การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat)
การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ? ดีอย่างไร ? สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกิน ลดแก้ม ลดเหนียงได้จริงไหม ? เมโสแฟตทำจุดไหนช่วยอะไรบ้าง ? หากต้องการลดไขมันส่วนเกินตำแหน่ง อื่น ๆ ต้องใช้ปริมาณตัวยามากน้อยต่างกันหรือไม่ ? ในการฉีด 1 ครั้งใช้กี่ CC ?
ทุกข้อสงสัยเหล่านี้ หมอรวมมาตอบไว้ในบทความ พร้อมสาระสำคัญอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องรู้ อาทิ เมโสแฟตที่ปลอดภัยมีกี่ยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร ? หลังทำกี่วันเห็นผล ? มีผลข้างเคียงหรือไม่ ? หลังฉีดแล้วบวมกี่วัน ? เป็นต้น
คลิกอ่านหัวข้อ การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat)
การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ?
เมโสแฟต (Meso Fat) คือ การฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันส่วนเกินให้ลดน้อยลง(Lipolysis) หลังทำจะช่วยให้ผิวบริเวณนั้น ๆ กระชับขึ้น ไขมันสลายโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เร็วครับ
เมโสแฟต ( Meso Fat ) มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
การทำงานของ Meso Fat หลังฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันเข้าไปในผิวชั้นไขมัน จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว หรือกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยในการดึงไขมันออกจากเซลล์ จากนั้นไขมันจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย
ทำให้มีเซลล์ไขมันลดลงหรือมีขนาดเล็กลง
หลังฉีด Fat ไประยะหนึ่ง จะเห็นได้ว่าบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตจะค่อย ๆ ยุบลง ชั้นไขมันดูลดลง สัดส่วนเล็กลงได้ครับ
เมโสแฟต ( Meso Fat ) ประกอบด้วยตัวยาอะไรบ้าง ?
ในปัจจุบัน ตัวยา Meso Fat ที่นำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามชั้นนำ มีหลากหลายยี่ห้อหลากหลายแบรนด์ครับ โดยแต่ละยี่ห้ออาจมีส่วนประกอบที่แตกต่างกัน
แต่จะมีตัวยาหลัก ๆ ที่ออกฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการสลายไขมันในเซลล์หรือทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวได้อยู่ ส่งผลให้หลังฉีดบริเวณที่ฉีด Meso Fat ลดไขมันจะดูยุบลง หรือเล็กลง จากชั้นไขมันที่หายไปนั่นเองครับ
รู้จักสารออกฤทธิ์หลักในตัวยาเมโสแฟต
- Artichoke extract (Cynara Scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ Coenzyme ในกระบวนการ Anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ฉีดลดแก้ม หรือต้องการลดเซลลูไลท์
- Mesostabyl (Polyunsaturated Phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Lipase, ลดการสร้าง Triglyceride ยับยั้งการสร้าง Cholesterol ในเนื้อเยื่อ
- L-Carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (Fat Burn)
L-carnitine เป็นสารที่ช่วยลดเซลล์ไขมันได้
หลังจากฉีด Fat เข้าสู่ชั้นผิวในบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น แก้ม ใต้คาง เหนียง ต้นขา ต้นแขน สะโพก และหน้าท้อง ตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวหรือดึงไขมันออกจากเซลล์ และช่วยกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยให้ร่างกายนำไขมันไปใช้ได้มากขึ้น ลดการสร้างและลดการสะสมไขมันใหม่ จากนั้นไขมันจะถูกขับออกตามทางการหายใจและการขับถ่ายครับ
การฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- การฉีดแฟตลดไขมันบริเวณแก้ม ลดเหนียง ลดไขมันสะสมที่แก้มและคาง ช่วยปรับรูปหน้าเรียว
- เมโสแฟตช่วยลดไขมันสะสมตามร่างกาย ลดต้นแขน ลดต้นขา ลดหน้าท้อง ลดสะโพก ลดหน้าท้อง
- เมโสแฟตช่วยยกกระชับจุดที่ลดไขมันให้ดูยกกระชับขึ้นด้วยได้
ฉีด Meso Fat เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร ?
ฉีด Meso Fat ลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดมีทั้งข้อดีที่เหมาะกับปัญหาในแต่ละบุคคล และมีข้อเสียที่อาจไม่เหมาะกับบางปัญหาเช่นกัน
การฉีด Meso Fat เหมาะกับ
- ผู้ที่ต้องการสลายไขมันส่วนเกินในจุดที่ลดยาก เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา รวมถึงบริเวณหน้าท้อง
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันกระชับสัดส่วนที่ไม่ต้องการผ่าตัดดูดไขมัน หรือไม่มีเวลาพักฟื้น
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด แต่มีงบจำกัด (การฉีดเมโสแฟตใช้งบประมาณน้อยเมื่อเทียบกับวิธีสลายไขมันอื่น ๆ)
- ผู้มีเวลาเข้ามาทำหัตถการเมโสแฟตบ่อยครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง
การฉีด Meso Fat ไม่เหมาะกับ
- ผู้ที่มีไขมันสะสมมาก ๆ หากเลือกหัตถการนี้อาจต้องฉีดประมาณ 4-5 ครั้ง
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลทันที เนื่องจากการฉีดเมโสแฟตต้องใช้เวลาให้ตัวยาเมโสแฟตทำงาน และเห็นผลเต็มที่เฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 สัปดาห์
- ผู้ที่มีโรคประจำบางกลุ่ม เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องได้รับอินซูลินอยู่เป็นประจำ, ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง, ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ควรให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีเมโสแฟตหรือไม่ครับ
ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
การฉีดเมโสแฟต ฉีดได้หลายตำแหน่งตามที่มีไขมันสะสม ได้แก่
- แก้ม
- เหนียง ชั้นไขมันใต้คาง
- หน้าท้อง สะโพก
- ต้นแขน ท้องแขน รักแร้ ปีกหลัง
- ต้นขาด้านนอก ต้นขาด้านใน
โดยแต่ละตำแหน่งอาจใช้ปริมาณตัวยา และจำนวนครั้งในการฉีดที่แตกต่างกัน
ฉีดแฟตแก้ม
แก้มเป็นจุดที่นิยมฉีดเมโสแฟตกันมากที่สุดครับ เพราะช่วยให้หน้าดูเรียวขึ้น ลดหน้ากลม ลดหน้าอ้วน เหมาะกับคนที่มีแก้มเยอะ สังเกตจากเมื่อเรากัดฟันแล้วคลำบริเวณแก้มดู จะจับได้เป็นเนื้อนิ่ม ๆ ครับ
การฉีดแฟตแก้ม สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เล็กลงได้ โดยสามารถลดไขมัน ในตำแหน่ง 1 และ 3 ได้ หลังฉีดแฟตแก้มลดแก้ม สามารถหวังผลได้ประมาณ 60-70% ครับ
ฉีดแฟตเหนียง
เหนียง หรือ ไขมันสะสมบริเวณใต้คาง เกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ เมื่อมีแล้วจะส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูใหญ่ ไม่เข้ารูป หากต้องการกำจัด หรือแก้ไขสัดส่วนการฉีดเมโสแฟตเหนียงช่วยได้
การฉีดแฟตเหนียง สามารถช่วยลดไขมันสะสมใต้คางได้ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เป็นวิธีที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก
ในเคสที่อายุเยอะ มีเหนียงใต้คอ ผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อย หากต้องการให้ผลลัพธ์หลังทำได้งต้องใช้การลดไขมันและการยกกระชับใต้ชั้นผิวหนังใต้คางร่วมด้วย หมอแนะนำให้ใช้การยกกระชับด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า การทำ Hifu ultraformer III, Ulthera หรือ Thermage ครับ
ในส่วนลดเหนียงโดยการดูดไขมัน จะบวมช้ำค่อนข้างมาก เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ และหากมีเลือดออกมากจะเสี่ยงต่อการกดทับหลอดลมได้ หากต้องการทำ แนะนำให้ควรทำใน รพ. เท่านั้นครับ
เหนียง เกิดจากการมีไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนังเป็นจำนวนมาก จนทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย และเกิดได้ในคนที่มีผิวหนังไม่ยืดหยุ่น ไม่เต่งตึง ขาดความกระชับ ไขมันจึงดันผิวหนังบริเวณใต้คางลงตามแรงโน้มถ่วง รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต อย่างการนอนเล่นโทรศัพท์มือถือทำให้ต้องกดหน้าลงเป็นประจำจนเกิดเป็นรอยพับใต้คาง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียงโดยไม่รู้ตัว
ฉีดแฟตแขน แฟตต้นขา
ฉีดแฟตลดต้นแขน ต้นขา ช่วยให้ต้นแขน ต้นขา เล็กและดูกระชับได้มากขึ้น ช่วยให้ หลาย ๆ คนเกิดความมั่นใจได้มากขึ้น เนื่องจากเมโสแฟตสามารถช่วยลดไขมันตรงจุดนี้ได้ครับ แต่ต้องตรวจประเมินโดยแพทย์ก่อนว่าเกิดจากไขมันหรือกล้ามเนื้อ และมีปริมาณมากน้อยเพียงใด
รีวิวฉีดแฟตแขน
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล
ในเคสที่มีไขมันสะสมมาก การฉีดเมโสแฟตต้นแขน ต้นแขน จะต้องใช้ยาปริมาณมาก ต้องทำหลายครั้ง และไม่เห็นผลถาวร ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่าการลดไขมันด้วยวิธีอื่น หมอแนะนำให้ใช้การลดไขมันด้วยการดูดไขมัน สลายไขมันด้วยความเย็น หรือการลดน้ำหนัก จะเห็นผลชัดเจนกว่าครับ
ส่วนในคนไข้ที่มีแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ แนะนำให้ฉีดโบท็อกต้นแขนเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ และยังช่วยให้ขนาดตัวดูเหมือนเล็กลงได้ด้วย เพราะโบท็อกจะช่วยลดความกว้างของบ่าลงครับ
ฉีดแฟตหน้าท้อง สะโพก
การฉีดแฟตหน้าท้อง เป็นวิธีที่ช่วยแลดไขมันบริเวณหน้าท้อง ลดพุงใหญ่ พุงย้อย สะโพกใหญ่ ลดยาก ได้ครับ แต่ต้องใช้ตัวยาค่อนข้างเยอะ และต้องฉีดหลายครั้ง ราคาในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 5,000.- / เมโสแฟต 40 cc ครอบคลุมพื้นที่ 1 ฝ่ามือ ซึ่งการฉีดเมโสแฟตหน้าท้องค่อนข้างถูกกว่าวิธีอื่น สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดอาจจะทดลองใช้วิธีนี้ก่อน หากเห็นผลดีก็จะช่วยประหยัดเงินได้ครับ แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินมาก ๆ หรือ เคสที่อ้วนมาก ๆ BMI>35 ครับ
แต่ถ้ามีไขมันสะสมมากหมอจะแนะนำให้ลดพุงด้วยวิธีอื่นจะหวังผลได้มากกว่าและอยู่ได้นาน จึงมีความคุ้มราคามากกว่าในระยะยาวครับ เช่น การดูดไขมัน หรือถ้าไม่อยากผ่าตัด ก็จะแนะนำเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น การทำ CoolSculptng ครับ โดยวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่กำจัดเซลล์ไขมันได้ถาวร กลับมาอ้วนอีกได้ยากกว่าการฉีดเมโสแฟตครับ
ฉีดแฟตรักแร้ ปีกหลัง
อีกจุดหนึ่งที่อาจทำลายความมั่นใจให้หลาย ๆ คน ได้คือไขมันใต้รักแร้ ไขมันบริเวณปีกหลัง ครับ จะสังเกตเห็นเมื่อใส่ชุดว่ายน้ำหรือเสื้อกล้ามจะเห็นเป็นเนื้อปลิ้น เนื้อล้นออกมา เป็นก้อนไขมัน ดูอ้วน ดูไม่สวย พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย เกิดจากการมีภาวะน้ำหนักเกิน หรือเกิดจากกรรมพันธุ์
ซึ่งการฉีดเมโสแฟตจะช่วยลดไขมันตรงจุดนี้ได้กรณีที่มีไขมันไม่มากถึงปานกลางครับ เป็นวิธีที่ไม่เจ็บตัวมาก ไม่ต้องผ่าตัด บวมน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และยังช่วยให้ผิวกระชับแน่นขึ้น ลดความหย่อนคล้อยได้อีกด้วยครับ
เมโสแฟต ( Meso Fat ) 1 เข็ม ฉีด 1 ครั้ง แต่ละตำแหน่งต้องใช้กี่ CC จึงจะเห็นผล
ฉีดเมโสแฟตกี่ CC ? ฉีดเมโสแฟตกี่เข็ม ? ขึ้นกับตำแหน่งที่ฉีดและปริมาณไขมันของคนไข้ครับ
โดยทั่วไปการฉีดเมโสแฟตจะนับเป็น CC จะแม่นยำและเข้าใจได้ง่ายมากกว่า คนไข้สามารถคำนวณเปรียบเทียบราคาได้ง่ายกว่าครับ
แต่บางคลินิกจะใช้การนับเป็นเข็ม เพื่อลดการเปรียบเทียบราคาระหว่างคลินิก โดยในแต่ละเข็มจะขึ้นกับขนาดไซริงค์และการกำหนดของแต่ละคลินิก เราควรสอบถามให้แน่ใจก่อนครับว่า 1 เข็ม ให้ตัวยากี่ CC
ปริมาณยาเมโสแฟตที่ใช้ในแต่ละตำแหน่ง
- แก้ม โดยทั่วไปแก้มใช้ครั้งละ 6 CC ขึ้นไป (ข้างละ 3 cc ขึ้นไป)
- ต้นแขน โดยทั่วไปใช้ข้างละ 20 – 40 CC
- ต้นขา โดยทั่วไปใช้ข้างละ 40 CC
- หน้าท้อง/สะโพก โดยทั่วไปใช้ 40 – 80 CC
จำนวน CC ที่หมออธิบายไปเบื้องต้น เป็นการประมาณคร่าว ๆ จากเคสส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการครับ ในการฉีดแต่ละครั้ง หมอจะประเมินจากรูปหน้า จากสัดส่วนจริงของคนไข้ก่อนเสมอ ว่าควรใช้กี่ CC ขึ้นกับขนาดไขมันของแต่ละคนครับ
ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) กี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
การฉีด Meso Fat สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในช่วง 1-3 สัปดาห์แล้วแต่ตัวยาที่เลือกใช้ หากครบ 7 วันแล้วอยากให้ไขมันลดลงอีกสามารถมาทำเพิ่มได้ครับ โดยการฉีด 1 ครั้ง จะสามารถลดไขมันในบริเวณที่ฉีดได้ 10 – 15 %
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์แต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน เนื่องจากแต่ละคนมีปริมาณไขมันมากน้อยต่างกัน แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถแนะนำให้คนไข้ฉีดในปริมาณและจำนวนครั้งที่เหมาะให้ได้ครับ
เมโสแฟต ( Meso Fat ) ดีไหม มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร ?
สรุปข้อดีของการฉีดMeso Fat
- เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ใช้เวลาในการทำน้อย ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น
- การเตรียมตัวก่อนทำไม่ยุ่งยาก หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ
- เห็นผลเร็ว สามารถทำซ้ำได้ถ้าอยากให้เห็นผลดียิ่งขึ้น
- สามารถลดไขมันได้ครั้งละ 10-15%
- ทำได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท
- ไม่มีรอยแผล ไม่มีรอยผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
- ราคาไม่แพง สามารถทยอยทำได้
สรุปข้อเสียของการฉีดMeso Fat
- หลังทำจะมีอาการบวมตามปริมาตรของยา แต่จะยุบบวมได้เองใน 3-4 ชั่วโมง
- ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมันครับ ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป
- เมโสแฟตเป็นการใช้ปฏิกิริยาเคมีกับเซลล์ไขมัน หวังผลได้ไม่แน่นอน หากมีไขมันสะสมเยอะมาก จะเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อยมากและต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
- อยู่ได้ไม่ถาวร ต้องอาศัยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะคงผลลัพธ์ได้ยาวนานมากขึ้น
ความแตกต่างระหว่างการฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) กับการลดไขมันด้วยวิธีอื่น
| หัตถการ | ระยะเวลาเห็นผล | เหมาะกับใคร | ความถี่ในการทำ |
|---|---|---|---|
| เมโสแฟต |
| ผู้ที่มีไขมันไม่มาก ต้องการลดไขมันและลดสัดส่วนเฉพาะจุด | ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน กรณีไขมันมากอาจจะต้องฉีด 4-5 ครั้ง ห่างกัน 1-2 สัปดาห์ |
| โบท็อก |
| ผู้ที่มีสัดส่วนส่วนเกินจากกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้อกรามใหญ่ ทำให้หน้าใหญ่ | 4-6 เดือน ครั้ง |
| Coolsculpting |
| ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินไม่เกิน (BMI<35) ต้องการลดไขมันและลดสัดส่วน | ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน ในกรณีที่มีไขมันเยอะ ต้องการลดไขมันได้มากขึ้น สามารถกลับมาทำซ้ำในจุดเดิมได้ |
| Hifu |
| ผู้ที่มีไขมันไม่มาก มีผิวที่หย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวกระชับขึ้น | 5-6 เดือนครั้ง |
| ผ่าตัดกระพุ้งแก้ม |
| ผู้ที่ไขมันบริเวณแก้มเยอะ ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว มีเวลาพักฟื้น | เป็นการตัดไขมันออกอย่างถาวร |
| ดูดไขมัน |
| ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินมากๆ ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว ไม่กลัวเจ็บ และมีเวลาพักฟื้น | ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน |
โดยสรุป : แต่ละหัตถการจะมีความเหมาะสมในการลดไขมันส่วนเกินต่างกันครับ ความเหมาะสมในการเลือกทำหัตถการแต่ละบุคคลก็แตกต่างกันด้วย หรือบางเคส สามารถทำร่วมกันได้ เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่าง ในเคสที่มีปัญหาไขมันแก้มเยอะ อยากลดขนาดลง ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก และกระชับมากขึ้น สามารถฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันลงก่อน จากนั้นทำ Hifu หัตถการยกระชับอย่างเครื่อง Ultraformer III เพื่อทำให้ใบหน้าเข้ารูป ผิวแน่น ตึง ลดความหย่อนคล้อยของผิวจากไขมันหายไป หรือในกรณีที่ใบหน้าไม่เข้ารูป ดูใหญ่ แต่ประเมินแล้วเกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ก็สามารถฉีดโบท็อก (Botox) ลดกล้ามเนื้อกรามลง ก็จะช่วยใบหน้าเข้ารูป เล็กเรียว ดูมีมิติมากขึ้นได้ครับ
อีกกรณีในเคสที่ต้องการลดสัดส่วนบริเวณลำตัว เช่น ต้นแขน-ขาใหญ่ ไขมันหน้าท้อง ต้องการลดขนาดลง ก็สามารถทำได้ทั้ง เมโสแฟต และทำ Coolsculpting ครับ ขึ้นอยู่กับงบประมาณและเหมาะสมกับสภาพปัญหาในแต่ลบุคคลครับ ซึ่งทั้งหมดควรให้แพทย์ประเมินสภาพปัญหาและแนะนำหัตถการที่เหมาะสมให้ครับ
ก่อนฉีดเมโสแฟต ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ กี่วัน ?
ก่อนฉีดเมโสแฟตควรงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงครับ เพราะแอลกอฮอล์มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด ถ้าดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมาฉีดอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้มากขึ้นครับ
รีวิวฉีดเมโสแฟต เปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อน-หลัง
รีวิวฉีดเมโสแฟตร่วมหัตถการอื่น ๆ
รีวิวฉีดเมโสแฟต Lipo VSQ ลดหน้าท้อง
ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) อยู่ได้กี่เดือน ?
หลังฉีดเมโสแฟต การคงผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง หากไม่ปรับพฤติกรรมการกิน ไขมันอาจจะกลับมาอีกใน 1 เดือน เนื่องจากการฉีด Meso Fat เป็นตัวช่วยในการลดไขมันเฉพาะที่ แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันใหม่ ดังนั้น เมโสแฟตอยู่ได้กี่เดือน ขึ้นกับพฤติกรรมของผู้ฉีดเป็นหลักครับ
แนะนำออกกำลังกายและควบคุมอาหาร เลี่ยงการรับประทานของหวาน อาหารไขมันสูง รวมถึงการทานมื้อดึกบ่อย ๆ
ฉีดแฟต หน้าบวมกี่วัน ?
อาการบวมหลังฉีดเมโสแฟตจะบวมเพียง 1-2 ชั่วโมงแรกเท่านั้น จากปฏิกิริยาของตัวยาที่ฉีดเข้าไป จากนั้นจะค่อย ๆ ยุบบวมเอง ทั้งนี้อาการบวมมาก-น้อย จะขึ้นอยู่กับปริมาณตัวยา จำนวนCC ที่ฉีด
การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat )
- หลังทำแฟตแก้มไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อยๆซึมยุบไปเอง
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
- เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
- หลังฉีดลดแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการอบซาวหน้า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลังจากทำแฟตแก้มควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
เลือกฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ยี่ห้อไหนดี ?
ในคลินิกเสริมความชั้นนำในประเทศไทยได้มีการนำเมโสแฟตมาใช้หลากหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ส่วนผสมที่แตกต่างกัน
สำหรับผู้ที่สนใจฉีด Meso Fat แต่ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี หมอมีข้อมูลแนะนำดังนี้
1.เมโสแฟตยี่ห้อ Lipo VSQ
Lipo VSQ คือ ชื่อยี่ห้อตัวยา Meso Fat ที่มีฤทธิ์ในการสลายไขมัน โดย V Square Clinic นำเข้าจากเกาหลี ภายใต้แบรนด์ VSQ จึงใช้ชื่อเรียกว่า Lipo VSQ ครับ เป็นนวัตกรรมลดไขมันเฉพาะจุดและกระชับผิวในขั้นตอนเดียว สามารถลดการสะสมไขมัน ฉีดลดแฟตใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสม ต้องการฉีดลดแฟตเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้องที่ลดได้อยากให้เฟิร์มและกระชับขึ้น หรือใครไม่อยากผ่าตัด ไม่ต้องการพักฟื้นนานวิธีนี้ก็ตอบโจทย์ครับ เพราะหลังทำคนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันที
ข้อดี : สลายเซลล์ไขมันโดยตรง เห็นผลเร็ว หลังไขมันลดผิวจะไม่หย่อนคล้อยและดูกระชับขึ้น รวมถึงไขมันจะไม่กลับมาสะสมภายหลัง ไม่ต้องทำบ่อย
ข้อกำจัดของ : Lipo VSQ คือผลลัพธ์จากการฉีดแฟตอยู่ได้ไม่ถาวรครับ แต่ Lipo V จะอยู่ได้นานกว่าแฟตทั่วไป และมีค่อนข้างราคาสูงกว่า เนื่องจากประสิทธิภาพในการลดไขมันที่โดดเด่นกว่าสูตรอื่น
ราคา : เริ่มต้น 2,000.- ครับ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและตำแหน่งที่ฉีด
2 .เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella
เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิด สามารถใช้ฉีดเพื่อสลายไขมันได้หลายส่วนของร่างกาย อาทิ เหนียงใต้คาง แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพก และน่อง
ช่วยในการยกกระชับผิว ลดอาการบวมน้ำ กลไกการออกฤทธิ์หลักจะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ต้องการลดเซลลูไลท์
ข้อดี : ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยครับ
ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบเล็กน้อย
ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,000 บาท
3.เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One
เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาแก้มหย่อน โดยโดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับ เห็นผลไว นิยมใช้ในการฉีดลดเหนียง ลดความหย่อนคล้อยใต้คาง
มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดอาการบวม
ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันและคอเรสเตอรอลในเลือด โดยละลายไขมันให้แตกตัวเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ไขมันจึงลดลง ยกกระชับได้ดีครับ
ข้อดี : ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ ฉีดแล้วยุบดี หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง
ข้อควรระวัง : ขณะฉีดมีอาการแสบ (แต่จะแสบน้อยที่สุดในบรรดายี่ห้อเมโสแฟตทั้งหมด)
ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,800 บาท
4.เมโสแฟตยี่ห้อ FNC
เมโสแฟตยี่ห้อ FNC 30 เหมาะกับคนแก้มเยอะ สามารถช่วยยกกระชับหน้า ช่วยในการป้องกัน Elastin และ Hyaluron ในชั้นผิวไม่ให้เสื่อมสภาพ ช่วยลดบวม ลดไขมัน กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ช่วยลดไขมันได้ดี และเห็นผลไว โดยที่ไม่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยหลังไขมันลดครับ
ข้อดี : ยุบดีและไว เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มเยอะ
ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลางๆ
ราคา : ครั้งละ 6 CC 2,500 บาท
5.เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella
เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella เป็นเมโสแฟตอีกหนึ่งยี่ห้อที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ส่วนผสมหลักของตัวยาเป็น Deoxycholic acid (DCA) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยาสลายไขมันตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก US-FDA ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการฉีดในจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ครับ
ข้อดี : สลายเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการลดไขมันบริเวณลำตัว หน้าท้อง แขน ขา
ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ
ราคา : ครั้งละ 20 CC 5,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีเมโสแฟตยี่ห้ออื่น ๆ เช่น V Line-A solution Essence, Noble, Mesoestetic lipolytic solution, Lipo V ฯลฯ หรือบางคลินิกก็หลีกเลี่ยงการใช้คำว่าเมโสแฟต แต่ใช้คำที่แตกต่างออกไป เช่น fat bomb (แฟตบอมบ์), LLD fat, แฟตแก้ม หรือแฟตเหนียง
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการฉีดตัวยาสลายไขมันเข้าผิวชั้นกลางทั้งสิ้นครับ สิ่งสำคัญคือควรดูยี่ห้อของยาที่ฉีด ว่าคือยี่ห้ออะไร ผ่านอย.หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาจากตัวยาที่มีส่วนผสมที่อันตรายครับ
โปรโมชันฉีดแฟต ราคาเท่าไหร่ ?
เช็กราคาฉีดเมโสแฟต [อัปเดตล่าสุด]
ฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวมมาก ควรทำอย่างไร ?
หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมจากปริมาตรตัวยาที่ฉีดเข้าไปเป็นเรื่องปกติ สามารถยุบหายไปได้เอง
หลังฉีดทันทีจะรู้สึกหน้าบวมมากบวมเหมือนอมลูกอมหลาย ๆ เม็ดพร้อมกัน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปครับ ตัวยาจะค่อย ๆ ซึมยุบไปเองใน 3-4 ชั่วโมง ไม่ปวดหรืออักเสบ หรือในบางเคสอาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติครับ
มินิแฟต คืออะไร ช่วยสลายไขมันได้จริงไหม ?
มินิแฟต (Mini fat) เป็นคำเรียกที่แต่ละคลินิกตั้งขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นการฉีดลดไขมันแบบเดียวกับการฉีดเมโสแฟตครับ แต่ละคลินิกก็ใช้ตัวยาต่าง ๆ กัน ต้องดูว่าเป็นตัวยาเมโสแฟตยี่ห้ออะไร ผ่าน อย. หรือไม่ ควรสอบถามชื่อตัวยาและศึกษาวิธีตรวจสอบตัวยาของแท้ก่อนตัดสินใจฉีดครับ
ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ที่ไหนดี วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย และเห็นผลอย่างไร ?
การเลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข มีความน่าเชื่อถือและดำเนินงานโดยแพทย์ท่านั้น เพราะแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับคนไข้เป็นรายบุคคล โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงลดน้อยลงครับ
| คลินิกหรือสถานประกอบการ |
| ✔ มีป้ายชื่อสถานพยาบาล |
| ✔ มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก |
| ✔ แสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล |
| ✔ สะอาด มีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง |
| ✔ เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถ |
| ตัวยาเมโสแฟต |
| ✔ ผ่านการรับรองจาก อย. |
| ✔ สามารถยืนยันที่มาและแหล่งผลิตของผลิตภัณฑ์ได้ |
| ✔ ตรวจสอบก่อนฉีดว่าเป็นของแท้ |
| ✔ ไม่มีส่วนผสมที่อันตราย ไม่มีสารสเตียรอยด์หรือ Hyaluronidase |
| แพทย์ |
| ✔ มีป้ายประจำตัวเแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมนำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้ |
| ✔ มีประสบการณ์ 5-15 ปี |
| ✔ สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด |
บทความแนะนำ
ฉีดเมโสแฟต ( Meso Fat ) ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
V square clinic เป็นคลินิกด้านความงามที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ใช้เมโสแฟตของแท้ที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงราคาที่สมเหตุสมผล แพทย์แนะนำและตรวจประเมินอย่างละเอียดทุกเคส มั่นใจได้ว่าทุกท่านที่เข้ามาฉีดเมโสแฟตและบริการอื่น ๆ ของทางคลินิก จะได้รับความพึงพอใจที่สุดครับ
Q&A ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต (Meso Fat)
เมโสแฟต กี่วันเห็นผล ?
เมโสแฟตจะเห็นผลประมาณ 1-3 สัปดาห์หลังฉีด โดยการฉีด 1 ครั้งตามปริมาณที่เหมาะสม จะเห็นผลว่าไขมันลดลงได้ 10-15% ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล ? ทำแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?
เมโสแฟต บวมกี่วัน ?
หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมตามปริมาตรของยา แต่จะยุบบวมได้เองใน 3-4 ชั่วโมงครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสแฟต บวมกี่วัน ? รู้สาเหตุและวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด Meso Fat อย่างถูกวิธี
ฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม ?
การฉีดเมโสแฟตจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยครับ โดยจะรู้สึกที่สุดตอนที่ลงเข็มและเดินยาเข้าผิวหนังครับ ซึ่งก็จะมีการประคบน้ำแข็งช่วย หรือแปะยาชาสำหรับคนที่กลัวเจ็บมากๆ สำหรับคนที่กลัวว่าการฉีดเมโสแฟตจะเจ็บก็ไม่ต้องกังวลครับ
เมโสแฟต 1 ขวดกี่ CC ?
เมโสแฟตยี่ห้อมาตรฐานส่วนใหญ่ 1 ขวดจะบรรจุตัวยา 10 CC ครับ ก่อนนำมาใช้ไม่จำเป็นต้องผสมน้ำเกลือ ปริมาณที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง หมอจะเป็นผู้ประเมินตามปริมาณไขมันของแต่ละคนครับ
ฉีดเมโสแฟต แล้วเป็นก้อน ?
ฉีดเมโสแฟตแล้วเป็นก้อนเกิดขึ้นได้เกิดจากเทคนิคการฉีดที่ทำให้ยาไม่กระจายตัว แพทย์ที่มีประสบการณ์จะฉีดใช้เทคนิคกระจายตัวยาที่ถูกต้อง ประกอบกับถ้าใช้เมโสแฟตคุณภาพสูง ตัวยาจะถูกดูดซึมได้เอง หลังฉีดจะไม่เป็นก้อนครับ
คนท้องฉีดเมโสแฟตได้ไหม ?
หากตั้งครรภ์อยู่ไม่แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตครับ
สรุป ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ตัวช่วยลดไขมันส่วนเกิน
ฉีดแฟตลดไขมัน เป็นตัวช่วยลดไขมันที่ทำได้ง่าย ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้จริง สามารถฉีดเมโสแฟต (Meso Fat)ได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ก่อนที่จะตัดสินใจฉีด Meso Fat ควรศึกษาตัวยาเมโสแฟตแต่ละยี่ห้อ วิธีตรวจสอบเมโสแฟตของแท้ และควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อตรวจประเมินเลือกยี่ห้อและปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละเคสครับ
