การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ช่วยสลายไขมัน และปรับหน้าเรียว แตกต่างจากหัตถการอื่นอย่างไร ?

Categories
Meso Fat
การฉีดเมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat )

แก้มเยอะ หน้ากลม มีเหนียง ต้นแขนต้นขาใหญ่ ปัญหาไขมันสะสมเหล่านี้เป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนกังวล และทำให้ไม่มั่นใจ การออกกำลังกายและควบคุมการรับประทานอาหารจะช่วยให้ไขมันลดลงได้ดีที่สุด แต่ก็ต้องอาศัยเวลาและวินัยเป็นอย่างมาก บางคนลดแล้วไม่ลง ต้องการเห็นผลเร็ว จึงมองหาตัวช่วยอื่น ๆ ในการช่วยลดไขมัน เช่น การทานยาลดน้ำหนัก การดูดไขมัน การสลายไขมันด้วยความเย็น รวมถึงการฉีดเมโสแฟต

ในบทความนี้ หมอจะเน้นไปที่การฉีดเมโสแฟตครับ การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ดีอย่างไร ทำจุดไหนช่วยอะไรบ้าง เมโสแฟตที่ปลอดภัยมีกี่ยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร ในการฉีด 1ครั้งใช้กี่ CC ฉีดแล้วบวมกี่วัน กี่วันเห็นผล เปรียบเทียบกับวิธีลดไขมันแบบอื่น ต่างจากการฉีดโบท็อก Hifu อย่างไร ทุกคำถามที่อยากรู้ หมอรวบรวมคำตอบไว้ให้ในบทความนี้แล้วครับ

สารบัญ การฉีดเมโสแฟต (Mesofat)

  1. การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ?
  2. ยาเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
  3. การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
  4. ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
  5. เมโสแฟต ( Meso Fat ) 1 เข็ม ฉีด 1 ครั้งแต่ละตำแหน่งต้องใช้กี่ CC จึงจะเห็นผล
  6. ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) กี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
  7. เมโสแฟต ( Meso Fat ) ดีไหม มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ?
  8. ความแตกต่างระหว่างการฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) กับ การฉีดโบท็อก
  9. ความแตกต่างระหว่างการฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) กับ การทำ Hifu
  10. ก่อนฉีดเมโสแฟต ควรงดเครื่องอื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ กี่วัน ?
  11. เมโสแฟต ( Meso Fat ) รีวิว
  12. ฉีดแฟตกี่วันเห็นผล ?
  13. ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) อยู่ได้กี่เดือน ?
  14. ฉีดแฟตหน้าบวมกี่วัน ?
  15. การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat )
  16. เมโสแฟต ( Meso Fat ) ยี่ห้อไหนดี ?
  17. ฉีดแฟตราคา
  18. ฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวมมาก ควรทำอย่างไร ?
  19. มินิแฟต คืออะไร ช่วยสลายไขมันได้จริงไหม ?
  20. ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ที่ไหนดี วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย และเห็นผล
  21. Q&A ฉีดเมโสแฟต
  22. สรุป

การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ?

เมโสแฟต (Meso Fat) เป็นหนึ่งในวิธีสลายไขมันในร่างกาย (Lipolysis) โดยเป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันเข้าไปในผิวชั้นไขมัน กระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว หรือกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยในการดึงไขมันออกจากเซลล์ จากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย หลังฉีดเมโสแฟตไประยะหนึ่ง จะเห็นได้ว่าบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตจะค่อย ๆ ยุบลง ชั้นไขมันดูลดลง สัดส่วนเล็กลงได้ครับ

การทำงานเมโสแฟต
เมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายเซลล์ไขมันเข้าผิวชั้นกลาง ทำให้มีเซลล์ไขมันลดลงหรือมีขนาดเล็กลง

ยาเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

ในปัจจุบัน เมโสแฟตที่นำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามชั้นนำมีหลากหลายยี่ห้อหลากหลายแบรนด์ครับ แต่ละยี่ห้อก็จะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกัน แต่สารออกฤทธิ์หลักในตัวยาเมโสแฟตจะต้องเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสลายไขมันในเซลล์หรือทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวได้ บริเวณที่ฉีดเมโสแฟตจึงจะดูยุบลง เล็กลง จากชั้นไขมันที่หายไปนั่นเองครับ

ตัวอย่างของสารออกฤทธิ์ในเมโสแฟต

  • Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ฉีดลดแก้ม หรือต้องการลดเซลลูไลท์
  • Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholesterol ในเนื้อเยื่อ
  • L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn)
การทำงานเมโสแฟต
L-carnitine เป็นสารที่ช่วยลดเซลล์ไขมันได้

หลังจากฉีดเมโสแฟตเข้าสู่ชั้นผิวในบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น แก้ม ใต้คาง เหนียง ต้นขา ต้นแขน สะโพก และหน้าท้อง ตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวหรือดึงไขมันออกจากเซลล์ และช่วยกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยให้ร่างกายนำไขมันไปใช้ได้มากขึ้น ลดการสร้างและลดการสะสมไขมันใหม่ จากนั้นไขมันจะถูกขับออกตามทางการหายใจและการขับถ่ายครับ


การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

  • เมโสแฟตช่วยลดแก้ม ลดเหนียง ลดไขมันสะสมที่แก้มและคาง ปรับรูปหน้าเรียว
  • เมโสแฟตช่วยลดไขมันสะสมตามร่างกาย ลดต้นแขน ลดต้นขา ลดหน้าท้อง ลดสะโพก ลดหน้าท้อง
  • เมโสแฟตช่วยยกกระชับจุดที่ลดไขมันให้ดูยกกระชับขึ้นด้วยได้

ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

การฉีดเมโสแฟต ฉีดได้หลายตำแหน่งตามที่มีไขมันสะสม ได้แก่

  • แก้ม เหนียง ชั้นไขมันใต้คาง
  • หน้าท้อง
  • สะโพก
  • ต้นแขน ท้องแขน
  • ต้นขาด้านนอก ต้นขาด้านใน
  • รักแร้ ปีกหลัง
จุดฉีดเมโสแฟต

แฟตแก้ม

แก้มเป็นจุดที่นิยมฉีดเมโสแฟตกันมากที่สุดครับ เพราะช่วยให้หน้าดูเรียวขึ้น ลดหน้ากลม ลดหน้าอ้วน เหมาะกับคนที่มีแก้มเยอะ สังเกตจากเมื่อเรากัดฟันแล้วคลำบริเวณแก้มดู จะจับได้เป็นเนื้อนิ่ม ๆ ครับ

ตำแหน่งไขมันบริเวณแก้ม

เมื่อแบ่งแก้มเป็นส่วน 1, 2 และ 3 ตามภาพ การฉีดเมโสแฟตจะเป็นการฉีดตัวยาเมโสแฟตเข้าไปยังส่วนที่มีไขมันสะสมหมายเลข 1 และ 3 ได้ แต่เนื่องจากการฉีดเมโสแฟตเป็นการใช้ปฏิกิริยาเคมีในการดึงไขมันออกจากเซลล์ และตัวยาบางยี่ห้อเป็นการลดไขมันในเซลล์เท่านั้นไม่ได้ทำให้ไขมันแตกตัว จึงอาจมีการเพิ่มจำนวนและขนาดของเซลล์ไขมันได้อีกขึ้นกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การกินของหวาน การออกกำลังกาย การกินมื้อดึก จึงหวังผลได้ไม่แน่นอนเท่าการตัดกระพุ้งแก้ม ทำแล้วเห็นผลไม่ถาวรต้องมาทำซ้ำเรื่อย ๆ แต่ก็หวังผลได้ประมาณ 60-70% ครับ

แต่ถ้ากัดฟันแล้วมีส่วนของกล้ามเนื้อกรามเด้งออกมา หมอแนะนำให้ทำโบท็อกกรามร่วมด้วย เนื่องจากโบท็อกหวังผลได้เกือบ 100% และในการทำให้กรามเนื้อกรามในส่วนที่ 2 ยุบลง ก็จะทำให้เนื้อแก้มในส่วนที่ 1 ยุบลงด้วย เพราะเนื้อแก้มในจุดที่ 1 กับ 2 เบียดกันอยู่ครับ

การฉีดเมโสแฟต vs การผ่าตัดกระพุ้งแก้ม

การผ่าตัดกระพุ้งแก้ม เป็นการนำเซลล์ไขมันเอาจากแก้มถาวร เมื่อดูตามภาพจะเป็นไขมันในส่วนที่ 3 (buccal fat pad) ครับ แม้จะหวังผลได้แน่นอน แต่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์สูง เพราะถ้าประเมินไม่ดี ตัดออกมากเกินไป จะยุบลามไปถึงขมับ และทำให้แก้มตอบและหน้าห้อยได้

นอกจากนี้การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จะไม่สามารถตัดไขมันในส่วนที่ 1 (superficial fat pad) ซึ่งเป็นจุดที่คนไข้ส่วนใหญ่ต้องการลดได้ เพราะเป็นไขมันที่อยู่ตื้นติดกับชั้นผิวหนัง อาจจะใช้การดูดไขมันแทนแต่การดูดไขมันในส่วนที่ 1 ไม่ควรทำเพราะเสี่ยงต่อการโดนเส้นประสาททำให้ปากเบี้ยวได้ครับ

ดังนั้นการลดไขมันในบริเวณหมายเลข 1 จึงแนะนำโบท็อกและเมโสแฟตเป็นหลักครับ เนื่องจากปลอดภัยและตรงจุดมากกว่า

เจาะลึก เมโสแฟตแก้ม : ฉีดแฟต (Meso Fat) แก้ม สลายไขมันที่แก้มได้อย่างไร ?

แฟตเหนียง

เมื่ออายุมากขึ้นหรือมีภาวะน้ำหนักเกิน บริเวณใต้คางจะเป็นจุดที่ไขมันเริ่มมาสะสมมากขึ้น จึงเห็นเป็นเหนียงหรือคางสองชั้นครับ แม้แต่ในคนผอมก็อาจจะมีเหนียงได้เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ทานโซเดียมสูง ไม่ออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอล์ หรืออาจเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ครับ

เหนียง เกิดจากการมีไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนังเป็นจำนวนมาก จนทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย และเกิดได้ในคนที่มีผิวหนังไม่ยืดหยุ่น ไม่เต่งตึง ขาดความกระชับ ไขมันจึงดันผิวหนังบริเวณใต้คางลงตามแรงโน้มถ่วง จนเห็นเป็นเหนียงหรือคางสองชั้นได้ รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต อย่างการนอนเล่นโทรศัพท์มือถือทำให้ต้องกดหน้าลงเป็นประจำจนเกิดเป็นรอยพับใต้คาง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียงโดยไม่รู้ตัว 

Platysma fat

ดังนั้น การกำจัดเหนียงจึงต้องใช้การลดไขมันและการยกกระชับใต้ชั้นผิวหนังใต้คาง จึงจะเห็นผลดีครับ เมโสแฟตสามารถฉีดลดไขมันบริเวณเหนียง และเมโสแฟตบางยี่ห้อก็มีส่วนช่วยให้ยกกระชับขึ้นได้ด้วย แต่ถ้ามีไขมันเยอะ หย่อนคล้อยมาก ๆ หมอแนะนำให้ใช้การยกกระชับด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า การทำ Hifu ultraformer III, Ulthera หรือ Thermage ครับ 

ส่วนลดเหนียงโดยการดูดไขมัน จะบวมช้ำค่อนข้างมาก เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ และหากมีเลือดออกมากจะเสี่ยงต่อการกดทับหลอดลมได้ หากต้องการทำ แนะนำให้ควรทำใน รพ.เท่านั้นครับ

Hifu เหนียง

เจาะลึก เมโสแฟตเหนียง : เมโสแฟต (Meso Fat) เหนียง สลายไขมันใต้คางได้อย่างไร

แฟตแขน แฟตต้นขา

ต้นแขน ต้นขา เป็นอีกจุดที่มักจะมีไขมันมาสะสม ทำให้ดูแขนใหญ่ ขาใหญ่ หลาย ๆ คนเกิดความไม่มั่นใจ เมโสแฟตสามารถช่วยลดไขมันตรงจุดนี้ได้ครับ แต่ต้องตรวจประเมินโดยแพทย์ก่อนว่าเกิดจากไขมันหรือกล้ามเนื้อ และมีปริมาณมากน้อยเพียงใด 

ในเคสที่มีไขมันสะสมมาก การฉีดเมโสแฟตต้นขา ต้นแขน จะต้องใช้ยาปริมาณมาก ต้องทำหลายครั้ง และไม่เห็นผลถาวร ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่าการลดไขมันด้วยวิธีอื่น หมอแนะนำให้ใช้การลดไขมันด้วยการดูดไขมัน สลายไขมันด้วยความเย็น หรือการลดน้ำหนัก จะเห็นผลชัดเจนกว่าครับ

ส่วนในคนไข้ที่มีแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ แนะนำให้ฉีดโบท็อกต้นแขนเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ และยังช่วยให้ขนาดตัวดูเหมือนเล็กลงได้ด้วย เพราะโบท็อกจะช่วยลดความกว้างของบ่าลงครับ

เจาะลึก : เมโสแฟต (Meso Faf) ต้นแขน แก้ปัญหาแขนใหญ่ กำจัดไขมันส่วนเกิน

แฟตหน้าท้อง สะโพก

เมโสแฟต เป็นตัวยาที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าท้องใหญ่ พุงใหญ่ พุงย้อย สะโพกใหญ่ ลดยาก ได้ครับ แต่ต้องใช้ตัวยาค่อนข้างเยอะ และต้องฉีดหลายครั้ง ราคาในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 5,000.- / เมโสแฟต 40 cc ครอบคลุมพื้นที่ 1 ฝ่ามือ ซึ่งการฉีดเมโสแฟตค่อนข้างถูกกว่าวิธีอื่น สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดอาจจะทดลองใช้วิธีนี้ก่อน หากเห็นผลดีก็จะช่วยประหยัดเงินได้ครับ แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินมาก ๆ หรือ เคสที่อ้วนมาก ๆ BMI>35 ครับ

แต่ถ้ามีไขมันสะสมมากหมอจะแนะนำให้ลดพุงด้วยวิธีอื่นจะหวังผลได้มากกว่าและอยู่ได้นาน จึงมีความคุ้มราคามากกว่าในระยะยาวครับ เช่น การดูดไขมัน หรือถ้าไม่อยากผ่าตัด ก็จะแนะนำเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น การทำ CoolSculptng ครับ โดยวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่กำจัดเซลล์ไขมันได้ถาวร กลับมาอ้วนอีกได้ยากกว่าการฉีดเมโสแฟตครับ

เจาะลึก : ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ช่วยลดพุง สลายไขมันหน้าท้อง

แฟตรักแร้ ปีกหลัง

อีกจุดหนึ่งที่อาจทำลายความมั่นใจให้หลาย ๆ คน ได้คือไขมันใต้รักแร้ ไขมันบริเวณปีกหลัง ครับ จะสังเกตเห็นเมื่อใส่ชุดว่ายน้ำหรือเสื้อกล้ามจะเห็นเป็นเนื้อปลิ้น เนื้อล้นออกมา เป็นก้อนไขมัน ดูอ้วน ดูไม่สวย พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย เกิดจากการมีภาวะน้ำหนักเกิน หรือเกิดจากกรรมพันธุ์ ซึ่งการฉีดเมโสแฟตจะช่วยลดไขมันตรงจุดนี้ได้กรณีที่มีไขมันไม่มากถึงปานกลางครับ เป็นวิธีที่ไม่เจ็บตัวมาก ไม่ต้องผ่าตัด บวมน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และยังช่วยให้ผิวกระชับแน่นขึ้น ลดความหย่อนคล้อยได้อีกด้วยครับ

ไขมันรักแร้

เมโสแฟต ( Meso Fat ) 1 เข็ม ฉีด 1 ครั้งแต่ละตำแหน่งต้องใช้กี่ CC จึงจะเห็นผล

ฉีดเมโสแฟตกี่ CC ? ฉีดเมโสแฟตกี่เข็ม ? ขึ้นกับตำแหน่งที่ฉีดและปริมาณไขมันของคนไข้ครับ โดยทั่วไปการฉีดเมโสแฟตจะนับเป็น CC จะแม่นยำและเข้าใจได้ง่ายมากกว่า คนไข้สามารถคำนวณเปรียบเทียบราคาได้ง่ายกว่าครับ แต่บางคลินิกจะใช้การนับเป็นเข็ม เพื่อลดการเปรียบเทียบราคาระหว่างคลินิก โดยในแต่ละเข็มจะขึ้นกับขนาดไซริงค์และการกำหนดของแต่ละคลินิก เราควรสอบถามให้แน่ใจก่อนครับว่า 1 เข็ม ให้ตัวยากี่ CC

ปริมาณยาเมโสแฟตที่ใช้ในแต่ละตำแหน่ง

  • แก้ม โดยทั่วไปแก้มใช้ครั้งละ 6 CC ขึ้นไป (ข้างละ 3 cc ขึ้นไป) เหมาะกับผู้ที่มีแก้มไม่มาก แก้มป่องเล็กน้อย ไขมันแก้มน้อย แต่ถ้ามีไขมันสะสมเยอะ แก้มเยอะ หรือมีเวลามาทำไม่บ่อย สามารถฉีดครั้งนึงหลาย CC ได้เลยครับ ในบางเคสอาจใช้ถึง 24 CC ต่อการฉีด 1 ครั้ง จะทำให้แก้มลดไวขึ้น ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำหลายครั้ง แต่ก็จะบวมมากหลังฉีด บวมนานขึ้นครับ แต่ถ้าไม่ได้ต้องการเร่งเห็นผล มีเวลาเข้าคลินิกอย่างต่อเนื่อง หมอแนะนำให้ฉีดครั้งละน้อย ๆ แต่ฉีดบ่อย ๆ ได้ครับ เพื่อลดโอกาสหน้าตอบจากไขมันที่ลดมากเกินไป และจะบวมน้อยมากครับ
  • ต้นแขน โดยทั่วไปใช้ข้างละ 20 – 40 CC
  • ต้นขา โดยทั่วไปใช้ข้างละ 40 CC+หน้าท้อง/สะโพก โดยทั่วไปใช้ 40 – 80 CC
  • หน้าท้อง/สะโพก โดยทั่วไปใช้ 40 – 80 CC

จำนวน CC ที่หมออธิบายไปเบื้องต้น เป็นการประมาณคร่าว ๆ จากเคสส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการครับ ในการฉีดแต่ละครั้ง หมอจะประเมินจากรูปหน้า จากสัดส่วนจริงของคนไข้ก่อนเสมอ ว่าควรใช้กี่ CC ขึ้นกับขนาดไขมันของแต่ละคนครับ 


ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) กี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

แต่ละคนมีปริมาณไขมันมากน้อยต่างกัน แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถแนะนำให้คนไข้ฉีดในปริมาณที่เหมาะสมต่อการฉีดเมโสแฟต 1 ครั้ง หากฉีดตามที่แพทย์ประเมิน จะสามารถลดไขมันในบริเวณที่ฉีดได้ 10 – 15 % โดยจะเห็นผลใน 1 – 3 สัปดาห์แล้วแต่ตัวยาที่เลือกใช้ หากครบ 7 วันแล้วอยากให้ไขมันลดลงอีกสามารถมาทำเพิ่มได้ครับ


เมโสแฟต ( Meso Fat ) ดีไหม มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร ?

สรุปข้อดีของการฉีดเมโสแฟต

  1. เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ใช้เวลาในการทำน้อย ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น
  2. การเตรียมตัวก่อนทำไม่ยุ่งยาก หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ
  3. เห็นผลเร็ว สามารถทำซ้ำได้ถ้าอยากให้เห็นผลดียิ่งขึ้น
  4. สามารถลดไขมันได้ครั้งละ 10-15% 
  5. ทำได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท
  6. ไม่มีรอยแผล ไม่มีรอยผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  7. ราคาไม่แพง สามารถทยอยทำได้

สรุปข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต

  1. หลังทำจะมีอาการบวมตามปริมาตรของยา แต่จะยุบบวมได้เองใน 3-4 ชั่วโมง
  2. ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมันครับ ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป
  3. เมโสแฟตเป็นการใช้ปฏิกิริยาเคมีกับเซลล์ไขมัน หวังผลได้ไม่แน่นอน หากมีไขมันสะสมเยอะมาก จะเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อยมากและต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
  4. อยู่ได้ไม่ถาวร ต้องอาศัยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะคงผลลัพธ์ได้ยาวนานมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่างการฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) กับ การฉีดโบท็อก

โบท็อกและเมโสแฟตมีจุดประสงค์ในการเลือกใช้แตกต่างกันครับ โบท็อกเป็นสารโปรตีนที่ออกฤทธิ์ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหดเล็กลงได้ 4-6 เดือน โดยจะมีผลต่อกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ เช่น กล้ามเนื้อกราม กล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อแขนและไหล่ ส่วนเมโสแฟตเป็นตัวยาที่มีส่วนประกอบหลายชนิดที่จะมีผลต่อไขมัน เพื่อช่วยในการสลายไขมันเท่านั้น ดังนั้น ควรจะได้รับการตรวจประเมินกับแพทย์ก่อนว่าจุดที่คนไข้มีความกังวลเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน หมออาจจะพิจารณาใช้ทั้ง 2 วิธีนี้ร่วมกันได้ครับ


ความแตกต่างระหว่างการฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) กับ การทำ Hifu

HIFU ย่อมาจาก High-intensity focus ultrasound คือการใช้คลื่นอัตราซาวน์ความเข้มข้นสูง ส่งพลังงานเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้น รวมถึงผิวชั้นไขมัน จากนั้นจะเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ทำให้ผิวชั้นนั้นเกิดการหดตัว ไขมันจึงหดเล็กลงด้วยครับ จะไม่ได้เป็นการทำลายเซลล์ไขมันโดยตรง จึงช่วยลดไขมันได้บางส่วน และเน้นไปที่การยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ครับ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันแก้ม เหนียงไม่มาก

ส่วนในรายที่มีไขมันแก้มเยอะ มีเหนียงเยอะ หมอจะแนะนำให้ใช้เมโสแฟตในการช่วยลดไขมันก่อน เพราะมีราคาถูกกว่าและเป็นการกำจัดเซลล์ไขมันโดยตรง เมื่อแก้มหรือเหนียงยุบลงแล้ว เกิดการหย่อนคล้อย แก้มตก ไม่กระชับ สามารถทำ Hifu Ultraformer III เพิ่มเติม เพื่อเก็บรายละเอียดได้ครับ


ก่อนฉีดเมโสแฟต ควรงดเครื่องอื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ กี่วัน ?

ก่อนฉีดเมโสแฟตควรงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงครับ เพราะแอลกอฮอล์มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด ถ้าดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมาฉีดอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้มากขึ้นครับ


เมโสแฟต ( Meso Fat ) รีวิว

เมโสแฟตแก้มรีวิว
ก่อนทำคนไข้มีความกังวลเรื่องแก้ม หมอแนะนำให้ปรับปรับรูปหน้าให้เรียวโดยการฉีดเมโสแฟตสลายไขมันแก้ม
เมื่อมาฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่าแก้มจะค่อย ๆ ลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ
เมโสแฟตเหนียงรีวิว
เมโสแฟต ช่วยลดเหนียง เก็บกรอบหน้าได้ เหมาะกับผู้ที่มีเหนียงไม่มาก

ฉีดแฟตกี่วันเห็นผล ?

หลังจากฉีดแฟต จะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อเมโสแฟตและปริมาณที่ฉีด โดยจะเห็นว่าไขมันจะลดลงได้ 10-15% ทั้งนี้หลังฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผลนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย หากอยากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ควรกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ประเมินใบหน้าของแต่ละบุคคลครับ


ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) อยู่ได้กี่เดือน ?

เมโสแฟตเป็นตัวช่วยในการลดไขมันเฉพาะที่ แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันใหม่ ดังนั้น เมโสแฟตอยู่ได้กี่เดือน ขึ้นกับพฤติกรรมการออกกำลังกายและควบคุมอาหารเป็นหลัก หากมีการรับประทานของหวาน อาหารไขมันสูง ทานมื้อดึกบ่อย ๆ หรือไม่ออกกำลังกาย ไขมันก็อาจจะกลับมาอีกภายใน 1 เดือนครับ แต่ถ้าควบคุมได้ดีก็จะคงผลลัพธ์ได้นานขึ้นครับ


ฉีดแฟตหน้าบวมกี่วัน ?

การบวมมากน้อยขึ้นกับจำนวน CC ที่ฉีด โดยจะบวมตามปริมาตรที่ฉีดครับ แต่จะยุบบวมลงได้เองใน 3-4 ชั่วโมง เมโสแฟตบางยี่ห้อจะยุบบวมได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง


การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat )

  • หลังทำแฟตแก้มไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อยๆซึมยุบไปเอง
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
  • เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
  • หลังทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการอบซาวหน้า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลังจากทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

เมโสแฟต ( Meso Fat ) ยี่ห้อไหนดี ?

ในคลินิกเสริมความชั้นนำในประเทศไทยได้มีการนำเมโสแฟตมาใช้หลากหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ส่วนผสมที่แตกต่างกัน โดยยี่ห้อที่นิยมและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มีดังนี้

  • เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella
Meso Fat Phytobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิด  สามารถใช้ฉีดเพื่อสลายไขมันได้หลายส่วนของร่างกาย อาทิ เหนียงใต้คาง แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพกและน่อง ช่วยในการยกกระชับผิว ลดอาการบวมน้ำ กลไกการออกฤทธิ์หลักจะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ต้องการลดเซลลูไลท์

ข้อดี : ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยครับ

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบเล็กน้อย

ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,000 บาท

  • เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One
Meso Fat Babi

เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาแก้มหย่อน โดยโดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับ เห็นผลไว นิยมใช้ในการฉีดลดเหนียง ลดความหย่อนคล้อยใต้คาง

มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดอาการบวม ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันและคอเรสเตอรอลในเลือด โดยละลายไขมันให้แตกตัวเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ไขมันจึงลดลง ยกกระชับได้ดีครับ

ข้อดี : ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ ฉีดแล้วยุบดี หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดมีอาการแสบ (แต่จะแสบน้อยที่สุดในบรรดายี่ห้อเมโสแฟตทั้งหมด)

ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,500 บาท

  • เมโสแฟตยี่ห้อ FNC
Meso Fat FNC

เมโสแฟตยี่ห้อ FNC 30 เหมาะกับคนแก้มเยอะ สามารถช่วยยกกระชับหน้า ช่วยในการป้องกัน Elastin และ Hyaluron ในชั้นผิวไม่ให้เสื่อมสภาพ ช่วยลดบวม ลดไขมัน กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ช่วยลดไขมันได้ดี และเห็นผลไว โดยที่ไม่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยหลังไขมันลดครับ

ข้อดี : ยุบดีและไว เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มเยอะ

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลางๆ

ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,500 บาท

  • เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella
Meso Fat Neobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella เป็นเมโสแฟตอีกหนึ่งยี่ห้อที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ส่วนผสมหลักของตัวยาเป็น Deoxycholic acid (DCA) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยาสลายไขมันตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก US-FDA ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการฉีดในจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ครับ

ข้อดี : สลายเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการลดไขมันบริเวณลำตัว หน้าท้อง แขน ขา

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ

ราคา : ครั้งละ 20 CC 5,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีเมโสแฟตยี่ห้ออื่น ๆ เช่น V Line-A solution Essence, Noble, Mesoestetic lipolytic solution, Lipo V ฯลฯ หรือบางคลินิกก็หลีกเลี่ยงการใช้คำว่าเมโสแฟต แต่ใช้คำที่แตกต่างออกไป เช่น fat bomb (แฟตบอมบ์), LLD fat, แฟตแก้ม หรือแฟตเหนียง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการฉีดตัวยาสลายไขมันเข้าผิวชั้นกลางทั้งสิ้นครับ สิ่งสำคัญคือควรดูยี่ห้อของยาที่ฉีด ว่าคือยี่ห้ออะไร ผ่านอย.หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาจากตัวยาที่มีส่วนผสมที่อันตรายครับ


ฉีดแฟตราคา

เมโสแฟตราคา
เมโสแฟตราคา (2)

โปรโมชั่น เมโสแฟต

  • เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella

เมโสแฟต 6 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 9,000.-
เมโสแฟต 12 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 15,000.-

  • เมโสแฟตยี่ห้อ FNC / Babi 

เมโสแฟต 6 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 9,900.-
เมโสแฟต 12 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 18,000.-
เมโสแฟต 18 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 25,000.-


ฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวมมาก ควรทำอย่างไร

หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมจากปริมาตรตัวยาที่ฉีดเข้าไปเป็นเรื่องปกติ สามารถยุบหายไปได้เอง หลังฉีดทันทีจะรู้สึกหน้าบวมมากบวมเหมือนอมลูกอมหลาย ๆ เม็ดพร้อมกัน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปครับ ตัวยาจะค่อย ๆ ซึมยุบไปเองใน 3-4 ชั่วโมง ไม่ปวดหรืออักเสบ หรือในบางเคสอาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติครับ


มินิแฟต คืออะไร ช่วยสลายไขมันได้จริงไหม

มินิแฟต (Mini fat) เป็นคำเรียกที่แต่ละคลินิกตั้งขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นการฉีดลดไขมันแบบเดียวกับการฉีดเมโสแฟตครับ แต่ละคลินิกก็ใช้ตัวยาต่าง ๆ กัน ต้องดูว่าเป็นตัวยาเมโสแฟตยี่ห้ออะไร ผ่านอย. หรือไม่ ควรสอบถามชื่อตัวยาและศึกษาวิธีตรวจสอบตัวยาของแท้ก่อนตัดสินใจฉีดครับ


ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ที่ไหนดี วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย และเห็นผล

การเลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข มีความน่าเชื่อถือและดำเนินงานโดยแพทย์ท่านั้น เพราะแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับคนไข้เป็นรายบุคคล โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงลดน้อยลงครับ

Checklist ก่อนฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ?

คลินิกหรือสถานประกอบการ✔ มีป้ายชื่อสถานพยาบาล
✔ มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
✔ แสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
✔ สะอาด มีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง
✔ เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถ
ตัวยาเมโสแฟต✔ ผ่านการรับรองจาก อย.
✔ สามารถยืนยันที่มาและแหล่งผลิตของผลิตภัณฑ์ได้
✔ ตรวจสอบก่อนฉีดว่าเป็นของแท้
✔ ไม่มีส่วนผสมที่อันตราย ไม่มีสารสเตียรอยด์หรือ Hyaluronidase
แพทย์✔ มีป้ายประจำตัวเแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
นำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
✔ มีประสบการณ์ 5-15 ปี
✔ สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด

ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร

V square clinic เป็นคลินิกด้านความงามที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ใช้เมโสแฟตของแท้ที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้  รวมถึงราคาที่สมเหตุสมผล แพทย์แนะนำและตรวจประเมินอย่างละเอียดทุกเคส มั่นใจได้ว่าทุกท่านที่เข้ามาฉีดเมโสแฟตและบริการอื่น ๆ ของทางคลินิก จะได้รับความพึงพอใจที่สุดครับ

คลินิก V square

Q&A ฉีดเมโสแฟต

เมโสแฟต กี่วันเห็นผล

เมโสแฟตจะเห็นผลประมาณ 1-3 สัปดาห์หลังฉีด โดยการฉีด 1 ครั้งตามปริมาณที่เหมาะสม จะเห็นผลว่าไขมันลดลงได้ 10-15% ครับ

เมโสแฟต บวมกี่วัน

หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมตามปริมาตรของยา แต่จะยุบบวมได้เองใน 3-4 ชั่วโมงครับ

ฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม ?

การฉีดเมโสแฟตจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยครับ โดยจะรู้สึกที่สุดตอนที่ลงเข็มและเดินยาเข้าผิวหนังครับ ซึ่งก็จะมีการประคบน้ำแข็งช่วย หรือแปะยาชาสำหรับคนที่กลัวเจ็บมากๆ สำหรับคนที่กลัวว่าการฉีดเมโสแฟตจะเจ็บก็ไม่ต้องกังวลครับ

เมโสแฟต 1 ขวดกี่ CC

เมโสแฟตยี่ห้อมาตรฐานส่วนใหญ่ 1 ขวดจะบรรจุตัวยา 10 CC ครับ ก่อนนำมาใช้ไม่จำเป็นต้องผสมน้ำเกลือ ปริมาณที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง หมอจะเป็นผู้ประเมินตามปริมาณไขมันของแต่ละคนครับ

ฉีดเมโสแฟต แล้วเป็นก้อน ?

ฉีดเมโสแฟตแล้วเป็นก้อนเกิดขึ้นได้เกิดจากเทคนิคการฉีดที่ทำให้ยาไม่กระจายตัว แพทย์ที่มีประสบการณ์จะฉีดใช้เทคนิคกระจายตัวยาที่ถูกต้อง   ประกอบกับถ้าใช้เมโสแฟตคุณภาพสูง ตัวยาจะถูกดูดซึมได้เอง หลังฉีดจะไม่เป็นก้อนครับ

คนท้องฉีดเมโสแฟตได้ไหม ?

หากตั้งครรภ์อยู่ไม่แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตครับ


สรุป

การฉีดเมโสแฟต เป็นตัวช่วยลดไขมันที่ทำได้ง่าย ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้จริง สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดเมโสแฟต ควรศึกษาตัวยาเมโสแฟตแต่ละยี่ห้อ วิธีตรวจสอบเมโสแฟตของแท้ และควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อตรวจประเมินเลือกยี่ห้อและปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละเคสครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat ) สลายไขมันหน้าท้อง ช่วยลดพุง สลายไขมันได้จริงหรือไม่ ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง

Categories
Meso Fat
การฉีดเมโสแฟตลดหน้าท้อง

แฟตหน้าท้อง

ปัญหาพุงใหญ่ พุงป่อง ออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ไม่ลงเป็นปัญหาที่กวนใจหลาย ๆ คน จึงต้องมองหาเทคโนโลยีหรือวิธีที่จะช่วยกำจัดไขมันหน้าท้องออกไปได้ “เมโสแฟต” เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่มีคนไข้ทักเข้ามาสอบถามหมอเป็นประจำ ว่าเมโสแฟต (Meso Fat ) หน้าท้อง คืออะไร  แฟตหน้าท้องแตกต่างจากหัตถการอื่นๆ อย่างไร เหมาะกับใครบ้าง ลดได้จริงไหม

ในบทความนี้ หมอจะกล่าวถึงการฉีดเมโสแฟตหน้าท้องในทุกแง่มุม การฉีดเมโสแฟตมีกระบวนการทำงานอย่างไร มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไรบ้าง รวมถึงราคาเท่าไหร่ เพื่อให้เป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจทำครับ

สารบัญ แฟตหน้าท้อง

  1. ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง คือ
  2. อ้วนลงพุง มีไขมันหน้าท้อง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง
  3. สลายไขมันหน้าท้อง ได้ด้วยวิธีการใดบ้าง
  4. ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง เหมาะกับใคร
  5. การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไรบ้าง
  6. ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อน ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง
  7. ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง แต่ละครั้ง ใช้กี่ CC
  8. เมโสแฟตหน้าท้อง กี่วันเห็นผล ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
  9. เมโสแฟตหน้าท้อง อยู่ได้นานไหม
  10. ฉีดแฟตสลายไขมันหน้าท้องรีวิว
  11. เมโสแฟตหน้าท้อง ยี่ห้อไหนดี
  12. เมโสแฟตหน้าท้องที่ไหนดี
  13. เมโสแฟตหน้าท้อง ราคา โปรโมชั่น
  14. สรุป

ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง คือ

เมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมัน ช่วยให้ไขมันในบริเวณที่ฉีดเกิดการแตกตัว ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ให้ร่างกายดึงไขมันไปใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น และไขมันจะถูกขับออกจากร่างกายทางการหายใจและระบบขับถ่าย ชั้นผิวในบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตจึงดูเล็กลงจากไขมันที่หายไป นอกจากนี้เมโสแฟตบางยี่ห้อ จะช่วยให้ผิวเกิดการยกกระชับและช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้อีกด้วย

ในการฉีดเมโสแฟต จะฉีดตัวยาเข้าไปยังชั้นผิวชั้นไขมัน (Subcutis) ในบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง ไขมันจะค่อย ๆ สลาย และหลังจากนั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะเห็นผลว่าไขมันลดลงจากเดิม 10-15% หากต้องการให้ไขมันลดลงอีกก็สามารถฉีดซ้ำได้ครับ

บริเวณหน้าท้อง เป็นจุดที่มักจะมีไขมันมาสะสมและลดได้ยาก การฉีดเมโสแฟตจะช่วยให้ไขมันหน้าท้องดูลดลง กระชับสัดส่วน ทำให้พุงเล็กลงได้ แต่ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าปัญหาพุงใหญ่มีสาเหตุมาจากอะไร มีไขมันสะสมมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะเลือกพิจารณาได้ว่าการฉีดเมโสแฟตหน้าท้องจะเห็นผลมากน้อยแค่ไหนครับ 

แต่การฉีดเมโสแฟตหน้าท้องไม่ได้ช่วยให้พุงเล็กลงได้ถาวร หากฉีดแล้วกลับไปกินอาหารที่มีไขมันมาก ๆ ไม่ออกกำลังกาย ไขมันก็สามารถกลับมาสะสมได้อีก และไม่สามารถฉีดเพื่อลดไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ได้ครับ

ฉีดเมโสแฟต หน้าท้อง คือ
เมโสแฟตหน้าท้อง ช่วยลดไขมันใต้ผิวหนัง แต่ไม่สามารถลดไขมันในช่องท้องได้

อ้วนลงพุง มีไขมันหน้าท้อง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง

  1. อ้วนลงพุงจากการพฤติกรรมการใช้ชีวิต เกิดจากที่รับประทานอาหารไขมันสูงเป็นประจำ ออกกำลังกายหรือขยับร่างกายน้อย ทำให้ไม่เกิดการเผาผลาญไขมัน ไขมันจึงสะสมตามร่างกาย ทำให้ดูอ้วน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ที่มักจะมีไขมันสะสมมากกว่าบริเวณอื่น ๆ นอกจากนี้ความเครียดและอายุ ทำให้ไขมันสะสมมากขึ้นได้ครับ
  2. อ้วนลงพุงจากการเผาผลาญอาหารผิดปกติ ทำให้ไขมันหน้าท้องแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระ และไปยับยั้งกระบวนการเผาผลาญกลูโคสที่กล้ามเนื้อ ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงขึ้น ร่างกายจึงต้องเร่งเปลี่ยนน้ำตาลไปเก็บไว้ในรูปไขมันสะสมที่ทำได้ง่ายและไม่มีพื้นที่จำกัดแทน โดยไขมันจะไปสะสมตามจุดต่าง ๆ ทั้งแขน ขา และหน้าท้องครับ
  3. อ้วนลงพุงจากระบบย่อยอาหารและการดูดซึมของลำไส้ผิดปกติ สังเกตได้จากการมีพุงป่องหลังจากทานอาหารและแน่นอึดอัดท้อง มักเกิดจากการแพ้อาหารบางชนิด หรือการไม่สมดุลของแบคทีเรียในลำไส้

สลายไขมันหน้าท้อง ได้ด้วยวิธีการใดบ้าง

ลดไขมันหน้าท้องด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายเป็นวิธีที่ช่วยลดหน้าท้องได้อย่างยั่งยืน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และยังช่วยลดไขมันในช่องท้องได้ด้วยครับ

ในการรับประทานอาหาร ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ลดแป้งและน้ำตาลที่เป็นต้นเหตุของการเกิดไขมันสะสม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นการออกกำลังกายกระชับหน้าท้องด้วยการซิทอัพ ปั่นจักรยานอากาศ และแพลงค์ เป็นต้น นอกจากนี้ ควรปรับพฤติกรรมอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากขึ้น ลดความเครียด งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครับ

แต่การออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารต้องอาศัยวินัยและเวลาในการปฏิบัติพอสมควร หลาย ๆ ท่านก็มีปัจจัยทั้งในเรื่องการงาน การเรียน สถานที่ ที่เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ ทำให้หลาย ๆ ท่านไม่ประสบความสำเร็จในการลดหน้าท้องด้วยวิธีนี้ครับ

ลดไขมันหน้าท้องด้วยการผ่าตัดตกแต่งหน้าท้อง 

การผ่าตัดตกแต่งหน้าท้อง (Abdominoplasty) เป็นวิธีการผ่าตัดเอาไขมันส่วนเกินและผิวหนังบริเวณหน้าท้องที่มีความหย่อนยานออก โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลตั้งแต่ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน จนถึงชั้นกล้ามเนื้อ ตัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินออก เย็บซ่อมกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กระชับมากขึ้น และทำการตกแต่งบริเวณหน้าท้องและสะดือใหม่ทั้งหมดครับ 

วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้หน้าท้องลดลงได้จริงและเห็นผลชัดเจน แต่เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ หลังทำคนไข้จะรู้สึกปวดระบมมาก ต้องใช้เวลาพักฟื้น ยุบบวม จนหายเป็นปกติประมาณ 3-4 เดือน หากดูแลแผลไม่ดีก็มีโอกาสที่จะอักเสบติดเชื้อได้ และหน้าท้องจะเนียนเรียบเต็มที่อาจจะต้องใช้เวลาถึง 1-2 ปี นอกจากนี้ต้องทำกับโรงพยาบาลผ่าตัดศัลยกรรมที่ได้มาตรฐานและแพทย์มีประสบการณ์สูงเท่านั้นครับ

วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีไขมันไม่มากแต่มีความหย่อนคล้อยมาก เช่น คุณแม่หลังคลอด ผู้ที่เคยอ้วนมากและทำการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังที่ยืดออกไม่กลับมากระชับได้ ผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องยื่น หน้าท้องหย่อนยาน 

ดูดไขมัน

การดูดไขมันหน้าท้อง (Abdominal liposuction) เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องโดยใช้เครื่องมือที่ทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว เช่น การดูดไขมันแบบเวเซอร์ เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ เครื่องดูดไขมันกลุ่มความร้อน เครื่องดูดไขมันพลังงานกลการสั่นสะเทือน เมื่อไขมันแตกตัวแล้วทำการดูดไขมันออกโดยใช้ท่อหรือไซริงค์ครับ

นอกจากการดูดไขมันหน้าท้องจะช่วยให้หน้าท้องดูยุบลงแล้ว ยังสามารถกำหนดรูปร่างให้ดูสวยงามตามค่านิยมได้ เช่น การดูดไขมันซิกแพค (Six Pack Liposuction) หรือ การดูดไขมันเซ็กซี่ไลน์ (Sexy Line Liposuction)

หลังจากดูดไขมันจะเห็นว่าหน้าท้องยุบลงทันที เรียบเนียนหรือเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องได้ทันทีหลังทำ เป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรือไขมันเยอะจากกรรมพันธุ์ ออกกำลังกายแล้วไม่ลง และเหมาะกับคนที่อ้วนมาก ๆ  แต่เป็นวิธีที่ค่อนข้างเจ็บ บวมช้ำนาน อาจจะต้องพักฟื้นนานเกิน 1 เดือน หลังทำมีบางเคสพบปัญหาผิวไม่เรียบในบริเวณที่ดูดไขมัน ต้องทำการแก้ไข และทิ้งรอยแผลเป็นตามแนวที่สอดเครื่องมือได้ครับ

Coolsculpting

การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีการสลายไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องลงมีด ไม่ต้องใช้เข็ม โดยใช้หลักการแช่แข็งเซลล์ไขมันให้แตกตัว เพราะเซลล์ไขมันจะไวต่อความเย็นมากกว่าน้ำและเนื้อเยื่ออื่น ๆ เมื่อใช้ความเย็นจัดในระยะเวลาหนึ่ง จะมีเฉพาะเซลล์ไขมันเท่านั้นที่ถูกแช่แข็ง เกิดเซลล์ไขมันตายและถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ถาวรครับ

เครื่องที่นิยมใช้ในการสลายไขมันด้วยความเย็นและเป็นเครื่องที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล คือ เครื่อง CoolSculpting ครับ สามารถลดไขมันส่วนเกินลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง เหมาะกับคนที่ไม่อยากมีแผลผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น และมีไขมันสะสมไม่เยอะมาก BMI<35 ครับ

ฉีดเมโสแฟตลดหน้าท้อง

การฉีดเมโสแฟตหนาท้องเป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันหรือทำให้ไขมันแตกตัว เข้าไปยังผิวชั้นไขมันบริเวณหน้าท้อง เมื่อไขมันสลายจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย  ในการฉีด 1 ครั้งตามปริมาณที่เหมาะสม ไขมันจะลดลงได้ 10-15% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 อาทิตย์ 

วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีไม่อยากผ่าตัด มีไขมันไม่มาก และมีงบประมาณจำกัดเพราะราคาถูกเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ แต่มีข้อเสียคือหวังผลได้ไม่แน่นอน อาจจะเห็นผลไม่ชัดเจนหรือไม่เห็นผลในบางราย เนื่องจากการออกฤทธิ์ของตัวยานั้นขึ้นกับปัจจัยของร่างกายแต่ละคนและพฤติกรรมการดูแลตนเองหลังทำ หากเห็นผลดีก็จะช่วยประหยัดเงินได้ครับ 


ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง เหมาะกับใคร

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันหน้าท้อง ลดพุง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น
  • เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง แต่ไม่มาก BMI <35 หรือมีไขมันมากแต่มีงบประมาณจำกัด สามารถทยอยฉีดได้
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็ว การฉีดเมโสแฟตร่วมกับการออกกำลังกายจะช่วยให้สัดส่วนลดลงไวขึ้น

การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไรบ้าง

ข้อดีของการฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง

  1. เป็นหัตถการที่ใช้เวลาในการทำน้อย ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น
  2. การเตรียมตัวก่อนทำไม่ยุ่งยาก หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ
  3. เห็นผลเร็ว สามารถทำซ้ำได้ถ้าอยากให้เห็นผลดียิ่งขึ้น
  4. สามารถลดไขมันได้ครั้งละ 10-15% 
  5. ทำได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท
  6. ไม่มีรอยแผล ไม่มีรอยผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  7. ราคาไม่แพง สามารถทยอยทำได้

ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง

  1. หลังทำจะมีอาการบวมตามปริมาตรของยา แต่จะยุบบวมได้เองใน 3-4 ชั่วโมง
  2. ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมันครับ ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป
  3. เมโสแฟตเป็นการใช้ปฏิกิริยาเคมีกับเซลล์ไขมัน หวังผลได้ไม่แน่นอน หากมีไขมันสะสมเยอะมาก จะเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อยมากและต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
  4. อยู่ได้ไม่ถาวร ต้องอาศัยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะคงผลลัพธ์ได้ยาวนานมากขึ้น

ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อน ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง

เมโสแฟตเป็นหัตถการที่ไม่ต้องมีการเตรียมตัวที่ยุ่งยาก หากไม่มีโรคประจำตัวสามารถเข้ารับการประเมินจากแพทย์และฉีดเมโสแฟตได้เลยครับ แต่ถ้ามีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดครับ

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต

  • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินใบหน้าและจุดที่ต้องการฉีด แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว
  • ก่อนเข้ารับการฉีดเมโสแฟต 48 ชั่วโมง ต้องงดยาในกลุ่มของ แอสไพริน, NSAIDs และ Dipyridamole
  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเมโสแฟตอย่างละเอียด ทั้งกระบวนการ ขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีด เพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

และหลังฉีดแฟตก็ไม่มีข้อปฏิบัติที่ยากหรือซับซ้อน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีข้อห้ามที่เคร่งครัด แต่ในช่วงแรก ๆ หลังฉีดแฟต ควรปฏิบัติดังนี้

ข้อปฏิบัติหลังฉีดเมโสแฟต

  • ห้ามจับ กด หรือนวดบริเวณที่ฉีดเมโสแฟต เพราะอาจเกิดการอักเสบจากรอยเข็มได้ ควรปล่อยให้ตัวยาค่อย ๆ ซึมและยุบไปเองใน 3-4 ชั่วโมง
  • ห้ามอบซาวน่า สตรีม ประมาณ 1 อาทิตย์หลังฉีดแฟต เพื่อไม่ให้เกิดการบวมช้ำมากขึ้น และลดการฟกช้ำให้น้อยลง แต่ถ้าไม่มีรอยช้ำ ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความร้อน
  • ห้ามขัดหน้า นวดหน้า เลเซอร์หน้า ทำทรีทเมนต์ใด ๆ หรือไปว่ายน้ำ อย่างน้อย 1 อาทิตย์หลังฉีดแฟต เพราะอาจเกิดการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด รวมถึงผิวหนังบริเวณที่ฉีดมีการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดรอยช้ำ แต่ถ้ารูเข็มปิดสนิทแล้ว ก็สามารถทำได้ปกติ
  • ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 3 วันหลังฉีดแฟต เพื่อลดการบวมช้ำ

ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้าท้อง แต่ละครั้ง ใช้กี่ CC

โดยทั่วไปการฉีดเมโสแฟตหน้าท้องจะใช้ตัวยา 20-40 CC ครับ แต่ก็สามารถฉีดได้ถึง 80 CC ได้ในบางรายที่มีไขมันสะสมมากหรือต้องการเห็นผลเร่งด่วน โดยเมโสแฟต 20 CC จะมีฤทธิ์ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 ฝ่ามือครับ


เมโสแฟตหน้าท้อง กี่วันเห็นผล ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

การฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง จะเห็นผลว่าบริเวณที่ฉีดไขมันลดลง 10% ต่อการทำ 1 ครั้ง โดยจะเริ่มยุบลงภายใน 5-7 วัน หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่


เมโสแฟตหน้าท้อง อยู่ได้นานไหม

เมโสแฟตอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหาร การดูแลตัวเอง และการออกกำลังกายด้วยครับ โดยปกติจะสามารถรักษาผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน ถ้าทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานขึ้นครับ


ฉีดแฟตสลายไขมันหน้าท้องรีวิว

การฉีดเมโสแฟต 1 ครั้ง จะคงผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือนครับ ทั้งนี้ขึ้นกับการดูแลตัวเอง การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายด้วยครับ ถ้าทานเยอะ ทานมื้อดึบ่อย ๆ ทานอาหารไขมันสูงและไม่ออกกำลังกาย ไขมันก็จะกลับมาสะสมได้ไวขึ้นครับ


เมโสแฟตหน้าท้อง ยี่ห้อไหนดี

บริเวณหน้าท้องเป็นจุดที่มักจะมีไขมันมาสะสมมากกว่าจุดอื่น ๆ ในร่างกาย การเลือกยี่ห้อเมโสแฟต ควรเลือกยี่ห้อที่ช่วยสลายไขมันได้เร็ว ตัวยาไม่แสบจนเกินไปเพราะต้องใช้ยาปริมาณมาก และควรจะช่วยยกกระชับได้ด้วย เพราะเมื่อไขมันลดลงผิวหนังอาจเกิดความหย่อนคล้อยได้ โดยยี่ห้อเมโสแฟตที่นิยมใช้ มีดังนี้

  • เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella
Meso Fat Neobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella จากประเทศเกาหลี มีส่วนผสมหลักของตัวยาเป็น Deoxycholic acid (DCA) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยาสลายไขมันตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก US-FDA ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการฉีดในจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ครับ

ข้อดี : สลายเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการลดไขมันบริเวณลำตัว หน้าท้อง แขน ขา

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ

  • เมโสแฟตยี่ห้อ FNC
Meso Fat FNC

เมโสแฟตยี่ห้อ FNC 30 เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีไขมันสะสมมาก และช่วยยกกระชับ ป้องกันไม่ให้ Elastin และ Hyaluron ในชั้นผิวเสื่อมสภาพ ช่วยลดบวม ลดไขมัน กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ช่วยลดไขมันได้ดี และเห็นผลไว โดยที่ไม่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยหลังไขมันลดครับ

ข้อดี : ยุบดีและไว 

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลางๆ

  • เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One
Meso Fat Babi

เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี โดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับ เห็นผลไว มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดอาการบวม ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันและคลอเรสเตอรอลในเลือด โดยละลายไขมันให้แตกตัวเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ไขมันจึงลดลง ยกกระชับได้ดีครับ

ข้อดี : ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ ฉีดแล้วยุบดี หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดมีอาการแสบได้เล็กน้อย (แสบน้อยที่สุดในบรรดายี่ห้อเมโสแฟตทั้งหมด)


เมโสแฟตหน้าท้องที่ไหนดี

การเลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข มีความน่าเชื่อถือและดำเนินงานโดยแพทย์ท่านั้น เพราะแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับคนไข้เป็นรายบุคคล โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงลดน้อยลงครับ

Checklist ก่อนฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ?

คลินิกหรือสถานประกอบการ
  • มีป้ายชื่อสถานพยาบาล
  • มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
  • แสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
  • สะอาด มีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง
  • เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถ
ตัวยาเมโสแฟต
  • ผ่านการรับรองจาก อย.
  • สามารถยืนยันที่มาและแหล่งผลิตของผลิตภัณฑ์ได้
  • ตรวจสอบก่อนฉีดว่าเป็นของแท้
  • ไม่มีส่วนผสมที่อันตราย ไม่มีสารสเตียรอยด์หรือ Hyaluronidase
แพทย์
  • มีป้ายประจำตัวเแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมนำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
  • มีประสบการณ์ 5-15 ปี
  • สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด

เมโสแฟตหน้าท้อง ราคา โปรโมชั่น

ราคาเมโสแฟตจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ สูตรที่ใช้ ปริมาณ CC ที่ใช้ (1 ขวดมีตัวยา 10 cc) จำนวนครั้งที่ฉีด และจุดที่ฉีด หมอจะเป็นผู้ประเมินปริมาณตัวยาที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง ตามความเหมาะสมของแต่ละรายครับ

การฉีดแฟตหน้าท้อง จะใช้จำนวน cc เยอะ เนื่องจากเป็นจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก หลัก ๆ หมอแนะนำเป็น สูตรเร่งไว FNC / BABI/ Neobella ซึ่งช่วยสลายไขมัน ยุบดีและยุบไวครับ

เมโสแฟตแขน Neobella ราคา

20 CC ราคา 5,000.-
40 CC ราคา 9,000.-
คอร์ส 100 CC ราคา 20,000.-

เมโสแฟตแขน FNC / BABI ราคา

30 CC ราคา 9,900.-
60 CC ราคา 18,000.-
คอร์ส 200 CC ราคา 50,000.-

เมโสแฟตหน้าท้อง ราคา

สรุป

วิธีลดไขมันหน้าท้องด้วยการฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลจากการผ่าตัด และมีความปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันไม่มากและต้องการเห็นผลเร่งด่วน แต่การฉีดเมโสแฟตให้ปลอดภัยต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาของแท้ และทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ และควรควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารไขมันต่ำ และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมได้อีก เห็นผลลัพธ์ได้นานมากขึ้นครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

เมโสแฟตเหนียง ช่วยสลายไขมันใต้คางได้อย่างไร เห็นผลเร็วแค่ไหน อยู่ได้นานไหม ?

Categories
Meso Fat
ฉีดเมโสแฟตเหนียง

เมโสแฟตเหนียง 

เหนียง หรือ ไขมันสะสมบริเวณใต้คาง เกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนอ้วน มีน้ำหนักตัวเสมอไป สามารถพบได้ในคนที่มีรูปร่างผอมได้เช่นกัน ปัจจุบันมีหลายวิธีในการลดเหนียง แต่วิธีที่ได้รับความนิยมคือการฉีดแฟตเหนียง

เมโสแฟตเหนียง คืออะไร ? ทำไมถึงได้รับความนิยม ช่วยสลายเหนียงได้อย่างไร ? ต้องทำกี่ครั้งเห็นผล ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตเหนียงอย่างละเอียดมาแนะนำ ต้องใช้กี่ CC หลังทำอยู่ได้นานไหม แตกต่างจากการทำ Hifu-Ulthera-Thermage อย่างไร ?  ราคาเท่าไหร่ แพงไหม ควรเลือกยี่ห้อไหนดี ? ตอบข้อสงสัยทั้งหมดในบทความนี้ครับ

สารบัญ เมโสแฟตเหนียง 

  1. เมโสแฟตเหนียง คืออะไร ?
  2. เหนียง เกิดจากอะไร ?
  3. กระบวนการทำงานของเมโสแฟตเหนียง
  4. เมโสแฟตเหนียง เหมาะกับใคร ?
  5. ข้อดี-ข้อเสีย เมโสแฟตเหนียง
  6. ฉีดเมโสแฟตเหนียง ต้องฉีดกี่ครั้ง ?
  7. เมโสแฟตเหนียง กี่วันเห็นผล ?
  8. รีวิวเมโสแฟตเหนียง
  9. ฉีดเมโสแฟตเหนียง บวมกี่วัน ?
  10. ฉีดเมโสแฟตเหนียง อยู่ได้นานไหม ?
  11. ฉีดเมโสแฟตเหนียง 1 ครั้ง ใช้กี่ CC ?
  12. แฟตเหนียง ยี่ห้อไหนดี ?
  13. ขั้นตอนการฉีดแฟตเหนียง
  14. การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟตเหนียง
  15. เปรียบเทียบ เมโสแฟตเหนียงกับหัตถการอื่น ๆ
  16. ฉีดเมโสแฟตเหนียง ที่ไหนดี ?
  17. ฉีดเมโสแฟตเหนียง ราคาโปรโมชั่น ที่ V Square Clinic

เมโสแฟตเหนียง คืออะไร ?

เมโสแฟตเหนียง คือ การลดเหนียงโดยใช้ตัวยาที่มีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน ฉีดเข้าไปบริเวณเหนียงใต้คาง หรือคางสองชั้น (Double Chin) ที่เกิดจากการสะสมของไขมัน เป็นวิธีการกำจัดไขมันสะสมเฉพาะจุด พร้อมยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด

วิธีลดแก้ม ลดเหนียง แบบเร่งด่วน

เหนียง เกิดจากอะไร ? 

เหนียง หรือ คางสองชั้น เกิดจากไขมันที่สะสมอยู่บริเวณใต้คาง มีลักษณะเป็นก้อนไขมันขนาดใหญ่ เวลาก้มหน้าจะสังเกตเห็นความหย่อนคล้อยของผิวที่ห้อยลงมาตั้งแต่คางจนถึงลำคอ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น : จากการรับประทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย  รวมถึงรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว หรือคอเลสเตอรอลปริมาณมาก เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน กะทิ ปลาหมึกเป็นต้น 
เหนียงเกิดจาก
  • กรรมพันธุ์ : ในคนรูปร่างผอม อาจเกิดจากพันธุกรรม โดยเฉพาะคนที่คางสั้นจะมองเห็นชัดเจนกว่าผู้ที่มีรูปคางปกติ 
  • อายุที่มากขึ้น : ผิวมีปัญหาความหย่อนคล้อย ทำให้มองเห็นเนื้อห้อยย้อยลงมาเป็นคางสองชั้น 
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน : พบมากในวัยทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การก้มหน้าพิมพ์งานตลอดทั้งวันทำให้เกิดรอยพับใต้คางได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเหนียงได้โดยไม่รู้ตัวครับ

กระบวนการทำงานของเมโสแฟตเหนียง 

การทำงานของเมโสแฟตเหนียง เมื่อแพทย์ฉีดตัวยาไปยังตำแหน่งใต้คาง หรือเหนียง ตัวยาจะเข้าไปช่วยให้ไขมันแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง 

การทำงานเมโสแฟตเหนียง

ตัวยา (Meso Fat) ที่ฉีดเข้าไป หลัก ๆ คือ Artichoke extract (Cynara Scolymus) จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของโคเอนไซม์ (Coenzyme) ในกระบวนการ Anabolism เพื่อลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน กระตุ้น Metabolism ซึ่งเป็นกลไกการเร่งการสลายไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย และ L-Carnitine ที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน ช่วยย่อยสลายไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ที่สะสมในชั้นไขมัน 


เมโสแฟตเหนียง เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่ต้องการลดเหนียงอย่างรวดเร็ว สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • ผู้ที่ต้องการลดเหนียง ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
  • ผู้ที่ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง แล้วเหนียงไม่ลด 
  • ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการลดเหนียง แต่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากมีแผลเป็น

ข้อดี-ข้อเสีย เมโสแฟตเหนียง 

ข้อดี 

  • ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างรวดเร็ว 
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น 
  • มีความปลอดภัยสูง เมื่อฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาที่มีคุณภาพ 
  • ราคาไม่แพง สามารถฉีดได้เรื่อย ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงผลลัพธ์การรักษา

นอกจากตัวยาเมโสแฟตจะฉีดได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลดเหนียง ลดแก้มแล้ว ยังสามารถฉีดบริเวณอื่น ๆ ให้ได้สัดส่วนที่ต้องการได้ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน น่อง สะโพก รวมถึงสามารถฉีดเมโสแฟตร่วมกับการฉีดโบท็อกได้ครับ ช่วยลดไขมันและกล้ามเนื้อ เพื่อให้ได้รูปหน้าและรูปร่างที่สวยงาม ดูกระชับมากยิ่งขึ้นครับ 

ข้อเสีย 

  • การฉีด Meso Fat เหนียง ไม่สามารถเห็นผลได้ทันที ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์
  • คนที่มีปริมาณไขมันใต้คางมาก ๆ อาจต้องฉีดประมาณ 4-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน
  • หากพลาดฉีดแฟตปลอม ฉีดตัวยาไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบวม อักเสบ 

ฉีดเมโสแฟตเหนียง ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

จำนวนครั้งในการฉีดเมโสแฟตเหนียงในแต่ละเคสอาจต่างกัน โดยเฉพาะเคสที่มีไขมันมาก อาจฉีด 4-5 ครั้ง และต้องฉีดต่อเนื่องเพื่อเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยหมอจะประเมินจากปริมาณไขมันสะสมเดิมของคนไข้ และแนะนำจำนวนครั้งที่เหมาะสมให้ครับ  


ฉีดเมโสแฟตเหนียง กี่วันเห็นผล ? 

หลังฉีดแฟตเหนียง สามารถเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกประมาณ 10-15% และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ ระหว่างนี้ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อช่วยให้ไขมันเหลวสลายออกจากร่างกายได้ไวขึ้น ช่วยให้เหนียงยุบเร็วขึ้นครับ

รีวิวเมโสแฟตเหนียง 

แฟตเหนียง รีวิว
ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดเมโสแฟต เหนียงมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
รีวิวเมโสแฟต

ฉีดเมโสแฟตเหนียง บวมกี่วัน ?

หลังฉีดแฟตลดเหนียง จะมีอาการบวม 3-4 ชม.ครับ เกิดจากปริมาณตัวยาที่ฉีดเข้าไป เมื่อตัวยาดูดซึมเข้าสู่ผิว อาการบวมก็จะยุบลงได้เอง หากคนไข้กดจะไม่รู้สึกเจ็บหรือปวด ดังนั้นไม่ต้องกังวลครับ เป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้


ฉีดเมโสแฟตเหนียง อยู่ได้นานไหม ?

หลังฉีดเมโสแฟตเหนียง สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเดิมของคนไข้ หากหลังฉีดมีการควบคุมอาหาร ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะสามารถคงผลลัพธ์ได้นานขึ้นครับ


ฉีดเมโสแฟตเหนียง 1 ครั้ง ใช้กี่ CC ?

การฉีดเมโสแฟตเหนียง เริ่มต้นที่ 6 CC ครับ โดยเมโสแฟต 1 ขวดจะมี 10 CC การฉีดต่อครั้งหมอจะประเมินจากไขมันของคนไข้ แนะนำปริมาณตัวยาที่เหมาะสมให้ครับ


แฟตเหนียง ยี่ห้อไหนดี ?

ตัวยาเมโสสำหรับฉีดแฟตเหนียง มีหลายยี่ห้อและคุณสมบัติแตกต่างกันไป โดยสูตรที่ได้รับความนิยม และเห็นผลไว มีดังนี้

1. แฟตเหนียงยี่ห้อ Phytobella : ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ระหว่างฉีดจะรู้สึกแสบเล็กน้อย

2. แฟตเหนียงยี่ห้อ BABI-Neo one : ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง

3. แฟตเหนียงยี่ห้อ FNC 30 : เหมาะกับคนที่มีเหนียงเยอะ สลายไขมันด้วย Special Peptides จึงเป็นสูตรที่มีจุดเด่นเรื่องยุบดีและยุบไว

แฟตเหนียง ยี่ห้อไหนดี

4. แฟตเหนียงยี่ห้อ V Line : ช่วยให้ยุบไวกว่า FNC และตัวยามีความแสบมากกว่าเล็กน้อย


ขั้นตอนการฉีดแฟตเหนียง 

  • คนไข้เข้าปรึกษาแพทย์ แจ้งปัญหา ความต้องการ รวมถึงแจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว 
  • หมอจะแนะนำยี่ห้อเมโสแฟตที่เหมาะสมกับคนไข้ ทั้งในด้านผลลัพธ์การรักษาและราคาที่เหมาะสม
  • ก่อนฉีดจะมีการทำความสะอาดผิวในจุดที่ต้องการฉีด
ขั้นตอนฉีดเมโสแฟตเหนียง
  • มีการประคบน้ำแข็งในจุดที่ฉีด เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม
  • หมอจะค่อย ๆ ดันตัวยาเข้าไปบริเวณที่ต้องการลดไขมัน  

หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมจากปริมาณตัวยาที่ฉีดเข้าไป ซึ่งตัวยาจะดูดซึมเข้าสู่ผิว ยุบได้เองใน 3-4 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลไปครับ สำหรับคนที่กลัวเจ็บ การฉีดเมโสแฟตอาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยตอนฉีดยาหรือตอนกำลังเดินยาเท่านั้นครับ จะมีการประคบน้ำแข็งช่วย หรือแปะยาชาสำหรับคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ 


การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟตเหนียง

  • หลังฉีดเมโสลดเหนียง 1-3 วัน จะมีอาการบวมช้ำเล็กน้อย ไม่ควรกดหรือนวด 
  • หลังฉีดเมโสแฟตเหนียง ควรงดสูบหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดอาการบวม อย่างน้อย 1-3 วัน 
  • งดทาครีมบริเวณที่ฉีด 1 คืน เพื่อลดการสัมผัส หากมีรอยแดง รอยช้ำจากเข็ม สามารถประคบเย็นได้
  • ควรดื่มน้ำในปริมาณที่มาก หรืออย่างน้อยวันละ 2 ลิตร จะช่วยขจัดไขมันเหลวที่ถูกสลายออกจากร่างกายได้ไวขึ้นครับ
  • ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เลี่ยงอาหารที่มีไขมัน ของทอด แป้ง น้ำตาล เพื่อลดการสะสมของไขมันใหม่บริเวณเหนียง

เปรียบเทียบ เมโสแฟตเหนียงกับหัตถการอื่น ๆ 

วิธีการลดเหนียงอื่น ๆ ที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ดี ยังมีอีกหลายวิธีครับ ซึ่งแต่ละวิธีมีจุดเด่นและความเหมาะสมในการแก้ปัญหาได้แตกต่างกัน ส่วนใครจะเหมาะกับวิธีการใด จะต้องให้แพทย์ช่วยประเมินครับ 

  • Thermage FLX : เป็นเครื่องมือยกกระชับ ด้วยเทคโนโลยี Radio Frequency (RF) ส่งความร้อนลงในผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมัน โดยจะยิงความร้อนเป็นก้อนขนาดใหญ่ลงใต้ผิว ช่วยลด Volume ไขมันบนใบหน้าและเหนียงลงได้ เหมาะกับคนที่มีไขมันเยอะ ๆ ช่วยลดไขมันได้ดี ผิวเนียนนุ่ม ไขมันลดลง และผิวกระชับขึ้นใน 1-3 เดือน
  • Hifu หรือ Hifu Macrofocus : เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้น ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS จะช่วยยกกระชับผิวในส่วนที่ยิง ใช้ได้ทั้งเหนียง กระพุ้งแก้ม กรอบหน้า ลำคอ เหมาะกับคนมีไขมันหรือผิวใต้คางหย่อนคล้อยไม่มาก หลังทำสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ 5-6 เดือน 
  • Ulthera SPT : หลักการคล้ายกับ Hifu แต่ยิงพลังงานเป็นเส้นใหญ่กว่า ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS อยู่ได้นานกว่า เจ็บกว่า และราคาสูงกว่า Hifu เหมาะกับคนที่มีเหนียงจากผิวหย่อนคล้อย แต่ไขมันไม่มาก หลังทำเห็นผลทันที 20% และชัดเจนขึ้น 2-3 เดือน ไม่ต้องพักฟื้นเช่นกัน

ทั้ง 3 เครื่องมือยกกระชับที่กล่าวมา สามารถทำคู่กับการฉีดเมโสแฟตเหนียงได้ครับ ช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้น ดีขึ้น เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน 


ฉีดเมโสแฟตเหนียง ที่ไหนดี ?

ฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญคือความปลอดภัยครับ ดังนั้นก่อนฉีดควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตเหนียงอย่างละเอียด โดยพิจารณาดังนี้

1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน : ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สังเกตได้จากมีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลในจุดที่เห็นได้ชัดเจน มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก

2. ฉีดเมโสแฟตกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ : สามารถประเมินปริมาณไขมันสะสมบริเวณเหนียงใต้คาง เลือกยี่ห้อเมโสแฟต คำนวณปริมาณ และใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

เมโสแฟตเหนียงที่ไหนดี โดยหมอซี

3. ใช้ตัวยาเมโสแฟตที่ได้มาตรฐาน : คนไข้ต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนฉีดทุกครั้งว่าตัวยาเมโสที่ใช้นั้นเป็นผลิตภัณฑ์เมโสแฟตแท้หรือไม่ ผลิตมาจากอะไร และนำเข้ามาจากแหล่งใด แนะนำให้แพทย์แกะกล่อง เปิดขวดให้ดูต่อหน้า ขอกล่องและขวดกลับบ้านเพื่อตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่ 

ฉีดเมโสแฟตเหนียง ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ที่ V Square Clinic เพื่อเป็นการยืนยันให้คนไข้มั่นใจได้ว่าเป็นตัวยาแท้ ไม่ว่าจะเป็นเมโสแฟต ฟิลเลอร์ หรือโบท็อก ผลิตภัณฑ์ทุกตัวทีมแพทย์จะแกะกล่อง แกะหลอดให้คนไข้ดู รวมถึงให้กล่อง ขวดกลับบ้าน เพื่อให้คนไข้นำไปตรวจสอบ สืบค้นได้ว่าผลิตภัณฑ์เป็นของแท้จริงหรือไม่ครับ 

ฉีดเมโสแฟตเหนียง ราคาโปรโมชั่น ที่ V Square Clinic

การฉีดเมโสแฟตเหนียง ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณที่เลือกใช้ ที่ V Square Clinic เมโสแฟตเหนียงมีราคาต่อครั้ง และราคาต่อคอร์สที่คุ้มค่า ช่วยให้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีราคาดังนี้ครับ

เมโสแฟตเหนียงราคา
เมโสแฟตเหนียงราคา(1)

สรุป

เมโสแฟตเหนียง เป็นวิธีฉีดลดเหนียงเพื่อกำจัดไขมันสะสมบริเวณเหนียงใต้คางได้อย่างตรงจุด ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาฉีดไม่นาน หลังฉีดเมโสแฟตลดเหนียงแล้ว คนไข้ควรดูแลตัวเอง ออกกำลังกายและควบคุมอาหารควบคู่กัน เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้า ช่วยยกกระชับ หน้าเรียวอย่างเห็นผล รู้ไว้ก่อนตัดสินใจเลือกทำ

Categories
Meso Fat
การฉีดเมโสแฟตหน้า

ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้า คืออะไร ?

หากคิดที่จะปรับรูปหน้าเรียว ลดแก้ม ลดเหนียง “เมโสแฟต” เป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คนมักจะนึกถึงครับ เมโสแฟตเป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายไขมันเข้าไปยังผิวชั้นไขมัน ตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน ทำให้เกิดการแตกตัวหรือดึงไขมันออกจากเซลล์ โดยจุดที่นิยมฉีดบริเวณใบหน้า ได้แก่ แก้มและเหนียงเพราะเป็นจุดที่มีไขมันสะสม ทำให้หน้าใหญ่ หน้าอ้วน หลังฉีดจะเห็นว่าแก้มหรือเหนียงดูลดลง และเมโสแฟตบางยี่ห้อจะช่วยเรื่องยกกระชับผิวด้วยครับ

ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดเมโสแฟตครั้งแรก หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ทั้งในเรื่องของยี่ห้อที่ใช้ ผลข้างเคียงจากการฉีดเมโสแฟต ข้อดี ข้อเสีย และศึกษาข้อมูลเรื่องการเลือกแพทย์และคลินิกที่จะทำ โดยข้อมูลที่ควรทราบทั้งหมด หมอรวบรวมไว้ในบทความนี้แล้วครับ

สารบัญ แฟตหน้า

  1. ยาเมโสแฟตหน้า มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
  2. ฉีดเมโสแฟตหน้า ช่วยอะไรบ้าง ?
  3. ฉีดเมโสแฟตหน้า ช่วยให้หน้าเรียวได้จริงไหม ?
  4. ฉีดเมโสแฟตหน้า เหมาะกับใคร ?
  5. ฉีดเมโสแฟตหน้า มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไร ?
  6. ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟตหน้า
  7. ฉีดแฟตหน้ากี่ครั้งเห็นผล
  8. เมโสแฟตหน้า 1 ครั้ง ใช้กี่ CC ?
  9. ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้า รีวิว
  10. ฉีดแฟตหน้ากี่วันเห็นผล ?
  11. ฉีดแฟตหน้าบวมกี่วัน ?
  12. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดเมโสแฟตหน้า
  13. ข้อห้ามและการปฏิบัติตัวหลังฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้า
  14. ฉีดเมโสแฟตหน้าบวมมาก เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง ?
  15. ฉีดแฟตหน้า กับโบท็อกลดกรามหน้าเรียว แตกต่างกันอย่างไร ?
  16. ฉีดแฟตหน้า กับร้อยไหมหน้าเรียว
  17. ฉีดแฟตหน้าที่ไหนดี
  18. เมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้า ยี่ห้อไหนดี ?
  19. โปรโมชั่นฉีดแฟตหน้า
  20. สรุป

ยาเมโสแฟตหน้า มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

เมโสแฟตมีหลากหลายยี่ห้อ ส่วนประกอบในตัวยาก็จะมีความแตกต่างกันไปครับ แต่สารออกฤทธิ์หลักในตัวยาเมโสแฟตจะต้องเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสลายไขมันในเซลล์หรือทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวได้ ทำให้บริเวณที่ฉีดดูยุบลง เล็กลง จากชั้นไขมันที่หายไปนั่นเองครับ

ตัวอย่างของสารออกฤทธิ์ในเมโสแฟต

  • Artichoke extract (Cynara scolymus) เป็นสารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน 
  • Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholesterol
  • L-carnitine ช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn)
การทำงานเมโสแฟต
L-carnitine เป็นสารที่ช่วยลดเซลล์ไขมันได้

เมื่อเมโสแฟตเข้าสู่ชั้นผิวในบริเวณที่มีไขมันสะสมผ่านการฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้อง ตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวหรือดึงไขมันออกจากเซลล์ และช่วยกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยให้ร่างกายนำไขมันไปใช้ได้มากขึ้น ลดการสร้างและลดการสะสมไขมันใหม่ จากนั้นไขมันจะถูกขับออกตามทางการหายใจและการขับถ่ายครับ


ฉีดเมโสแฟตหน้า ช่วยอะไรบ้าง ?

  • เมโสแฟตช่วยลดแก้ม ลดเหนียง ลดไขมันสะสมที่แก้มและคาง ปรับรูปหน้าเรียว
  • เมโสแฟตช่วยลดไขมันสะสมตามร่างกาย ลดต้นแขน ลดต้นขา ลดหน้าท้อง ลดสะโพก ลดหน้าท้อง
  • เมโสแฟตช่วยยกกระชับจุดที่ลดไขมันให้ดูยกกระชับขึ้นด้วยได้

ฉีดเมโสแฟตหน้า ช่วยให้หน้าเรียวได้จริงไหม ?

เมโสแฟตหน้า ช่วยให้หน้าเรียวได้จริงครับ โดยเฉพาะกับคนที่มีแก้มเยอะ แก้มป่อง เมโสแฟตจะเข้าไปช่วยสลายไขมันบริเวณแก้ม ให้แก้มยุบลง ยกกระชับขึ้น หน้าจะดูเรียวขึ้นได้ครับ แต่ในความที่มีปัญหากรามใหญ่ แก้มตกแก้มห้อยไม่กระชับ หมออาจจะพิจารณาให้ทำหัตถการอื่นร่วมด้วย เช่น ฉีดโบท็อกลดกราม ร้อยไหมก้างปลายกกระชับ เป็นต้น


ฉีดเมโสแฟตหน้า เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันแก้ม ลดแก้ม ลดเหนียง โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • เหมาะกับคนที่มีแก้มเยอะ แก้มป่อง หน้าอ้วน ต้องการปรับรูปหน้าเรียว
  • เหมาะกับที่แก้มลงยาก เหนียงลงยาก แม้จะออกกำลังกายและควบคุมอาหาร เมโสแฟตจะเป็นตัวช่วยให้ไขมันลดได้ไวขึ้น
  • เหมาะกับคนที่ต้องการลดแก้ม ลดเหนียงเร่งด่วน เมโสแฟตจะช่วยลดไขมันได้ใน 2-3 สัปดาห์

ฉีดเมโสแฟตหน้า มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไร ?

ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต

  1. ปลอดภัย ใช้เวลาในการทำไม่นาน ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น
  2. ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนและข้อปฏิบัติหลังทำไม่ยุ่งยาก สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ
  3. เห็นผลเร็ว สามารถทำซ้ำได้ถ้าอยากให้เห็นผลดียิ่งขึ้น
  4. สามารถลดไขมันได้ครั้งละ 10-15% 
  5. ทำได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท
  6. ไม่มีรอยแผล ไม่มีรอยผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  7. ราคาไม่แพง สามารถทยอยทำได้

ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต

  1. หลังทำจะมีอาการบวมตามปริมาตรของยา แต่จะยุบบวมได้เองใน 3-4 ชั่วโมง
  2. เมโสแฟตเป็นการใช้ปฏิกิริยาเคมีกับเซลล์ไขมัน หวังผลได้ไม่แน่นอน ถ้ามีไขมันสะสมเยอะมาก การฉีดเพียง 1 คั้งหรือถ้าใช้ตัวยาน้อยเกินไปจะเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
  3. อยู่ได้ไม่ถาวร ต้องอาศัยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะคงผลลัพธ์ได้ยาวนานมากขึ้น

ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟตหน้า

  • เข้าปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินใบหน้าและจุดที่ต้องการฉีด แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว
  • ก่อนเข้ารับการฉีดเมโสแฟต 48 ชั่วโมง ต้องงดยาในกลุ่มของ แอสไพริน, NSAIDs และ Dipyridamole
  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเมโสแฟตอย่างละเอียด ทั้งกระบวนการ ขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีด เพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ฉีดแฟตหน้ากี่ครั้งเห็นผล ?

เนื่องจากไขมันของแต่ละคนมีมากน้อยต่างกัน ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ในการประเมินปริมาณที่ฉีดในแต่ละครั้งและจำนวนครั้งที่ควรทำ หากฉีดตามที่แพทย์ประเมิน ในการฉีด 1 ครั้ง ไขมันในจุดที่ฉีดจะลดลงได้ประมาณ 10 – 15 % โดยจะเห็นผลใน 1 – 3 สัปดาห์แล้วแต่ยี่ห้อเมโสแฟตที่เลือกใช้ ถ้าอยากให้ไขมันลดลงอีกสามารถมาฉีดเพิ่มได้ครับ


เมโสแฟตหน้า 1 ครั้ง ใช้กี่ CC ?

โดยทั่วไปแก้มใช้ครั้งละ 6 CC ขึ้นไป (ข้างละ 3 cc ขึ้นไป) และเหนียงใช้ครั้งละ 6 cc ขึ้นไป ถ้ามีไขมันสะสมเยอะ แก้มเยอะ หรือมีเวลามาทำไม่บ่อย สามารถฉีดครั้งนึงหลาย CC ในบางเคสอาจใช้ถึง 24 CC ต่อการฉีด 1 ครั้ง จะทำให้แก้มลดไวขึ้น ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำหลายครั้ง แต่ก็จะบวมมากหลังฉีด บวมนานขึ้นครับ แต่ถ้าไม่ได้ต้องการเร่งเห็นผล มีเวลาเข้าคลินิกอย่างต่อเนื่อง หมอแนะนำให้ฉีดครั้งละน้อย ๆ แต่ฉีดบ่อย ๆ ได้ครับ เพื่อลดโอกาสหน้าตอบจากไขมันที่ลดมากเกินไป และจะบวมน้อยมากครับ


ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้า รีวิว

เมโสแฟตแก้มรีวิว
ก่อนทำคนไข้มีความกังวลเรื่องแก้ม หมอแนะนำให้ปรับปรับรูปหน้าให้เรียวโดยการฉีดเมโสแฟตสลายไขมันแก้ม เมื่อมาฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่าแก้มจะค่อย ๆ ลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ
เมโสแฟตเหนียงรีวิว
เมโสแฟต ช่วยลดเหนียง เก็บกรอบหน้าได้ เหมาะกับผู้ที่มีเหนียงไม่มาก

ฉีดแฟตหน้ากี่วันเห็นผล ?

ผลที่ได้จากการฉีดเมโสแฟตจะชัดเจนเต็มที่ประมาณ 1-3 สัปดาห์หลังฉีด ทั้งนี้อยู่ที่ยี่ห้อเมโสแฟต ปริมาณไขมันและปริมาณที่ฉีดด้วยครับ โดยจะเห็นว่าไขมันจะลดลงได้ 10-15% นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ก็ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ด้วยครับ


ฉีดแฟตหน้าบวมกี่วัน ?

การบวมมากน้อยขึ้นกับจำนวน CC ที่ฉีด โดยจะบวมตามปริมาตรที่ฉีดครับ แต่จะยุบบวมลงได้เองใน 3-4 ชั่วโมง เมโสแฟตบางยี่ห้อจะยุบบวมได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดเมโสแฟตหน้า

  • ในบางรายอาจมีอาการบวมช้ำได้เป็นเวลานาน รอยช้ำจะหายได้เองประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • อาการอักเสบติดเชื้ออาจเกิดขึ้นได้ เกิดจากการไม่ได้รับการทำความสะอาดฆ่าเชื้อก่อนทำหัตถการอย่างถูกต้อง มักเกิดจากการฉีดกับบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่แพทย์ หมอกระเป๋า คลินิกเถื่อนไม่ได้มาตรฐาน สามารถลดโอกาสเกิดการติดเชื้อได้โดยฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกมาตรฐานเท่านั้น
  • เกิดก้อนในบริเวณที่ฉีด เกิดจากการใช้ตัวยาไม่ได้คุณภาพ ตัวยากระจายไม่สม่ำเสมอ 

ข้อห้ามและการปฏิบัติตัวหลังฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้า

  • หลังทำแฟตหน้าไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อยๆซึมยุบไปเอง
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
  • เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
  • ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวหน้า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

ฉีดเมโสแฟตหน้าบวมมาก เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง ?

หลังฉีดเมโสแฟตทันทีจะเห็นว่าหน้าบวมมากบวมเหมือนอมลูกอมหลาย ๆ เม็ดพร้อมกัน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปครับ ตัวยาจะค่อย ๆ ซึมยุบไปเองใน 3-4 ชั่วโมง ไม่ทำให้ปวดหรืออักเสบ หรือในบางเคสอาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติครับ


ฉีดแฟตหน้า กับโบท็อกลดกรามหน้าเรียว แตกต่างกันอย่างไร พิจารณาเลือกอย่างไร ?

โบท็อกและเมโสแฟตช่วยในการปรับรูปหน้าเรียวได้ทั้งคู่ครับ แต่ในจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน โบท็อกมีผลต่อกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ ถ้าบนใบหน้าก็จะเป็นกรามและกล้ามเนื้อแสดงสีหน้านั่นเองครับ โดยจะทำให้กล้ามเนื้อหดเล็กลงได้ 4-6 เดือน 

ส่วนเมโสแฟตจะมีผลต่อไขมันโดยเฉพาะ เช่น แก้มและเหนียง ดังนั้นในการปรับรูปหน้าควรจะตรวจประเมินกับแพทย์ก่อนว่าจุดที่คนไข้มีความกังวลเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน หมออาจจะพิจารณาใช้ทั้ง 2 วิธีนี้ร่วมกันได้ครับ


ฉีดแฟตหน้า กับร้อยไหมหน้าเรียว

ร้อยไหมก้างปลาก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยในการปรับรูปหน้าเรียวได้ โดยเป็นการใช้เส้นไหมที่มีเงี่ยงร้อยเข้าไปในชั้นผิวหนัง ทำให้แก้มถูกดึงยกขึ้น แก้มที่เคยตก เคยหย่อนไม่กระชับ จะดูยกขึ้น ใบหน้าเรียว V-shape ขึ้นได้ แต่การร้อยไหมหน้าเรียวไม่ได้ช่วยให้ไขมันแก้มลดลงครับ ซึ่งต่างจากการฉีดเมโสแฟตที่เน้นการลดไขมันครับ

ดังนั้น หากเป็นคนที่มีแก้มเยอะ หมอจะแนะนำให้ใช้เมโสแฟตลดแก้มก่อน เมื่อแก้มลดลงแล้วเกิดความหย่อนคล้อยไม่กระชับ หมออาจพิจารณาให้ร้อยไหมก้างปลาเพิ่มเติม โดยจะคงสภาพการร้อยไหมได้นานขึ้นมากกว่าการร้อยไหมเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ถ้าไขมันแก้มเยอะมากและร้อยไหมก้างปลาทันที อาจทำให้บริเวณโหนกแก้มดูบวม ใบหน้าช่วงบนใหญ่ขึ้นได้ครับ


ฉีดแฟตหน้าที่ไหนดี ?

ถึงแม้ว่าการฉีดเมโสแฟตจะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย แต่ไม่ใช่ว่าจะฉีดที่ไหนหรือฉีดกับใครก็ได้ครับ ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและฉีดโดยแพทย์เท่านั้น โดยหมอมีเทคนิคการเลือกคลินิกและแพทย์ ดังนี้ครับ 

  • คลินิกต้องแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลไว้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งคลินิกจะต้องมีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คนไข้ในการเข้ารับการรักษา และเป็นการยืนยันว่าเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน
  • คลินิกควรสะอาดเรียบร้อย, มีอุปกรณ์ เครื่องมือ ยาและเวชภัณฑ์อย่างครบถ้วน, มีห้องหัตถการและพื้นที่กว้างขวาง ไม่อับทึบ
  • อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในร้อยไหมในคลินิกจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ ถูกต้องตามหลักอนามัย 
  • คลินิกควรจะตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางเข้ามาติดต่อได้สะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้น การรอคิวสามารถเดินเล่นหรือหาอะไรทานระหว่างรอได้
  • ควรเลือกฉีดเมโสแฟตกับคลินิกที่มีแพทย์ประจำคลินิก ซึ่งสามารถที่จะขอดูผลงานของหมอประจำคลินิกได้ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อีกระดับหนึ่ง
  • คลินิกควรมีช่องทางติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่าง  ๆ เช่น Line@ หรือ Facebook สำหรับให้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับคุณหมอที่ทำเคสของตนเองโดยตรงได้อย่างสะดวก
  • แพทย์ควรมีป้ายประจำตัวเแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม นำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
  • มีประสบการณ์การฉีดเมโสแฟต เพื่อจะแนะนำสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิว แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
  • เป็นแพทย์ประจำของคลินิก ไม่ใช่แพทย์ Part-time เพราะแพทย์ประจำจะสามารถดูแลเคสได้ต่อเนื่อง สามารถติดตามตัวได้ และย่อมที่จะรักษาชื่อเสียงของคลินิก
  • พิจารณาจากรีวิวในแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น pantip, facebook ที่คลินิกไม่สามารถลบข้อความได้ ว่ามีที่ผ่านมาเคยมีผู้ที่เข้ารับการฉีดมาเด้จากคุณหมอท่านนั้นมากน้อยเพียงใด และคำบอกเล่าประสบการณ์จากผู้ใช้บริการจริง
  • สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำได้
  • สามารถขออนุญาตคุณหมอเพื่อตรวจเช็คว่าเป็นเมโสแฟตของแท้ที่ผ่าน อย.หรือไม่ ก่อนฉีดเมโสแฟตทุกครั้ง หรือขอให้คุณหมอผสมตัวยาให้ดูต่อหน้าได้
ที่ตั้งคลินิก
คลินิกควรตั้งอยู่ในจุดที่เดินทางสะดวก ไม่หลบมุม สังเกตเห็นได้ชัด กว้างขวางและสะอาด

เมโสแฟต ( Meso Fat ) หน้า ยี่ห้อไหนดี

ในคลินิกเสริมความชั้นนำในประเทศไทยได้มีการนำเมโสแฟตมาใช้หลากหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ส่วนผสมที่แตกต่างกัน โดยยี่ห้อที่นิยมและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มีดังนี้

  • เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella
Meso Fat Phytobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิด  สามารถใช้ฉีดเพื่อสลายไขมันได้หลายส่วนของร่างกาย อาทิ เหนียงใต้คาง แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพกและน่อง ช่วยในการยกกระชับผิว ลดอาการบวมน้ำ กลไกการออกฤทธิ์หลักจะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ต้องการลดเซลลูไลท์

ข้อดี : ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยครับ

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบเล็กน้อย

ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,000 บาท

  • เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One
Meso Fat Babi

เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาแก้มหย่อน โดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับ เห็นผลไว นิยมใช้ในการฉีดลดเหนียง ลดความหย่อนคล้อยใต้คาง

มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดอาการบวม ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันและคลอเรสเตอรอลในเลือด โดยละลายไขมันให้แตกตัวเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ไขมันจึงลดลง ยกกระชับได้ดีครับ

ข้อดี : ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ ฉีดแล้วยุบดี หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดมีอาการแสบ (แต่จะแสบน้อยที่สุดในบรรดายี่ห้อเมโสแฟตทั้งหมด)

ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,500 บาท

  • เมโสแฟตยี่ห้อ FNC
Meso Fat FNC

เมโสแฟตยี่ห้อ FNC 30 เหมาะกับคนแก้มเยอะ สามารถช่วยกกระชับหน้า ช่วยในการป้องกัน Elastin และ Hyaluron ในชั้นผิวไม่ให้เสื่อมสภาพ ช่วยลดบวม ลดไขมัน กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ช่วยลดไขมันได้ดี และเห็นผลไว โดยที่ไม่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยหลังไขมันลดครับ

ข้อดี : ยุบดีและไว เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มเยอะ

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลางๆ

ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,500 บาท


โปรโมชั่นฉีดแฟตหน้า

เมโสแฟตราคา
เมโสแฟตราคา2

โปรโมชั่น เมโสแฟต

  • เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella

เมโสแฟต 6 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 9,000.-
เมโสแฟต 12 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 15,000.-

  • เมโสแฟตยี่ห้อ FNC / Babi 

เมโสแฟต 6 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 9,900.-
เมโสแฟต 12 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 18,000.-
เมโสแฟต 18 CC คอร์ส 5 ครั้ง เมโสแฟต ราคา 25,000.-


สรุป

เมโสแฟตหน้า เป็นวิธีช่วยลดแก้ม เหนียง ปรับรูปหน้าเรียวที่ทำได้ง่าย ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้จริง แต่การจะฉีดเมโสแฟตให้ปลอดภัย ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดดำเนินการอย่างถูกต้อง และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบติดเชื้อหรือเกิดผลข้างเคียงตามมา และควรทำความเข้าศึกษารายละเอียดของการฉีดเมโสแฟต ตัวยาแต่ละยี่ห้อ รวมถึงเข้าปรึกษาและตรวจประเมินโดยแพทย์ก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ฉีดแฟตแก้ม ลดแก้มใหญ่ แก้มเยอะ ปรับหน้าเรียว กี่วันเห็นผล ก่อนฉีดควรรู้อะไร ?

Categories
Meso Fat
แฟตแก้ม

ฉีดแฟตแก้ม

ใครที่มีปัญหาแก้มใหญ่  แก้มย้อย มีไขมันสะสมที่แก้มเยอะ ต้องการแก้ไข การ “ ฉีดแฟตแก้ม ”  เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เห็นผลลัพธ์ดีครับ 

การฉีดแฟตแก้ม คืออะไร ? ช่วยสลายไขมันที่แก้มได้อย่างไร ? หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการนี้มาให้ศึกษาก่อนตัดสินใจทำครับ เหมาะกับใครบ้าง ?  ต้องทำกี่ครั้งเห็นผล ? หลังทำหน้าบวมไหม หน้าบวมกี่วัน ? อยู่ได้กี่เดือน ? ดีไหม ราคาเท่าไร ?  ใช้กี่ CC ? พร้อมแนะนำวิธีการเลือกตัวยา ฉีดยี่ห้อไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไร ? หรือควรตัดสินใจใช้บริการที่ไหนดี ? ทุกข้อสงสัยที่คนไข้ถามเข้ามา หมอรวบรวมมาตอบไว้ในบทความนี้ครับ 

สารบัญ ฉีดแฟตแก้ม 

  1. ฉีดแฟตแก้ม คืออะไร ?
  2. แก้มเยอะ แก้มห้อย เกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไร ?
  3. ฉีดแฟตแก้ม ช่วยสลายไขมันที่แก้มได้อย่างไร ?
  4. ข้อดี – ข้อเสีย การฉีดแฟตแก้ม 
  5. ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) แก้ม กี่วันเห็นผล ?
  6. ฉีดแฟตแก้ม อยู่ได้กี่เดือน ?
  7. ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) แก้ม บวมกี่วัน ?
  8. เมโสแฟต (Meso Fat) แก้ม ต้องฉีดกี่ครั้ง ?
  9. ฉีดแฟตแก้ม 1 ครั้ง ใช้กี่ CC ?
  10. ฉีดแฟตแก้ม ยี่ห้อไหนดี ?
  11. เตรียมตัวก่อนฉีดแฟตแก้ม 
  12. ผลข้างเคียงหลังฉีดแฟตแก้มมีหรือไม่ ? 
  13. หลังฉีดแฟตแก้ม การดูแลตัวเองอย่างไร ? 
  14. ฉีดแฟตแก้ม ที่ไหนดี ?
  15. ฉีดแฟตแก้ม ราคา โปรโมชั่น ที่ V Square Clinic
  16. รีวิว ฉีดแฟตแก้ม
หน้ากลมแก้มเยอะ อยากลดแก้มทำอย่างไร ? วิธีลดแก้ม ลดเหนียง แบบเร่งด่วน 

ฉีดแฟตแก้ม คืออะไร ?

การฉีดแฟตแก้ม หรือ การฉีดเมโสแฟตแก้ม คือ การฉีดตัวยาที่ออกฤทธิ์ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน โดยแพทย์จะฉีดเข้าไปบริเวณแก้มที่มีไขมันสะสมด้วยเทคนิคเฉพาะ ทำให้ไขมันลดลง จึงลดขนาดแก้มให้เล็กลงได้ครับ เหมาะกับคนที่มีแก้มเยอะ แก้มยุ้ย ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก 

ฉีดแฟตแก้ม โดยหมอเพลิน

แก้มเยอะ แก้มห้อย เกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไร ?

ปัญหาแก้มเยอะ แก้มห้อย แก้มย้อย จนทำให้หน้าใหญ่ หน้าบาน ไม่เข้ารูป สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากไขมันสะสม ที่มาจากการรับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ของหวาน ของมัน ของทอด รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มประเภทอัดลม มีน้ำตาล และแอลกอฮอล์ครับ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดไขมันสะสมครับ 

แก้มเยอะ

นอกจากพฤติกรรมการกินแล้ว ปัญหาแก้มเยอะ แก้มห้อย ยังเกิดได้จากกรรมพันธุ์ และอายุผิวที่มากขึ้น ทำให้ดูแก้มดูเยอะจากความหย่อนคล้อยของผิวที่เสื่อมสภาพลง

วิธีแก้ไขเบื้องต้น หมอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินครับ ลดเลี่ยงตัวการก่อไขมันสะสม ตามที่หมออธิบายไว้ข้างต้น ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะบริเวณแก้ม รวมถึงเหนียง เป็นตำแหน่งลดยาก 

ดังนั้นในทางแพทย์จึงมีการคิดค้นแนวทางแก้ไข ที่เป็นทางลัด ในการกำจัดไขมันส่วนเกินในจุดนี้ เช่น การฉีดเมโสแฟตแก้ม-เหนียง สลายไขมันส่วนเกิน  และการใช้เครื่องมือยกกระชับ อาทิ  Hifu / Ulthera/Thermage เพื่อยกกระชับผิว สามารถยกแก้ม ลดไขมันแก้ม ยกแก้มหย่อน เก็บกรอบหน้าให้หน้าเรียววีเชฟ  เห็นผลลัพธ์ได้เร็วเฉลี่ย 1 สัปดาห์ และยังมีความปลอดภัยสูง เมื่อทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ 


ฉีดแฟตแก้ม ดีไหม ช่วยสลายไขมันที่แก้มได้อย่างไร ?

การฉีดแฟตแก้ม เป็นหัตถการที่ดีและหมอมักแนะนำในอันดับต้น ๆ ครับ เพราะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด เห็นผลเร็ว คุ้มค่า ราคาไม่แพง และยังเป็นหัตถการที่ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ หากต้องการลดแก้ม ปรับรูปหน้า หรือสร้างกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น   

การทำงานของเมโสแฟต เมื่อแพทย์ฉีดตัวยาลงไปบริเวณแก้ม ตัวยาจะเข้าไปทำให้ ไขมันแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง

การทำงานเมโสแฟตแก้ม

ในส่วนของตัวยาเมโสแฟต ที่ฉีดโดยแพทย์ และใช้ตัวยาที่ได้มาตรฐานจะมีความปลอดภัยครับ โดยตัวยาที่ ออกฤทธิ์หลัก ๆ คือ

  •  Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ฉีดลดแก้ม หรือต้องการลดเซลลูไลท์
  • Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholessterol ในเนื้อเยื่อ
  • L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn)

ข้อดี – ข้อเสีย ของการฉีดแฟตแก้ม 

ข้อดี 

  • หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น
  • บวมช้ำน้อย 
  • ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน
  • เห็นผลเร็ว
  • ปลอดภัยสูง
  • ราคาไม่แพง

นอกจากนี้ การฉีดเมโสแฟต ยังช่วยขจัดไขมันส่วนเกิน ทั้งบริเวณใบหน้าและอวัยวะอื่น ๆ ให้ได้สัดส่วนที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัดและไม่มีเวลาพักฟื้นครับ

ข้อเสีย 

การฉีดเมโสแฟต ไม่ได้เห็นผลว่าไขมันยุบลงทันที ตามที่หลาย ๆ คนเข้าใจกัน การฉีดเมโสแฟตต้องใช้เวลาให้ตัวยาทำงานครับ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ และในคนที่มีไขมันสะสมมาก ๆ อาจจะต้องฉีดมากกว่าหนึ่งครั้ง จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน 


ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) แก้ม กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดเมโสแฟตแก้ม จะให้ผลลัพธ์ชัดเจนในช่วง 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่แก้มของแต่ละบุคคล รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในช่วงที่ตัวยาเมโสแฟตกำลังทำงาน ทั้งการออกกำลังกาย ประเภทอาหารที่รับประทาน ถือว่ามีความสำคัญครับ หากมีการออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร ก็จะเห็นการผลลัพธ์เร็วขึ้น และชัดเจนมากขึ้นครับ  


ฉีดแฟตแก้ม อยู่ได้กี่เดือน ?

ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้ นาน 2-3 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันร่วมด้วยเช่นกัน เพราะหากฉีดแล้วยังไม่ควบคุมพฤติกรรมการกิน อาจไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของผลการรักษา คงผลลัพธ์ได้สั้นลง 


เมโสแฟต (Meso Fat) แก้ม ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

การฉีดเมโสแฟต 1 ครั้งจะสามารถสลายไขมัน 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดครับ ซึ่งการฉีดแฟตแก้มในแต่ละบุคคล จำนวนครั้งควรให้แพทย์จะประเมินโดยพิจารณาจากไขมันสะสมของคนไข้แต่ละบุคคล โดยทั่วไปในคนแก้มเยอะมาก ๆ จะฉีด 4-5 ครั้งครับ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ  


ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) แก้ม บวมกี่วัน ? 

อาการบวมหลังฉีดเมโสแฟตเสร็จทันที เป็นอาการปกติครับ เนื่องจากตัวยากำลังซึมเข้าไป โดยจะบวมในช่วง  3-4 ชม. แรกคล้ายคนอมลูกอม ไม่ต้องกังวลใจครับ อาการนี้สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตราย เมื่อตัวยาซึมเข้าไปหมดแล้วครับ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้หน้าได้ตามปกติ


ฉีดแฟตแก้ม 1 ครั้ง ใช้กี่ CC ?

การฉีดแฟตแก้มจะเริ่มต้นที่ 6CC ครับ ซึ่งปริมาณการฉีดต่อครั้งแพทย์จะประเมินจากไขมันของคนไข้และแนะนำปริมาณที่เหมาะสมให้ครับ (เมโสแฟต 1 ขวด มี 10 CC)


ฉีดแฟตแก้ม ยี่ห้อไหนดี ?

ปัจจุบันตัวเมโสแฟตแก้มมีหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่ต่างกัน สำหรับยี่ห้อที่ได้รับความนิยมที่ทาง V Square Clinic เลือกนำมาใช้มีดังนี้

  • ยี่ห้อ Phytobella : ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ขณะฉีดจะรู้สึกแสบเล็กน้อยครับ หลังฉีดเห็นผล 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน มักต้องทำซ้ำเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 1-3 สัปดาห์ สามารถใช้ฉีดเพื่อสลายไขมันได้หลายส่วนของร่างกาย อาทิ เหนียงใต้คาง แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพกและน่อง ผิวเฟิร์มกระชับ ลดอาการบวมน้ำ
  • ยี่ห้อ BABI Neo One : ตัวยาเหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาแก้มหย่อน สามารถสลายไขมันพร้อมยกกระชับผิว หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ใน 3 วัน  ขณะฉีดมีอาการแสบบ้าง แต่จะแสบน้อยที่สุดในบรรดายี่ห้อเมโสแฟตทั้งหมดครับ
  • ยี่ห้อ FNC 30 : เป็นตัวยาเหมาะกับผู้ที่มีแก้มเยอะ  แก้มป่องจากไขมันส่วนเกิน ช่วยลดเหนียง ลดแก้ม คาง 2 ชั้นได้ดี ด้วยกลไกสลายไขมันด้วย Special Peptides จึงเป็นสูตรที่มีจุดเด่นเรื่องยุบดีและยุบไว ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ ครับ
ฉีดแฟตแก้ม ยี่ห้อไหนดี
  • ยี่ห้อ V Line  : เป็นยี่ห้อใหม่ที่นำเข้ามา ฉีดแล้วยุบตัวไว ช่วยป้องกันเซลลูไลท์ พร้อมยกกระชับผิว ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ

ผลข้างเคียงหลังฉีดแฟตแก้มมีหรือไม่ ? 

ผลข้างเคียง จากการฉีดเมโสลดแก้ม นอกจากอาการบวมหลังการฉีด ที่เป็นเรื่องปกติ และหายได้เองแล้ว อาจมีอาการผิดปกติอื่นๆ เกิดขึ้น ในกรณีที่คนไข้ ฉีดตัวเมโสแฟตที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่สะอาด มีการอักเสบติดเชื้อเกิดขึ้น 

ฉีดตัวเมโสแฟตที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่พบได้บ่อย ๆ คือ  

  • ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) : ที่นำมาใช้แบบผิดวัตถุประสงค์ เพราะดูเหมือนว่าเห็นผลลัพธ์เร็ว แต่แท้จริงแล้ว แก้มยุบเพราะตัวยาจะเข้าไปสลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้แก้มหาย แก้มตอบ ผลเสียในระยะยาวคือ ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดเกิดการหย่อนคล้อยจากการสูญเสียคอลลาเจน ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยครับ  
  • ยาสเตียรอยด์ : ถูกนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์เช่นกันครับ เพราะต้นทุนต่ำ แก้มยุบตัวเร็วทันใจ แต่เสี่ยงอันตรายหลายเท่าตัวครับ เพราะต้องใช้ยาสเตียรอยด์ในปริมาณที่มาก เสี่ยงติดเชื้อง่าย หน้าบวมอักเสบรุนแรง 

เตรียมตัวก่อนฉีดแฟตแก้ม ?

เพื่อความปลอดภัยและคุ้มค่า ก่อนฉีดแฟตแก้มควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเมโสแฟตอย่างละเอียด ทั้งขั้นตอนการเตรียมตัว การเลือกคลินิก รู้วิธีสังเกตเมโสแฟตแท้-ปลอม รวมถึงการดูแลตัวเองหลังการฉีดครับ 

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีดแฟตแก้ม 48 ชม. 

  • ควรงดยาในกลุ่มแอสไพริน (Aspirin), NSAIDs วิตามิน บางชนิด ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • หากเข้าคอร์สเลเซอร์หรือนวดหน้าให้งดทำอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีด 
  • หากมีโรคประจำตัว หรือต้องรับประทานยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้งครับ

หลังฉีดแฟตแก้ม ดูแลตัวเองอย่างไร ?

  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร จะช่วยกำจัดไขมันเหลวที่ถูกสลาย ขับออกจากร่างกายตามกลไกการขับของเสียตามธรรมชาติได้เร็วขึ้น ช่วยให้แก้มยุบไวขึ้น
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง ของมัน ของทอด อาหารรสเค็ม แป้ง น้ำตาล เพื่อลดการสะสมของไขมันใหม่ไม่ให้แก้มกลับมาใหญ่ได้อีก
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อกำจัดไขมันออกจากร่างกายให้เร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมัน

ฉีดแฟตแก้ม ที่ไหนดี ?

การเลือกฉีดเมโสแฟตแก้มที่ไหนดี สิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญคือ ความปลอดภัยครับ ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์เท่านั้น โดยวิธีสังเกตคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีดังนี้

ฉีดแฟตแก้ม ที่ไหนดี
  • คลินิกมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก คลินิกมีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
  • ใช้ตัวยาเมโสแฟตแท้ตรวจสอบได้ โดยให้หมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถขอกล่องนำมาตรวจสอบด้วยตัวเองได้
  • มีแพทย์แบบ FullTime มีประสบการณ์สูงด้านการปรับรูปหน้า จะสามารถประเมินปริมาณการใช้ยาได้เหมาะสมกับจุดที่ต้องการแก้ไข ให้คำแนะนำหลังฉีดแฟตแก้ม ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้คนไข้เข้าใจเป็นอย่างดี มีการนัดหมายติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
  • มีช่องทางไว้ติดต่อสอบถามได้สะดวก ทั้งเบอร์โทรศัพท์หรือผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Line@ ตอบคำถามโดยแพทย์ที่ทำเคสโดยตรง
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง มีภาพเปรียบเทียบก่อนทำ-หลังทำ และควรมีภาพเคลื่อนไหวที่เป็นคลิปวิดีโอ เพราะตกแต่งภาพได้ยาก ทำให้เห็นผลลัพธ์จริงดูเชื่อถือขึ้น 
  • ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป

ฉีดแฟตแก้ม ราคา โปรโมชั่น ที่ V Square Clinic

ที่ V Square Clinic เลือกใช้จะเป็นตัวยาเมโสแฟตพรีเมียมคุณภาพสูง ราคาเมโสแฟตแต่ละยี่ห้อ จะมีราคาต่อครั้งและราคาคอร์ส 5 ครั้งที่คุ้มค่า ดังนี้

แฟตแก้ม ราคา
แฟตแก้ม ราคา

รีวิว ฉีดแฟตแก้ม

รีวิวฉีดเมโสแฟตลดแก้ม ที่ V Square Clinic
รีวิวฉีดเมโสแฟตแก้ม
เคสรีวิว ฉีดเมโสแฟตสลายไขมันแก้ม ควบคู่กับการฉีดโบท็อกลดกราม
รีวิวฉีดเมโสแฟตแก้ม
เคสรีวิว ฉีดเมโสแฟตลดแก้ม 12 CC สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

สรุป

เมโสแฟตแก้ม เป็นหัตถการที่ช่วยสลายไขมันสะสมเฉพาะจุดได้อย่างเห็นผล คุ้มค่า คุ้มราคา เห็นผลลัพธ์ไว แต่ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัย ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดเมโสแก้มควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาเมโสแฟตแท้ และฉีดโดยแพทย์มีประสบการณ์เท่านั้นครับ 


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

เมโสแฟตต้นแขน กำจัดไขมันส่วนเกิน แก้ปัญหาแขนใหญ่ ให้เล็ก เรียว สวย อย่างเห็นผล

Categories
Meso Fat
เมโสแฟตต้นแขน

เมโสแฟตลดต้นแขน

ปัญหาต้นแขนใหญ่ เป็นอีกปัญหาที่หลาย ๆ คนกังวล ใส่ชุดอะไรก็รู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้าใส่เสื้อโชว์แขน บางคนออกกำลังกาย ควบคุมอาหารแล้ว แต่ต้นแขนก็ยังไม่ลด จึงมองหาวิธีที่จะช่วยลดต้นแขนที่เห็นผลจริงและรวดเร็ว ทั้งการดูดไขมัน การสลายไขมันด้วยความเย็น และ “การฉีดเมโสแฟตแขน” ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมครับ

ในบทความนี้ หมอจะมาอธิบายอย่างละเอียดว่าเมโสแฟตต้นแขน คืออะไร ตัวยาเมโสแฟตช่วยสลายไขมันต้นแขนได้อย่างไร เหมาะกับใครบ้าง ในการฉีดลดต้นแขนต้องใช้กี่ CC ทำแล้วกี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ราคาเท่าไร มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไรบ้าง ทุกประเด็นที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจทำครับ

สารบัญ เมโสแฟตลดต้นแขน

  1. เมโสแฟตลดต้นแขน คืออะไร ?
  2. แขนใหญ่ ไขมันสะสมที่ต้นแขน เกิดจากอะไร สาเหตุของแขนใหญ่
  3. วิธีกำจัดไขมันต้นแขน วิธีต่าง ๆ
  4. ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน หรือ ฉีดโบท็อกต้นแขน วิธีไหนได้ผลดีกว่า พิจารณาเลือกอย่างไร ?
  5. กระบวนการทำงานของเมโสแฟตต้นแขนเป็นอย่างไรบ้าง ?
  6. เมโสแฟตต้นแขนเจ็บไหม ?
  7. เมโสแฟตลดต้นแขน เหมาะกับใคร ?
  8. รีวิวฉีดเมโสแฟตสลายไขมันต้นแขน
  9. ข้อดี – ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน
  10. เมโสแฟตลดต้นแขน เห็นผลจริงไหม กี่วันเห็นผล ?
  11. ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน กี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
  12. เมโสแฟตลดต้นแขน แต่ละครั้งใช้กี่ CC ?
  13. เมโสแฟตต้นแขนอยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ? 
  14. เมโสแฟตต้นแขน ยี่ห้อไหนดี ?
  15. ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขนที่ไหนดี ?
  16. เมโสแฟตต้นแขน ราคา โปรโมชั่น

เมโสแฟตลดต้นแขน คืออะไร ?

เมโสแฟตลดต้นแขน คือการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมัน เข้าไปยังชั้นผิวชั้นไขมัน (Subcutis) บริเวณต้นแขน ซึ่งเป็นจุดที่มักจะมีไขมันมาสะสม สารออกฤทธิ์ในตัวยาเมโสแฟต เช่น L-carnitine, Mesostabyl จะกระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย เกิดการดึงไขมันออกจากเซลล์ จากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่ายครับ

เมื่อไขมันเกิดการสลายตัว จะเห็นว่าต้นแขนจะค่อย ๆ เล็กลง ชั้นไขมันดูลดลง ถ้าฉีด 1 ครั้งในปริมาณที่เหมาะสม จะเห็นว่าต้นแขนเล็กลงกว่าเดิม 10-15 % ในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ครับ หากต้องการลดไขมันลงอีก ก็สามารถฉีดเพิ่มได้ครับ

การทำงานเมโสแฟต
เมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายเซลล์ไขมันเข้าผิวชั้นกลาง ทำให้มีเซลล์ไขมันลดลงหรือมีขนาดเล็กลง

แขนใหญ่ ไขมันสะสมที่ต้นแขน เกิดจากอะไร สาเหตุของแขนใหญ่

ต้นแขนใหญ่ มีไขมันส่วนเกิน เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

  • กรรมพันธุ์ พ่อแม่ที่มีรูปร่างอ้วน อาจจะส่งต่อพันธุกรรมที่ทำให้รูปร่างอ้วนใหญ่ไปยังลูกได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลัก 100% มีผลแค่ 40-70% เท่านั้น ความอ้วนที่เกิดจากกรรมพันธุ์จะลดได้ค่อนข้างยากครับ
  • เพศและอายุ เพศและอายุมีความเกี่ยวข้องกับการรักษารูปร่างในด้านของการเผาผลาญอาหาร กล่าวคือ ผู้ชายมีแนวโน้มเผาผลาญได้เร็วกว่าผู้หญิง และเมื่อคนเราอายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญจะลดลง แต่ตามสถิติแล้วผู้ชายจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากกว่าผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจะเป็นไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพก ต้นขา ต้นแขนมากกว่าครับ
  • ทานอาหารประเภทไขมัน แป้ง หรือโซเดียมมากเกินไป หากทานอาหารที่เป็นไขมัน คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลเกินปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน สุดท้ายจะถูกเปลี่ยนสภาพมาเป็นไขมัน เมื่อสะสมมาก ๆ ทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด จึงเกิดการสะสมและแทรกซึมอยู่บริเวณอวัยวะต่าง ๆ และการทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ส่งผลให้ดูตัวบวมขึ้นได้ครับ
ทานอาหารไขมันสูง
การรับประทานอาหารไขมันสูงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกิน
  • ไม่ค่อยขยับหรือออกกำลังกายน้อย หากเป็นคนที่นั่งทำงานอยู่กับที่ เคลื่อนไหวร่างกายน้อย ไม่ออกกำลังกาย ร่างกายจึงใช้พลังงานน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็อาจเกิดไขมันสะสมได้ เนื่องจากร่างกายไม่ได้เกิดการเผาผลาญสารอาหารเท่าที่ควร จึงสะสมไว้ในร่างกาย
  • ต้นแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่ง เล่นกีฬาที่ต้องออกแรงแขนเยอะ อาจทำให้ต้นแขนดูใหญ่ได้ แต่สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันครับ

วิธีกำจัดไขมันต้นแขน วิธีต่าง ๆ

  1. ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ

วิธีนี้เป็นวิธีกำจัดไขมันต้นแขนที่จะช่วยลดไขมันได้ตั้งแต่ต้นเหตุ ควรรับประทานที่มีสารอาหารอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ ถ้ามวลกล้ามเนื้อมากขึ้น ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น  และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ใช้น้ำมัน มีไขมันสูง เช่น อาหารประเภททอด ผัด อาหาร junk food

และเมื่อเปลี่ยนการรับประทานอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย โดยเฉพาะเวทเทรนนิ่งบริหารแขนและต้นแขน จะช่วยให้ไขมันต้นแขนค่อย ๆ ลดลงได้ครับ วิธีนี้เป็นวิธีลดต้นแขนที่เห็นผลจริง ยั่งยืน ดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม ประหยัด ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา และต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรครับ

  1. การดูดไขมันต้นแขน

การดูดไขมันต้นแขน (Arm liposuction) เป็นการใช้เครื่องมือที่ทำให้ไขมันบริเวณที่ทำเกิดการแตกตัว เช่น เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ เครื่องดูดไขมันกลุ่มความร้อน เครื่องดูดไขมันพลังงานกลการสั่นสะเทือน เมื่อไขมันแตกตัวแล้วทำการดูดไขมันออกโดยใช้ท่อหรือไซริงค์ครับ 

การดูดไขมันเป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรือไขมันเยอะจากกรรมพันธุ์ ออกกำลังกายแล้วไม่ลง ต้องการเห็นผลชัดเจน รวดเร็ว เห็นว่ายุบทันที และเหมาะกับคนที่อ้วนมาก ๆ  แต่เป็นวิธีที่ค่อนข้างเจ็บ บวมช้ำนาน อาจจะต้องพักฟื้นนานเกิน 1 เดือน หลังทำมีบางเคสพบปัญหาผิวไม่เรียบในบริเวณที่ดูดไขมัน ต้องทำการแก้ไข และทิ้งรอยแผลเป็นตามแนวที่สอดเครื่องมือได้ครับ

  1. การสลายไขมันด้วยความเย็น

การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีการสลายไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องลงมีด ไม่ต้องใช้เข็ม โดยใช้หลักการแช่แข็งเซลล์ไขมันให้แตกตัว เพราะเซลล์ไขมันจะไวต่อความเย็นมากกว่าน้ำและเนื้อเยื่ออื่น ๆ เมื่อใช้ความเย็นจัดในระยะเวลาหนึ่ง จะมีเฉพาะเซลล์ไขมันเท่านั้นที่ถูกแช่แข็ง เกิดเซลล์ไขมันตายและถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ถาวรครับ

เครื่องที่นิยมใช้ในการสลายไขมันด้วยความเย็นและเป็นเครื่องที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล คือ เครื่อง CoolSculpting ครับ สามารถลดไขมันส่วนเกินลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง เหมาะกับคนที่ไม่อยากมีแผลผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น และมีไขมันสะสมไม่เยอะมาก BMI<35 ครับ

  1. การฉีดเมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟตเป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันเข้าไปในผิวชั้นไขมัน กระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว หรือกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยในการดึงไขมันออกจากเซลล์ จากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย  ในการฉีด 1 ครั้งตามปริมาณที่เหมาะสม ไขมันจะลดลงได้ 10-15% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 อาทิตย์ 

แต่การฉีดเมโสแฟตมีข้อเสียคือหวังผลได้ไม่แน่นอน และอาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน เนื่องจากการออกฤทธิ์ของตัวยานั้นขึ้นกับปัจจัยของร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผลดีมาก บางคนไม่เห็นผลก็มีครับ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัดอาจจะทดลองใช้วิธีนี้ก่อน หากเห็นผลดีก็จะช่วยประหยัดเงินได้ครับ


ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน หรือ ฉีดโบท็อกต้นแขน วิธีไหนได้ผลดีกว่า พิจารณาเลือกอย่างไร ?

การที่จะเลือกว่าเมโสแฟตลดต้นแขนและโบท็อกต้นแขนวิธีไหนดีกว่ากัน ? ต้องพิจารณาจากโครงสร้างต้นแขนของแต่ละคนเป็นหลักครับ โดยถ้าต้นแขนใหญ่จากไขมัน แขนย้วย เมื่อยกแขนขึ้นมาทำมุม 90 องศา แล้วลองจับดูจะเป็นเนื้อนิ่ม ๆ แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันจะเห็นผลดีกว่าครับ

แต่ถ้าจับแล้วแขนตึงแน่น เป็นกล้ามเนื้อหนา แนะนำให้ใช้โบท็อกเพื่อคลายกล้ามเนื้อต้นแขน ลดความตึงของกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่เป็นก้อน ต้นแขนก็จะดูลดลงได้ครับ

ในการเลือกใช้ หมอจะตรวจประเมินจากลักษณะของต้นแขนในแต่ละเคสว่าจุดที่คนไข้ต้องการลดเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน อาจจะเลือกทำวิธีใดวิธีหนึ่ง หรือทำทั้งเมโสแฟตและโบท็อกควบคู่กันไปได้ครับ

แต่คนไข้ที่มีปริมาณไขมันสะสมเยอะมาก ๆ การฉีดเมโสแฟตลดต้นแขนอาจไม่คุ้มครับ เพราะต้องใช้ปริมาณตัวยามาก และทำหลายครั้ง หมอจะแนะนำการดูดไขมัน หรือทำ CoolSculpting (สำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด) ก็จะช่วยสลายไขมันบริเวณต้นแขน ทำให้สัดส่วนเล็กลงได้ครับ


กระบวนการทำงานของเมโสแฟตต้นแขนเป็นอย่างไรบ้าง ?

หลังจากฉีดเมโสแฟตเข้าสู่ชั้นผิวในบริเวณที่มีไขมันต้นแขน ตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวหรือดึงไขมันออกจากเซลล์ และช่วยกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยให้ร่างกายนำไขมันไปใช้ได้มากขึ้น ลดการสร้างและลดการสะสมไขมันใหม่ จากนั้นไขมันจะถูกขับออกตามทางการหายใจและการขับถ่ายครับ


เมโสแฟตต้นแขนเจ็บไหม ?

การฉีดเมโสแฟตเจ็บเล็กน้อยครับ โดยจะรู้สึกได้ตอนแทงเข็มหรือตอนกำลังเดินยาเท่านั้นสามารถใช้การประคบน้ำแข็งช่วย หรือแปะยาชาสำหรับคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ สำหรับคนที่กลัวว่าการฉีดเมโสแฟตจะเจ็บก็ไม่ต้องกังวลครับ


เมโสแฟตลดต้นแขน เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณต้นแขน แขนใหญ่ แขนย้วย จับแขนแล้วเป็นเนื้อนิ่ม ๆ
  • เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการมีรอยแผล
  • เหมาะกับคนที่มีไขมันไม่มาก หรือมีไขมันมากแต่มีงบประมาณจำกัด สามารถทยอยฉีดได้

รีวิวฉีดเมโสแฟตสลายไขมันต้นแขน

รีวิวเมโสแฟตลดต้นแขน1
รีวิวเมโสแฟตลดต้นแขน2
รีวิวเมโสแฟตลดต้นแขน3
หลังทำเมโสแฟตต้นแขนจะเห็นได้ว่า ท้องแขนลดลง ส่วนที่เคยหย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น

ข้อดี – ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน

ข้อดีของการฉีดเมโสแฟตแขน

  1. เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ใช้เวลาในการทำน้อย ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น
  2. การเตรียมตัวก่อนทำไม่ยุ่งยาก หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ
  3. เห็นผลเร็ว สามารถทำซ้ำได้ถ้าอยากให้เห็นผลดียิ่งขึ้น
  4. สามารถลดไขมันได้ครั้งละ 10-15% 
  5. ทำได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท
  6. ไม่มีรอยแผล ไม่มีรอยผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  7. ราคาไม่แพง สามารถทยอยทำได้

ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟตแขน

  1. หลังทำจะมีอาการบวมตามปริมาตรของยา แต่จะยุบบวมได้เองใน 3-4 ชั่วโมง
  2. ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมันครับ ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป
  3. เมโสแฟตเป็นการใช้ปฏิกิริยาเคมีกับเซลล์ไขมัน หวังผลได้ไม่แน่นอน หากมีไขมันสะสมเยอะมาก จะเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อยมากและต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
  4. อยู่ได้ไม่ถาวร ต้องอาศัยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะคงผลลัพธ์ได้ยาวนานมากขึ้น

เมโสแฟตลดต้นแขน เห็นผลจริงไหม กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดเมโสแฟตต้นแขนจะเห็นว่าไขมันลดลงได้ 10-15% ในระยะ 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามการดูแลตัวเองหลังทำเมโสแฟต ควบคุมการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายร่วมด้วย จะเห็นผลชัดเจนขึ้นครับ


ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน กี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

ในการฉีดเมโสแฟต 1 ครั้ง ตามที่แพทย์ได้คำนวณปริมาณยาเมโสแฟตที่เหมาะสม ไขมันต้นแขนลดลงประมาณ 10-15% ครับ หากต้องการลดไขมันลงอีก ก็สามารถฉีดเพิ่มได้ในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ครับ โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลังทำประมาณ 4-5 ครั้งครับ


เมโสแฟตลดต้นแขน แต่ละครั้งใช้กี่ CC ?

โดยทั่วไป เมโสแฟตต้นแขนใช้ข้างละ 20-40 cc ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของคนไข้ หมอที่มีประสบการณ์จะสามารถแนะนำยาเมโสแฟตและจำนวน CC ที่เหมาะสม โดยการฉีด 1 ครั้ง จะเห็นว่าต้นแขนลดลงประมาณ 10-15%


เมโสแฟตต้นแขนอยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?

การฉีดเมโสแฟต 1 ครั้ง จะคงผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือนครับ ทั้งนี้ขึ้นกับการดูแลตัวเอง การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายด้วยครับ ถ้าทานเยอะ ทานมื้อดึกบ่อย ๆ ทานอาหารไขมันสูงและไม่ออกกำลังกาย ไขมันก็จะกลับมาสะสมได้ไวขึ้นครับ


เมโสแฟตต้นแขน ยี่ห้อไหนดี ?

บริเวณต้นแขนเป็นจุดที่มีไขมันสะสมมากกว่าแก้มหรือเหนียง และกินพื้นที่เป็นวงกว้าง การเลือกยี่ห้อเมโสแฟต ควรเลือกยี่ห้อที่ช่วยสลายไขมันได้เร็ว ตัวยาไม่แสบจนเกินไปเพราะต้องใช้ยาปริมาณมาก และควรจะช่วยยกกระชับได้ด้วย เพราะเมื่อไขมันลดลงผิวหนังอาจเกิดความหย่อนคล้อยได้ โดยยี่ห้อเมโสแฟตที่นิยมใช้ มีดังนี้

  • เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella
Meso Fat Neobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella จากประเทศเกาหลี มีส่วนผสมหลักของตัวยาเป็น Deoxycholic acid (DCA) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยาสลายไขมันตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก US-FDA ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการฉีดในจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ครับ

ข้อดี : สลายเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการลดไขมันบริเวณลำตัว หน้าท้อง แขน ขา

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ

  • เมโสแฟตยี่ห้อ FNC
Meso Fat FNC

เมโสแฟตยี่ห้อ FNC 30 เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีไขมันสะสมมาก และช่วยยกกระชับ ป้องกันไม่ให้ Elastin และ Hyaluron ในชั้นผิวเสื่อมสภาพ ช่วยลดบวม ลดไขมัน กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ช่วยลดไขมันได้ดี และเห็นผลไว โดยที่ไม่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยหลังไขมันลดครับ

ข้อดี : ยุบดีและไว 

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ

  • เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One
Meso Fat Babi

เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี โดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับ เห็นผลไว มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดอาการบวม ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันและคอเรสเตอรอลในเลือด โดยละลายไขมันให้แตกตัวเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ไขมันจึงลดลง ยกกระชับได้ดีครับ

ข้อดี : ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ ฉีดแล้วยุบดี หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดมีอาการแสบได้เล็กน้อย (แสบน้อยที่สุดในบรรดายี่ห้อเมโสแฟตทั้งหมด)


ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขนที่ไหนดี ?

การเลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข มีความน่าเชื่อถือและดำเนินงานโดยแพทย์ท่านั้น เพราะแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับคนไข้เป็นรายบุคคล โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงลดน้อยลงครับ

Checklist ก่อนฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ?

คลินิกหรือสถานประกอบการ ✔ มีป้ายชื่อสถานพยาบาล
✔ มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
✔ แสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
✔ สะอาด มีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง
✔ เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถ
ตัวยาเมโสแฟต ✔ ผ่านการรับรองจาก อย.
✔ สามารถยืนยันที่มาและแหล่งผลิตของผลิตภัณฑ์ได้
✔ ตรวจสอบก่อนฉีดว่าเป็นของแท้
✔ ไม่มีส่วนผสมที่อันตราย ไม่มีสารสเตียรอยด์หรือ Hyaluronidase
แพทย์ ✔ มีป้ายประจำตัวเแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมนำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
✔ มีประสบการณ์ 5-15 ปี
✔ สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด

เมโสแฟตต้นแขน ราคา โปรโมชั่น

ราคาเมโสแฟตจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ สูตรที่ใช้ ปริมาณ CC ที่ใช้ (1 ขวดมีตัวยา 10 cc) จำนวนครั้งที่ฉีด และจุดที่ฉีด หมอจะเป็นผู้ประเมินปริมาณตัวยาที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง ตามความเหมาะสมของแต่ละรายครับ

การฉีดแฟตต้นแขน จะใช้จำนวน cc เยอะ เนื่องจากเป็นจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก หลัก ๆ หมอแนะนำเป็น สูตรเร่งไว FNC / BABI/ Neobella ซึ่งช่วยสลายไขมัน ยุบดีและยุบไวครับ

เมโสแฟตต้นแขน ราคา คุณนิโคล

เมโสแฟตแขน Neobella ราคา

  • 20 CC ราคา 5,000.-
  • 40 CC ราคา 9,000.-
  • คอร์ส 100 CC ราคา 20,000.-

เมโสแฟตแขน FNC / BABI ราคา

  • 30 CC ราคา 9,900.-
  • 60 CC ราคา 18,000.-
  • คอร์ส 200 CC ราคา 50,000.-

สรุป

เมโสแฟตแขน เป็นตัวช่วยในการลดต้นแขนที่เห็นผลดีและปลอดภัย แต่ต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาของแท้ และทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ การฉีดเมโสแฟตให้ได้ผลดีและอยู่ได้นาน ควรควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารไขมันต่ำ และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมได้อีกครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา