆ หลุดร่วงและบางลง แต่ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ชะลอการเกิดใหม่ของเส้นขนจนไม่ขึ้นมาอีก แนะนำให้ทำ 5-8 ครั้งต่อเนื่อง
Laser Diode ทำห่างกันนานเท่าไหร่ ?
เลเซอร์ขนแนะนำให้ทำทุก 1 เดือน หรือห่างกันประมาณ 4-6 สัปดาห์ เส้นขนที่ขึ้นใหม่จะขึ้นช้า บางลง และไม่ขึ้นมาอีกครับ
Diode Laser กำจัดขนไม่หลุด เกิดจากอะไร ?
กรณีนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ ผู้ที่ทำเลเซอร์ไม่มีความเชี่ยวชาญ ใช้พลังงานไม่เหมาะสม เส้นขนไม่อยู่ในระยะที่เติบโตหรืองอกเต็มที่ รวมถึงลักษณะเส้นขน เช่น ขนสีอ่อน ขนหงอก จะดูดซับพลังงานได้น้อยครับ
สรุป
Diode Laser เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการทำเลเซอร์ขน ที่มีการใช้ในหลาย ๆ คลินิกเลเซอร์ขนครับ สามารถกำจัดขนได้หลายตำแหน่ง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นขนในบริเวณกว้าง บริเวณที่ไม่ต้องใช้ความละเอียดมาก เพราะด้วยลักษณะหัวยิงที่มีความใหญ่ อีกทั้งยังไม่เหมาะกับผู้ที่มีเส้นขนที่บางหรือสีอ่อน อาจเห็นผลได้น้อย และไม่เหมาะกับคนที่มีผิวสีเข้มเพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้ ก่อนทำจึงควรศึกษาข้อดี ข้อจำกัด ประสิทธิภาพของเครื่องก่อนครับ
นอกจากนี้ไม่ควรเลือกจากราคาถูกเพียงอย่างเดียว ควรสอบถามกับคลินิกเลเซอร์ขนที่สนใจได้ครับว่าใช้เลเซอร์ประเภทไหน ? เครื่องเลเซอร์ที่ใช้เป็นของประเทศอะไร ? ได้มาตรฐานแค่ไหน ? มีเครื่องเป่าลมเย็นขณะทำ เพื่อช่วยลดความเจ็บไหม ? เหมาะกับสีผิว สีขนแบบไหน ? เพื่อการกำจัดขนได้อย่างแม่นยำ และเห็นผลชัดเจนถาวรครับ
