ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ? ฟิลเลอร์เป็นก้อนลักษณะแบบไหนที่ปกติ แบบไหนที่อันตราย ? ส่วนใหญ่พบที่ตำแหน่งไหน ? หากฟิลเลอร์เป็นก้อน มีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง ? เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ให้ปลอดภัย ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ?
เพราะถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังฉีด แต่ถ้าเลือกฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังแล้ว อาจทำให้เสี่ยงเกิดผลข้างเคียงตามมา ที่พบได้บ่อยคือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนครับ ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบเพื่อให้คนไข้สามารถศึกษาข้อมูล พร้อมสังเกตอาการฟิลเลอร์เป็นก้อนครับ
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีอาการอย่างไรบ้าง ?
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? หายเองได้ไหม ? อันตรายไหม ?
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีทั้งอาการที่เกิดขึ้นได้ปกติ และอาการที่ผิดปกติครับ ซึ่งทั้ง 2 แบบจะมีอาการบวมที่ต่างกัน ซึ่งมีวิธีสังเกตดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เกิดขึ้นได้ปกติ ไม่อันตราย
อาการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เกิดขึ้นได้ปกติ ไม่อันตราย คนไข้สามารถสังเกตได้จากการสัมผัส หากคลำแล้วรู้สึกนูน ๆ เล็กน้อยอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง เวลาแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หัวเราะ หรือพูดแล้วก้อนฟิลเลอร์ไม่ปรากฏขึ้นมา มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อาการฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมในลักษณะนี้ถือว่าไม่อันตรายครับ ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ยุบบวมเข้าที่ เรียบเนียนไปกับผิวประมาณ 1-2 อาทิตย์
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เป็นอาการผิดปกติ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เป็นอาการผิดปกติ หากคนไข้คลำผิวชั้นตื้นแล้วรู้สึกว่าฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง หรือฟิลเลอร์เป็นลำที่มองเห็นชัดด้วยตาเปล่า และจะมองเห็นชัดขึ้นเวลาขยับหน้า อาการลักษณะนี้เกิดจากแพทย์มีประสบการณ์ไม่มากพอ ฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิว ทำให้มองเห็นฟิลเลอร์เป็นก้อน สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ แต่จะใช้ได้แค่กับฟิลเลอร์แท้เท่านั้น
แต่ในรายที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวมขึ้นเรื่อย ๆ มีอาการบวมแดงหรือคล้ำในบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ จับแล้วเจ็บ ร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ ลองใช้หลังมือแตะ คล้ายวิธีวัดไข้ อาการลักษณะนี้ถือว่าอันตรายครับ ส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากคลินิกใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สามารถสลายได้ เมื่อฉีดเข้าไปจึงทำให้ดูเป็นก้อน คนไข้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาโดยเร็วครับ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มักพบในตำแหน่งไหนบ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มักพบใน 5 ตำแหน่งดังนี้
1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน
ตำแหน่งใต้ตาเป็นตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุด เนื่องจากผิวบริเวณนี้จะค่อนข้างบาง หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตื้นเกินไป หรือเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ฟิลเลอร์นูนขึ้นเหนือชั้นกล้ามเนื้อ มองเห็นเป็นก้อนใต้ตา บวม ย้อย หรือเห็นเป็นถุงใต้ตาได้
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน
2. ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน
สาเหตุของการฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน จะเกิดจากแพทย์ขาดประสบการณ์ เลือกชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับเนื้อปาก ซึ่งบริเวณปากจะเป็นบริเวณที่มีการขยับบ่อย หากใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งก็จะทำให้ได้รูปทรงปากที่อวบอิ่มเกินพอดี ปากเจ่อคล้ายปากเป็ด ดูไม่เป็นธรรมชาติครับ
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมจะใช้เพียง 1 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนได้ครับ นอกจากคนที่ปากบางมาก หรืออยากได้ทรงอวบอิ่มแบบฝรั่งก็จะเพิ่มจำนวน CC ตามความเหมาะสม
3. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นก้อน
ในเคสที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นก้อน หน้าผากนูน ผิวเป็นคลื่นไม่เรียบเนียน จะมีสาเหตุมาจากการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากจนเกินไป โดยในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแต่ละครั้ง หมอไม่แนะนำให้ฉีดเกิน 5 CC ครับเพราะจะทำให้เกิดการกดทับเนื้อเยื่อและบวมลงมาถึงบริเวณรอบดวงตาได้ แต่ในเคสที่มีปัญหาหน้าผากยุบ หรือแบนมาก สามารถใช้ฟิลเลอร์ 2-5 CC โดยทยอยฉีดทีละ 3-5 CC ได้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นก้อน ในอีกกรณีหนึ่ง คือ แพทย์ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในชั้นผิวชั้นตื้น ซึ่งเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ถูกวิธี คือ จะต้องฉีดในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ถึงจะดูเป็นธรรมชาติครับ
4. ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน
ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน เกิดจากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อ mentalis ดึงฟิลเลอร์มารวมกันเป็นก้อน ทำให้เวลาพูด เวลายิ้มจะเห็นคางย้อยได้ครับ ถึงแม้จะฉีดคางด้วยฟิลเลอร์แท้ก็ตาม ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คาง จะต้องฉีดในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก โดยจะเป็นชั้นใต้กล้ามเนื้อลึกลงไป ทำให้ mentalis ไม่ดึง ฟิลเลอร์คาง มารวมเป็นก้อนครับ
5. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน มักจะเกิดจากหมอฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจะต้องฉีดลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ และต้องฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย ไม่ได้เป็นการฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง เพื่อป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม หากฉีดในชั้นผิวที่ไม่ลึกพอ ฟิลเลอร์จะโดนดึงขึ้นไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้มทำให้เป็นก้อน และจะยิ่งทำให้ร่องแก้มลึกขึ้นกว่าเดิมได้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากสาเหตุอะไร ?
1. ฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ใช่สาร Hyaluronic Acid
ฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ใช่สาร Hyaluronic Acid ส่วนใหญ่จะเป็นสารเติมเต็มประเภทซิลิโคนเหลว พาราฟินซึ่งสารเติมเต็มจำพวกนี้เมื่อฉีดแล้วจะอยู่ถาวร ไม่สามารถสลายได้ เมื่อเวลาผ่านไปจะจับตัวกันเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล ทำให้ใบหน้าผิดรูป อักเสบ
ในไทยมีฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ผ่าน อย. มีหลายยี่ห้อครับ เช่น ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน), ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา), ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์), ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี), ฟิลเลอร์ Flore (เกาหลี) เป็นต้น ซึ่งแพทย์จะประเมินและเลือกใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับบริเวณที่คนไข้ต้องการแก้ปัญหา เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติที่สุด
2. แพทย์ไม่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคไม่ถูกต้อง
แพทย์ที่ขาดความรู้และประสบการณ์จะทำให้มีความเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ เพราะใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง ฉีดผิดตำแหน่ง หรือผิดชั้นผิว ดังนั้นควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะแพทย์จะรู้มีความรู้เกี่ยวกับกายวิภาคเป็นอย่างดี มีเทคนิคด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาสวย ฟิลเลอร์ไม่เป็นก้อน
3. ใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด หรือใช้ปริมาณเยอะเกินไป
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นจะมีขนาดโมเลกุลที่ต่างกันครับ มีทั้งฟิลเลอร์เนื้อแน่น เนื้อนิ่ม และเนื้อละเอียด จึงทำให้เหมาะกับการฉีดในตำแหน่งที่ต่างกันออกไป เช่น ฟิลเลอร์เนื้อแน่นที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ และคงตัวสูง จะเหมาะกับการฉีดในผิวชั้นลึก ถ้านำมาฉีดในผิวชั้นตื้นจะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้
4. ใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่เยอะเกินไป
การใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับการแก้ปัญหาในจุดที่ต้องการฉีด ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ครับ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในตำแหน่งนี้จะใช้ฟิลเลอร์ปริมาณ 2-4 CC ก็เพียงพอสำหรับการแก้ปัญหาครับ เพราะบริเวณใต้ตาเป็นบริเวณที่ต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติที่สุด หากใช้ปริมาณ CC เยอะเกินไป ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม เวลายิ้มจะทำให้ใต้ตาเป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติครับ
วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ – ฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์ปลอม สังเกตอย่างไร ?
บทความแนะนำ : ฟิลเลอร์ปลอม สังเกตอย่างไร ? อันตรายแค่ไหน ?
- เป็นฟิลเลอร์ประเภทซิลิโคนเหลว พาราฟิน ฉีดแล้วอยู่ได้ถาวร ไม่สามารถสลายได้ หลังฉีดจะเห็นผลดีในช่วงแรก แต่พอนาน ๆ ไปฟิลเลอร์จะจับตัวเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือกลายเป็นพังผืด ต้องผ่าหรือขูดเลาะออกเท่านั้น
- เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถหาซื้อเองได้ตามอินเทอร์เน็ต หรือเป็นฟิลเลอร์หิ้วโดยหมอกระเป๋า ซึ่งถือเป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้าแบบผิดกฎหมาย ไม่ผ่าน อย.
- ไม่มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- ราคาถูกเกินจริง พบได้ตามคลินิกเถื่อน มักฉีดโดยหมอกระเป๋า
- กล่องฟิลเลอร์มีฉลากไม่ชัดเจน ผ่านการแกะกล่องมาแล้ว
ฟิลเลอร์แท้ สังเกตอย่างไร ?
- เป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid ฉีดแล้วสามารถสลายได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- มีเลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับภาษาไทย เลข lot ที่กล่องตรงกันทุกจุด
- หมอแกะกล่อง แกะหลอดใหม่ให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถนำกล่องกลับบ้านได้เพื่อนำไปตรวจสอบกับบริษัทนำเข้า
- คลินิกได้มาตรฐาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ควรมีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า และมีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง
ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อได้มาตรฐาน ก่อนฉีดแพทย์แกะกล่อง แกะหลอดใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง คนไข้สามารถนำกล่องและหลอดกลับบ้าน เพื่อไปตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ ให้บริการโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านปรับรูปหน้า รับประกันผลทุกเคส มั่นใจได้ว่าปลอดภัยครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร ?
1. ฉีดสลายฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน สามารถใช้สารไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) มาฉีดสลายฟิลเลอร์ ได้ครับ แต่จะใช้ได้ในกรณีที่คนไข้ฉีดฟิลเลอร์แท้ที่เป็นไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เท่านั้น
ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์แพทย์จะสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นว่า คนไข้ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร เป็นฟิลเลอร์แท้ไหม ฉีดมากี่ CC ฉีดตำแหน่งไหน และฉีดมานานแค่ไหน ? เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินปัญหาและคำนวณปริมาณตัวยาที่จะใช้ฉีดสลายจากปริมาณฟิลเลอร์ที่คนไข้ฉีดมาครับ หลังฉีดสลายจะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลชัดว่าผิวเรียบเนียนขึ้นใน 1-3 วัน หากต้องการฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม ควรเว้นระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังฉีดสลายไปแล้ว
2. ขูด เลาะฟิลเลอร์
หากคนไข้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอมซิลิโคน หรือ พาราฟิน จะไม่สามารถใช้สารไฮยาลูโรนิเดสฉีดสลายได้ครับ หากต้องการเอาออก ต้องทำการขูดออกเท่านั้นครับ
3. ผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก
ในคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาแล้วเกิดอักเสบ ฟิลเลอร์เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก จะต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก ซึ่งจะไม่สามารถเอาฟิลเลอร์ออกได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดมา ต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมในโรงพยาบาลครับ
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ให้ปลอดภัย ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ?
- คลินิกได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข ติดแบบแสดงรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิก สะอาด ปลอดภัย
- แพทย์มีประสบการณ์ จะสามารถประเมินปัญหาใบหน้าได้ตรงจุด ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องเพื่อลดการบวมช้ำ ไม่มีผลข้างเคียง ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ มีคุณภาพ ฟิลเลอร์แท้จะสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง ก่อนฉีดจึงควรตรวจสอบว่าฟิลเลอร์นั้นนำเข้าและเก็บรักษาอย่างถูกต้องหรือไม่ และควรให้แพทย์แกะกล่องและหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า หลังฉีด filler ควรเก็บกล่องและหลอดฟิลเลอร์กลับบ้าน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้จริง ๆ ครับ
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ควรตรวจสอบรีวิว พิจารณาผลการรักษาที่ผ่านมาของคลินิกนั้น ๆ จากแหล่งที่เป็นกลางเชื่อถือได้ ควรดูรีวิวผลลัพธ์ในรูปแบบคลิปวิดีโอ เพื่อให้เห็นการรักษาที่เป็นจริงโดยไม่ใช้รูปถ่ายสวย ๆ ที่อาจถูกปรับแต่งได้
บทความแนะนำ : Checklists ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ปลอดภัย ผลลัพธ์ชัดเจน
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน วิธีป้องกันปัญหานี้ที่ดีที่สุด คือ เลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ออกมาสวย เรียบเนียน ปลอดภัย เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะต้องอาศัยความรู้ด้านกายวิภาค และใช้ฝีมือในการออกแบบใบหน้าให้กับคนไข้ “Fine Art of Filer” เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามครับ
