Radiesse Filler เรเดียส ฟิลเลอร์ใหม่ล่าสุด 2024 นวัตกรรมฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยผิวเด็กลง

Categories
ฉีดฟิลเลอร์
Radiesse Filler

Radiesse Filler

Radiesse Filler เรเดียส ฟิลเลอร์ตัวใหม่มาแรง ที่ได้รับความสนใจจากคนไข้ ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้าเป็นอย่างมากครับ Radiesse เป็นฟิลเลอร์จริง ๆ ไหม แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่ว ๆ ไปไหม อย่างไร ? ใครที่อยากมีผิวแน่น ผิวเฟิร์ม กระชับ หมอมีข้อมูลมาแนะนำอัปเดตกันครับ

Radiesse โดดเด่นช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง ?  มีข้อดี – ข้อเสีย รวมถึงเหมาะกับใคร ? ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? แต่ละครั้งใช้กี่ CC ? หลังทำกี่วันเห็นผล ?  อยู่ได้นานไหม ? นานเท่าไรจึงควรฉีดซ้ำ ? ทุกข้อสงสัยเหล่านี้ หมอรวบรวมมาให้แล้ว พร้อมข้อควรรู้ ก่อนและหลังฉีดมีอย่างไรบ้าง ? ราคาเท่าไร ? สุดท้าย  ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ไหนดี ? พิจารณาอะไรบ้าง ? ติดตามอ่านได้ทั้งหมดครับ 

สารบัญ Radiesse Filler

เจาะลึก Radiesse คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง เหมาะกับปัญหาแบบไหน ? 

Radiesse ทำไมถูกเรียกว่าเป็น ฟิลเลอร์ ?

Radiesse Filler คือ ชื่อของผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ในการเสริมความงาม โดยเป็นนวัตกรรมฟื้นฟูสุขภาพและโครงสร้างผิว จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการ “เติมเต็ม” หรือ “ฟิลล์” ในพื้นที่ภายใต้ผิวหนังที่มีริ้วรอย ร่องลึก คล้ายกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ แต่มีความแตกต่างอยู่ที่ Radiesse Filler ไม่ได้มีไฮยาลูรอน เป็นส่วนประกอบหลัก แต่จะเป็น CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) แทน ซึ่งสามารถช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกได้เป็นอย่างดี และยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่น เฟิร์ม กระชับ ได้ครับ 

แล้ว Radiesse ถือว่าเป็น สารกระตุ้นสร้างคอลลาเจน (Biostimulator) ไหม ?

Radiesse ถือว่าเป็น สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ครับ เพราะนอกจากเป็นฟิลเลอร์ที่เติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้าแล้ว ยังกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้นใหม่ได้ด้วย เพราะ Radiesse ประกอบด้วย CaHA (คา-ฮ่า) ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนด้วยตัวเอง ซึ่งผลของการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนนี้ ส่งผลให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

Radiesse สารกระตุ้นคอลลาเจน

นอกจากนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีด Radiesse จะอยู่ได้ยาวนานขึ้น เนื่องจากมีการผลิตคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้นครับ

CaHA ใน Radiesse คือ อะไร ? 

CaHA (คา-ฮ่า) หรือ Calcium Hydroxylapatite microsphere (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ไมโครสเฟียร์ ) คือ สารประกอบแร่ธาตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกาย พบได้ในเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน  มีโครงสร้างทางเคมีที่ประกอบด้วยแคลเซียมและฟอสเฟตในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงซึ่งเรียกว่า Hydroxylapatite

ส่วน CaHA ที่เป็นส่วนประกอบหลักของ Radiesse เป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตเลี่ยนแบบ CaHA ตามธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนกับสารที่มีอยู่ในร่างกาย มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดอนุภาคสม่ำเสมอ 25-45 ไมครอน 

CaHA Calcium Hydroxylapatite microsphere

สำหรับ CaHA  ที่เป็นสารสังเคราะห์ ในทางการแพทย์ มีใช้มานานกว่า 25 ปีแล้วครับ และใช้เป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเติมเต็มบริเวณที่มีริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยบนผิวหน้า อย่าง Radiesse ซึ่งเป็นสารที่คิดค้นและวิจัยโดย Merz Aesthetics 

ปัจจุบัน Radiesse ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ในหลายประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 มียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก 

Radiesse มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โดดเด่นในกระบวนการผลิตอย่างไร ?

จุดเด่นของ Radiesse Filler คือเป็นฟิลเลอร์ที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โดดเด่นในกระบวนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของส่วนประกอบหลักและกลไกการทำงานครับ 

  • ส่วนประกอบหลัก : Radiesse ประกอบด้วย Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ที่มีความเข้ากันได้ดีกับร่างกายและมีความปลอดภัยสูง 
  • ความพิถีพิถันในกระบวนการผลิตเม็ดไมโครสเฟียร์: การผลิตเม็ดไมโครสเฟียร์ CaHA เป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต้องควบคุมอย่างละเอียด ทั้งขนาดและรูปทรงของเม็ดไมโครสเฟียร์ใน Radiesse Filler ทำให้เหมาะสมกับการฉีดเข้าไปในผิวหนัง ช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดดูธรรมชาติ ผิวเรียบเนียน และสม่ำเสมอ
  • มีกลไกการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน: นอกจากจะเป็นฟิลเลอร์ที่เติมเต็มร่องลึกได้แล้ว Radiesse ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติในร่างกาย นับเป็นบทบาทสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว และซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผิวในระยะยาว
  • ความยั่งยืนของผลลัพธ์: ผลลัพธ์ของ Radiesse สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน โดยจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี เป็นผลมาจากการที่เม็ดไมโครสเฟียร์ CaHA ทำงานร่วมกับการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติในร่างกายครับ 

ด้วยความโดดเด่นนี้ ส่งผลให้ Radiesse ได้กลายเป็นหนึ่งในฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงในด้านการเสริมความงาม ซึ่ง V Square Clinic ก็มี Radiesse Filler ไว้ให้บริการดูแลคนไข้ด้วยเช่นกันครับ 


อย่าฉีด Radiesse Filler เพราะกระแส ! แต่ต้องแก้ปัญหาได้ตรงจุด

การใช้ Radiesse Filler หรือผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์อื่น ๆ ก่อนใช้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เช่น ผลิตภัณฑ์ หรือตัวยานั้น ๆ มีคุณสมบัติอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไร ? มีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ? ดูความเหมาะสม ดูข้อดี- ข้อเสีย เพื่อให้ผลลัพธ์หลังทำเกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า และสามารถแก้ไขจุดบกพร่องได้อย่างตรงจุด 

จุดเด่น – ข้อได้เปรียบ – ข้อดี – ข้อเสีย ของ Radiesse Filler

จุดเด่น 

จุดเด่นของ Radiesse Filler คือสามารถ ฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Regenerative Biostimulator 

เป็นการรักษาเชิงเวชศาสตร์ที่เน้นฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก โดยไม่เกิดการอักเสบ และอยู่ได้นาน

ข้อได้เปรียบ

Radiesse Filler สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ คือ 

  • Collagen Type I (เพิ่มขึ้น 150 %)
  • Collagen Type III (เพิ่มขึ้น 130 %)
  • Elastin (เพิ่มขึ้น 260 % ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น)
  • Angiogenesis (ช่วยเสริมการไหลเวียนให้ผิวสุขภาพดี) 
  • Proteoglycan (สารอาหารผิว ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ) 
จุดเด่นRadiesse-Filler

ข้อดี

  1. มีความปลอดภัยสูง : เมื่อฉีดเข้าร่างกาย สามารถย่อยสลายได้หมด (Biodegradable sustain ) และได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการใช้งาน

อ่านเพิ่มเติม : รวมลิสต์ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. อัปเดตล่าสุด

  1. ผลลัพธ์ที่ธรรมชาติ: ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติภายในผิวหนัง ทำให้ผิวยืดหยุ่นและอ่อนเยาว์มากขึ้น.
    • Healthier ช่วยให้ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ อิ่มฟูเด้ง ผิวคุณภาพดียิ่งขึ้น 
    • Younger สามารถลดริ้วรอย ยกกระชับขึ้น ทำให้ผิวดูเด็กลง 
    • Longer ยืดอายุผิวคุณภาพดีได้ยาวนาน 
  2. ไม่ต้องทดสอบการแพ้ก่อนใช้ : เนื่องจาก Radiesse สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่พบในร่างกายมนุษย์ จึงลดความเสี่ยงของการแพ้ได้

ข้อเสีย

  • Radiesse ไม่ใช้หัตถการที่ฉีดครั้งเดียวแล้วคงอยู่ถาวร เพื่อให้ผลลัพธ์ดีควรฉีดต่อเนื่อง เริ่มที่ 1-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา และระดับอายุของคนไข้ครับ 
  • หลังฉีดอาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกเจ็บ ๆ บริเวณที่ฉีดได้ (อาการเหล่านี้สามารถหายได้เอง) 

ฉีด Radiesse Filler ช่วยแก้ปัญหาโดดเด่นในจุดไหนบ้าง ?

Radiesse Filler สามารถช่วยแก้ไขหลายปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเสริมความงามและการฟื้นฟูผิวหน้า ได้แก่

  1. ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก: Radiesse มีประสิทธิภาพในการเติมเต็มริ้วรอย เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวสามารถลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้มและร่องข้างจมูกได้ 
  2. ช่วยในการปรับรูปหน้า: ใช้ในการเสริมแก้ม, กราม, และบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้าเพื่อสร้างความสมดุลและเพิ่มมิติให้กับใบหน้า 
  3. ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่: Radiesse เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนในผิวตามธรรมชาติทำให้ เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ จึงช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น
  4. ลดความหย่อนคล้อยและลดริ้วรอยแห่งวัย : ช่วยลดความหย่อนคล้อยและให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น แน่นขึ้น ลดความหย่อนคล้อยจากอายุที่มากขึ้นได้เป็นอย่างดี 
  5. ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น: ผิวหน้าดูเนียนเรียบและอ่อนเยาว์ ช่วยเติมน้ำในผิว ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี 
Radiesse Filler ช่วยเรื่องอะไร

นอกจากนี้ยังมีการใช้ Radiesse ในการฟื้นฟูผิวหน้าหลังการบาดเจ็บหรือการผ่าตัด โดยใช้เพื่อช่วยฟื้นฟูรูปลักษณ์ของผิวหน้าหลังการบาดเจ็บหรือการผ่าตัดครับ 


สำรวจตัวเองก่อนว่าเหมาะฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ไหม ?

Radiesse Filler เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังและรูปลักษณ์ของใบหน้า 

ในผู้ที่สนใจฉีด Radiesse Filler แต่ไม่มั่นใจว่าเหมาะกับตัวเองหรือไม่  หมอมีแนวทางให้พิจารณาครับ 

Radiesse Filler เหมาะกับใครบ้าง ?

Radiesse Filler เหมาะกับ
  1. บุคคลที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้า  เช่น คนที่ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ไม่มีวอลลุ่ม ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง ผิวหนังยุบลง มีรอยแผลเป็น มีรอยบุ๋ม หรือมีหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก ต้องการทำให้ผิวอิ่มเต็ม ชุ่มชื่น หรือในเคสที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ต้องปรับรูปหน้า แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย
  1. บุคคลที่มีริ้วรอยหรือร่องลึกบนใบหน้าเช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องมุมปาก 
  1. บุคคลที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับมือ Radiesse สามารถใช้เพื่อเติมเต็มบริเวณที่มีผิวหย่อนคล้อยของหลังมือ รวมถึงผิวบริเวณลำคอได้  
  1. บุคคลที่มองหาการเสริมความงาม ช่วยให้หน้าเด็กลง โดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีด Radiesse Filler เป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัดและสามารถทำได้เร็วโดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
  1. บุคคลที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป มีริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ต้องการมีผิวเด็ก อยากเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว

อย่างไรก็ตามการฉีด Radiesse Filler อาจไม่เหมาะสำหรับบุคคลบ่งกลุ่ม เช่น ผู้ที่มีประวัติการแพ้ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ หรือ ผู้ที่มีการติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด ดังนั้นก่อนฉีดควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดครับ 

Radiesse Filler สามารถฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ CC ?

Radiesse Filler สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง เช่น ใบหน้า,หน้าแก้ม-ร่องแก้ม, ร่องนํ้าหมาก หรือ หลังมือ โดยปริมาณ CC ที่ใช้ในแต่ละบริเวณอาจไม่เท่ากัน  ขึ้นอยู่กับ 

  • เป้าหมายในการแก้ไข
  • ความหนาแน่นของผิวหนัง
  • บริเวณที่จะฉีด

ดังนั้นการใช้ Radiesse Filler กี่ CC ? ปริมาณที่แน่นอน จะต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ครับ 

โดยปริมาณของ Radiesse Filler ที่อาจใช้ในแต่ละตำแหน่ง มีดังนี้ 

  • ร่องแก้มและบริเวณแก้ม: ประมาณ 1.5 – 3 cc  ในบริเวณนี้อาจต้องใช้ปริมาณมากกว่าบริเวณอื่นเนื่องจากมีพื้นที่กว้าง
  • ร่องน้ำหมาก :  ประมาณ 1 – 2 cc ขึ้นอยู่กับระดับของร่องลึกและปริมาณที่ต้องการเติม
  • บริเวณกรามและขอบกราม: ประมาณ 1 – 3 cc ขึ้นอยู่กับรูปทรงและปัญหาที่ต้องการแก้ไข
  • บริเวณมือ: ประมาณ 1 – 2 cc ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับระดับของความหย่อนคล้อย

ทั้งนี้ Radiesse Filler 1 กล่องจะมี 1 ไซริงค์ ซึ่งจะเท่ากับ 1.5 CC ครับ 

VSQ Tips

ข้อควรรู้ : การฉีด Radiesse filler ไม่แนะนำให้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตา ร่องระหว่างคิ้ว  จมูก ปาก และรอบปาก ซึ่งถ้าหากคนไข้มีปัญหาผิวและมีความกังวลในจุดนี้ก็สามารถเลือกทำหัตถการอื่น ๆ แทนได้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse แล้วกี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?

หลังการฉีดฟิลเลอร์ Radiesse จะสามารถเห็นผลได้ทันทีส่วนหนึ่ง โดยคนไข้สามารถรู้สึกได้ว่าผิวยกกระชับขึ้น ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น จากนั้น ประมาณ 3-4 สัปดาห์จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน ผิวแน่นขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น จากนั้นประมาณ 3-6 เดือน Radiesse จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจนเต็มที่ ทําให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ผิวยกกระชับ ยืดหยุ่น ใบหน้ามีวอลลุ่มมากขึ้น รวมถึงสุขภาพผิวมีความแข็งแรงมากขึ้นด้วยครับ 

ด้านการคงผลลัพธ์ หลังฉีด Radiesse จะคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 2 ปีครับ ขึ้นอยู่กับความถี่ ในการฉีด (แนะนำฉีดติดต่อกัน 1-3 ครั้ง) รวมถึงการดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจนไว้เพื่อรักษาคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวให้อยู่ได้นาน ๆ ครับ      

ฉีด Radiesse อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงไหม ?

การฉีด  Radiesse มีความปลอดภัยสูงครับ มีเอกสารงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยรองรับ  ซึ่งถูกเผยแพร่ทางสิ่งตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 250 ฉบับ ได้รับรองและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) รวมถึงในยุโรป (CE)  

หากสนใจฉีด สามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยได้ครับ  Radiesse สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่ก่อเกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน และสามารถสลายไปตามธรรมชาติอีกด้วย 

ในส่วนของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวมและมีรอยช้ำ เป็นอาการปกติครับ จะหายไปเองภายใน 1-3 วัน 

ข้อควรทราบและการดูแลตัวเองก่อน – หลังฉีด Radiesse Filler

การฉีด Radiesse Filler มีข้อควรรู้และข้อปฏิบัติที่ต้องการ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมทั้งก่อนและหลังการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง

ก่อนการฉีด Radiesse Filler

  • ปรึกษาแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์และให้แพทย์ประเมินสุขภาพผิว และควรแจ้งประวัติให้แพทย์ทราบโดยละเอียดว่ามีอาการแพ้อะไรหรือไม่ คนไข้มีความกังวลอย่างไร เพื่อให้แพทย์แนะนำปริมาณการใช้อย่างเหมาะสม รวมถึงทราบงบประมาณค่าใช้ก่อนทำได้ครับ 
  • หลีกเลี่ยงยา และวิตามินบางชนิด: เมื่อตัดสินใจฉีดแล้ว ก่อนฉีดควรหลีกเลี่ยงตัวยาที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ เช่น แอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรืออาหารเสริมจำพวก Ginkgo
  • ไม่ดื่มแอลกอฮอล์: หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
  • การดูแลผิวหน้า: ก่อนฉีดควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงต่อผิว งดสครับผิว หรือครีมผลัดเซลล์ผิว เพื่อป้องกันการเกิดการอักเสบ

หลังการฉีด Radiesse Filler

  • หลีกเลี่ยงการแตะ กด นวดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการอักเสบ รวมถึงการเคลื่อนของฟิลเลอร์จากบริเวณที่ต้องการ 
  • งดแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
  • งดการใช้แรงหรือกิจกรรมหนัก ๆ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดเหงื่อออกมาก ๆ  ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด
  • งดออกแดดหรือความร้อนสูง เช่น การอบสปาหรือซาวน่า 24 ชั่วโมงหลังทำ และควรหลีกเลี่ยงอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ 
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ 
  • ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
การดูแลหลังฉีด Radiesse Filler

Radiesse Filler  รีวิว

ตัวอย่างรีวิวผลลัพธ์จาก  Merz Aesthetic

Radiesse Filler  รีวิว
Radiesse Filler  รีวิว
Radiesse Filler รีวิว
ผลลัพธ์หลังฉีด 4 สัปดาห์

Radiesse Filler ราคาเท่าไร ? ฉีดแล้วคุ้มค่าไหม ?

ราคาของ Radiesse Filler อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชื่อเสียง ความชำนาญของคลินิก และแพทย์ผู้ฉีด รวมถึงปริมาณตัวยาที่ใช้ ซึ่งในแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันครับ 

ด้านความคุ้มค่า ถ้าเที่ยบกับฟิลเลอร์อื่น ๆ Radiesse Filler สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเพิ่มได้ จึงทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า แต่ทั้งหมดต้องขึ้นกับความเหมาะสมในการใช้เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยครับ  

ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ไปแล้ว นานเท่าไรจึงต้องฉีดซ้ำ ?

การฉีดฟิลเลอร์ Radiesse เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพแนะนำให้ต่อเนื่อง 1-3 ครั้งขึ้นไป ในแต่ละครั้งห่างกัน 1 เดือนครับ 

เลือกฉีด Radiesse ดีไหม ? มีหัตถการงานผิวอะไรอีกบ้างในปัจจุบัน ?

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องงานผิวที่เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนหลายยี่ห้อครับ โดย Radiesse เป็นหนึ่งในนั้น รวมถึง Sculptra และ Gouri  

ในส่วนของหัตถการงานผิวอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม ได้แก่  การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว การฉีด Rejuran, Exosome รวมถึงเมโสหน้าใสสูตรต่าง ๆ  สามารถศึกษาข้อมูลแต่ละหัตถการได้จากคลิปด้านล่างครับ 

เปรียบเทียบหัตถการงานผิว ฉีดหน้าใส Skin Booster ปี 2024 ต่างกันอย่างไร?  

Radiesse Filler ราคาเท่าไร ? 

Radiesse Filler ราคา 1 กล่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 3x,xxx บาท หากต้องการทราบราคาที่แน่นอนควรเข้ารับขอคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรง เพื่อประเมินปัญหา สภาพผิว และปริมาณตัวยาที่ใช้ได้อย่างเหมาะสมในแต่ละบุคคล

ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse คุ้มค่าไหม ?

ฉีดแล้วคุ้มค่าไหม ? จริง ๆ แล้ว ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความคาดหวังที่คนไข้ตั้งไว้ด้วยครับ เช่น 

  • ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย : Radiesse สามารถแก้ไขริ้วรอย ความหย่อนคล้อยได้ 
  • ต้องการความยั่งยืนของผลลัพธ์ : Radiesse สามารถให้ยั่งยืนของผลลัพธ์ (ประมาณ 1-2 ปี)
  • ต้องการความปลอดภัย : Radiesse  เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ปัจจุบันได้รับความนิยมและถูกใช้งานโดยแพทย์ทั่วโลกมาแล้วนานกว่า 25 ปี 

ฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี ? 

การฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ไหนดี ? สิ่งสำคัญคือเรื่องของความปลอดภัยครับ การฉีด Radiesse Filler รวมถึงหัตถการอื่น ๆ จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการใช้ผลิตภัณฑ์

สำหรับฟิลเลอร์ Radiesse แพทย์ผู้ฉีดจะต้องผ่านการเทรนจากบริษัทนำเข้า Merz Aesthetic Thailand มาแล้วเท่านั้น เพราะก่อนฉีดจะต้องรู้เทคนิคการเตรียมและการผสมยาอย่างถูกต้อง รวมถึงควรฉีดฟิลเลอร์ Radiesse กับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือครับ 

ต้องพิจารณาปัจจัยอะไรอีกบ้างก่อนตัดสินใจฉีด Radiesse ?

  • คลินิกต้องเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีชื่อคลินิกชัดเจนและเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุขติดไว้ในที่เห็นได้ และมีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผย
คลินิก Radiesseที่ได้มาตรฐาน
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ และไม่โฆษณาเกินจริง คลินิกเสริมความงามที่รีวิวจากคนไข้ที่ใช้บริการจริง เป็นอีก 1 ข้อที่ควรพิจารณาครับ 

รีวิวสามารถช่วยให้รู้ได้ว่า ผลลัพธ์หลังทำควรเป็นอย่างไร ควรทำหรือเหมาะกับตัวคนไข้หรือไม่ รวมถึงยังทำให้รู้รายละเอียดอื่น ๆ เช่น การให้บริการของคลินิก การดูแลจากแพทย์ การให้ข้อมูลคำแนะนำดีไหม ฝีมือเป็นอย่างไร เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจครับ 

โดยไม่ควรดูรีวิวที่เป็นภาพถ่าย Before-After เคสสวย ๆ เท่านั้นครับ  ควรดู Before-After จากคลิป VDO รีวิวเป็นหลักจะสามารถเชื่อถือได้มากกว่าภาพถ่าย 

  • คลินิกมีการติดตามผล 

การฉีด Radiesse Filler ต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลที่ชัดเจน คลินิกควรมีการนัดติดตามผล และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อนทำ-หลังทำอย่างใกล้ชิด มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน เช่น มี Line@ ที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ทำเคสตัวเองได้โดยตรงตลอดเวลา เพราะการปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด และอยู่ได้นานครับ 

ฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี ?

ฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี นอกจากสิ่งที่ควรพิจารณาตามที่กล่าวมาข้างต้น อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลย คือการ ตรวจเช็กผลิตภัณฑ์ตัวยาว่าเป็นของแท้ หรือไม่ 

วิธีเช็ก Radiesse ของแท้

Radiesse ของแท้
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาอังกฤษ 
  • มี QR Code ติดไว้หน้ากล่อง เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าเป็น Rediesse ของแท้หรือไม่
  • เลข Lot. ที่กล่องและซองตรงกัน 
  • มีใบรับประกัน Skin Rejuvenetioon Card หรือ Radiesse Club Card 
  • โทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด โทร.02 026 1111

ฉีด Radiesse ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

  • ทีมแพทย์ V Square Clinic มีประสบการณ์การปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ และมีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา 
  • คนไข้จะได้รับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลส์ โดยจะประเมินปัญหาใบหน้าของคนไข้เป็นรายบุคคล ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
  • แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มทุกความมั่นใจ “Feel Your Confidence”
  • หมอสามารถประเมิน วิเคราะห์ปัญหาผิวและแนะนำปริมาณการฉีด จุดฉีด รวมถึงหัตถการอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับปัญหา ช่วยแก้ปัญหาความกังวลของคนไข้ได้อย่างตรงจุด คุ้มค่า 
  • V Square Clinic ใช้ผลิตภัณฑ์ Radiesse Filler ของแท้ แกะกล่องใหม่ทุกเคส สามารถนำกล่องและหลอดกลับบ้าน และเช็กกับบริษัทนำเข้าได้
  • หลังฉีดมีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส
  • มีราคาที่ย่อมเยา คุ้มค่าและสมเหตุสมผล

นอกจากนี้ V Square Clinic ยังได้รับความไว้วางใจจากดารา-เซเลบริตี้ แถวหน้าของเมืองไทยมากมาย มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงกว่า 200,000 เคสทั่วประเทศ และมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากการบอกต่อเป็นจำนวนมาก

รีวิวดารา-เซเลบริตี้ โดย คุณชาคริต
รีวิวดารา-เซเลบริตี้ โดย คุณต่าย

โปรโมชั่น Radiesse Filler ที่ V Square Clinic

โปรโมชั่น Radiesse Filler

สรุป

Radiesse Filler เป็นอีกตัวเลือกสำหรับหัตถการงานผิวครับ  สามารถช่วยฟื้นฟู ปรับสภาพผิวในระดับผิวชั้นตื้น และ ชั้นลึก ช่วยทำให้ผิวอิ่มฟูและยืดหยุ่นได้ดี  จึงสามารถลดริ้วรอย ร่องลึก รวมถึงชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ เหมาะกับผู้ที่ต้องมีผิวเด็ก ผิวอ่อนเยาว์ 

ผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ Radiesse เบื้องต้นแนะนำให้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดเป็นไปตามที่ที่คาดหวังครับ 

เอกสารอ้างอิง


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

    Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ37คน