ยกกระชับหน้า พร้อมกระตุ้นคอลลาเจน ด้วยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)

Categories
ร้อยไหม
ไหมโครงตาข่าย

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) เป็นหนึ่งในวิธีการร้อยไหมยกหน้าหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้หลังทำทันที

เคยสงสัยหรือไม่ครับว่าเส้นไหมที่นำมาร้อยนั้นแตกต่างกันอย่างไร ? ร้อยไหมยกหน้าตึง ดึงหน้าเรียว ใช้ไหมแบบไหนดี ? ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) คืออะไร ? ดีไหม ? ช่วยอะไรบ้าง ? เหมาะกับใคร ? 

เกริ่นในเบื้องต้นก่อนครับว่า ไหมโครงตาข่าย เป็นไหมล่าสุดที่ได้รับความนิยม ด้วยคุณสมบัติโดดเด่น คือ มีโครงตาข่ายล้อมรอบเส้นไหม ทำให้เส้นไหมมีความแข็งแรง ยึดเกาะและยกกระชับผิวได้ดี แต่นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างจากไหมแบบอื่นอย่างไร ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ? ราคาเท่าไร ? หมอจะพามาทำความรู้จักทุกแง่มุมของไหมชนิดนี้กันครับ 

สารบัญ ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)

  1. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) คืออะไร ?
  2. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ดีกว่าไหมชนิดอื่น ๆ อย่างไร ?
  3. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
  4. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) เหมาะกับใคร ?
  5. ตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้าที่ร้อยไหมโครงตาข่ายได้
  6. ข้อดี-ข้อเสียของการร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)
  7. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) มีกรรมวิธีและกระบวนการทำงานอย่างไร ?
  8. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้จริงหรือไม่ อย่างไร ?
  9. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ต้องใช้กี่เส้น ?
  10. ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) รีวิว
  11. การเตรียมก่อนร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)
  12. การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)
  13. ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) กี่วันเห็นผล ?
  14. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) อยู่ได้นานไหม ?
  15. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ราคาเท่าไหร่ ?
  16. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ที่ไหนดี ?
  17. ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) โปรโมชั่น

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) คืออะไร ? 

ไหมโครงตาข่าย Tesslift Soft คือ ไหมร้อยหน้าโครงตาข่าย (Mesh Scaffold) เส้นไหมเงี่ยงแบบ 3D ที่ล้อมรอบด้วยโครงตาข่าย 360 องศา ชนิดแรกและชนิดเดียวของโลก นำเข้าจากเกาหลีใต้ โดยบริษัท อีเด็นคัลเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Edencolors (Thailand) เป็นเส้นไหมที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงครับ ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย, CE, KFDA และได้จดสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีของตัวไหมแล้วถึง 48 ประเทศทั่วโลก


ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ดีกว่าไหมชนิดอื่น ๆ อย่างไร ?

  • เป็นไหมชนิดแรกของโลกที่ใช้หลัก Biomedical engineering สร้างไหมเป็นรูปแบบโครงตาข่าย (Mesh treads)
  • ลักษณะของไหมโครงตาข่ายจะเป็นเส้นไหมวัสดุ PDO เส้นสีน้ำเงินที่มีเงี่ยงรอบเส้นไหม และถูกคลุมด้วยไหมเส้นใยตาข่ายรอบด้าน 
  • Tesslift ร้อยไหมตาข่าย ออกแบบเป็นพิเศษให้มีจุดเด่นที่ความแข็งแรง ทนแรงต้านหรือมีความยืดหยุ่นได้ดีกว่าไหมทั่วไป ถึง 80 เท่า
  • ไหมโครงตาข่าย 1 เส้น จะเทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดีและนานขึ้น ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างต่อเนื่อง
  • ใช้ในการปรับรูปหน้าเรียว และยังสามารถร้อยบริเวณหางตา หนังตา เพื่อแก้ปัญหาหางตาตก หนังตาตกได้
ไหม Tesslift Soft

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? 

  • ลดความหย่อนคล้อย ช่วยทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อย ยกกระชับขึ้น ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น ริ้วรอยแลดูจางลง
  • ปรับรูปหน้าเรียว V shape ยกแก้มหย่อน หน้าตึงกระชับได้รูป โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ประคองผิว ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) จะทำหน้าที่คล้ายเส้นเอ็นบนใบหน้า ช่วยประคองผิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย ยกกระชับขึ้น ดูเต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาเลี้ยงชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหน้ากระชับ เต่งตึง ผิวใส ดูอ่อนเยาว์
ร้อยไหมยกกระชับ โดยหมอซี

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) เหมาะกับใคร ? 

  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน ๆ หลังร้อยไหมโครงตาข่ายสามารถใช้ชีวิตตามปกติ
  • ผู้ที่ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ไม่มีมิติ ต้องการปรับรูปหน้าเรียว กรอบหน้าชัดมากขึ้น
  • ผู้ที่มีแก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย ส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเกิดกับคนที่เริ่มมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป (Older Skin) เนื่องจากจำนวนคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลดน้อยลง
  • ผู้ที่มีแก้มตอบจากความหย่อนคล้อย ผิวขาดคอลลาเจน ไขมันเนื้อแก้มน้อย ไหมโครงตาข่ายจะช่วยสร้างคอลลาเจนได้ดี แก้มตอบเต็มขึ้น ใบหน้าดูเรียวขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวที่ไม่กระชับ หย่อนคล้อยในบางบริเวณ เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก สามารถร้อยไหมโครงตาข่ายเสริมกับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่องลึก หรือเพิ่มความแน่นกระชับให้ผิว
  • ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก เปลือกตาตก หางตาตก หย่อนคล้อย ใบหน้าดูเศร้า สามารถใช้การร้อยไหมโครงตาข่าย Tesslift Foxy Eye เพื่อยกหนังตา ดวงตากลมโต ดูสดใสขึ้น
  • ผู้ที่ยังมีอายุไม่เยอะ (Younger Skin) แต่รูปหน้ามีความหย่อนคล้อย ก็สามารถร้อยไหมโครงตาข่ายได้เช่นกัน
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความคมชัดของสันจมูก ลดปีกจมูก โดยต้องใช้ไหมโครงตาข่าย Tesslift soft สำหรับจมูกโดยเฉพาะ

ตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้าที่ร้อยไหมโครงตาข่ายได้

ตำแหน่งร้อยไหม คุณนิโคล
  • ใบหน้า : ร้อยไหมยกหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว
  • แก้ม : ร้อยไหมยกแก้มหย่อนคล้อย แก้มตอบ
  • มุมปาก : ร้อยไหมยกมุมปาก แก้ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณมุมปาก
  • จมูก : ร้อยไหมจมูก ปีกจมูก สันจมูก 
  • หน้าผาก : ร้อยไหมหน้าผาก (ใช้ในเคสที่ดื้อโบท็อก) 
  • หางตา : ร้อยไหม Tesslift Foxy Eyes ยกหางตาตก คิ้วตก หนังตาตก

ข้อดี-ข้อเสียของการร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)

ข้อดี ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)

  • เงี่ยงไหมที่มีลักษณะคล้ายก้างปลาจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นได้ทันที เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
  • เป็นไหมละลาย สามารถละลายได้หมด 100% ตามระยะเวลา ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ไม่มีสารตกค้าง ไหมวัสดุ PDO ได้รับการรับรองจาก อย.ทั้งไทยและต่างประเทศ ปลอดภัย
  • หลังไหมละลายหมด จะเหลือเส้นใย elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาซึ่งช่วยประคองผิวต่อได้
  • ช่วยยกพยุงผิวได้คล้ายเส้นเอ็นที่อยู่บนใบหน้าตามธรรมชาติ ทำให้ดูยกกระชับขึ้น
  • ถ้าร้อยไหมโครงตาข่ายกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง โอกาสเกิดการบวมช้ำน้อย
  • สำหรับการร้อยยกแก้มอยู่ได้นาน 8-12 เดือน ส่วนยกหางตาจะอยู่ได้ 4-5 เดือน ซึ่งอยู่ได้นานกว่าร้อยไหมก้างปลา PDO แบบอื่น ๆ

ข้อเสีย ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)

  • ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือร้อยตื้นเกินไป จะเกิดรอยบุ๋มขึ้นตามแนวที่ร้อยไหมได้
  • ถ้าร้อยไหมซ้อนทับกันมากเกินไปและอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิด พังผืด (fibrosis) ได้ หรือถ้าร้อยผิวชั้นตื้นเกินไป ก็จะดึงรั้งผิวให้ผิดรูปได้
  • มีโอกาสเกิดไหมขาด ไหมหัก เกิดการเคลื่อนตัวและทะลุโผล่ออกมานอกผิวหนังได้ หากร้อยตึงเกินไปหรือร้อยไม่ถูกวิธี
  • ในเคสที่โหนกแก้มเด่น และมีแก้มเยอะหากร้อยไหมจะยิ่งทำให้โหนกแก้มเด่นขึ้น และไม่สวย ควรทำการลดแก้มก่อน
  • มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก ซึ่งส่วนมากก็จะหายได้เองภายใน 7-14 วัน
  • มีราคาสูงกว่าไหมก้างปลาแบบอื่น ๆ แต่ก็อยู่ได้นานกว่าและผิวยกกระชับได้นานกว่าจากคอลลาเจนที่สร้างรอบเส้นไหมตาข่าย

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) มีกรรมวิธีและกระบวนการทำงานอย่างไร ? 

โครงตาข่ายที่หุ้มรอบเส้นไหม เป็นการผลิตจากการสังเคราะห์เส้นใยพอลิเมอร์เส้นเดี่ยว แล้วนำมาทอแบบพิเศษให้เป็นโครงตาข่าย เมื่อร้อยเข้าชั้นผิวหนัง ไหมจะกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ได้รอบทิศทาง และเนื้อเยื่อ คอลลาเจน อีลาสตินที่ร่างกายสร้างขึ้นมาใหม่สามารถแทรกเข้าช่องว่างของตาข่ายได้ ส่งผลทำให้เกิดการประสานเนื้อเยื่อและเกิดแรงยึดเกาะของผิวกับเส้นไหมได้มากขึ้น จะเห็นว่าผิวจะถูกดึงกระชับได้เร็ว ผิวเฟิร์มขึ้น และอยู่ได้นานมากขึ้นเมื่อเทียบกับไหม PDO ชนิดอื่น ๆ ครับ

การทำงานของไหมโครงตาข่าย

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้จริงหรือไม่ อย่างไร ? 

ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้จริงครับ เส้นไหมจะกระตุ้นให้ fibroblast (เซลล์สร้างคอลลาเจน) เกิดการสร้างเส้นใย collagen และ elastin ทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงชั้นผิวหนังมากขึ้น ทำให้ผิวยืดหยุ่น กระชับ เต่งตึงขึ้น


ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ต้องใช้กี่เส้น ?

ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) เริ่มต้น 4 เส้น จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยยังไม่เยอะมาก ผิวหน้าดูไม่กระชับ แก้มส่วนล่างเริ่มหย่อนคล้อย ถ้าประเมินแล้วมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก คนไข้อยากปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กขึ้น ก็อาจจะต้องเพิ่มจำนวนเส้นไหม หรือถ้าคนไข้มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก ต้องการยกคิ้ว ยกหางตา จะใช้ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) เริ่มต้น 2 เส้น 

หมอจะเป็นผู้ประเมินจำนวนเส้นไหมและชนิดของไหมที่ต้องใช้ตามความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส 


ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) รีวิว

รีวิวร้อยไหม Tesslift Foxy Eyes
รีวิวร้อยไหม Tesslift Foxy Eyes
รีวิวร้อยไหม Tesslift Foxy Eyes
รีวิวร้อยไหม Tesslift Foxy Eyes

หลังร้อยไหมโครงตาข่าย Tesslift Foxy Eyes จะเห็นผลว่าหางตา หนังตา ยกขึ้นหลังทำทันที


การเตรียมก่อนร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)

  • ศึกษาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการร้อยไหมอย่างละเอียด เช่น การเลือกคลินิก การเลือกหมอ และเทคนิคในการทำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย 
  • งดยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น Ibruprofen, Diclofenac, Ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ และควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาอยู่ก่อนที่จะหยุดยานั้น ๆ
  • ควรงดวิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba, Primrose Oil, Garlic, Ginseng, and Vitamin E เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ
  • ควรงดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids, Glycolic Acid, หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging ทุกชนิด เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
  • ควรงดการแว็กผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้น ๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
  • หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่าง ๆ ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนร้อยไหม เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
  • หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำอื่น ๆ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
  • ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด cardio
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ

การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft)

การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม(1)
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม(2)
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม(3)
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม(4)
  • 3 ชม. หลังทำ รอยเข็มที่ร้อยไหมสามารถโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ ได้
  • 4 ชม. หลังทำ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง หรือนอนคว่ำหน้าลง
  • 6 ชม.หลังทำ ยาชาจะเริ่มหายบวม ถ้ามีจุดไหนที่ยังบวมมาก สามารถประคบเย็นช่วยลดอาการบวมได้ ควรประคบเบา ๆ ไม่ควรกดแรง
  • 24 ชม. หลังทำ เริ่มมีอาการบวมเข็มมากขึ้น 
  • 48 ชม. หลังทำ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทหมักดอง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ งดดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงหลีกเลี่ยงสัมผัสความร้อน เช่น เข้าซาวน่า หรือออกแดดแรง ๆ 
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม(6)
  • 3 วัน หลังทำ เริ่มยุบบวม ไหมจะเข้าที่แล้วประมาณ 90%
  • 7-14 วัน หลังทำ อาการบวมหายไปเกือบ 100% ใบหน้าเข้าที่ สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ รับประทานอาหารได้ปกติ พยายามหลีกเลี่ยงความร้อน
  • 1 เดือน หลังทำ การร้อยไหมดึงหน้า ไม่ควรอ้าปากกว้าง ๆ เช่น อ้าปากทำฟัน หรือแปรงฟันแรง ๆ 

ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) กี่วันเห็นผล ? 

ร้อยไหมเห็นผลได้ทันทีหลังทำ จากนั้นจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นตามลำดับ

  • 3-4 วันหลังร้อยไหม จะบวมมากขึ้น
  • ยุบบวมและเข้าที่ใน 7-14 วัน
  • เห็นผลชัดเจน ใบหน้าสวยเข้ารูปใน 1 เดือน

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) อยู่ได้นานไหม ? 

ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) อยู่ได้นาน 8-12 เดือน ส่วนยกหางตาจะอยู่ได้ 4-5 เดือน ระยะเวลาที่ไหมสามารถดึงผิวไว้ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ครับ 


ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ราคาเท่าไหร่ ? 

ราคาไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) แต่ละคลินิกอาจตั้งราคาแตกต่างกันได้ ร้อยไหมราคาเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ และจำนวนเส้นไหมที่ใช้ครับ  


ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ที่ไหนดี ? 

ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ที่ V Square Clinic ใช้เส้นไหมแท้ ได้คุณภาพ เป็นไหมละลายผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ดีในการยกกระชับหน้า

ทีมแพทย์ประสบการณ์สูงกว่า 15 ปี ที่คอยให้คำแนะนำ วิเคราะห์ประเมินใบหน้าและแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำตรงจุด มีเทคนิคการร้อยไหมที่เป็นเทคนิคเฉพาะ หลังร้อยไหมไม่มีรอยช้ำ ไม่มีแผล คนไข้สามารถใช้หน้าได้ทันทีครับ

ร้อยไหมที่ไหนดี โดยหมอเอก

ที่คลินิกยังมีเส้นไหมหลายชนิดให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาผิวในแต่ละเคส นอกจากไหม Tesslift Soft ยังมีไหมชนิดอื่น ๆ เช่น ไหมก้างปลา PDO, ไหมก้างปลา PCL, ไหมมิ้น ให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวคนไข้ครับ


ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) โปรโมชั่น

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) โปรโมชั่น

ราคาร้อยไหมโครงตาข่าย (Tesslift Soft) ที่ V Square Clinic

ราคาโปรโมชั่น ไหมโครงตาข่าย Tesslift soft

  • 4 เส้น 20,000.-
  • 6 เส้น 28,000.-
  • 8 เส้น 35,000.-

ราคาโปรโมชั่น ไหมโครงตาข่าย Tesslift soft Foxy eyes

  • 2 เส้น 25,000.-
  • 4 เส้น 40,000.-

สรุป

ไหมโครงตาข่าย Tesslift นำเข้าจากประเทศเกาหลี ออกแบบมาพิเศษครับ นอกจากลักษณะเส้นไหมที่มีความแตกต่างจากไหมชนิดอื่น ๆ โดยมีโครงตาข่าย 360 องศาล้อมรอบเส้นไหม จึงทำให้เส้นไหมมีความแข็งแรง ทนแรงต้าน และมีความยืดหยุ่นกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า สามารถยกพยุงผิวได้ดี และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน

แต่เนื่องจากเส้นไหมที่นำมาร้อยไหมมีหลายชนิด และบางคลินิกอาจมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เพื่อให้มั่นใจว่าเส้นไหมที่นำมาร้อยเป็นเส้นไหมที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ  


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ร้อยไหมจมูก ปรับทรงให้ดั้งโด่งสวยไว ก่อนทำควรรู้ข้อดี-ข้อเสียมีอะไรบ้าง ?

Categories
ร้อยไหม
ร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมจมูก

“ ร้อยไหมจมูก ” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากปรับทรงจมูกให้โด่งขึ้น โดยไม่ต้องการผ่าตัดครับ ใครที่สนใจ หรือกำลังมองหาข้อมูล ร้อยไหมจมูกคืออะไร ? ช่วยเสริมจมูกและดั้งได้อย่างไร ? ข้อดี-ข้อเสียมีอะไรบ้าง ? ราคาเท่าไร ? อันตรายไหม ? ใช้ไหมชนิดไหน ? ใช้กี่เส้น ? อยู่ได้นานไหม ? สุดท้ายควรทำดีไหม ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้จริงหรือไม่ ? เพื่อความคุ้มค่า ปลอดภัย สามารถศึกษาข้อมูลในบทความนี้ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ครับ   

สารบัญ ร้อยไหมจมูก

  1. ร้อยไหมจมูก คืออะไร ?
  2. ร้อยไหมจมูก ช่วยให้จมูกโด่งได้อย่างไร ?
  3. ร้อยไหมจมูก ทำส่วนไหนของจมูกได้บ้าง ?
  4. ร้อยไหมจมูก เหมาะกับใคร ?
  5. ร้อยไหมจมูก กับ การเสริมจมูก ต่างกันอย่างไร ?
  6. ข้อดี – ข้อเสียร้อยไหมจมูก
  7. ร้อยไหมจมูก อยู่ได้นานไหม ?
  8. ร้อยไหมจมูก บวมกี่วัน ?
  9. ร้อยไหมจมูก กี่วันเข้าที่ ?
  10. ร้อยไหมจมูก เจ็บไหม ?
  11. ร้อยไหมจมูกใช้ไหมชนิดไหนดี ?
  12. ร้อยไหมใช้ไหมกี่เส้น ?
  13. ข้อควรรู้ และการปฏิบัติตัวก่อนการร้อยไหมจมูก
  14. ข้อห้ามและข้อปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมจมูก
  15. ผลข้างเคียงของการร้อยไหมจมูกมีหรือไม่ ?
  16. ร้อยไหมจมูกที่ไหนดี ?เลือกคลินิกอย่างไร ให้ปลอดภัย
  17. รีวิวร้อยไหมจมูก
  18. ร้อยไหมจมูกราคา โปรโมชั่น ที่ V Square Clinic
  19. Q&A ถามตอบเกี่ยวกับการร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมจมูก คืออะไร ?

ร้อยไหมจมูก คือ วิธีเสริมจมูกให้โด่งขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดครับ เป็นการใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปเรียงกันบริเวณสันจมูก ช่วยเพิ่มสันจมูกให้คมเป็นสันมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถร้อยไหมจมูกเทคนิคดีดปลายจมูก ทำให้ปลายจมูกพุ่ง โดดเด่นมากขึ้นได้ครับ 

ร้อยไหมจมูกดั้งโด่ง

ร้อยไหมจมูก ช่วยให้จมูกโด่งได้อย่างไร ? 

หลายคนสงสัยว่าการร้อยไหมจมูก ช่วยให้จมูกโด่งพุ่งได้อย่างไร ? คำตอบคือ การร้อยไหมช่วยให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อบริเวณจมูกครับ คล้ายการใส่แท่งซิลิโคนเสริมจมูก ซึ่งการนำเส้นไหมละลายเข้าไปบริเวณสันจมูก จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินรอบเส้นไหม ทำให้มีเนื้อจมูกขึ้นมา ร้อยไหมจมูก จึงเป็นวิธีที่ทำให้จมูกโด่งได้ครับ  

ร้อยไหมจมูกโด่งได้อย่างไร

ร้อยไหมจมูก ทำส่วนไหนของจมูกได้บ้าง ?

หลัก ๆ แล้วการร้อยไหมจมูก จะทำได้ 2 ส่วน คือ 

  • ร้อยไหมเสริมดั้งจมูก : เป็นการร้อยเส้นไหมเข้าไปบริเวณปลายจมูก แทงเข้าไปยังสันจมูก เพื่อให้จมูกมีความโด่งขึ้น
  • ร้อยไหมดีดปลายจมูก : เป็นการร้อยไหมบริเวณส่วนปลายจมูกเพื่อยกปลายจมูกขึ้น เพิ่มความพุ่งทำให้ปลายจมูกเชิดขึ้นได้ครับ รวมถึงช่วยให้ปีกจมูกแคบลง หรือที่หลายคนเรียกว่า ร้อยไหมปีกจมูกครับ 
เทคนิคการร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมจมูก เหมาะกับใคร ?

ร้อยไหมจมูกเหมาะกับใคร
  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเสริมจมูก ไม่มีเวลาพักฟื้น
  •  มีปัญหาดั้งจมูกไม่คม เห็นสันจมูกไม่ชัด ต้องการเพิ่มความคมชัดให้กับสันจมูก
  • ผู้ที่มีจมูกบาน ฐานกว้าง ต้องการปรับรูปจมูกให้โด่งมากขึ้น
  • คนที่จมูกเอียง หรือมีสันจมูกเบี้ยวจากการผ่าตัดเสริมจมูก สามารถใช้ไหมปรับทรงและยกปลายจมูกให้พุ่ง มีมิติมากขึ้นได้ 

ร้อยไหมจมูก กับ การเสริมจมูก ต่างกันอย่างไร ?

  • การร้อยไหมจมูก : เป็นการใช้เส้นไหม เพื่อปรับทรงจมูกให้คมชัด ไม่สามารถคงผลลัพธ์ได้ถาวร ขึ้นอยู่กับอายุเส้นไหม หลังทำมีอาการบวมเล็กน้อย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกพอสมควร 
  • การผ่าตัดเสริมจมูก : เป็นการผ่าตัดเสริมด้วยซิลิโคน หรือวัสดุทดแทน สามารถคงผลลัพธ์ได้ถาวร หลังทำมีอาการบวม หรือช้ำ และต้องอาศัยระยะเวลาในการพักฟื้นอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ หากไม่ชอบต้องผ่าตัดแก้ไขเท่านั้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับทรงจมูกให้โด่งมาก ๆ หรือมีปัญหาทรงจมูกค่อนข้างมาก ต้องการปรับโครงสร้างจมูกให้ได้ตามความต้องการ 

ข้อดี – ข้อเสียร้อยไหมจมูก

ข้อดี

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ช้ำน้อย
  • หลังทำไม่มีรอยแผลผ่าตัด สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ ให้ผลลัพธ์ดี ดูเป็นธรรมชาติ
  • เป็นวิธีการเสริมจมูกที่มีความปลอดภัย 

ข้อเสีย 

การร้อยไหมจมูก ไม่ได้ช่วยให้จมูกโด่งมากนัก ความโด่งจะขึ้นอยู่กับฐานจมูกเดิมของคนไข้ร่วมด้วย ในคนที่จมูกแบน แต่อยากได้สันจมูกที่โด่งขึ้นมาก ๆ การร้อยไหมไม่สามารถทำได้ครับ เพราะต้องใช้เส้นไหมเยอะ ซึ่งเสี่ยงต่อการซ้อนทับกันหลายชั้น เกิดเป็นพังผืดดึงรั้งจมูกในอนาคตได้ แนะนำเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแทนจะคุ้มค่ากว่าครับ  

ปริมาณเส้นไหมร้อยจมูก

นอกจากนี้ การร้อยไหมไม่ใช่วิธีเสริมจมูกที่อยู่ได้ถาวร อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับอายุของเส้นไหม และสลายได้เองตามธรรมชาติ 

ข้อควรระวัง

การร้อยไหมเสริมจมูกแม้จะเป็นไหมละลาย แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการละลายครับ หากใครตัดสินใจที่จะร้อยไหมเสริมจมูก หมอแนะนำให้ใช้จำนวนเส้นน้อย ๆ ไว้ก่อน หากครบ 1 เดือนดูผลแล้วต้องการให้โด่งมากขึ้นค่อยร้อยเพิ่มได้เรื่อย ๆ ครับ 


ร้อยไหมจมูก อยู่ได้นานไหม ?

การร้อยไหมจมูกจะใช้ไหมละลาย ที่ได้รับความนิยมจะเป็นไหม PDO สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน และหลังไหมละลายหมดไปแล้ว ก็ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้จมูกยังเป็นสันได้รูปแม้จะไม่คมเท่าเดิม ซึ่งคนไข้สามารถร้อยไหมจมูกเพิ่มได้เพื่อคงผลลัพธ์ครับ  


ร้อยไหมจมูก บวมกี่วัน ?

หลังร้อยไหมจมูกอาจมีอาการบวมเล็กน้อย ประมาณ 3-4 วันแรก และจะยุบลงได้เองใน 14 วัน กรณีที่หลังร้อยไหมจมูกไปแล้ว 4 วันอาการบวมไม่ยุบลง หรือมีอาการบวมมากขึ้น ให้กลับมาพบแพทย์ที่ทำหัตถการเพื่อประเมินได้ครับ ทั้งนี้หากร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ก็จะลดความเสี่ยงในการบวมช้ำลงได้มากครับ 


ร้อยไหมจมูก กี่วันเข้าที่ ?

ทรงจมูกจะเริ่มเข้าที่ช่วงใน 1 เดือนหลังร้อยไหมจมูกครับ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนว่าสันจมูกคมขึ้น ปลายจมูกพุ่งขึ้น  


ร้อยไหมจมูก เจ็บไหม ? 

ในขั้นตอนการสอดไหมเพื่อปรับทรงจมูกจะไม่เจ็บครับ เพราะก่อนทำมีการแปะยาชา รวมถึงการฉีดยาชาเฉพาะที่ปลายและดั้งจมูกเพื่อทำให้บริเวณนั้นชา (20-40 นาที เพื่อรอยาชาออกฤทธิ์) คนไข้จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยตอนฉีดยาชา เป็นการเจ็บระยะสั้น ๆ เท่านั้นครับ หลังร้อยไหมจมูกเสร็จเรียบร้อย ยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ์ คนไข้อาจจะรู้ตึง ๆ หรือปวดเล็กน้อย สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้     


ร้อยไหมจมูกใช้ไหมชนิดไหนดี ? 

การร้อยไหมจมูกนิยม PDO ย่อมาจาก Polydioxanone เป็นไหมละลาย  (Absorbable suture) ที่มีความยืดหยุ่น นิ่ม ไม่เปราะ ในขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง ไหมละลายหมดประมาณ 6-8 เดือน และด้วยคุณสมบัติที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี จะช่วยคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น


ร้อยไหมจมูกใช้ไหมกี่เส้น ?

จำนวนเส้นไหมที่ใช้การร้อยไหมเสริมจมูกควรใช้จำนวนเส้นน้อย ๆ ก่อนครับ หากต้องการให้โด่งมากขึ้นค่อยร้อยเพิ่มได้เรื่อย ๆ เพื่อเสริมจมูกให้สูงขึ้น แต่ก็ไม่ควรใช้มากเกินไปครับ ร้อยไหมจมูก 4 เส้น ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาจมูกไม่เยอะมาก และสำหรับไหมเส้นเล็กไม่ควรร้อยเกิน 60 เส้น สำหรับไหมเส้นใหญ่ไม่ควรร้อยเกิน 16 เส้น ทั้งนี้ความเหมาะสมของจำนวนเส้นไหมยังขึ้นอยู่กับรูปทรงของจมูกของคนไข้ด้วยครับ 


ข้อควรรู้ และการปฏิบัติตัวก่อนการร้อยไหมจมูก

ก่อนร้อยไหมจมูก หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการร้อยไหมอย่างละเอียด ทั้งการเลือกคลินิก การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม เพื่อสร้างความมั่นใจ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ให้คำปรึกษาและทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมถึงดูรีวิวร้อยไหมจมูก จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น pantip, wongnai 
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง หรือถ้ามีคอร์สนวดหน้าและเลเซอร์ต่าง ๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันครับ
  • ก่อนร้อยไหมจมูก คนไข้จะต้องงดยาและอาหารเสริมบางชนิด เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เช่น ยาแอสไพริน, NSAIDs วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E แต่ถ้าเป็นยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ คนไข้ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาก่อนหยุดยา
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง หรือถ้ามีคอร์สนวดหน้าและเลเซอร์ต่าง ๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันครับ
  • หมอจะทำการประเมินใบหน้าของคนไข้แต่ละคนว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ต้องแก้ด้วยการร้อยไหมอย่างไร ใช้จำนวนไหมกี่เส้นถึงจะเห็นผล

ข้อห้ามและข้อปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมจมูก

  • พยายามหลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา หรือกดนวดบริเวณที่ร้อยไหม เพื่อลดการอักเสบติดเชื้อ เนื่องจากร้อยไหมจมูก จะมีแผลที่เกิดจากเข็มที่ใช้ร้อยบริเวณปลายจมูก ซึ่งแพทย์จะปิดพลาสเตอร์ปิดแผลให้ คนไข้สามารถแกะออกตามคำแนะนำของแพทย์ครับ
  • ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. รวมถึงทานอาหารหน้าเตาร้อน ๆ เช่น ทานชาบู ปิ้งย่าง 
  • หลังร้อยไหมควรงดทานอาหารหมักดอง อาหารที่มีรสเผ็ดมาก ๆ อาหารรสหวานจัด และอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด 
การดูแลหลังร้อยไหมจมูก
การดูแลหลังร้อยไหมจมูก

ผลข้างเคียงของการร้อยไหมจมูกมีหรือไม่ ? 

หลังร้อยไหมจมูกผลข้างเคียงที่หลีกเลี่ยงได้ยาก คืออาการบวมครับ เพราะการร้อยไหมเป็นหัตถการที่ทำให้เกิดแผล โดยเฉพาะในคนที่ผิวขาว ผิวบางอาจเกิดการบวมรอยช้ำได้ง่าย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายได้เอง ส่วนผลข้างเคียงที่ผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ หากเลือกการร้อยไหมจมูกกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้เส้นไหมที่ไม่คุณภาพ อาจก่อให้เกิดปัญหาหลังจากทำจมูกได้ เช่น

  • ร้อยไหมจมูกทะลุ 

หากแพทย์เก็บเส้นไหมไม่ดี อาจทำให้เกิดปฏิกิริยากับผิวหนัง ทำให้มีโอกาสปลายไหมจะหลุดออกมาด้านนอกได้ แต่ถ้าร้อยไหมจมูกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ก็ลดความเสี่ยงในข้อนี้ลงไปได้มากครับ

  • ร้อยไหมจมูกเบี้ยว 

การร้อยไหมจมูกต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญแพทย์ในการประเมินจำนวนเส้นไหม และการดึงไหมครับ เพราะหากทำไม่เหมาะสมอาจจะทำให้รูปทรงจมูกเบี้ยว หรือเกิดพังผืดด้านในโพรงจมูก รวมไปถึงอักเสบติดเชื้อบริเวณจมูก

แนวทางป้องกันที่ดีที่เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ คือการเลือกร้อยไหมจมูกกับหมอที่มีเทคนิคที่ถูกต้องและมีประสบการณ์การร้อยไหมจมูก เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายครับ 


ร้อยจมูกที่ไหนดี ? เลือกคลินิกร้อยไหมจมูกอย่างไร ให้ปลอดภัย

ก่อนตัดสินใจร้อยไหมจมูกที่ไหนดี ? ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและเลือกร้อยไหมจมูกกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยพิจารณาดังนี้ 

  • คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎกระทรวงสาธารณสุข : มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11  หลัก ติดอยู่ในคลินิกมองเห็นได้อย่างชัดเจน ที่ตั้งของคลินิกควรสังเกตเห็นได้ง่าย ไม่ทึบ อับ แคบ มีอุปกรณ์เครื่องมือครบครัน เนื่องจากการร้อยไหมหากไม่มีความสะอาดมากพอ อาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน อักเสบหรือติดเชื้อได้ครับ
คลินิกที่ได้มาตรฐาน
  • เลือกร้อยไหมจมูกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ : การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ในการทำสูง เพราะหมอจะมีเทคนิคเพื่อลดอาการบวมช้ำ มือเบา ได้ผลชัดเจนและเป็นธรรมชาติที่สุดครับ
  • หากแพทย์ไม่มีความชำนาญในการร้อยไหม หรือเลือกร้อยไหมกับหมอกระเป๋า ปัญหาที่เกิดมีทั้งความเสี่ยง อาการอักเสบ บวม ติดเชื้อ หรือการใช้ไหมไม่เหมาะกับหน้าคนไข้ ทำให้ไม่ได้ผลตามที่หวังครับ
  • ใช้เส้นไหมที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน : ก่อนร้อยไหมจมูก แนะนำให้คนไข้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเส้นไหมมีกี่ประเภท แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร เพราะปัจจุบันมีคลินิกร้อยไหมจำนวนมาก และมีโปรโมชั่นออกมาแข่งกัน ราคาแตกต่างกัน 

ที่ V Square Clinic การร้อยไหมจมูกหมอจะใช้ไหมละลาย PDO เป็นเส้นไหมแท้มีคุณภาพ ทำหัตถการโดยแพทย์มีประสบการณ์ มีเทคนิคการร้อยไหมที่ดี สามารถประเมินโครงสร้างจมูก และแนะนำจำนวนเส้นไหมที่เหมาะสมให้กับคนไข้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หลังทำแพทย์มีการนัดหมายติดตามผลอย่างต่อเนื่องครับ


รีวิวร้อยไหมจมูก 

คุณหมอแพน-วันรวี แซ่อู อธิบายเทคนิคร้อยไหมจมูก V Square Clinic
รีวิวร้อยไหมจมูก
รีวิวร้อยไหมจมูก
รีวิวร้อยไหมจมูก
รีวิวร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมจมูกราคา โปรโมชั่น ที่ V Square Clinic

ร้อยไหมจมูกราคา

บทความแนะนำ


Q & A ถามตอบเกี่ยวกับการร้อยไหมจมูก

1. เสริมจมูกแล้วร้อยไหมได้ไหม ? 

เคยเสริมจมูกมาแล้ว สามารถร้อยไหมได้ครับ หมอจะพิจารณาประเมินเป็นรายเคส โดยมากมักทำในกรณีที่ เสริมจมูกแล้วสันจมูกเอียง สามารถใช้ไหมดึงปรับทรงได้   

2. ร้อยไหมแล้วเสริมจมูกได้ไหม ?

ผู้ที่ร้อยไหมจมูกมาก่อน แล้วต้องการเสริมจมูกให้โด่งขึ้น กรณีนี้อาจถือเป็นงานแก้ครับ ค่าใช้จ่ายในการเสริมจมูกจะสูงขึ้น เพราะหมอจะต้องเคลียร์จมูก หรืออาจจะขูดกระดูกออกในแนวที่ต้องการวางซิลิโคน เพื่อให้แท่งซิลิโคนสามารถยึดเกาะได้ดี ใครที่สงสัยเสริมจมูกหรือร้อยไหม เลือกวิธีไหนดี หากมีแผนจะเสริมจมูกด้วยซิลิโคนในอนาคต หมอไม่แนะนำให้ร้อยไหมจมูกครับ 

3. ร้อยจมูกผู้ชายทำได้ไหม ?

ร้อยไหมจมูก ผู้ชายสามารถทำได้ครับ แต่การปรับทรงจมูกผู้ชายจะมีความต่างจากของผู้หญิง เนื่องจากจมูกผู้ชายจะมีสันจมูกที่สูงกว่าของผู้หญิง ร้อยไหมจมูกในผู้ชายจะต้องปรับความโด่งให้รับกับทรงหน้าผาก ปรับให้ปลายจมูกพุ่งขึ้น และเก็บปีกจมูกให้แคบลง โดยที่ปลายจมูกจะไม่เน้นความงอนเหมือนผู้หญิงครับ

4. ร้อยไหมจมูก นอนตะแคงได้ไหม ?

หลังร้อยไหมจมูก ไม่ควรนอนตะแคง หรือนอนท่าที่จะมีการกดทับบนใบหน้า (นอนคว่ำ) เพราะจะทำให้เจ็บบริเวณจมูก ควรนอนหงาย และเลี่ยงการสัมผัสในบริเวณที่ร้อยไหมครับ

5. หลังร้อยไหมจมูก แต่งหน้าได้ไหม ?

หลังร้อยไหมจมูก สามารถแต่งหน้าได้ครับ แต่ควรเว้นหลัง 48 ชั่วโมงหรืออย่างน้อย 1 คืน เพื่อเลี่ยงการระคายเคืองจากสารเคมีในเครื่องสำอาง สามารถล้างหน้าได้ แต่ควรใช้สบู่อ่อน ๆ หรือสบู่เวชสำอางในช่วงแรก 


สรุป 

การร้อยไหมจมูก เป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้ที่ต้องการปรับทรงจมูกให้โด่งขึ้น แต่ไม่ต้องการผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้าง มีความปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน ก่อนตัดสินใจทำควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และไม่แนะนำในผู้ที่วางแผนเสริมจมูกด้วยซิลิโคนในอนาคตครับ


เอกสารอ้างอิง 

  1. Nasal analysis and anatomy: anthropometric proportional assessment in Asians—aesthetic balance from forehead to chin, Part II. 
  2. Nonsurgical Rhinoplasty With Polydioxanone Threads and Fillers

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ร้อยไหมหน้าเรียวกี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหนเหมาะกับใครบ้าง เลือกไหมแบบไหนดี ?

Categories
ร้อยไหม
ร้อยไหมหน้าเรียว

ร้อยไหมหน้าเรียว 

การร้อยไหมหน้าเรียว คือหนึ่งวิธียกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย หลังทำให้ผลลัพธ์ชัดเจน สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก วีเชฟได้อย่างรวดเร็ว เป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมานานครับ 

ใครที่ต้องการปรับรูปหน้า และมีข้อสงสัยว่า การร้อยไหมหน้าเรียว คืออะไร ? ช่วยให้หน้าเรียวจริงไหม ? ช่วยอะไรได้บ้าง ? อายุน้อย ๆ ควรทำ ดีไหม ? ใช้กี่เส้นจึงจะเห็นผล ราคาเท่าไร ? เลือกคลินิกร้อยไหมที่ไหนดี ? ถึงจะปลอดภัย ในบทความนี้หมอรวบรวมข้อมูลมาแนะนำครับ 

สารบัญ ร้อยไหมหน้าเรียว

  1. ร้อยไหมหน้าเรียว คืออะไร ?
  2. ร้อยไหมหน้าเรียว ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างไร ?
  3. รีวิวร้อยไหมหน้าเรียว
  4. ร้อยไหมหน้าเรียวดีไหม มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ?
  5. ก่อนทำการร้อยไหมหน้าเรียว ควรรู้อะไรบ้าง ?
  6. ร้อยไหมหน้าเรียว กี่วันเห็นผล ?
  7. ร้อยไหมหน้าเรียว อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?
  8. ร้อยไหมหน้าเรียว ชนิดไหนดี ยี่ห้อไหนดี ?
  9. ร้อยไหมหน้าเรียว ใช้ไหมกี่เส้น ?
  10. การร้อยไหมหน้าเรียว เจ็บไหม ?
  11. ข้อห้ามและการปฏิบัติตัวหลังการร้อยไหมหน้าเรียว
  12. ร้อยไหม หรือฉีดหน้าเรียว ดีกว่ากัน ควรพิจารณาอะไรบ้าง ?
  13. ร้อยไหมหน้าเรียวที่ไหนดี ?
  14. ร้อยไหมหน้าเรียว ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
  15. ร้อยไหมหน้าเรียว ราคาโปรโมชั่น

ร้อยไหมหน้าเรียว คืออะไร ?

ร้อยไหมหน้าเรียว คือ การร้อยไหมเพื่อยกกระชับหน้าให้เรียว วีเชฟ โดยใช้ไหมละลายที่มีเงี่ยง (Bidirectional Barbed Thread) หรือที่เรียกกันว่าไหมก้างปลา ซึ่งเป็นชื่อเรียกตามลักษณะของเส้นไหมมีลักษณะเงี่ยงคล้ายก้างปลา ที่มีคุณสมบัติในการเกี่ยว ยก ดึงผิวขึ้น ตัวไหมผลิตจากโพลีไดออกซาโนน (Polydioxanone) หรือ โพลีคาโปรแลคโตน (Polycaprolactone) ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ  

ไหมก้างปลา

ปัจจุบันนิยมใช้ปรับรูปหน้าให้เรียว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูเต่งตึง กระชับขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำครับ 


ร้อยไหมหน้าเรียว ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างไร ?

หมอจะใช้เข็มนำเส้นไหมสอดลงในชั้นผิวหนังตามแนวยก ด้วยลักษณะของเงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอ เส้นไหมจะเกี่ยวและยึดเกาะกับเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว เมื่อหมอดึงเส้นไหมขึ้น ผิวจะถูกเงี่ยงไหมยกขึ้นตามแนวที่ดึง ผิวที่หย่อนคล้อยก็ถูกยกขึ้นตาม ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวได้ 

ร้อยไหมหน้าเรียวยกกระชับผิว

หลังการร้อยไหม จะทำให้ผิวบริเวณที่ร้อยไหมเข้าไป เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน และทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงชั้นผิวหนังมากขึ้น ช่วยให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึงขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นได้ครับ  

รีวิวหลังร้อยไหมก้างปลา

รีวิวร้อยไหมหน้าเรียว 

ตัวอย่างร้อยไหมหน้าเรียวด้วยไหมก้างปลา

รีวิวร้อยไหมหน้าเรียว
รีวิวร้อยไหมหน้าเรียว

จากภาพจะเห็นได้ว่าหลังร้อยไหมก้างปลา ใบหน้าจะดูเรียวขึ้น ใบหน้าเล็กลง มองดูวีเชฟ

รีวิวร้อยไหมหน้า
รีวิวร้อยไหมหน้า

 เพื่อให้ใบหน้าได้สัดส่วนสวยงาม สามารถร้อยไหมหน้าเรียว ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ปรับรูปหน้าให้สวยงามขึ้นได้


ร้อยไหมหน้าเรียวดีไหม มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ? 

การร้อยไหมปรับหน้าเรียว เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างเห็นผลครับ สามารถแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย เพิ่มความกระชับให้กับผิวหน้าได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยมีทั้งสำหรับข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้

 ข้อดี

  1. การร้อยไหมหน้าเรียว จะเห็นผลหลังทำทันที
  2. ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้เป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
  3. ช่วยปรับรูปหน้าให้วีเชฟ ใบหน้ามีมิติ  ใบหน้าดูเล็กลง เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
  4. บริเวณที่ร้อยไหมมีการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินเพิ่มขึ้นมา ทำให้ผิวอิ่มฟูขึ้น เต่งตึง ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวกระชับขึ้น 
  5. มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเส้นไหมสามารถละลายหมดไปตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง
ข้อดีร้อยไหมหน้า

ข้อเสีย 

  1. การร้อยไหมหน้าเรียว ไม่ได้เหมาะกับทุกคนที่ต้องการมีใบหน้าเรียว วีเชฟ เช่น คนที่โหนกแก้มใหญ่ หรือคนที่มีปัญหาแก้มตอบ เพราะจะยิ่งทำให้โหนกแก้มเด่นขึ้น แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าแทนครับ 
  2. การร้อยไหมหน้าเรียว อาจมีอาการบวมช้ำ เนื่องจากเป็นการสอดไหมเข้าสู่ใต้ผิว ทำให้มีเลือดออก จึงเลี่ยงอาการบวมช้ำได้ยาก แต่หากร้อยไหมหน้าเรียวกับหมอเก่ง ๆ มีเทคนิคเฉพาะจะช่วยลดอาการบวมช้ำได้มากครับ ดังนั้นจึงต้องร้อยไหมหน้าเรียวกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น  

ก่อนทำการร้อยไหมหน้าเรียว ควรรู้อะไรบ้าง ?

อย่างที่หมอบอกไปว่า การร้อยไหมหน้าเรียวจะต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย ไม่เกิดผลข้างเคียง ดังนั้นก่อนร้อยไหม ควรศึกษาข้อมูลดี ๆ เลือกทำกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ หมอผู้ทำหัตถการมีข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้ว่าเป็นแพทย์จริง ๆ มีประสบการณ์ มีเคสรีวิวจากคนไข้จริงที่เคยเข้ารับการบริการครับ 

เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะเลือกทำที่ไหน การเตรียมตัวก่อนร้อยไหมอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ 

  • ก่อนเข้ารับการร้อยไหมหน้าเรียว ควรงดยา และอาหารเสริมบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนการร้อยไหม เช่น ยาแอสไพริน, NSAIDs วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba, Primrose Oil, Garlic, Ginseng และ Vitamin E เพื่อลดอาการบวมช้ำ 
  • ในกรณีที่คนไข้มีโรคประจำตัวที่ต้องการกินยาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาว่าจำเป็นต้องหยุดทานยาหรือไม่ 
  • ควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงกิจกรรมที่ส่งผลต่อการสูบฉีดเลือด 24 ชั่วโมง

ร้อยไหมหน้าเรียว กี่วันเห็นผล ?

หลังร้อยไหมหน้าเรียว สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับ จากนั้นในช่วง 3-4 วันแรกหลังทำจะมีอาการบวมมากขึ้น แต่อาการบวมจะยุบลงได้เองในช่วง 14 วัน และใบหน้าจะเข้าที่ได้รูปชัดเจนในช่วงประมาณ 1 เดือน

ผลลัพธ์หลังร้อยไหมหน้าเรียว

ร้อยไหมหน้าเรียว อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?

การคงผลลัพธ์หลังร้อยไหมหน้าเรียวจะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับชนิดไหมที่ใช้ครับ ซึ่งมี ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 1 ปี โดยแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

  • PDO (Polydioxanone) ประคองผิวได้ประมาณ 4-5 เดือน
  • PLLA (Polylactate) ประคองผิวได้ประมาณ 18-24 เดือน
  • PCL (Polycaprolactone) ประคองผิวได้ประมาณ 1 ปี

ร้อยไหมหน้าเรียว ชนิดไหนดี ยี่ห้อไหนดี ?

การร้อยไหมหน้าเรียว จะใช้ไหมอยู่ 3 ชนิด ที่ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัย ได้แก่ ไหม PDO PLLA และ PCL ซึ่งจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปครับ

เจาะลึกคุณสมบัติของไหมก้างปลาแต่ละชนิด PCL / PLLA / PDO
  • PDO (Polydioxanone) จุดเด่น คือ ความยืดหยุ่นสูง เป็นที่นิยมมากที่สุด
  • PLLA (Polylactate) จุดเด่น คือ ความแข็งแต่ข้อเสียคือเปราะหักง่าย
  • PCL (Polycaprolactone) จุดเด่น คือ ความยืดหยุ่น เส้นใหญ่ที่สุด ไหมก้างปลาเส้นใหญ่ เงี่ยงใหญ่ ละลายช้า อยู่ได้นานขึ้น ปัจจุบันไหม PCL มีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย จึงทำให้ PCL เป็นวัสดุเส้นไหมที่ดีที่สุดในตอนนี้
ร้อยไหมหน้าเรียว ชนิดไหนดี

ร้อยไหมหน้าเรียว ใช้ไหมกี่เส้น ?

ปกติแล้วการร้อยไหมหน้าเรียว จะใช้จำนวนเส้นไหมในการร้อยอยู่ที่ 3-10 เส้นครับ ก่อนร้อยไหมแพทย์จะประเมินใบหน้าก่อน โดยพิจารณาจาก ความแน่นของผิว เนื้อแก้มของคนไข้ และจุดที่ต้องการแก้ไขดึงหน้าให้กระชับขึ้น 

ร้อยไหมหน้าเรียว ใช้ไหมกี่เส้น

กรณีที่ต้องการให้ผลลัพธ์หลังการร้อยไหมอยู่ได้นานขึ้นกว่าปกติ ก็สามารถเพิ่มจำนวนเส้นไหมที่เยอะขึ้นได้ คล้ายการยกของด้วยเชือกหลายเส้นย่อมแข็งแรงกว่าและอยู่ได้นานขึ้นครับ


การร้อยไหมหน้าเรียว เจ็บไหม ?

ในขั้นตอนการร้อยไหม หมอจะมีการฉีดยาชาให้ครับ ดังนั้นในระหว่างการร้อยไหมคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่จะเจ็บเล็กน้อยในขั้นตอนฉีดยาชา ดังนั้นใครกังวลว่า ร้อยไหมเจ็บไหม ? สามารถสบายใจได้ จะเจ็บนิดหน่อยแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้นครับ 


ข้อห้ามและการปฏิบัติตัวหลังการร้อยไหมหน้าเรียว

หลังร้อยไหมเสร็จทันที อาจมีอาการบวมเข็มหรือเกิดรอยช้ำตามแนวการสอดไหม ดังนั้นควรดูแลตัวเองร่วมด้วย โดยมีข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติดังนี้ 

  • หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
  • ไม่ควรอ้าปากกว้าง ๆ เช่น การอ้าปากทำฟัน หรือ การแปรงฟันแรง ๆ ในระยะ 1 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงการดึงรั้งของเส้นไหมในผิว
  • หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที (ปกติคลินิกจะมียาแก้ปวด, ลดบวมให้กินด้วย)
  • งดยิงเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้ความร้อนลงผิวชั้นลึก เป็นเวลา 1 เดือน
  • ไม่ควรนวดหน้าแรง ๆ บริเวณที่ร้อยไหมเป็นเวลา 2 เดือน
  • แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ วันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อรักษาสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น เต่งตึง ดูสุขภาพดีอยู่เสมอ

นอกจากนี้ควรระวังเรื่องการรับประทานอาหารร่วมด้วย เพื่อลดอาการบวม ป้องกันการอักเสบ  เช่น 

  • หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
  • อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
  • อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  • งดอาหารที่หวานจัด ๆ นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
  • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่ ในระยะ 14 วันหลังทำ หรืออย่างน้อย 48 ชม.
ข้อห้ามร้อยไหมหน้าเรียว

ร้อยไหม หรือ ฉีดหน้าเรียว ดีกว่ากัน ควรพิจารณาอะไรบ้าง ?

การร้อยไหมหน้าเรียว และการฉีดหน้าเรียวด้วยเมโสแฟต มีข้อดีที่ต่างกัน จึงเหมาะกับการแก้ไขปัญหาที่ต่างกันครับ 

  • ร้อยไหมหน้าเรียว : เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย 
  • ฉีดหน้าเรียวด้วยเมโสแฟต : เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันบริเวณแก้มเยอะ 

ทั้ง 2 หัตถการสามารถทำร่วมกันได้ ตามระยะเวลาที่เหมาะสม ขึ้นอยู่การประเมินของแพทย์ครับ 


ร้อยไหมหน้าเรียวที่ไหนดี ? 

  • ร้อยไหมหน้าเรียวกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน : มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข  เพื่อความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย สะอาด ไหมที่ใช้มีคุณภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกช่วยเหลือยามฉุกเฉินครบครับ
  • ร้อยไหมหน้าเรียวกับแพทย์มีประสบการณ์สูง : แพทย์ที่มีประสบการณ์จะมีเทคนิคเฉพาะที่ช่วยลดอาการบวม ช้ำ รวมถึงประเมินปัญหาได้อย่างแม่นยำ แก้ปัญหาตรงจุดใช้ปริมาณเส้นไหมเหมาะสม ทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม เป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยครับ 

นอกจากนี้ การดูแล ติดตามผลหลังการรักษา ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาครับ 

  • คลินิกจะต้องมีช่องทางติดต่อสื่อสารที่ชัดเจน : โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ และเบอร์โทรศัพท์ ไว้ให้สามารถปรึกษากับแพทย์และทีมงานในกรณีฉุกเฉินได้ตลอดเวลา
  • การเดินทางสะดวก : สถานที่ตั้งของคลินิกควรมีความสะดวกทั้งในเรื่องการเดินทางและที่จอดรถ เนื่องจากหลังจากร้อยไหมเสร็จแล้ว คนไข้ควรอยู่ในที่อากาศเย็น ลดการเกิดเหงื่อ ลดการอักเสบได้ครับ
  • มีรีวิวร้อยไหมเรียวจากคนไข้จริง : เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนตัดสินใจร้อยไหม แนะนำให้ตรวจสอบรีวิว พิจารณาผลการรักษาที่ผ่านมาของคลินิกนั้น ๆ และควรดูรีวิวผลลัพธ์การร้อยไหมในรูปแบบคลิปวิดีโอร่วมด้วย เพื่อให้เห็นการรักษาที่เป็นจริงครับ

ร้อยไหมหน้าเรียว ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ? 

ที่ V Square Clinic  หมอจะเลือกใช้ไหมที่มีคุณภาพ ก่อนทำมีการวิเคราะห์ปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ เพื่อประเมินปริมาณเส้นไหมที่ควรใช้อย่างเหมาะสม 

ร้อยไหมหน้าเรียว ที่ V Square Clinic by หมอซี

นอกจากนี้ ทีมแพทย์ทุกคนยังมีการอบรม พัฒนาเทคนิคให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัยและคุ้มค่ามากที่สุด 

ปัจจุบัน V Square Clinic เปิดให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแพทย์ประสบการณ์สูงด้านการร้อยไหมปรับรูปหน้าประจำอยู่ทุกสาขา สามารถประเมินปัญหาวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้อย่างตรงจุด และหลังการร้อยไหมหน้าเรียวยังมีการ ติดตามผลแนะนำการดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการมีช่องทางออนไลน์ไว้ติดต่อ เช่น Facebook หรือ Line@ ที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ทำเคสของตัวเองได้โดยตรงครับ


ร้อยไหมหน้าเรียว ราคาโปรโมชั่น 2023 

ร้อยไหมหน้าเรียว ราคาจะขึ้นอยู่กับชนิดของไหม วัสดุ และจำนวนเส้นไหมที่ใช้ครับ ที่ V Square Clinic ใช้เส้นไหม PCL และ PDO ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยครับ 

โปรโมชั่นร้อยไหมหน้าเรียว

สรุป 

ร้อยไหมหน้าเรียว เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าให้หน้าเรียววีเชฟได้อย่างเห็นผล ราคาไม่แพง และไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นนาน เพื่อความคุ้มค่า ปลอดภัย หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกใช้บริการกับคลินิกที่น่าเชื่อ และทำกับแพทย์มีประสบการณ์เท่านั้นครับ

ร้อยไหมหน้า ยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียว กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ?

Categories
ร้อยไหม

การร้อยไหมหน้า 

ร้อยไหมหน้า-เหมาะกับใคร1000x860

การร้อยไหมหน้าคืออะไร ? ในบทความนี้มีคำตอบครับ ใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการร้อยไหมหน้าว่าช่วยอะไรบ้าง ? ทำไมยังได้รับความนิยมอยู่เรื่อย ๆ ทั้งที่การร้อยไหมดึงหน้า มีให้เห็นในวงการความงามมานานแล้ว 

หมอได้รวบรวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการร้อยไหมหน้าไว้ให้ทั้งหมด ใช้ไหมร้อยหน้าชนิดไหน, ใช้กี่เส้น, มีประเภทไหนบ้าง, วิธีการเป็นอย่างไร, ราคาเท่าไร,ราคาแพงไหม หรือหากสนใจร้อยไหมดึงหน้า ควรเลือกทำที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ดี 

สารบัญ การร้อยไหมหน้า

  1. การร้อยไหมหน้า คืออะไร ?
  2. ร้อยไหมหน้าดีไหม ใครควรเลือกการร้อยไหมหน้าบ้าง ?
  3. กระบวนการทำงานของเส้นไหม ช่วยยกหน้าได้อย่างไร ?
  4. ข้อดี – ข้อเสียของการร้อยไหมหน้า
  5. ร้อยไหมหน้ามีกี่ประเภท ?
  6. ไหมที่ใช้ร้อยหน้า มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ?
  7. ร้อยไหมตำแหน่งไหนของใบหน้าได้บ้าง ? 
  8. การร้อยไหมทั้งใบหน้า ต้องใช้ไหมกี่เส้น ?
  9. ร้อยไหมหน้า กี่วันเห็นผล ?
  10. ร้อยไหมหน้าอยู่ได้กี่เดือน อยู่ได้นานไหม ?
  11. เปรียบเทียบการร้อยไหมหน้า-โบท็อก-ฟิลเลอร์-Hifu- Ulthera
  12. รีวิวร้อยไหมหน้า
  13. ข้อควรรู้ และการปฏิบัติตัวก่อนทำการร้อยไหมหน้า
  14. ข้อห้ามและการดูแลตัวเองหลังทำการร้อยไหมหน้า
  15. ร้อยไหมหน้าที่ไหนดี เลือกคลินิกใช้บริการอย่างไร ?
  16. โปรโมชั่นราคาร้อยไหมหน้า V Square Clinic 
                           รีวิว ร้อยไหมหน้าเรียว

การร้อยไหมหน้า คืออะไร ?

การร้อยไหมหน้า คือ การใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังบนใบหน้า (ปัจจุบันนิยมใช้ไหมก้างปลาที่มีเงี่ยง) โดยหวังผลให้ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น สามารถปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ทำให้หน้าเรียววีเชฟ คืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น หลังทำสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีว่าผิวยกกระชับขึ้น ทำให้ได้รับความนิยมครับ  

ร้อยไหมหน้ายกกระชับผิว

ร้อยไหมหน้าดีไหม ใครควรเลือกการร้อยไหมหน้าบ้าง ?

การร้อยไหมหน้า เป็นทางเลือกหนึ่งของการย้อนวัย ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง สามารถแก้ปัญหารูปหน้าได้อย่างเห็นผล และมีความปลอดภัยสูงครับ เนื่องจากเส้นไหมสามารถละลายได้หมด 100% ตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง 

ร้อยไหมหน้าดีไหม

การร้อยไหมหน้า สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น แก้ปัญหาแก้มหย่อนคล้อย รวมถึงช่วยลดริ้วรอยได้ดี  จึงเหมาะกับ 

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย 
  • ผู้ที่มีใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ไม่มีมิติ
  • ผู้ที่มีอายุไม่เยอะ (Younger Skin) แต่ผิวมีความหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
  • ผู้ที่ต้องการมีใบหน้าที่เต่งตึง ไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดู V-Shape

กระบวนการทำงานของเส้นไหม ช่วยยกหน้าได้อย่างไร ?  

เทคนิคการร้อยไหมหน้าเรียว หรือการร้อยไหมดึงหน้า คือ เทคนิคที่นำไหมละลายร้อยเข้าไปในชั้นผิว ตามแนวที่ต้องการเพื่อดึงให้ผิวยกขึ้น โดยลักษณะเส้นไหมที่นิยมใช้ร้อยไหมหน้าจะเป็นไหมก้างปลาที่มีเงี่ยงสามารถเกี่ยวเนื้อเยื่อขึ้นได้ตามแนวดึง จึงช่วยปรับรูปหน้าให้ดูวีเชฟ และเรียวขึ้นได้ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า ซึ่งสามารถเห็นว่าหน้ายก ผิวยกขึ้นได้ทันที 

นอกจากนี้คุณสมบัติของไหมละลาย ยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ผิวจึงกลับมากระชับ เต่งตึงขึ้นอย่างชัดเจน ริ้วรอย ร่องลึกจางลง ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยได้ครับ 

หากคนไข้มีปัญหาหลายอย่าง ต้องการให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น การร้อยไหมหน้า สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก รวมถึงการทำ HIFU ได้ครับ จะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนและลำดับการทำหัตถการร่วมกันครับ


ข้อดี – ข้อเสียของการร้อยไหมหน้า

ข้อดี

  1. ช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวให้กระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ใบหน้าได้สัดส่วน
  2. ปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape ใบหน้ามีมิติ ผิวตึงกระชับ ใบหน้าอ่อนเยาว์ลง
  3. มีความปลอดภัย เพราะไหมสามารถละลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง 
  4. หลังทำเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่มีแผล ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
ร้อยไหมหน้าดีไหม

ข้อเสีย

ข้อเสียของการร้อยไหมหน้า คืออาจมีอาการบวม หรืออาจเกิดรอยช้ำได้ สาเหตุจากการฉีดยาชาและการลงไหม ซึ่งการสอดไหมเข้าไปใต้ผิว ทำให้เกิดการบาดเจ็บใต้ผิวหนัง จึงเลี่ยงอาการบวมได้ยากครับ ซึ่งโดยทั่วไปจะบวมไม่มาก หากทำกับหมอที่ชำนาญจะมีเทคนิคที่ช่วยลดอาการบวมได้ แต่โดยทั่วไปอาการบวมจะเกิดขึ้นในช่วง 3-4 วันแรกหลังการร้อย จากนั้นจะค่อย ๆ ยุบบวมหายได้เองครับ  ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

ข้อควรระวัง 

การร้อยไหมหน้า จะต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ ถึงจะสามารถประเมินจำนวนเส้นไหม รวมถึงทิศทางการดึงไหมที่เหมาะสม เพราะหากร้อยไหมหน้าโดยแพทย์ไม่มีประสบการณ์ ร้อยด้วยเทคนิคไม่ถูกต้อง ร้อยตื้นเกินไป จะเกิดเป็นรอยบุ๋มขึ้นตามแนวเส้นไหม หรือสังเกตเห็นเป็นตุ่ม ผิวบริเวณที่ร้อยไม่เรียบเนียนตามมาได้ครับ


ร้อยไหมหน้ามีกี่ประเภท ?

การร้อยไหมหน้า แต่เดิมมี 2 ประเภท คือ 1.ไหมละลาย และ 2.ไหมไม่ละลาย ซึ่งปัจจุบัน ไหมไม่ละลาย ถูกยกเลิกใช้แล้ว เพราะอันตรายและมีผลข้างเคียงสูง 

ปัจจุบันการร้อยไหมหน้าในคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน จะเป็นไหมละลายเท่านั้นครับ โดยใช้ไหมที่ได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย จาก อย.ประเทศไทย และ FDA จากอเมริกา ทำจากวัสดุ Polydioxanone หรือ Polycaprolactone สามารถละลายได้หมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง หลังร้อยไหมจะคงเหลือเพียงเส้นใย Elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยประคองผิว และสามารถกลับมาร้อยไหมซ้ำได้อีกโดยไม่มีผลข้างเคียง


ไหมที่ใช้ร้อยหน้า มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ?

เส้นไหมที่นำมาไหมร้อยหน้ายังแบ่งออกเป็น 3 ชนิด แบ่งตามวัสดุและขนาดของเส้นไหม คือ 

ชนิดของเส้นไหมละลาย
  • ไหม PDO (Polydioxanone) เป็นไหมเส้นสีน้ำเงิน มีความยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี เป็นไหมชนิดแรกที่ถูกนำมาใช้ในการเสริมความงาม และเป็นที่นิยมมากที่สุด 
  • ไหม PLLA (Polylactate) เป็นไหมที่พัฒนาต่อมาจากไหม PDO จุดเด่นคือมีความแข็งแรง ทนต่อแรงดึงได้ดีที่สุด แต่มีข้อเสียคือเปราะง่ายจึงไม่ได้รับความนิยม
  • ไหม PCL (Polycaprolactone) เป็นไหมใหม่ล่าสุด มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด มีส่วนผสมของ PLLA ทำให้เส้นไหมมีขนาดใหญ่ และเป็นไหมที่มีความแข็งแรงทนทาน ละลายช้า อยู่ได้นาน ถือเป็นไหมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
(เจาะลึกคุณสมบัติของไหมก้างปลาแต่ละชนิด PCL / PLLA / PDO)

ร้อยไหมตำแหน่งไหนของใบหน้าได้บ้าง ? 

การร้อยไหม สามารถทำได้หลายตำแหน่งบนใบหน้าครับ เนื่องจากไหมละลายในปัจจุบันมีหลายชนิด และหลายขนาด ที่เหมาะสมกับการร้อยไหมในแต่ละบริเวณซึ่งแตกต่างกันออกไป โดยจุดที่สามารถร้อยไหมได้ มีดังนี้

ตำแหน่งร้อยไหมหน้า นิโคล
  • ร้อยไหมแนวกราม
  • ร้อยไหมร่องแก้ม
  • ร้อยไหมโหนกแก้ม
  • ร้อยไหมคาง
  • ร้อยไหมหน้าผาก
  • ร้อยไหมขมับ
  • ร้อยไหมจมูก-ดั้ง 

การร้อยไหมทั้งใบหน้า ต้องใช้ไหมกี่เส้น ?

จำนวนเส้นไหมที่นำมาใช้เพื่อร้อยไหมทั้งใบหน้า หมอจะเป็นผู้ประเมินครับ โดยแต่ละเคสอาจใช้จำนวนเส้นไหมที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนทำหมอจะประเมินปัญหาคนไข้ในแต่ละเคส โดยปกติแล้วผิวหน้าหย่อนคล้อยร้อยไหมจะใช้ข้างละ 3-10 เส้น โดยพิจารณาจาก 

  • คนไข้ต้องการแก้ปัญหาจุดไหนของใบหน้า 
  • ขนาดกล้ามเนื้อของคนไข้
  • ความหนาแน่น และความหย่อนคล้อยของผิว

ร้อยไหมหน้า กี่วันเห็นผล ?

การร้อยไหมหน้า สามารถให้ผลลัพธ์หลังทำทันทีครับ หลังร้อยไหมหน้าจะมีอาการบวมแดง หรือบางรายอาจมีเขียวช้ำขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หลังร้อยประมาณ 3-4 วันแรก จะมีอาการบวมชัดเจน เป็นเรื่องปกติครับ จากนั้นจะยุบลงได้เอง ประมาณ 14 วัน หน้าจะเข้ารูป และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 1 เดือนครับ

ตัวอย่างรีวิวหลังร้อยไหมหน้าเสร็จทันที 

ร้อยไหมหน้ากี่วันเห็นผล

ร้อยไหมหน้าอยู่ได้กี่เดือน อยู่ได้นานไหม ?

โดยทั่วไปร้อยไหมหน้า สามารถอยู่ได้นาน 4-12 เดือนครับ ขึ้นอยู่ชนิดของไหม จำนวนของเส้นไหม ตำแหน่งที่ร้อยไหม และเทคนิคการร้อยไหมของแพทย์ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังร้อยไหมของแต่ละบุคคลด้วยครับ


เปรียบเทียบการร้อยไหมหน้า-โบท็อก-ฟิลเลอร์-Hifu- Ulthera

การร้อยไหมหน้าเป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวยกกระชับขึ้นได้ ดังนั้นจึงมีคนไข้หลาย ๆ รายเกิดข้อสงสัย ว่าการร้อยไหมต่างจากหัตถการอื่น ๆ เช่น โบท็อก ฟิลเลอร์ และการทำ Hifu Ultraformer III, Ulthera SPT อย่างไร ? หมอขออธิบายตามความเหมาะสมของแต่ละปัญหาที่เหมาะกับหัตถการดังนี้ครับ 

  • ร้อยไหมหน้า :  เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ ต้องการยกกระชับ หลังทำเห็นผลชัดเจน
  • การฉีดโบท็อก เหมาะกับคนที่ต้องการลดริ้วรอย เช่น ริ้วรอยหางตา หน้าผาก ต้องการลดขนาดกรามให้เล็กลงปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
  • ฟิลเลอร์ :เหมาะกับการแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม
  • Hifu Ultraformer III : เหมาะกับคนที่มีแก้มหย่อน มีริ้วรอยไม่มาก ต้องการยกกระชับ
  • Ulthera SPT : เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกกระชับที่จะเน้นการกระตุ้นที่ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS เหมาะกับคนที่มีไขมันน้อย สามารถทำได้ทั้งหน้าและตัว ได้แก่ แก้ม ใต้ตา กรอบหน้า ลำคอ เหนียง หน้าอก ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้องครับ

ซึ่งจริง ๆ แล้ว หัตถการเหล่านี้สามารถทำร่วมกันได้ครับ ตามระยะเวลาและความเหมาะสมในแต่ละเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใครจะเหมาะกับหัตถการใด หมอจะช่วยประเมินให้ครับ 

ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ แนะนำให้เข้ารับการประเมินปัญหาลักษณะของผิวหน้ากับแพทย์โดยตรง คนไข้สามารถแจ้งความต้องการและงบประมาณ ให้แพทย์แนะนำหัตถการที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและเกิดความคุ้มค่าสูงสุด


รีวิวร้อยไหมหน้า

รีวิวร้อยไหมหน้า

รีวิวร้อยไหมก้างหน้า
รีวิวร้อยไหมหน้า

รีวิว ร้อยไหมหน้าร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ 

รีวิวร้อยไหมหน้า(3)
รีวิวร้อยไหมหน้า(2)
รีวิวร้อยไหมหน้า(1)
รีวิวร้อยไหมหน้า_1

ข้อควรรู้ และการปฏิบัติตัวก่อนทำการร้อยไหมหน้า

ก่อนทำการร้อยไหมหน้า คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อวางแผนการรักษา
  • เมื่อปรึกษาแพทย์เรียบร้อยแล้ว ถ้าพร้อมก็สามารถร้อยไหมได้เลยครับ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา วิตามินและยาที่ทานประจำ (ก่อนร้อยไหมควรงดยาและวิตามิน เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ginseng และ Vitamin E)
  • 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม 1 อาทิตย์ 

ข้อควรรู้ ก่อนร้อยไหมหน้า

ข้อห้ามและการดูแลตัวเองหลังทำการร้อยไหมหน้า

  • หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
  • งดยิงเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้ความร้อนลงผิวชั้นลึก เป็นเวลา 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 48 ชม
  • ไม่ควรนวดหน้าแรง ๆ บริเวณที่ร้อยไหมเป็นเวลา 2 เดือน
  • หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที
  • อย่าขยับใบหน้าเยอะ โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรก หากมีอาการผิดปกติบวม ช้ำ เจ็บมาก ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • การประคบเย็นหลังร้อยไหม ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะหากทำผิดวิธีอาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ ไม่เกาะผิวได้ครับ

นอกจากนี้หลังร้อยไหมหน้า ควรใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ กระตุ้นการอักเสบของแผลรอยเข็ม รอยช้ำหลังร้อยไหม ในช่วง 14 วันแรกครับ

  • งดของหมักดอง เช่น มะม่วงดอง หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง
  • งดหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู จิ้มจุ่ม
  • งดอาหารดิบ เช่น หอยแครงลวก ไข่ดาวไม่สุก ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุกหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ
  • งดอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน เผ็ดจัด เค็มจัด รวมถึงหวานจัด
  • งดยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด
  • งดวิตามิน เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสม และวิตามินอี
หลังร้อยไหมห้ามกิน

ร้อยไหมหน้าที่ไหนดี เลือกคลินิกใช้บริการอย่างไร ?

ร้อยไหมหน้า ที่ไหนดี ? สิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด คือ ความปลอดภัยครับ ก่อนร้อยไหมหน้าหมอมีแนวทางเลือกคลินิกที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน ดังนี้

ร้อยไหมหน้า ที่ไหนดี _

ความน่าเชื่อถือของคลินิก 

  • ต้องมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ใบประกอบกิจการ ใบประกอบวิชาชีพ ติดในคลินิกอย่างชัดเจน 
  • มีรีวิวผู้ใช้บริการจริง ทั้งในหน้าเพจ เว็บไซต์ หรือจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่น ตาม Pantip, เพจรีวิว, Instagram, TikTok ที่เชื่อถือได้ 
  • มีภาพก่อนทำ-หลังทำ เปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่าง หากมีภาพเคลื่อนไหวจะดูน่าเชื่อถือขึ้นครับ

บรรยากาศและสถานที่ตั้ง

  • อยู่ในแหล่งที่สังเกตได้ง่าย ไม่ทึบ หรือคับแคบ เป็นโซนที่เดินทางมาใช้บริการสะดวก มีอุปกรณ์เครื่องมือครบครัน ภายในคลินิกสะอาด เพราะการร้อยไหมต้องทำในห้องที่สะอาดมากพอ เพื่อลดโอกาสการอักเสบหรือติดเชื้อ

มีการติดตามผลหลังทำหัตถการ 

  • คลินิกที่ได้มาตรฐาน หลังร้อยไหมเสร็จแพทย์จะแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จ่ายยาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และมีการนัดหมายเพื่อติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ระหว่างนี้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ ผ่านช่องทาง Line หรือ Facsbook กับหมอเจ้าของเคสโดยตรงได้ครับ
ร้อยไหมหน้าที่ V Square Clinic หมอปุ๋ย

ที่ V Square Clinic เป็นคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานเปิดบริการอย่างถูกต้อง มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ มีทีมแพทย์ประสบการณ์สูงที่พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำหัตถการ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานมีคุณภาพและทันสมัย สำหรับคนที่ต้องการร้อยไหมหน้า แพทย์จะประเมินโครงหน้าและปัญหาเป็นรายบุคคล มั่นใจได้ในความปลอดภัย สามารถแก้ไขความหย่อนคล้อย ยกกระชับใบหน้าให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุดครับ


โปรโมชั่นราคาร้อยไหมหน้า V Square Clinic 

ร้อยไหมหน้า ราคาที่ V Square Clinic เริ่มต้นที่ 8,900 บาทครับ ทั้งนี้ ไหมที่เลือกใช้จะเป็นชนิดไหน ต้องใช้กี่เส้น แพทย์จะประเมินเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ 

ร้อยไหมหน้าราคา

สรุป 

การร้อยไหมหน้า เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย คืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าได้อย่างเห็นผลครับ แต่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ในการทำหัตถการ ดังนั้นก่อนตัดสินใจร้อยไหมหน้า ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการร้อยที่ถูกต้อง ทำให้หน้าไม่ช้ำ บวมน้อย ให้ผลลัพธ์หลังทำที่ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ร้อยไหมก้างปลา ยกกระชับปรับรูปหน้า อยู่ได้นานไหม เหมาะกับใครบ้าง ?

Categories
ร้อยไหม

ร้อยไหมก้างปลา 

ร้อยไหมก้างปลาคืออะไรช่วยเรื่องอะไรข้อดีข้อเสียที่ควรรู้1000x860

ร้อยไหมก้างปลา คืออะไร ? ทำไมถึงถูกพูดถึงมากในวงการเสริมความงาม ไหมก้างปลาช่วยทำให้หน้าดูเด็กลงได้อย่างไร ? หากอยากปรับรูปหน้าให้เล็กเรียว ร้อยไหมก้างปลาดีไหม ? เหมาะกับใครบ้าง ? มีข้อดี- ข้อเสียอย่างไร ? คำถามเหล่านี้ หมอมีคำตอบให้ทั้งหมดครับ 

รวมถึงข้อมูลการร้อยไหมแบบต่าง ๆ ไหมมีกี่ประเภท ?  มีแบบไหนบ้าง ?  ไหมก้างปลาต่างจากไหมชนิดอื่นอย่างไร ? หลังร้อยไหมไปแล้ว อยู่ได้นานไหม ? บวมช้ำหรือไม่ บวมกี่วัน ? สุดท้ายราคาเท่าไหร่ ? คุ้มค่าที่จะทำหรือไม่ ติดตามอ่านทั้งหมดนี้ได้ในบทความนี้ครับ  

สารบัญร้อยไหมก้างปลา 

  1. ร้อยไหมก้างปลา คืออะไร ? 
  2. ไหมก้างปลา ไหมล็อค 8d ไหมทอนาโด ไหมกุหลาบ แตกต่างกันอย่างไร เลือกอย่างไร ?
  3. ไหมเงี่ยง คืออะไร ? ต่างจากไหมก้างปลาไหม อย่างไร ?
  4. ไหมก้างปลาละลายไหม ? ไหมละลายมีอะไรบ้าง ?
  5. การทำงานของไหมก้างปลา ช่วยอะไรได้บ้าง ?
  6. ร้อยไหมก้างปลาดีอย่างไร ? มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไร ?
  7. ใครเหมาะกับการร้อยไหมก้างปลา ? 
  8. รีวิวร้อยไหมก้างปลา 
  9. ร้อยไหมก้างปลา หน้าบวมกี่วัน ? 
  10. ร้อยไหมก้างปลากี่วันเห็นผล ?
  11. ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่ปี ?
  12. ร้อยไหมก้างปลา ต้องใช้กี่เส้น ?
  13. ชนิดของเข็ม และขนาดของเส้นไหมก้างปลา
  14. การเตรียมตัวก่อนร้อยไหมก้างปลา
  15. การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมก้างปลา
  16. ร้อยไหมก้างปลาที่ไหนดี ?
  17. ร้อยไหมก้างปลา ราคาโปรโมชั่น  V Square Clinic  
  18. Q&A ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับร้อยไหมก้างปลา

ร้อยไหมก้างปลา คืออะไร ?

การร้อยไหมก้างปลา คือ หนึ่งในหัตถการความงามด้านการปรับรูปหน้า ด้วยการใช้เส้นไหมละลาย ร้อยเข้าไปใต้ผิว เพื่อดึง ยกผิวให้ตึงกระชับเข้ารูป ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียววีเชฟ รวมถึงแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย 

ร้อยไหมก้างปลา

ส่วนทำไมถึงเรียกว่า “ ไหมก้างปลา ” ลักษณะการเรียกมาจากรูปลักษณ์ของเส้นไหมครับ ที่มีเงี่ยงคล้ายก้างปลา หมอไทยส่วนใหญ่จึงเรียกไหมก้างปลา เพื่อให้คนไข้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งชื่อจริง ๆ ในทางการแพทย์คือ  Bidirectional  Barbed Thread  ครับ 

ลักษณะไหมก้างปลา

ไหมก้างปลา ไหมล็อค 8d ไหมทอนาโด ไหมกุหลาบ แตกต่างกันอย่างไร เลือกอย่างไร ? 

ไหมก้างปลา ยังมีชื่ออื่น ๆ ที่แต่ละคลินิกความงามตั้งชื่อขึ้น เพื่อใช้ทำการตลาดของตนเอง เช่น ไหมก้างปลา 8d ไหมเงี่ยงกุหลาบ ไหมปิรันย่า ไหมจระเข้ ไหมมังกร ไหมปากฉลาม ไหมทับทิม ไหม double-lock ไหมทอร์นาโด เป็นต้น ซึ่งเป็นลักษณะเส้นไหมที่มีเงี่ยงเหมือนกันครับ มีคุณสมบัติในการช่วยยกกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เช่นเดียวกัน 

ไหมก้างปลา ไหมเงี่ยง

ไหมเงี่ยง คืออะไร ? ต่างจากไหมก้างปลาไหม อย่างไร ?

ไหมเงี่ยง คือ ไหมก้างปลา หรือไหมก้างปลา 8d ครับ เป็นไหมกลุ่ม Barb Thread เช่นเดียวกัน คุณสมบัติก็เหมือน ๆ กัน แค่เรียกต่างกันตามแต่ละคลินิกเท่านั้น  

ดังนั้นก่อนเลือกร้อยไหมแบบใด ชื่อใด หมอแนะนำให้ดูลักษณะของเส้นไหมเป็นหลักครับ ว่ามีเงี่ยงแบบไหน ยี่ห้ออะไร ใช้วัสดุอะไร เพราะไหมแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพในการยกพยุงผิวได้ไม่เท่ากันครับ


ไหมก้างปลาละลายไหม ? ไหมละลายมีอะไรบ้าง ? 

ไหมก้างปลาที่ใช้ในคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน เป็นไหมละลายครับ จะไม่มีส่วนผสมของโลหะ สามารถละลายได้หมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง คงเหลือเพียงเส้นใย Elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยประคองผิว และสามารถกลับมาร้อยไหมซ้ำได้อีกโดยไม่มีผลข้างเคียง

ปัจจุบันไหมละลาย มี 2 ประเภท คือ 

  1. ไหมละลายที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น คอลลาเจนในลำไส้แกะหรือวัว
  2. ไหมละลายสังเคราะห์ ปัจจุบันนิยมใช้ไหมประเภทนี้ เนื่องจากมีความระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อน้อยกว่า

นอกจากนี้ไหมละลายที่ใช้ในการร้อยไหมกระชับผิว ยังจำแนกตามวัสดุ และลักษณะของไหม 

ไหมละลายทำจากวัสดุอะไร ? 

  1. ไหมละลาย PCL (Polycaprolactone) เส้นสีขาวขุ่น มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทนทาน ไม่เปราะหักง่าย เส้นใหญ่ที่สุด และเป็นไหมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
  2. ไหมละลาย PLLA (Polylactate) เส้นสีขาวใส ทนต่อแรงดึงได้ดีที่สุด แต่ขาดความยืดหยุ่น อาจจะพบปัญหาไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย ไม่เป็นที่นิยม
  3. ไหมละลาย PDO (Polydioxanone) เส้นสีน้ำเงิน ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง เป็นไหมชนิดแรกที่ถูกนำมาใช้ในการเสริมความงาม และเป็นที่นิยมมากที่สุด
วัสดุไหมละลายก้างปลา
วัสดุไหมละลายก้างปลา
คุณสมบัติของวัสดุไหมก้างปลา
คุณสมบัติของวัสดุไหมก้างปลา

ชนิดของไหมละลาย 

ไหมละลายแต่ละชนิดที่ใช้ในทางการแพทย์ มีหลายชนิด เพื่อตอบโจทย์แต่ละปัญหาของคนไข้ที่แตกต่างกัน 

  1. ไหมเรียบ (Mono Threads) เส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว ใช้ร้อยเพื่อสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอยได้เล็กน้อย 
  2. ไหมเงี่ยง หรือไหมก้างปลา (Barbed Threads) มีเงี่ยงเหมือนตะขอ ช่วยดึงเนื้อเยื่อได้ดี เหมาะกับใช้ในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
  3. ไหมเกลียว (Screw Threads) ใช้ไหม 1-2 เส้น พันเป็นเกลียว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นไหมในการร้อย
  4. ไหมกรวย (Silhouette Soft) มีลักษณะเป็นปมคล้ายกรวย ติดอยู่ที่เส้นไหมเป็นระยะ ต้องใช้เข็มใหญ่ในการร้อย และมีโอกาสบวมช้ำสูง
  5. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) เงี่ยงไหม 360 องศา 3 มิติ ยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง เงี่ยงไหมกางชัดเจน ตัวไหมแข็งแรง เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
  6. ไหมตาข่าย (Tesslift  Soft) ไหมโครงตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไป 80 เท่า วัสดุมีความแข็งแรง สามารถยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
ชนิดไหมละลาย

สำหรับที่ V Square Clinic ใช้  “ไหมล็อคก้างปลา 360 องศา” ที่ถูกออกแบบมาให้มีเงี่ยงรอบเส้นไหม 360 องศา เส้นใหญ่ แข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย เพื่อเพิ่มแรงยก เกาะเกี่ยวชั้นเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น โดยจะค่อย ๆ ละลายอยู่ในผิวหนัง ภายในระยะเวลา 8 เดือน สามารถสลายได้หมด 100% โดยไม่มีสารตกค้างครับ


การทำงานของไหมก้างปลา ช่วยอะไรได้บ้าง ?

การทำงานของการร้อยไหมก้างปลา คือ ยกและดึง ตรงไหนย้อย ตรงไหนคล้อย ใช้การร้อยไหมช่วยได้ครับ 

โดยการร้อยไหมก้างปลาที่มีเงี่ยงอยู่บนเส้นไหม เมื่อแพทย์ร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง จะเกี่ยวและช่วยยกผิวเนื้อเยื่อขึ้นตามแนวดึง จึงสามารถปรับรูปหน้าให้ดูวีเชฟ และเรียวขึ้นได้  

ร้อยไหมก้างปลายกหน้า

ซึ่งในขั้นตอนนี้จะทำให้เกิดแผลเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังด้วย จึงเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาหุ้ม ผิวจึงกลับมากลับกระชับ ดูเต่งตึงขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยได้ครับ 

การทำงานไหมก้างปลา

ร้อยไหมก้างปลาดีอย่างไร ?  มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไร ?

ข้อดี 

  • ช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิว ริ้วรอยจางลง ใบหน้าได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น 
  • ช่วยปรับรูปหน้าเรียว V Shape ได้สัดส่วน ผิวดูเต่งตึงขึ้น ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • ไหมก้างปลาจะช่วยประคองผิวคล้ายเส้นเอ็นบนใบหน้า ดึงใบหน้าที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น 
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนัง
  • ไหมก้างปลาที่มีคุณภาพ จะสามารถเข้ากันได้ดีกับผิวหนัง และสลายได้ 100% โดยไม่มีสารตกค้าง หลังจากทำเสร็จสามารถใช้หน้าได้ตามปกติ โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น

ข้อเสีย 

  • หากทำกับแพทย์ไม่มีประสบการณ์ อาจร้อยไหมก้างปลาผิดวิธี ทำให้หน้าเบี้ยว หน้ายุบ หน้าเป็นคลื่นได้
  • ร้อยไหมก้างปลาที่ไม่ได้คุณภาพ จะเกิดเป็นพังผืด กดแล้วผิวเป็นก้อนแข็ง และส่งผลเสียในระยะยาวได้ เนื่องจากเป็นไหมปลอม ที่ไม่สามารถสลายหมดไปได้เองตามธรรมชาติ

ใครเหมาะกับการร้อยไหมก้างปลา ? 

  • ผู้ที่มีแก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
    (สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป)
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีมิติขึ้น ปรับหน้าเรียว V-Shape
  • ผู้ที่อายุไม่มาก แต่รูปหน้ามีความหย่อนคล้อย ก็สามารถร้อยไหมก้างปลาได้เช่นกันครับ 

บทความแนะนำ

  • ผู้ที่มีปัญหาหน้าตอบ มีร่องแก้ม สามารถร้อยไหมก้างปลายกกระชับหน้า ควบคู่กับการเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

รีวิวร้อยไหมก้างปลา 

ตัวอย่างรีวิวร้อยไหมก้างปลา 

รีวิวร้อยไหมก้างปลา(1)_1
รีวิวร้อยไหมก้างปลา(2)

ตัวอย่างรีวิวร้อยไหมก้างปลาร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์  

รีวิวร้อยไหมก้างปลา
รีวิวร้อยไหมก้างปลา_1
(รีวิว ร้อยไหมก้างปลา ดึงแก้มส่วนล่างให้กระชับขึ้น)

ร้อยไหมก้างปลา หน้าบวมกี่วัน ? 

หลังร้อยไหม อาการบวม สามารถเกิดขึ้นได้ครับประมาณ 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น แต่อาการบวมจะยุบลงได้เองในช่วง 14 วัน 

รีวิวร้อยไหมก้างปลา(1)
(ตัวอย่างผลลัพธ์หลังร้อยไหมก้างปลา 2 วัน)

ในกรณีที่ร้อยไหมไปแล้ว 4 วัน แต่มีอาการบวมแดงมากขึ้น แนะนำให้รีบกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและรับประทานยาแก้ปวด ลดบวมเพิ่มครับ


ร้อยไหมก้างปลากี่วันเห็นผล ?

หลังการร้อยไหมสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ จากนั้นจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นตามลำดับ ใบหน้าเริ่มเข้าที่เห็นผลชัดเจนประมาณ 1 เดือนครับ 


ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่ปี ? 

ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังร้อยอย่างถูกวิธี โดยปกติแล้วไหม PDO จะอยู่ได้ 4-5 เดือน ส่วนไหม PCL อยู่ได้ 1 ปีครับ


ร้อยไหมก้างปลา ต้องใช้กี่เส้น ? 

ปกติการร้อยไหมก้างปลาจะใช้เส้นไหมข้างละ 3-10 เส้นครับ ก่อนร้อยแพทย์จะประเมินสภาพผิวโดยพิจารณาจากขนาดเนื้อแก้มของคนไข้ ความแน่นของผิว และจุดที่ต้องการดึงของคนไข้เป็นเคส ๆ ครับ แต่ถ้าหากคนไข้ต้องการให้อยู่ได้นานขึ้นกว่าปกติ ก็สามารถใช้จำนวนเส้นที่เยอะขึ้นได้ คล้าย ๆ การยกของด้วยเชือกหลาย ๆ เส้นย่อมมั่นคงแข็งแรงขึ้น อยู่ได้นานขึ้นครับ


ชนิดของเข็ม และขนาดของเส้นไหมก้างปลา

ขนาดของเส้นไหมตามหน่วยวัดสากล
(ตารางเปรียบเทียบขนาดของเส้นไหมตามหน่วยวัดสากล USP)
เข็มที่ใช้ในการร้อยไหมขนาดต่าง ๆ
(เข็มที่ใช้ร้อยไหมขนาดต่าง ๆ จะมีหัวเข็มที่มีสีแตกต่างกัน ซึ่งบ่งบอกความเล็ก ใหญ่ของเส้นไหม)

ชนิดของเข็ม และขนาดของเส้นไหมก้างปลา สำหรับวิธีสังเกตคนไข้สามารถดูได้จาก สีของเข็มที่ใช้ในการร้อยไหมก้างปลา หมอแยกตามสีของเข็มเพื่อความชัดเจนให้ดังนี้

  • เข็มสีเทา 27G ใช้ในการร้อยไหมขนาด USP 5-0
  • เข็มสีส้ม 25G ใช้ในการร้อยไหมขนาด USP 4-0
  • เข็มสีฟ้า 23G ใช้ในการร้อยไหมขนาด USP 3-0
  • เข็มสีเขียว 21G ใช้ในการร้อยไหมขนาด USP 2-0 ซึ่งคลินิกทั่วไปนิยมใช้ เนื่องจากเข็มมีขนาดเล็ก ร้อยง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้แพทย์มีประสบการณ์สูงก็สามารถทำได้ หลังร้อยไหมมีอาการบวมช้ำน้อย แต่เส้นไหมมีขนาดเล็กจึงอยู่ได้ไม่นานครับ 
  • เข็มสีเหลืองอ่อน 20G ใช้ในการร้อยไหมขนาด USP0
  • เข็มสีน้ำตาล 19G ใช้ในการร้อยไหมขนาด USP1
  • เข็มสีชมพู 18G ใช้ในการร้อยไหมขนาด USP2 ใช้ร้อยไหมที่มีขนาดใหญ่ เช่น ไหม PCL ซึ่งในปัจจุบันเป็นไหมก้างปลาเส้นใหญ่ที่สุด
เข็มที่ V Square Clinic เลือกใช้
(ลักษณะของเข็มร้อยไหมก้างปลา ที่ V Square Clinic เลือกใช้)

ที่ V Square Clinic หมอจะเลือกใช้ไหมก้างปลาเส้นที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้คือ USP2 USP1 USP0 เข็มที่ใช้ร้อยไหมจะเป็นเข็มสี สีชมพู (18G) สีน้ำตาล (19G) หรือ สีเหลืองอ่อน (20G) เนื่องจาก ไหมก้างปลาเส้นใหญ่ เงี่ยงใหญ่ จะละลายช้า และอยู่ได้นาน ให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีและเกิดความคุ้มค่าสูงสุดครับ


การเตรียมตัวก่อนร้อยไหมก้างปลา

  • หากมีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำหัตถการ ว่ามีความจำเป็นต้องงดยาตัวไหนบ้าง 
  • ควรงดทานวิตามินบางตัว เช่น Vitamin E, Primrose oil, Ginseng
  • ควรงดทาครีมกลุ่ม “Anti-Aging” หรือทายาที่ส่งผลต่อการผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols อย่างน้อย 3 วัน
  • หากมีคอร์สนวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ต่าง ๆ ควรงดทำอย่างน้อย 3 วัน และควรเว้นหลังร้อยไหมก้างปลาไปแล้ว 2 อาทิตย์
  • ควรงดกิจกรรมที่ส่งผลให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ 
  • ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชม. ก่อนทำหัตถการ

การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมก้างปลา

  • หลังการร้อยไหมก้างปลา แนะนำให้ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด (ปกติแพทย์จะสั่งยาแก้ปวด ลดบวม ยาฆ่าเชื้อให้ครับ)
  • พยายามอย่าขยับหน้าบ่อย โดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังการร้อยไหมก้างปลา
  • งดการนวดหน้า เป็นเวลา 2 เดือน รวมถึงการเลเซอร์หน้าที่ลงผิวชั้นลึกอย่างน้อย 1 เดือน
  • งดกิจกรรมที่ส่งผลให้หน้าแดง รวมถึงการทานอาหารหน้าเตาร้อน ๆ และอาหารรสเผ็ด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่ และงดอาหารที่มีรสหวานจัด 
หลังร้อยไหมก้างปลา(4)
หลังร้อยไหมก้างปลา(5)
หลังร้อยไหมก้างปลา(1)
หลังร้อยไหมก้างปลา(2)
หลังร้อยไหมก้างปลา
หลังร้อยไหมก้างปลา(3)

ร้อยไหมก้างปลาที่ไหนดี ?

ร้อยไหมก้างปลา ที่ไหนดี ? เพื่อความปลอดภัยและคุ้มค่า ควรพิจาณาสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ 

  1. คลินิกต้องได้มาตรฐาน
    • มีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพ ติดในคลินิกอย่างชัดเจน เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่า เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย 
    • มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ หากมีภาพก่อน-หลัง ที่เป็นทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว จะดูน่าเชื่อถือขึ้น
    • สถานที่ตั้งและบรรยากาศของคลินิกกว้างขวาง สะอาดถูกหลักอนามัย ตั้งอยู่ในจุดที่สังเกตได้ง่าย ไม่ลับตาคน
  1. แพทย์มีประสบการณ์สูง จะสามารถประเมินปัญหาใบหน้า วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังสามารถแนะนำชนิดของไหม จำนวนเส้น และมีเทคนิคการร้อยที่ถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีปลอดภัยสูงสุดครับ
  2. ใช้เส้นไหมแท้มีคุณภาพ ไหมเงี่ยงหรือไหมก้างปลาต้องเป็นไหมละลาย ที่แพทย์ใช้เย็บแผล ผ่านการรับรองว่าได้มาตรฐานจาก อย. สามารถละลายหมดไปได้เองตามธรรมชาติ 100% โดยไม่มีสารตกค้าง
ร้อยไหมก้างปลา V Square Clinic หมอกอล์ฟ

ที่ V Square Clinic ดูแลโดยแพทย์ประสบการณ์สูง ใช้เส้นไหมก้างปลาแท้คุณภาพ มีตัวอย่างผลการรักษา เคสรีวิว ให้พิจารณาประกอบการตัดสินใจ เพื่อความมั่นใจก่อนร้อยไหมจริง หลังร้อยไหมแพทย์สามารถแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี และติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


ร้อยไหมก้างปลา ราคาโปรโมชั่น  V Square Clinic  

ราคาร้อยไหมก้างปลา

Q&A ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับร้อยไหมก้างปลา

ร้อยไหมก้างปลาเจ็บไหม ? 

ก่อนร้อยไหมก้างปลา แพทย์จะฉีดยาชาร่วมกับการทายาให้ก่อน คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะร้อยไหมครับ แต่จะรู้สึกเจ็บตอนฉีดยาชาเท่านั้น 

ร้อยไหมก้างปลาอันตรายไหม ?

ร้อยไหมก้างปลา เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย หากร้อยด้วยไหมละลายที่ได้มาตรฐาน กับแพทย์มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการร้อยไหมที่ถูกต้อง จะให้ผลลัพธ์ที่ดีและไม่เป็นอันตราย เมื่อเวลาผ่านไปตามอายุของไหมที่ใช้ร้อย เส้นไหมก็จะละลายหมดไปตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างครับ


สรุป

ร้อยไหมก้างปลา เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหน้าได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยสูงสุด หมอแนะนำให้ร้อยไหมกับแพทย์ประสบการณ์สูง ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีตัวอย่างผลการรักษา มีเคสรีวิวที่น่าเชื่อถือ เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนตัดสินใจร้อยไหมก้างปลาครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ร้อยไหม คืออะไร ? ก่อนร้อยไหมควรรู้อะไรบ้าง ?

Categories
ร้อยไหม
ร้อยไหม

การร้อยไหม

ร้อยไหม เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลี จนแพร่หลายสู่ยุโรป อเมริกา และรวมทั้งประเทศไทย บทความนี้หมอจะมาให้คำตอบว่า ร้อยไหม คืออะไร ? ต่างจากหัตถการอื่นอย่างไร ? ทำไมถึงเป็นที่นิยม  

สำหรับผู้ต้องการร้อยไหมเพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ยกคิ้ว ยกหางตา ก่อนร้อยไหมควรศึกษาอย่างละเอียดว่า ร้อยไหมเหมาะกับใคร ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ? อยู่ได้นานไหม ? ราคาเท่าไหร่ ? เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัยและคุ้มค่า สามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ  

สารบัญ ร้อยไหม

  1. การร้อยไหม คืออะไร ?
  2. ร้อยไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
  3. ร้อยไหมตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
  4. ใครบ้างที่เหมาะกับการร้อยไหม
  5. ไหมที่ใช้ร้อย มีกี่ชนิด มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร ?
  6. ร้อยไหมอยู่ได้นานไหม ? อยู่ได้กี่เดือนถึงจะละลาย
  7. ปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์ของการร้อยไหมแตกต่างกันออกไป
  8. ข้อดีของการร้อยไหม
  9. ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจร้อยไหม
  10. การเตรียมตัวก่อนทำการร้อยไหม
  11. ขั้นตอนและหลักการทำงานของการร้อยไหม
  12. ข้อห้ามและการปฏิบัติตัวหลังจากทำการร้อยไหม
  13. ปัญหาที่อาจพบจากการร้อยไหม
  14. ร้อยไหม Hifu Ulthera Thermage อันไหนดีกว่ากัน แตกต่างกันอย่างไร ?
  15. ร้อยไหม ราคา
  16. โปรโมชั่นร้อยไหม
  17. ร้อยไหมที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัยและเห็นผล
  18. ร้อยไหมที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
  19. รีวิวการร้อยไหม
  20. Q&A การร้อยไหม

การร้อยไหม คืออะไร ?

การร้อยไหม (Thread Lifting) คือ เทคนิคยกกระชับผิวด้วยการใช้เข็มนำเส้นไหมละลายร้อยเข้าไปในชั้นผิวหนัง ผิวจะถูกเงี่ยงไหมเกี่ยวขึ้นมาตามทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป กระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิว ทำให้มีการสร้างคอลลาเจนใหม่บริเวณรอบเส้นไหม และเลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น ช่วยให้ผิวตึงกระชับขึ้นอย่างชัดเจน

ร้อยไหม โดยหมอซี

ร้อยไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

การร้อยไหม เน้นยกกระชับเป็นหลักครับ นอกจากจะสามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยแล้ว ยังช่วยปรับรูปหน้า V-Shape เสริมจมูกโด่ง เก็บปีกจมูก และช่วยเพิ่มคอลลาเจน ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ให้เรียบเนียนครับ


ร้อยไหมตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

ตำแหน่งที่นิยมร้อยไหม ได้ผลลัพธ์ดีและปลอดภัย ได้แก่ ร้อยไหมหน้า ร้อยไหมยกหางตา และยังมีอีกหลายตำแหน่งที่สามารถร้อยไหมได้ เช่น ร้อยไหมจมูก ร้อยไหมหน้าผาก ร้อยไหมมยกมุมปาก และร้อยไหมคอลลาเจนครับ

ตำแหน่งร้อยไหม คุณนิโคล

ใครบ้างที่เหมาะกับการร้อยไหม

การร้อยไหม เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย คิ้วตก หางตาตก ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียวโดยไม่ผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว


ไหมที่ใช้ร้อย มีกี่ชนิด มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร ?

ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมจะเป็นไหมละลายที่เกิดจากการสังเคราะห์ เมื่อร้อยไหมเข้ากับใบหน้า ไหมจะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แบ่งได้ 3 ชนิดตามประเภทวัสดุ คือ PDO, PLLA และ PCL มีคุณสมบัติที่ต่างกัน ดังนี้ครับ

  • PDO (Polydioxanone) เป็นไหมสีน้ำเงิน ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง      
  • PLLA (Polylactate) เป็นไหมเส้นสีขาวใส พัฒนามาจากไหม PDO มีจุดเด่นด้านความแข็ง ทนต่อแรงดึง ข้อดีคือกระตุ้นคอลลาเจนได้เยอะ สามารถเติมแทนฟิลเลอร์ได้ แต่ไม่ค่อยยืดหยุ่น บาง เปราะ ขาดง่าย
  • PCL (Polycaprolactone) เป็นไหมสีขาวเส้นใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย ปัจจุบันรุ่นล่าสุดได้นำจุดเด่นของไหม PLLA มาผสม ทำให้ไหม PCL+PLLA มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีและละลายช้า
ชนิดของไหม

นอกจากนี้ การร้อยไหมยังสามารถแบ่งได้ตามลักษณะของเส้นไหม เป็น 6 แบบหลัก ๆ คือ ไหมเรียบ ไหมเงี่ยง ไหมเกลียว ไหมกรวย ไหมมิ้นท์ และไหม Tesslift Soft โดยแต่ละคลินิกอาจใช้ชื่อเรียกแตกต่างกัน เพื่อเหตุผลทางการค้า ป้องกันการนำไปเปรียบเทียบกับคลินิกอื่น และให้ง่ายต่อการเรียกครับ ได้แก่

ลักษณะเส้นไหม

1. ไหมเงี่ยง

ไหมเงี่ยง หรือที่นิยมเรียกกันว่า ร้อยไหมก้างปลา ความจริงแล้วยังมีอีกหลายชื่อครับ เช่น ไหมกุหลาบ, ไหมปากฉลาม, ไหม 8d หรือไหมเขี้ยวงู เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงยื่นออกมา เพื่อช่วยเกี่ยวผิวให้ยกกระชับขึ้น แบ่งออกตามขนาดของเส้นไหม คือ ไหมเงี่ยงใหญ่ และไหมเงี่ยงเล็ก     

2. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift)

ไหมมิ้นท์ เป็นไหมที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับ และปรับรูปหน้าให้ V-Shape มีลักษณะพิเศษ คือ มีเงี่ยงอยู่รอบเส้นไหม 360 องศา แบบ 3 มิติ ช่วยเพิ่มแรงในการเกาะติดกับผิวหนังได้หลายทิศทาง ตัวไหมมีความแข็งแรง ไม่เปราะง่าย  

3. ไหมตาข่าย (Tesslift Soft)

ไหมตาข่าย หรือไหมโครงตาข่าย เป็นไหมละลายที่เป็นไหมเงี่ยงล้อมรอบด้วยตาข่าย มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงของเส้นไหม ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า สามารถช่วยยกพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี เพราะการร้อยไหมตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหมถึง 2 เส้น 

4. ไหมเกลียว 

ไหมเกลียว เป็นไหม 2 เส้นเกลียวเข้าด้วยกัน  หรือมีซิลิโคนพันอยู่รอบเส้นไหม เพื่อช่วยดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้น แต่จะเหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยไม่มาก และสามารถทำร่วมกับไหมชนิดอื่น

5. ไหมกรวย

ไหมกรวย มีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า ไหมเทอร์โบ, ไหมโคน หรือ ไหมกรวย Silhouette มีลักษณะเป็นพลาสติกทรงกรวยเล็ก ๆ อยู่ระหว่างปมของเส้นไหม หลังทำอาจมีอาการปวดหรือบวม ใช้เวลาทำนานและราคาสูง จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมครับ 

6. ไหมเรียบ

ไหมเรียบ เป็นไหมละลายเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว มีลักษณะเป็นเส้นเล็ก ๆ ช่วยเรื่องริ้วรอย แต่ไม่สามารถช่วยดึงยกกระชับผิวได้ ในปัจจุบันจึงไม่นิยมใช้แล้วครับ   


ร้อยไหมอยู่ได้นานไหม ? อยู่ได้กี่เดือนถึงจะละลาย 

ร้อยไหมอยู่ได้นานตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 1 ปี แล้วละลายหมดครับ ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม ดังนี้

  1. PDO อยู่ได้นานประมาณ 4-5 เดือน
  2. PLLA อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน
  3. PCL อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี 
ร้อยไหมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร ? อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์ของการร้อยไหมแตกต่างกันออกไป

ผลลัพธ์ของการร้อยไหมของแต่ละคนอยู่ได้นานไม่เท่ากันครับ บางคนไหมอยู่ได้ 4 เดือน 6 เดือน หรือบางคนอาจอยู่ได้นานถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่เลือกใช้ สภาพผิวเดิม การสร้างอิลาสติน และการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลครับ


ข้อดีของการร้อยไหม

ร้อยไหมดีอย่างไร ? การร้อยไหมมีข้อดีในการช่วยแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว V Shape หลังทำไหมจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดทำให้ผิวเต่งตึง แลดูอ่อนกว่าวัยโดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถเห็นผลลัพธ์การยกกระชับทันที มีความปลอดภัย ไหมละลายหมดตามระยะเวลา ไม่ทิ้งสารตกค้างครับ     


ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจร้อยไหม

ก่อนตัดสินใจร้อยไหม คนไข้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย หมอมีข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนร้อยไหมมาแนะนำครับ ดังนี้

  1. ไหมละลายมีอายุ 4 เดือน-2 ปี ขึ้นกับชนิดของเส้นไหมและการดูแลตัวเองหลังทำของแต่ละคน โดยส่วนใหญ่เมื่อเวลาผ่านไป 6-8 เดือน ผิวก็จะหลุดออกจากเส้นไหมก่อนที่ไหมจะละลายหมด ทำให้ผลลัพธ์อาจจะอยู่ได้ไม่นานตามที่โฆษณา 
  2. หากร้อยไหมกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ไม่รู้เทคนิคที่ถูกต้อง ร้อยไหมในผิวชั้นตื้นเกินไป อาจทำให้เกิดรอยบุ๋มขึ้นตามแนวที่ร้อยไหม หรือถ้าร้อยไหมทับซ้อนกันมากเกินไป จะทำให้เกิดเป็นพังผืดใต้ผิวหนัง ดึงรั้งผิวให้ผิดรูปได้ครับ
  3. เทคนิคการร้อยไหม ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ และการออกแบบว่าจะร้อยไหมไปในทิศทางไหน เพื่อให้เข้ากับรูปหน้าของคนไข้และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด หากร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง รู้เทคนิคและตำแหน่งถูกต้อง ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงได้ครับ 

การเตรียมตัวก่อนทำการร้อยไหม

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหมไม่ยุ่งยากครับ เพียงแต่ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา หรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง และงดวิตามินหรือยาที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน, Vitamin E, St. Johns Wort, Primrose Oil, Ginko Biloba อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ รวมทั้งควรงดการแว็ก การผลัดเซลล์ผิว นวดหน้า หรือเลเซอร์หน้าเป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ เพื่อลดอาการบวมช้ำหลังร้อยไหมครับ

เตรียมตัวก่อนร้อยไหม

ขั้นตอนและหลักการทำงานของการร้อยไหม

ขั้นตอนการร้อยไหม ที่ V Square Clinic ขั้นแรกหมอจะวิเคราะห์โครงหน้าของคนไข้ ประเมินสภาพผิวเพื่อดูว่าควรใช้ไหมประเภทใด จำนวนเท่าไหร่ และออกแบบทิศทางการร้อยไหม จากนั้นหมอจะใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงสอดลงในชั้นผิวหนัง และดึงผิวขึ้นมาตามแนวเส้นไหม โดยไหมที่ร้อยเข้าไปจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินรอบ ๆ บริเวณที่ร้อยไหม ช่วยดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้นได้ครับ

ขั้นตอนการร้อยไหม

ข้อห้ามและการปฏิบัติตัวหลังจากทำการร้อยไหม

หลังร้อยไหม คนไข้ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง และเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากขึ้น หมอได้รวบรวมวิธีการดูแลตัวเองหลังร้อยไหม ดังนี้ครับ

  • หลังร้อยไหม 48 ชม. ควรหลีกเลี่ยงของหมักดอง ของดิบ แอลกอฮอล์ และงดสัมผัสความร้อนทุกชนิด ช่วยให้ยุบบวมได้ไวขึ้นครับ
  • 3 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือกดนวดในบริเวณที่ร้อยไหม และหลีกเลี่ยงการทาครีมอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ป้องกันการติดเชื้อ
  • ไม่ควรนอนตะแคง หรือนอนคว่ำใน 2-3 คืนแรก เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ร้อยไหม
  • ในช่วง 1 เดือนหลังร้อยไหม คนไข้ไม่ควรอ้าปากกว้าง แปรงฟันแรง ๆ หรือแสดงสีหน้าเยอะ ๆ ป้องกันไหมเคลื่อนที่หรือไหมขาด
  • งดการทำเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้ความร้อนลงผิวชั้นลึก เป็นเวลา 1 เดือน
  • งดสูบบุหรี่ เพราะสารในบุหรี่จะไปขยายหลอดเลือด ทำให้ยุบบวมช้า และผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง

ปัญหาที่อาจพบจากการร้อยไหม

หากเลือกร้อยไหมกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาหลังการร้อยไหมได้ดังนี้ครับ 

ร้อยไหมแล้วหน้าบุ๋ม  

หลังร้อยไหมแล้วหน้ามีรอยบุ๋ม สาเหตุเกิดจากแพทย์ขาดประสบการณ์ในการร้อยไหม ดึงไหมตึงเกินไป ทำให้ผิวถูกดึงรั้ง เห็นเป็นร่องบุ๋ม ทางที่ดีคนไข้ควรเลือกร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย         

ร้อยไหมแล้วหน้าเป็นคลื่น 

ร้อยไหมแล้วหน้าเป็นคลื่น ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนครับ บางเคสร้อยไหมแล้วหน้าเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน สาเหตุเกิดจากการดึงไหมไม่พอดี หลังร้อยไหมจะเห็นว่าหน้าเป็นคลื่นไม่เสมอกัน ต้องรอประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ไหมเซตตัวเข้าที่

ร้อยไหมแล้วเป็นไต

หากจับและสัมผัสผิวหลังร้อยไหมดู จะพบว่าบางรายอาจมีก้อนเป็นไตบริเวณที่ร้อยไหม เกิดจากการที่ไหมดึงผิวที่หย่อนคล้อยไปกองรวมกันทำให้ผิวเป็นก้อน อาการนี้จะเป็นแค่ช่วงแรกครับ และจะหายไปเองเมื่อไหมเข้าที่ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย 

ร้อยไหมแล้วหน้าเบี้ยว หน้าไม่เท่ากัน

สาเหตุของการร้อยไหมแล้วหน้าเบี้ยวนั้น อาจเกิดจากการบวมยาชา หรือแรงดึงยกของไหมที่ยกหน้าขึ้น ทำให้หน้าดูไม่เท่ากัน แต่ไม่ต้องกังวลครับ เพราะจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองใน 2 ชั่วโมง   

ร้อยไหมแล้วโหนกแก้มใหญ่ 

บางเคสร้อยไหมแล้วรู้สึกว่าโหนกแก้มดูใหญ่ขึ้น เกิดจากการดึงไหมผิดแนวครับ หากร้อยไหมเพื่อดึงร่องแก้มโดยตรงจะทำให้โหนกแก้มมีเนื้อเยอะขึ้น หน้าดูบวมได้ หมอจะแนะนำให้ร้อยไหมตรงบริเวณใกล้มุมปากและกรอบหน้า เพื่อแก้ไขความหย่อนคล้อยครับ


ร้อยไหม Hifu Ulthera Thermage อันไหนดีกว่ากัน แตกต่างกันอย่างไร ?

หากถามว่าการร้อยไหม กับหัตถการอื่น ๆ อันไหนดีกว่ากัน หมอขอตอบว่าขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคนครับ เพราะแต่ละวิธีมีข้อดีต่างกัน สามารถแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • ร้อยไหม หลังทำเห็นผลลัพธ์การยกกระชับทันทีและชัดเจน เหมาะกับผู้ที่แก้มหย่อนมาก ๆ
  • ฟิลเลอร์ เน้นปรับโครงสร้างใบหน้า ช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอย เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยจากการยุบตัวของกระดูก
  • โบท็อก เน้นลดการทำงานของกล้ามเนื้อ เหมาะกับผู้ที่มีสาเหตุความหย่อนคล้อยมาจากกล้ามเนื้อบนใบหน้า มีกล้ามเนื้อกรามเยอะและมีริ้วรอย     
  • Hifu / Ulthera ช่วยยกกระชับ เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ในบางจุดที่การร้อยไหมเข้าไม่ถึง เหมาะกับผู้ที่แก้มหย่อนไม่เยอะ       
  • Thermage ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิวทำให้ผิวแน่นขึ้น และสลายไขมัน เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบนใบหน้าเยอะ      

ร้อยไหม ราคา

การทำร้อยไหม ราคาจะขึ้นอยู่กับชนิด วัสดุ และจำนวนเส้นไหมที่ใช้ ร้อยไหมที่ V Square Clinic ราคาจะเริ่มต้นที่ 8,900.- ครับ


โปรโมชั่นร้อยไหม

โปรโมชั่นร้อยไหม
  • ร้อยไหมก้างปลา PDO
    – 8,900.- / 6 เส้น
    – 13,000.- / 10 เส้น
  • ร้อยไหมก้างปลา PCL
    – 14,000.- / 4 เส้น
    – 18,000.- / 6 เส้น
    – 25,000.- / 10 เส้น
  • Mint Lift
    – 15,000.- / 4 เส้น
    – 25,000.- / 8 เส้น
    – 35,000.- / 12 เส้น
  • Tesslift Soft
    – 20,000.- / 4 เส้น
    – 28,000.- / 6 เส้น
    – 35,000.- / 8 เส้น
  • Tesslift Foxy Eye แก้ตาตก
    – 25,000.- / 2 เส้น
    – 40,000.- / 4 เส้น
  • ร้อยไหมจมูก
    – 9,900.- / 6 เส้น
    – 15,000.- / 10 เส้น

ร้อยไหมที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัยและเห็นผล

การร้อยไหมให้ได้ผลดี คนไข้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักครับ โดยสามารถพิจารณาได้จากปัจจัยต่อไปนี้

  • เลือกร้อยไหมในคลินิกที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุขและเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ห้องทำหัตถการกว้างขวาง สะอาด ปลอดเชื้อ และมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย       
  • เลือกร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ หมอที่ให้บริการควรเป็นแพทย์ที่อยู่ประจำคลินิกและมีประสบการณ์ด้านการร้อยไหม เพราะไม่ใช่หมอคนไหนจะร้อยไหมได้ครับ ต้องอาศัยประสบการณ์และความแม่นยำในการทำสูง หากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็จะช่วยลดโอกาสบวมช้ำและได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • เลือกใช้ไหมแท้และมีคุณภาพ ไหมที่ใช้ต้องได้มาตรฐาน สลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ก่อนทำคนไข้สามารถตรวจสอบกับคลินิกได้ว่าจะใช้ไหมประเภทไหนและเปรียบเทียบราคาของแต่ละคลินิก เพื่อไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากโฆษณาครับ   
คลินิกร้อยไหม

ร้อยไหมที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ร้อยไหมที่ V Square Clinic ใช้ไหมที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก FDA ของประเทศไทยและต่างประเทศว่าปลอดภัย ให้บริการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ก่อนทำหมอจะตรวจประเมินใบหน้าอย่างละเอียดทุกเคส พร้อมทั้งเลือกชนิดและจำนวนไหมให้เหมาะสมกับปัญหาและตรงตามความต้องการของคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าครับ   


รีวิวการร้อยไหม

รีวิวร้อยไหมก้างปลา
รีวิวร้อยไหม PCL
รีวิวร้อยไหมมิ้นท์
รีวิวร้อยไหมยกหางตา Foxy eye
รีวิวร้อยไหมจมูก

Q&A การร้อยไหม

ก่อนร้อยไหมต้องฉีดยาชาไหม ?

ในขั้นตอนการร้อยไหม หมอจะมีการฉีดยาชาเข้าไปที่ชั้นใต้ผิวหนัง ตามแนวที่ต้องการร้อยไหม เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการร้อยไหมครับ

ร้อยไหมพักฟื้นกี่วัน ?

การร้อยไหม ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นครับ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังทำคนไข้อาจจะรู้สึกตึง ๆ และบวมบริเวณผิวเล็กน้อย แต่จะหายได้เองใน 7-14 วัน และใบหน้าเข้าที่ชัดเจนประมาณ 1 เดือน

ร้อยไหมแล้วแต่งหน้าได้ไหม ?

หลังร้อยไหม สามารถแต่งหน้าได้ แต่ต้องงดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน จากนั้นสามารถทาครีมทับบริเวณรอยเข็มได้ และแต่งหน้าได้ตามปกติครับ

ร้อยไหมแล้วฉีดโบได้ไหม ?

ร้อยไหมและโบท็อก สามารถทำร่วมกันได้ครับ สำหรับเคสที่มีปัญหากรามใหญ่ และมีผิวหน้าหย่อนคล้อย การร้อยไหมจะช่วยยกกระชับผิว ส่วนการฉีดโบท็อกจะลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ช่วยให้กรามมีขนาดเล็กลง หากทำร่วมกันก็จะยิ่งทำให้เห็นผลลัพธ์หน้าเรียวสวยชัดเจนมากขึ้น

ร้อยไหมแล้วทำไฮฟู่ได้ไหม ?

สำหรับผู้ที่เคยร้อยไหมมาแล้ว สามารถทำ Hifu ได้ครับ อย่างที่หมอได้บอกไปว่าการร้อยไหมจะช่วยยกกระชับผิว ส่วนการทำ Hifu จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ใบหน้ากระชับและผิวแน่นฟู หากทำร่วมกันก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ดีกว่าเดิมครับ 


สรุป

การร้อยไหม เป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้น ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันทีหลังทำ ก่อนทำคนไข้ควรเข้าปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อประเมินและวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และตรงตามความต้องการของคนไข้ครับ 


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา

ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) ช่วยยกกระชับใบหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัด ดีจริงหรือไม่ ? ก่อนทำควรรู้อะไรบ้าง ?

Categories
ร้อยไหม
ไหมมิ้นท์

ไหมมิ้นท์ 

ไหมมิ้นท์ ยกกระชับหน้า ดีอย่างไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ?

ในคลินิกความงามเริ่มมีการใช้ไหมมิ้นท์กันมากขึ้น เพราะเป็นไหมที่ผ่านการรับรองจากอย. เรื่องการยกกระชับ (Approve Indication Lifting) และเป็นไหมเทคโนโลยีใหม่ที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี ใครที่กำลังมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย อยากร้อยไหมหรือกำลังหาข้อมูลว่าไหมมิ้นท์ (Mint Lift) คืออะไร ? ชนิดของไหมมิ้นท์ เหมาะกับใคร ? ต่างจากไหมก้างปลาอย่างไร ? อยู่ได้นานไหม ? ดีกว่าผ่าตัดดึงหน้าอย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ? 

เพื่อเปรียบเทียบกับไหมชนิดอื่น ๆ สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับไหมมิ้นได้ในบทความนี้ครับ   

สารบัญ ไหมมิ้นท์ 

  1. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) คืออะไร ?
  2. ชนิดของไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
  3. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) ดีอย่างไร ?
  4. ไหมมิ้นท์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
  5. ร้อยไหมมิ้นท์ ดีอย่างไร ? ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างไร ?
  6. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) กับ ไหมก้างปลา แตกต่างกันอย่างไร ?
  7. ร้อยไหมมิ้นท์มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไรบ้าง ?
  8. ร้อยไหมมิ้นท์ เหมาะกับใครบ้าง ?
  9. ร้อยไหมมิ้นท์อยู่ได้นานไหม ?
  10. ร้อยไหมมิ้นท์กี่วันเห็นผล ?
  11. วิธีการร้อยไหมมิ้นท์
  12. ไหมมิ้นท์ ใช้กี่เส้น ?
  13. ร้อยไหมมิ้นท์ รีวิว
  14. การเตรียมตัว และการปฏิบัติตัว ก่อน-หลังการร้อยไหมมิ้นท์
  15. ร้อยไหมมิ้นท์ กับการผ่าตัดดึงหน้า
  16. ร้อยไหมมิ้นท์ ราคาเท่าไหร่ ?
  17. ร้อยไหมมิ้นท์ ที่ไหนดี ?
  18. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) โปรโมชั่น

ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) คืออะไร ? 

ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) ย่อมาจาก Minimal Invasive Non surgical Thread คือ ไหมสำหรับการร้อยไหมยกกระชับผิว เรียกสั้น ๆ ว่า ไหมยกกระชับหน้า, ไหมลิฟติ้ง (Lifting) หรือไหมยึดเซลล์ผิวหน้า ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูง

วัสดุเป็นไหม PDO (Polydioxanone) ที่มีคุณสมบัติละลายได้ พัฒนาโดยบริษัท HansBiomed บริษัทเครื่องมือแพทย์ชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้ นำเข้าโดยบริษัท HansBiomed (Thailand) ผ่านการขึ้นทะเบียนเป็น Thred for Facial Tissue Fixation หรือไหมสำหรับการยกกระชับหน้า และได้รับการรับรองจากอย. ในหลายประเทศครับ เช่น TFDA, FDA, CFDA  

ในด้านความปลอดภัย ไหมมิ้นท์ใช้วัสดุแบบเดียวกับไหมที่ใช้ในการศัลยกรรมเย็บเส้นเลือดหัวใจ จึงมีโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง 

และด้วยลักษณะเส้นไหมที่มีความพิเศษ เป็นแบบ 360-degree helical pattern มีเงี่ยงทรงกรวย 3 มิติ เรียงเป็นเกลียวรอบเส้นไหม ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของไหม MINT ผลิตด้วยเทคนิค Molding Method Barbs จึงทำให้เส้นไหมมีความแข็งแรง ให้แรงยกกระชับมากกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า สามารถกระชับปรับรูปหน้า แก้ปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ทันทีหลังทำ คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน   

ลักษณะไหมมิ้น

ชนิดของไหมมิ้นท์ (Mint Lift)

ไหมมิ้นเป็นไหม PDO วัสดุเดียวกับไหมที่ใช้ในการเย็บเส้นเลือด ที่มีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียว V-Shape สลายได้หมด 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย มีหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวที่แตกต่างกันของคนไข้

  • MINT Lift ® FIX ไหมเส้นยาว 150 mm มีเงี่ยงเป็นเกลียวโดยรอบ เส้นไหมหนาแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน
  • MINT Lift ® FIX-MINI ไหมเส้นยาว 60 mm มีเงี่ยงเป็นเกลียวโดยรอบเหมือนไหม FIX แต่สั้นกว่า ไม่เปราะหักง่าย เหมาะกับการร้อยบริเวณจมูก
  • MINT Lift ® PETIT ไหมเส้นยาว 140 mm ช่วยให้ผิวยกขึ้นได้ดี เหมาะกับการร้อยในบริเวณที่ร้อยได้ยาก เช่น ร่องแก้มและหน้าผาก
  • MINT Lift ® UP  ไหมเส้นยาว 90 mm และเป็นเข็ม L-cannula ร้อยง่าย เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางและร้อยบริเวณจมูกเพื่อเพิ่มความคมของสันจมูก
  • MINT Lift ® TIP ไหมเส้นยาว 40 mm และเป็นเข็ม L-cannula ร้อยง่าย เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางและร้อยบริเวณปลายจมูก ดีดปลายจมูก
  • MINT Lift ® EASY ไหมเส้นยาว 42.4 mm เป็นไหมที่มีการประสานเข็มร้อยไว้ปลายเส้นไหม ช่วยให้ร้อยได้ง่าย หลบหลีกเส้นเลือดได้ดี ลดอาการบวมช้ำได้มาก เหมาะกับผู้ที่มีอายุเยอะ มีความหย่อนคล้อยของแก้มและเหนียงมาก จะช่วยยกกระชับได้ดี
  • MINT Lift ® FINE ไหมเส้นยาว 15 cm และเป็นเข็มแบบ W-type cannula ป้องกันการร้อยโดนเส้นเลือดและเส้นประสาท เส้นไหมบาง ร้อยง่าย ไม่เจ็บ เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางและแก้ไขจุดที่มีปัญหาไม่มาก ใช้เก็บรายละเอียด
  • MINT Lift ® ไหมเส้นยาว 43 cm เส้นหนา ช่วยยกกระชับได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมาก
  • MINT Lift ® MINI ไหมเส้นยาว 17 cm ไหมเส้นสั้น ใช้ร้อยเพื่อยกกระชับแก้มโดยไม่ต้องยึดไหมที่ขมับ เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยไม่มาก ต้องการเก็บกรอบหน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • MINT Lift ® SIMPLE ไหมเส้นยาว 13 cm ร้อยง่าย ปรับแนวการร้อยได้ง่าย เหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง
ไหมมิ้นมีกี่รุ่น

ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) ดีอย่างไร ? 

  • เป็นไหมละลายวัสดุ PDO ที่มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยและต่างประเทศ
  • ยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง เพราะไหมมิ้นท์ออกแบบพิเศษให้เป็น 3 มิติ มีเงี่ยงไหม 360 องศา  
  • เงี่ยงไหมมีขนาดใหญ่ กางชัดเจน ทำให้สามารถยึดเซลล์ผิวและมีแรงยกกระชับได้ดี เทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า
  • ไหมมิ้นท์มีขนาดเส้นที่เล็ก ทำให้ไม่เห็นรอยไหมหลังร้อย 
  • ช่วยยกกระชับผิวหย่อนคล้อย ปรับรูปหน้า เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนทันที 
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินได้ดี ทำให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับขึ้น
  • มีความแข็งแรง เพราะในกระบวนการผลิตหรือหล่อเส้นไหม จะหล่อพร้อมเงี่ยงเลย ไม่ได้นำมาเงี่ยงกับเส้นไหมมาเชื่อมกันภายหลัง 
  • ไม่ขาดหรือเปราะหักง่าย ทนต่อแรงดึงมากกว่าไหมอื่น ๆ ถึง 4 เท่า
  • สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง โอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย 
  • การร้อยไหมไม่ใช่การผ่าตัดศัลยกรรม หลังร้อยไหมไม่ต้องพักฟื้น บวมช้ำน้อย สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ 

ไหมมิ้นท์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? 

  • ลดความหย่อนคล้อย การร้อยไหมมิ้นช่วยทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อย ยกกระชับขึ้น ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น ริ้วรอยแลดูจางลง
  • ปรับรูปหน้าเรียว V shape การร้อยไหมมิ้นช่วยปรับรูปหน้าเรียว V shape ยกแก้มหย่อน หน้าตึงกระชับได้รูป โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ประคองผิว ไหมมิ้นจะทำหน้าที่คล้ายเส้นเอ็นบนใบหน้า ช่วยประคองผิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย ยกกระชับขึ้น ดูเต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาเลี้ยงชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหน้ากระชับ เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์

ร้อยไหมมิ้นท์ ดีอย่างไร ? ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างไร ? 

การร้อยไหมมิ้นท์ เป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับใบหน้า ยกกระชับผิวให้กลับมาเต่งตึง เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หมอจะร้อยไหมเข้าไปในชั้นผิวหนัง ผิวจะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยเข้าไป คล้ายตะขอเกี่ยว จึงสามารถยกแก้มที่หย่อนคล้อยขึ้นมาได้ สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ดูคลิปด้านล่างประกอบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ  

ร้อยไหมช่วยยกกกระชับหน้าได้อย่างไร ?

ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) กับ ไหมก้างปลา แตกต่างกันอย่างไร ? 

แม้ว่าไหมมิ้นท์ กับ ไหมก้างปลา จะเป็นไหมละลาย PDO เป็นไหมเงี่ยง (Bidirectional Barbed Thread) เหมือนกัน แต่กระบวนการผลิตและลักษณะเส้นไหมมีความแตกต่างกันครับ  

  • เส้นไหมมีความพิเศษ คือ มีเงี่ยง 360 องศา เพื่อเพิ่มแรงยกรอบทิศทาง จึงให้ผลลัพธ์ดีในคนไข้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับปานกลาง-มาก โดยไหมมิ้นมีความแข็งแรง สามารถจะยึดเกาะเซลล์ผิว ช่วยยกกระชับผิวได้ดีเทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า
  • ในกระบวนการผลิตไหมมิ้น จะใช้วิธีการขึ้นรูปแบบ Press Molding (กด) เป็นการหล่อเส้นไหมพร้อมเงี่ยง ความหนาของเงี่ยงจะเท่ากับเส้นไหมตรงกลาง ไม่ได้ใช้วิธี Cutting (ตัด) หรือเฉือนเอาเนื้อส่วนหนึ่งของเส้นไหมแกนกลางออกมาเป็นเงี่ยง เมื่อเปรียบเทียบความแข็งแรงของเส้นไหม ไหมมิ้นจึงมีความแข็งแรงมากกว่าไหมเงี่ยงอื่น ๆ

ขณะที่ไหมก้างปลา เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงเหมือนกัน โดยลักษณะเงี่ยงจะเป็นเส้นตรง แรงดึงของไหมก้างปลาเป็น 1-2 ทิศทาง แม้ว่าจะไม่ได้มีเงี่ยง 360 องศา แต่ก็เป็นที่นิยมครับ เพราะมีข้อดีที่ความยืดหยุ่นและไม่เปราะหักง่าย สามารถทำได้ทั้งการร้อยไหมปรับรูปหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมกระชับหน้า ร้อยไหมจมูก

ที่ V Square Clinic เลือกใช้เส้นไหมที่มีคุณภาพ เป็นไหมละลายผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ดีในการยกกระชับหน้า เพื่อให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวคนไข้ครับ

ไหมละลายแต่ละประเภท
  • ไหมก้างปลา PCL (Polycaprolactone) มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย มีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสม เส้นใหญ่ที่สุด และเป็นไหมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
  • ไหมก้างปลา PLLA (Polylactate) มีความแข็ง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี แต่ข้อเสียคือเปราะหัก ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยม
  • ไหมก้างปลา PDO (Polydioxanone) ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง
  • ไหมมิ้น Mint Lift มีเงี่ยงไหม 360 องศา 3 มิติ ยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง เงี่ยงไหมกางชัดเจน เส้นไหมแข็งแรง เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
  • ไหม Tesslift Soft ไหมโครงตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไป 80 เท่า มีความแข็งแรง ยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลเร็วและอยู่ได้นาน ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
  • ไหม Tesslift Foxy Eye แก้หนังตาตก มีโครงตาข่ายล้อมรอบเส้นไหม ทำให้เส้นไหมมีความแข็งแรง

*ระยะเวลาที่ไหมสามารถดึงผิวไว้ได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพผิวของแต่ละบุคคล

เจาะลึก ร้อยไหมก้างปลา : ดีอย่างไร ? อยู่ได้นานไหม ? เหมาะกับใครบ้าง ?


ร้อยไหมมิ้นท์ มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไรบ้าง ?

ข้อดีร้อยไหมมิ้นท์มีหลายข้อครับ ตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น หมอขอหยิบยกข้อดีที่เด่นชัดของไหมมิ้น การผลิตและประสิทธิภาพของเส้นไหมในการยกกระชับ มาอธิบายเพิ่มเติมในหัวข้อนี้ครับ   

ร้อยไหมมิ้นท์ ข้อดี

ไหมมิ้นท์ผ่านอย.
Cr : HansBiomed-TH
  • ไหมมิ้นท์ ผ่านการรับรองจากอย. ขึ้นทะเบียนเป็นไหม PDO สำหรับยกกระชับผิวหน้าเป็นรายแรกของประเทศไทย และได้รับการรับรองจากสถาบันอีกหลายประเทศ เช่น จีน สหรัฐอเมริกา เกาหลี ยุโรป  
ไหมมิ้นท์ผ่านอย.
Cr : HansBiomed-TH 
  • การผลิตไหมมิ้นใช้ Molding ขึ้นรูปใหม่ทั้งเส้น แทนการใช้เทคนิคแบบ Cutting ทำให้แกนไหมมีความแข็งแรง ให้แรงยกมากกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ MINT Lift (มีการจดสิทธิบัตร ห้ามลอกเลียนแบบ) 
การผลิตไหมมิ้น
 Cr : HansBiomed-TH
  •  ประสิทธิภาพของเส้นไหม เงี่ยงไหมสามารถหมุนได้ 360 องศา และเป็นเส้นไหมแบบ 3 มิติ สามารถยึดเกาะผิวหนังและดึงเนื้อเยื่อได้รอบทิศทาง มีความทนทาน เส้นไหมแข็งแรง จึงมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะเทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า

ร้อยไหมมิ้นท์ ข้อเสีย 

หากร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือร้อยตื้นเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดรอยบุ๋มหรือรอยนูนเป็นคลื่นตามแนวที่ร้อยไหมได้ หรือใบหน้าไม่เท่ากันได้

ดังนั้น ควรร้อยไหมมิ้นกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ผ่านการเทรนนิ่งการใช้ไหมมิ้น รู้เทคนิคการร้อยไหมมิ้น เข้าใจโครงสร้างใบหน้า สามารถเลือกปริมาณไหม ร้อยไหมมิ้นต้องใช้ไหมกี่เส้น และวางตำแหน่งร้อยไหมได้อย่างถูกต้องครับ


ร้อยไหมมิ้นท์ เหมาะกับใครบ้าง ? 

  • ผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย มักเกิดกับผู้ที่เริ่มมีอายุมากขึ้น 35 ปีขึ้นไป (Older Skin) เนื่องจากจำนวนอีลาสตินในชั้นผิวเสื่อมสภาพลง 
  • ผู้ที่ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ไม่มีมิติ ต้องการปรับรูปหน้าเรียว V-Shape กรอบหน้าชัดมากขึ้น
  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า กลัวเจ็บ และไม่มีเวลาพักฟื้น

บทความแนะนำ

  • ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก ตาตก มุมปากตก การร้อยไหมมิ้น ช่วยยกกระชับผิว ในบริเวณจุดต่าง ๆ เหล่านี้ได้ครับ หรือจะร้อยไหม Tesslift Foxy Eye ก็สามารถแก้ตาตกได้
  • ผู้ที่ยังมีอายุไม่เยอะ (Younger Skin) แต่หน้ามีความหย่อนคล้อย ก็สามารถร้อยไหมมิ้นได้เช่นกัน

ในกรณีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก ๆ และมีการยุบของผิวตามวัย การร้อยไหมเพียงอย่างเดียวอาจไม่ช่วยลดความหย่อนคล้อยได้ทั้งหมด สามารถร้อยไหมร่วมกับทำหัตถการอื่น ๆ ได้ เช่น ใช้โบท็อก ฟิลเลอร์ หรือ Hifu Ultraformaer III ร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ


ร้อยไหมมิ้นท์อยู่ได้นานไหม ? 

ร้อยไหมมิ้นท์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน เนื่องจากเส้นไหมมิ้นท์มีการผลิตที่หลอมส่วนที่เป็นเงี่ยงรวมกับส่วนที่เป็นเส้นไหม ไม่มีการตัด บาก หรือเฉือนเส้นไหม ทำให้คงความแข็งแรงของเส้นไหมไว้ ช่วยยกพยุงผิวได้นานขึ้นครับ ทั้งนี้ ระยะเวลาการที่ไหมดึงผิวไว้ได้ จะขึ้นอยู่กับคุณภาพผิวของแต่ละบุคคล และการดูแลหลังร้อยไหม ซึ่งส่งผลต่อระยะเวลาอยู่ได้นานของเส้นไหมครับ 


ร้อยไหมมิ้นท์กี่วันเห็นผล ? 

หลังร้อยไหมมิ้นท์ หน้ายกกระชับขึ้น เห็นผลทันทีครับ แต่อาจมีอาการบวมหลังทำ ซึ่งเกิดจากการฉีดยาชา และเลือดออกที่ใต้ผิวหนังจากการร้อยไหม เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ สามารถหายได้เอง เมื่อผ่านไป 3-4 วัน  จะเริ่มบวมน้อยลง ใบหน้าเริ่มเข้าที่ใน 7-14 วัน เห็นผลชัดเจน ใบหน้าได้รูปสวยงามใน 30 วัน  


วิธีการร้อยไหมมิ้นท์

วิธีการร้อยไหม หมอจะใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง (ไหมก้างปลา) สอดลงในชั้นผิวหนัง ผิวจะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามแนวเส้นไหม คล้าย ๆ ตะขอดึง หากร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะเกิดเป็นเส้นใยอิลาสตินช่วยประคองผิว สามารถดึงผิวที่หย่อนขึ้นได้ ช่วยปรับรูปหน้าให้กระชับและสมส่วนมากขึ้น

นอกจากจะให้ผลลัพธ์ดี เป็นไหมลิฟติ้งยกกระชับใบหน้าแล้ว และเวลาที่ผูกไหมเข้าด้วยกัน ไหมจะไม่ขาดง่ายหรือเปราะง่ายเหมือนไหมทั่วไป เนื่องจากไหมมีความแข็งแรง ทนต่อแรงดึงมากกว่าไหมอื่น ๆ ถึง 4 เท่า


ไหมมิ้นท์ ใช้กี่เส้น ? 

โดยปกติการร้อยไหมมิ้นท์จะใช้ข้างละ 3-10 เส้น ต้องให้หมอประเมินก่อนครับตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับขนาดเนื้อแก้มของคนไข้ ความแน่นของผิวและจุดที่คนไข้ต้องการดึงให้ยกกระชับ  

หมอประเมินก่อนร้อยไหมมิ้น โดยหมอเอก

ร้อยไหมมิ้นท์ รีวิว

ร้อยไหมมิ้นท์ รีวิว

เคสนี้ มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณช่วงแก้ม หมอได้ทำการร้อยไหมมิ้นท์เพื่อพยุงโครงสร้างผิวที่ทรุดตัวให้ยกกระชับขึ้น ใบหน้าสดใสขึ้น หน้าดูเด็กลง ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ 

ร้อยไหมมิ้นท์ รีวิว

เคสนี้ มีความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มจากอายุที่มากขึ้น ผิวแก้มตกทำให้เกิดร่องแก้มและร่องมุมปาก หลังร้อยไหมมิ้นท์ยกกระชับแก้มที่หย่อน จะเห็นว่ากรอบหน้าชัดขึ้น ร่องแก้มและร่องมุมปากดูตื้นขึ้นด้วยครับ

ร้อยไหมมิ้นท์ รีวิว

เคสนี้มีความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มเล็กน้อย การร้อยไหมมิ้นท์จะช่วยให้แก้มยกกระชับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวแน่นขึ้นจากคอลลาเจนที่สร้างขึ้นมาใหม่ กรอบหน้าชัดขึ้น ร่องแก้ม ร่องมุมปากลดลงได้ครับ


การเตรียมตัว และการปฏิบัติตัว ก่อน-หลังการร้อยไหมมิ้นท์

ก่อนร้อยไหมมิ้นท์ 

  • งดยา อาหารเสริม และวิตามินที่มีผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือด หรือการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน หรืออาหารเสริมที่มีวิตามิน E 1 สัปดาห์ก่อนร้อยไหม
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม 

นอกจากนี้ ยังมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหม ดังนี้ 

  • ต้องไม่มีประวัติการเกิดแผลคีลอยด์ 
  • ไม่แพ้ยาชา 
  • ไม่เป็นโรคที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดรุนแรง หรือโรคที่ส่งผลต่อการรักษาแผล 
  • หากมีโรคประจำตัว หรือตั้งครรภ์ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ

หลังร้อยไหมมิ้นท์ 

  • หากมีรอยบวมหรือช้ำเกิดขึ้นหลังร้อยไหมมิ้น ให้ประคบด้วยน้ำแข็งเป็นระยะ
  • 4 ชม. หลังร้อยไหม หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง หรือนอนคว่ำหน้าลง
  • 5 วัน หลังร้อยไหม ห้ามถู เช็ด กดใบหน้าแรง ๆ
  • แต่งหน้าด้วยความระวัง เบามือ และควรล้างเครื่องสำอางทุกครั้ง
  • งดการออกกำลังกายที่ใช้กำลังมาก ๆ เช่น วิ่ง กระโดด ยกน้ำหนัก
  • งดการอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การซาวน่า การนอนอาบแดด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์

ร้อยไหมมิ้นท์ กับการผ่าตัดดึงหน้า 

สำหรับคนไข้ที่ผิวหน้าหย่อนคล้อยมาก ๆ กลัวการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น การร้อยไหมเป็นวิธีที่หมอแนะนำครับ โดยไหมมิ้นท์สามารถจะดึงผิวของเราตั้งแต่ชั้น SMAS ขึ้นมา ทำให้หน้ายกกระชับเทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า


ร้อยไหมมิ้นท์ ราคาเท่าไหร่ ? 

ถ้าเทียบกับไหมก้างปลา PDO และ PCL ราคาไหมมิ้นจะแพงกว่าเล็กน้อยครับ เนื่องจากเป็นไหมตัวใหม่ ตัวไหมมีเงี่ยง 360 องศา ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยมาก ๆ ได้ผลลัพธ์ที่ดีครับ ที่ V Square Clinic ราคาเริ่มต้น 4 เส้น อยู่ที่ 15,000 บาท


ร้อยไหมมิ้นท์ ที่ไหนดี ? 

ร้อยไหมมิ้นที่ V Square Clinic แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความชำนาญสูงครับ ควรร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ สามารถเลือกใช้เส้นไหมที่เหมาะสม ร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อลดโอกาสบวมช้ำ ได้ผลชัดเจนและดูเป็นธรรมชาติครับ

ที่ V Square Clinic มีเส้นไหมคุณภาพให้เลือกหลายประเภท นอกจากไหมมิ้นยังมีไหมชนิดอื่น ๆ เช่น ไหมก้างปลา PDO ไหมก้างปลา PCL ไหม Tesslif Soft ผ่านการรับรองจากอย.ทั้งในไทยและต่างประเทศ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย


ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) โปรโมชั่น

ร้อยไหมราคา

สรุป

ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) เป็น Thread for Facial Tissue Fixation หรือไหมสำหรับการยกกระชับหน้า ที่ผ่านอย. ด้วยข้อดีของไหมมิ้นทั้งวัสดุที่ใช้ กระบวนการผลิต ทำให้ได้ลักษณะเส้นไหมที่มีความพิเศษ เป็นไหมเงี่ยง 360 องศา มีความแข็งแรง ให้แรงยกกระชับมากกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า เหมาะกับคนที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า หลังร้อยไหมคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน 

สำหรับใครที่อยากร้อยไหมมื้นท์ สามารถให้แพทย์จะประเมินปัญหาและสภาพผิวก่อนได้ครับ เพื่อพิจารณาว่าจะต้องใช้ไหมกี่เส้นในการแก้ปัญหา ให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ผิวยกกระชับ เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติที่สุดครับ 

ปรึกษาหมอออนไลน์

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา