ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม ? ช่วยให้หน้าใส ผิวสวยขึ้นจริงไหม ? กี่วันเห็นผล ?

Categories
Meso Therapy
ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม

ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม

ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม ? ให้ผลลัพธ์ดีจริง หรือแค่ตามเทรนด์ ? เมื่อการฉีดเมโสหน้าใสกลายเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หลายคนอาจสงสัยว่า ฉีดเมโสหน้าใส ดีจริงไหม ? ควรรู้อะไรบ้าง ? มีวิธีเตรียมตัวก่อนฉีด และดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสหน้าใสอย่างไรให้ผลลัพธ์ออกมาดี ?

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นวิธีบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวที่มีประสิทธิภาพจริงครับ สามารถเห็นผลได้เร็วการบำรุงแบบทั่วไป แต่จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนไหม ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน นอกจากคำถามเหล่านี้ หากฉีดเมโสอสุจิปลาแซลมอน ดีไหม ? ให้ผลลัพธ์ที่ดีแตกต่างจากการฉีดเมโสหน้าใสแบบอื่นอย่างไร ? มาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ

สารบัญ ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม


เมโสหน้าใส ดีไหม ? ที่ว่าดี ดีอย่างไร ?

สำหรับคำถามที่ว่า ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม ? ดีอย่างไร ?

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นการฉีดสารบำรุงผิวต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวชั้นกลางโดยตรง มีจุดเด่นคือ ทำให้ออกฤทธิ์ไวกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไป ที่ปกติจะใช้เวลานานเป็นเดือนหรือเป็นปี หรืออาจจะไม่เห็นผลที่ชัดเจน ซึ่งการฉีดเมโสหน้าใสจะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และเห็นผลได้อย่างเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน ครับ

ฉีดเมโสหน้า ดีไหม

เมโสหน้าใสจึงเป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการแก้ปัญหาผิวอย่างเร่งด่วน หลังฉีดจะสามารถช่วยฟื้นฟูผิว ขับสารพิษออกจากผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น มีความชุ่มชื้น และปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส รวมถึงแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้มากมาย เนื่องจากตัวยาเมโสมีหลายสูตร หลายยี่ห้อให้เลือกใช้ตามปัญหาและสภาพผิว เช่น

  • มาเด้คอลลาเจน ลดสิว ลดผดผื่น ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
  • Filorga / Revs NCFS เติมความชุ่มชื้น ปรับผิวใส ช่วยบำรุงผิวแบบพรีเมียม
  • Tensonez /Neo-Glutanex Glow เน้นเรื่องลดปัญหาฝ้าบนใบหน้า ปรับผิวให้ดูสม่ำเสมอ
  • Alpha arbutin เน้นเรื่องลดฝ้าโดยตรง ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ

โดยหมอจะเป็นผู้ประเมินปัญหาและสภาพผิว และเลือกสูตรเมโสหน้าใสให้เหมาะกับความต้องการของคนไข้ครับ

ประเมินปัญหาก่อนฉีดเมโสหน้าใส โดยหมอเบิร์ด

ฉีดเมโสหน้าใส ผลลัพธ์ออกมาดี ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วยไหม ?

แน่นอนครับว่าการฉีดเมโสหน้าใสไม่เพียงแต่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะได้เท่านั้น แต่ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ

ใครที่ลังเลอยู่ว่าทำเมโสหน้าใส ดีไหม ? เพราะกลัวอันตรายหรือเกิดผลข้างเคียง หมอขออธิบายดังนี้ครับ การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง เพราะว่าตัวยาที่ฉีดเข้าสู่ผิวล้วนเป็นสารบำรุง อาหารผิว และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่มีสารตกค้าง และไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย นอกจากรอยบวม รอยช้ำจากเข็ม ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ปกติ สามารถหายได้เองครับ

แต่ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีรับฉีดเมโสหน้าใสตามบ้าน หรือซื้อเมโสมาฉีดเอง หมอไม่แนะนำเด็ดขาดครับ เพราะอาจเป็นตัวยาที่ใช้อาจไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นเมโสปลอม หลังฉีดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ คัน อักเสบ หรือมีอาการแพ้สารที่อยู่ในตัวยาได้ครับ

อาการแพ้ คัน จากเมโสปลอม

นอกจากนี้การฉีดเมโสไม่ใช่ฉีดกับใครก็ได้ ผู้ทำควรเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง สามารถประเมินปัญหาผิวและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งส่วนนี้จะช่วยให้คนไข้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับว่า ควรฉีดเมโสหน้าใสดีไหม ? หรือมีหัตถการอื่นที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหามากกว่า หรือสามารถทำหัตถการอื่นร่วมได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการของคนไข้


การเตรียมตัวก่อนฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสหน้าใสให้ออกมาดี

เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งก่อน-หลังฉีดเมโสหน้าใสมีวิธีเตรียมตัวและดูแลตัวเอง ดังนี้ครับ

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสหน้าใส

ก่อนฉีดเมโสน้าใส ไม่ได้มีวิธีเตรียมตัวที่ต้องทำเป็นพิเศษ สามารถเข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาและสภาพผิว รวมถึงแจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา รวมทั้งมีอาหารเสริมหรือยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน

ประเมินปัญหาก่อนฉีดเมโสหน้าใสดีไหม โดยหมอจ๋า

การดูแลหลังฉีดเมโสหน้าใส

หลังฉีดเมโสหน้าใส คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น โดยมีข้อแนะนำหลังทำ ดังนี้

  • เลี่ยงการกด นวดผิวหน้าบริเวณที่ทำ ในช่วง 1-2 วันแรก
  • งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน เพื่อป้องกันการระคายเคือง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อการความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี
  • พยายามเลี่ยงมลภาวะ และการโดนแสงแดดจัด ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF สูงอยู่เสมอ
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น เลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น สูญเสียคอลลาเจนก่อนวัย
  • หากเกิดรอยแดง รอยช้ำจากเข็ม หรือมีอาการปวด สามารถรับประทานยา หรือประคบเย็นเบา ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
การดูแลหลังฉีดเมโสหน้าใส

ถ้าเป็น เมโสสะกิดหน้าใส ดีไหม ?

เมโสสะกิดหน้าใส เป็นหนึ่งในเทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสครับ โดยเลือกฉีดเมโสสะกิดหน้าใส ดีไหม ? ปัจจุบันมีอีกเทคนิคเรียกว่า เมโสหน้าใส 16 จุด เป็นเทคนิคใหม่จากอิตาลี ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่า

เมโสสะกิดหน้าใส กับ เมโสหน้าใส 16 จุด ต่างกันอย่างไร ?

เมโสสะกิด vs เมโสหน้าใส 16 จุด
  • เมโสสะกิดหน้าใส ใช้เข็มฉีดตัวยาเข้าไปในผิวชั้นตื้นเป็นจุดเล็ก ๆ กระจายทั่วใบหน้า ข้อดีของการฉีดด้วยเทคนิคนี้คือ เป็นการช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิวไปในตัว แต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยช้ำแดง และอาการอักเสบติดเชื้อได้ง่ายหากระหว่างการทำไม่มีความสะอาด ซึ่งส่วนมากเกิดจากการฉีดในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือซื้อมาฉีดเองที่บ้าน
  • เมโสหน้าใส 16 จุด เป็นเทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบใหม่ โดยจะฉีดตัวยาเข้าไปในผิวตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง ทำให้ตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวได้เต็มที่ วิธีนี้มีรอยเข็ม รอยช้ำน้อยครับ รวมถึงตัวยาออกฤทธิ์ได้นานนานกว่าการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด

เมโสอสุจิปลาแซลมอน ดีไหม ? ต่างจากแบบอื่น ๆ อย่างไร ?

ในปัจจุบันจะเห็นว่ามีการนำสารสกัดจากปลาแซลมอนมาใช้เป็นสารประกอบในผลิตภัณฑ์ความงาม ครีม เซรั่ม และในเมโสหน้าใสบางยี่ห้อ

แล้วฉีดเมโสอสุจิปลาแซลมอน ดีไหม ? หมอยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีสารประกอบหลักจากอสุจิแซลมอนอย่าง Rejuran ที่มีส่วนประกอบหลัก คือ Polynucleotide (PN) บริสุทธิ์ เข้มข้น 2% สกัดจากชิ้นส่วน Salmon DNA หรือเซลล์อสุจิปลาแซลมอนที่อยู่ในทะเลธรรมชาติ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ DNA มนุษย์ 98% จึงมีโอกาสแพ้น้อยมาก และยังสามารถช่วยกระตุ้นซ่อมแซมเซลล์ผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูกระจ่างใส กระชับรูขุมขน หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียน

สารประกอบหลักของ rejuran

โดย Rejuran ต่างจากเมโสยี่ห้ออื่น ในเรื่องส่วนผสมหลัก คือ PN เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการอักเสบ และกระตุ้นคอลลาเจน สามารถสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้เอง ช่วยแก้ปัญหาผิวโทรม ขาดน้ำ ให้กลับมาชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี ฉ่ำวาว

ส่วนเมโสหน้าใสทั่วไป จะมีสารประกอบหลักเป็นวิตามิน ไฮยาลูรอน สารบำรุงผิวโดยตรง ร่างกายสามารถดูดซึมและนำมาใช้ได้เลย และช่วยแก้ปัญหาผิวที่ต่างกันไปตามแต่ละสูตรครับ


เลือกฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี ? ให้ผลลัพธ์ออกมาดี ไม่ผิดหวัง และปลอดภัย

คลินิกฉีดเมโสที่ได้มาตรฐาน เลือกอย่างไร สามารถตรวจสอบด้วย 5 ขั้นตอนดังนี้ครับ

  1. ตรวจสอบคลินิกว่าเปิดให้บริการถูกกฎหมาย มีใบอนุญาต 11 หลักจากกระทรวงสาธารณสุข
  2. บรรยากาศภายในคลินิกไม่แออัด ห้องทำหัตถการแบ่งออกเป็นสัดส่วน ที่สำคัญต้องมีความสะอาด ถูกสุขอนามัย
  3. มีแพทย์ประจำอยู่คลินิก โดยต้องเป็นแพทย์จริงที่มีใบประกอบวิชาชีพ รวมถึงมีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า สามารถเลือกสูตรเมโสที่เหมาะกับปัญหาของแต่ละคน
  4. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการฉีดเมโสหน้าใสเป็นของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง
  5. มีรีวิวที่ดีจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง โดยควรเป็นรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เป็นกลาง โดยคลินิกไม่สามารถเข้าไปลบได้

รีวิวหลังฉีดเมโสหน้าใส โดยทีมแพทย์ประสบการณ์กว่า 15 ปี

รีวิว ฉีดเมโสหน้าใส ที่ V Square Clinic โดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ปรับรูปหน้ากว่า 15 ปี ใช้ตัวยาเมโสแท้ ก่อนฉีดแพทย์จะประเมินสภาพผิวและปัญหาเพื่อปรับสูตรเมโสให้เหมาะกับปัญหาที่คนไข้ต้องการแก้ไขครับ

รีวิวเมโสหน้าใส เคสจริง จาก V Square Clinic

รีวิวฉีดเมโสหน้าใส
(รีวิวฉีดเมโสหน้าใส ที่ V Square Clinic)
รีวิวเมโสหน้าใส
(รีวิวฉีดเมโสหน้าใส ที่ V Square Clinic)
รีวิวเมโสหน้าใส v square clinic
(รีวิวฉีดเมโสหน้าใส ที่ V Square Clinic)
รีวิวฉีดเมโสหน้าใส ลดฝ้า กระ
(รีวิวฉีดเมโสหน้าใส ฝ้ากระ ที่ V Square Clinic)

สรุป

ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม ? ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคนครับ หากคนไข้มีปัญหาผิวหน้าโทรม หมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน การฉีดเมโสหน้าใสเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์ เพราะสามารถช่วยฟื้นฟูและแก้ปัญหาผิวได้เร็ว และราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งนี้การฉีดเมโสหน้าใสให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน แนะนำให้กลับมาฉีดอย่างต่อเนื่องอาทิตย์ละ 1 ครั้งในเดือนแรก หลังจากนั้นฉีดทุก ๆ 2-3 อาทิตย์ เพื่อคงสภาพผิว ร่วมกับเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิว ดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้ผิวสวยใสขึ้นในระยะยาวครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน