เมโสแฟตลดต้นแขน
ปัญหาต้นแขนใหญ่ เป็นอีกปัญหาที่หลาย ๆ คนกังวล ใส่ชุดอะไรก็รู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้าใส่เสื้อโชว์แขน บางคนออกกำลังกาย ควบคุมอาหารแล้ว แต่ต้นแขนก็ยังไม่ลด จึงมองหาวิธีที่จะช่วยลดต้นแขนที่เห็นผลจริงและรวดเร็ว ทั้งการดูดไขมัน การสลายไขมันด้วยความเย็น และ “การฉีดเมโสแฟตแขน” ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมครับ
ในบทความนี้ หมอจะมาอธิบายอย่างละเอียดว่าเมโสแฟตต้นแขน คืออะไร ตัวยาเมโสแฟตช่วยสลายไขมันต้นแขนได้อย่างไร เหมาะกับใครบ้าง ในการฉีดลดต้นแขนต้องใช้กี่ CC ทำแล้วกี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ราคาเท่าไร มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไรบ้าง ทุกประเด็นที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจทำครับ
สารบัญ เมโสแฟตลดต้นแขน
เมโสแฟตลดต้นแขน คืออะไร ?
เมโสแฟตลดต้นแขน คือการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมัน เข้าไปยังชั้นผิวชั้นไขมัน (Subcutis) บริเวณต้นแขน ซึ่งเป็นจุดที่มักจะมีไขมันมาสะสม สารออกฤทธิ์ในตัวยาเมโสแฟต เช่น L-carnitine, Mesostabyl จะกระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย เกิดการดึงไขมันออกจากเซลล์ จากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่ายครับ
เมื่อไขมันเกิดการสลายตัว จะเห็นว่าต้นแขนจะค่อย ๆ เล็กลง ชั้นไขมันดูลดลง ถ้าฉีด 1 ครั้งในปริมาณที่เหมาะสม จะเห็นว่าต้นแขนเล็กลงกว่าเดิม 10-15 % ในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ครับ หากต้องการลดไขมันลงอีก ก็สามารถฉีดเพิ่มได้ครับ
บทความแนะนำ
แขนใหญ่ ไขมันสะสมที่ต้นแขน เกิดจากอะไร สาเหตุของแขนใหญ่
ต้นแขนใหญ่ มีไขมันส่วนเกิน เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
- กรรมพันธุ์ พ่อแม่ที่มีรูปร่างอ้วน อาจจะส่งต่อพันธุกรรมที่ทำให้รูปร่างอ้วนใหญ่ไปยังลูกได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลัก 100% มีผลแค่ 40-70% เท่านั้น ความอ้วนที่เกิดจากกรรมพันธุ์จะลดได้ค่อนข้างยากครับ
- เพศและอายุ เพศและอายุมีความเกี่ยวข้องกับการรักษารูปร่างในด้านของการเผาผลาญอาหาร กล่าวคือ ผู้ชายมีแนวโน้มเผาผลาญได้เร็วกว่าผู้หญิง และเมื่อคนเราอายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญจะลดลง แต่ตามสถิติแล้วผู้ชายจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากกว่าผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจะเป็นไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพก ต้นขา ต้นแขนมากกว่าครับ
- ทานอาหารประเภทไขมัน แป้ง หรือโซเดียมมากเกินไป หากทานอาหารที่เป็นไขมัน คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลเกินปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน สุดท้ายจะถูกเปลี่ยนสภาพมาเป็นไขมัน เมื่อสะสมมาก ๆ ทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด จึงเกิดการสะสมและแทรกซึมอยู่บริเวณอวัยวะต่าง ๆ และการทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ส่งผลให้ดูตัวบวมขึ้นได้ครับ
- ไม่ค่อยขยับหรือออกกำลังกายน้อย หากเป็นคนที่นั่งทำงานอยู่กับที่ เคลื่อนไหวร่างกายน้อย ไม่ออกกำลังกาย ร่างกายจึงใช้พลังงานน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็อาจเกิดไขมันสะสมได้ เนื่องจากร่างกายไม่ได้เกิดการเผาผลาญสารอาหารเท่าที่ควร จึงสะสมไว้ในร่างกาย
- ต้นแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่ง เล่นกีฬาที่ต้องออกแรงแขนเยอะ อาจทำให้ต้นแขนดูใหญ่ได้ แต่สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันครับ
วิธีกำจัดไขมันต้นแขน วิธีต่าง ๆ
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
วิธีนี้เป็นวิธีกำจัดไขมันต้นแขนที่จะช่วยลดไขมันได้ตั้งแต่ต้นเหตุ ควรรับประทานที่มีสารอาหารอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ ถ้ามวลกล้ามเนื้อมากขึ้น ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ใช้น้ำมัน มีไขมันสูง เช่น อาหารประเภททอด ผัด อาหาร junk food
และเมื่อเปลี่ยนการรับประทานอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย โดยเฉพาะเวทเทรนนิ่งบริหารแขนและต้นแขน จะช่วยให้ไขมันต้นแขนค่อย ๆ ลดลงได้ครับ วิธีนี้เป็นวิธีลดต้นแขนที่เห็นผลจริง ยั่งยืน ดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม ประหยัด ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา และต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรครับ
- การดูดไขมันต้นแขน
การดูดไขมันต้นแขน (Arm liposuction) เป็นการใช้เครื่องมือที่ทำให้ไขมันบริเวณที่ทำเกิดการแตกตัว เช่น เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ เครื่องดูดไขมันกลุ่มความร้อน เครื่องดูดไขมันพลังงานกลการสั่นสะเทือน เมื่อไขมันแตกตัวแล้วทำการดูดไขมันออกโดยใช้ท่อหรือไซริงค์ครับ
การดูดไขมันเป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรือไขมันเยอะจากกรรมพันธุ์ ออกกำลังกายแล้วไม่ลง ต้องการเห็นผลชัดเจน รวดเร็ว เห็นว่ายุบทันที และเหมาะกับคนที่อ้วนมาก ๆ แต่เป็นวิธีที่ค่อนข้างเจ็บ บวมช้ำนาน อาจจะต้องพักฟื้นนานเกิน 1 เดือน หลังทำมีบางเคสพบปัญหาผิวไม่เรียบในบริเวณที่ดูดไขมัน ต้องทำการแก้ไข และทิ้งรอยแผลเป็นตามแนวที่สอดเครื่องมือได้ครับ
- การสลายไขมันด้วยความเย็น
การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีการสลายไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องลงมีด ไม่ต้องใช้เข็ม โดยใช้หลักการแช่แข็งเซลล์ไขมันให้แตกตัว เพราะเซลล์ไขมันจะไวต่อความเย็นมากกว่าน้ำและเนื้อเยื่ออื่น ๆ เมื่อใช้ความเย็นจัดในระยะเวลาหนึ่ง จะมีเฉพาะเซลล์ไขมันเท่านั้นที่ถูกแช่แข็ง เกิดเซลล์ไขมันตายและถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ถาวรครับ
เครื่องที่นิยมใช้ในการสลายไขมันด้วยความเย็นและเป็นเครื่องที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล คือ เครื่อง CoolSculpting ครับ สามารถลดไขมันส่วนเกินลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง เหมาะกับคนที่ไม่อยากมีแผลผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น และมีไขมันสะสมไม่เยอะมาก BMI<35 ครับ
- การฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟตเป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันเข้าไปในผิวชั้นไขมัน กระตุ้นให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัว หรือกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยในการดึงไขมันออกจากเซลล์ จากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย ในการฉีด 1 ครั้งตามปริมาณที่เหมาะสม ไขมันจะลดลงได้ 10-15% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 อาทิตย์
แต่การฉีดเมโสแฟตมีข้อเสียคือหวังผลได้ไม่แน่นอน และอาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน เนื่องจากการออกฤทธิ์ของตัวยานั้นขึ้นกับปัจจัยของร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผลดีมาก บางคนไม่เห็นผลก็มีครับ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัดอาจจะทดลองใช้วิธีนี้ก่อน หากเห็นผลดีก็จะช่วยประหยัดเงินได้ครับ
ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน หรือ ฉีดโบท็อกต้นแขน วิธีไหนได้ผลดีกว่า พิจารณาเลือกอย่างไร ?
การที่จะเลือกว่าเมโสแฟตลดต้นแขนและโบท็อกต้นแขนวิธีไหนดีกว่ากัน ? ต้องพิจารณาจากโครงสร้างต้นแขนของแต่ละคนเป็นหลักครับ โดยถ้าต้นแขนใหญ่จากไขมัน แขนย้วย เมื่อยกแขนขึ้นมาทำมุม 90 องศา แล้วลองจับดูจะเป็นเนื้อนิ่ม ๆ แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันจะเห็นผลดีกว่าครับ
แต่ถ้าจับแล้วแขนตึงแน่น เป็นกล้ามเนื้อหนา แนะนำให้ใช้โบท็อกเพื่อคลายกล้ามเนื้อต้นแขน ลดความตึงของกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่เป็นก้อน ต้นแขนก็จะดูลดลงได้ครับ
ในการเลือกใช้ หมอจะตรวจประเมินจากลักษณะของต้นแขนในแต่ละเคสว่าจุดที่คนไข้ต้องการลดเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน อาจจะเลือกทำวิธีใดวิธีหนึ่ง หรือทำทั้งเมโสแฟตและโบท็อกควบคู่กันไปได้ครับ
แต่คนไข้ที่มีปริมาณไขมันสะสมเยอะมาก ๆ การฉีดเมโสแฟตลดต้นแขนอาจไม่คุ้มครับ เพราะต้องใช้ปริมาณตัวยามาก และทำหลายครั้ง หมอจะแนะนำการดูดไขมัน หรือทำ CoolSculpting (สำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด) ก็จะช่วยสลายไขมันบริเวณต้นแขน ทำให้สัดส่วนเล็กลงได้ครับ
กระบวนการทำงานของเมโสแฟตต้นแขนเป็นอย่างไรบ้าง ?
หลังจากฉีดเมโสแฟตเข้าสู่ชั้นผิวในบริเวณที่มีไขมันต้นแขน ตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวหรือดึงไขมันออกจากเซลล์ และช่วยกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยให้ร่างกายนำไขมันไปใช้ได้มากขึ้น ลดการสร้างและลดการสะสมไขมันใหม่ จากนั้นไขมันจะถูกขับออกตามทางการหายใจและการขับถ่ายครับ
เมโสแฟตต้นแขนเจ็บไหม ?
การฉีดเมโสแฟตเจ็บเล็กน้อยครับ โดยจะรู้สึกได้ตอนแทงเข็มหรือตอนกำลังเดินยาเท่านั้นสามารถใช้การประคบน้ำแข็งช่วย หรือแปะยาชาสำหรับคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ สำหรับคนที่กลัวว่าการฉีดเมโสแฟตจะเจ็บก็ไม่ต้องกังวลครับ
เมโสแฟตลดต้นแขน เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณต้นแขน แขนใหญ่ แขนย้วย จับแขนแล้วเป็นเนื้อนิ่ม ๆ
- เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการมีรอยแผล
- เหมาะกับคนที่มีไขมันไม่มาก หรือมีไขมันมากแต่มีงบประมาณจำกัด สามารถทยอยฉีดได้
รีวิวฉีดเมโสแฟตสลายไขมันต้นแขน
ข้อดี – ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน
ข้อดีของการฉีดเมโสแฟตแขน
- เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ใช้เวลาในการทำน้อย ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น
- การเตรียมตัวก่อนทำไม่ยุ่งยาก หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ
- เห็นผลเร็ว สามารถทำซ้ำได้ถ้าอยากให้เห็นผลดียิ่งขึ้น
- สามารถลดไขมันได้ครั้งละ 10-15%
- ทำได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท
- ไม่มีรอยแผล ไม่มีรอยผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
- ราคาไม่แพง สามารถทยอยทำได้
ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟตแขน
- หลังทำจะมีอาการบวมตามปริมาตรของยา แต่จะยุบบวมได้เองใน 3-4 ชั่วโมง
- ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมันครับ ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป
- เมโสแฟตเป็นการใช้ปฏิกิริยาเคมีกับเซลล์ไขมัน หวังผลได้ไม่แน่นอน หากมีไขมันสะสมเยอะมาก จะเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อยมากและต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
- อยู่ได้ไม่ถาวร ต้องอาศัยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะคงผลลัพธ์ได้ยาวนานมากขึ้น
เมโสแฟตลดต้นแขน เห็นผลจริงไหม กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดเมโสแฟตต้นแขนจะเห็นว่าไขมันลดลงได้ 10-15% ในระยะ 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามการดูแลตัวเองหลังทำเมโสแฟต ควบคุมการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายร่วมด้วย จะเห็นผลชัดเจนขึ้นครับ
ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน กี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
ในการฉีดเมโสแฟต 1 ครั้ง ตามที่แพทย์ได้คำนวณปริมาณยาเมโสแฟตที่เหมาะสม ไขมันต้นแขนลดลงประมาณ 10-15% ครับ หากต้องการลดไขมันลงอีก ก็สามารถฉีดเพิ่มได้ในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ครับ โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลังทำประมาณ 4-5 ครั้งครับ
เมโสแฟตลดต้นแขน แต่ละครั้งใช้กี่ CC ?
โดยทั่วไป เมโสแฟตต้นแขนใช้ข้างละ 20-40 cc ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของคนไข้ หมอที่มีประสบการณ์จะสามารถแนะนำยาเมโสแฟตและจำนวน CC ที่เหมาะสม โดยการฉีด 1 ครั้ง จะเห็นว่าต้นแขนลดลงประมาณ 10-15%
เมโสแฟตต้นแขนอยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?
การฉีดเมโสแฟต 1 ครั้ง จะคงผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือนครับ ทั้งนี้ขึ้นกับการดูแลตัวเอง การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายด้วยครับ ถ้าทานเยอะ ทานมื้อดึกบ่อย ๆ ทานอาหารไขมันสูงและไม่ออกกำลังกาย ไขมันก็จะกลับมาสะสมได้ไวขึ้นครับ
เมโสแฟตต้นแขน ยี่ห้อไหนดี ?
บริเวณต้นแขนเป็นจุดที่มีไขมันสะสมมากกว่าแก้มหรือเหนียง และกินพื้นที่เป็นวงกว้าง การเลือกยี่ห้อเมโสแฟต ควรเลือกยี่ห้อที่ช่วยสลายไขมันได้เร็ว ตัวยาไม่แสบจนเกินไปเพราะต้องใช้ยาปริมาณมาก และควรจะช่วยยกกระชับได้ด้วย เพราะเมื่อไขมันลดลงผิวหนังอาจเกิดความหย่อนคล้อยได้ โดยยี่ห้อเมโสแฟตที่นิยมใช้ มีดังนี้
- เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella
เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella จากประเทศเกาหลี มีส่วนผสมหลักของตัวยาเป็น Deoxycholic acid (DCA) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยาสลายไขมันตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก US-FDA ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการฉีดในจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ครับ
ข้อดี : สลายเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการลดไขมันบริเวณลำตัว หน้าท้อง แขน ขา
ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ
- เมโสแฟตยี่ห้อ FNC
เมโสแฟตยี่ห้อ FNC 30 เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีไขมันสะสมมาก และช่วยยกกระชับ ป้องกันไม่ให้ Elastin และ Hyaluron ในชั้นผิวเสื่อมสภาพ ช่วยลดบวม ลดไขมัน กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ช่วยลดไขมันได้ดี และเห็นผลไว โดยที่ไม่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยหลังไขมันลดครับ
ข้อดี : ยุบดีและไว
ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ
- เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One
เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี โดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับ เห็นผลไว มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดอาการบวม ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันและคอเรสเตอรอลในเลือด โดยละลายไขมันให้แตกตัวเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ไขมันจึงลดลง ยกกระชับได้ดีครับ
ข้อดี : ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ ฉีดแล้วยุบดี หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง
ข้อควรระวัง : ขณะฉีดมีอาการแสบได้เล็กน้อย (แสบน้อยที่สุดในบรรดายี่ห้อเมโสแฟตทั้งหมด)
ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขนที่ไหนดี ?
การเลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข มีความน่าเชื่อถือและดำเนินงานโดยแพทย์ท่านั้น เพราะแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับคนไข้เป็นรายบุคคล โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงลดน้อยลงครับ
Checklist ก่อนฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ?
คลินิกหรือสถานประกอบการ | ✔ มีป้ายชื่อสถานพยาบาล |
---|---|
✔ มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก | |
✔ แสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล | |
✔ สะอาด มีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง | |
✔ เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถ | |
ตัวยาเมโสแฟต | ✔ ผ่านการรับรองจาก อย. |
✔ สามารถยืนยันที่มาและแหล่งผลิตของผลิตภัณฑ์ได้ | |
✔ ตรวจสอบก่อนฉีดว่าเป็นของแท้ | |
✔ ไม่มีส่วนผสมที่อันตราย ไม่มีสารสเตียรอยด์หรือ Hyaluronidase | |
แพทย์ | ✔ มีป้ายประจำตัวเแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมนำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้ |
✔ มีประสบการณ์ 5-15 ปี | |
✔ สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด |
เมโสแฟตต้นแขน ราคา โปรโมชั่น
ราคาเมโสแฟตจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ สูตรที่ใช้ ปริมาณ CC ที่ใช้ (1 ขวดมีตัวยา 10 cc) จำนวนครั้งที่ฉีด และจุดที่ฉีด หมอจะเป็นผู้ประเมินปริมาณตัวยาที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง ตามความเหมาะสมของแต่ละรายครับ
การฉีดแฟตต้นแขน จะใช้จำนวน cc เยอะ เนื่องจากเป็นจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก หลัก ๆ หมอแนะนำเป็น สูตรเร่งไว FNC / BABI/ Neobella ซึ่งช่วยสลายไขมัน ยุบดีและยุบไวครับ
เมโสแฟตแขน Neobella ราคา
- 2 ขวด (16CC) ราคา 5,000.-
- 4 ขวด (32CC) ราคา 9,000.-
- 10 ขวด (80CC) ราคา 20,000.-
- 12 ขวด (96CC) ราคา 24,000.-
เมโสแฟตแขน FNC / BABI ราคา
- 30 CC (3 ขวด) ราคา 9,900 .-
- 60 CC (6 ขวด) ราคา 18,000.-
- 90 CC (9 ขวด) ราคา 25,000.-
สรุป
เมโสแฟตแขน เป็นตัวช่วยในการลดต้นแขนที่เห็นผลดีและปลอดภัย แต่ต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาของแท้ และทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ การฉีดเมโสแฟตให้ได้ผลดีและอยู่ได้นาน ควรควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารไขมันต่ำ และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมได้อีกครับ