Collagen Biostimulator
Collagen Biostimulator หรือสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง จากการที่สามารถย้อนวัยผิวให้ดูเด็กลงได้ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิวหนังให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ผิวยิ่งมีคอลลาเจนเยอะ ยิ่งดีครับ
บทความนี้หมอจะพามารู้จักกับ Collagen Biostimulator คืออะไร ? มีอะไรบ้าง ? Biostimulator สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร ? ฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน ด้วย Collagen Biostimulator ทำให้เกิดผลดีอย่างไรบ้าง ? แตกต่างจาก Skin booster และฉีดเมโสหน้าใสอย่างไร ? มีข้อควรรู้อะไรบ้าง ? ฉีด Collagen Biostimulator ที่ไหนดี ? ติดตามอ่านกันได้ครับ
สารบัญ Collagen Biostimulator
Collagen Biostimulator คือเทรนด์ใหม่ของวงการเสริมความงาม
Collagen Biostimulator คือ สารกระตุ้นคอลลาเจน เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผิวของเรายังดูเด็ก โดยจะเข้าไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายตามธรรมชาติให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น สามารถแก้ปัญหาผิวที่เป็นสัญญาณของความเสื่อมสภาพตามวัยได้หลายประการ เช่น ความยืดหยุ่น กระชับ เต่งตึง แข็งแรง เรียบเนียน ด้วยการฟื้นฟูผิวลึกถึงระดับเซลล์ จึงให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
นวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่ทำให้ Biostimulator แตกต่างและโดดเด่น
- ส่วนประกอบหลักมีอนุภาคเล็ก เข้าถึงผิวชั้นใน
- ผ่านการรับรองความปลอดภัย เห็นผลจริง
- ฟื้นฟูผิวถึงโครงสร้างชั้นใต้ผิว กระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน
Collagen Biostimulator ถือเป็นนวัตกรรมงานผิวที่น่าจับตา ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีหลายตัวครับ ความแตกต่างและโดดเด่นของแต่ละผลิตภัณฑ์ มาจากส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการกระตุ้นคอลลาเจน กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดี
Biostimulator ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร ?
ก่อนจะไปดูว่า Biostimulator ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร ? หมออธิบายถึงความสำคัญของคอลลาเจนให้ได้เข้าใจกันก่อนครับว่า ทำไมคอลลาเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรักษาไว้ให้นานที่สุด
คอลลาเจน กับ สภาพผิวที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
เมื่ออายุมากขึ้น สภาพผิวจะเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ จากการที่คอลลาเจนในร่างกายลดจำนวนลง โดยหลังจากอายุ 20 ปี คอลลาเจนในผิวจะลดลงปีละ 1% และเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป การสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติจะลดลงเรื่อย ๆ จาก 15% เป็น 25% เป็น 35% เมื่ออายุ 55 ปี ส่งผลให้ผิวหน้าดูแก่ก่อนวัย เกิดปัญหาผิว เช่น ริ้วรอย ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก กรอบหน้าหย่อนคล้อยตามมา
เมื่อใช้ Biostimulator ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
- โครงสร้างผิวแข็งแรงในระยะยาว
- ผิวยกกระชับขึ้น เฟิร์มขึ้น
- ผิวยืดหยุ่น แน่นกระชับ อิ่มฟู นุ่มเด้ง
- ริ้วรอยลดลง ผิวดูอ่อนเยาว์
- ผิวดูสุขภาพดี คุณภาพผิวดีขึ้น
Collagen Stimulator ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน จะเน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ โดยจะมีกระบวนการทำงานที่คล้าย ๆ กัน คือ กระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนเข้ามารวมตัวกันและเพิ่มจำนวน เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้นได้
ข้อดี – ข้อเสีย และข้อควรทราบก่อนเลือกฉีด Collagen Biostimulator
ก่อนฉีด Collagen Biostimulator ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย Collagen Biostimulator เหมาะกับใคร ? มีขั้นตอนการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ? ครับ
ข้อดี – ข้อเสีย ของ Collagen Biostimulator
ข้อดี Collagen Biostimulator
- กระตุ้นคอลลาเจนตามธรรมชาติ เช่น Collagen Type I, II, III
- ฟื้นฟูผิวถึงระดับโครงสร้าง แก้ปัญหาผิวได้ครอบคลุม
- เติมเต็ม ลดริ้วรอย ยกกระชับ ปรับสภาพผิวให้ดูสุขภาพดี
- ช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น เต่งตึง อิ่มฟู กระจ่างใส มีคุณภาพผิวดีขึ้น
- คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ (หลังจากคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้น)
- หลังทำสามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสีย Collagen Biostimulator
- ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร อยู่ได้นาน 1-2 ปี สามารถฉีดเพิ่มได้เพื่อคงผลลัพธ์ในระยะยาว
- อาจมีอาการบวม แดงเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด หายได้เองใน 1-3 วัน
- หากฉีดกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เนื่องจากเป็นหัตถการที่ค่อนข้างใหม่ และมีเทคนิคเฉพาะในการฉีด
ใครบ้างที่ควรฉีด Collagen Biostimulator ?
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่น ย้วย ไม่เฟิร์ม
- ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องลึก ที่เห็นได้ชัดเจน
- ผู้ที่มีสภาพผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ขาดการบำรุง
- ผู้ที่อยากมีผิวหน้าอ่อนเยาว์
มีหลายปัญหาผิวครับที่สามารถแก้ได้ด้วย Collagen Biostimulator หมอจะช่วยประเมินปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ว่ามีความกังวลในเรื่องใด ? ต้องการผลลัพธ์อย่างไร ? Collagen Biostimulator ฉีดตำแหน่งไหน ? เข้าไปแก้ปัญหาได้อย่างไร ? เพื่อจะได้แก้ไขได้ตรงจุดครับ
ข้อควรทราบ และการเตรียมตัวก่อนฉีด Collagen Biostimulator
การเตรียมตัวก่อนฉีด Collagen Biostimulator ไม่ยุ่งยากครับ หลัก ๆ คือเตรียมความพร้อมด้านข้อมูล และเตรียมตัวเองให้พร้อม ดังนี้
- งดใช้ยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือ AHA อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำหัตถการ
- ไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- แจ้งแพทย์ก่อน หากมีประวัติแพ้ยาหรือสารใด ๆ หรือมีโรคประจำตัว ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง
Collagen Biostimulator มีอะไรบ้าง ?
โปรแกรมงานผิว Collagen Biostimulator มีหลายตัวครับ แต่ละตัวมีจุดเด่นในเรื่องกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวกระชับ เต่งตึง และมีโครงสร้างผิวที่แข็งแรงขึ้น ซึ่งจะแตกต่างกันที่ส่วนประกอบหลัก กระบวนการทำงาน และการเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละบุคคลครับ
หัตถการที่จัดอยู่ในสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator
หมอรวบรวม Collagen Biostimulator อัปเดตล่าสุด (2024) ที่น่าสนใจ มีดังนี้
Sculptra (สกัลป์ทรา)
ส่วนประกอบสำคัญ : PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
กระบวนการทำงาน : กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาว แมคโครฟาส (Macrophage) เข้ามาล้อมรอบ และส่งสัญญาณไปให้ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดให้สร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ โดยสามารถกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I จากผิวของเราเองขึ้นมาได้ถึง 66.5% ภายใน 3 เดือน
ผลลัพธ์ : ฟื้นฟูโครงสร้างชั้นลึกใต้ผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่น ผิวแข็งแรงขึ้น ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด ผิวแน่นกระชับ อิ่มฟู เฟิร์มขึ้น ริ้วรอยบนใบหน้าดูจางลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
ตำแหน่งฉีด : ขมับ หน้าแก้ม (Midface) กรอบหน้า
ระยะเวลาอยู่ได้นาน : 2 ปี (แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ห่างกัน 4-8 สัปดาห์)
Radiesse (เรเดียส)
ส่วนประกอบสำคัญ : CaHA (Calcium Hydroxylapatite)
กระบวนการทำงาน : ฟื้นฟู Fibroblast ให้กระตุ้นสารและกระบวนการสำคัญในร่างกาย 5 ชนิด ได้แก่ Collagen Type I และ Type III, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycans กระชับผิวทันที ช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 1 เดือน เห็นผลชัดเจนใน 3-6 เดือน Collagen จะมีความหนาแน่นขึ้น ทำให้ผิวแน่น กระชับ และมีวอลลุ่มเพิ่มขึ้น
ผลลัพธ์ : ฟื้นฟูผิวได้หลายมิติ ทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มวอลลุ่ม เติมเต็มริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ผิวกระชับขึ้น ยืดหยุ่น แน่นฟู รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยจางลง ฉีดไปแล้วหน้าจะดูเด็กลงเรื่อย ๆ
ตำแหน่งฉีด : หน้าแก้ม ร่องแก้ม ร่องมุมปาก กรอบหน้า คาง หลังมือ ลำคอ
ระยะเวลาอยู่ได้นาน : 2 ปี (แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 1-3 ครั้ง ห่างกัน 4 สัปดาห์)
Gouri (กูริ)
ส่วนประกอบสำคัญ : PCL (Polycaprolactone)
กระบวนการทำงาน : หลังฉีด Gouri จะทำให้ผิวเกิด Neocollagenesis หรือกระตุ้นให้เกิดการสร้าง Collagen ใต้ผิวหนังขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผิวมีคุณภาพที่ดีขึ้นในหลายด้าน
ผลลัพธ์ : ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้าดูจางลง ผิวมีความยืดหยุ่น อิ่มฟู แข็งแรง แน่นกระชับมากขึ้น ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น รูขุมขนเล็กลง
ตำแหน่งฉีด : ใบหน้า ลำคอ หลังมือ
ระยะเวลาอยู่ได้นาน : 6-12 เดือน (แนะนำฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง ห่างกัน 4 สัปดาห์)
รีวิวการฉีดกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Biostimulator
ผลลัพธ์หลังฉีด Collagen Biostimulator เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ? สามารถดูรีวิวประกอบการตัดสินใจได้ครับ
Sculptra รีวิว
Radiesse รีวิว
Gouri รีวิว
Collagen Biostimulator VS Skin Booster VS ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว / ฟิลเลอร์งานผิว VS ฉีดเมโสหน้าใส
นอกจาก Collagen Biostimulator แล้ว หากต้องการเน้นงานผิว ยังมีหัตถการอื่น ๆ อีกครับที่น่าสนใจ
Skin Booster หัตถการงานผิว
Skin Booster คือ เทรนด์บูสต์ผิวใส ฉ่ำวาว ผิวดูสุขภาพ ดูอ่อนเยาว์ มีหลายหัตถการงานผิวครับที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้
Skin Booster มีอะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เมโสหน้าใส หรือโปรแกรมหน้าใส เช่น Rejuran และ Exosome จัดอยู่ในกลุ่ม Skin Booster เลือกฉีดงานผิวตัวไหนดี ? ตัวไหนเหมาะกับใคร ? หมอรวบรวมข้อมูลอัปเดตล่าสุด (2024) ที่น่าสนใจ มีดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว / ฟิลเลอร์งานผิว
ส่วนประกอบสำคัญ : ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA)
กระบวนการทำงาน : เมื่อฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว หรือฟิลเลอร์ Skin Booster ซึ่งมีขนาดโมเลกุลเล็ก เนื้อบางเบา เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีปัญหา ด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีของฟิลเลอร์ จะทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ยาวนาน
ยี่ห้อที่หมอแนะนำ มี 3 รุ่น หลัก ๆ คือ
- Restylane Vital Light เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รูขุมขนเล็กลง ผิวฉ่ำวาว
- Juvederm Volite ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี
- Belotero Revive เติมน้ำให้ผิว ปรับผิวโกลว์ใส ชุ่มชื่น ฉ่ำวาว
ผลลัพธ์ : ริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ รอยคล้ำบริเวณใต้ตาจางลง ผิวชุ่มชื้น เด้ง อิ่มเอิบ มีน้ำมีนวล คุณภาพผิวดี (Skin Quality) รูขุมขนกระชับ หลุมสิวตื้นขึ้น หน้าเรียบเนียนขึ้น
ตำแหน่งฉีด : ทั่วหน้า หน้าผาก รอบดวงตา รอบปาก หลังมือ หลุมสิวตื้น
ระยะเวลาอยู่ได้นาน : 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์)
ฉีดเมโสหน้าใส
ส่วนประกอบสำคัญ : วิตามินและสารบำรุงผิวที่ดูดซึมได้ยากจากการทา เช่น Vitamin A, B, C, E, Transamin, Glutatione, คอลลาเจน, โคเอนไซม์
กระบวนการทำงาน : การฉีดเมโสหน้าใสจะฉีดเข้าผิวชั้นกลาง (Dermis) โดยตรง เพื่อบำรุงถึงโครงสร้างผิว ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์เร็วขึ้น เห็นผลไว ช่วยบำรุงผิวขาวใส ดูสุขภาพดีแบบเร่งด่วน
ยี่ห้อเมโสหน้าใส หรือมาเด้หน้าใส มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ที่นิยม เช่น
- Made Collagen (มาเด้ คอลลาเจน) เน้นลดสิว ลดผื่น ขับสารพิษให้ผิวแข็งแรงขึ้น
- Filorga เน้นผิวเนียนนุ่ม เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ
- Revs NCFS เน้นให้ความชุ่มชื่น ผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว
- Tensonez เน้นผิวหน้าขาวใส ลดฝ้า ลดจุดด่างดำ
- Neo-Glutanex Glow เน้นผิวขาวใส ลดความหมองคล้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น
- Alpha Arbutin เน้นลดฝ้า ลดจุดด่างดำ ปรับเม็ดสีผิว
ผลลัพธ์ : ฝ้า กระ จุดด่างดำดูจางลง ลดการอักเสบ ลดสิว แก้ผื่น ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ชุ่มชื้น อิ่มฟู รูขุมขนกระชับ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อเมโสหน้าใสที่เลือกใช้
ตำแหน่งฉีด : ทั่วใบหน้า ด้วยเทคนิคฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด
ระยะเวลาอยู่ได้นาน : 1-2 เดือน (แนะนำให้ทุกสัปดาห์ในช่วงเดือนแรก จากนั้นเว้นช่วง 2-3 สัปดาห์ต่อการฉีด 1 ครั้ง)
Rejuran (รีจูรัน)
ส่วนประกอบสำคัญ : Polyneucleotide (โพลีนิวคลีโอไทด์) สกัดจาก DNA แซลมอน
กระบวนการทำงาน : เมื่อฉีดในชั้นหนังแท้ จะเข้าไป Rejuvenetion ฟื้นฟูและสร้างเซลล์ใหม่มาเพื่อทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ซ่อมแซมผิวจากภายใน กระตุ้นการสร้างเส้นใย fibroblast คอลลาเจนและอิลาสติน ที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูผิว
ผลลัพธ์ : ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี ขาวใส ฉ่ำวาว (Glass Skin) เร่งด่วน ริ้วรอยจางลง รูขุมขนเล็กลง ผิวตึงกระชับ เรียบเนียน
ตำแหน่งฉีด : ใบหน้า เช่น หางตา ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หน้าผาก ลำคอ หลังมือ
ระยะเวลาอยู่ได้นาน : 4-6 เดือน (แนะนำฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์)
Exosome (เอ็กโซโซม)
ส่วนประกอบสำคัญ : สารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด เช่น Growth Factors, Peptides, Amino Acids, Coenzymes, Hyaluronic Acids และโปรตีนต่าง ๆ
กระบวนการทำงาน : กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ให้สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินมากขึ้น ซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมให้แข็งแรงขึ้น เพิ่มและเสริมการทำงานของเซลล์ผิวหนัง ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมเกราะป้องกันผิว จึงช่วยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์
ผลลัพธ์ : ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ทำให้ผิวตึงกระชับ ป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ ยับยั้งการเกิดเม็ดสี ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง ผิวหน้าดูสุขภาพดี หน้าใส ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำเด้ง อิ่มฟู รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน รอยแผลเป็น รอยสิวจางลง หลุมสิวตื้นขึ้น
ตำแหน่งทำ : หน้าผาก ใต้ตา แก้ม ร่องแก้ม ลำคอ
ระยะเวลาอยู่ได้นาน : 1 ปี (แนะนำทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง ครั้งที่ 1-3 ห่างกัน 2 สัปดาห์ ครั้งที่ 4 ห่างกัน 1 เดือน และครั้งที่ 5 ห่างกัน 1 ปี)
รีวิวการฉีด Skin Booster ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เมโสหน้าใส
ผลลัพธ์หลังฉีด Skin Booster เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ? สามารถดูรีวิวประกอบการตัดสินใจได้ครับ
ฟิลเลอร์ Skin Booster รีวิว
ฉีดเมโสหน้าใส รีวิว
Rejuran รีวิว
เปรียบเทียบทั้ง 4 หัตถการ
หัตถการ | ข้อดี | ข้อเสีย | ระยะเวลาอยู่ได้นาน |
---|---|---|---|
Collagen Biostimulator | |||
Sculptra | – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน – ฟื้นฟูโครงสร้างชั้นลึกใต้ผิว – ผิวแข็งแรง แน่น อิ่มฟู – ผิวหย่อนคล้อย ยกกระชับขึ้น – ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน – ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส | – ไม่เห็นผลลัพธ์ทันที กระบวนการผลิตคอลลาเจนเริ่มต้นหลังฉีด 3 สัปดาห์ – อาจมีอาการบวม ปวด รอยแดงในบริเวณที่ฉีด หายได้เองใน 2-3 วัน | 2 ปี |
Radiesse | – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน – ผิวมีวอลลุ่ม เด้ง ยืดหยุ่น – ผิวแน่นขึ้น เฟิร์มกระชับ – ริ้วรอยเล็ก ๆ จางลง ผิวเรียบเนียน – ผิวชุ่มชื้น รูขุมขนกระชับ | – ผลลัพธ์ไม่อยู่ถาวร สามารถฉีดต่อเนื่องเพื่อคงผลลัพธ์ – อาจมีอาการบวม แดงจากรอยเข็ม หายได้เองใน 1-3 วัน | 2 ปี |
Gouri | – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน – ผิวแข็งแรง แน่นกระชับขึ้น – ผิวมีความยืดหยุ่น อิ่มฟู – ริ้วรอยร่องลึกดูจางลง – ผิวหน้ากระจ่างใส อิ่มฟู | – ผลลัพธ์ไม่ถาวร สามารถฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพผิว – อาจมีอาการบวมแดง เขียว ช้ำ หรือคันในจุดที่ฉีด หายได้เองใน 2-3 วัน | 6-12 เดือน |
Skin Booster | |||
ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว / ฟิลเลอร์งานผิว | |||
Belotero Revive | – ผิวโกลว์ใส ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว | – อาจมีรอยแดงจากเข็ม หายไปเองได้ใน 2-3 วัน | 6-9 เดือน |
Restylane Vital Light | – ผิวชุ่มชื้น รูขุมขนเล็กลง ผิวฉ่ำวาว | 6-12 เดือน | |
Juvederm Volite | – ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี | 8-12 เดือน | |
โปรแกรมหน้าใส / มาเด้หน้าใส | |||
Made Collagen | – สิว ผื่นลดลง ผิวแข็งแรงขึ้น | – อาจมีอาการบวมเป็นตุ่มเล็ก ๆ บริเวณรอยเข็มที่ฉีด ยุบบวมได้เองใน 1-3 ชั่วโมง หลังจากตัวยาซึมเข้าผิว – เคสที่ผิวบาง ช้ำง่าย อาจบวมนาน ยุบบวมใน 1-3 วัน | 1-2 เดือน |
Filorga | – ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ | ||
Revs NCFS | – ผิวชุ่มชื่น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว | ||
Tensonez | – ผิวขาวใส ฝ้า กระ จางลง | ||
Neo-Glutanex Glow | – ผิวขาวใส สีผิวสม่ำเสมอ ผิวชุ่มชื้น | ||
Alpha arbutin | – ผิวกระจ่างใส ฝ้า จุดด่างดำ จางลง | ||
Rejuran | – ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน – ผิวเต่งตึง ยกกระชับ – ริ้วรอยลดลง – รูขุมขนกระชับ – ผิวแน่น ผิวแข็งแรงขึ้น – สีผิวสม่ำเสมอ ผิวดูสุขภาพดี | – ขณะฉีดอาจรู้สึกแสบ ๆ ผิว – อาจมีอาการบวมหรือแดงบริเวณที่ฉีด หายได้เองใน 2-3 วัน | 4-6 เดือน |
Exosome | – ผิวตึงกระชับ ริ้วรอยเล็ก ๆ จางลง – หน้าใส ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง – ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำเด้ง อิ่มฟู – ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ – ลดรอยดำ รอยแดง หลุมสิวตื้นขึ้น | – อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อยบริเวณที่ทำ หายได้เองใน 2-3 วัน | 6-12 เดือน |
ยังไม่มั่นใจว่าปัญหาที่มีควรแก้ไขด้วย Collagen Biostimulator หรือไม่ ? แนะนำให้ปรึกษาแพทย์
การใช้ Collagen Biostimulator มีข้อบ่งชี้ในการใช้ที่แตกต่างกันไปตามปัญหาผิวของแต่ละคน การปรึกษาแพทย์จะช่วยให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ Collgen Biostimulator หัตถการไหน ในการดูแลและฟื้นฟูผิวครับ
สิ่งสำคัญคือการเลือกคลินิก เลือกหมอ เนื่องจาก Collagen Biostumalator เป็นหัตถการที่ค่อนข้างใหม่ และมีเทคนิคการฉีดเฉพาะ แพทย์ต้องมีความแม่นยำในทั้งในการประเมินปัญหา โครงสร้างใบหน้า ตำแหน่งฉีดที่เหมาะสม ความตื้น-ลึกของชั้นผิว รวมถึงการคำนวณปริมาณที่ใช้
ฉีด Collagen Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจนที่ V Square Clinic
- V Square Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการถูกต้อง
- ทีมแพทย์มากประสบการณ์ ด้านการปรับรูปหน้า
- ประเมินปัญหาแม่นยำ แนะนำ Collagen Biostimulator ที่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด
- ผ่านการอบรมเทคนิคการฉีด Collagen Biostimulator ได้รับ Certificate รับรอง
- มุ่งเน้นผลลัพธ์ปลอดภัย สวยงาม และดูเป็นธรรมชาติ
- ใช้ Collagen Biostimulator ของแท้ ตรวจสอบได้ทุกกล่อง
- คลินิกมีสาขาครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- นัดติดตามผลหลังทำทุกเคส
- คุ้มค่าทั้งผลลัพธ์และราคาที่สมเหตุสมผล
ราคา – โปรโมชั่น Collagen Biostimulator ที่ V Square Clinic
ราคาหัตถการในกลุ่ม Collagen Biostimulator อาจดูสูงเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ๆ แต่เมื่อพิจารณาถึงประสิทธิภาพ ระยะเวลาอยู่ได้นาน ความเป็นธรรมชาติของผลลัพธ์ และความปลอดภัยแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปครับ
สรุป
Collagen Biostimulator เป็นนวัตกรรมความงามที่น่าจับตามอง สามารถจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติให้เพิ่มจำนวนขึ้น ฟื้นฟูผิวล้ำลึกถึงโครงสร้างภายใน แก้ปัญหาผิวหน้าแก่ เช่น ผิวหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอยร่องร่องลึก ได้อย่างเห็นผล ปลอดภัย และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ๆ จึงเป็นที่สนใจโดยเฉพาะคนที่อายุมากขึ้นแต่อยากดูเด็ก ลดอายุลงเป็น 10 ปี ส่วนถ้าใครอยากเน้นงานผิว เช่น อยากหน้าใส ผิวฉ่ำวาว เรียบเนียน ก็สามารถใช้หัตถการในกลุ่ม Skin Booster ปรับสภาพผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้นได้ครับ