ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? เมื่อไหร่ฟิลเลอร์จะเข้าที่ 100% ? ทำไมจึงเกิดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ? อันตรายไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หมอเชื่อว่าคนไข้ทุกคนคาดหวังว่าหน้าผากโหนกนูน ดูเป็นทรงขึ้นทันที ซึ่งถูกต้องแล้วครับ แต่หมอขอบอกว่าจริง ๆ แล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ไปประมาณ 7-14 วัน หน้าผากของคนไข้จะสามารถสวยขึ้นได้มากกว่านั้นอีกครับ เหตุผลเพราะหลังฉีดทันทีจะมีอาการบวมจากยาชา จากเข็ม และบวมจากเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ดีนั่นเอง
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? ต้องดูแลตัวเองอย่างไร l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ?
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? ปกติเมื่อฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้ว จะมีอาการบวมเล็กน้อย ค่อย ๆ ยุบลงประมาณ 4-5 วันครับ โดยช่วงที่บวมมากที่สุดคือ 2-3 วันแรกหลังฉีด จากนั้นอาการบวมจะดีขึ้น ผิวเรียบเนียน ดูสม่ำเสมอใน 7-14 วันครับ อาการบวมดังกล่าวนี้ ไม่ได้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันแต่อย่างใด
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากทันทีคนไข้สามารถใช้หน้าได้เลย แต่งหน้าได้ตามปกติ ไม่ต้องลางานเพื่อพักฟื้น หากมีอาการปวดสามารถทานยาแก้ปวดได้ตามคำแนะนำของแพทย์ครับ
อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เกิดขึ้นได้ปกติไหม ?
อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ครับ โดยสาเหตุหลัก ๆ คือ เกิดจากปฏิกิริยาตอบสนองธรรมชาติของร่างกายต่อการถูกกระตุ้นหรือบาดเจ็บจากเข็ม และสารฟิลเลอร์ที่ถูกฉีดเข้าไปในผิวหนัง
ส่วนทำไมจึงเกิดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ? หมอจะอธิบายเป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ
ทำไมจึงเกิดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ?
- บวมจากการตอบสนองต่อการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ : เมื่อมีการฉีดสารเข้าไปในผิวหนัง ร่างกายจะมองว่าเป็นการบาดเจ็บ การตอบสนองต่อการบาดเจ็บนี้จะทำให้เกิดการหลั่งของสารเคมีที่เรียกว่าไซโตไคน์ ออกมาทำหน้าที่รักษาและซ่อมแซม ซึ่งรวมถึงการเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และการอักเสบชั่วคราว เพื่อช่วยในการฟื้นฟูบริเวณที่ได้รับการฉีด
- บวมจากยาชา : หลังฉีดฟิลเลอร์ทันทีจะมีอาการบวมจากยาชา โดยจะบวมไม่กี่ชั่วโมงครับ ขึ้นอยู่กับประเภทของยาชาที่ใช้ และการตอบสนองของแต่ละบุคคล เมื่อยาชาหมดฤทธิ์อาการบวมจะลดลงเล็กน้อย แต่ยังจะมีความระบม และอาจจะมีอาการบวมจากตัวฟิลเลอร์ได้
- บวมจากเนื้อฟิลเลอร์ : เนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปในหน้าผาก มีความสามารถในการดูดซับน้ำจากเนื้อเยื่อรอบข้างเข้ามา จึงทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูฟู บวม และเต่งตึงขึ้น
- บวมจากเทคนิคการฉีด : เทคนิคการฉีดของแพทย์ เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วันด้วยครับ หากแพทย์ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง มีความแม่นยำสูง ก็จะสามารถช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อในขณะที่ฉีด ซึ่งช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการบวม และช้ำได้
ในขณะเดียวกันหากแพทย์ใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง มีความแม่นยำน้อย ก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ และเส้นเลือดรอบ ๆ บริเวณที่ฉีดมากขึ้นครับ
- บวมจากปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ : การใช้ฟิลเลอร์มากเกินไปในครั้งเดียว สามารถก่อให้เกิดการกดทับต่อเนื้อเยื่อและบวมลงมาถึงบริเวณรอบดวงตาได้ ส่งผลให้เกิดอาการบวมมากขึ้น สำหรับฟิลเลอร์หน้าผากหมอไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์เกินครั้งละ 5 CC ให้ค่อย ๆ ทยอยฉีดจะได้ผลที่ดีและดูเป็นธรรมชาติมากกว่าครับ
ข้อควรรู้ : หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ให้รอดูผลหลังฉีดประมาณ 3 วัน เพราะบางทีอาจจะเป็นอาการข้างเคียงที่เกิดหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะมีอาการบวมเฉย ๆ สามารถหายบวมไปเอง อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ผสานรวมตัวกันกับเนื้อเยื่อของเรา ไม่ต้องไปกดหรือนวดคลึง อาการบวมจะค่อย ๆ หายไปครับ
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? อันตรายไหม ? แก้ไขอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อาการบวม จะหายเองได้ในกี่วัน ?
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? โดยทั่วไปอาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน และจะหายไปได้เอง ฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่ใน 14 วันครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล
ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากอาการบวม
- 24-48 ชั่วโมงแรก : อาการบวมลักษณะนี้โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นทันทีหลังฉีด ระหว่างนี้หมอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา กดนวดในบริเวณที่ฉีดครับ
- 3-5 วัน : อาการบวมจะเริ่มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คนไข้จะเริ่มเห็นว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มเข้าที่ และดูธรรมชาติมากขึ้น
- 14 วัน : อาการบวมจะหายไป และผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นได้ชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก กี่วันเข้าที่ ? กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?
รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ก่อน-หลังฉีดทันที
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นวิธีเสริมหน้าผากที่เห็นผลลัพธ์เร็ว เมื่อเทียบกับการเสริมหน้าผาก หรือเติมไขมันหน้าผากครับ หลังฉีดจะเห็นผลทันทีประมาณ 70-80%
หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้เทคนิคการฉีดจะช่วยให้หน้าผากไม่ช้ำ ไม่เขียว ลดอาการบวม ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว เห็นผลเต็มที่ 100% ใน 2-3 สัปดาห์ และคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือนครับ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวม อันตรายไหม ?
ส่วนใหญ่อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์จะไม่อันตรายครับ เป็นผลจากการทำงานของฟิลเลอร์ที่ดูดน้ำเข้ามากักเก็บ อาการบวมเหล่านี้มักจะลดลงภายในไม่กี่วัน จากนั้นผิวจะดูเนียนเรียบ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ทั้งนี้อาการบวมหลังฉีดจะต้องดูเป็นเคส ๆ ไปครับ ในเบื้องต้นหมอแนะนำให้สังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง หากอาการบวมไม่ดีขึ้น รู้สึกปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น หรือมีรอยช้ำเป็นบริเวณกว้าง แนะนำรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน อาการบวมแบบไหน จึงจะเรียกว่าอันตราย ? ในหัวข้อถัดไปหมอมีเช็กลิสต์! อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์มาให้คนไข้ได้สำรวจกันครับ
เช็กลิสต์ ! อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแบบไหน จึงจะเรียกว่าอันตราย ?
อาการบวมที่เกิดหลังฉีดฟิลเลอร์ อาจแสดงถึงความผิดปกติที่ต้องระวัง ต่อไปคือเช็กลิสต์อาการบวม เพื่อช่วยตรวจสอบว่าอาการบวมเป็นสัญญาณของความผิดปกติที่อันตรายหรือไม่
ปวด บวม แดง ร้อน 4 ลักษณะอาการต้องสงสัย!
- รู้สึกปวด : จับแล้วเจ็บ รู้สึกปวดเพิ่มขึ้นหรือต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ ผิวอักเสบ
- อาการบวมไม่ดีขึ้น : บวมนานเกินกว่าสองสัปดาห์หรือบวมรุนแรงขึ้น บวมลงมาถึงบริเวณรอบดวงตา
- ผิวเปลี่ยนสี : ผิวบริเวณที่ฉีดกลายเป็นสีแดงคล้ำหรือเข้มกว่าปกติ และมีอาการช้ำในบริเวณกว้าง
- สัมผัสผิวแล้วร้อน : เมื่อลองสัมผัสผิวหนังบริเวณที่ฉีดจะรู้สึกร้อนผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือการติดเชื้อ
สาเหตุของการบวมเหล่านี้ อาจเกิดจากขั้นตอนการฉีดที่ไม่สะอาด คลินิกไม่ได้มาตรฐาน ฉีดกับหมอกระเป๋า รวมถึงการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่สามารถสลายได้ มีราคาถูก เมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการอักเสบ บวมแดง หรือจับตัวกันเป็นก้อน รู้สึกเจ็บปวดได้ครับ
หากคนไข้พบอาการเหล่านี้หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือพบว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนต้องรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพราะการรักษาที่รวดเร็วจะช่วยป้องกันปัญหาที่รุนแรงขึ้น และช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้นครับ
มีวิธีป้องกัน สังเกต และแก้ไข อย่างไรได้บ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? หลังฉีดฟิลเลอร์มีความจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันและจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ต่อไปนี้คือวิธีการป้องกัน สังเกต และวิธีแก้ไขที่ควรทำหลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่หมอแนะนำครับ
วิธีป้องกัน
- เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ สามารถประเมินปัญหาผิวหน้าได้อย่างแม่นยำ และตรงจุด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
- ตรวจสุขภาพก่อนการฉีด เพื่อแน่ใจว่าไม่มีข้อห้าม และสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- เลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย และได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอาหารและยา (อย.) หรือสภาแพทย์
- ฉีดฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้กับบริษัทนำเข้า ก่อนฉีดหมอมีการแกะกล่องใหม่ให้ดูก่อนฉีดทุกครั้ง
- เลือกคลินิกที่มีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส พร้อมกับให้คำปรึกษาก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด รวมถึงอธิบายขั้นตอนการฉีด ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คนไข้เข้าใจขั้นตอน และมีความพร้อมสำหรับการฉีด
- หารีวิวจากผู้ที่เคยรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่คลินิกนั้น ๆ เพื่อประเมินความพึงพอใจ และผลลัพธ์ที่ ควรหาข้อมูลจากแหล่งที่เป็นกลาง และน่าเชื่อถือ
วิธีสังเกต
- สังเกตอาการบวม ซึ่งอาการบวมที่ปกติควรจะค่อย ๆ หายไปภายในไม่กี่วัน หากบวมหรือช้ำเพิ่มขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
- ควรติดตามอาการผิดปกติอย่างต่อเนื่อง หากมีอาการเจ็บปวดรุนแรง ผิวเปลี่ยนสี หรือมีไข้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
วิธีแก้ไข
- เมื่อมีอาการบวม สามารถประคบเย็น เพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ โดยประคบเย็นที่บริเวณที่ฉีดเป็นระยะ ๆ ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- หากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดตามคำของแพทย์ เพื่อช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ
- หลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรงดการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่อาจทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น เพื่อช่วยลดบวม ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? หากฟิลเลอร์บวมเป็นก้อน ไม่พอใจในผลลัพธ์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) ได้ครับ (ใช้ได้กับฟิลเลอร์แท้เท่านั้น) เอนไซม์ตัวนี้จะเข้าไปลดการกักเก็บน้ำ ไขมัน และทำลายการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์ ช่วยปรับสมดุลให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์กลับมาเรียบเสมอกันเหมือนเดิม หรือใกล้เคียงเดิมมากที่สุด
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แต่ยังช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานขึ้นครับ
ข้อควรรู้ – ข้อควรปฏิบัติ – ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? แนะนำวิธีลดบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 10-15 นาที ทุก ๆ ชั่วโมงในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพื่อทำให้เส้นเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณนั้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบวม และช้ำได้
- ทานยาลดปวด ในกรณีนี้แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs หรือ NSAIDs) เพื่อช่วยลดอาการปวด และการอักเสบ ซึ่งควรทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือตามฉลากยาอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาเกินขนาดหรือผลข้างเคียงที่อาจตามมา
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร/วัน เนื่องจากฟิลเลอร์จะมีส่วนประกอบของไฮยาลูโรนิคแอซิด ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำ การดื่มน้ำเปล่าเพียงพอช่วยให้ฟิลเลอร์นั้นดูดน้ำ และกระจายตัวได้ทั่วถึงและเรียบเนียน
- 2-3 คืนแรก ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก งดนอนตะแคง เพื่อช่วยให้น้ำหนักของเนื้อเยื่อไม่ไปกดทับบริเวณที่ฉีด และช่วยให้การไหลเวียนของเลือด และน้ำเหลืองในบริเวณนั้นดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้อาการบวมลดลงได้เร็วขึ้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะแอลกอฮอล์จะไปเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่อาการบวม ช้ำ และเลือดออกที่บริเวณที่ฉีดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังสามารถทำให้กระบวนการฟื้นตัวของผิวหนังช้าลง และทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดไม่เป็นไปตามที่ต้องการได้
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? รวมข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ควรรู้!
- งดแตะหรือนวดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่จากตำแหน่งที่ต้องการ
- พยายามอย่าขยับใบหน้าเยอะ ๆ ในช่วง 3 วันหลังทำ
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF,Thermage อย่างน้อย 1 เดือน
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน โดยรอยเข็มสามารถโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- งดนอนคว่ำ เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? รู้จักอาหารต้องห้าม VS อาหารที่ควรทาน เพื่อลดบวม
- หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า กุ้งดอง
- เลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงจะดูดน้ำจากร่างกาย อาจทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้าลง ตัวบวมน้ำได้ง่ายขึ้น รวมถึงอาหารที่มีรสหวาน รสเผ็ดมาก ๆ ที่ทำให้หน้าแดง
- อาหารร้อน ที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ
- อาหารดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น อาหารทะเล แซลมอน ซาซิมิ หอยสด ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุก
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีเลือดมาสูบฉีดมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมจากรอยเข็มหายช้าลง และทำให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้นครับ หมอแนะนำให้งดไปก่อน 14 วัน หรือถ้าหากใครที่เลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วันครับ
ข้อควรรู้ : อาหารบางประเภทจะส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์ การเห็นผล หรืออาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้นหากคนไข้ต้องการลดอาการบวม เห็นผลลัพธ์ไว อยากให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น ควรเลี่ยงอาหาร 5 ประเภทที่หมอได้แนะนำไปครับ
อ่านเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ ทุกเรื่องที่ควรรู้ และการดูแลตัวเอง ให้ผลลัพธ์ชัดเจน และปลอดภัย
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะมีอาการบวมเป็นปกติครับ โดยอาการจะ ค่อย ๆ ยุบลงประมาณ 4-5 วัน จากนั้นจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน เนื้อฟิลเลอร์เข้าที่ใน 7-14 วัน ซึ่งถ้าเทียบกับการฉีดไขมันหน้าผาก หรือผ่าตัดเสริมหน้าผาก การฉีดฟิลเลอร์จะมีข้อได้เปรียบมากกว่า ทั้งเจ็บน้อย ช้ำน้อย บวมน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลไวกว่าครับ
เพื่อป้องกันอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นอันตราย คนไข้ควรมีการเตรียมตัวก่อนฉีดครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. รวมถึงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ฟิลเลอร์ยุบบวมไว เข้าที่เร็วครับ