เปรียบเทียบ ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไร ? แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน ?

Categories
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไรบ้าง ? มีข้อดี – ข้อเสีย อะไรบ้าง ? ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ? แบบไหนอยู่ได้นานกว่ากัน เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?

ใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาใต้ตาที่ทำแล้วเห็นผลชัดเจน และลังเลว่าระหว่างฉีดไขมันใต้ตากับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกอันไหนดี ? หัตถการไหนเห็นผลคุ้มค่ากว่ากัน ? ในบทความนี้หมอจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองหัตถการมาให้ติดตามอ่านกันครับ เพื่อไว้เป็นข้อมูลในการพิจารณาเลือกวิธีแก้ปัญหาใต้ตาที่เหมาะสม คนไข้สามารถติดตามอ่านได้ครับ 

สารบัญ ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไร ?
  2. ฉีดไขมันได้ตา กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไรบ้าง ?
  3. ข้อได้เปรียบ – เสียเปรียบ ของ ฉีดไขมันได้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  4. ฉีดไขมันใต้ตาและฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน แบบไหนอยู่ได้นานกว่ากัน ?
  5. เปรียบเทียบ ฉีดไขมันได้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แบบไหนปลอดภัยกว่ากัน ?
  6. ผลข้างเคียงที่อาจพบจากการฉีดไขมันใต้ตา และฟิลเลอร์ใต้ตา
  7. ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกอะไรดี แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน ?
  8. เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?

ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไร ?

ฉีดไขมันใต้ตากับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แม้จะเป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้ทั้งคู่ แต่ก็มีความต่างกันอยู่ครับ ทั้งในแง่ของผลลัพธ์, ขั้นตอนการทำ, ระยะเวลาเห็นผล, เทคนิคการฉีด, ความเจ็บระหว่างทำ, ระยะเวลาพักฟื้น รวมถึงผลข้างเคียงหลังฉีดก็จะมีความต่างกันด้วยครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS ฉีดไขมันใต้ตา ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนดี l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

ฉีดไขมันใต้ตา

ฉีดไขมันใต้ตา คือ

การฉีดไขมันใต้ตา (Under-Eye Fat Transfer) จะเป็นการนำไขมันของคนไข้มาฉีดบริเวณใต้ตา จึงไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม จึงช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ได้ครับ โดยไขมันที่นำมาใช้จะเป็นไขมันส่วนเกินจากบริเวณต้นขาหรือหน้าท้องของคนไข้เอง เมื่อได้ปริมาณไขมันที่เหมาะสมแล้ว  แพทย์จะนำไปปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาแล้วนำไปผสมกับเนื้อเยื่อไขมัน จึงจะนำไปฉีดได้ครับ

หลังฉีดไขมันใต้ตา คนไข้จะมีอาการบวมประมาณ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นจะยุบบวม ใบหน้าเข้าที่ใน 2-3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี แต่ในการฉีดไขมันใต้ตาครั้งแรกมักจะไม่เห็นผล เพราะโดยธรรมชาติไขมันเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ หากต้องการให้ได้ผลดี คนไข้จะต้องทำซ้ำ 2-3 ครั้ง นั่นหมายถึงคนไข้จะต้องเจ็บตัวหลายครั้งครับ และการฉีดไขมัน ไม่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับหน้าเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร? ดีไหม? เหมาะกับใคร ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Under-Eye Filler) เป็นวิธีแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุด เห็นผลชัดเจน ปลอดภัยสูง และได้รับความนิยมมากที่สุดครับ โดยฟิลเลอร์จะเป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปเมื่อมีอายุมากขึ้น 

การฉีด Filler ใต้ตาเป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดที่สุด ทั้งริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ขอบตาดำ หลังฉีดจะเห็นผลทันที จากนั้นใน 4-5 วันจะค่อย ๆ เห็นผลชัดขึ้น และเห็นผลลัพธ์เข้าที่ชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์ เป็นหัตถการที่ไม่มีแผล ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมาก ช่วยให้หน้าเด็กลง ผิวชุ่มชื้น ดูสดใสขึ้นครับ


ฉีดไขมันได้ตา กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไรบ้าง ?

ข้อดี – ข้อเสียของการฉีดไขมันใต้ตา

ข้อดี - ข้อเสียของการฉีดไขมันใต้ตา

ข้อดี

  • ลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ เพราะการฉีดไขมันใต้ตา จะเป็นการใช้ไขมันของตัวคนไข้เองมาฉีด ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม จึงช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ได้
  • ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ถือว่าพักฟื้นน้อยมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัด
  • ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานกว่า 1 ปี (ขึ้นอยู่กับบุคคลและเทคนิคที่ใช้ปลูกไขมัน)

ข้อเสีย

  • มีกระบวนการทำที่ค่อนข้างยุ่งยาก ไม่สามารถทำได้ทันทีเหมือนการฉีดฟิลเลอร์ เพราะต้องมีการตรวจเช็กไขมัน ดูดไขมันออกมา และปั่นแยกเป็นของเหลว ก่อนนำมาใช้ฉีดไขมันใต้ตา
  • มีแผลในตำแหน่งที่ดูดไขมัน
  • ผลลัพธ์ในการทำครั้งแรกมักไม่เห็นผลชัดเจน หากต้องการได้ผลดี ต้องทำซ้ำอย่างน้อย 2-3 ครั้ง 
  • ไม่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาที่มีสาเหตุจากการยุบตัวจากกระดูก ต้องฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น
  • มักพบปัญหาผิวเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบในภายหลัง เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมไขมันไปใช้ได้

ข้อดี – ข้อเสียของการฉีด Filler ใต้ตา

ข้อดี

  • หลังฉีดเห็นผลทันที  และชัดเจนที่สุด ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
  • สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้ครอบคลุม ทั้งริ้วรอย ถุงใต้ตา ร่องลึกที่เกิดจากชั้นไขมันใต้ตาเกิดการยุบตัว เนื่องจากอายุที่มากขึ้น โรคภูมิแพ้ พันธุกรรม หรือริ้วรอยบนผิวชั้นตื้นที่เกิดจากผิวหน้าแห้งกร้าน 
  • ฟิลเลอร์แท้ (HA) เป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจาก อย. ฉีดแล้วไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ 
  • สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
  • ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถใช้หน้าได้ ในบางเคสอาจมีอาการบวมเข็มหลังฉีด แต่จะหายได้เอง ใน 2-3 วัน
  • ใช้เวลาในการทำไม่นาน มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก เจ็บตัวน้อย
  • คุณสมบัติอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ 
  • อยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
  • เมื่อฟิลเลอร์สลาย สามารถกลับมาเติมใต้ตาได้เรื่อย ๆ โดยไม่ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย
  • หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ 

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร อยู่ได้นาน 6-24 เดือน เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ
  • หากไม่ได้ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ผิวอักเสบ ติดเชื้อ

ข้อได้เปรียบ – เสียเปรียบ ของ ฉีดไขมันได้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ให้ผลลัพธ์ดีและเห็นผลมากกว่าวิธีอื่น ๆ ทั้งจากวิธีทางการแพทย์ และวิธีการดูแลตัวเองทั่วไปตามธรรมชาติครับ สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาได้ครอบคลุม ทั้งจากอายุที่มากขึ้น การเสื่อมสภาพของผิว เช่น ลดริ้วรอย ร่องลึกใต้ตา แก้ถุงใต้ตา ผิวหย่อนคล้อย เบ้าตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ และฉีดใต้ตาคล้ำ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด จากนั้นประมาณ 4-5 วันจะค่อย ๆ เข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์ มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากเหมือนการฉีดไขมันใต้ตา สามารถทำได้เลย

ฉีดไขมันใต้ตา

การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันของคนไข้มาฉีด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพ้ได้ แต่อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ดีเทียบเท่าการฉีดฟิลเลอร์ และการฉีดไขมันใต้ตาไม่สามารถทำได้ทันที ต้องมีการตรวจเช็กไขมันก่อนนำมาใช้ ซึ่งมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากครับ รวมถึงคนไข้จะมีแผลในตำแหน่งที่ดูดไขมัน ใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์จากอาการบวมครับ และบางคนบวมนานถึง 2 เดือน

ถ้าหากไขมันที่ดูดออกมาไม่มีคุณภาพ เซลล์เหล่านั้นก็มีโอกาสตายและลดจำนวนลง เปอร์เซ็นต์การอยู่รอดของไขมันในการฉีดแต่ละครั้งจึงไม่มาก ใน 100% อาจจะเหลือเพียง 20% เท่านั้น และการฉีดไขมันใต้ตาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาจากการทรุดตัวของไขมันและกระดูกได้  หากใครที่มีปัญหาใต้ตาจากสาเหตุดังกล่าว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นวิธีที่เหมาะสมและตรงจุดกว่าครับ 


ฉีดไขมันใต้ตาและฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน แบบไหนอยู่ได้นานกว่ากัน ?

  • หลังฉีดไขมันใต้ตา คนไข้จะมีอาการบวมประมาณ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นจะยุบบวม ใบหน้าเข้าที่ประมาณ 2-3 เดือน ให้ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คนไข้จะมีอาการบวมประมาณ 3 วัน จากนั้นจะยุบบวม ใบหน้าเข้าที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ให้ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน

การฉีดไขมันก็มีข้อจำกัด คือ ในบางเคสการฉีดไขมันครั้งแรก จะไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนเหมือนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากร่างกายจะมีการดึงไขมันส่วนนั้นไปใช้ตามกลไกธรรมชาติ ทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นตามต้องการ  และไม่สามารถหวังผลได้แน่นอน ในบางเคสผลลัพธ์หลังฉีดอาจอยู่ได้ 3-4 เดือนครับ 


เปรียบเทียบ ฉีดไขมันได้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แบบไหนปลอดภัยกว่ากัน ?

ฉีดไขมันใต้ตาอันตรายไหม

การฉีดไขมันใต้ตาจะมีความปลอดภัยในแง่ของสารเติมเต็มที่นำมาใช้ฉีด แต่ในด้านอื่น ๆ จะอันตรายกว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ โดยเฉพาะหากแพทย์ฉีดเข้าหลอดเลือด ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาพบว่ามีเคสที่เนื้อตายหรือตาบอดจากการฉีดไขมันสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์มาก เพราะไขมันไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ย่อยสลายได้ในทันทีหากเกิดความผิดพลาด และยังไม่มีทางแก้ครับ ต่างกับฟิลเลอร์ที่มีเอนไซม์ช่วยสลายได้ทันที

ฟิลเลอร์อันตรายไหม

ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แม้จะเป็นสารเติมเต็มสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ แต่ก็ยังมีความปลอดภัยกว่าการฉีดไขมันใต้ตาในหลาย ๆ ด้านครับ เช่น 

  • ฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ได้รับการอนุมัติและผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่าสามารถนำมาฉีดเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่อันตราย มีความปลอดภัยสูง 
  • สามารถสลายได้เอง 100% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี 
  • เมื่อสลายหมดก็สามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย
  • หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ผิดพลาด สามารถใช้เอนไซม์ช่วยสลายฟิลเลอร์ได้ทันที

ผลข้างเคียงที่อาจพบจากการฉีดไขมันใต้ตา และฟิลเลอร์ใต้ตา

ผลข้างเคียง ฉีดไขมันใต้ตา

  • ผลข้างเคียง ฉีดไขมันใต้ตา มักพบปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ผิวเป็นคลื่น เพราะหลังฉีดไขมันใต้ตาอาจมีไขมันบางส่วนที่สลายหายไปตามกลไกธรรมชาติที่ร่างกายสามารถดูดซึมไขมันไปใช้ได้
  • ฉีดเติมไขมันใต้ตากับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ หมอเติมผิดตำแหน่ง ก็อาจเกิดเป็นลำหรือก้อนที่ใต้ตาได้
  • มีแผลในตำแหน่งที่มีการดูดไขมันมาเพื่อฉีด
  • หลังจากการฉีดแล้วอาจมีอาการบวมประมาณ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นจะค่อย ๆ ลดลง
  • มีรอยเขียวช้ำในบริเวณที่ดูดไขมันและบริเวณใต้ตา 

ผลข้างเคียง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • 3 วันแรก คนไข้จะมีรอยแดงจากเข็ม ในคนที่ผิวบอบบางอาจมีรอยช้ำ รอยเขียวจากเข็ม หรือมีอาการบวมในจุดที่ฉีดได้เป็นปกติ เรียกว่าการบวมเข็ม หลังจาก 5-7 วัน จะไม่มีอาการบวมขึ้นอีก และค่อย ๆ ดีขึ้น ยุบบวมเข้าที่ใน 14 วัน

ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกอะไรดี แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน ?

ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดย หมอแนน และคุณฟ้า

สำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาใต้ตาแบบเร่งด่วน ไม่อยากพักฟื้นนาน การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดครับ เพราะไม่ต้องเจ็บตัวซ้ำสองรอบ ฉีดแล้วปลอดภัย สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย หลังฉีดเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที เมื่อฟิลเลอร์สลายสามารถกลับมาเติมใต้ตาได้เรื่อย ๆ หรือหากไม่พอใจในผลลัพธ์ ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ และฟิลเลอร์ยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้อีกด้วยครับ 

ปัจจุบันการแก้ปัญหาใต้ตาด้วยการฉีดไขมันใต้ตา ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าการฉีดฟิลเลอร์ครับ เพราะมีกระบวนการค่อนข้างยุ่งยาก ไม่สามารถเห็นผลในครั้งแรก และในกรณีที่คนไข้มีปัญหาใต้ตาจากสาเหตุการยุบตัวจากกระดูก การฉีดไขมันใต้ตาจะไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ครับ ต้องฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น


เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์ อันตรายไหม ? เลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? 
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี
  • ควรเลือกคลินิกได้มาตรฐาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข ติดแบบแสดงรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิก สะอาด ปลอดภัย
  • แพทย์ที่ทำหัตถการจะต้องมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์และปรับรูปหน้า และต้องเป็นแพทย์จริง โดยสามารถตรวจสอบจากชื่อ-นามสกุลของแพทย์ท่านนั้น คนไข้สามารถตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ ที่นี่
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. ปลอดภัย นำเข้าและเก็บรักษาอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบเลข Lot. ได้ 
  • ก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่อง และหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรเก็บกล่องและหลอดฟิลเลอร์กลับบ้าน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้จริง ๆ ครับ 
  • มีรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง เชื่อถือได้ และไม่สามารถลบออกได้ เช่น รีวิวติดดาวบน Facebook Fanpage, Pantip Review, Google Maps และต้องเป็นรีวิวที่อัปเดตเป็นปัจจุบัน ซึ่งจะแสดงถึงความนิยม มีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic ดีอย่างไร
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic ดีอย่างไร โดย หมอแนน และคุณฟ้า
  • แพทย์ทุกท่านมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา 
  • ทีมแพทย์ทุกคน มีการเทรนนิ่ง อัปเดตความรู้เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศเป็นประจำทุกปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการจะได้รับความพึงพอใจที่สุด
  • ปรึกษาปัญหากับแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลส์ โดยแพทย์จะประเมินปัญหาใบหน้าของคนไข้เป็นรายบุคคลตามปัญหาผิวหน้าจริง ไม่ยัดเยียดคอร์ส
  • แก้ไขปัญหาตรงจุด ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มทุกความมั่นใจให้คุณ “Feel Your Confidence”
  • มีการติดตามผลหลังทำทุกเคส 
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก หมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ให้กล่องกลับบ้าน คนไข้สามารถนำไปตรวจสอบกับผู้นำเข้าได้ทุกกล่อง 
  • ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคเฉพาะของ V Square Clinic วิเคราะห์และออกแบบการปรับรูปหน้าด้วยศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) หมอมือเบา ช้ำน้อย ไม่มีปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนในภายหลัง
  • คลินิกอยู่ในห้าง มีสาขาครอบคลุมทั่วกรุงเทพ เดินทางสะดวก  

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic แพทย์จะใช้เทคนิคพิเศษ มือเบา ช้ำน้อย ใต้ตาดูเรียบเนียน ไม่มีปัญหาไหลย้อยหรือเป็นก้อนในภายหลังครับ

🔍รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น ดูสดชื่น ตาไม่ดำ ไม่โหลไม่ดูโรยรา ช่วยหน้าดูเด็กลง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดีไหม? แก้ปัญหาขอบตาดำ ใส่แมสแล้วไม่มั่นใจ คืนความสดใสให้ใบหน้า✨
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic โดย หมอต้น และหมอซี
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

สรุป

เมื่อเปรียบเทียบการฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทั้งสองหัตถการนี้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปครับ ซึ่งถ้าใครที่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ ไม่อยากพักฟื้นนาน ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ปลอดภัย และดูเป็นธรรมชาติ หากมองเรื่องของความรวดเร็ว คุ้มค่า ราคาไม่แพง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า และเหมาะสมกว่าการฉีดไขมันใต้ตามากครับ

สำหรับคนไข้ท่านใดที่มีปัญหาใต้ตา  สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ ที่ V Square Clinic ได้โดยตรง เพื่อประเมินปัญหา วางแผนการแก้ไขปัญหาใบหน้า และเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม คุ้มค่าที่สุดสำหรับคนไข้ครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน