อาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นแบบไหน ? อันตรายไหม ? ใครไม่เหมาะกับฉีดฟิลเลอร์

อาการแพ้ฟิลเลอร์

แพ้ฟิลเลอร์ คืออะไร ? มีอาการอย่างไร ? เกิดจากสาเหตุอะไร ? ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง ? หรือถ้าแพ้ฟิลเลอร์ขึ้นมาแล้วมีวิธีแก้ไขอย่างไร ใครเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจพบอาการแพ้ฟิลเลอร์ ป้องกันได้ไหม ? ในวงการเสริมความงาม การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ทุกคนสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้จริงหรือ ? อาการแพ้ฟิลเลอร์ มีจริงไหม ?

สำหรับคนที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ แต่มีข้อสงสัย ในบทความนี้หมอจะสรุปข้อสำคัญที่ควรรู้ รวมถึงแนะนำว่าหลังฉีดควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้างครับ

สารบัญ แพ้ฟิลเลอร์

1. อาการแพ้ฟิลเลอร์ คือ ?
2. แพ้ฟิลเลอร์ มีอาการอย่างไรบ้าง ?
3. กลุ่มเสี่ยง ที่มักพบอาการแพ้ฟิลเลอร์คือใคร ?
4. ใครบ้างห้ามฉีดฟิลเลอร์ ?
5. แพ้ฟิลเลอร์ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?
6. ผลข้างเคียงอื่น ๆ จากการฉีด Filler
7. แพ้ฟิลเลอร์ ส่งผลเสียอะไรบ้าง ?
8. พบว่ามีอาการแพ้ฟิลเลอร์ ควรทำอย่างไร แก้ไขได้อย่างไรบ้าง ?
9. สามารถป้องกันการฉีดฟิลเลอร์แล้วแพ้ได้ไหม ?
10. หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ และการดูแลตัวเองอย่างไร ?
11. ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีให้ปลอดภัย

อาการแพ้ฟิลเลอร์ คือ ?

อาการแพ้ฟิลเลอร์ คืออาการแพ้สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายครับ 

แต่ก่อนอื่นหมออยากให้คนไข้เข้าใจก่อนครับว่า “Filler” จริง ๆ แล้วจะหมายถึงสารเติมเต็มทุกประเภทที่ฉีดเข้าสู่ผิวครับ ไม่ว่าจะเป็น Biosynthetic polymers ซิลิโคนเหลว คอลลาเจนจากสัตว์ การฉีดไขมัน และการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ดังนั้น ถ้าพูดถึงอาการแพ้ฟิลเลอร์ ต้องดูว่ามาจากสารประเภทไหนครับ

ด้วยความที่ฟิลเลอร์มีหลายประเภท ผลิตจากสารที่แตกต่างกัน จึงอาจทำให้ร่างกายเกิดการแพ้ได้ครับ เช่น คอลลาเจนจากสัตว์ที่ปัจจุบันไม่นิยมแล้วเพราะทำให้แพ้บวมแดงได้ง่าย หรือพวกซิลิโคนเหลวก็เป็นอันตรายกับร่างกาย 

สำหรับในประเทศไทยสารเติมเต็มที่ผ่าน อย. ต้องเป็นสารที่ฉีดแล้วสลายได้ ไม่ใช่สารที่อยู่ถาวร ปัจจุบันมีประเภทเดียวคือฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ครับ ข้อดีของ Hyaluronic Acid คือเป็นสารที่ผลิตเลียนแบบ Hyaluronic Acid ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ เสี่ยงแพ้น้อย และมีความปลอดภัย ดังนั้นฟิลเลอร์แท้ที่หมอในไทยพูดถึงก็จะหมายถึงฟิลเลอร์ที่เป็น Hyaluronic Acid เท่านั้นครับ

แพ้ฟิลเลอร์ มีอาการอย่างไรบ้าง ?

อาการแพ้ฟิลเลอร์ อาจจะแสดงทันที หรือแสดงอาการเมื่อผ่านไปแล้วหลายเดือนก็ได้ ขึ้นอยู่กับสารที่ฉีดและร่างกายของแต่ละคนด้วยครับ ส่วนใหญ่เวลาแพ้จะมีอาการดังนี้

• รู้สึกคันบริเวณที่ฉีด ตาบวม 
• ฟิลเลอร์เป็นก้อน นูน แดงและอักเสบ
• ปวดบวม แดง ร้อน มีตุ่ม หรือก้อนหนองบริเวณที่ฉีด
• เป็นผื่น ลมพิษแบบรุนแรง (Angioedema) พบได้น้อยมากหรือแทบไม่พบเลยหากฉีดด้วย Hyaluronic Acid ถ้ามีอาการต้องรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที

กลุ่มเสี่ยง ที่มักพบอาการแพ้ฟิลเลอร์คือใคร ?

กลุ่มเสี่ยงที่มักพบอาการแพ้ฟิลเลอร์ ถ้าพูดถึง Filler โดยรวม กลุ่มเสี่ยงคือคนไข้ที่ไปฉีดสารจำพวกซิลิโคนเหลว คอลลาเจนจากสัตว์ ถือว่ามีความเสี่ยงในการแพ้ทั้งหมดครับ ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid และการฉีดไขมันที่เป็นไขมันจากร่างกายคนไข้เองจะเป็นส่วนน้อยมากหรือแทบไม่พบอาการแพ้เลย

แต่การฉีดฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ก็จะมีกลุ่มที่หมอไม่แนะนำให้ฉีดอยู่ครับ

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? มีข้อควรทราบ ข้อควรป้องกันและการดูแลตัวเองอย่างไร ?

ใครบ้างห้ามฉีดฟิลเลอร์ ?

• ผู้ที่มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ หรือแพ้สาร Hyaluronic Acid 
• ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ (ในฟิลเลอร์บางรุ่นมียาชาผสมอยู่)
• ผู้ที่มีอาการอักเสบ ติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
• ผู้ที่เป็นเริม หรืองูสวัดอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้อาการกำเริบมากขึ้น
• สตรีมีครรภ์ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ และผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนฉีด
• ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (ASA), ยาแก้อักเสบปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (NSAIDS), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Warfarin), วิตามินอี (Vitamin E), สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba)

แพ้ฟิลเลอร์ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?

ถ้าฉีดฟิลเลอร์แท้ที่เป็น Hyaluronic Acid (HA) แล้วแพ้ที่ตัวสารเองเลย เป็นเพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายคนไข้ครับ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ มากกว่า เช่น 

1. ใช้ฟิลเลอร์ปลอม/ฟิลเลอร์หิ้ว ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่าน อย.
2. ฉีดฟิลเลอร์ประเภทซิลิโคนเหลว คอลลาเจนจากสัตว์
3. เทคนิคการฉีดของแพทย์ไม่ถูกต้อง หรือฉีดกับหมอกระเป๋า
4. อุปกรณ์/ห้องหัตถการฉีดฟิลเลอร์ไม่สะอาด

ผลข้างเคียงอื่น ๆ จากการฉีด Filler

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่เป็นอันตราย

การฉีดฟิลเลอร์เองก็มีผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้ เช่น หลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วงแรก ๆ จะสังเกตว่ามีอาการบวมเกิดขึ้น เป็นอาการบวมจากเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่หรืออาการบวมเข็ม จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 5-7 วัน และเข้าที่ 100% ใน 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ก็อาจจะมีอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รอยแดง รอยช้ำ รอยเข็ม คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ 

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่อันตราย

• มีผื่นคัน ตุ่ม บวมแดง ผิวหนังร้อนบริเวณที่ฉีด
• ปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น มากกว่าปกติ
• กดเจ็บบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
• ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ แดงหรือคล้ำที่ผิดปกติ 
• ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง ไหล ผิดรูป 

*หากพบอาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงทีครับ

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม เกิดจากสาเหตุใด บวมกี่วัน ดูแลตัวเองอย่างไรดี ?

แพ้ฟิลเลอร์ ส่งผลเสียอะไรบ้าง ?

อาการแพ้ฟิลเลอร์ ทำให้ผิวเกิดการอักเสบ รุนแรงถึงขั้นติดเชื้อ เป็นหนอง และอาจมีอาการเนื้อเน่า เนื้อตาย ในกรณีที่ฉีดสารเหลว ไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ จะทำให้เนื้อผิดรูป แก้ไขได้ยาก ต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้นครับ และเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผิวกลับมาสวยเหมือนเดิม 

แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ (HA) ฉีดแล้วมีปัญหา ก็สามารถฉีดสลายออกได้ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) ผิวจะกลับคืนสู่สภาพเดิม ไม่มีผลข้างเคียงครับ

พบว่ามีอาการแพ้ฟิลเลอร์ ควรทำอย่างไร แก้ไขได้อย่างไรบ้าง ?

วิธีแก้ไขอาการแพ้ฟิลเลอร์

ถ้าฉีดฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid แล้วมีอาการแพ้สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันทีครับ หากเป็นอาการแพ้ที่เกิดจากฟิลเลอร์ชนิดอื่น ๆ ต้องดูว่าอาการของคนไข้เป็นอย่างไร แล้วรักษาตามอาการ และต้องนำสารที่ฉีดเข้าไปออกจากร่างกายโดยเร็วที่สุด

สามารถป้องกันการฉีดฟิลเลอร์แล้วแพ้ได้ไหม ?

อาการแพ้ฟิลเลอร์ ที่เป็นสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน สามารถป้องกันได้ครับ คนไข้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ศึกษาข้อมูลของคลินิกที่จะไปฉีด ว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดกับแพทย์จริง ๆ ที่มีประสบการณ์

วิธีป้องกันการฉีด Filler แล้วแพ้ฟิลเลอร์

• เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ห้องทำหัตถการกว้างขวาง สะอาด สว่าง มีอุปกรณ์ครบครัน
• แพทย์ประจำคลินิก ตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง มีเลขว. สามารถนำชื่อ-นามสกุล เช็กกับแพทยสภาได้
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ก่อนฉีดแพทย์ต้องแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถนำกล่อง/หลอด กลับบ้านได้
• ก่อนฉีดหากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ หรือแพ้ยาชา ต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้ง เพราะในฟิลเลอร์บางรุ่นมีส่วนผสมของยาชา
• เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์ งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีด พักผ่อนให้เพียงพอ หากผิวหนังบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์มีอาการอักเสบ หรือเป็นโรคผิวหนัง แพทย์จะพิจารณาให้เลื่อนการฉีดออกไปก่อน

หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ และการดูแลตัวเองอย่างไร ?

• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่ เนื่องจากมีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ทำให้ยุบบวมช้า
• งดหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู และอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ  
• งดอาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
• งดอาหารที่หวานจัด เช่น นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นการอักเสบได้
• หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบ จากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากพยาธิบางชนิดจะทำปฎิกิริยากับฟิลเลอร์แล้วเกิดการอักเสบ

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีให้ปลอดภัย 

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ที่ V Square Clinic ดูแลโดยทีมแพทย์ประสบการณ์ 15 ปี ที่ประจำอยู่ทุกสาขา มีความรู้ด้านกายวิภาค เข้าใจปัญหาของคนไข้ แก้ปัญหาได้ตรงจุด ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หมอจะเลือกรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ ให้เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ Fine Art of Filler มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ที่ประทับใจและบอกต่อเป็นจำนวนมาก 

นอกจากนี้ V Square Clinic ยังได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เปิดคลินิก ดูแลใบหน้าและความงามให้กับดารา เซเลป แถวหน้าของเมืองไทย มั่นใจได้ว่าคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาปัญหาและปรับรูปหน้ากับหมอ จะกลับออกไปพร้อมความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น 

สรุป

อาการแพ้ฟิลเลอร์ มักจะเกิดกับฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ใช่ Hyaluronic Acid ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ คนไข้ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ หากเกิดปัญหาหรือมีอาการแพ้สามารถแก้ไขได้ทันที และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัยครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ