Flore Max ฟิลเลอร์เกาหลีน้องใหม่ล่าสุด คืออะไร ? ดีอย่างไร ? อยู่ได้นานไหม ? ราคาเท่าไหร่ ? สรุป ข้อดี-ข้อเสีย

Categories
ฉีดฟิลเลอร์
Flore Max

Flore Max

ฟิลเลอร์ Flore Max (ฟลอเร่ แม็กซ์) เป็นฟิลเลอร์เกาหลีน้องใหม่ตัวพรีเมี่ยม ที่เพิ่งได้มีการเปิดตัวในไทยเมื่อไม่นานมานี้ครับ จุดเด่นของ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Flore รุ่น Max คือจะผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีถึง 2 โมเลกุลด้วยกัน จึงเป็นรุ่นที่มีความพิเศษมากกว่าฟิลเลอร์รุ่นอื่น ๆ

Flore Max คืออะไร ?  แตกต่างจากฟิลเลอร์ ยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร เหมาะกับใคร ? ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไร ? อยู่ได้นานไหม กี่วันเห็นผล ทุกข้อสงสัยหมอได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้วครับ

สารบัญ Flore Max

  1. ฟิลเลอร์ Flore Max คือ ?
  2. องค์ประกอบทางเคมีของ Flore Max
  3. Flore Max ผ่าน อย. ไหม ?
  4. Flore Max ฟิลเลอร์เกาหลีน้องใหม่พรีเมี่ยม ต่างจากฟิลเลอร์สัญชาติอื่น ๆ อย่างไร ?
  5. ฟิลเลอร์ Flore มีกี่รุ่น ต่างกันอย่างไร ?
  6. Filler Flore Max เหมาะกับใคร ?
  7. Flore Max ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
  8. Flore Max มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไรบ้าง ?
  9. Flore max อันตรายไหม ?
  10. ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อนฉีด Flore Max  
  11. ฉีด Filler Flore Max กี่วันเห็นผล ?
  12. Filler Flore Max อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?
  13. Flore Max ต้องฉีดซ้ำไหม กี่เดือนครั้ง ?
  14. ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Flore Max
  15. ฉีด Flore Max มีผลข้างเคียงไหม ?
  16. ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max แล้วหน้าบวม แก้ไขอย่างไร ?
  17. ฉีด Flore Max ร่วมกับฟิลเลอร์อื่น ๆ ได้ไหม ?
  18. Flore Max ราคา
  19. ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ที่ไหนดี ?
  20. Q&A ฟิลเลอร์ Flore Max

ฟิลเลอร์ Flore Max คือ ?

ฟิลเลอร์ Flore Max คือ

ฟิลเลอร์ Flore Max (กล่องสีส้ม) เป็นฟิลเลอร์ตัวใหม่ของฟิลเลอร์เกาหลียี่ห้อ Flore นำเข้าโดยบริษัท บอน-ชอง จำกัด ปัจจุบันผ่าน อย.ไทย และได้มีการเริ่มนำมาฉีดในหลายคลินิกรวมถึง V Square Clinic ครับ 

Filler Flore Max ถือเป็นฟิลเลอร์อีกตัวที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะเป็น Biphasic filler ที่ฉีดเพียง 1 แต่ได้ถึง 2 ผลลัพธ์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลีใต้ที่มีคุณภาพ และความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจากสหภาพยุโรป ทำให้เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีความพิเศษกว่ารุ่นอื่น ๆ 


องค์ประกอบทางเคมีของ Flore Max

Hyaluronic Acid

Hyaluronic Acid

ฟิลเลอร์ Flore Max เป็น HA แบบ Cross-linked และ Non Cross-linked (Biphasic HA) ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่เป็นทั้งเนื้อแน่นและเนื้ออ่อน ฉีดแค่ 1 แต่ได้ผลลัพธ์ถึง 2 คือได้ทั้งความพุ่ง และความละมุน เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มในผิวชั้นลึก

ทำไมถึงต้องใช้ Hyaluronic Acid เป็นสารตั้งต้น ?

Hyaluronic Acid/ไฮยาลูรอนิค/ไฮยาลูรอน เป็นสารสังเคราะห์ที่สร้างขึ้นมาทดแทน Hyaluronic Acid เดิมที่ร่างกายผลิตน้อยลง โดยสารนี้มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว การฉีดฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) จึงช่วยเติมเต็มบริเวณที่มีการเสื่อมสภาพของโครงสร้างผิว หรือมีริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าดูกระชับและเรียบเนียน 

ปัจจุบัน Hyaluronic Acid เป็นสารตั้งต้นในฟิลเลอร์หลายยี่ห้อครับ เพราะเป็นสารเติมเต็มชนิดเดียวที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) และ อย.ไทย อนุมัติว่าเป็นสารที่มีความปลอดภัย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ฉีดแล้วไม่เกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแพ้ในผู้ที่มีประวัติการแพ้สารสังเคราะห์ 

VSQ Tips

ข้อควรรู้ : ฟิลเลอร์ Flore Max ใช้ Hyaluronic Acid ที่ได้จากการหมักเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส (Streptococcus) เพื่อให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีน้ำหนักของโมเลกุล 2,500,000 Da ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง 

เทคโนโลยีเฉพาะของฟิลเลอร์ Flore Max

ฟิลเลอร์ Flore Max ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology และ PP process ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลีใต้ 

3D matrix (Flore Max)
  • HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology เป็นเทคนิค Crosslink แบบพิเศษ คือจะมีโครงสร้างเป็น 3D matrix ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย และอยู่ได้นานขึ้น
PP-Process
  • Particle Plastic Process (PP process) เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เนื้อ filler มีขนาดอนุภาคเท่า ๆ กัน ทำให้ฉีดง่ายขึ้น ปั้นทรงง่าย เข้ากันได้ดีกับผิวหนัง ฉีดแล้วเนียนสวย และนอกจากนี้ยังทำให้สลายตัวช้าลง ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น 

Flore Max ผ่าน อย. ไหม ?

Flore Max ฟิลเลอร์เกาหลีน้องใหม่ ตัวพรีเมี่ยม ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ในประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐานจาก US FDA  เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ


Flore Max ฟิลเลอร์เกาหลีน้องใหม่พรีเมี่ยม ต่างจากฟิลเลอร์สัญชาติอื่น ๆ อย่างไร ?

Filler Flore Max เป็นฟิลเลอร์ Biphasic HA ที่มีโมเลกุล 2 แบบ คือ Cross-linked และ Non Cross-linked HA อยู่ในเนื้อเดียวกันครับ ทำให้ฉีดเพียง 1 ครั้ง แต่ได้ถึง 2 ผลลัพธ์ที่เกิดจากการใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต ต่างจากฟิลเลอร์สัญชาติอื่น ๆ ที่จะมีเพียงหนึ่งโมเลกุล 

คุณสมบัติและเทคโนโลยีของฟิลเลอร์สัญชาติอื่น ๆ

รวมยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.

ฟิลเลอร์แต่ละสัญชาติ

  • ฟิลเลอร์ Juvederm จากอเมริกา

ผลิตด้วย Hylacross ที่เด่นในเรื่องค่าความอุ้มน้ำ และ Vycross Technology เด่นในการช่วยยกกระชับ                มีหลายรุ่นเพื่อครอบคลุมปัญหาทุกส่วนของใบหน้า ได้รับความนิยมทั่วโลก มีทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ Juvederm Ultra Plus, Juvederm, Voluma, Juvederm Volbella, Juvederm Volift, Juvederm Volite และ Juvederm Volux

  • ฟิลเลอร์ Restylane จากสวีเดน 

ผลิตโดยใช้ NASHA และ OBT Technology โดดเด่นเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความต้องการและปัญหาผิวหน้าของคนไข้ในแต่ละจุด มีทั้งหมด 8 รุ่น ได้แก่ Restylane Perlane lyft, Restylane Vital Light, Restylane Vital, Restylane Volyme, Restylane Defyne, Restylane Refyne, Restylane Classic และ Restylane Kysse

  • ฟิลเลอร์ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์

ผลิตโดยใช้ Dynamic Cross-Lining Technology (DCLT) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Double Crosslink ช่วยเรื่องความยืดหยุ่น เพิ่มการยึดเกาะ ให้เนื้อฟิลเลอร์แนบแน่นและเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน มีทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Belotero Intense, Belotero Volume, Belotero Soft, Belotero Balance และ Belotero Revive

  • ฟิลเลอร์ Definisse จากอิตาลี

ผลิตโดยใช้ XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ทำให้ Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Definisse Restore, Definisse Core และ Definisse Touch

  • ฟิลเลอร์ Revanesse จากแคนาดา

ผลิตโดยใช้ Thixofix Technology ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงทน มีด้วยกัน 1 รุ่น ได้แก่ Revanesse Ultra

  • ฟิลเลอร์ Neuramis จากเกาหลี

ผลิตด้วย Shape Technology มีความคงตัว ฉีดแล้วไม่เคลื่อน ไม่จับตัวเป็นก้อน (ผ่าน US.FDA และ EDQM) มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Neuramis  Deep Classic  ,Neuramis Deep Lidocaine และ Neuramis Volume Lidocaine

  • ฟิลเลอร์ Neobelle จากเกาหลี

มีด้วยกัน 1 รุ่น ผลิตโดยใช้ BDDE (butanediol diglycidyl ether) เนื้อนุ่ม ค่อนข้างมีความคงตัว ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน ฉีดได้หลายจุด 

  • ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. จากเกาหลี 

ผลิตโดยใช้ 2CM Technology และ Downing process ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด ฉีดง่าย (ผ่าน US.FDA และ EDQM) มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ e.p.t.q. S100, e.p.t.q. S300 และ  e.p.t.q. S500

  • ฟิลเลอร์ Yvoire จากเกาหลี 

ผลิตโดยใช้ HICE Cross-link ช่วยเพิ่มระยะเวลาของการยึดเกาะ ฉีดแล้วเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน (ผ่าน US.FDA และ EDQM) ควบคุมคุณภาพของยุโรป มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ YVOIRE Classic Plus, YVOIRE Volume Plus และ YVOIRE Contour

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอแนะให้เข้ารับการประเมินจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าว่าเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนรุ่นไหน จึงได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดตามที่แต่ละคนต้องการครับ


ฟิลเลอร์ Flore มีกี่รุ่น ต่างกันอย่างไร ?

ปัจจุบันฟิลเลอร์ Flore ที่ผ่าน อย. และนำเข้าไทยมีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่นครับ ได้แก่  Full Aqua-S, Full S, Full N, Full Max และ Full Max 1400 แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติที่ต่างกันไปตามลักษณะของโมเลกุล เช่น การเชื่อมกันของพันธะ ความยืดหยุ่น และการคงรูปของเนื้อฟิลเลอร์ครับ

1. ฟิลเลอร์ Flore รุ่น Full Aqua-S

ฟิลเลอร์ Flore Full Aqua-S

ฟิลเลอร์ Flore Full Aqua-S เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี แก้ปัญหาผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน นิยมนำมาฉีดเพื่อปรับสภาพผิวทั่วหน้า (Skin booster Filler) และช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ในผิวชั้นตื้นให้กระชับขึ้น 

เหมาะกับฉีดตำแหน่ง :  ปรับสภาพผิวทั่วหน้า/ลดริ้วรอยร่องมุมปาก/ร่องแก้ม/หน้าผาก/ลำคอ/หลังมือ

ผลลัพธ์ : อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน 

2. ฟิลเลอร์ Flore รุ่น  Full S

ฟิลเลอร์ Flore Full S

ฟิลเลอร์ Flore รุ่น  Full S เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม บางเบา กระจายตัวได้ดี ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว ช่วยปรับผิวเรียบเนียน ฟื้นฟูใบหน้าให้ชุ่มชื้น นิยมนำมาฉีดเพื่อลดริ้วรอยในผิวชั้นตื้นที่ไม่ได้ลึกมาก 

เหมาะกับฉีดตำแหน่ง :  ฉีดลดริ้วรอยร่องมุมปาก/ร่องน้ำหมาก/ร่องแก้ม/ริ้วรอยใต้ตา/ริ้วรอยหางตา/ลำคอ

ผลลัพธ์ : อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน 

3. ฟิลเลอร์ Flore รุ่น  Full N

ฟิลเลอร์ Flore Full N

ฟิลเลอร์ Flore รุ่น  Full N เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม คงตัวและยืดหยุ่นปานกลาง นิยมนำมาฉีดเพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกปานกลางในผิวชั้นตื้นรวมถึงชั้นไขมัน ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ลดริ้วรอยร่องลึก ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

เหมาะกับฉีดตำแหน่ง :  ฉีดลดริ้วรอยใต้ตา/ร่องมุมปาก/ร่องน้ำหมาก/ร่องแก้ม/เติมแก้มส้ม/หน้าผาก/ปาก

ผลลัพธ์ : อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน 

4. ฟิลเลอร์ Flore รุ่น  Full MAX

ฟิลเลอร์ Flore Full MAX

ฟิลเลอร์ Flore รุ่น  Full MAX เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย มีความละมุน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน นิยมฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกในไขมัน และร่องลึกในตำแหน่งที่มีการขยับบ่อย ๆ 

เหมาะกับฉีดตำแหน่ง :  ฉีดเติมเต็มและลดริ้วรอยร่องในชั้นไขมัน คาง/ขมับ

ผลลัพธ์ : อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน 

5. ฟิลเลอร์ Flore รุ่น  Full Max 1400

ฟิลเลอร์ Flore Full Max 1400

ฟิลเลอร์ Flore รุ่น  Full Max 1400 เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่นมากกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื้อมีความคงตัวและยืดหยุ่นมากที่สุด ขึ้นรูปได้ดีที่สุด นิยมฉีดเติมเต็มร่องลึกที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูก หรือฉีดในตำแหน่งที่ต้องการสร้าง volume

เหมาะกับฉีดตำแหน่ง :  ฉีดเติมเต็มแก้มส้ม/คาง/หน้าผาก/จมูก/กรอบหน้า

ผลลัพธ์ : อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน 


Filler Flore Max เหมาะกับใคร ?

  • คนที่ต้องการปรับหน้าเรียววีเชฟ แบบเห็นผลเร่งด่วน 
  • คนไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากมีแผล ไม่มีเวลาพักฟื้น
  • คนที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางบุ๋ม มีหน้ากลม 
  • คนที่มีปัญหาขมับตอบ ขมับลึก มีโหนกแก้มเด่น 
  • คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยงาม มีมิติ ต้องการเพิ่มความละมุน
  • คนที่ต้องการปรับรูปหน้าเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง

Flore Max ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

Flore Max ฉีดตำแหน่งไหน
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เติมขมับตอบ ขมับยุบ
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง ปรับรูปหน้าเรียว แก้ปัญหาหาคางสั้น หน้ากลม  

Flore Max มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์ Flore Max ข้อดี 

  • ใช้ Hyaluronic Acid ที่ได้จากการหมักเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส (Streptococcus) ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง 
  • หลังฉีด Flore Max เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที
  • สามารถใช้หน้าได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น  
  • ช่วยเติมเต็มร่องลึกและปรับรูปหน้าให้สมส่วน ดูอ่อนเยาว์ และเสริมโหงวเฮ้ง
  • เนื้อฟิลเลอร์ มีความยืดหยุ่น คงรูปได้ดี และมีความเป็นธรรมชาติ   
  • เป็นรุ่นฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.มีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ 
  • สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย 
  • ฉีดแล้วไม่พอใจในผลลัพธ์ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้ 100%     

ฟิลเลอร์ Flore Max ข้อเสีย 

  • ฟิลเลอร์ Flore Max ไม่สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร แต่หลังฟิลเลอร์สลายสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์  
  • หากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ผลลัพธ์จะดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่เรียบเนียน ไม่สวย 
  • หากฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย. อาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ 

Flore max อันตรายไหม ?

ฟิลเลอร์ Flore Max มีความปลอดภัยครับ เพราะในเทคโนโลยีการผลิตได้ผ่านกระบวนการที่ทำให้บริสุทธิ์ (Purication) ถึง 4 ครั้ง เพื่อควบคุมปริมาณสาร BDDE (Butanediol diglycidyl ether) ให้เหลืออยู่ในเกณฑ์ที่น้อยมาก เพื่อความปลอดภัยมากที่สุด และไม่เกิดความเป็นพิษครับ

VSQ Tips

ข้อควรรู้ : การเติมสาร BDDE ในฟิลเลอร์ เพื่อทำให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะ (Cross-linked) ยิ่งพันธะมากก็จะคงรูปได้ดีและอยู่ได้นาน แต่ถ้าเติม BDDE ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดการตกค้าง ก่อให้เกิดการแพ้ได้ครับ    


ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อนฉีด Flore Max  

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องศึกษาข้อมูลในเบื้องต้นเกี่ยวกับฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้น ๆ และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็น รวมถึงรู้เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยแบ่งเป็นไทม์ไลน์ ดังนี้ 

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ Flore Max 1 อาทิตย์

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 อาทิตย์
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ Flore Max 1 อาทิตย์ ควรงดยาที่ส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้าหรือช้ำง่ายกว่าปกติ เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ibuprofen, diclofenac, ponstan 
  • งดวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E 
  • งดการใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น tretinoin, (เรตินเอ), retinols(เรตินอล), retinoids (เรตินอยด์) BHA, AHA ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน
  • งดดึงขน โกนขน หรือแวกซ์ขนในบริเวณดังกล่าวก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน  
  • งดเลเซอร์หน้า นวดหน้า อย่างน้อย 3 วัน
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ Flore Max 24 ชั่วโมง

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ อบซาวน่า
  • สามารถแต่งหน้า ทาครีมบำรุงได้ตามปกติ 
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์จะมีการคลีนหน้า เพื่อแปะยาชา และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที
  • ในกรณีที่คนไข้มียาที่ต้องกินประจำ แพทย์จะพิจารณาให้ทานยาห้ามเลือดหรือยาลดบวมตามความเหมาะสมในแต่ละเคส เพื่อลดการบวมช้ำจากรอยเข็ม 

ฉีด Filler Flore Max กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Flore Max สามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 70-80% จากนั้นจะเห็นผลเต็มที่ ฟิลเลอร์เรียบเนียนไปกับผิว ใบหน้าเข้ารูปใน 14 วันครับ


Filler Flore Max อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีด ตำแหน่งที่ฉีด และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วย


Flore Max ต้องฉีดซ้ำไหม กี่เดือนครั้ง ?

เนื่องจากฟิลเลอร์ Flore Max เป็นสารไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) ที่สลายไปได้เอง เมื่อฟิลเลอร์สลายหมดแล้วคนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ ครับ ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแลครับ


ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Flore Max

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ทันที ควรงดสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น กด นวด บีบ หรือขยับผิวในจุดนั้นมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ตัวฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนไปยังจุดอื่นได้
  • ในช่วง 1 เดือนแรก ควรงดการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น การทำซาวน่า ตากแดด ออกกำลังกายหนัก
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เกิดการยุบบวมช้าหรืออักเสบได้
  • 2-3 คืนแรก ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก งดนอนตะแคง

หลังฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ห้ามกินอะไรบ้าง ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า กุ้งดอง
  • อาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงจะดูดน้ำจากร่างกาย อาจทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้าลง ตัวบวมน้ำได้ง่ายขึ้น รวมถึงอาหารที่มีรสหวาน รสเผ็ดมาก ๆ ที่ทำให้หน้าแดง
  • อาหารร้อน ที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู  รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ
  • อาหารดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น อาหารทะเล แซลมอน ซาซิมิ หอยสด ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุก
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีเลือดมาสูบฉีดมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมจากรอยเข็มหายช้าลง และทำให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้นครับ  หมอแนะนำให้งดไปก่อน 14 วัน หรือถ้าหากใครที่เลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วันครับ

ฉีด Flore Max มีผลข้างเคียงไหม ?

ถ้าฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ของแท้ เป็น HA Filler มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง หรือก่อให้เกิดอาการแพ้ครับ กรณีที่เกิดผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น อักเสบ ติดเชื้อ บวมเป็นก้อน หรือไหลย้อย จะเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น   

  • ฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว พาราฟิน 
  • ฟิลเลอร์หิ้ว นำเข้าผิดกฎหมาย ไม่ผ่าน อย.
  • ไม่มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม   

ก่อนฉีดฟิลเลอร์จึงควรเช็กให้ชัวร์ รู้วิธีดูฟิลเลอร์แท้ รู้วิธีเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน จะได้ไม่ถูกหลอกครับ  

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Flore max
  1. มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 
  2. มีสติกเกอร์ข้างกล่องปิดสนิท 
  3. สามารถสแกน QR Code เพื่อดูรายละเอียด Lot ทั้งหมด 
  4. มีเลข Lot ตรงกัน 3 จุด คือ 
    • เลข Lot ที่กล่อง 
    • เลข Lot ที่สติกเกอร์ 
    • เลข Lot ที่หลอด 
  5. โทรเช็กเลข Lot และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง บริษัท บอน-ชอง จำกัด  โทร. 081-291-5555

ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max แล้วหน้าบวม แก้ไขอย่างไร ?

วิธีลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max แล้วหน้าบวม เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติครับ เรียกว่าการบวมเข็ม โดยจะมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 3 วันแรก ต้องรอให้ฟิลเลอร์ผสานเข้ากับผิวก่อน จากนั้นจะค่อย ๆ ยุบลงใน 5-7 วัน 

ถ้าอาการบวมยังบวมมากอยู่ และคนไข้ต้องรีบใช้หน้าเร่งด่วน สามารถลดบวมได้ด้วยการประคบเย็นเบา ๆ ไม่ควรกดแรง หรือติดต่อคลินิกเพื่อรับยาลดบวมเพิ่ม   

ฉีดสลายฟิลเลอร์

ฉีดสลายฟิลเลอร์ อันตรายไหม 

การฉีดสลายฟิลเลอร์ สามารถทำได้ครับ ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วไม่พอใจ ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน รูปหน้าไม่ได้สัดส่วน ส่วนใหญ่เกิดจากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ฉีดบนผิวที่ตื้นจนเกินไป หรือ ประเมินปริมาณการใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม

หมอจะใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ฉีดสลายในจุดที่ต้องการแก้ไข แต่จะฉีดสลายได้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid เท่านั้น  

หลังฉีดสลายจะสลายไปประมาณ 60-70% ประมาณ 2 วัน จะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น ฟิลเลอร์จะยุบตัวและสลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนัง หมอจะนัดคนไข้เข้ามาติดตามผลอีกครั้งครับ 


ฉีด Flore Max ร่วมกับฟิลเลอร์อื่น ๆ ได้ไหม ?

หลังเติมขมับ หมอแพร
หลังเติมขมับ ขมับตอบให้เต็มสวย

Filler Flore Max สามารถฉีดร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ครับ ในการเติมขมับยุบ ขมับตอบ ให้ดูเต็มสวย อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น รุ่นอื่น ซึ่งมีขนาดโมเลกุลต่างกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม โดยพิจารณาจากความลึกของขมับ และความหนาของชั้นผิวประกอบกันครับ  


Flore Max ราคา

ฟิลเลอร์เกาหลี Flore Max ราคาเริ่มต้น 7,900.-/1CC ราคาย่อมเยากว่าถ้าเทียบกับฟิลเลอร์แบรนด์ยุโรป เช่น Juvederm (อเมริกา), Restylane (สวีเดน), Belotero (สวิตเซอร์แลนด์), Definesse (อิตาลี) จึงขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคนไข้ในช่วงนั้นครับว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน 

หมอแนะนำว่าไม่ควรพิจารณาจากราคาเพียงอย่างเดียวครับ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ จะได้ช่วยให้คำปรึกษาและแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับจุดที่ฉีด 


ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ที่ไหนดี ?

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์แท้ ปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ที่ไหนดี

อยากให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ออกมา “ดี สวย ปลอดภัย” การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างแรก ๆ ที่ต้องเตรียมหาข้อมูลไว้ก่อนเลยครับ เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ที่ไหนดี ? มีเช็กลิสต์ที่ต้องพิจารณาดังนี้ 

  • คลินิกได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข 
  • แพทย์มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง 
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ Flore Max ผ่าน อย. มีการนำเข้าและเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ถูกต้อง 
  • มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง มีความน่าเชื่อถือ ไม่ตกแต่งรูปรีวิวที่เกินจริง

ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร โดยหมอโต้ง หมอเอก หมอแพร หมอบาส
  • ฉีดฟิลเลอร์โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา อัปเดตความรู้ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  
  • ปรึกษาปัญหากับแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลส์
  • แก้ไขปัญหาตรงจุด พิถีพิถันในการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก หมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ให้กล่องกลับบ้าน ตรวจสอบกับผู้นำเข้าได้ทุกกล่อง 
  • ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคเฉพาะของ V Square Clinic มือเบา ช้ำน้อย บวมน้อย 
  • หลังฉีดมีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส

โปรโมชั่น Filler Flore Max ที่ V Square Clinic

โปรโมชั่น Filler Flore Max ราคา
  • Filler Flore Max ราคา 7,900.-/1 CC
  • Filler Flore Max ราคา 14,000.-/2 CC
  • Filler Flore Max ราคา 20,000.-/3 CC

Q&A ฟิลเลอร์ Flore Max

Q : ฉีด Flore Max เจ็บไหม ?

A :  รู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะฉีดจะมีการประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม ใครที่ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก ฉีด Flore Max สบายใจได้ครับ ถ้ากลัวเจ็บมาก แนะนำให้ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องก็จะช่วยลดความเจ็บและอาการบวมช้ำได้ครับ 

Q : ฉีด Filler Flore Max ต้องพักฟื้นกี่วัน ?

A : ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้หน้าได้เลย ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะสามารถปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ก็ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาไม่นานครับ  

Q : ฉีดฟิลเลอร์ Flore Max ร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม ?

A : ฉีดฟิลเลอร์สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ ในการปรับรูปหน้าให้ดูสวยงามสมส่วน อาจต้องทำ 1-2 หรือ 3 หัตถการร่วมกันครับ การฉีดฟิลเลอร์ขมับ Flore Max สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ในจุดอื่น ๆ หรือทำร่วมกับหัตถการอื่น เช่น ฉีดโบท็อก, ร้อยไหม, ฉีดเมโส, หรือจะทำร่วมกับเครื่องยกกระชับ เช่น Hifu Ultraformer lll, Ulthera SPT, Thermage Flx ได้ครับ  จะทำอันไหนก่อน-หลัง หมอจะแนะนำเป็นรายเคส 

Q : Flore Max ผู้ชายฉีดได้ไหม ?

A : ฟิลเลอร์ผู้ชายฉีดได้ การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าผู้ชายสามารถทำได้ครับ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ผู้ชายก็มีปัญหาชั้นผิวเสื่อมสภาพ มีปัญหาการยุบตัวของกระดูก เช่น บริเวณขมับ สามารถฉีด Filler Flore Max เติมเต็มขมับ ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและดูอ่อนเยาว์ได้  

Q : แพ้ฟิลเลอร์ Flore Max ต้องทำอย่างไร ?

A : รีบพบแพทย์เพื่อรักษาอาการ อาการแพ้ฟิลเลอร์ มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากครับ ถ้าฉีดโดยใช้สารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ซึ่งมีข้อดีคือปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ แต่ถ้าคนไข้แพ้ฟิลเลอร์ มีอาการแสดง เช่น เป็นก้อน นูน แดงอักเสบ หรือเป็นผื่น ลมพิษแบบรุนแรง ต้องรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาครับ


สรุป

Flore Max เป็นฟิลเลอร์เกาหลีน้องใหม่ตัวพรีเมี่ยม ที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการลดริ้วรอยและเติมเต็มร่องลึกบริเวณขมับ ต้องการเติมคาง ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย มีมิติและมีความละมุนมากขึ้น และตอบโจทย์เป็นอย่างมากครับ คุ้มค่าทั้งผลลัพธ์ ราคา ความปลอดภัย และมีให้เลือกรับบริการได้ที่ V Square Clinic ในราคาและโปรโมชั่นสุดคุ้มค่าด้วยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ฟิลเลอร์ Belotero Revive ฟิลเลอร์งานคุณภาพผิว

Categories
ฉีดฟิลเลอร์
Belotero Revive

Belotero Revive

ฟิลเลอร์ Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์รุ่นใหม่ที่เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในปี 2023 นี้ ถ้าหากจัดอันดับจะต้องมีติดอันดับแน่นอนครับ ในบทความนี้ หมอจะมาเจาะลึกว่า Belotero Revive คืออะไร ? ช่วยอะไรบ้าง ดีไหม ? เหมาะกับใคร ผิวแบบไหน ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ใช้กี่ CC กี่วันเห็นผล ทำ 1 ครั้ง อยู่ได้นานไหม ? ข้อปฏิบัติก่อน – หลังทำ ควรรู้อะไรบ้าง ?  ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร วิเคราะห์ข้อดี – ข้อเสียของ Belotero Revive vs Rejuran  ราคาเท่าไร โปรโมชั่น พร้อมแนะนำวิธีเลือกคลินิกที่ไหนดี ทุกคำถามที่อยากรู้เกี่ยวกับ Belotero Revive รวมไว้ในบทความนี้แล้วครับ

สารบัญ Belotero Revive

  1. รู้จัก Belotero Revive
  2. Belotero Revive คืออะไร ?
  3. Belotero Revive เป็น ฟิลเลอร์ ใช่ไหม ?
  4. Belotero Revive ช่วยอะไรบ้าง ?
  5. ฉีด Belotero Revive แล้ว ช่วยให้ผิวกระจก จริงไหม ?
  6. Belotero Revive ต่างจากฟิลเลอร์อื่น ๆ อย่างไรบ้าง ?
  7. Belotero Revive ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
  8. Belotero Revive เหมาะกับใครบ้าง ?
  9. ข้อดี – ข้อเสีย ของ Belotero Revive
  10. ก่อนฉีด Belotero Revive ควรรู้อะไรบ้าง ?
  11. Belotero Revive ใช้กี่ CC ?
  12. Belotero Revive รีวิว
  13. ฉีด Belotero Revive กี่วันเห็นผล ?
  14. Belotero Revive อยู่ได้นานไหม ?
  15. ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?
  16. Belotero Revive ดีไหม ?
  17. Belotero Revive VS Rejuran
  18. Belotero Revive ราคา
  19. ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ไหนดี ?
  20. ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
  21. โปรโมชั่น ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ V Square Clinic
  22. Q&A ฟิลเลอร์ Belotero Revive
  23. สรุป

รู้จัก Belotero Revive

Belotero Revive เป็นหนึ่งในรุ่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท Merz Healthcare (Thailand) จำกัด นอกจากรุ่น Belotero Revive แล้ว ทางบริษัทผู้นำเข้ายังมีฟิลเลอร์ Belotero รุ่นอื่น ๆ เช่น Belotero Intense, Belotero Volume และ Belotero soft ทุกรุ่นได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (ผ่าน อย.ไทย) รวมถึงองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาและยุโรปครับ 

จุดสังเกตของฟิลเลอร์ Belotero คือมีกล่องสีสันสดใส หรือที่บางคนเรียก Colorful filler ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ใช้เทคโนโลยี Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ในการผลิต ทำให้มีจุดเด่นคือเป็นฟิลเลอร์เนื้อเนียน ยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะได้ดี เมื่อสัมผัสแล้วเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน ฟิลเลอร์ Belotero ผลิตออกมาหลายรุ่นเพื่อที่จะสามารถนำไปใช้ฉีดตามตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้าที่มีโครงสร้างแตกต่างกันได้ และฟิลเลอร์รุ่นใหม่ล่าสุด คือ Belotero revive ครับ

belotero

Belotero Revive คืออะไร ?

Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์รุ่นแรกของโลก ที่มีการผสมผสานกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid; HA) และ กลีเซอรอล (Glycerol) เข้าด้วยกัน โดยคุณสมบัติเด่นของ HA คือเป็น high water-binding capacity จับกับน้ำได้ดี ช่วยกักเก็บน้ำในโมเลกุล ให้ความชุ่มชื้น และมีเนื้อเป็นเจล มีความยืดหยุ่นสูง

ส่วน กลีเซอรอล (Glycerol) เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีเช่นเดียวกัน และช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคืองของผิว ช่วยลดการอักเสบ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เป็นเกราะป้องกันผิวจากการถูกทำลาย (Skin Barrier) ป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในสกินแคร์และเครื่องสำอางครับ

ด้วยคุณสมบัติของ HA และ Glycerol ที่กล่าวข้างต้น ทำให้ Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ที่ช่วยบำรุงผิวที่ขาดน้ำ แห้งกร้าน ให้กลับมาชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว เพิ่มความแน่นกระชับและยืดหยุ่นให้แก่ผิว ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ดูเงาเป็นผิวกระจก (Glass skin) นอกจากนี้ยังช่วยลดเม็ดสีผิว ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วยครับ

ข้อมูลbelotero revive

Belotero Revive เป็น ฟิลเลอร์ ใช่ไหม ?

Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ครับ แต่มีความแตกต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นเนื่องจากมีส่วนผสมของกลีเซอรอลเอาไว้ด้วย เรียกได้ว่าเป็น Hyaluronic acid + Glycerol (Duo action) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวอย่างล้ำลึก ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นตั้งแต่ชั้นใต้ผิว และดูฉ่ำวาวได้จากผิวชั้นนอก เพิ่มความแข็งแรงฟื้นฟูสุขภาพผิว ดูเรียบเนียน กระชับ ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ครับ

ฟิลเลอร์ Skin Booster คือ ?

ฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ (Filler skin booster) หรือ ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid (HA) เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้น อิ่มน้ำมากขึ้น โดยฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดจะเป็นฟิลเลอร์โมเลกุลเล็ก เนื้อฟิลเลอร์ละเอียดและเบาบาง กระจายตัวในผิวได้ดี ด้วยคุณสมบัติของ HA ที่สามารถดึงน้ำเข้าโมเลกุลได้มาก และช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ดูฉ่ำวาว อิ่มฟู เรียบเนียน และเพิ่มความยืดหยุ่น คล้ายกับผิวได้รับการบำรุงตลอดเวลาครับ

ฟิลเลอร์งานคุณภาพผิว คือ ?

ฟิลเลอร์งานคุณภาพผิว คือการฉีดสาร Hyaluronic acid เข้าไปในชั้นผิวหนัง โดยมีจุดประสงค์ให้ผิวดูชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี เปล่งปลั่ง เนียนใสมากขึ้น คล้ายกับผิวที่ได้รับครีมบำรุงตลอดเวลา โดยฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ ควรจะเป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก ฉีดในผิวชั้นตื้น ฟิลเลอร์รุ่นที่นิยม ได้แก่ Restylane vital light, Juvederm Volite และ Belotero Revive ครับ


Belotero Revive ช่วยอะไรบ้าง ?

  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดการสูญเสียน้ำในเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวฉ่ำ ไม่แห้งกร้าน
  • ช่วยทำให้ผิวกระชับแน่นขึ้น ดูอิ่มฟูหลังฉีด ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง ลดริ้วรอยชั้นตื้น
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เพิ่มความยืดหยุ่น เนียนใส ผิวนุ่มดูสุขภาพดี
  • ช่วยลดการเกิดเม็ดสีภายในเซลล์ผิว ลดโอกาสเกิดฝ้า กระ และป้องกันผิวจากแสงแดด

ฉีด Belotero Revive แล้ว ช่วยให้ผิวกระจก จริงไหม ?

ผิวกระจก คืออะไร เกิดจากอะไร มีลักษณะอย่างไร

ผิวกระจก หรือ Glass Skin คือ การที่ผิวมีความชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ เมื่อเจอแสงจะเห็นคล้ายผิวเป็นเงาสะท้อน ดูสวยโกลว์ คล้ายกับกระจกนั่นเองครับ ซึ่ง Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติดึงน้ำเข้าโมเลกุล ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียอักเสบให้ดูสุขภาพดีขึ้น จึงช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาวเป็นผิวกระจกได้ครับ


Belotero Revive ต่างจากฟิลเลอร์อื่น ๆ อย่างไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์รุ่นมาตรฐานที่นิยมใช้ทั่วไป จะเป็นสาร Hyaluronic acid (HA) 100% ครับ แต่ละรุ่นจะมีความเข้มข้นของ HA และเทคโนโลยีการ cross-link โมเลกุลที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดเป็นฟิลเลอร์เนื้อเจล ยี่ห้อและรุ่นต่าง ๆ ที่แตกต่างกันครับ

แต่ Belotero Revive ต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นตรงที่มีส่วนผสมของ Glycerol เข้ามาในตัวยา ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เป็น Hyaluronic acid + Glycerol เป็นการช่วยเติมน้ำให้กับผิวพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูผิวที่เสียให้ดูสุขภาพดีขึ้นจากภายในครับ

เปรียบเทียบ Belotero Revive กับ Belotero รุ่นอื่น ๆ

Belotero มีใช้หลายรุ่น แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่ต่างกัน ดังนี้

  • Belotero Intense

ฟิลเลอร์ Belotero Intense เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเติมร่องริ้วรอยที่ลึกมาก ๆ ร่องที่เกิดจากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังและจากการเสื่อมสภาพตามวัย เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก เติมแก้มตอบ โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือนก่อนจะสลายหมดครับ

  • Belotero volume

ฟิลเลอร์ Belotero Volume มีความยืดหยุ่นและคงตัว ยึดเกาะได้ดี เหมาะกับการใช้ทดแทนโครงสร้างกระดูกที่เสียไปเมื่ออายุมากขึ้น เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตา แก้ปัญหาใบหน้าตอบ และนิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า คาง โหนกแก้ม ฟิลเลอร์อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน 

  • Belotero Soft

ฟิลเลอร์ Belotero Soft เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก นิยมใช้ในการฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดบนผิวชั้นตื้น เหมาะสำหรับแก้ไขริ้วรอยบนผิวชั้นนอก แก้ปัญหาใต้ตา เก็บรายละเอียดใต้ตา ฟิลเลอร์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน

ส่วน Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์งานผิวเป็นหลัก ไม่ได้เน้นการเติมเต็มเฉพาะจุด สามารถฉีดได้ทั่วหน้าเพื่อฟื้นฟูผิว ช่วยปรับสภาพผิว ผิวสวยเรียบเนียนเปล่งปลั่งดูสุขภาพดีทั่วใบหน้าครับ

เปรียบเทียบ Belotero Revive กับ Filler ยี่ห้ออื่น ๆ

หากจะเปรียบเทียบ Belotero Revive กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีขนาดโมเลกุลใกล้เคียงกัน เนื้อฟิลเลอร์คล้ายกัน และใช้ในการฉีดบำรุงผิวได้เช่นเดียวกัน หมอจะเปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ 2 รุ่น คือ Restylane Vital light กับ Juvederm volite ครับ

  • Restylane Vital light

ฟิลเลอร์ Restylane Vital light ฟิลเลอร์จากสวีเดนที่ใช้เทคโนโลยี NASHA (Non Animal Stabilized Hyaluronic Acid) ในการผลิต มีความเข้มข้นของ HA 12 mg/ml เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด อยู่ได้ 6-12 เดือน

  • Juvederm Volite

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยี Vycross ในการผลิต ทำให้โมเลกุลของฟิลเลอร์เกิดการยึดเกาะกันได้ดี มีความยืดหยุ่น เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความเข้มข้นของ HA 12 mg/ml อยู่ได้นาน 8-12 เดือนครับ

ส่วน Belotero Revive มีความเข้มข้นของ HA 20 mg/ml แม้จะมีความเข้มข้นของ HA ที่สูงแต่เนื้อเจลมีความละเอียดและยืดหยุ่นกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น เนื่องจากเทคโนโลยี CPM ที่ใช้ในการผลิต ที่ทำให้โมเลกุลของ HA เกิดการ cross-linked กันแบบพิเศษ เนื้อเจลจึงมีความเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน

และอีกข้อสำคัญที่ทำให้ Belotero Revive แตกต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่น คือมีส่วนผสมของ Glycerol 17.5 mg/ml ที่ช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวตั้งแต่ชั้นใน (Dermis) จนถึงผิวชั้นนอกสุด (Stratum corneum) และช่วยให้การฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสีย ลดการอักเสบและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวครับ


Belotero Revive ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

Belotero Revive นิยมฉีดบริเวณใบหน้าและลำคอเป็นหลักครับ โดยฉีดตามตำแหน่งต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้

  • ผิวหน้าบริเวณข้างจมูกและแก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูฉ่ำโกลว์ ผิวหน้าโดยรวมดูเรียบเนียน
  • รอบดวงตา ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ลดรอยคล้ำรอบดวงตา
  • รอบปากและริมฝีปาก ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
  • คอและหน้าอก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณคอหรือหน้าอกที่แห้งกร้าน
  • หลังมือ ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นของหลังมือ 

Belotero Revive เหมาะกับใครบ้าง ?

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้า ต้องการปรับสภาพผิวให้สดใสเรียบเนียน อิ่มน้ำ ผิวกระจก
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ หน้ามัน
  • เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ตามวัย ร่องชนิดตื้นบนใบหน้า เริ่มมีรอยเหี่ยวย่น ไม่กระชับ
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งเสียจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว รอยดำรอยแดงจากสิว 
  • เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาทาครีมบำรุง และผู้ที่ไม่ชอบแต่งหน้าจัด ชอบงานผิว

ข้อดี – ข้อเสีย ของ Belotero Revive

ข้อดีของฟิลเลอร์ Belotero Revive คือเป็นตัวช่วยบำรุงผิวได้ตั้งแต่ผิวชั้นใน และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีตั้งแต่การฉีดครั้งแรก ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เด้งแน่นกระชับ อิ่มฟู เรียบเนียน และชุ่มชื้นฉ่ำวาว โดยคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6-9 เดือนครับ

หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดงบริเวณรอยเข็มได้ประมาณ 1 สัปดาห์ หากต้องการรีบใช้หน้าออกงาน แนะนำให้มาทำภายหลังครับ และการที่จะฉีดแล้วเห็นผลดีจะขึ้นกับคุณภาพผิวเดิมด้วย หากมีปัญหาผิวมาก อาจจะต้องฉีดหลายครั้ง 

และการฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียง การอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังครับ


ก่อนฉีด Belotero Revive ควรรู้อะไรบ้าง ?

การเตรียมตัวก่อนฉีด Belotero Revive

ก่อนที่จะตัดสินใจฉีด Belotero Revive ควรจะศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่ฉีด การสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำและรีวิว รวมถึงราคาแต่ละคลินิก เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่าครับ

ข้อควรรู้การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ เตรียมตัวอย่างไรให้ปลอดภัย

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าเลือกฉีดที่ไหนดี ควรเตรียมความพร้อมดังนี้ 

  • ควรงด ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว และการแว็ก ยาแอสไพริน ยา NSAIDs เช่น ibuprofen, diclofenac, ponstan เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ และควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนหยุดยา
  • งดวิตามิน St.John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง 
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่กินเป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
  • คนไข้ต้องตรวจสอบตัวเองว่าไม่มีประวัติแพ้สารไฮยาลูรอนิก ไม่มีประวัติแพ้กลีเซอรีน
  • ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์
  • ผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร หรือมีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนฉีด

Belotero Revive ใช้กี่ CC ?

โดยทั่วไปการฉีด Belotero Revive บริเวณผิวหน้าใช้ 1-2 cc ต่อการฉีด 1 ครั้งครับ ผู้ที่มีปัญหาผิวมาก แนะนำให้ฉีดติดต่อกัน 3 ครั้ง โดยห่างกันครั้งละ 4 สัปดาห์ครับ


Belotero Revive รีวิว

 ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์ belotero revive

รีวิว belotero revive
หลังฉีด Belotero Revive พบว่าผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น รอยแดงของผิวจางลง ริ้วรอยเล็ก ๆ ลดลง

ฉีด Belotero Revive กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีด Belotero Revive จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที จะสังเกตได้ว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นและจะเห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณ 3 เดือนครับ

โดยหลังการฉีด Belotero Revive จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวทั้ง 4 มิติ ดังนี้

  • Skin Hydration ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ความมันบนใบหน้าลดลง จะเห็นผลได้ยาวนานถึง 9 เดือน
  • Skin Glow ผิวหน้าดูเนียนใส เปล่งประกาย ดูโกลว์ฉ่ำวาวมากขึ้น ยาวนานถึง 9 เดือน
  • Skin Elasticity ผิวยืดหยุ่น หน้าเด้งยิ่งขึ้น เห็นผลได้นานถึง 7 เดือน
  • Skin Firmness ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น ริ้วรอยเล็กๆดูจางลง จนถึง 7 เดือน
ผลลัพธ์หลังฉีด belotero revive
กราฟแสดงผลการเปลี่ยนแปลงของผิวหลังฉีด Belotero Revive จำนวน 3 ครั้ง พบว่าความชุ่มชื้นและความเรียบเนียนของผิวมากขึ้น และ ความแดงจากการระคายเคืองของผิวลดลงต่อเนื่อง ยาวนานถึง 9 เดือน

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาถึงความพึงพอใจของผู้ที่เข้ารับการฉีด Belotero Revive จากผลการศึกษาพบว่า

ข้อมูลการศึกษาที่การันตีผลลัพธ์หลังฉีด 

  • 100% ของกลุ่มตัวอย่างแสดงผลด้านความงามที่ดีขึ้นทุกด้านในสัปดาห์ที่ 12
  • มากกว่า 80% ของกลุ่มตัวอย่างพึงพอใจกับผลลัพธ์ยาวนานถึง 28 สัปดาห์
  • มากกว่า 57% ของกลุ่มตัวอย่างพึงพอใจกับผลลัพธ์ยาวนานถึง 36 สัปดาห์
  • 90% ของกลุ่มตัวอย่างอยากจะแนะนำ บอกต่อกับเพื่อนและคนใกล้ชิด

Belotero Revive อยู่ได้นานไหม ?

ในคนที่มีปัญหาผิวไม่มาก สามารถฉีด Belotero เพียง 1 ครั้ง และจะคงผลลัพธ์ได้นาน 6-9 เดือน แต่ผู้ที่มีปัญหาผิวมาก ผิวแห้งรุนแรง หยาบกร้าน แนะนำให้ฉีดต่อเนื่องทุก 1 เดือนเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อปรับสภาพผิวก่อน จากนั้นผิวจะคงสภาพได้ 6-9 เดือนครับ


ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ให้ได้ผลดีและอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

หลังฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง โดยควรนอนให้หัวสูงกว่าหน้าอก ใน 2-3 คืนแรก เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้า
  • ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ 
  • หากมีอาการบวมแดง จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน จนถึง 1 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นอาการบวมเข็มครับ แต่ถ้า 3 วันแล้ว อาการดังกล่าวยังเป็นมากขึ้น ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
  • ทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
  • อยู่แต่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำครับ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด การดื่มแอลกอฮอล์
  • งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage เป็นเวลา 1 เดือน
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

Belotero Revive ดีไหม ?

Belotero Revive เป็นตัวช่วยบำรุงผิวที่ให้ผลดี ใช้ได้ทั่วใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นเพียงเล็กน้อย จนถึงผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งเสีย หมองคล้ำจากแดด ปัญหาสิวและจุดด่างดำ โดยนอกจากจะทำให้ผิวดูฉ่ำวาว เรียบเนียนแล้ว ยังช่วยให้ผิวมีเกราะป้องกันจากการถูกทำลาย ชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้อีกด้วยครับ


Belotero Revive VS Rejuran

Rejuran เป็นการฉีดสารชีวโมเลกุลประเภทกรดนิวคลีอิก (nucleic acid) ที่มีลักษณะเป็นพอลิเมอร์สายยาว หรือที่เรียกว่า Polynucleotide (PN) เพื่อช่วยในการกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้เกิดการสร้างคอลลาเจน อีลาสตินและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ มีจุดเด่นในด้านการฟิ้นฟูผิว ลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ลดรูขุมขน ช่วยลดหลุมสิวตื้น ๆ ได้ และนอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นฉ่ำวาว อิ่มน้ำได้มากขึ้น ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายเรามีคอลลาเจนและเซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น จึงสามารถดึงดูดโมเลกุลน้ำเข้าเซลล์ได้มากขึ้น จะเห็นผลลัพธ์หลังฉีดประมาณ 3-5 วันครับ

ต่างจาก Belotero Revive ซึ่งเป็นการเติมสารที่มีคุณสมบัติกักเก็บน้ำเข้าชั้นผิวได้โดยตรง ซึ่งได้แก่ HA และ Glycerol ที่มีใน Belotero Revive จึงสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที ผิวจะดูชุ่มชื้น ฉ่ำวาวมากขึ้น และช่วยลดการเกิดสิว ลดการอักเสบของผิวได้ครับ


Belotero Revive ราคา

ราคา Belotero Revive จะอยู่ในช่วง cc ละ 14,000-16,000 ครับ โดยทั่วไปใช้ 1-2 CC หมอจะประเมินจากคุณภาพผิวปัจจุบันและแนะนำตามความเหมาะสมกับปัญหาผิวครับ

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Revive

ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ไหนดี ?

การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ต้องการความประณีตและความรู้ทางกายวิภาคในการฉีดเป็นอย่างมาก ดังนั้นไม่ใช่ว่าจะฉีดที่ไหนก็ได้ หมอจึงแนะนำให้เลือกคลินิกฉีด Belotero Revive ที่เข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  1. ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ 
  • คลินิกควรแสดง ชื่อ ภาพถ่าย รวมทั้งเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ของผู้ประกอบการ ให้เห็นได้อย่างชัดเจน 
  • คลินิกสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีแสงสว่างเพียงพอ มองเห็นชัดเจน ห้องหัตถการกว้างขวาง
  • อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ ถูกต้องตามหลักอนามัย 
  • คลินิกควรมีคุณหมอแบบ FullTime ประจำอยู่ด้วย
  • สถานที่ตั้งของคลินิก ควรอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรืออยู่ในบริเวณที่มีผู้คนผ่านเยอะในแต่ละวัน มีความปลอดภัย และเดินทางไปได้สะดวก โดยเฉพาะกรณีที่เกิดปัญหาที่ต้องรีบเข้ามาติดต่อที่คลินิก
  • คลินิกควรมีช่องทางติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Line@ หรือ Facebook สำหรับให้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับคุณหมอที่ทำเคสของตนเองโดยตรงได้อย่างสะดวก
  • ควรมีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เปรียบเทียบผลการรักษา ก่อนทำ-หลังทำ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
  1. ควรเลือกคลินิกที่ทำหัตถการและฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์เท่านั้น แพทย์สามารถตรวจประเมินและแนะนำหัตถการที่เหมาะกับปัญหาของคนไข้ได้ 
  • มีป้ายประจำตัวแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม นำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
  • เป็นแพทย์ประจำของคลินิก ไม่ใช่แพทย์ Part-time เพราะแพทย์ประจำจะสามารถดูแลเคสได้ต่อเนื่อง สามารถติดตามตัวได้ และย่อมที่จะรักษาชื่อเสียงของคลินิก
  • พิจารณาจากรีวิวในแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น pantip, facebook ที่คลินิกไม่สามารถลบข้อความได้ ว่าคนไข้ที่เข้ามาฉีดฟิลเลอร์แล้วพอใจผลลัพธ์หรือไม่ การให้คำแนะนำของหมอท่านนั้นดีมากน้อยเพียงใด
  • สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำได้
  • สามารถขออนุญาตคุณหมอเพื่อตรวจเช็กว่าฟิลเลอร์เป็นของแท้ ตรวจสอบได้ นำกล่องกลับบ้านได้
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี? ฟิลเลอร์อันตรายไหม เลือกคลินิกฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ทำไมต้องเลือกฉีด Belotero Revive ที่ V Square Clinic ? 

ที่ V Square Clinic เป็นคลินิกด้านความงามที่มีแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ให้ความเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ใช้ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน รวมถึงราคาที่สมเหตุสมผล มั่นใจได้ว่าทุกท่านที่เข้ามาทำ Belotero Revive และบริการอื่น ๆ ของทางคลินิก จะได้รับความพึงพอใจที่สุดครับ

  • ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ นำเข้ามาจำหน่ายอย่างถูกต้อง แกะกล่อง แกะหลอดต่อหน้า สามารถตรวจสอบได้
  • แพทย์มีประสบการณ์ในการดูแลเรื่องการปรับรูปหน้าและการดูแลผิวมาอย่างยาวนาน
  • มีการตรวจติดตามผลหลังทำ สามารถปรึกษาแพทย์ทางช่องทางออนไลน์ได้ทั้งก่อนและหลังทำ เพื่อตอบข้อกังวลใจได้อย่างทันท่วงที
  • ราคาสมเหตุสมผล
Belotero Revive ที่ V Square Clinic ดีไหม โดย หมอโต้ง หมดเอก หมอแพร หมอบาส

โปรโมชั่น ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ V Square Clinic

โปรโมชั่น Belotero Revive ราคา cc ละ 14,000-16000 บาท

Belotero ราคา
รีจูรันราคา

Q&A ฟิลเลอร์ Belotero Revive

ฉีด Belotero Revive อันตรายไหม ?

ฉีด Belotero Revive ไม่อันตรายครับ ตัวยาปลอดภัยผ่านการรับจากองค์การอาหารและยา 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และในประเทศไทยครับ

แต่การฉีด Belotero Revive ให้ปลอดภัย ต้องใช้ฟิลเลอร์ของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพื่อลดการเกิดผลข้างเคียง

ฉีด ฟิลเลอร์ Belotero Revive หน้าบวมไหม ?

หลังฉีด Belotero Revive จะมีอาการบวมตามรอยเข็มที่ฉีดได้ในช่วง 2-3 วันแรก จนถึง 1 สัปดาห์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้หายบวมเร็วขึ้นครับ

ฉีด ฟิลเลอร์ Belotero Revive แล้วแพ้ ต้องแก้ไขอย่างไร ?

โอกาสแพ้ฟิลเลอร์ Belotero Revive พบน้อยมาก และส่วนใหญ่เป็นการแพ้ที่ไม่รุนแรง เช่น มีผื่น คันบริเวณที่ฉีด มีอาการบวมแดงนานกว่าปกติ ปวดศีรษะ หากพบอาการเหล่านี้ แนะนำให้เข้าพบแพทย์อีกครั้งเพื่อประเมินและรับยาตามอาการครับ

ในผู้ที่มีประวัติแพ้ Hyaluronic acid หรือแพ้ Glycerol แบบรุนแรง ควรหลีกเลี่ยงการฉีด Belotero Revive ครับ

Belotero Revive ฉีดซ้ำได้ไหม กี่เดือนถึงจะฉีดซ้ำได้ 

Belotero Revive สามารถฉีดซ้ำได้ใน 1 เดือนหากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผิวมาก ผิวแห้งมากหรือขาดการดูแลมานาน โดยแนะนำให้ฉีดทุก 1 เดือน เป็นเวลา 3 เดือน เมื่อสภาพผิวดีขึ้นจนอยู่ในระดับที่คงที่แล้ว สามารถเว้นช่วงการฉีดเป็น 6-9 เดือนได้ครับ


สรุป

Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ตัวแรกที่มีทั้ง HA และ Glycerol ผสมผสานกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นฉ่ำวาว อิ่มฟู เนียน เด้งกระชับ และช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกทำลายจากแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ ก่อนฉีดควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินคุณภาพผิวและวางแผนการฉีดที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดคงผิวสวยได้นาน และเพื่อความปลอดภัยควรเข้ารับบริการในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตัวยาของแท้ตรวจสอบได้ และแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้นครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร ? ช่วยอะไร ? อันตรายไหม ? ข้อควรรู้ก่อน – หลังฉีดฟิลเลอร์

Categories
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ โดย หมอแพร

ฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์  คืออะไร ? ดีอย่างไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? ใครที่สนใจการปรับรูปหน้า อยากทำหน้าเด็ก หมอมีข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์มาแนะนำ เช่น หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องดูแลตัวเองอย่างไร แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ? ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?  รวมถึงฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไร ? ถูกแพงต่างกันอย่างไร ?  อันตรายไหม ? ทุก ๆ ข้อสงสัย หมอรวบรวมคำตอบมาให้แล้ว สามารถศึกษาข้อมูลเพื่อใช้เป็นแนวทางก่อนตัดสินใจเข้าใช้บริการได้เลยครับ 

สารบัญ ฟิลเลอร์ 

  1. ฉีดฟิลเลอร์คืออะไร ?
  2. ฉีดฟิลเลอร์ vs ฉีดไขมัน
  3. ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไรได้บ้าง ?
  4. ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ?
  5. ฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใคร ?
  6. ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล ?
  7. ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ?
  8. ฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
  9. ฉีดฟิลเลอร์แต่ละประเภท / แต่ละตำแหน่ง ใช้กี่ cc
  10. ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร ?
  11. ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม ต้องใช้ยาชาหรือไม่ ?
  12. ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
  13. การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
  14. ข้อห้ามและการปฏิบัติตัว หลังฉีดฟิลเลอร์ 
  15. ฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?
  16. ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
  17. ฉีดสลายฟิลเลอร์
  18. ฟิลเลอร์แท้ และฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ? 
  19. ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี วิธีดูคลินิกที่ได้มาตรฐาน
  20. โปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ราคา ปี 2023 
  21. รีวิวฉีดฟิลเลอร์ 
  22. Q&A ฉีดฟิลเลอร์

    ฉีดฟิลเลอร์คืออะไร ?

    ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid  หรือ HA ) ซึ่งฟิลเลอร์เป็นสารสังเคราะห์ครับ ถูกผลิตขึ้นเพื่อนำมาใช้ทดแทน Hyaluronic Acid หรือ “กรดไฮยาลูรอน” ที่อยู่ในร่างกายของเรา โดยกรดไฮยาลูรอน เป็นโมโลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง (polysaccharide) มีลักษณะเป็นเจล ซึ่งร่างกายของเราสามารถผลิตขึ้นเองได้ 

    ฟิลเลอร์Hyaluronic Acid
    จากภาพจะเห็นว่าผิวของคนที่มีอายุมากกว่า
    Collagen, Elastin, Hyaluronic acid ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

    Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น เพราะเป็นตัวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้น (Hydration) จะมีการขยายตัวเชื่อมต่อระหว่างผิวหนังแท้ คอลลาเจนและอิสาสติน ผิวจึงดูเต่งตึงและเรียบเนียน แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิต Hyaluronic Acid ได้น้อยลงครับ ส่งผลให้ผิวที่เคยเรียบเนียนเต่งตึง เริ่มมีริ้วรอย และความหย่อนคล้อยขึ้นได้ 

    การทำงานฟิลเลอร์Hyaluronic Acid

    ในทางการแพทย์จึงคิดค้นพัฒนา Hyaluronic Acid สังเคราะห์ เพื่อนำมาใช้ทดแทน ฉีดเติมเต็มและเสริมในชั้นผิวหนัง เพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง (Increase Elasticity) โดยก่อนที่จะมาเป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ที่ปลอดภัยและใช้อยู่ในวงการความงามในปัจจุบัน ฟิลเลอร์ในยุคแรก ๆ จะเป็นพาราฟิน หรือซิลิโคนเหลว ปัจจุบันสั่งห้ามใช้แล้วครับ เพราะมีผลข้างเคียงรวมถึงมีการเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง ซึ่งตรงนี้เองที่ยังมีคนเข้าใจผิด จึงไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์ครับ

    ฟิลเลอร์ (Filler) ในทางการแพทย์ จะหมายถึงการฉีดสารเติมเต็ม (Injectible Filler) ทุกชนิดครับ ในต่างประเทศแบ่งออกได้ 4 ประเภท ดังนี้

    1. HA (Hyaluronic Acid) ปลอดภัย สลายหมด มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก
    2. Collagen จากสัตว์ ปัจจุบันไม่นิยมใช้เนื่องจากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ บวมแดงได้ง่าย
    3. Transplanted Fat หรือการฉีดไขมัน จะเหมาะกับคนที่ต้องการฉีดครั้งละมาก ๆ 10-20 CC
    4. Biosynthetic polymers เป็นกลุ่มของซิลิโคนเหลว ไม่สลาย ไม่ปลอดภัยและไม่ผ่าน อย.
    ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acidทดแทน

    ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ยังใช้อยู่คือ ข้อ 1 และ ข้อ 3 ครับ โดยฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยม และผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่าปลอดภัยมีเพียง ข้อ 1 Hyaluronic Acid (HA) สามารถนำมาใช้ฉีดเพื่อปรับรูปหน้าและแก้ไขริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ได้อย่างเห็นผล ผิวกลับมามีความยืดหยุ่น เต่งตึง Hyaluronic Acid ถูกใช้แพร่หลายทั่วโลก สามารถสลายได้เอง และฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้  


    ฉีดฟิลเลอร์ vs ฉีดไขมัน

    การฉีดฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) และการฉีดไขมัน (Transplanted Fat) โดยหลักการแล้วมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ แม้ว่าทั้ง 2 วิธีนี้จะเป็นการเติมเต็มในส่วนที่ขาดไปของใบหน้า แต่วิธีการรวมถึงผลลัพธ์มีความแตกต่างกันครับ 

    • การฉีดฟิลเลอร์ คือการเติมเต็มผิวโดยใช้สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid, HA) ที่ผลิตขึ้นมาให้มีความใกล้เคียงกับไฮยาลูโรนิค แอซิดที่ร่างกายสร้างเอง สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ปลอดภัยสูง หมอแกะกล่องฉีดได้เลย หลังฉีดเห็นผลลัพธ์ทันที 
    ฉีดฟิลเลอร์
    • การฉีดไขมัน เป็นการปลูกเซลล์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ขั้นตอนการทำค่อนข้างยุ่งยาก หมอจะทำการเลือกไขมันส่วนเกินของคนไข้ แล้วใช้เครื่องดูดไขมันดูดออกมา ก่อนนำไปปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาผสมกับเนื้อเยื่อไขมัน แล้วนำไปเติมเต็มบริเวณต่าง ๆ ที่ต้องการแก้ไข
    ฉีดไขมัน

    โดยส่วนมากจุดที่ดูดไขมันมาใช้จะเป็นบริเวณต้นขาหรือหน้าท้องครับ คนไข้จะมีแผลในตำแหน่งที่มีการดูดไขมันมาเพื่อฉีด และในการทำครั้งแรกมักไม่เห็นผลชัดเจนครับ เพราะโดยธรรมชาติของร่างกาย ไขมันเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ 

    ดังนั้นหลังฉีดอาจทำให้ผิวไม่เรียบ เพราะไขมันที่ฉีดไปถูกร่างกายนำไปใช้ ในบางรายอาจจะต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี 


    ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไรได้บ้าง ?

    การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) หลักการคือการ “Fill” หรือเติมเต็มให้กับส่วนที่ยุบตัวของโครงสร้างผิว จึงช่วยเสริมหรือเติมเต็มร่องต่าง ๆ เพื่อแก้ไขความชรา โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 3 ข้อดังนี้ 

    ฟิลเลอร์ช่วยอะไร
    1. ฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยดึงยกหน้า เช่น ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์โหนกแก้ม ร่องแก้ม ร่องใต้ตา 
    1. ฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยแก้ไขรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ เช่น ฉีดเสริมคาง เสริมจมูก เสริมหน้าผาก กรอบหน้า เพื่อให้ใบหน้าได้สัดส่วนสวยงามมากขึ้น ช่วยชะลอวัย และลดริ้วรอยในอนาคต จึงทำให้หน้าดูเด็กลงได้ครับ
    1. ฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยเติมเต็มส่วนของผิวที่ยุบตัว ฉีดแก้ไขปัญหาริ้วรอย ปรับสภาพผิวหน้า ช่วยเติมเต็มหลุมสิว เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ใบหน้าดูอิ่มน้ำ แก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ผิวขรุขระ ให้กลับมาตื้นขึ้น เต่งตึงขึ้น รวมถึงช่วยฉีดปรับสภาพผิวหลังมือ ทำให้ผิวหลังมือเต่งตึงขึ้น เหมาะกับคนที่มือเหี่ยวหรือมีเส้นเลือดปูด 

    ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ?

    ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มประเภท HA (Hyaluronic Acid) ที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ได้อนุมัติว่าเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงครับ 

    ฟิลเลอร์ผ่านUS FDA

    คนไข้สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างมั่นใจ เพราะโดยปกติร่างกายมนุษย์จะมีไฮยาลูรอนอยู่แล้ว แต่จะลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น จึงได้มีการผลิตไฮยาลูรอนสังเคราะห์ขึ้นมา ในปัจจุบันนิยมใช้ในวงการแพทย์และทางด้านความงามอย่างแพร่หลาย

    โดยส่วนตัวหมอให้การรักษาคนไข้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์มากกว่า 10 ปี ก็ไม่พบปัญหาอะไร ข้อสำคัญคือคนไข้ฉีดฟิลเลอร์อะไร ใช้ฟิลเลอร์แท้หรือไม่ ฉีดกับใคร แพทย์ที่ฉีดมีประสบการณ์แค่ไหน หากคนไข้เลือกฉีดฟิลเลอร์แท้กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็ไม่มีปัญหาหรืออันตรายตามมาครับ 


    ฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใคร ?

    • ผู้ที่มีปัญหาผิว ริ้วรอยร่องลึก บนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องลึกมุมปาก
    • ผู้ที่ต้องการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น ปรับรูปคางให้ยาวขึ้น เติมริมฝีปาก ปรับทรงจมูก หน้าผาก
    • ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยจากวัยที่เพิ่มขึ้น มีถุงใต้ตา
    • ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาคงความอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง
    • ผู้ที่มีปัญหารอยหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง
    • ผู้ที่ต้องการให้ผิวชุ่มชื้นดูฉ่ำน้ำ

    ผู้ที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

    • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา เนื่องจากฟิลเลอร์บางชนิดมียาชาผสมในตัวครับ หากคนไข้มีประวัติแพ้ยาชา หรือแพ้ยาอะไรก็ตาม ควรแจ้งแพทย์ให้ละเอียด เพื่อความปลอดภัย
    • ผู้ที่มีประวัติการแพ้ฟิลเลอร์มาก่อน ภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปภายในร่างกาย ซึ่งก่อให้เกิดอาการอักเสบของผิวหนัง
    • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร  (คุณแม่ให้นมบุตร จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ว่าสามารถฉีดได้หรือไม่)
    • ผู้ที่ปัญหาผิวหนัง บริเวณจุดที่ทำหัตถการ เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    • ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคเลือดออกง่าย เลือดหยุดยาก Bleeding Disorders หรือภาวะเลือดออกผิดปกติ  
    ผู้ที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

    ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล  ? 

    หลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 70-80% ครับ คนไข้สามารถใช้หน้าได้ตามปกติ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ในบางรายหลังฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติครับ ต้องรอให้ฟิลเลอร์ผสานเข้ากับผิวก่อน ซึ่งจะค่อย ๆ หายบวมไปเอง ประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ฟิลเลอร์เข้าที่ชัดเจน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ


    ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ?

    การคงผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่ตำแหน่งที่ฉีด และยี่ห้อ/รุ่น ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ครับ ฟิลเลอร์ต่างรุ่น ต่างยี่ห้อจะมีลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ต่างกัน ทั้งความคงตัว ความยืดหยุ่น การอุ้มน้ำ จึงเหมาะกับตำแหน่งฉีดที่ต่างกัน โดยหมอจะวิเคราะห์ปัญหา ประเมินใบหน้า และแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะกับแต่ละตำแหน่งที่ฉีดให้กับคนไข้แต่ละคน 

    ฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม คุณต่าย

    ฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

    การฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้าสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละเคส ดังนี้ 

    1. ฟิลเลอร์ใต้ตา

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ? ดีไหม ? ปัญหาใต้ตาเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?

    การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา ฉีดเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำ ช่วยให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์อีกครั้งครับ มักเป็นจุดแรกที่หมอแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย หน้าโทรม ไม่สดใส หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ใบหน้าจะดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติครับ

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

    รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
    รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
    ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา ทุกปัญหาแก้ไขได้! ด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา

    2. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยอะไรได้บ้าง ? ใครที่เหมาะกับฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ?

    ปัญหาร่องแก้มลึกเป็นปัญหาที่พบได้ทุกคนเมื่ออายุมากขึ้น สาเหตุมาจากการยุบตัวของกระดูกบนใบหน้า และการแสดงสีหน้ามาก ๆ จนผิวเกิดเป็นรอยพับ 

    การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก ร่องมุมปากที่ตรงจุดและเห็นผลที่สุดครับ หลังฉีดใบหน้าจะยกกระชับ ดูเด็กลง ริ้วรอยร่องแก้มจางลง กรอบหน้าชัดขึ้น สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม
    รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม (2)

    3. ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ร่องมุมปาก

    ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก หรือฟิลเลอร์มุมปาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มเพื่อลดริ้วรอยลึกที่อยู่บริเวณมุมปาก มักเป็นปัญหาที่มาคู่กับร่องแก้มลึก ส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุ ยิ่งเวลายิ้มจะเห็นริ้วรอยชัดขึ้นอีกครับ สามารถฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ควบคู่ไปกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ดีขึ้น หน้าดูเด็กลงมากขึ้นครับ

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก-ร่องมุมปาก

    รีวิวฟิลเลอร์มุมปาก
    รีวิวฟิลเลอร์มุมปาก (2)

    4. ฟิลเลอร์แก้มส้ม

    การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คือหัตถการที่ช่วยเติมเต็มบริเวณหน้าแก้ม ช่วยแก้ไขปัญหาแก้มยุบแก้มหย่อน ร่องแก้มลึก ร่องมุมปาก ร่องน้ำตา ร่องใต้ตา ซึ่งมีสาเหตุมาจากไขมันเกิดการยุบตัวลงตามวัย โดยปัญหาแต่ละคนที่มาเติมฟิลเลอร์แก้มส้มกับหมอก็จะแตกต่างกันไปครับ 

    หลังฉีดช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอวบอิ่ม มีมิติและช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้หน้าดูเด็กกว่าวัย นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งในด้านการเงินอีกด้วย

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

    รีวิวฟิลเลอร์แก้มส้ม

    5. ฟิลเลอร์ปาก

    8 คำถามยอดฮิต ฉีดฟิลเลอร์ปาก ครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง ?

    การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปทรงปากให้สวยงามมากขึ้น สามารถฉีดปรับทรงปากได้ทั้ง ปากสายฝอ ปากกระจับ ปากปีกนก ปากสายเกา รวมถึงแก้ไขปัญหาปากเป็นร่อง ปากบาง ปากแห้ง ปากลอกให้มีความชุ่มชื้น ดูอวบอิ่มยิ่งขึ้นได้ครับ โดยใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่มาก 1 CC ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว 

    นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากยัง สามารถแก้ปัญหารูปปากคว่ำ ดูหน้าบึ้ง ให้กลับมาดูยิ้มแย้มสดใสขึ้น หลังฉีดสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องพักฟื้น เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย และช่วยแก้ไขปัญหาได้หลากหลายครับ

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก

    รีวิวฟิลเลอร์ปาก
    รีวิวฟิลเลอร์ปาก (2)
    ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ VS ยกมุมฉีดปากเกาหลีเลือกทรงไหนดี ให้เหมาะกับใบหน้า ?

    6. ฟิลเลอร์คาง

    รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ปัญหาคางสั้น คางถอย

    การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ช่วยปรับรูปหน้า และเสริมคางให้เรียวสวย ใบหน้าวีเชฟขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียววีเชฟแบบไม่อยากเจ็บตัว หากฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะได้ผลดีไม่แพ้การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางครับ 

    ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยมมากครับ เพราะเห็นผลเร็ว ปลอดภัย รูปคางยาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้เป็นอย่างดี

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง (2)

    7. ฟิลเลอร์ขมับ

    รีวิว ฟิลเลอร์คางและขมับ ช่วยให้รูปหน้าโดยรวมเข้ารูป เป็นธรรมชาติ

    การเติมฟิลเลอร์ขมับ คือหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนเข้ารูปมากขึ้น แก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบและนิยมฉีดขมับเพื่อเสริมโหงวเฮ้งด้านการค้าขายหรือธุรกิจ มีความเชื่อว่าจะทำให้รับทรัพย์มากขึ้น มีคนช่วยอุปถัมภ์ 

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ

    8. ฟิลเลอร์หน้าผาก

    รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก คุณพีช Eat Laek

    การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการแก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน หน้าผากเป็นแอ่ง ช่วยเพิ่มความโดดเด่นบนใบหน้า และสัมพันธ์กับโหงวเฮ้ง โดยมีความเชื่อว่า ถ้ามีหน้าผากโค้งมน โหนกนูน จะช่วยเสริมโหงวเฮ้ง มีบารมี รับทรัพย์

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก (2)

    9. ฟิลเลอร์จมูก

    การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถปรับรูปดั้งและสันจมูกให้โด่งขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงยังสามารถปรับแก้ไขทรงจมูกที่ไม่ได้สัดส่วน หรือจมูกเบี้ยว รวมถึงช่วยสริมโหงวเฮ้ง ปรับปลายจมูกให้เป็นทรงหยดน้ำได้ด้วย 

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูก

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูก
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูก (2)

    10. ฟิลเลอร์บูสเตอร์

    ฟิลเลอร์บูสเตอร์ (HA Skin Booster) หรือฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เป็นการฉีดฟิลเลอร์ทั่วหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น ความอ่อนนุ่มและปรับให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ หรือรูขุมขนกว้าง อยากมีผิวหน้าสวยใส เรียบเนียนสุขภาพดี 


    ฉีดฟิลเลอร์ แต่ละตำแหน่งใช้กี่ CC ?

    การฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งจะใช้จำนวน cc ที่ต่างกันครับ ในเบื้องต้นหมอจะประเมินปัญหาใบหน้าโดยดูสาเหตุของปัญหา และความต้องการของคนไข้ เพื่อแก้ไขได้อย่างตรงจุด และประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้

    หากสาเหตุเกิดจากการยุบตัวของกระดูกเนื่องจากอายุมากขึ้น ก็จะใช้จำนวน CC มากขึ้นตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคลครับ แต่ปริมาณการฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปจะมีจำนวน CC เฉลี่ยดังนี้ 

    ฉีดฟิลเลอร์ แต่ละตำแหน่งใช้กี่ CC คุณต่าย
    • ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
    • ฟิลเลอร์แก้มส้ม 1-2 CC
    • ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC 
    • ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC 
    • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC
    • ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC
    • ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-5 CC
    • ฟิลเลอร์จมูก 1 cc

    ในกรณีที่ฉีดไปแล้วยังไม่พอใจ สามารถทยอยฉีดได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ไม่จำเป็นต้องเติมทีเดียวเยอะ ๆ ครับ


    ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร ?

    ปัจจุบันมีฟิลเลอร์แท้ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ โดยฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับความนิยมหลัก ๆ จะมี 4 ประเทศ คือ ฟิลเลอร์อเมริกา, ฟิลเลอร์สวีเดน, ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ และฟิลเลอร์อิตาลี 

    ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แต่ละจุดบนใบหน้าใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน ?

    ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา

    ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา

    ปัจจุบันฟิลเลอร์ juvederm ผลิตออกมาหลายรุ่นครับ มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน รวมถึงใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตแตกต่างกันด้วยเพื่อให้แพทย์นำมาใช้ในแต่ละบริเวณอย่างเหมาะสม โดยที่ V Square Clinic นำมาใช้ทั้งหมด 6 รุ่น ดังนี้

    • Juvederm Ultra Plus

    ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึกต่าง ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย สามารถใช้เติมเต็ม ปรับรูปหน้า ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ นิยมใช้บริเวณริมฝีปาก, ร่องแก้ม, ขมับ  คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน   

    • Juvederm Voluma

    ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง เนื้อเจลมีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมใต้ตา, คาง, ขมับ, ปาก, ร่องแก้ม คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

    • Juvederm Volite

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volite  เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น นิยมใช้ฉีดริมฝีปาก เพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม หรือฉีดใต้ตา เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน  8 – 12 เดือน

    • Juvederm Volift

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับคนผิวบาง นิยมฉีดปาก, แก้มตอบ, มุมปาก, ร่องแก้ม,หว่างคิ้ว คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

    • Juvederm Volbella

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็ก มีความละเอียดมากที่สุด  เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน  12 เดือน

    • Juvederm Volux

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดคาง, ใต้ตา, ขมับ, ร่องแก้มชั้นลึก คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน  18-24 เดือน

    ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

    ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน 

    ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน

    ฟิลเลอร์ Restylane ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ให้ทำการฉีดรักษาได้ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ณ ปัจจุบันมีดังนี้

    • Restylane Defyne

    ฟิลเลอร์ Restylane Defyne เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความนิ่มปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาร่องลึกที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก เช่น เติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ฉีดเสริมโหนกแก้ม คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

    • Restylane Perlane Lyft

    ฟิลเลอร์ Restylane Perlane Lyft  เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง หลังฉีดไม่ฟูมาก คงรูปได้ดี เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา/จมูก/คาง คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน 

    • Restylane Vital Light

    ฟิลเลอร์ Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เนื้อเจลอนุภาคเล็ก มีความละเอียดที่สุด เหมาะสำหรับใช้ฉีดเก็บรายละเอียดบริเวณริ้วรอยใต้ตา หรือริมฝีปาก คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน  6-12 เดือน

    • Restylane Vital

    ฟิลเลอร์ Restylane Vital เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา หน้าผาก ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

    • Restylane Classic

    ฟิลเลอร์ Restylane classic  เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีเจลอนุภาคใหญ่ ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก เก็บรายละเอียดในผิวชั้นลึกสำหรับคนผิวบาง เหมาะกับการฉีดร่องตื้นกว่าเช่น ร่องแก้มตื้น ๆ ร่องรอยขมวดคิ้ว ใต้ตา ปาก เป็นต้น คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

    • Restylane Volyme

    ฟิลเลอร์ Restylane Volyme เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง นิยมฉีดเพื่อเติมชั้นผิวให้มีความอิ่มฟูขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ หรือฉีดเพื่อเติมเต็มรองลึก เช่น ร่องแก้ม, ขมับ,ร่องน้ำหมาก คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

    • Restylane Refyne

    ฟิลเลอร์ Restylane Refyne เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น ปาก, ร่องแก้ม, มุมปาก คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

    • Restylane Kysse

    ฟิลเลอร์ Restylane Kysse เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ถูกออกแบบมาเพื่อฉีดเติมริมฝีปากโดยเฉพาะ ช่วยสร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

    ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร ?

    ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์

    ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์
    • Belotero Intense

    ฟิลเลอร์ Belotero Intense เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ยืดหยุ่นสูง นิยมใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ ที่เกิดจากการยุบตัวของผิวหนัง อันเนื่องจากภาวะ aging process หรืออายุที่มากขึ้นได้ เหมาะสำหรับฉีด ร่องแก้ม, เติมแก้มตอบ, คาง คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

    • Belotero Volume

    ฟิลเลอร์ Belotero volume เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวและมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยแก้ปัญหาใต้ตา ที่เกิดจากเส้นเอ็นรอบดวงตา (Retaining ligament ) หย่อนคล้อย จนทำให้เบ้าตาดูลึก ตาโหล เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก เพื่อให้ใต้ตาดูเต็มขึ้น คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน18 เดือน

    • Belotero Soft

    ฟิลเลอร์ Belotero Soft เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาเพื่อเก็บรายละเอียดริ้วรอยใต้ตาเล็ก ๆ ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

    ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม มีกี่รุ่น? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง?

    ฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี

    ฟิลเลอร์ Definisse เป็นฟิลเลอร์น้องใหม่ ปัจจุบันที่ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย เรียบร้อยแล้ว และมีใช้อยู่ทั้งหมด 3 รุ่น โดยที่ V Square Clinic นำมาใช้ 2 รุ่น ครับ 

    ฟิลเลอร์ Definisse
    • Definisse Restore

    ฟิลเลอร์ Definisse Restore เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เติมร่องแก้ม ร่องมุมปาก คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

    • Definisse Core

    ฟิลเลอร์ Definisse  Core เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน


    ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม ต้องใช้ยาชาหรือไม่ ?

    ในขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คนไข้จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยครับ รวมถึงในฟิลเลอร์หลาย ๆ รุ่นจะมียาชาผสมอยู่ ขณะฉีดคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บครับ ขณะเดียวกันในขั้นตอนการฉีด จะมีการประคบเย็น หรือหากใครกลัวมาก ๆ สามารถแปะยาชาเพิ่มได้ครับ ก็ช่วยลดความเจ็บขณะฉีดฟิลเลอร์ได้ โดยที่คนไข้ไม่ต้องเป็นกังวล


    ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์

    ข้อควรรู้การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ เตรียมตัวอย่างไรให้ปลอดภัย

    ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตำแหน่งใด ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็นไว้ก่อนครับ  เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า โดยเฉพาะ

    • การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ 
    • การรู้วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ แต่ละยี่ห้อ
    • การเลือกหมอฉีดฟิลเลอร์  หากหมอผู้ฉีดเป็นหมอที่มีความชำนาญ มีประสบการณ์สูง  ก็จะสามารถประเมินปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด และแนะนำแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมกับคนไข้ได้ครับ  

    การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

    1.  ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มียาและวิตามินบางชนิดที่ควรงดก่อนฉีดฟิลเลอร์ แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
    2. ควรงดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
    3. งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
    4. หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
    5. แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
    6. สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ และหมอจะฉีดยาชาในจุดนั้น ๆ ให้ด้วย
    ก่อนฉีดฟิลเลอร์
    ก่อนฉีดฟิลเลอร์

    ข้อห้ามและการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ 

    1. หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)
    2. หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วยครับ
    3. ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
    4. ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
    5. อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ครับ
    6. ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้ครับ
      • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
      • อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
      •  อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
      •  งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลต่อผลการรักษาให้อยู่ได้สั้นลงด้วยครับ
    การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์

    ฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?

    สาเหตุของการฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่เห็นผล เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุครับ หลัก ๆ คือ แพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ประเมินการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม รวมถึงไม่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์จึงออกมาไม่เห็นผล หรือไม่ตรงตามที่คนไข้คาดหวังครับ


    ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?

    ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ฟิลเลอร์ที่ใช้อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ใช่ HA  หรือใช้ฟิลเลอร์แท้ แต่ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ใช้มากไป ใช้ผิดรุ่น เนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับจุดที่ฉีด 

    ฟิลเลอร์ก้อน

    สุดท้ายคือตัวแพทย์ผู้ฉีดครับ จุดนี้สำคัญมาก ๆ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง แนะนำรุ่น ยี่ห้อ และปริมาณไม่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นก้อนไม่สวยงาม


    ฉีดสลายฟิลเลอร์

    การฉีดสลายฟิลเลอร์ คือใช้ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) ฉีดสลายฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ต้องการ ทำในเคสที่ไม่พอใจในผลลัพธ์ หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนครับ 

    ตัวอย่างเคสฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน หลังฉีดสลายแล้วจะเห็นว่าใต้ตาที่บวมยุบลง

    สารไฮยาลูโรนิเดส สามารถสลายได้เฉพาะฟิลเลอร์ที่เป็น HA  เท่านั้นครับ โดยแพทย์จะคำนวณตัวยาที่ใช้ฉีดจากปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดมา เพื่อให้ได้ปริมาณยาสลายที่เหมาะสม ตัวยาจะไม่กระทบเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ หลังฉีดสลายจะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลต่อเนื่องใน 1-3 วัน หากต้องการฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม ควรเว้นระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังฉีดสลายไปแล้ว

    ฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร ? อันตรายไหม ? กี่วันหาย

    ในกรณีที่พลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม วิธีการแก้ไขจำเป็นต้องขูด หรือผ่าตัดฟิลเลอร์ปลอมออกมาครับ และเมื่อขูดแล้วอาจไม่สามารถเอาออกได้หมด จะได้เพียง 60-70% เท่านั้น จึงไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ปลอมเด็ดขาด


    ฟิลเลอร์แท้ และฟิลเลอร์ปลอม

    เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้มีการนำฟิลเลอร์ปลอมเข้ามาในตลาดความงามซึ่งมักมีราคาถูกล่อตาล่อใจ  รวมถึงยังมีคลินิกเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐานเปิดให้บริการอยู่มาก ฉีดโดยหมอปลอม ทำให้หลายคนตัดสินใจผิดพลาดและหลงฉีดฟิลเลอร์ปลอมโดยไม่รู้ตัว 

    ฟิลเลอร์ปลอม

    ฟิลเลอร์ปลอม ที่พบได้บ่อย ๆ ตามข่าว คือ ซิลิโคนเหลว เป็นสารที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ  เมื่อเผลอฉีดเข้าไปแล้วจะอยู่ถาวร จับตัวเป็นก้อน ต้องเอาออกด้วยวิธีการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ส่วนฟิลเลอร์แท้ จะเป็น HA (Hyaluronic Acid) ที่สามารถย่อยสลายได้เอง 100% ภายในระยะเวลา 1-2 ปีมีความปลอดภัยสูง

    ความอันตรายของฟิลเลอร์ปลอม อยู่ที่เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ผิวหนังแพ้เป็นผื่นแดง คัน เกิดการอุดตันในเส้นเลือด บ้างเกาะแน่นกับกระดูกหรือไหลลง ทำให้ใบหน้าเสียทรง ที่ผ่านมาจะเห็นข่าวคนไข้ฉีดแล้วคางอักเสบ จมูกเน่า หรือ อาจรุนแรงถึงขั้นตาบอด นับเป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเสี่ยงครับ

    ฉีดฟิลเลอร์ปลอม อันตรายอย่างไร
    ตัวอย่างเคสที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม จนฟิลเลอร์ไหล ดูเป็นก้อนจนเกิดภาวะเนื้อตาย

    ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี วิธีดูคลินิกที่ได้มาตรฐาน

    • ฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีการจดทะเบียนตามกฎหมาย มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน และแพทย์ผู้ทำการรักษาต้องเป็นคนเดียวกับป้ายที่ติดไว้
    • ฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีควรเลือกฟิลเลอร์แท้ ชนิด HA ( Hyaluronic Acid ) แท้ที่ผ่าน อย. เพราะสามารถย่อยสลายได้ 100% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี หากฉีดแล้วไม่พอใจก็ฉีดสลายได้ หรือฉีดเพิ่มได้เรื่อย ๆ ไม่มีผลข้างเคียง
    ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ฟิลเลอร์อันตรายไหม เลือกคลินิกฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย
    • เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้กายวิภาคบนใบหน้า เพราะแพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินและแก้ไขปัญหาใบหน้าได้ตรงจุด
    ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดย หมอเพลิน หมอแพน คุณฟลุค คุณต่าย คุณชาคริต

    ที่ V Square Clinic จะเลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้แบรนด์ระดับโลก ที่ผ่าน อย. และนำเข้าในประเทศไทยอย่างถูกต้องเท่านั้น ฉีดโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ในการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากคนไข้ และดารา-เซเลบริตี้ใช้บริการจำนวนมาก และเปิดให้บริการครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลครับ  


    โปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ ราคาปี 2023

    ราคาการฉีดฟิลเลอร์ จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและตำแหน่งที่ฉีด สำหรับที่ V square Clinic ฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งมีราคา ดังนี้

    ราคาฟิลเลอร์
    • ราคาฟิลเลอร์ใต้ตา เริ่มต้น 13,000.-/cc
    • ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้ม เริ่มต้น 9,900.-/cc
    • ราคาฟิลเลอร์คาง เริ่มต้น 9,900.-/cc
    • ราคาฟิลเลอร์ปาก เริ่มต้น 14,000.-/cc
    • ราคาฟิลเลอร์หน้าผาก เริ่มต้น 14,000.-/cc
    • ราคาฟิลเลอร์ขมับ เริ่มต้น 11,000.-/cc
    • ราคาฟิลเลอร์จมูก เริ่มต้น 14,000.-/cc

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ 

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มใต้ตากับคุณนิโคลที่ V Square Clinic
    ฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งต้อง V Square Clinic | พี่พีช EatLaek
    เคล็ดลับเติมความชุ่มชื้นใต้ตา ร่องลึกตื้นขึ้น ยกกระชับดูอ่อนเยาว์

    Q&A ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

    1. หลังฉีดฟิลเลอร์ ล้างหน้าได้ไหม ?

    หลังฉีดฟิลเลอร์ใน 3 ชั่วโมงแรกจะยังมีรอยเข็มอยู่บ้างครับ  หากต้องการล้างหน้าสามารถทำได้ โดยควรโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที ล้างด้วยสบู่อ่อน ๆ ครับ

    2. หลังฉีดฟิลเลอร์ แต่งหน้าได้ไหม ?

    หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติครับ แต่ควรงดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน จากนั้นสามารถทาครีมทับบริเวณรอยเข็มได้ และแต่งหน้าทับได้

    3. หลังฟิลเลอร์สลายแล้ว จะทำให้หน้ายิ่งเหี่ยวหนักกว่าเดิม จริงหรือไม่ ?

    คำถามนี้เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนกังวล  จริง ๆ แล้วหลังฟิลเลอร์สลายตามธรรมชาติ คอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกายก็จะยังคงอยู่ สภาพผิวก็จะดีกว่าตอนที่ยังไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ได้เหี่ยวหนักกว่าเดิม เพราะฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ผิวจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและมีน้ำไปหล่อเลี้ยงมากขึ้นกว่าเดิม คอลลาเจนและอิลาสตินก็จะถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยเช่นกัน 

    4. ทำไมราคาฉีดฟิลเลอร์แต่ละคลินิกถึงแตกต่างกัน ? 

    ในแต่ละคลินิกจะทำราคาฉีดฟิลเลอร์ต่างกัน ทำไมคลินิก A ราคาแพงกว่าคลินิก B  ทั้งที่ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียวกัน คำตอบคือ ราคาบริการที่แจ้งเป็นราคาที่รวมค่าฝีมือแพทย์ไว้ด้วยครับ แพทย์มือใหม่ เพิ่งเริ่มหัดฉีดราคาก็จะถูกกว่า ส่วนแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ๆ ราคาก็จะแพงขึ้น เป็นการการันตีผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ 

    โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ปรับรูปหน้า แก้ไขความชรา การฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ชำนาญ มีประสบการณ์สูง ๆ มีเทคนิคที่ถูกต้อง จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพ บางครั้งผลลัพธ์ที่ได้ไม่แพ้การผ่าตัดเลยครับ และยังมีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงเกิดผลข้างเคียง 


    สรุป

    การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการรักษาเป็นอย่างสูง เพราะฉะนั้นความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ ทั้งในด้านฝีมือ การเลือกใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะกับแต่ละเคส จึงเป็นปัจจัยสำคัญมาก ๆ ในการตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยครับ


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    หมอให้คำปรึกษา

    ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? มีรุ่นอะไรบ้าง ? ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง ?

    Categories
    ฉีดฟิลเลอร์
    ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี

    ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? 

    เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? ควรทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดและเห็นผลเร็วครับ ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ เช่น ฟิลเลอร์ Restylane, ฟิลเลอร์ Juvederm และฟิลเลอร์ Belotero ที่เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณใต้ตา

    สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ยังสงสัยว่า เลือกฉีดยี่ห้อไหนดี ? ฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ CC ? ราคาเท่าไหร่ ? เลือกคลินิกอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่า ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง หมอได้รวบรวมคำตอบมาให้ในบทความนี้ครับ

    สารบัญ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี

    1. ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?
    2. ใคร เหมาะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
    3. ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรบ้าง ?
    4. ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละยี่ห้อ แตกต่างกันอย่างไร ?
    5. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ละยี่ห้อ ใช้กี่ CC ?
    6. ฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ละยี่ห้อ ราคาเท่าไหร่ ?
    7. ฟิลเลอร์ใต้ตาแท้ – ปลอม ดูอย่างไร ?
    8. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ? แก้ไขอย่างไร ?
    9. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ? พิจารณาเลือกคลินิกฉีด อย่างไร ?
    10. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อระดับโลกยอดนิยม ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
    11. รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic

    ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?

    ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปยังบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา เช่น ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ เบ้าตาลึก ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อเจล มีความอุ้มน้ำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี จะช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ผิวเรียบเนียน ฉีดใต้ตาคล้ำ ให้หน้ากลับมาดูสดใส ใบหน้าดูอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติได้ครับ


    ใครเหมาะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

    ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา ขอบตาดำ ถุงใต้ตา ตาลึก ตาโหล มีความหย่อนคล้อยและริ้วรอยใต้ตา ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย ต้องการแก้ปัญหาใต้ตาที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก หรือปัญหาใต้ตาจากพันธุกรรม ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

    ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร

    เจาะลึกสาเหตุของปัญหาใต้ตา : ตาโหล-เบ้าตาลึก คืออะไร ? เกิดจากสาเหตุใด ?

    ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรบ้าง ?

    • แก้ปัญหาร่องน้ำตา ตาลึก ตาโหล
    • ช่วยลดขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ
    • ช่วยลดริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา
    • ช่วยลดถุงใต้ตา ไขมันใต้ตา

    ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละยี่ห้อ แตกต่างกันอย่างไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีสุด ? ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ครับ หมอจะเป็นผู้ประเมินและเลือกใช้รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งและสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ 

    ฟิลเลอร์ใต้ตา ในชั้นตื้น ๆ หมอจะเลือกใช้ Filler ที่มีความละเอียดสูง เนื่องจากผิวหนังบริเวณใต้ตาค่อนข้างบาง เน้นการคงรูปของโมเลกุล ฉีดแล้วไม่ฟูเยอะ เพราะหากฟิลเลอร์มีความฟูมากเกินไป จะทำให้ใต้ตาดูบวม ยิ้มแล้วเป็นก้อน ดูไม่สวยงาม ส่วนในชั้นลึกก็จะใช้ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เพื่อฉีดทดแทนการยุบตัวของกระดูก

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ฉีดแล้วเห็นผล ?

    ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา ที่เหมาะสมหลัก ๆ หมอแนะนำจะเป็นฟิลเลอร์ 3 ยี่ห้อ ได้แก่ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane, Juvederm, และ Belotero มีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

    ฟิลเลอร์ Restylane

    ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร ?

    ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลก ผลิตโดยบริษัท Galderma ประเทศสวีเดน มี NASHA Techology และ OBT Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของ Restylane โดดเด่นในการผลิตขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ ทำให้คุณสมบัติของฟิลเลอร์มีความหลากหลาย เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาผิวหน้าของคนไข้ในแต่ละจุด โดยรุ่นฟิลเลอร์สำหรับฉีดใต้ตาที่หมอแนะนำ ได้แก่

    • Restylane Perlane lyft เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 12 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Perlane Lyft
    • Restylane Defyne เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี อยู่ได้นาน 18 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Defyne
    • Restylane Classic เนื้อแข็ง เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับคนผิวบาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Classic
    • Restylane Vital เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียด ให้ผลลัพธ์เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Vital
    • Restylane Vital Light เนื้อละเอียดมากที่สุด ใช้สำหรับเคสที่ผิวบาง ๆ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane Vital Light

    ฟิลเลอร์ Juvederm

    ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

    ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ใช้ 2 เทคโนโลยีการผลิตลิขสิทธิ์เฉพาะที่เน้นความเป็นธรรมชาติ คือ Hylacross Technology และ Vycross Technology โดยคุณสมบัติเด่นของเนื้อฟิลเลอร์จะมี Crosslink (จำนวนการเชื่อมพันธะ) ที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง มีความเรียบเนียน มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รุ่นฟิลเลอร์ที่หมอแนะนำจะมีดังนี้ครับ

    • Juvederm Voluma เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ ใช้เติมกระดูกใต้ตาในคนที่มีผิวมัน-ผิวผสม อยู่ได้นาน 18 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Voluma
    • Juvederm Volux เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว สำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Volux
    • Juvederm Volite เนื้อละเอียด ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป อยู่ได้นาน 8-12 เดือน 
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Volite

    ฟิลเลอร์ Belotero

    ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม มีกี่รุ่น? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง?

    ฟิลเลอร์ Belotero เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ที่โดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นและคงตัว สามารถใช้ฉีดแก้ปัญหาใต้ตา จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก และสามารถฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก เพื่อให้โครงสร้างใบหน้าได้สัดส่วน ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น สำหรับฉีดใต้ตา รุ่นที่หมอแนะนำ ได้แก่

    • Belotero Volume เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero Volume
    • Belotero Soft เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก สามารถเก็บรายละเอียดได้ตาได้ดี เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
    ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero Soft

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ละยี่ห้อ ใช้กี่ CC ?

    โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ 2-4 CC จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ แต่ละเคสจะใช้ปริมาณ CC ไม่เท่ากัน ในคนที่มีปัญหาใต้ตาลึก คนที่อายุเยอะ กระดูกใต้ตามีการยุบตัวมาก ๆ และหย่อนคล้อย หมอก็จะประเมินให้ใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากขึ้น โดยพิจารณาเป็นเคส ๆ ไปครับ   


    ฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ละยี่ห้อ ราคาเท่าไหร่ ?

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic มีโปรโมชั่นดังนี้

    โปรโมชั่นฟิลเลอร์ใต้ตา
    โปรโมชั่นฟิลเลอร์ใต้ตา
    • Restylane Perlane Lyf 13,000.-/1 CC
    • Restylane Vital Light 13,000.-/1 CC
    • Restylane Defyne 14,000.-/1 CC
    • Restylane Classic 14,000.-/1 CC
    • Restylane Vital 14,000.-/1 CC
    • Juvederm Voluma 14,000.-/1 CC
    • Juvederm Volite 14,000.-/1 Cc
    • Juvederm Volux 18,000.-/1 CC
    • Belotero Volume 13,000.-/1 CC
    • Belotero Soft 13,000.-/ 1 CC

    ฟิลเลอร์ใต้ตาแท้ – ปลอม ดูอย่างไร ?

    ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี คนไข้ควรรู้จุดสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ โดยสามารถดูได้จากองค์ประกอบดังนี้ครับ

    • ต้องมีเลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับภาษาไทย
    • มีเลข Lot. ที่กล่อง ซอง และสติกเกอร์
    • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทที่นำเข้าได้
    VSQ Tips

    ข้อควรรู้ : ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง คนไข้ควรขอให้หมอแกะกล่องแกะหลอดใหม่ให้ดูต่อหน้า หลังฉีดควรเก็บกล่องและหลอดฟิลเลอร์กลับบ้าน หรือถ่ายรูปไว้เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐานจริง ๆ ป้องกันอันตรายที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอมได้ครับ

    ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ? อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ? แก้ไขอย่างไร ?

    ปัญหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อนบวม อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด หมอขาดประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน

    วิธีแก้ไขคือ ต้องดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร หากฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ ก็สามารถใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ไขปัญหาฟิลเลอร์บวม หรือฉีดฟิลเลอร์ผิดพลาดได้ แต่ถ้ามีอาการอักเสบหรือติดเชื้อ มีอาการปวดมากกว่าปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อแก้ไขและรักษาให้ทันท่วงทีครับ

    ฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร ? อันตรายไหม ? กี่วันหาย

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ? พิจารณาเลือกคลินิกฉีด อย่างไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย ก่อนฉีดคนไข้ต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

    • คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการให้เห็นชัดเจน 
    • แพทย์ประจำคลินิก มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า รู้เทคนิคและตำแหน่งที่ฉีดอย่างเหมาะสม 
    • ใช้ฟิลเลอร์แท้ มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ได้ที่บทความ วิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ    
    • มีความน่าเชื่อถือ สามารถดูรีวิวจากผู้รับบริการจริงในช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook Fanpage, Pantip หรือ Wongnai เพื่อให้เห็นฝีมือหมอและผลลัพธ์ของเคสนั้นจริง ๆ ครับ  
    • มีการนัดติดตามผล หลังฉีดฟิลเลอร์ หมอแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างใกล้ชิด มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก รวดเร็ว หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถสอบถามกับแพทย์เจ้าของเคสโดยตรง     
    ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ฟิลเลอร์อันตรายไหม เลือกคลินิกฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อระดับโลกยอดนิยม ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ก่อนฉีดหมอจะเลือกรุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์ ให้เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ดังระดับโลก ฉีดด้วยเทคนิคเฉพาะของวีสแควร์ ให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดครับ      

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic โดย  หมอโต้ง หมอเอก หมอแพร หมอบาส คุณเจสซี่

    รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic

    ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดีไหม ? แก้ปัญหาขอบตาดำ คืนความสดใสให้ใบหน้า
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
    ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC และ Midface 1 CC
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (2)
    ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (3)
    ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 4 CC และร่องแก้ม 2 CC

    สรุป

    ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? ฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อหลายรุ่นครับ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คนไข้ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ทำการประเมินปัญหา เพื่อเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้ ได้ผลลัพธ์ออกมาดี ปลอดภัย และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    หมอให้คำปรึกษา

    ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีสุด ? ฉีดตำแหน่งไหน ใช้ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไรดี [ อัปเดต 2023 ]

    Categories
    ฉีดฟิลเลอร์
    ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

    ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี

    ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? มียี่ห้ออะไรบ้าง ? 

    ฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งไหน ? ใช้ยี่ห้อไหนดี ?

    ถ้าค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต จะเห็นว่าฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อครับ และแต่ละยี่ห้อยังแยกย่อยเป็นรุ่นต่าง ๆ อีกหลายรุ่น 

    ในบทความนี้หมอจะมาอธิบายถึงความแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ การจะนำมาฉีดแต่ละตำแหน่ง มีวิธีการเลือกอย่างไร ? ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ราคาเท่าไร ? และวิธีดูฟิลเลอร์แท้-ปลอม ดูอย่างไร ? ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ครับ 

    สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี 

    1. ฟิลเลอร์ คืออะไร ? ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีสุด ?
    2. ทำความรู้จัก ฟิลเลอร์มีกี่แบบ อะไรบ้าง ?
    3. เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?
    4. ฟิลเลอร์ มีกี่ยี่ห้อ อะไรบ้าง ? แตกต่างกันอย่างไร ?
    5. แต่ละตำแหน่งบนใบหน้า เลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ?
    6. ฟิลเลอร์แท้-ฟิลเลอร์ปลอม ดูอย่างไร ?
    7. ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี ?
    8. เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อยอดนิยม ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

    ฟิลเลอร์ คืออะไร ? ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีสุด ?

    ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และมีความคงตัว สามารถนำมาใช้เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าได้อย่างปลอดภัย และเป็นธรรมชาติ 

    ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ครับ ไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ฉีดได้ทุกตำแหน่ง ทุกสภาพผิว ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้ฉีดในตำแหน่งต่าง ๆ ของใบหน้าไม่เหมือนกัน ประสบการณ์ของแพทย์จึงมีส่วนสำคัญครับ ในการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ และรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละคน  

    ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แต่ละจุดบนใบหน้าใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน ?

    ทำความรู้จัก ฟิลเลอร์มีกี่แบบ อะไรบ้าง ?

    ก่อนเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ มาทำความรู้จักฟิลเลอร์กันก่อนครับ ฟิลเลอร์แบ่งออกได้เป็น 3 แบบ ได้แก่ 

    1. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) มีความปลอดภัยสูง อยู่ได้ 6-24 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์) ฉีดไปแล้วสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น HA Filler เป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ผ่าน อย. นิยมใช้แพร่หลายทั่วโลก
    2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler) เช่น สาร Calcium Hydroxyapatite สาร PLLA (Poly-L-lactic acid) และสาร Polyalkylimide มีอายุการใช้งานนานกว่าแบบชั่วคราว ความปลอดภัยไม่เท่าแบบแรก ฉีดไปนาน ๆ อาจมีปัญหาเป็นก้อนหรืออักเสบตามมา
    3. ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน และ สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate microspheres) ฉีดแล้วจะฝังอยู่ในชั้นผิวตลอดไป ไม่สลายตามธรรมชาติ ไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้ และก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว ต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น

    ถ้าพูดถึงสารเติมเต็ม (Filler) ในต่างประเทศจะหมายถึงการฉีดสารเติมเต็ม (Injectable filler) ทุกชนิด ส่วนในประเทศไทย จะหมายถึงสารเติมเต็มที่เป็นไฮยาลูโรนิก แอซิด หรือ ฟิลเลอร์ HA ซึ่งเป็นฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) ครับ

    องค์ประกอบของฟิลเลอร์

    เคยสงสัยไหมครับว่าในฟิลเลอร์มีอะไร ? ทำไมถึงได้นิยมนำมาฉีดปรับรูปหน้า 

    ฟิลเลอร์ มีกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid : HA) เป็นองค์ประกอบหลัก เป็นสารสังเคราะห์จากน้ำตาลเชิงซ้อน สร้างขึ้นเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ช่วยเติมเต็มร่องลึก หรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน คงความอ่อนเยาว์ไว้ได้

    Filler แต่ละยี่ห้อจะมีปริมาณความเข้มข้นของ HA ต่างกัน และในฟิลเลอร์บางรุ่นยังมีลิโดเคน (Lidocaine) หรือยาชาผสมอยู่ด้วย ช่วยลดความเจ็บขณะฉีดได้ครับ   

    เนื้อของฟิลเลอร์ 

    เนื้อฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็มีความแตกต่างกัน แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท

    เนื้อฟิลเลอร์
    1. ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ลักษณะเนื้อเจล มีความบางเบาเหมือนน้ำ 
    2. ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ลักษณะเนื้อเจล คล้ายเยลลี่ ไม่เป็นน้ำ เนื้อนุ่ม ไม่เป็นก้อน 
    3. ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ลักษณะเนื้อแข็ง คงตัวมากที่สุด ยกผิวในชั้นกระดูกได้ ใกล้เคียงกับกระดูก 

    เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?

    การเลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์มาฉีดให้คนไข้ แพทย์จะต้องพิจารณาหลายอย่าง นอกจากคุณสมบัติฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นแล้ว ยังต้องพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีดด้วยครับ

    แต่ละตำแหน่ง แต่ละปัญหา จำเป็นต้องใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่ต่างกัน หรือใช้ฟิลเลอร์ 1-2 ชนิด เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฉีดเพื่อทดแทนการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก และใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดฉีดเพื่อเก็บรายละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น  

    รวมถึงต้องพิจารณาสภาพผิวของคนไข้ เช่น คนที่มีผิวบาง ผิวแห้ง ต้องเลือกฟิลเลอร์ที่มีการกระจายตัวได้ดี หลังฉีดจะได้ไม่เห็นเป็นก้อน และเรียบเนียนไปกับผิว

    แพทย์ประเมินใบหน้า หมอเป้
    ประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข และแนะนำฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ดีที่สุด

    ฟิลเลอร์ มีกี่ยี่ห้อ อะไรบ้าง ? แตกต่างกันอย่างไร ?

    ฟิลเลอร์ มีหลายยี่ห้อ ที่ V Square Clinic เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. เป็น Filler แบรนด์ระดับโลกที่แพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับ

    • Restylane (ฟิลเลอร์สวีเดน) 
    • Juvederm (ฟิลเลอร์อเมริกา) 
    • Belotero (ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์) 
    • Definisse (ฟิลเลอร์อิตาลี) 

    ยี่ห้อฟิลเลอร์ 

    ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ผ่านการรับรองจาก U.S. FDA และ อย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด มีจุดเด่นที่ขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์มีเม็ดใหญ่ ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น มีค่าความแข็งสูง ยืดหยุ่น สามารถยกพยุงผิวได้ดี และมีให้เลือกหลายรุ่น เพื่อให้เหมาะกับแต่ละตำแหน่ง

    ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร ?

    ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ผลิตโดยบริษัท Allergan บริษัทเดียวกับที่ผลิต Botox Allergan ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้า มีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน นำเข้าโดยบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด มีจุดเด่นที่ความเรียบเนียน เหมาะกับการนำมาฉีดหลายตำแหน่ง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ และแก้มตอบ  

    ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

    ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นของเนื้อเจล การเกาะกันเป็นเนื้อเดียว ไม่ไหลไม่เป็นก้อน มีความคงตัว และปั้นทรงสวย สามารถฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัยได้ มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด

    ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

    ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse ผลิตด้วยเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ทำให้ Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ นำเข้าโดยบริษัท เอ.เมนาริ (ประเทศไทย) จำกัด

    ยี่ห้อฟิลเลอร์ Definisse
    ฟิลเลอร์ Definisse

    ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อที่กล่าวมาข้างต้น แม้จะเป็นไฮยาลูโรนิก แอซิด เหมือนกัน แต่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน เช่น

    • ความแข็ง (Elasticity) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความแข็งสูง จะเหมาะกับการฉีดเพื่อปรับยกโครงหน้าในชั้นกระดูก เช่น คาง จมูก ฉีดเพื่อดึงหน้า ฉีดยกผิวชั้นลึกในชั้นกระดูก
    • ความยืดหยุ่น (Plasticity, Cohesiveness) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ จะเหมาะกับการฉีดเติมเนื้อในบริเวณที่ผิวมีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม มุมปาก แก้มตอบ
    • การกระจายตัว (Tissue Integration) หรือความสามารถในการสมานกับผิวที่อยู่รอบ ๆ เหมาะกับคนที่ผิวบาง ผิวแห้ง เมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วจะไม่เห็นเป็นก้อน และเรียบเนียนไปกับผิว
    • ความอุ้มน้ำ (Water Holding) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความอุ้มน้ำสูง ฉีด 1 CC จะฟูได้ถึง 1.5 CC แต่จะเหมาะกับบางจุด เช่น ร่องแก้ม ขมับ ไม่เหมาะกับการฉีดใต้ตา เพราะถ้าฟูมาก ตาจะดูบวม
    • จำนวนการเชื่อมพันธะ (Crosslink) ฟิลเลอร์ที่มีจำนวนพันธะเยอะขึ้น จะอยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง และอุ้มน้ำได้น้อยลง ฟูน้อยลง ทนต่อแรงบิดได้ดี ถ้ามีค่าการกระจายตัวปานกลาง จะเหมาะกับบริเวณที่ผิวขยับบ่อย ๆ 
    • ขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ (Particle Size) ฟิลเลอร์ที่มีเม็ดใหญ่จะอยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง ค่าการกระจายตัวต่ำ จะเหมาะกับยกหน้าในผิวชั้นลึกได้ดีที่สุด  

    แต่ละตำแหน่งบนใบหน้า เลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ?

    ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ ที่ฉีดแล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด ได้แก่ 

    • ฟิลเลอร์ใต้ตา  
    • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม  
    • ฟิลเลอร์แก้มส้ม 
    • ฟิลเลอร์ปาก  
    • ฟิลเลอร์คาง  
    • ฟิลเลอร์ขมับ 
    • ฟิลเลอร์หน้าผาก  

    ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์

    ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ คุณนิโคล
    ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์

    ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? 

    การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่น คงตัว ฉีดแล้วไม่ฟูมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ตาบวม ดูไม่เป็นธรรมชาติครับ มีหลายรุ่นแนะนำ ทั้งฟิลเลอร์เนื้อแข็ง สำหรับเติมร่องลึก และเนื้อละเอียด สำหรับเก็บรายละเอียด 

    • Juvederm Voluma  
    • Juvederm Volite  
    • Juvederm Volux  
    • Restylane Defyne  
    • Restylane Vital Light  
    • Restylane Vital  
    • Restylane Perlane Lyft  
    • Restylane Classic  
    • Belotero Volume  
    • Belotero Soft  
    ใต้ตาคล้ำ  ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?

    ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ?

    การฉีดฟิลเลอร์แก้ม สามารถแก้ไขได้ทั้งฟิลเลอร์เนื้อแข็ง และฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้อค่อนข้างฟูครับ จะทำให้เต็มสวย ไม่เป็นก้อน ผิวเรียบเนียน ยี่ห้อที่หมอแนะนำ ได้แก่

    • Juvederm Ultra Plus  
    • Juvederm Voluma  
    • Juvederm Volift  
    • Juvederm Volux  
    • Restylane Volyme  
    • Belotero Intense 
    • Definisse Restore 
    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมเต็มร่องแก้มลึก

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม ยี่ห้อไหนดี ?

    การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เติมฟิลเลอร์บริเวณพวงแก้ม ซึ่งมีการยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ ไขมัน ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ไม่ฟู สามารถคงรูปได้ดี เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า ยี่ห้อที่หมอแนะนำ คือ

    • Restylane Perlane lyft 
    • Definisse Core 
    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ใบหน้าอิ่มเอิบ ดูอ่อนเยาว์

    ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? 

    การฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับทรงปากสวย ปากกระจับ ปากเกาหลี ปากสายฝอ หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากปากเป็นตำแหน่งที่มีการขยับบ่อย ยี่ห้อที่หมอแนะนำ ได้แก่  

    • Juvederm Ultra Plus  
    • Juvederm Voluma 
    • Juvederm Volift 
    • Juvederm Volite  
    • Restylane Vital Light 
    • Restylane Volyme 
    • Restylane Refyne  
    • Restylane Kysse 
    • Belotero Volume  
    ฉีดฟิลเลอร์ปาก
    ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับทรงปากสวย

    ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี ? 

    การฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เนื้อแข็ง ไม่ฟู เพื่อให้ปั้นเป็นทรงได้สวย ยี่ห้อที่หมอแนะนำ ได้แก่ 

    • Juvederm Voluma  
    • Juvederm Volux  
    • Restylane Perlane Lyft  
    • Belotero Intense 
    • Definisse Core  
    ฉีดฟิลเลอร์คาง ปรับรูปหน้า

    ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ? 

    การฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้ได้สัดส่วนมากขึ้น ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เติมเต็มขมับที่ฉีดแล้วฟู ทนต่อแรงขยับ ยี่ห้อที่หมอแนะนำ ได้แก่ 

    • Juvederm Ultra Plus 
    • Juvederm Voluma  
    • Juvederm Volux  
    • Restylane Volyme  
    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เติมเต็มขมับตอบ ขมับยุบ

    ฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อไหนดี ? 

    การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อเนียนละเอียด ไม่เป็นก้อน และให้ผลลัพธ์เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ยี่ห้อที่หมอแนะนำ คือ

    • Juvederm Volbella  
    • Restylane Vital  
    ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
    ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทดแทนกระดูกใบหน้าทรุดและไขมันยุบตัว

    ฟิลเลอร์แท้-ฟิลเลอร์ปลอม ดูอย่างไร ?

    นอกจากรู้ข้อมูลในเบื้องต้นเกี่ยวกับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดในแต่ละตำแหน่งแล้ว ยังต้องแยกให้ออกด้วยครับว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้น เป็นฟิลเลอร์แท้หรือฟิลเลอร์ปลอม ต้องไม่ลืมว่าผลลัพธ์ที่สวยงามต้องมาควบคู่กับความปลอดภัย ฟิลเลอร์ที่ฉีดต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. เท่านั้น

    ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.
    เช็กให้ชัวร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์

    ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีวิธีการตรวจสอบครับว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ หมอมีตัวอย่างวิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้-ฟิลเลอร์ปลอม ยี่ห้อต่าง ๆ ก่อนฉีด หากไม่เป็นไปตามนี้ หรือถ้าคลินิกไม่ยอมให้ตรวจเช็ก ไม่แกะกล่องให้ดูต่อหน้า สันนิษฐานไว้ก่อนเลยครับว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม ไม่ควรฉีดเด็ดขาด อาจเกิดผลข้างที่เป็นอันตราย

    วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Restylane
    วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Restylane
    • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
    • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
    • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
    • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
      1. เลข lot. ที่ข้างกล่อง
      2. เลข lot. ที่หลอด
    • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
    • สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402
    วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Juvederm
    วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Juvederm
    • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
    • กล่องมี 2 cc และเลข lot. ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
      1. เลข lot. ที่กล่อง
      2. เลข lot. ที่ซอง
      3. เลข lot. ที่สติกเกอร์
      4. เลข lot. ที่หลอด
    • สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 640 4999 ต่อ 1
    วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Belotero
    วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Belotero
    • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
    • กล่องมี 1 cc และเลข lot. ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
      1. เลข lot. ที่กล่อง
      2. เลข lot. ที่สติกเกอร์
      3. เลข lot. ที่หลอด
    • สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร.02 229 9696
    วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Definisse
    วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Definisse
    • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทย (อยู่นอกกล่อง) และภาษาอังกฤษ (อยู่ในกล่อง)
    • มีรอยประด้านข้างกล่องที่ปิดสนิท
    • Label Sticker จะสามารถลอกออกได้ เพื่อนำไปติดใน OPD Card
    • กล่องมี 1 cc และเลข lot. ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
      1. เลข lot. ด้านหลังกล่อง
      2. เลข lot. ด้านข้างกล่อง
      3. เลข lot. ที่หลอด
    • สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 696 8500 กด 3

    ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี ?

    ในการฉีดฟิลเลอร์ ควรให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกคลินิก ต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาต 11 หลัก แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่าน อย. นำเข้าอย่างถูกต้อง และมีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ได้เห็นทั้งขั้นตอนการฉีด และผลลัพธ์หลังทำ

    คลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ดี หมอกันต์
    คุณสมบัติคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ดี

    เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อยอดนิยม ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

    นอกจากจะมีคุณสมบัติตรงตามการเป็นคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ดีแล้ว ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic มีฟิลเลอร์ยอดนิยมให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น เพื่อให้แพทย์เลือกใช้แก้ไขปัญหาของคนไข้ได้ตรงจุด ส่วนคนไข้เองก็เลือกได้ตามงบประมาณครับ 

    เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ที่ใช้ ยังเป็นเทคนิคเฉพาะของคลินิกครับ มั่นใจได้ในความปลอดภัย ผลลัพธ์สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากทั้งผู้รับบริการ และดารา & เซเลบริตี้ 

    คลินิกฉีดหน้าดารา & เซเลบริตี้  หมอเพลิน คุณฟลุค หมอเบส คุณชาคริต หมอซี คุณตุ้ย
    ดารา & เซเลบริตี้ ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic 

    สรุป

    ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ? แพทย์จะต้องประเมินปัญหาของคนไข้ก่อนจะเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการแก้ปัญหา และเหมาะสมกับงบประมาณของคนไข้ แต่นอกจากยี่ห้อฟิลเลอร์แล้ว ยังมีอีกหลายองค์ประกอบสำคัญ ทั้งประสบการณ์ของแพทย์ เทคนิคที่ใช้ และคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ออกมาปลอดภัยและสวยงามครับ  


    อ้างอิง : 


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    หมอให้คำปรึกษา

    รวมเรื่องควรรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ แก้ปัญหาขมับตอบ เติมเต็มขมับยุบ ลดโหนกแก้ม เสริมโหงวเฮ้ง

    Categories
    ฉีดฟิลเลอร์
    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ

    ปัญหาขมับยุบ ขมับตอบ ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อย และไม่ได้สัดส่วนสวยงาม ปัจจุบันด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เราสามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล ทำให้ใบหน้าสมดุลได้สัดส่วน ดูสดใสขึ้น และช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นได้ 

    สำหรับผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ หมอมีข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับมาแนะนำครับ ฟิลเลอร์ขมับช่วยเติมเต็มขมับยุบขมับตอบได้อย่างไร ? ปัญหาขมับเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ? ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ? ก่อนเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง ?

    สารบัญ ฟิลเลอร์ขมับ 

    1. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ คืออะไร ?
    2. ขมับยุบ ขมับตอบ เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ?
    3. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
    4. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ อันตรายไหม ?
    5. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ใช้กี่ CC ?
    6. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ราคาเท่าไหร่ ? 
    7. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ?
    8. ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มขมับ กี่วันเห็นผล ?
    9. รีวิว ฟิลเลอร์ขมับ 
    10. หลังฉีดฟิลเลอร์ ขมับดูแลตัวเองอย่างไร ?
    11. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ไหนดี ?

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ คืออะไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ คืออะไร

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ผลิตขึ้นมาเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ สามารถใช้ทดแทนคอลลาเจนที่ร่างกายสูญเสียไปเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณขมับที่เกิดการยุบตัว จะช่วยเติมเต็มผิวบริเวณขมับให้เรียบเนียนเสมอผิวเดิม โดยไม่ต้องผ่าตัด หลังฉีดขมับสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที เป็นวิธีการเสริมขมับที่ปลอดภัย ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น ทำให้รูปหน้าได้สัดส่วนสวยงาม ดูมีมิติ 


    ขมับยุบ ขมับตอบ เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ?

    ปัญหาขมับยุบ ขมับตอบ มีสาเหตุหลักเกิดจากโครงสร้างของกะโหลกศีรษะส่วนบุคคล ในบางคนอาจมีหลุมลึกข้างขมับ เนื่องจากกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ ชั้นไขมัน เกิดการยุบ ฝ่อตัวลง พื้นที่ด้านในจึงไม่พอดีกับผิวหนังด้านนอก สังเกตเห็นเป็นแอ่ง บุ๋ม 

    อีกกรณีที่ส่งผลให้ขมับยุบ เกิดจากการจัดฟัน เพราะกล้ามเนื้อที่ใช้ในการบดเคียวอาหารทำงานลดลง ทำให้กล้ามเนื้อรูปพัดที่อยู่ด้านข้างขมับ หรือเทมโพราลิส (Temporalis Muscle) ลีบเล็กลง ขมับจึงมีการยุบตัวลงตามไปด้วย


    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?

    การฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ ช่วยเติมเต็มขมับที่ยุบตัว ปรับรูปหน้าให้สมดุลได้สัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด แก้ปัญหาขมับได้หลากหลาย ได้แก่

    • ขมับตอบ 
    • ขมับยุบ 
    • ขมับเป็นแอ่ง 
    • เสริมโหงวเฮ้งที่ดี 
    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเรื่องอะไร

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เสริมโหงวเฮ้งรับทรัพย์

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเสริมโหงวเฮ้ง

    การฉีดฟิลเลอร์ขมับตอบนอกจากจะช่วยเรื่องความงามบนใบหน้าแล้ว ยังนิยมฉีดเพื่อเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่หลายคนให้ความสนใจ ตามตำราการมีขมับที่เต็ม เอิบอิ่ม หลักโหงวเฮ้งเชื่อว่าชีวิตคู่จะสมบูรณ์ วาสนาดี ชีวิตไม่ลำบาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ทำให้ได้รับความนิยมในการฉีดปรับรูปหน้าเสริมโหงวเฮ้งมากขึ้นครับ


    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ อันตรายไหม ?

    การฉีดฟิลเลอร์ขมับ เป็นวิธีแก้ปัญหาขมับยุบ ขมับตอบที่ปลอดภัย เห็นผลไว และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ได้มาตรฐาน จะสามารถสลายหมดไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง 

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ อันตรายไหม

    แต่การฉีดฟิลเลอร์ขมับจะอันตรายก็ต่อเมื่อ ฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ เนื่องจากบริเวณขมับเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเชื่อมต่อไปยังลูกตา หากฉีดพลาดเข้าเส้นเลือด อาจเสี่ยงตาบอด เนื้อตายได้

    ดังนั้น แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ขมับควรมีประสบการณ์สูง สามารถประเมินจุดฉีด ระดับความลึก ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ด้วยเทคนิคการฉีดด้วยเข็มแหลมชนกระดูก และหากฉีดพลาดแล้วเกิดการอุดตัน ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ โดยใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ฉีดเข้าไปเพื่อสลายฟิลเลอร์ แก้ไขให้กลับคืนมาได้ใน 7-14 วัน โดยไม่ทำให้เกิดเนื้อตาย หรือตาบอดได้ครับ 


    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ใช้กี่ CC ?

    การฉีดฟิลเลอร์ขมับ โดยทั่วไปจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ ข้างละ 1-2 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาความลึกของขมับแต่ละบุคคล ก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อประเมินการยุบตัวของขมับ ประเมินปริมาณและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน 


    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ราคาเท่าไหร่ ? 

    เนื่องจากบริเวณขมับมีเส้นเลือดที่เชื่อมต่อไปยังดวงตา การฉีดฟิลเลอร์ขมับจึงต้องอาศัยประสบการณ์และประสบการณ์ของแพทย์ ก่อนตัดสินใจฉีดจึงควรให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก รวมถึงการเลือกฟิลเลอร์เเท้ที่ได้มาตรฐาน นำเข้าอย่างถูกต้อง ผ่านอย. โดยราคาของฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับยี่ห้อรุ่น และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้

    ฟิลเลอร์ขมับ ราคา
    ฟิลเลอร์ขมับ ราคา

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ?

    โดยปกติแล้วแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาขมับ ก่อนแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสม เพราะปัญหาและ ลักษณะผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 

    สำหรับการฉีดขมับ แพทย์จะแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เนื้อฟู มีความยืดหยุ่นสูง สามารถทนต่อแรงขยับได้ดี ที่ V Square Clinic มีฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับการฉีดขมับหลายรุ่น เพื่อให้สามารถเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละคนให้ได้มากที่สุด โดยแต่ละรุ่น อยู่ได้นาน 12-24 เดือน มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้

    ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus

    Juvederm Ultra Plus : เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับเติมขมับ หรือร่องลึกต่าง ๆ ที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงตามวัย

    ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma

    Juvederm Voluma : เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมขมับได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volux

    Juvederm Volux : รุ่นนี้เนื้อฟิลเลอร์มีความแข็งและคงตัว ทนต่อแรงขยับได้ดี ช่วยแก้ปัญหาขมับยุบ ขมับตอบ 

    ฟิลเลอร์ Restylane Volyme

    Restylane Volyme : เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง เติมชั้นผิวบริเวณใบหน้าให้อิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มส่วนที่โหลลึกหรือตอบ เช่น ขมับตอบ


    ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มขมับ กี่วันเห็นผล ?

    หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที หลังฉีดอาจมีรอยแดง รอยบวมจากเข็มเล็กน้อย เป็นอาการปกติครับ สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ใน 2-3 วัน จากนั้นฟิลเลอร์จะเริ่มกลืนกับเนื้อเยื่อของผิว และเริ่มเข้าที่ใน 1-2 สัปดาห์ 


    รีวิว ฟิลเลอร์ขมับ 

    รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ V Square Clinic 
    จากผู้ใช้บริการจริง ก่อน-หลังทำ
    ช่วยให้รูปหน้าโดยรวมเข้ารูป ละมุนเป็นธรรมชาติ

    รีวิว ฟิลเลอร์ขมับ (2)
    รีวิว ฟิลเลอร์ขมับ (4)
    รีวิว ฟิลเลอร์ขมับ
    รีวิว ฟิลเลอร์ขมับ (3)
    รีวิว ฟิลเลอร์ขมับ (2)
    รีวิว ฟิลเลอร์ขมับ

    หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับดูแลตัวเองอย่างไร ?

    หลังฉีดฟิลเลอร์ ขมับดูแลตัวเองอย่างไร
    • เลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพื่อลดการอักเสบ ติดเชื้อจากมือ เล็บที่ไม่สะอาด 
    • เลี่ยงการนอนตะแคง เพื่อลดการกดทับบริเวณขมับ ที่อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดศีรษะได้ครับ
    • เว้นการออกกำลังกายหนัก ๆ ออกไปก่อน เพราะอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปยังบริเวณใกล้เคียง
    • การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูและคงรูปได้นานขึ้น
    • พยายามอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง (อย่างน้อย 48 ชม.)

    การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler ขมับดี ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพ รวมถึงการคงผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้นของฟิลเลอร์ ในกรณีที่ฟิลเลอร์เริ่มสลายหมดไป คนไข้สามารถกลับมาเติมฟิลเลอร์ขมับเพิ่มได้ ตามคำแนะนำของแพทย์ครับ


    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ไหนดี ?

    เนื่องจากบริเวณขมับมีเส้นเลือดที่เชื่อมต่อไปยังลูกตา ต้องใช้ปริมาณของฟิลเลอร์แต่ละจุดค่อนข้างมาก จึงควรให้ความสำคัญในการฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเจอหมอเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอมที่อาจส่งผลให้การฉีดฟิลเลอร์อันตรายได้ หากพลาดฉีดเข้าไปในเส้นเลือด ที่เชื่อมต่อไปยังลูกตาอาจทำให้เนื้อตาย ตาบอด

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ไหนดี

    หมอแนะนำให้เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยมีข้อควรพิจารณาดังนี้

    1. คลินิกมีความน่าเชื่อถือ 
      เปิดให้บริการอย่างถูกต้องและมีมาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข มีอุปกรณ์และเครื่องมือในการช่วยเหลือยามฉุกเฉิน มีพื้นที่และห้องการทำหัตถการที่กว้างขวาง มีความสะอาด ไม่ทึบหรือแออัด 
    1. แพทย์มีประสบการณ์สูงในการปรับรูปหน้า
      แพทย์ประสบการณ์สูงจะมีเทคนิคในการฉีดที่ถูกต้องและแม่นยำ สามารถประเมินปริมาณยาที่เหมาะสมกับปัญหาขมับของคนไข้ ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และปลอดภัย
    1. รีวิวน่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง 
      ศึกษาจากหลายช่องทางที่เชื่อถือได้ ไม่เฉพาะแค่ในหน้าเพจ หรือเว็บไซต์ของคลินิกเพียงอย่างเดียว เพื่อลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ ช่วยประกอบการตัดสินใจว่าเมื่อทำที่คลินิกนี้แล้วจะได้รับความปลอดภัย ไม่มีปัญหาต่าง ๆ ตามมาภายหลัง
    1. ใช้ฟิลเลอร์แท้และได้มาตรฐาน
      สั่งซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง เนื่องจากบริษัทยาจะขายให้กับแพทย์ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ที่ V Square Clinic ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ 100% และสามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้
    1. มีช่องทางสำหรับติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว 
      ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อนทำ-หลังทำอย่างใกล้ชิด และมีช่องทางติดต่อสอบถามเกี่ยวกับปัญหากับหมอโดยตรงไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ V Square Clinic ดีอย่างไร โดยหมอแพน

    ที่ V Square Clinic จะเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทีมแพทย์มีประสบการณ์กว่า 15 ปี คนไข้ที่เข้าใช้บริการจะได้รับการประเมินใบหน้า แนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหา โดยผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ใช้ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้ หมอเปิดตัวยาใหม่ต่อหน้าทุกเคส หลังฉีดมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคนไข้จะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจครับ


    สรุป

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาขมับยุบ ขมับตอบ ทำให้ผิวบริเวณขมับตื้นขึ้น เรียบเนียนเสมอผิวเดิมได้อย่างตรงจุด หลังทำเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะได้รับความนิยม แต่เพื่อความปลอดภัย หมอแนะนำให้เลือกที่คลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายระหว่างการฉีด และเห็นผลการเติมเต็มขมับที่เรียบเนียนสวย ได้สัดส่วนตามต้องการครับ


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    หมอให้คำปรึกษา

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ฉีดจุดไหน แก้ปัญหาแก้มตอบ ช่วยให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย

    Categories
    ฉีดฟิลเลอร์
    ฟิลเลอร์แก้มส้ม

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

    ปัญหาแก้มแบน แก้มหย่อนคล้อย จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ในหน้าดูโทรม ไม่สดใส แก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม หัตถการที่ช่วยเติมเต็มแก้มให้มีความอวบอิ่มดูมีน้ำมีนวล ยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลง สดใสขึ้น ในคนไข้ที่กำลังหาข้อมูล และยังสงสัยว่า การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ? แก้มส้มอยู่บริเวณไหนของใบหน้า ก่อนฉีดแก้มส้มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ควรรู้อะไรบ้าง หมอรวมทุกคำตอบให้แล้วครับ

    สารบัญ ฟิลเลอร์แก้มส้ม

    1. ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ?
    2. แก้มส้ม คืออะไร อยู่บริเวณไหนของใบหน้า ?
    3. ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยอะไรบ้าง ?
    4. ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ใช้กี่ CC ?
    5. ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ยี่ห้อไหนดี ?
    6. ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นธรรมชาติไหม ?
    7. ฟิลเลอร์แก้มส้ม แท้ดูอย่างไร ?
    8. รีวิว การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
    9. อยากให้ฟิลเลอร์แก้มส้ม ให้อยู่ได้นานดูแลตัวเองอย่างไร ?
    10. ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่ไหนดี ?
    11. Q&A 

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม คือ การฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เข้าไปบริเวณส่วนกลางหน้า (Midface Filler) หรือพวงแก้ม ที่อยู่ระหว่างใต้ตากับแก้ม และโหนกแก้มกับจมูก ช่วยแก้ปัญหาผิวบริเวณแก้มที่หย่อนคล้อย จากการยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ ไขมัน เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าที่เคยเต่งตึง กลับหย่อนคล้อยลง เกิดริ้วรอย ร่องลึก ผิวตกลงตามแรงโน้มถ่วง 

    เมื่อฉีดฟิลเลอร์จะช่วยยกกระชับผิวบริเวณที่ฉีดให้ตึงขึ้น นูนโค้งขึ้น หากมองด้านข้างของใบหน้า จะเห็นส่วนโค้งของใบหน้าเป็นตัว S ส่งผลให้ใบหน้าดูมีสัดส่วนสวยงาม ละมุนขึ้น อ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ

    จุดฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

    โดยการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม จะใช้เทคนิคการฉีด 8 จุด ได้แก่ โหนกแก้ม แก้มด้านบน ร่องน้ำตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ข้างคางด้านหน้าของใบหู และพวงแก้ม ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มไม่จำเป็นต้องฉีดทุกจุดที่กล่าวมา ขึ้นอยู่กับปัญหาความหย่อนคล้อย และความต้องการของคนไข้แต่ละราย โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสมครับ 


    แก้มส้ม คืออะไร อยู่บริเวณไหนของใบหน้า ?

    แก้มส้ม อยู่บริเวณไหนของใบหน้า

    ตำแหน่งของแก้มส้ม อยู่ระหว่างใต้ตากับแก้ม และโหนกแก้มกับจมูก มีลักษณะนูนโค้งมนคล้ายผลส้ม เมื่อมองด้านข้างจะเห็นเป็นตัว S ทางการแพทย์เรียกว่า Ogee curve หรือ S curve โดยแก้มส้มที่โค้งมนนี้ ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น จะเห็นได้ว่าในผู้ที่มีแก้มส้ม เวลาพูดหรือยิ้มจะดูละมุนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูเด็กลงด้วยครับ 

    แก้มส้มอยู่บริเวณไหนของใบหน้า

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยอะไรบ้าง ?

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยอะไรบ้าง

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยเติมเต็มใบหน้า 

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยเติมเต็มใบหน้า : การฉีด Filler แก้มส้ม ช่วยเติมเต็มใบหน้า แก้ปัญหาการยุบตัวของกระดูก ไขมัน ที่ทำให้แก้มแบน หน้าตอบได้ หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม จะทำให้มีพวงแก้มขึ้นมา หน้าดูอิ่มเต็ม ดูมีมิติมากขึ้น ใบหน้าอ่อนเยาว์ลง สดใสขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที 

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยยกหน้าให้กระชับขึ้น

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยยกหน้าให้กระชับขึ้น : ด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มในปัจจุบัน นอกจากช่วยเติมเต็มใบหน้า ยังช่วยให้ใบหน้ายกกระชับขึ้นได้ จากการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปหนุนในส่วนของเส้นเอ็นที่หย่อนคล้อย ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมจะดูยกกระชับขึ้น

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยเสริมโหงวเฮ้ง

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยเสริมโหงวเฮ้ง : นอกจากผู้ที่มีปัญหาหน้าแบนอยากมีแก้มส้มเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงแล้ว ในผู้ที่มีแก้มอยู่แล้วแต่ต้องการเติมแก้มส้มให้มีความโค้งมนขึ้น ก็สามารถทำได้ครับ หลายคนนิยมเติมฟิลเลอร์แก้มส้มเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง (โหนวป๊กเก็ง) การมีแก้มที่อิ่มเอิบ แก้มไม่ตอบ รับกับแนวกราม ไม่หย่อนคล้อย ไม่มีร่องแก้ม-ร่องมุมปากที่ลึกเกินไป จะทำให้เจ้าของใบหน้ามีบริวารซื่อสัตย์รับใช้ เรียกว่า บริวารดี พึ่งได้ ชีวิตยามชราสุขสบาย (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ทำให้การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงาม เพื่อเสริมโหงวเฮ้งตามตำราจีนครับ


    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ใช้กี่ CC ?

    ปริมาณ CC ของฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดบริเวณหน้าแก้ม หรือแก้มส้ม ขึ้นอยู่กับจุดที่คนไข้ต้องการแก้ไข หากคนไข้ต้องการเติมแค่บริเวณแก้มส้มอย่างเดียว การใช้ 1-2 CC ก็สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงชัดเจน หากปัญหาและความต้องการของคนไข้มีมากกว่านั้น เนื่องจากเป็นผู้ที่มีอายุมาก กระดูกหรือไขมันยุบตัว ส่งผลให้เกิดริ้วรอยร่องแก้ม ปัญหาใต้ตา รวมถึงบริเวณโดยรอบ อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากขึ้น

    โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและพิจารณาตามความเหมาะสม  เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มดูเป็นธรรมชาติ และตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุดครับ


    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ยี่ห้อไหนดี ?

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ยี่ห้อไหนดี

    ที่ V Square Clinic หมอเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane Perlane LYFT (Sweden) ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่สามารถคงตัวได้ดี ไม่ฟู ทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณแก้มส้มคงรูปได้ดี ช่วยยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อยให้กลับมามีมิติ เวลายิ้มแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นก้อนแข็งเวลามองหรือจับ สามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังการฉีดส่วนบุคคลครับ


    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นธรรมชาติไหม ?

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นธรรมชาติไหม

    การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะดูเป็นธรรมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ ในการประเมินปัญหา ความต้องการของคนไข้ เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม รวมถึงความพิถีพิถันในการฉีดอย่างเหมาะสมในชั้นผิวที่ถูกต้อง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ ผิวบริเวณที่ฉีดเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน คนไข้จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์มีประสบการณ์เท่านั้นครับ

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม แท้ดูอย่างไร ?

    วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Restylane Perlane lyft

    วิธีดูฟิลเลอร์แก้มส้มแท้

    รีวิว การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

    ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยดูรีวิวจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ จากผู้ใช้บริการจริง เปรียบเทียบ ก่อนทำ-หลังทำ เพื่อดูผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงให้แน่ใจว่าทางคลินิกไม่ได้ทำการแต่งภาพเพื่อตบตา ช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มของคนไข้ครับ

    รีวิว ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่ V Square Clinic จากผู้ใช้บริการจริง ก่อน-หลังทำ

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม 01
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม 02
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม 03
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม 04

    อยากให้ฟิลเลอร์แก้มส้ม ให้อยู่ได้นานดูแลตัวเองอย่างไร ?

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม อยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว รวมถึงการดูแลตัวเองเพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น ช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มคุ้มค่าที่สุด โดยมีข้อแนะนำดังนี้

    การเตรียมตัว ก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

    งดเลเซอร์หน้าหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
    • ควรงดยาหรือวิตามินบางชนิดที่มีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, Vitamin E, Fish Oil, ใบแปะก๊วย อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนฉีด
    • งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ 1-3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
    • หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน  
    • ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการแพ้ยาหรือมีโรคประตัวก่อนเข้ารับการฉีดทุกครั้ง
    • หากต้องการทำเลเซอร์หรือนวดหน้า ควรทำก่อนฉีดแก้มส้มอย่างน้อย 3 วัน

    การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

    การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม พยายามอย่าขยับผิวมากเกินไป เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ไปยังบริเวณใกล้เคียงได้
    • เลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การนั่งหน้าเตาร้อน ๆ การทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก (1 เดือนหลังฉีด) อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
    • งดอาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากพยาธิบางชนิดจะทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์แล้วเกิดการอักเสบได้
    • งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
    • งดการทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด อาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด เป็นเวลา 14 วัน
    • หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร 

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่ไหนดี ?

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่ไหนดี

    การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มที่ได้มาตรฐาน ย่อมส่งผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และมีความปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ไม่ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์จากราคาโปรโมชั่นที่ถูกมาก ๆ และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง เพราะอาจได้ผลไม่คุ้มค่า เสี่ยงเจอฟิลเลอร์ปลอม เสี่ยงเกิดผลเสียในอนาคต จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สามารถตรวจสอบได้ และฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์จะดีที่สุดครับ 

     ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่ V Square Clinic 

    ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่ V Square Clinic คุณช่า โดยหมอกันต์

    ที่ V Square Clinic มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ให้คำปรึกษาฟรี พร้อมแนะนำฟิลเลอร์แท้ที่ให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการของคนไข้เป็นรายบุคคล ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม พร้อมคำนวณราคาให้คนไข้พิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ หากคนไข้ไม่สะดวกเข้ารับคำปรึกษากับทางสาขา สามารถปรึกษาผ่านทาง Inbox Facebook หรือ Line@ หมอตอบเองทุกเคสครับ 

    โปรโมชั่น ฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่ V Square Clinic 

    ก่อนตัดสินใจทำหัตถการควรศึกษาข้อมูลฟิลเลอร์ เปรียบเทียบราคา และยี่ห้อของฟิลเลอร์ เพื่อความปลอดภัย ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ตรวจสอบได้ 

    ราคาฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่ V Square Clinic คุณนิโคล

    Q&A : ฟิลเลอร์แก้มส้ม

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม อันตรายไหม ?

    การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มไม่อันตรายครับ หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ตรวจสอบได้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนฉีด แนะนำให้แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อตรวจสอบว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ตกลงกันไว้หรือไม่ หากแพทย์แจ้งว่าต้องดูดตัวยาให้ห้องปลอดเชื้อ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานก่อนเลยว่า อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม คนไข้สามารถปฏิเสธการทำหัตถการได้ เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้ครับ

    หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ห้ามกินอะไรบ้าง ?

    การเลือกรับประทานอาหารหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม นอกจากช่วยคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้น ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อ โดยมีอาหารที่ไม่ควรรับประทานหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เช่น เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารหมักดอง อาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด อาหารที่มีรสหวานจัด นมวัว 

    เนื่องจากอาหารเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ และติดเชื้อได้ โดยอาหารที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้งดรับประทานในระยะเวลา 14 วันหลังการฉีด หากทำไม่ได้ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมงครับ

    คนท้อง ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มได้ไหม ?

    หญิงมีครรภ์ หรืออยู่ในช่วงการให้นมบุตร ควรเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มออกไปก่อนครับ 


    สรุป

    ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยเสริมแก้มที่แบนให้ดูอวบอิ่มขึ้นได้ เป็นหัตถการด้านความงามที่ไม่ยุ่งยาก หากฉีดในจุดที่เหมาะสม จะช่วยเสริมแก้มส้ม ยกกระชับผิว ให้ใบหน้าโดยรวมดูละมุนดูมีมิติมากขึ้น อ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ หลังฉีดให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันที ก่อนตัดสินใจฉีดหมอแนะนำให้หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์มีประสบการณ์เท่านั้นครับ


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    หมอให้คำปรึกษา

    ฟิลเลอร์หลุมสิว VS เลเซอร์หลุมสิว วิธีไหนเหมาะกับใคร ช่วยรักษาหลุมสิวได้อย่างไร ?

    Categories
    ฉีดฟิลเลอร์

    ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว 

    ฟิลเลอร์หลุมสิว--VS-เลเซอร์หลุมสิว1000x860

    หลังสิวหาย มักจะทิ้งหลุมสิวไว้ให้ดูต่างหน้า เมื่อเกิดขึ้นแล้วหากคนไข้ไม่รู้วิธีการรักษาที่ถูกต้อง อาจส่งผลต่อผิวโดยรอบให้เสียหายได้ บทความนี้หมอมีวิธีรักษาหลุมสิวรูปแบบต่าง ๆ มาแนะนำครับ รวมถึงการรักษาหลุมสิวฟิลเลอร์หลุมสิว หัตถการทางการแพทย์ที่ให้ผลลัพธ์หลังฉีดทันที สำหรับใครที่สงสัยว่าแต่ละวิธีช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้อย่างไร  วิธีไหนเหมาะกับใคร ให้ผลลัพธ์อย่างไร ตรงตามความต้องการไหม ศึกษาได้ในบทความนี้

    สารบัญ

    1. ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร ?
    2. หลุมสิว คืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร ?
    3. วิธีการรักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง ?
    4. ข้อแตกต่างระหว่าง ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว VS เลเซอร์หลุมสิว
    5. ฟิลเลอร์รักษาและเติมเต็มหลุมสิว ยี่ห้อไหนดี ?
    6. เติมเต็มหลุมสิว ใช้ฟิลเลอร์กี่ CC ?
    7. ฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว กี่วันเห็นผล ?
    8. ฟิลเลอร์หลุมสิว ราคา 
    9. ฟิลเลอร์หลุมสิว อยู่ได้นานไหม ?
    10. หลังฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว ดูแลตัวเองอย่างไร ?
    11. ฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี ?

    ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร ?

    การรักษาหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์

    ฉีด Filler หลุมสิว คือ การรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic acid) ชนิดเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ที่มีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำในผิว เติมความชุ่มชื้นถึงผิวชั้นใน เมื่อนำฟิลเลอร์มาฉีดบริเวณหลุมสิว จะช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น พร้อมทั้งช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ร่องลึกตื้นขึ้น ผิวมีความยืดหยุ่น ดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนแปลงไป หลังฉีดเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที โดยไม่ทิ้งรอยแผล และไม่เสียเวลาพักฟื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนครับ


    หลุมสิว คืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร ?

    หลุมสิวคืออะไร

    หลุมสิว คือ ร่องรอยจากสิวที่หายแล้ว ปกติหลังจากสิวหายจะมีกระบวนการซ่อมแซมผิวเป็นกระบวนการรักษาตามธรรมชาติของร่างกาย หลังเกิดรอยแผลหรือเกิดการอักเสบของผิว โดยใช้เวลาประมาณ 7-10 วันหลังสิวหาย ซึ่งชั้นผิวจะมีการสร้างเซลล์ผิวหนัง และคอลลาเจนล้อมรอบบริเวณที่มีการอักเสบ เมื่ออาการอักเสบฟื้นฟูขึ้นอย่างสมบูรณ์ จะไม่ทำให้เกิดรอยแผลจากสิว 

    หากกระบวนการดังกล่าวไม่สมบูรณ์จากการอักเสบของสิวที่รุนแรง ส่งผลให้คอลลาเจนในชั้นผิวถูกทำลาย เซลล์เนื้อเยื่อเกิดการหดรัดตัว ส่งผลให้เกิดรอยแผลเป็น เกิดหลุมจากสิวที่ใหญ่ ลึก และอาจเกิดพังผืดตามมาได้ครับ


    วิธีการรักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง ?

    วิธีการรักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง

    วิธีการรักษาหลุมสิวมีหลายแนวทางด้วยกันครับ ทั้งวิธีทางการแพทย์โดยใช้เครื่อง ใช้หัตถการ วิธีธรรมชาติที่สามารถทำเองได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของหลุมสิว หากมีความรุนแรงมากอาจต้องใช้วิธีการรักษาร่วมกัน ซึ่งสามารถทำได้ และให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยมีรายละเอียดการรักษาของแต่ละแนวทางดังนี้

    1. การฉีดสารเติมเต็ม หรือฉีดฟิลเลอร์ (Fillers injection) 

    การฉีดสารเติมเต็ม หรือฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ : เป็นการฉีด Hyaluronic acid เข้าไปบริเวณหลุมสิว เพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วน หลังฉีดสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที หลุมสิวดูตื้นขึ้นประมาณ 70% หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ 

    ในผู้ที่ผิวบอบบางอาจจะรอยแดงจากเข็มเล็กน้อย โดยไม่ทิ้งรอยแผล สามารถคงผลลัพธ์การรักษาได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดส่วนบุคคล การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว สามารถทำร่วมกับวิธีการรักษาอื่นได้ เช่น การตัดพังผืดหลุมสิว เป็นการช่วยให้ผลลัพธ์การรักษาหลุมสิวมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นครับ

    การฉีดสารเติมเต็มหรือฉีดฟิลเลอร์

    ข้อควรระวัง : ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวในชั้นผิว ร่วมกับการเซาะพังผืดนั้น ต้องใช้ความพิถีพิถันในการเก็บรายละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติที่สุดครับ

    2. การตัดพังผืด (Subcision)

    การตัดพังผืดหลุมสิว : เป็นวิธีการที่ใช้เข็มขนาดเล็กตัดเลาะพังผืดใต้ผิวหนังออก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวมานาน และกระจายเต็มผิวหน้า เป็นหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) และหลุมสิวระดับปานกลาง (Box Scar) มีลักษณะเป็นหลุมสิวตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้าลงไปเพียงเล็กน้อย ขนาด 3-5 มม. 

    การตัดพังผืด

    หลังตัดพังผืดสามารถเห็นเปลี่ยนแปลงทันที เพื่อให้ผลการรักษาที่ชัดเจนควรทำ 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะในการทำ 3-6 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในช่องว่างที่พังผืดถูกเลาะออก เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาที่รวดเร็วและชัดเจนขึ้น สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวได้ครับ

    ข้อควรระวัง :  บริเวณที่เลาะพังผืด อาจมีอาการบวม เขียว ช้ำ สามารถเกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้ ในผู้ที่ดูแลรักษาแผลไม่ดีพอ หรือเกิดรอยแผลใหม่จากการรักษาได้ครับ

    3. กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Microdermabrasion หรือ MD)

    กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี : เป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว ด้วยเกล็ดอัญมณีที่มีขนาดเล็ก สามารถใช้กับหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) และหลุมสิวระดับปานกลาง (Box Scar) ให้การสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน สามารถช่วยลดรอยสิว รอยหลุมสิว รอยแผลเป็น รวมถึงจุดด่างดำจากสิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น โดยทั่วไปต้องทำต่อเนื่อง 8-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว หรือตามคำแนะนำของแพทย์ 

    กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี

    ข้อควรระวัง : หลังทำอาจเกิดการระคายเคืองผิว ผิวไวต่อแสงแดดและการกระตุ้นจากมลภาวะ อาจทำให้เกิดรอยดํา-ด่างขาว สิวหินได้ครับ

    4. ใช้ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอหรือกรดวิตามินเอ

    ใช้ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอหรือกรดวิตามินเอ

    การรักษาหลุมสิวด้วยการใช้ยากลุ่มวิตามินเอ หรืออนุพันธ์วิตามินเอ เช่น Retin A, Retinoid, Retinol เหมาะกับการรักษาหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) หลุมสิวตื้นในระดับที่ยังไม่ลึกมาก โดยตัวยาจะช่วยปรับโครงสร้างผิวชั้นบน ให้เรียบเนียน ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น สร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมถึงลดการอุดตัน การลดการอักเสบของสิว 

    ข้อควรระวัง :  ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ห้ามใช้สารในกลุ่มนี้ เพราะจะทำให้เด็กในครรภ์เกิดอันตรายได้ครับ

    5. การผ่าตัด (Punch  Excision)

    การผ่าตัดหลุมสิว

    การผ่าตัดหลุมสิว : เหมาะกับการรักษาหลุมสิวระดับรุนแรง (Ice pick scar) ที่เป็นมานาน และหลุมสิวระดับปานกลาง (Box Scar) วิธีการคือจะใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก ประมาณ 2 – 3 มิลลิเมตร ตัดบริเวณหลุมสิว จากนั้นแพทย์จะทำการดึงขอบ 2 ข้างที่เป็นผิวปกติมาเย็บติดกัน ซึ่งการสร้างแผลใหม่จะช่วยทำลายพังผืด และเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนไปในตัว ทำให้เห็นผลการรักษาชัดเจน 

    ข้อควรระวัง : หลังผ่าตัดคนไข้ต้องดูแลตัวเองอย่างดี หลีกเลี่ยงแสงแดด และห้ามโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน

    เมื่อครบ 1 สัปดาห์คนไข้จะต้องมาตัดไหม ซึ่งหลังจากตัดไหมแล้วจะเป็นรอยเส้นตรง ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน รอยเส้นตรงจะเริ่มดีขึ้น ระหว่างนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า เพื่อลดการอุดตันของผิว ทำให้เกิดสิว ผิวอักเสบขึ้นมาได้อีกครับ

    6. รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ (Laser)

    เลเซอร์หลุมสิว (Laser) : การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้ได้รับความนิยมมาก โดยชนิดของเลเซอร์ที่นิยมใช้ในการรักษาหลุมสิว ได้แก่ Fine Scan, Fractional, Pico Laser, e-matrix, Fractional Co2 Laser 

    รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

    การผลัดเซลล์ผิวเก่า ด้วยการเลเซอร์ส่งผลให้หลุมสิวตื้นขึ้น ลดปัญหารูขุมขนกว้าง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ชั้นผิวเรียบเนียนขึ้น โดยทั่วไปจะต้องทำ 4-6 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดี โดยเว้นระยะห่าง 2-3 สัปดาห์หรือตามคำแนะนำของแพทย์

    ข้อควรระวัง :  หลังทำเลเซอร์ผิวอาจเกิดการลอก ตกสะเก็ด ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น จึงต้องให้ความสำคัญในการทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อป้องกันการเกิดฝ้า ใครที่สนใจวิธีนี้จะต้องวางแผนให้ดีครับ เพราะไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าได้เลย

    7. รักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาติ

    รักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาติ

    รักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาติ : เป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง โดยใช้สมุนไพร ผัก ผลไม้ ที่มีกรด AHA เช่น การพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก มะขาม มะนาว เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่ไม่ยุ่งยาก หลังทำอาจไม่เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ต้องใช้ความต่อเนื่องในการทำจึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดี วิธีการนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนครับ

    ข้อควรระวัง : แม้จะเป็นการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ แต่ก็สามารถทำให้ในผู้ที่มีผิวบอบบาง มีปัญหาสิว รูขุมขนกว้าง เกิดการระคายเคือง ส่งผลให้ผิวแห้ง แสบผิว กระตุ้นการเกิดสิวใหม่ได้ครับ


    ข้อแตกต่างระหว่าง ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว VS เลเซอร์หลุมสิว

    ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว : รักษาหลุมสิวด้วยการฉีดไฮยาลูรอนหลุมสิว หรือฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นหัตถการที่ไม่ยุ่งยาก ซึ่งจะแตกต่างจากการรักษาด้วยวิธีอื่น คือ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล ไม่มีสะเก็ด หลังทำเสร็จสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที หลุมสิวจะเรียบเนียนขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 2 สัปดาห์ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เติมความชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ปัจจุบัน การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเป็นที่นิยมมากเนื่องจากเจ็บตัวน้อย เห็นผลไว เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนครับ

    เลเซอร์หลุมสิว (Laser) : การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีการที่จะค่อนข้างเจ็บขณะยิงเลเซอร์ คนไข้บางรายอาจให้แพทย์แปะยาชาก่อนยิง ซึ่งต้องใช้เวลารอให้ยาชาออกฤทธิ์ 30 นาทีถึงเริ่มยิงเลเซอร์ได้ หลังทำเสร็จต้องพักฟื้นหน้า เนื่องจากหลุมสิวที่ถูกยิงด้วยเลเซอร์ร้อนจะมีการตกสะเก็ด ส่งผลให้ผิวบริเวณดังกล่าวแห้งลอก แดง ระหว่างนี้คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด และต้องทาครีมกันแดดทุกครั้ง เพื่อไม่ใช้เกิดปัญหาฝ้าตามมา การเลเซอร์หลุมสิว จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าแบบเร่งด่วนครับ


    ฟิลเลอร์รักษาและเติมเต็มหลุมสิว ยี่ห้อไหนดี ?

    ฟิลเลอร์หลุมสิวแต่ละยี่ห้อ รุ่น มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ในผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวแบบเร่งด่วน และต้องการให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดี ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่หมอแนะนำ มีด้วยกัน 2 ยี่ห้อ คือ

    ฟิลเลอร์ Restylane vital light

    ฟิลเลอร์ Restylane vital light : เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดเจลอนุภาคเล็ก มีความยืดหยุ่นสูง มีเทคโนโลยี NASHA (Non animal stabilized hyaluronic acid) ที่ทำให้สามารถอุ้มน้ำได้ดี

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volite

    ฟิลเลอร์ Juvederm Volite : เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดบำรุงผิวชุ่มชื้น เพราะมีเทคโนโลยี Vycross เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลยึดเกาะเหนียวแน่น หลังฉีดจะบวมน้ำน้อย ทนต่อการขยับได้ดี

    ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจฉีด Hyaluronic หลุมสิว ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาผิว แนะนำฟิลเลอร์ยี่ห้อ รุ่น ที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาหลุมสิวอย่างตรงจุดครับ


    เติมเต็มหลุมสิว ใช้ฟิลเลอร์กี่ CC ?

    ในเคสที่มีปัญหาหลุมสิวน้อย การใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะหลุมสิวของคนไข้ครับ ในบางรายที่มีหลุมสิวมาก อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ถึง 2 CC ตามความเหมาะสม โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมิน และแนะนำปริมาณของฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ตามความเหมาะสมกับปัญหาผิวส่วนบุคคล โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมได้แก่ Restylane vital ligh และ Juvederm Volite ครับ 


    ฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว กี่วันเห็นผล ?

    หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที เนื่องจากฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์จะมีลักษณะเป็นเจลเนื้อละเอียด แพทย์จะใช้เทคนิคการฉีดเพื่อให้ผิวเต็มขึ้นมาเท่าผิวเดิมให้ได้มากที่สุด ซึ่งบริเวณจุดที่ฉีดอาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเล็กน้อยได้เป็นเรื่องปกติ จะหายได้เองตามธรรมชาติใน 2-3 วัน จากนั้นผิวบริเวณที่ฉีดจะเรียบเนียนขึ้น 

    อีกทั้งการฉีดหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้นขึ้น รูขุมขนแคบลง ซึ่งต่างจากการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีอื่น เพราะไม่ทำให้เกิดรอยแผล หลังฉีดสามารถใช้หน้าได้ตามปกติครับ


    ฟิลเลอร์หลุมสิว ราคา 

    ฟิลเลอร์หลุมสิว ราคา ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ซึ่งแต่ละคลินิกก็จะมีการจัดโปรโมชั่นแข่งขันราคากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละเคสแพทย์จะเป็นผู้ประเมินลักษณะ และความรุนแรงของหลุมสิวที่ต้องอาศัยความชำนาญในการรักษาของแพทย์ การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดี โดยแพทย์จะช่วยประเมินปัญหา และแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ครับ 

    ฟิลเลอร์หลุมสิว Juvederm Volite

    ฟิลเลอร์หลุมสิว Juvederm Volite

    ฟิลเลอร์หลุมสิว Restylane Vital Light

    ฟิลเลอร์หลุมสิว Restylane vital light

    ฟิลเลอร์หลุมสิว อยู่ได้นานไหม ?

    โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ 1 ครั้ง จะให้ผลลัพธ์ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น การดูแลตัวเองของคนไข้ก็มีส่วนสำคัญครับ 

    ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ฟิลเลอร์หลุมสิวอยู่ได้นาน คือ การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นการอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูและคงรูปได้นาน อีกทั้งการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายไว เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อยู่ในอาการที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน ก็จะช่วยยืดอายุของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ 

    การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวด้วยฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ สามารถสลายหมดไปได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง การเติมฟิลเลอร์หลุมสิวใหม่จึงสามารถทำได้ และไม่เป็นอันตรายตามคำแนะนำของแพทย์ครับ


    หลังฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว ดูแลตัวเองอย่างไร ?

    เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีด Hyaluronic acid หลุมสิวมีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ การดูแลตัวเองหลังฉีดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ดูแลตัวเองอย่างไร ? เพื่อให้คงผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานขึ้น แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้ครับ

    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวบริเวณที่ฉีด : หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ไม่ควรสัมผัส แกะ เกา หรือกด บริเวณที่ฉีด เพื่อเลี่ยงการอักเสบ ติดเชื้อ หากมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำ เป็นเรื่องปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน
    • ทานยาตามแพทย์แนะนำ : คลินิกจะมียาให้กลับไปหลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เช่น ยาลดบวม ยาฆ่าเชื้อ หลังทำหัตถการควรทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ครับ
    • หลีกเลี่ยงอาการร้อน : หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คนไข้ควรอยู่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด รวมถึงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น การทานอาหารปิ้งย่างหน้าเตาร้อน ๆ ออกกำลังกายหนัก ๆ อบซาวน่า รวมถึงการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงลึกถึงชั้นผิว (อย่างน้อย 1 เดือน)
    • อย่าขยับหน้าบ่อย : การแสดงสีหน้าบ่อย ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ครับ ในช่วง 3 วันแรกหลังฉีด จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษครับ
    • งดอาหารบางประเภท : เนื่องจากอาหารบางอย่างส่งผลต่อการอักเสบ บวม และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง อาหารรสหวานจัด อาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด 
    • งดสูบบุหรี่ : เนื่องจากมีสารนิโคติน ทำให้ยุบบวมช้า และส่งผลให้การรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วยครับ
    การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว

    ฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี ?

    การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว หรือฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์รักษาหลุมสิว ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิว ให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้อย่างตรงจุด เป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์หลังทำทันที รวดเร็วไม่ทำให้เกิดแผล ใช้เวลาไม่นาน ไม่เสียเวลาพักฟื้น หลังทำสามารถให้หน้าได้เลย อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวยังทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้ได้ผลดียิ่งขึ้นครับ

    ฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์รักษาหลุมสิวที่ไหนดี01

    ก่อนตัดสินใจรักษาหลุมสิว ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เริ่มที่การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์หลุมสิวแท้ผ่านการรับรอง อย. แพทย์มีประสบการณ์ สามารถประเมินระดับของหลุมสิว วางแผนการรักษา ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยได้มากที่สุดครับ 

    ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี02 หมอแอม

    ที่ V Square Clinic คนไข้สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ประจำสาขา พร้อมประเมินปัญหาผิวให้ตรงตามความต้องการ แนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ประเมินจำนวนครั้งในการรักษา คำนวณราคาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้คนไข้นำไปประกอบการตัดสินใจ อีกทั้งหากคนไข้ไม่สะดวกเดินทางมายังคลินิก สามารถส่งรูปมาประเมินผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง Facebook Messenger และ Line@ VSquareClinic ก็สามารถทำได้ครับ หมอเป็นผู้ให้คำปรึกษาเอง 


    สรุป

    การรักษาหลุมสิว ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น รอยแผลจากสิวจางลง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวอิ่มฟูขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าแบบเร่งด่วน แต่การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวต้องอาศัยแพทย์มีประสบการณ์ มีความละเอียดในการฉีด ลงลึกในระดับชั้นผิวที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้เข้ารับการปรึกษากับหมอโดยตรงที่ V Square Clinic ทุกสาขา หรือทางออนไลน์ได้เลยครับ


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    หมอให้คำปรึกษา

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก เสริมจมูกโด่ง อันตรายไหม ต้องใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน กี่ CC ก่อนทำควรรู้อะไรบ้าง ?

    Categories
    ฉีดฟิลเลอร์
    ฟิลเลอร์จมูก

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก ต่างจากการเสริมจมูกอย่างไร เสริมจมูกได้จริงไหม ?

    การเสริมจมูกไม่ได้มีแค่การเสริมซิลิโคนเท่านั้นครับ สามารถฉีดฟิลเลอร์จมูกเพื่อเสริมจมูกให้โด่งขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หลังทำไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันที

    แต่ทั้งนี้ฟิลเลอร์จมูกไม่ใช่ว่าจะฉีดกับใคร ที่ไหนก็ได้ เพราะฟิลเลอร์จมูกเป็นจุดที่ต้องอาศัยประสบการณ์การของแพทย์ และเทคนิคขั้นสูงในการฉีด ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จมูกก็มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลว่า ฉีดฟิลเลอร์จมูก คืออะไร ? อันตรายไหม ? ช่วยอะไรได้บ้าง ? ต้องฉีดตำแหน่งไหนของจมูกบ้าง ? ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน กี่ CC ราคาเท่าไหร่ ?หมอสรุปให้ในบทความนี้ครับ

    สารบัญ ฟิลเลอร์จมูก

    1. ฉีดฟิลเลอร์จมูก คือ ?
    2. ฉีดฟิลเลอร์ดีไหม ช่วยอะไรได้บ้าง ?
    3. ฉีดฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม ?
    4. ฉีดฟิลเลอร์จมูก แตกต่างจากการเสริมจมูกอย่างไร ?
    5. เสริมจมูกแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?
    6. ฉีดฟิลเลอร์จมูก ตำแหน่งไหนได้บ้าง ให้ผลลัพธ์อย่างไร ?
    7. ฉีดฟิลเลอร์จมูกใช้กี่ CC ?
    8. ฉีดฟิลเลอร์จมูกยี่ห้อไหนดี ?
    9. ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคา
    10. รีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูก
    11. ข้อควรระวังหลังการฉีดฟิลเลอร์จมูก
    12. แก้จมูกฟิลเลอร์ ทำอย่างไร ?
    13. ฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี ?
    14. โปรโมชั่นฟิลเลอร์จมูก
    15. Q&A ฉีดฟิลเลอร์จมูก

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก คือ ?

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก คือ การเสริมจมูกโดยใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid: HA) ฉีดเข้าไปบริเวณสันจมูก ด้วยลักษณะของฟิลเลอร์ (Filler) ที่เป็นเนื้อเจล มีความคงตัว จึงสามารถเสริมให้สันจมูกโด่งขึ้น รวมถึงสามารถตกแต่งปลายจมูกให้ยาวขึ้น หรือเป็นทรงหยดน้ำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก เสริมจมูก
    การฉีดฟิลเลอร์จมูกจะช่วยเสริมสันจมูกให้คมขึ้นโดยไม่ต้องใช้ซิลิโคน

    ฉีดฟิลเลอร์จมูกดีไหม ช่วยอะไรได้บ้าง ?

    แม้การฉีดฟิลเลอร์จมูกจะใช้ Hyaluronic Acid ที่ผ่านอย. มีความปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัดคือไม่สามารถเสริมจมูกให้โด่งมาก ๆ หรือเปลี่ยนทรงจมูกได้เหมือนการผ่าตัดเสริมซิลิโคนครับ โดยการฉีดฟิลเลอร์จมูก สามารถช่วยปรับทรงจมูกที่เรียบแบน ไม่คม ให้โด่งและคมขึ้นได้เล็กน้อย หรือช่วยเติมเต็มเนื้อเยื่อบริเวณจมูกที่ขาดหายไปจากอุบัติเหตุให้สมมาตรมากขึ้น 


    ฉีดฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม ?

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายครับ หากฉีดกับหมอกระเป๋า คลินิกเถื่อน ไม่ได้ใช้ฟิลเลอร์แท้ 

    ในการฉีดฟิลเลอร์จมูก มีจุดที่ต้องระวังคือ เส้นเลือดสำคัญที่ชื่อว่า Dorsal Nasal Artery เส้นเลือดนี้จะเชื่อมต่อไปยังลูกตา หากฉีดฟิลเลอร์อุดตันก็เสี่ยงทำให้เนื้อตาย หรือตาบอดได้ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จมูกจึงต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น จึงสามารถใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และดูแลให้การทำหัตถการมีความปลอดภัยครับ

    Dorsal Nasal Artery เชื่อมต่อไปยังลูกตา

    อีกข้อที่สำคัญไม่แพ้กันคือต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น โดยฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. ประเทศไทย จะเป็นสาร Hyaluronic Acid ฉีดแล้วสลายหมด ไม่มีสารตกค้าง ไม่ก่อให้เกิดอันตราย หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่เป็นซิลิโคนเหลว พาราฟิน เมื่อเวลาผ่านไปจะไหลย้อยเป็นก้อน ทำให้เนื้อเกิดการอักเสบ ไม่สามารถสลายได้ ต้องผ่าตัดหรือขูดออก และอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเสียรูป ไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมครับ  


    ฉีดฟิลเลอร์จมูก แตกต่างจากการเสริมจมูกอย่างไร ?

    ฟิลเลอร์จมูกผ่าตัดเสริมจมูก
    1. เสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid1. เสริมจมูกด้วยซิลิโคน หรือวัสดุทดแทนทางการแพทย์
    2. ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลหลังฉีดทันที2.ใช้วิธีผ่าตัด ปรับโครงสร้างจมูก
    3. เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว ต้องการเพิ่มความคม สันจมูกหรือปลายจมูกขึ้นเล็กน้อย
    3. เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกโด่งมาก ๆ ทรงจมูกสวยตามที่ต้องการ
    4. ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร อยู่ได้ประมาณ 1 ปี ก่อนจะจะสลายไปตามเวลา4. หลังทำมีแผล ต้องรอตัดไหม และต้องพักฟื้นให้ยุบบวมประมาณ 2-4 สัปดาห์ เห็นผลเต็มที่อาจใช้เวลามากกว่า 6 เดือน
    5. หากไม่ชอบทรง สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์5. มีโอกาสเกิดปัญหาซิลิโคนเคลื่อน เบี้ยว หรือทะลุได้
    6. ไม่เหมาะกับคนที่วางแผนจะผ่าตัดเสริมจมูกในอนาคต6. หากต้องการแก้ไขต้องผ่าตัดใหม่เท่านั้น

    ในกรณีที่คนไข้จมูกแบนมาก ไม่มีฐานเลย หมอจะแนะนำให้ผ่าตัดเสริมซิลิโคนครับ ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ เพราะฟิลเลอร์ไม่สามารถตั้งเป็นสันคมได้สูงเท่าแท่งซิลิโคน หากฝืนฉีดอาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลย้อยผิดรูปได้


    เสริมจมูกแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?

    ได้ครับ แต่เนื้อฟิลเลอร์อาจส่งผลต่อการยึดเกาะของแท่งซิลิโคน หากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วและต้องการผ่าตัดเสริมจมูก คนไข้ต้องขูดกระดูกจมูกตามแนวที่จะวางซิลิโคนก่อน เพื่อให้ซิลิโคนยึดเกาะได้ดีขึ้นครับ


    ฉีดฟิลเลอร์จมูก ตำแหน่งไหนได้บ้าง ให้ผลลัพธ์อย่างไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก ตำแหน่งไหนได้บ้าง

    การฉีดฟิลเลอร์จมูก จะสามารถฉีดได้ 2 ตำแหน่งหลัก ๆ คือ 

    1. สันจมูก เสริมให้ดั้งโด่งขึ้น มีความคมขึ้น หรือมีฮัมพ์ แล้วอยากทำการปกปิดสันจมูกให้ดูเรียบเนียนมาก
    2. ปลายจมูก เสริมปลายจมูกให้ยาว เพิ่มเนื้อปลายจมูก หรือปรับทรงให้รับกับใบหน้ามากขึ้น

    ฉีดฟิลเลอร์จมูกใช้กี่ CC ?

    ฉีดฟิลเลอร์จมูกใช้กี่ CC

    ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนครับ แต่โดยปกติการฉีดฟิลเลอร์จมูกหมอจะไม่แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เกิน 1 CC ครับ ส่วนในคนที่หมอประเมินว่าควรใช้ฟิลเลอร์มากกว่า 1 CC แสดงว่าในเคสนั้นมีฐานจมูกน้อย อาจจะเหมาะกับการผ่าตัดเสริมมากกว่า


    ฉีดฟิลเลอร์จมูกยี่ห้อไหนดี ?

    การฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดี โดยรุ่นที่หมอแนะนำจะเป็นฟิลเลอร์ Restylane Perlane Lyft จากสวีเดน หลังฉีดจะได้ผลลัพธ์จมูกคมสวย มีความคมชัดขึ้น

    ฉีดฟิลเลอร์จมูกยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft

    ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคา

    เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์จมูกต้องใช้เทคนิคการฉีดขั้นสูง และต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ฟิลเลอร์จมูกราคาจึงอาจสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ในจุดอื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกด้วยครับ ที่ V Square Clicni เริ่มต้น 14,000.-/1 CC

    โปรโมชั่นฟิลเลอร์จมูก

    ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคา คุณนิโคล

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูก

    รีวิว ฉีดฟิลเลอร์จมูก ก่อน-หลังฉีดทันที จะเห็นว่าสันจมูกของคนไข้มีความคมชัด ดูเป็นทรงสวยงามขึ้น

    รีวิว ฉีดฟิลเลอร์จมูก 1 CC
    รีวิว ฉีดฟิลเลอร์จมูก 1 CC

    การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก

    • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก เลือกปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ได้มาตรฐาน
    • ดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูกจากผู้ใช้บริการจริง 
    • ก่อนฉีดควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs วิตามิน St. John’s Wort, Ginko Biloba และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว 
    • แจ้งโรคประจำตัวและยาที่ทานประจำกับแพทย์ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง
    • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

    ข้อควรระวังหลังการฉีดฟิลเลอร์จมูก

    • ในช่วง 2-3  ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่ควรนอนราบ 
    • ไม่ควรจับ บีบปั้นทรงจมูกเอง ถูหน้าแรง ๆ หรือทำอะไรที่จะเกิดการกดทับบริเวณจมูก 
    •  48 ชั่วโมงแรก เลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ 
    • 3 วันหลังฉีด ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ เพราะอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้เคลื่อนที่ไปผิดตำแหน่งได้
    • ใน 2-3 คืนแรกหลังทำ ควรนอนยกหัวให้สูงกว่าระดับหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ แต่ไม่ควรนอนตะแคง เพื่อป้องกันการกดทับหน้า ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา
    • งดการสัมผัสความร้อนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่นการเลเซอร์ผิว อย่างน้อย 2 อาทิตย์
    ข้อควรระวังหลังการฉีดฟิลเลอร์จมูก โดยหมอแพน

    ในคนไข้บางรายจะมีอาการบวมเข็ม ทำให้จับเจอฟิลเลอร์เป็นก้อนในช่วงแรก เป็นผลข้างเคียงปกติครับ จะค่อย ๆ ยุบบวมลงเอง เข้าที่เต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์ หมอจะมีการนัดติดตามผลเพิ่มเติมครับ

    แต่ในกรณีที่เกิดอาการปวดบวมแดงมากผิดปกติ หรือสีผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนไป เป็นสีน้ำตาล หรือดำ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำหัตถการทันที โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัดตรวจตามกำหนด เพื่อป้องกันอาการอักเสบ หรือติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้


    แก้จมูกฟิลเลอร์ ทำอย่างไร ?

    หากฉีดฟิลเลอร์จมูกมาแล้วต้องการแก้ไข สามารถใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) ซึ่งจะช่วยย่อยสลายฟิลเลอร์แท้ในกลุ่ม Hyaluronic Acid ได้ หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ เอนไซม์ตัวนี้จะเข้าไปลดการกักเก็บน้ำ ไขมัน และทำลายการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์ ผิวจะค่อย ๆ ยุบตัวลงจนเรียบเนียนเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงเดิมมากที่สุด


    ฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี ?

    1. เลือกฉีดฟิลเลอร์จมูกกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักติดไว้ชัดเจน 
    2. บริเวณคลินิกสะอาด กว้างขวาง ไม่อยู่ในทำเลที่อับ มองเห็นได้ง่ายและเดินทางสะดวก 
    3. แพทย์ประจำคลินิก มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า ใช้เทคนิคที่ถูกต้องและให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา สามารถนำชื่อ-นามสกุล ไปตรวจสอบกับเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ว่าเป็นแพทย์จริง ๆ
    4. ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านอย. ตรวจสอบบริษัทนำเข้าได้ ก่อนฉีดควรให้หมอแกะกล่องใหม่ให้เห็นทุกครั้ง นำกล่องกลับบ้านได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นของแท้ ปลอดภัย
    5. ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งแบบรูปภาพและคลิปวิดีโอ จากแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ เช่น pantip, facebook review
    6. มีช่องทางติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์เจ้าของเคสได้ เช่น เบอร์โทร, Line@

    Q&A ฉีดฟิลเลอร์จมูก

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก กับร้อยไหมจมูก อันไหนดีกว่ากัน ?

    การเสริมจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัดนอกจากฉีดฟิลเลอร์จมูก ยังมีการร้อยไหมจมูกที่สามารถเสริมจมูกได้ครับ มีข้อจำกัดคล้าย ๆ การฉีดฟิลเลอร์จมูก แต่ไม่มีความเสี่ยงในการฉีดเข้าเส้นเลือด และสามารถร้อยไหมจมูกให้ได้สันคมมากกว่า สามารถดีดปลายจมูกให้เชิดขึ้นได้ หากคนไข้ไม่ได้กลัวการร้อยไหม ก็เป็นวิธีที่หมอแนะนำมากกว่าครับ

    ฉีดฟิลเลอร์จมูก สลายได้ไหม ?

    ฟิลเลอร์แท้ (HA) สามารถสลายเองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้าง แต่หากต้องการเร่งให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น ก็สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์ได้ครับ (Hyaluronidase) แต่ถ้าใช้สารเติมเต็มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ HA จะไม่สามารถสลายได้เอง ต้องผ่าตัดขูดออกเท่านั้น

    ขูดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ?

    การขูดฟิลเลอร์จมูก กรณีแรกคือคนไข้ฉีดฟิลเลอร์แท้ เมื่อสลายหมดแล้วต้องการเสริมซิลิโคนแทน หมอจะต้องขูดพังผืดที่เกาะอยู่ออก เพื่อวางซิลิโคนให้ยึดเกาะได้ดี

    อีกกรณีคือฉีดฟิลเลอร์ปลอม มีอาการบวม เป็นก้อน อักเสบ มีปัญหาเนื้อฟิลเลอร์เกาะกับผิวหนังจนเป็นพังผืด ทำให้บางส่วนขูดออกได้ไม่หมด ต้องผ่าตัดเพื่อเอาออกให้ได้มากที่สุด อาจส่งผลกับเส้นเลือด เส้นประสาทที่เกี่ยวข้อง หากมีปัญหาเยอะมาก ๆ หลังขูดฟิลเลอร์หมดก็อาจทำให้จมูกเสียทรงได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย 


    สรุป

    ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์จมูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้พิจารณาว่าฐานจมูกเดิมเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์จมูกหรือไม่ หรือมีแพลนจะผ่าตัดเสริมจมูกในอนาคตไหม เพราะการฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่ได้เหมาะกับทุกคนครับ หากต้องการเสริมจมูกให้โด่งขึ้น แนะนำให้เลือกวิธีที่เหมาะสมตามปัญหาและความต้องการของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง คุ้มค่า ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขหลายรอบครับ


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    หมอให้คำปรึกษา

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นก้อนไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ?

    Categories
    ฉีดฟิลเลอร์
    ฟิลเลอร์ร่องแก้ม1000X860

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    ปัญหาร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม (Filler) เพราะร่องแก้มลึก เกิดจากการยุบตัวของกระดูก การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเข้าไปซัพพอร์ตในส่วนที่เสื่อมสลายไปเมื่ออายุมากขึ้น จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด และเห็นผลชัดเจน 

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แนะนำให้หาข้อมูลว่าการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร ? อันตรายไหม ฉีดร่องแก้มเหมาะกับใคร ? ใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี ? ต้องเติมร่องแก้มทำไม ช่วยอะไรบ้าง ฉีดร่องแก้มราคาเท่าไร ต้องใช้กี่ CC กี่วันเห็นผล และวิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่อันตรายตามมาภายหลัง

    สารบัญ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    1. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ
    2. ทำไมต้องเติมเต็มร่องแก้มด้วยฟิลเลอร์
    3. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ?
    4. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC ?
    5. ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี ?
    6. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่วันเห็นผล ?
    7. รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม 
    8. หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?
    9. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน แก้ไขอย่างไร ?
    10. ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคาเท่าไร ?
    11. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี ?
    12. Q&A ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ ?

    การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปเสริมในส่วนที่เป็นร่องลึกให้เต็มขึ้น ผิวจะเรียบเนียน เต่งตึงเสมอกัน หลังฉีด Hyaluronic Acid จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง และสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย


    ทำไมต้องเติมเต็มร่องแก้มด้วยฟิลเลอร์

    ก่อนอื่นหมออยากอธิบายให้เข้าใจถึงสาเหตุการเกิดร่องแก้มลึกก่อนครับ โดยร่องแก้มลึก เกิดได้จาก 

    1. เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง
    2. เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา
    3. เกิดจากการยิ้มบ่อย ๆ จนกล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป
    4. เกิดจากผิวแห้ง หรือตากแดดบ่อย ชั้นผิวบางลง.
    ปรึกษาหมอก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    จากปัญหาที่กล่าวมาทั้ง 4 ข้อ ปัญหาร่องแก้มลึกที่พบมักจะเกิดจากการยุบตัวของกระดูกเป็นหลักครับ ซึ่งการทรุดตัวแบบนี้ต้องแก้ไขด้วยการเติมส่วนที่ทรุด นอกจากฟิลเลอร์ ยังมีการเสริมซิลิโคนร่องแก้ม แต่ก็จะมีความเสี่ยงเรื่องการผ่าตัด และอาจเกิดอาการปากชาได้ (3 เดือน ถึง 1 ปี) ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ให้ผลเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น จึงได้รับความนิยมในการใช้แก้ปัญหาร่องแก้มลึกครับ 

    ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึก

    โดยหากเกิดจากการยุบบริเวณกระดูกร่องแก้มโดยตรง จะเป็นช่วงอายุ 20-30 ปี สามารถเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียวได้ แต่หากมีการทรุดตัวของกระดูกบริเวณใต้ตาร่วมด้วย ฉีดฟิลเลอร์แก้ร่องแก้มอย่างเดียวจะทำให้ ร่องแก้มของคนไข้แย่ลงกว่าเดิมได้ เนื้อจะยิ่งกองบริเวณเหนือร่องแก้มเป็นก้อนมากขึ้น หน้าจะดูอูม ๆ หน้าอ้วน จึงต้องใช้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาร่วมด้วย


    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ?

    การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ไม่อันตรายครับ หากฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ โดยจุดที่ควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นจุดไหนก็ตาม คือการฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดการอุดตันในเส้นเลือด หากแก้ไขไม่ทันท่วงทีอาจทำให้เกิดเนื้อตายได้ 

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม

    สำหรับเทคนิคที่ทีมแพทย์ V Square Clinic ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย คือหมอจะเดินยาช้า ๆ เพื่อให้เกิดแรงดันน้อยที่สุด และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณฟิลเลอร์ไม่เกินจุดละ 0.1 CC สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิว เพื่อให้ได้ปริมาณที่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป ทำให้ฟิลเลอร์เรียบเนียนไปกับผิว และถ้าสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติก็จะสามารถแก้ไขได้ทันที (ใช้ตัวยาฉีดสลายฟิลเลอร์) โดยที่ปัญหานั้น ๆ จะยังไม่กระจายเป็นบริเวณกว้าง 


    ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี ?

    อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์ของการเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มออกมาดีและเป็นธรรมชาติ คือการเลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละคนครับ เนื่องจากปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลักษณะผิวก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจึงไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์รุ่นเดียวกัน

    ลักษณะเนื้อและคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันออกไป หมอจะประเมินและแนะนำให้เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด โดยฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะกับการฉีดร่องแก้ม มีดังนี้

    ยี่ห้อคุณสมบัติ
    Juvederm Ultra Plusเนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึก
    Juvederm Volumaเนื้อแข็งและฟูปานกลาง  มีความยืดหยุ่นสูง เติมเต็มร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
    Juvederm Voliftเนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมาก เหมาะสำหรับคนผิวบาง
    Juvederm Voluxเนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มชั้นลึก
    Restylane Volymeเนื้อนิ่มปานกลาง และความยืดหยุ่นสูงมาก เหมาะกับการฉีดร่องแก้ม
    Belotero Intenseเนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นดี ช่วยฟื้นฟูและเพิ่ม volume ของชั้นผิว

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC ?

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC

    การประเมินว่าฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC ของแต่ละคนจะไม่เท่ากันครับ เพราะปัญหาไม่เหมือนกัน ความลึกไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนมากถ้าไม่ได้มีปัญหาเยอะ ร่องแก้มไม่ลึก และเกิดการทรุดตัวของกระดูกร่องแก้มอย่างเดียว จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 CC 

    ส่วนในเคสที่มีปัญหาร่องแก้มลึก ร่วมกับมีการทรุดตัวของกระดูกใต้ตา ก็จะต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ในการแก้ไขมากขึ้น โดยจะอยู่ที่ 3-4 CC ครับ

    ทั้งนี้หากมีปัญหาร่องแก้ม ไม่จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียว สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ เช่น การทำ Hifu หรือ การร้อยไหม ก็จะช่วยลดการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ลง และได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ในจุดนี้หมอจะช่วยประเมินและแนะนำให้ตามความเหมาะสม


    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่วันเห็นผล ?

    เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในชั้นผิว ดังนั้นเมื่อฉีดแล้วจะเห็นผลว่าผิวเต็มขึ้นทันทีครับ ในการดูผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถดูได้ตอนหลังฉีดเสร็จทันที และหลังฉีดไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากเมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้ว คนไข้จะมีอาการบวมมากขึ้นในช่วง 3 วันแรก (จากเนื้อฟิลเลอร์และบวมเข็ม) ระหว่างนี้จะยังประเมินผลลัพธ์ที่ชัดเจนไม่ได้ แต่ฟิลเลอร์จะยุบบวมเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ จึงสามารถเห็นผลที่แท้จริงได้ครับ


    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึก ที่ V Square Clinic โดยปัญหาของแต่ละคนจะเหมาะกับการใช้ฟิลเลอร์และจำนวนซีซีไม่เหมือนกัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ประเมินเป็นรายบุคคล 

    ปรับรูปหน้าเทคนิคพิเศษ ฟิลเลอร์ยกมุมปาก / ฟิลเลอร์ร่องแก้ม / ร้อยไหม ร่องลึกตื้นขึ้น หน้าเล็กลง

    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม5
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม6
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม4
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม2
    รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม7
    *ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล

    หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

    หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จริง ๆ แล้วไม่ได้มีการดูแลตัวเองที่ยุ่งยากครับ แต่จะมีข้อแนะนำบางข้อที่ควรปฏิบัติ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว อยู่ได้นาน

    1. หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรหลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การนวด ในบริเวณที่ทำ หากมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคัน จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
    2. ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ เข้าซาวน่า ตากแดดจัดเป็นเวลานาน
    3. งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF (Radio Frequency),Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
    4. ไม่ควรขยับหน้าเยอะหรือนวดหน้า หลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่และไม่เกาะผิวได้
    5. ประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ในบางกรณีเท่านั้น หากต้องประคบเย็นไม่ควรกดแรง
    6. การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมออย่างสม่ำเสมอ วันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
    7. พยายามหลีกเลี่ยงอาหารแสลงที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น อาหารทะเล อาหารดิบ อาหารหมักดอง แอลกอฮอล์ รวมถึงการสูบบุหรี่

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน แก้ไขอย่างไร ?

    ในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสิ่งที่หลายคนกังวลคือฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน ซึ่งจะพบได้บ่อยหากหมอเลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับจุดที่ฉีด หรือใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง หากใช้ฟิลเลอร์แท้เมื่อมีปัญหาก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวยา Hyaluronidases ก็จะช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม หมอกระเป๋า ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด ขูดออกเท่านั้นครับ

    ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สิ่งสำคัญคือการเลือกคลินิก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ รวมถึงเทคนิคการฉีดของแพทย์ ซึ่งหากมีประสบการณ์ไม่มากพอ อาจประเมินปัญหาผิดจุด แก้ผิดที่ เช่น การฉีดร่องแก้ม จะไม่ใช่ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง แต่เป็นการฉีดฟิลเลอร์ลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อและต้องฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย เพื่อป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม 

    เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    หากฉีดโดยกล้ามเนื้อมัดนี้ เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะโดนดึงขึ้นไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้มทำให้เป็นก้อน และจะยิ่งทำให้ร่องแก้มลึกขึ้นกว่าเดิมได้ครับ


    ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคาเท่าไร ?

    ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด ซึ่งแต่ละคนก็จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากันครับ หมอจะประเมินให้ตามความเหมาะสม โดยพิจารณาจากความลึกของร่องแก้ม และสภาพผิวของคนไข้

    โปรโมชั่นฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    ที่ V Square Clinic คัดสรรฟิลเลอร์หลายรุ่นที่เหมาะกับการฉีดร่องแก้ม เพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของคนไข้ให้ได้มากที่สุด

    โปรโมชั่น-ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
    โปรโมชั่น-ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี ?

    ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี

    สำหรับใครที่กำลังสนใจการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ก่อนเลือกคลินิก แนะนำให้พิจารณาจากข้อต่อไปนี้

    1. คลินิกเปิดอย่างถูกต้อง ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข แสดงเลขที่ใบอนุญาตชัดเจน อยู่ในทำเลที่น่าเชื่อถือ มีคนพลุกพล่าน ไม่อับทึบ
    1. แพทย์ที่อยู่ประจำคลินิก สามารถนำรายชื่อไปตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง ๆ จากเว็บไซต์แพทยสภา และมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
    2. ฟิลเลอร์แท้ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ว่าเป็นของแท้ หมอมีการแกะกล่องใหม่ให้ดูก่อนฉีดทุกครั้ง
    3. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ หากมีเคสหลุดมารีวิว คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ สามารถดูการรับผิดชอบของคลินิกได้ เช่น Facebook, Pantip และควรดูรีวิวที่เป็นทั้งแบบรูปภาพและวิดีโอร่วมกัน
    4. มีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส และมีช่องทางติดต่อที่สะดวก เช่น เบอร์โทร Line@ สามารถสอบถามหรือปรึกษากับแพทย์ได้โดยตรง

    Q&A ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    Q : ผลข้างเคียง ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ?

    A : หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะมีอาการบวมหลังฉีดจากเข็มหรือตัวยาเป็นเรื่องปกติครับ แต่ไม่ได้บวมมากจนสังเกตได้ชัดเจน สามารถแต่งหน้าหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ประมาณ 2-3 วัน จะค่อย ๆ ดีขึ้น 

    Q : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม กับร้อยไหมดึงร่องแก้ม อันไหนดีกว่ากัน ?

    A : สำหรับปัญหาร่องแก้มลึก การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยแก้ได้ตรงจุดมากกว่าครับ การร้อยไหมเงี่ยงก้างปลาเพื่อดึงร่องแก้มโดยตรง จะทำให้เนื้อขึ้นไปกองที่โหนกแก้ม ทำให้หน้าดูใหญ่ขึ้น ไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในคนที่แก้มตอบ บางกรณีสามารถใช้การร้อยไหมดึงไขมันขึ้นมาเติมแก้มได้ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ประเมินและแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

    Q : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แล้วร่องแก้มไม่เต็ม เกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไร ?

    A : ปัญหาร่องแก้มลึก ไม่ได้มีสาเหตุจากร่องแก้มเพียงอย่างเดียวครับ นอกจากกระดูกใบหน้ามีการทรุดตัว อาจมีสาเหตุอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ใต้ตา แก้มห้อย ไขมันแก้มเยอะ กรอบหน้าหรือสันกรามยุบลง 

    ดังนั้นการแก้ปัญหาด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างเดียว อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ต้องแก้ตามสาเหตุที่แต่ละคนมีครับ  สำหรับเคสที่เข้ามาปรึกษาที่ V Square Clinic หมอจะประเมินและแนะนำการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เหมาะสำหรับแต่ละคนโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ


    สรุป ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มดีไหม ?

    สำหรับปัญหาร่องแก้ม การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มถือเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่หมอแนะนำให้ทำครับ โดยเฉพาะคนไข้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ขึ้นไป การฉีดฟิลเลอร์เติมร่องแก้ม เป็นการแก้ปัญหาร่องแก้มที่ตรงจุด เห็นผลรวดเร็ว ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น โดยควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่คุ้มค่าครับ


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    หมอให้คำปรึกษา