ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ? เกิดจากอะไร ? อันตรายไหม ? มีวิธีลดอาการบวมอย่างไร ?

Categories
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ? เป็นคำถามที่คนไข้ถามหมอเข้ามาเยอะมากครับ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเกิดอาการบวม เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ โดยเกิดได้จากสาเหตุอะไรบ้าง ? อันตรายไหม ? มีวิธีการแก้ไขอย่างไร ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่ให้บวม ทำอย่างไร ? มีวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร ให้ยุบบวมเร็ว เข้าที่ไว หมอได้ตอบทุกคำถามไว้ในบทความนี้แล้วครับ

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน

  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ?
  2. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่บวมได้ไหม ?
  3. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ?
  4. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม อันตรายไหม ?
  5. วิธีแก้ปัญหา หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม
  6. ควรดูแลตัวเองอย่างไร ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่บวม
  7. วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ให้ยุบบวมเร็ว เข้าที่ไว

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คุณ ฟ้าก็อตซิลล๊า

หลังฉีด Filler ใต้ตา อาจมีอาการบวม เขียวช้ำ ได้ประมาณ 3-7 วัน โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นและสามารถหายไปได้เอง ในระหว่างนี้สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงการแกะ เกา กดนวดบริเวณดวงตา โดยจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังทำ เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้วและอาการบวมหาย 100%

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิว filler ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่บวมได้ไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่เกิดอาการบวมเลย เป็นไปได้ไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะทำการใช้เข็มแทงไปที่ชั้นผิว ส่งผลให้เนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บ สารน้ำและเลือดจะไหลออกมารวมกันอยู่ในเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ๆ จนเกิดเป็นอาการบวมช้ำ ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย และยิ่งผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบาง หลังทำจึงมีโอกาสที่จะเกิดอาการบวมเข็ม เกิดรอยช้ำได้ง่ายครับ 

แต่เราสามารถเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และดูแลตัวเองก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบวมช้ำมากครับ


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ?

  • อาการบวม รอยเขียวช้ำ เกิดจากการบวมยาชา หรืออาการบวมเข็ม ไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เอง
  • อาการบวมเป็นก้อน เกิดจากแพทย์ที่ฉีดขาดประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดผิดชั้นผิว หรือเลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับปัญหา ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนบวม เห็นได้ชัดเวลายิ้ม ดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • อาการบวมที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ โดยจะมีอาการบวมขึ้นเรื่อย ๆ ผิวบริเวณที่ฉีดมีสีแดงคล้ำ มีสาเหตุมาจากการฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋าหรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ขั้นตอนระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ไม่มีความสะอาด ทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรค

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม อันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม เป็นผลข้างเคียงที่ไม่เป็นอันตรายครับ เกิดขึ้นได้เป็นปกติ แต่ควรมีการสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง หากอาการบวมไม่ดีขึ้น รู้สึกปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น ผิวเริ่มกลายเป็นสีแดงคล้ำ หรือมีรอยช้ำเป็นบริเวณกว้าง เมื่อใช้หลังมือแตะผิวแล้วรู้สึกร้อน ถือว่าเป็นผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน


วิธีแก้ปัญหา หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม 

วิธีแก้ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวมให้ดูตามลักษณะอาการบวมครับ ในกรณีที่เกิดอาการบวมจากยาชาหรือเข็ม สามารถรอให้อาการบวมหายไปได้เอง โดยแนะนำให้ปฏิบัติตามวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้อาการบวมยุบได้เร็วขึ้น

แต่ถ้าหลังจาก 2 สัปดาห์ไปแล้ว อาการบวมยังไม่หายไป ยังเห็นเป็นก้อนบวมใต้ตา หรือพบลักษณะของอาการฟิลเลอร์อักเสบ รู้สึกปวดร้อนบริเวณที่ฉีด ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาด้วย Hyaluronidase ซึ่งช่วยสลายฟิลเลอร์ได้ 100% ทั้งนี้จะสามารถทำได้ในเคสที่ฉีดฟิลเลอร์ของแท้ที่เป็นสาร Hyaluronic acid

ในกรณีที่มีอาการฟิลเลอร์อักเสบ หรือเป็นก้อนบวมไม่สลายได้เองจากการใช้ฟิลเลอร์ของปลอม ต้องทำการขูดฟิลเลอร์ออกหรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออกเท่านั้นครับ


ควรดูแลตัวเองอย่างไร ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่บวม 

ข้อควรรู้การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ เตรียมตัวอย่างไรให้ปลอดภัย

เราสามารถเตรียมตัวและดูแลตัวเองก่อนฉีด Filler ใต้ตาตามข้อควรปฏิบัติต่อไปนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบวมมากหลังฉีด และลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์

  • เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์ของแท้
  • เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • งดการรับประทานยาแก้ปวด แอสไพริน NSAIDs และวิตามินต่าง ๆ เช่น St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E เพราะทำให้เลือดไหลหยุดได้ยาก และยังส่งผลต่ออาการบวมหลังฉีดให้หายช้าขึ้น
  • งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์และงดการสูบบุหรี่ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ให้ยุบบวมเร็ว เข้าที่ไว

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดูแลตัวเองอย่างไร? กี่วันเห็นผล?

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยลดอาการบวมให้ยุบเร็วขึ้น ฟิลเลอร์เซ็ตตัวเข้าที่ไว เห็นผลลัพธ์ได้นาน

  • รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้ครบ เพื่อลดอาการบวมและป้องกันการอักเสบติดเชื้อ
  • ไม่ควรขัดหน้าหรือนวดหน้า และเลี่ยงการแกะ เกา นวดถูบริเวณใต้ตาแรง ๆ
  • งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน โดยรอยเข็มสามารถโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที
  • ในช่วงแรกควรนอนหนุนหมอนให้หัวสูงกว่าระดับอก เพื่อช่วยลดการรั่วไหลของสารน้ำออกจากเส้นเลือด
  • ดื่มน้ำ 1.5-2 ลิตรต่อวัน จะช่วยลดอาการบวม ฟิลเลอร์ฟูเข้าที่เร็ว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
  • รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยลดอาการบวมช้ำ เช่น ฟักทอง น้ำใบบัวบก น้ำมะพร้าว
  • สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดบวมได้ แต่ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์
  • งดการสูบบุหรี่ เพราะมีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ทำให้อาการบวมยุบได้ช้าลง ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร
  • ควรอยู่ในที่ ๆ มีอากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด รวมถึงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.
  • งดเครื่องดื่มและอาหารที่มีผลต่ออาการบวม ทำให้หายบวมช้า
    • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
    • อาหารดิบ อาหารหมักดอง 
    • อาหารรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด
    • อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ เช่น ชาบู หมูกระทะ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

สรุป

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน จริง ๆ แล้วเกิดอาการบวมได้เป็นปกติครับ สามารถหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ ระหว่างนี้แนะนำให้ปฏิบัติตามวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อช่วยลดอาการบวม ฟิลเลอร์เข้าที่ได้ไว และผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น 

แต่ถ้าหากอาการบวมไม่ดีขึ้น ร่วมกับมีอาการปวดบวมแดงขึ้นเรื่อย ๆ นานกว่า 2 สัปดาห์ อาจเป็นอาการบวมที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ แนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน