เจาะลึก Coolsculpting นวัตกรรมสลายไขมันด้วยความเย็น กำจัดไขมันได้ถาวรจุดไหนได้บ้าง ?

Categories
Coolsculpting
Coolsculpting

Coolsculpting สลายไขมันถาวรด้วยความเย็น

Coolsculpting วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินที่ถูกพูดถึงมากในปัจจุบัน เป็นนวัตกรรมกำจัดไขมันที่เห็นผลเร็ว มีความปลอดภัย ใครที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน และกำลังมองหาวิธีที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยง Coolsculpting เป็นตัวเลือกที่ดี ที่หมอแนะนำครับ

ในบทความนี้ หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับ Coolsculpting คืออะไร ? หลังทำเห็นผลจริงไหม ? ขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร เจ็บไหม ? ต่างจากการดูดไขมันอย่างไร ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? รวมถึงข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำที่ไหนดี ? ต้องทำกี่ครั้ง กี่วันเห็นผล ? ราคาเท่าไหร่ แพงไหม ? ทั้งหมดนี้หมอรวบรวมมาตอบไว้ให้แล้วครับ

คลิกอ่านหัวข้อ Coolsculpting


Coolsculpting คืออะไร ?

Coolsculpting คือเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นติดลบ เป็นการทำลายไขมันผ่านกระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) ที่คิดค้นและพัฒนาโดยนายแพทย์ Dieter Manstein และนายแพทย์ R.Rox Anderson จากมหาวิทยาลัย Harvard สหรัฐอเมริกา สามารถกำจัดเซลล์ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ได้อย่างถาวร

ข้อดีของ Coolsculpting คือมีความปลอดภัยสูง ไม่อันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก และเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ เนื่องจาก Coolsculpting มีระบบ Freeze Detect เมื่อตรวจเจอความเย็นในผิวชั้นบนที่มากเกินไป เครื่องจะหยุดทำงานทันที

ในระหว่างการทำ Coolsculpting คนไข้สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปด้วยได้ เช่น ใช้สมาร์ทโฟน ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ ที่สำคัญหลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

Coolsculpting คืออะไร
จุดเด่นทำ Coolsculpting สลายไขมัน

Cryolipolysis คืออะไร เกี่ยวข้องกับ Coolsculpting อย่างไร ?

Cryolipolysis คือชื่อเทคโนโลยี ส่วน Coolsculpting เป็นชื่อเครื่องครับ โดยเครื่อง Coolsculpting มีหลักการทำงานด้วยการใช้เทคโนโลยีแช่แข็งไขมัน หรือ Cryolipolysis เป็นเทคโนโลยีสลายไขมันใต้ผิวหนังด้วยความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งแบบ Non-Invasive จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เจ็บตัว

เป็นเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถลดไขมันในร่างกาย (ไม่ใช่การลดน้ำหนัก) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย.ไทย

จุดเด่นทำ Coolsculpting สลายไขมัน
เทคโนโลยี Cryolipolysis แช่แข็งไขมัน และกำจัดออก

กลไกการทำงานของเครื่อง Coolsculpting ช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนังได้อย่างไร ?

เครื่อง Coolsculpting จะทำงานโดยส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง -11°C ลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เข้าสู่ชั้นไขมัน เปลี่ยนสภาพเซลล์ไขมันให้กลายเป็นผลึกน้ำแข็ง ทำให้ไขมันตาย ก่อนจะสลายตัวไปตามระบบของร่างกาย และถูกขับออกมาจากร่างกายตามธรรมชาติ

จากนั้นเซลล์ไขมันที่เหลือจะเรียงตัวใหม่ครับ ทำให้ชั้นไขมันบางลง ส่งผลให้รูปร่างได้สัดส่วนมากขึ้น การันตีผลลัพธ์ ด้วยงานวิจัยทางการแพทย์กว่า 70 งานวิจัย ที่ยืนยันผลการรักษาว่า Coolsculpting สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณที่ทำได้จริง โดยไขมันลดลงได้ถึง 20-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง


Coolsculpting ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

หน้าท้อง เอว (ห่วงยาง) ต้นแขน ต้นขา สะโพก เป็นตำแหน่งที่นิยมในการทำ Coolsculpting โปรแกรมสลายไขมันส่วนเกิน โดยแต่ละตำแหน่งจะมีหัวแอปพลิเคเตอร์หรือหัวหนีบที่แตกต่างกันให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมครับ

ตำแหน่งการทำ Coolsculpting
ตำแหน่งการทำ Coolsculpting

Coolsculpting หน้าท้อง เอว (ห่วงยาง)

ไขมันหน้าท้อง หรือห่วงยางรอบเอว เป็นตำแหน่งที่มีไขมันสะสมอยู่มากครับ หลายคนพยายามควบคุมอาหาร รวมถึงออกกำลังกาย แต่ไขมันส่วนเกินที่สะสมในบริเวณนี้ไม่ได้หายไปง่าย ๆ เนื่องจากเป็นไขมันดื้อที่ลดยาก จึงต้องใช้เวลา

และไม่ควรหักโหมออกกำลังกาย หรืออดอาหาร เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ และเสียสุขภาพได้ แต่การลดไขมันด้วยเครื่อง Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สามารถกำจัดไขมันดื้อบริเวณนี้ได้อย่างรวดเร็วครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : Coolsculpting สลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น ลดพุงอย่างปลอดภัยและเห็นผล

รีวิว Coolsculpting หน้าท้อง
รีวิวทำ Coolsculpting สลายไขมันหน้าท้อง

โปรแกรม Coolsculpting สามารถกำจัดเซลล์ไขมันบริเวณหน้าท้องได้ตั้งแต่ครั้งแรก สามารถลดไขมันลงได้ถาวร ช่วยปรับสัดส่วน รูปร่างให้เข้าที่ได้เร็วครับ

Coolsculpting สะโพก

บริเวณสะโพกเป็นอีกจุดที่ Coolsculpting สามารถช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้ อาจจะไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก แต่ช่วยลดขนาดสะโพกให้เล็กลงได้ครับ ทำให้รูปร่างสมส่วนสวยงามมากขึ้น

Coolsculpting เหนียง

เหนียงเป็นตำแหน่งที่มีพื้นที่ไม่กว้างเท่าหัวสำหรับหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขาครับ การทำ Coolsculpting ลดเหนียงจะใช้หัวขนาดเล็กที่เรียกว่า Cool Mini ในการสลายไขมันส่วนเกิน

Coolsculpting ต้นขา

เครื่อง Coolsculpting สลายไขมันต้นขาด้วยความเย็น สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขาได้ทั้งต้นขาด้านใน และต้นขาด้านนอกออกไปอย่างถาวร

Coolsculpting ต้นขาด้านใน
Coolsculpting สลายไขมันต้นขาด้านใน

เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาขาเบียด ต้นขาใหญ่ ไม่เรียวสวย จากไขมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ลดยากเช่นกัน แม้หลายคนจะพยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหาร แต่ยังมีไขมันสะสมอยู่มากครับ

Coolsculpting แขน

ออกกำลังกายหนักแต่ต้นแขนก็ไม่ลง สลายไขมันด้วยความเย็นต้นแขนด้วย Coolsculpting ช่วยได้ครับ Coolsculpting สลายไขมันต้นแขน เป็นหนึ่งในตำแหน่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากบริเวณนี้มีไขมันส่วนเกินสะสมมากไม่ต่างจากต้นขา เมื่อมีไขมันสะสมอยู่มาก จึงทำให้เกิดปัญหาต้นแขนใหญ่ ต้นแขนหย่อนไม่กระชับ และลดลงได้ยาก

Coolsculpting ต้นแขน
ทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นแขน

Coolsculpting ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดี ในการกำจัดไขมันต้นแขนได้แบบถาวร และเห็นผลรวดเร็วครับ

รีวิว Coolsculpting กำจัดไขมันต้นแขน

ทั้งนี้ ผู้ที่เหมาะกับการทำ Coolsclupting ควรมีปัญหาไขมันส่วนเกินในระดับปานกลาง (BMI < 35) ที่พยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว ก็ยังมีไขมันสะสมอยู่ รวมไปถึงคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการลดและกระชับสัดส่วนก็ทำได้เช่นกันครับ


ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกทำ Coolsculpting

ก่อนตัดสินใจทำ CoolSculpting ต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนครับ แม้ว่าการทำ CoolSculpting จะสามารถช่วยลดจำนวนเซลล์ไขมันลงถาวร แต่ในกรณีที่คนไข้ มีปริมาณไขมันสะสมมากเกินไป (ค่า BMI มากกว่า 35 ) การทำ CoolSculpting จะเห็นผลน้อยและช้า การดูดไขมันอาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งครับ

CoolSculpting เหมาะกับใคร
Coolsculpting เหมาะกับคนที่มี BMI > 35

เปรียบเทียบการทำ CoolSculpting กับ การสลายไขมัน ด้วยวิธีอื่น ๆ

หากต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน นอกจาก CoolSculpting ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่สามารถช่วยได้โดยมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย และระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน รวมถึงราคาค่าใช้จ่าย ความคุ้มค่าในแต่ละปัญหาของแต่ละบุคคลด้วยครับ หมอขอยกตัวอย่างวิธีสลายไขมันส่วนเกิน ที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ดังนี้

CoolSculptingCoolwave สลายไขมันดูดไขมันฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน
สลายไขมันด้วยความเย็น ผ่านกระบวนการ Cryolipolysisสลายไขมันด้วยความเย็น ด้วยคลื่น Microwaveผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินฉีดสลายไขมันด้วยตัวยา
ปล่อยความเย็น -11 °c แช่แข็งก้อนไขมัน จากนั้นนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันตาย และลดจำนวนลงแบบถาวรใช้คลื่น Microwave ที่ความถี่ 2.45 GHz เพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและสลายไปตามกลไกธรรมชาติของร่างกายวางยาสลบหรือใช้ยาชาเฉพาะที่ จากนั้นเปิดผิวหนัง และสอดท่อเข้าไปเพื่อดูดเอาไขมันส่วนเกินออกใช้ตัวยาฉีดสลายไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวหรือสลายตัว จากนั้นจะถูกขับออกตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย
ตำแหน่งที่นิยม เช่น หน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา และเหนียงตำแหน่งที่นิยม เช่นเหนียง หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขา และต้นขาตำแหน่งที่นิยม เช่น กรอบหน้า หน้าท้อง รอบเอว ต้นแขน และต้นขาตำแหน่งที่นิยม เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน และต้นขา
สัดส่วนเล็กลงในสัปดาห์ที่ 3-4 เห็นผลเต็มที่ใน 3 เดือนเห็นผลใน 2-4 สัปดาห์ ต้องทำต่อเนื่อง 4-6 ครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจนเห็นผลเต็มที่ใน 3-4 เดือนไขมันลดลง สัดส่วนเล็กลง เห็นผลชัดเจนใน 1-3 สัปดาห์
หลังทำไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย อาจมีอาการบวม เขียว ช้ำ หายได้เอง ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำอาจรู้สึกเหนื่อยล้า เหมือนออกกำลังกายหนัก หายได้เองใน 2-3 วัน ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำอาจเจ็บบวม ฟกช้ำ หรือมีผลข้างเคียง เช่น ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน มีรอยแผลเป็นหลังทำบวมเล็กน้อยจากตัวยา หายได้เองใน 3-4 ชั่วโมง ไม่ต้องพักฟื้น
เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันปานกลาง (BMI < 35) ไม่อยากผ่าตัดดูดไขมันเหมาะกับคนที่ต้องการกระชับสัดส่วน สลายเซลลูไลท์ และกำจัดเซลล์ไขมัน มีเวลาทำหลายครั้งต่อเนื่องเหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันเยอะ ๆ (BMI > 35) ไม่กลัวการผ่าตัด มีเวลาพักฟื้น 1-2 เดือนเหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันเฉพาะส่วนแบบเร่งด่วน

Coolsculpting กับ การดูดไขมัน มีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร ?

การทำ Coolsculpting และการดูดไขมัน เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกิน มีจุดเด่นที่แตกต่างกันครับ

ดูดไขมันกับ CoolSculpting
เปรียบเทียบดูดไขมัน กับ Coolsculpting

ทำ Coolsculpting เจ็บไหม ?

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่ากระบวนการสลายไขมันด้วย Coolsculpting ไม่ทำให้เกิดบาดแผล และไม่ต้องใช้ยาชา หรือยาสลบ ดังนั้นข้อกังวลเรื่องความเจ็บในขั้นตอนระหว่างทำไม่มีครับ หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ


อาการหลังทำ Coolsculpting

จากประสบการณ์ที่หมอเคยลองทำด้วยตัวเอง จะมีปวด ๆ เมื่อย ๆ ตอนนวดหลังจากแช่แข็งไขมัน (ซึ่งจำเป็นต้องนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตาย หากไม่นวดจะได้ผลน้อยลง 60% ครับ) ปวด เมื่อย ไม่นานครับ ประมาณ 2 นาทีเท่านั้น ในบางเคสอาจมีอาการปวดระบมในช่วง 7-10 วันหลังทำจะคล้าย ๆ อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกายหนัก ๆ ในจุดที่ทำ

นอกจากนี้ ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกอาจจะมีอาการบวมในจุดที่ทำ และจะมีอาการชาและคันเล็กน้อยในช่วง 1 เดือนแรกครับ


ทำ Coolsculpting มีผลข้างเคียงหรือไม่ อย่างไร ?

การทำ Coolsculpting มีความปลอดภัยสูงครับ ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ตัวเครื่องผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน US FDA approved และมีการใช้ Coolsculpting แล้วกว่า 74 ประเทศทั่วโลก ส่วนผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังทำจากกระบวนการแช่แข็ง มีครับแต่เป็นเรื่องปกติ เช่น

  • ผิวเขียวช้ำ : เนื่องจาก Coolsculpting แช่แข็งไขมัน จึงจำเป็นต้องนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตาย หากไม่นวดจะได้ผลน้อยลง 60% ซึ่งหลังนวดอาจมีอาการเขียวช้ำได้ในบางเคส โดยเฉพาะคนผิวขาว ผิวบาง
  • เกิดรอยดำที่ผิวชั่วคราว : หายได้เองใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือนครับ
  • บวมในจุดที่ทำ : หลังทำ Coolsculpting จะมีอาการบวมในจุดที่ทำ ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก เนื่องจากยังมีเซลล์ไขมันตายและค้างอยู่ ร่างกายต้องใช้เวลา เพื่อค่อย ๆ ลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบเลือดและระบบน้ำเหลือง ใน 3-4 สัปดาห์ อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงเอง และจะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนเล็กลงด้วยครับ

นอกจากนี้ผลข้างเคียงหลังทำ Coolsculpting อื่น ๆ ที่สามารถเกิดได้แต่มีโอกาสเกิดน้อยมาก (อัตรา 1 : 20,000 เคส) ได้แก่ การเกิด Paradoxical Adipose Hyperplasia คือก้อนไขมันใหญ่ขึ้นหลังทำ ไม่ยุบลง ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ทางบริษัท Allergan บริษัทผู้ผลิต Coolsculpting มีระบบรับประกัน จะรับผิดชอบแก้ไขให้ฟรีครับ


Coolsculpting ทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

การทำ Coolsculpting 1 ครั้ง จะสลายเซลล์ไขมันได้ 20-30% โดย 1 หนีบสามารถกำจัดไขมันออกได้ 60-70 CC สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำครับ

Coolsculpting กี่ครั้งเห็นผล
โปรแกรม Coolsculpting เห็นผลเต็มที่ใน 3 เดือน

ทำ Coolsculpting กี่วันเห็นผล ?

หลังจากสลายไขมันด้วยความเย็นแล้ว 1-2 สัปดาห์แรก จะมีอาการบวมในจุดที่ไขมันตายและค้างอยู่ โดยใน 3-4 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนเล็กลง กระชับขึ้น โดยจะใช้เวลา 3 เดือน ถึงจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ครับสามารถกลับมาทำซ้ำในจุดเดิมได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์มากขึ้น

Coolsculpting กี่วันเห็นผล
ผลลัพธ์หลังทำ Coolsculpting

Coolsculpting รีวิวผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ

ตัวอย่างรีวิวผลลัพธ์หลังการทำ CoolSculpting

รีวิว Coolsculpting ต้นแขน
รีวิว Coolsculpting ต้นแขน
รีวิว Coolsculpting หน้าท้อง
รีวิว Coolsculpting ห่วงยาง
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล

การเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting

  • ก่อนทำ Coolsculpting คนไข้ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากครับ
  • รับประทานอาหาร ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • เข้ามาปรึกษาหมอที่คลินิก เพื่อตรวจประเมินว่าสามารถทำ Coolsculpting ได้หรือไม่
  • หากคนไข้มีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • คนไข้ชั่งน้ำหนัก และถ่ายภาพถ่ายบริเวณทำ เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
  • จากนั้นเริ่มขั้นตอนการทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
ขั้นตอนทำ Coolsculpting
ขั้นตอนทำ Coolsculpting

ข้อห้ามและการดูแลตัวเองหลังทำ Coolsculpting

  • งดออกกำลังกายหนักในสัปดาห์แรก
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดไขมันสะสม
  • งดแช่น้ำร้อน ซาวน่า อบตัว 1-2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนวดแรง ๆ บริเวณที่ทำ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมง

หากต้องการเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น หมอแนะนำให้ออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ก่อให้เกิดไขมันสะสม ทำให้เซลล์ไขมันขยายตัวขึ้นมาอีกครับ


ทำ Coolsculpting แล้วไม่ได้ผล เป็นเพราะอะไร เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

หากทำ Coolsculpting แล้วไม่ได้ผล มี 2 กรณีครับ

  1. Coolsculpting ของปลอม ปัจจุบันมีเครื่องลอกเลียนแบบ ค่อนข้างมากครับ เพราะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม ซึ่งเครื่องลอกเลียนแบบที่ไม่มาตรฐาน แน่นอนว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ขณะเดียวกันยังอาจเสี่ยงต่อการเกิด Freeze Burn (ผิวไหม้จากความเย็น) ได้ด้วย
  2. คนไข้ไม่เหมาะกับการทำ Coolsculpting ในเคสที่มีปริมาณไขมันมากเกินไป พอทำมาแล้วเห็นผลไม่ชัดเจน ไขมันไม่หายไปตามที่คาดหวัง (ซึ่งคลินิกที่ดีแพทย์จะต้องประเมินและแนะนำว่าคนไข้เหมาะกับ Coolsculpting หรือไม่ อย่างตรงไปตรงมา)

ทำ Coolsculpting ที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไร ให้ปลอดภัย เห็นผล

ปัจจุบันมีเครื่อง Coolsculpting ปลอมอยู่มากครับ เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมั่นใจว่าใช้เครื่อง Coolsculpting แท้ที่มีคุณภาพ ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการทำโปรแกรม Coolsculpting โดยตรง แนะนำให้พิจารณาปัจจัยเหล่านี้ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกครับ

1. เลือกคลินิกได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ

ควรตรวจสอบกว่าคลินิกนั้น เปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมาย มีใบอนุญาตรับรองที่ถูกต้องหรือไม่ รวมถึงบรรยากาศคลินิกควรสะอาด ไม่คับแคบ มีเครื่องมือทันสมัยพร้อมให้บริการ และใช้เครื่อง Coolsculpting ของแท้เท่านั้น เพื่อได้ผลลัพธ์อย่างแท้จริงและปลอดภัย

2. ต้องดูแลโดยแพทย์และ Specialist สำหรับทำ Coolsculpting โดยเฉพาะ

ขั้นตอนการสลายไขมันด้วยความเย็น ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ หรือ Specialist ที่ผ่านการอบรมทำ Coolsculpting มาโดยเฉพาะ เพื่อประเมินการรักษาได้อย่างตรงจุดและเหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละเคส พร้อมติดตามผลหลังทำ

3. ราคาสมเหตุสมผล

อัตราค่าบริการ Coolsculpting ควรอยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป เนื่องจากหากเลือกทำที่มีราคาถูกเกินไป อาจเสี่ยงที่จะไปเจอกับเครื่องเลียนแบบหรือเครื่องปลอมได้

4. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง

รีวิวต่าง ๆ จากผู้เคยใช้บริการ เป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา หากยังไม่แน่ใจว่าทำ Coolsculpting เห็นผลหรือไม่ ให้ดูจากรีวิวของคนไข้ที่เคยมาใช้บริการครับ หากทำแล้วไม่เห็นผล หรือมีผลข้างเคียงก็จะมี Feedback กลับมาให้เห็น สามารถเช็กที่หน้ารีวิวของ Page Facebook หรือกระทู้ต่าง ๆ ได้

รีวิว Coolsculpting_คุณต่าย เพ็ญพักตร์
คุณต่าย เพ็ญพักตร์ เลือกทำ Coolsculpting ต้นแขน

ทำ Coolsculpting ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ที่ V Square Clinic จะดูแลและให้คำแนะนำโดยแพทย์ หรือ Specialist ที่มีประสบการณ์ในการทำ CoolSculpting โดยเฉพาะ ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านการทำ CoolSculpting มานานกว่า 3 ปี นอกจากนี้ ที่ V Square Clinic ยังอำนวยความสะดวกให้กับคนไข้ดังนี้

  • ให้บริการสลายไขมัน CoolSculpting โดยทำในห้องที่มีขนาดเหมาะสม สะดวกสบาย ไม่อึดอัด ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดอย่างน้อยประมาณ 20 ตารางเมตร
  • ในช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่ทำ CoolSculpting ทาง V Square Clinic เน้นมอบความสบายให้แก่ลูกค้าอย่างสูงสุด จึงเลือกใช้เก้าอี้ Lazboy รุ่นท็อป ที่มีความกว้างมากเป็นพิเศษ
  • เพิ่มเทคนิคพิเศษในขั้นตอนการทำ CoolSculpting ที่จะช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติ
  • ช่วงโปรโมชั่นการันตีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับราคาที่อื่น ๆ ในท้องตลาด โดยไม่มีโปรโมชั่นแอบแฝง
  • มีรีวิวจากดารา เซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียง เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
รีวิว CoolSculpting
ทำ Coolsculpting 2025 ที่ V Square Clinic

Coolsculpting ราคาโปรโมชั่น 2025

ราคาการทำ Coolsculpting จะขึ้นอยู่กับจำนวนหนีบที่ใช้ครับ (1 หนีบ = 1 ฝ่ามือ) ที่ V Square Clinic ราคาต่อ 1 หนีบอยู่ที่ 8,500.- พร้อมเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติครับ

Coolsculpting ราคาโปรโมชั่น(1)

Promotion CoolSculpting

Coolsculpting ราคาโปรโมชั่น

ปัจจุบัน ที่ V Square Clinic มีบริการ CoolSculpting อยู่ที่สาขา เกตเวย์เอกมัย โทรนัดคิว 099 005 9000


Q&A Coolsculpting

1.ทำ Coolsculpting ได้ผลจริงไหม ?

เครื่อง Coolsculpting ของแท้ สามารถลดไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลได้จริงครับ

มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยและสหรัฐอเมริกา (US FDA)

2.ทำ Coolsculpting เหนียงได้ไหม ?

Coolsculpting เหนียง สามารถทำได้ครับ โดยใช้หัว Cool Mini แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม แนะนำทำ Hifu ลดเหนียงครับ เพราะสามารถช่วยเรื่องยกกระชับได้ด้วย หรือในกรณีที่มีไขมันใต้คางมาก ๆ สามารถฉีดเมโสแฟต เพื่อสลายไขมัน ได้เช่นกัน ราคาคุ้มค่า และเห็นผลลัพธ์ได้ดีเช่นกัน

3.ผู้ที่ไม่เหมาะกับทำ Coolsculpting มีไหม ?

หมอไม่แนะนำให้ทำ Coolsculpting ในกลุ่มคนเหล่านี้

  • หญิงตั้งครรภ์
  • หญิงที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
  • ผู้ที่แพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น
  • ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
  • ผู้ที่ติดอุปกรณ์ใด ๆ ในร่างกาย อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ
  • ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัดในบริเวณที่จะทำการรักษา

สรุป ทำ Coolsculpting สลายไขมัน ดีไหม ? คุ้มค่าไหม ?

Coolsculpting นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลรูปร่างสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสม และต้องการกำจัดไขมันเฉพาะส่วน สามารถสลายไขมันส่วนเกินในจุดต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขาได้อย่างถาวรครับ ใครที่สนใจสลายไขมันด้วยความเย็น หมอขอเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญครับ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และตัดสินใจทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ปรึกษาหมอ