ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม เป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีแก้ปัญหาใต้ตาที่เห็นผลเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่ไม่ใช่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหน กับใครก็ได้ครับ เพราะในปัจจุบันก็ยังมีข่าวหมอกระเป๋า คลินิกเถื่อน เคสหลุดออกมาให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นในบทความนี้หมอจะมาแนะนำว่าก่อนฉีดควรรู้อะไร ฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง ? ถ้าฉีดแล้วมีปัญหาแก้ไขอย่างไร ? เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ให้ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์สวยงามตามต้องการ
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?
อย่างแรกที่ต้องเข้าใจคือการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นการฉีดสารเติมเต็ม ในต่างประเทศจะหมายถึงการฉีดสารเติมเต็มทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการฉีดไขมัน คอลลาเจนจากสัตว์ หรือสารชนิดอื่น ๆ แต่ในประเทศไทย จะหมายถึง Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นชนิดเดียวที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย ให้ฉีดลงสู่ชั้นผิวได้ ดังนั้นฟิลเลอร์แท้ที่หมอพูดถึงกันก็จะหมายถึงฟิลเลอร์ที่เป็น Hyaluronic Acid (HA) ครับ
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ? หากฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความสะอาด ก็มีความปลอดภัยครับ ฉีดแล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที และเนื้อฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง
ปัจจัยที่จะทำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วอันตราย ได้แก่ ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ฉีดกับหมอกระเป๋า คลินิกเถื่อน คลินิกหรือห้องทำหัตถการไม่มีความสะอาดเพียงพอ ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
ทั้งนี้เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นจุดที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน จึงควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ หากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ อาจเกิดข้อผิดพลาดในการฉีด เช่น เลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับปัญหา ฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิว หรืออันตรายกว่านั้นคือฉีดฟิลเลอร์อุดตันในเส้นเลือด ทำให้เนื้อตายได้ (ถ้าแก้ไขทันท่วงทีด้วยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์ ก็จะปลอดภัยครับ)
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรรู้อะไรบ้าง ?
- ศึกษาข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ วิธีเลือกคลินิก วิธีดูฟิลเลอร์แท้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ในเบื้องต้น
- ควรงดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
- งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีด Filler ใต้ตา
- งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
- 24 ชั่วโมงก่อนฉีด ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด การออกกำลังกาย
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
- แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีการแปะยาชาให้เพื่อลดความเจ็บ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไรบ้าง ?
ข้อดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา | ข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา |
---|---|
|
|
ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบ้าง ?
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ใต้ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหล
- ต้องการแก้ปัญหาใต้ตา โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
- ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- แก้ปัญหาใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกและเนื้อได้ตรงจุด
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ CC ให้สวย ปลอดภัย ไม่อันตราย
บริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีความละเอียดอ่อนครับ ปัญหาร่องใต้ตา ร่องน้ำตา ถุงใต้ตา หรือใต้ตาคล้ำ สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยในชั้นผิวที่แตกต่างกัน จึงไม่จำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปริมาณเยอะ ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเสมอไปครับ
โดยปกติคนที่มาหาหมอคือจะเริ่มมีปัญหาร่องใต้ตา หรือถุงใต้ตา เกิดจากอายุที่มากขึ้น ชั้นกระดูกและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทรุดตัว ส่วนที่หนุนผิวหายไป ทำให้ผิวหย่อนคล้อย มีถุงใต้ตา ก็ต้องมาแก้กันที่ผิวชั้นลึก โดยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทดแทน ถ้ามาหาหมอตั้งแต่เนิ่น ๆ ชั้นผิวไม่ได้ทรุดตัวมาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาข้างละ 1 CC คนไข้ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าใต้ตาเต็มขึ้น ถุงใต้ตาจางลงแล้วครับ
หรือในคนที่มีปัญหาใต้ตาดำ ยังอายุน้อย ๆ อยู่ อาจลองเริ่มฉีดข้างละ 0.5 CC เก็บรายละเอียดผิวชั้นบนเพื่อดูผลลัพธ์ก่อนก็ได้ ถ้ายังไม่พอใจก็ค่อย ๆ มาทยอยเติม ไม่จำเป็นต้องฉีดอัดไปเยอะ ๆ ทีเดียวครับ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ วิเคราะห์ปัญหาไม่ถูกจุด ฉีดไม่ถูกจุด เน้นฉีดเข้าไปเยอะ ๆ อย่างเดียว อาจทำให้ใต้ตาดูบวม เป็นก้อน ไม่สวยได้ครับ (การแก้ไขคือต้องมาฉีดสลาย เสียเงิน เสียเวลา)
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีอะไรบ้าง ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนแข็ง : เกิดจากใช้ฟิลเลอร์ปลอม สารอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Hyaluronic Acid (HA) เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วตาบอด : เกิดจากการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปอุดตันในเส้นเลือด เมื่อเลือดไม่ไหลเวียนไปเลี้ยงเนื้อบริเวณนั้น ทำให้เกิดเนื้อตายและตาบอดได้ หากใช้ฟิลเลอร์แท้ต้องรีบฉีดสลายโดยใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์ปลอมจะไม่มีวิธีฉีดสลายครับ
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วมีอาการอักเสบ : เกิดจากอุปกรณ์หรือห้องทำหัตถการที่ไม่สะอาดเพียงพอ เช่น คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือหมอกระเป๋าที่ฉีดตามคอนโด ทำให้เกิดการปนเปื้อนระหว่างฉีดฟิลเลอร์
หากคนไข้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในคลินิกที่ได้มาตรฐาน หมอมีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ ก็มั่นใจได้ว่าจะมีความปลอดภัยครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม เป็นก้อน อันตรายไหม แก้ไขอย่างไร ?
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ครับ ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ 100% แต่ก็จะไม่ได้บวมมากจนผิดปกติครับ คนไข้อาจจะรู้สึกว่าบวมเพราะยังไม่ชิน แต่ก็จะค่อย ๆ รู้สึกดีขึ้นครับ
อีกกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม คือแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีประสบการณ์ไม่มากพอ ทำให้ประเมินปัญหาและเลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม เช่น ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฉีดในผิวชั้นตื้นเกินไป ซึ่งใต้ตาก็เป็นจุดที่ผิวบางอยู่แล้ว ทำให้เห็นเนื้อฟิลเลอร์นูนเป็นก้อน จริง ๆ แล้วไม่ได้อันตราย แต่เป็นเรื่องความสวยงาม และความมั่นใจของคนไข้ ก็จะแนะนำให้รีบแก้ไขครับ
ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา
หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน การแก้ไขสามารถทำได้โดยการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา โดยใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) และสามารถฉีดฟิลเลอร์ใหม่อีกครั้งได้ครับ
ข้อควรปฏิบัติ ข้อห้าม และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลข้างเคียงไม่มีอะไรมากครับ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด
- อาจมีอาการบวม รอยแดงหรือเขียวช้ำ เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)
- คลินิกจะมียาแก้ปวด ลดบวมให้ สามารถทานได้หากมีอาการปวด
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF อย่างน้อย 1 เดือน
- ไม่ควรขยับผิวในจุดที่ทำมาก ๆ โดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
- งดทานอาหารบางชนิดที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น อาหารหมักดอง อาหารดิบ อาหารเผ็ดมาก หวานมาก รวมถึงแอลกอฮอล์และบุหรี่
ฟิลเลอร์ใต้ตารีวิว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ให้ปลอดภัย ไม่อันตราย
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก คลินิกและห้องทำหัตถการสะอาด กว้างขวาง ตั้งอยู่ในทำเลที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์
- ตรวจสอบแพทย์ที่ทำหัตถการ จากชื่อ-นามสกุล โดยสามารถเช็กได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา ว่าเป็นแพทย์จริง มีใบรับรองหรือไม่ และควรเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ ก่อนฉีดต้องแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถนำกล่องกลับบ้านได้ สามารถตรวจสอบเลข Lot. กับบริษัทนำเข้าได้
- มีรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทั้งแบบรูปภาพก่อน-หลัง และวิดีโอ ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ เช่น Facebook Review, Pantip, Google Map
- คลินิกมีการแจ้งราคาที่ตรงไปตรงมาของทุกหัตถการ ไม่หลอกขายโปร
- หลังฉีดมีการติดตามผล และมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์ผู้ทำหัตถการได้ เช่น เบอร์โทร, Line@, Facebook Messenger
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
ที่ V Square Clinic คัดสรรแพทย์ที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี เพื่อดูแลคนไข้และวิเคราะห์ปัญหาให้เป็นรายบุคคล ไม่มีเซลส์ คนไข้จะได้รับคำแนะนำที่ดีที่สุดตรงตามหลักการแพทย์
ใช้ฟิลเลอร์ที่ดีที่สุดในโลกจากแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งจากฝั่งอเมริกา ยุโรป และเกาหลี เพื่อให้มีฟิลเลอร์หลายชนิดที่เนื้อมีความแตกต่างกัน หมอสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละเคส แต่ละจุด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ คนไข้ประทับใจและบอกต่อเป็นจำนวนมาก
รวมถึงรางวัลระดับเอเชียและระดับประเทศ ที่ V Square Clinic ได้รับมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดคลินิก ก็เป็นสิ่งที่การันตีถึงคุณภาพและความไว้ใจของคนไข้ได้เป็นอย่างดี
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ? ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ หลัก ๆ ถ้าอยากให้ฉีด Filler ใต้ตาแล้วปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ไม่เป็นก้อน ควรฉีดใต้ตาในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ นอกจากนี้หมออยากให้คนไข้ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย มาก่อนราคาที่ถูกมาก ๆ ครับ เพราะเสี่ยงที่จะเจอฟิลเลอร์ปลอมหรือคลินิกเถื่อนได้