ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
หลังสิวหาย มักจะทิ้งหลุมสิวไว้ให้ดูต่างหน้า เมื่อเกิดขึ้นแล้วหากคนไข้ไม่รู้วิธีการรักษาที่ถูกต้อง อาจส่งผลต่อผิวโดยรอบให้เสียหายได้ บทความนี้หมอมีวิธีรักษาหลุมสิวรูปแบบต่าง ๆ มาแนะนำครับ รวมถึงการรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว หัตถการทางการแพทย์ที่ให้ผลลัพธ์หลังฉีดทันที สำหรับใครที่สงสัยว่าแต่ละวิธีช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้อย่างไร วิธีไหนเหมาะกับใคร ให้ผลลัพธ์อย่างไร ตรงตามความต้องการไหม ศึกษาได้ในบทความนี้
สารบัญ
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร ?
ฉีด Filler หลุมสิว คือ การรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic acid) ชนิดเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ที่มีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำในผิว เติมความชุ่มชื้นถึงผิวชั้นใน เมื่อนำฟิลเลอร์มาฉีดบริเวณหลุมสิว จะช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น พร้อมทั้งช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ร่องลึกตื้นขึ้น ผิวมีความยืดหยุ่น ดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนแปลงไป หลังฉีดเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที โดยไม่ทิ้งรอยแผล และไม่เสียเวลาพักฟื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนครับ
หลุมสิว คืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร ?
หลุมสิว คือ ร่องรอยจากสิวที่หายแล้ว ปกติหลังจากสิวหายจะมีกระบวนการซ่อมแซมผิวเป็นกระบวนการรักษาตามธรรมชาติของร่างกาย หลังเกิดรอยแผลหรือเกิดการอักเสบของผิว โดยใช้เวลาประมาณ 7-10 วันหลังสิวหาย ซึ่งชั้นผิวจะมีการสร้างเซลล์ผิวหนัง และคอลลาเจนล้อมรอบบริเวณที่มีการอักเสบ เมื่ออาการอักเสบฟื้นฟูขึ้นอย่างสมบูรณ์ จะไม่ทำให้เกิดรอยแผลจากสิว
หากกระบวนการดังกล่าวไม่สมบูรณ์จากการอักเสบของสิวที่รุนแรง ส่งผลให้คอลลาเจนในชั้นผิวถูกทำลาย เซลล์เนื้อเยื่อเกิดการหดรัดตัว ส่งผลให้เกิดรอยแผลเป็น เกิดหลุมจากสิวที่ใหญ่ ลึก และอาจเกิดพังผืดตามมาได้ครับ
วิธีการรักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง ?
วิธีการรักษาหลุมสิวมีหลายแนวทางด้วยกันครับ ทั้งวิธีทางการแพทย์โดยใช้เครื่อง ใช้หัตถการ วิธีธรรมชาติที่สามารถทำเองได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของหลุมสิว หากมีความรุนแรงมากอาจต้องใช้วิธีการรักษาร่วมกัน ซึ่งสามารถทำได้ และให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยมีรายละเอียดการรักษาของแต่ละแนวทางดังนี้
1. การฉีดสารเติมเต็ม หรือฉีดฟิลเลอร์ (Fillers injection)
การฉีดสารเติมเต็ม หรือฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ : เป็นการฉีด Hyaluronic acid เข้าไปบริเวณหลุมสิว เพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วน หลังฉีดสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที หลุมสิวดูตื้นขึ้นประมาณ 70% หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ในผู้ที่ผิวบอบบางอาจจะรอยแดงจากเข็มเล็กน้อย โดยไม่ทิ้งรอยแผล สามารถคงผลลัพธ์การรักษาได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดส่วนบุคคล การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว สามารถทำร่วมกับวิธีการรักษาอื่นได้ เช่น การตัดพังผืดหลุมสิว เป็นการช่วยให้ผลลัพธ์การรักษาหลุมสิวมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นครับ
ข้อควรระวัง : ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวในชั้นผิว ร่วมกับการเซาะพังผืดนั้น ต้องใช้ความพิถีพิถันในการเก็บรายละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติที่สุดครับ
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ? ป้องกันอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างไร ?
2. การตัดพังผืด (Subcision)
การตัดพังผืดหลุมสิว : เป็นวิธีการที่ใช้เข็มขนาดเล็กตัดเลาะพังผืดใต้ผิวหนังออก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวมานาน และกระจายเต็มผิวหน้า เป็นหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) และหลุมสิวระดับปานกลาง (Box Scar) มีลักษณะเป็นหลุมสิวตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้าลงไปเพียงเล็กน้อย ขนาด 3-5 มม.
หลังตัดพังผืดสามารถเห็นเปลี่ยนแปลงทันที เพื่อให้ผลการรักษาที่ชัดเจนควรทำ 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะในการทำ 3-6 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในช่องว่างที่พังผืดถูกเลาะออก เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาที่รวดเร็วและชัดเจนขึ้น สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวได้ครับ
ข้อควรระวัง : บริเวณที่เลาะพังผืด อาจมีอาการบวม เขียว ช้ำ สามารถเกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้ ในผู้ที่ดูแลรักษาแผลไม่ดีพอ หรือเกิดรอยแผลใหม่จากการรักษาได้ครับ
3. กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Microdermabrasion หรือ MD)
กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี : เป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว ด้วยเกล็ดอัญมณีที่มีขนาดเล็ก สามารถใช้กับหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) และหลุมสิวระดับปานกลาง (Box Scar) ให้การสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน สามารถช่วยลดรอยสิว รอยหลุมสิว รอยแผลเป็น รวมถึงจุดด่างดำจากสิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น โดยทั่วไปต้องทำต่อเนื่อง 8-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว หรือตามคำแนะนำของแพทย์
ข้อควรระวัง : หลังทำอาจเกิดการระคายเคืองผิว ผิวไวต่อแสงแดดและการกระตุ้นจากมลภาวะ อาจทำให้เกิดรอยดํา-ด่างขาว สิวหินได้ครับ
4. ใช้ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอหรือกรดวิตามินเอ
การรักษาหลุมสิวด้วยการใช้ยากลุ่มวิตามินเอ หรืออนุพันธ์วิตามินเอ เช่น Retin A, Retinoid, Retinol เหมาะกับการรักษาหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) หลุมสิวตื้นในระดับที่ยังไม่ลึกมาก โดยตัวยาจะช่วยปรับโครงสร้างผิวชั้นบน ให้เรียบเนียน ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น สร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมถึงลดการอุดตัน การลดการอักเสบของสิว
ข้อควรระวัง : ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ห้ามใช้สารในกลุ่มนี้ เพราะจะทำให้เด็กในครรภ์เกิดอันตรายได้ครับ
5. การผ่าตัด (Punch Excision)
การผ่าตัดหลุมสิว : เหมาะกับการรักษาหลุมสิวระดับรุนแรง (Ice pick scar) ที่เป็นมานาน และหลุมสิวระดับปานกลาง (Box Scar) วิธีการคือจะใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก ประมาณ 2 – 3 มิลลิเมตร ตัดบริเวณหลุมสิว จากนั้นแพทย์จะทำการดึงขอบ 2 ข้างที่เป็นผิวปกติมาเย็บติดกัน ซึ่งการสร้างแผลใหม่จะช่วยทำลายพังผืด และเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนไปในตัว ทำให้เห็นผลการรักษาชัดเจน
ข้อควรระวัง : หลังผ่าตัดคนไข้ต้องดูแลตัวเองอย่างดี หลีกเลี่ยงแสงแดด และห้ามโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน
เมื่อครบ 1 สัปดาห์คนไข้จะต้องมาตัดไหม ซึ่งหลังจากตัดไหมแล้วจะเป็นรอยเส้นตรง ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน รอยเส้นตรงจะเริ่มดีขึ้น ระหว่างนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า เพื่อลดการอุดตันของผิว ทำให้เกิดสิว ผิวอักเสบขึ้นมาได้อีกครับ
6. รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ (Laser)
เลเซอร์หลุมสิว (Laser) : การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้ได้รับความนิยมมาก โดยชนิดของเลเซอร์ที่นิยมใช้ในการรักษาหลุมสิว ได้แก่ Fine Scan, Fractional, Pico Laser, e-matrix, Fractional Co2 Laser
การผลัดเซลล์ผิวเก่า ด้วยการเลเซอร์ส่งผลให้หลุมสิวตื้นขึ้น ลดปัญหารูขุมขนกว้าง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ชั้นผิวเรียบเนียนขึ้น โดยทั่วไปจะต้องทำ 4-6 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดี โดยเว้นระยะห่าง 2-3 สัปดาห์หรือตามคำแนะนำของแพทย์
ข้อควรระวัง : หลังทำเลเซอร์ผิวอาจเกิดการลอก ตกสะเก็ด ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น จึงต้องให้ความสำคัญในการทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อป้องกันการเกิดฝ้า ใครที่สนใจวิธีนี้จะต้องวางแผนให้ดีครับ เพราะไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าได้เลย
7. รักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาติ
รักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาติ : เป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง โดยใช้สมุนไพร ผัก ผลไม้ ที่มีกรด AHA เช่น การพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก มะขาม มะนาว เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่ไม่ยุ่งยาก หลังทำอาจไม่เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ต้องใช้ความต่อเนื่องในการทำจึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดี วิธีการนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนครับ
ข้อควรระวัง : แม้จะเป็นการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ แต่ก็สามารถทำให้ในผู้ที่มีผิวบอบบาง มีปัญหาสิว รูขุมขนกว้าง เกิดการระคายเคือง ส่งผลให้ผิวแห้ง แสบผิว กระตุ้นการเกิดสิวใหม่ได้ครับ
ข้อแตกต่างระหว่าง ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว VS เลเซอร์หลุมสิว
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว : รักษาหลุมสิวด้วยการฉีดไฮยาลูรอนหลุมสิว หรือฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นหัตถการที่ไม่ยุ่งยาก ซึ่งจะแตกต่างจากการรักษาด้วยวิธีอื่น คือ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล ไม่มีสะเก็ด หลังทำเสร็จสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที หลุมสิวจะเรียบเนียนขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 2 สัปดาห์ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เติมความชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ปัจจุบัน การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเป็นที่นิยมมากเนื่องจากเจ็บตัวน้อย เห็นผลไว เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วนครับ
เลเซอร์หลุมสิว (Laser) : การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีการที่จะค่อนข้างเจ็บขณะยิงเลเซอร์ คนไข้บางรายอาจให้แพทย์แปะยาชาก่อนยิง ซึ่งต้องใช้เวลารอให้ยาชาออกฤทธิ์ 30 นาทีถึงเริ่มยิงเลเซอร์ได้ หลังทำเสร็จต้องพักฟื้นหน้า เนื่องจากหลุมสิวที่ถูกยิงด้วยเลเซอร์ร้อนจะมีการตกสะเก็ด ส่งผลให้ผิวบริเวณดังกล่าวแห้งลอก แดง ระหว่างนี้คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด และต้องทาครีมกันแดดทุกครั้ง เพื่อไม่ใช้เกิดปัญหาฝ้าตามมา การเลเซอร์หลุมสิว จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าแบบเร่งด่วนครับ
ฟิลเลอร์รักษาและเติมเต็มหลุมสิว ยี่ห้อไหนดี ?
ฟิลเลอร์หลุมสิวแต่ละยี่ห้อ รุ่น มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ในผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวแบบเร่งด่วน และต้องการให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดี ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่หมอแนะนำ มีด้วยกัน 2 ยี่ห้อ คือ
ฟิลเลอร์ Restylane vital light : เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดเจลอนุภาคเล็ก มีความยืดหยุ่นสูง มีเทคโนโลยี NASHA (Non animal stabilized hyaluronic acid) ที่ทำให้สามารถอุ้มน้ำได้ดี
ฟิลเลอร์ Juvederm Volite : Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดบำรุงผิวชุ่มชื้น เพราะมีเทคโนโลยี Vycross เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลยึดเกาะเหนียวแน่น หลังฉีดจะบวมน้ำน้อย ทนต่อการขยับได้ดี
ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจฉีด Hyaluronic หลุมสิว ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาผิว แนะนำฟิลเลอร์ยี่ห้อ รุ่น ที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาหลุมสิวอย่างตรงจุดครับ
เติมเต็มหลุมสิว ใช้ฟิลเลอร์กี่ CC ?
ในเคสที่มีปัญหาหลุมสิวน้อย การใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะหลุมสิวของคนไข้ครับ ในบางรายที่มีหลุมสิวมาก อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ถึง 2 CC ตามความเหมาะสม โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมิน และแนะนำปริมาณของฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ตามความเหมาะสมกับปัญหาผิวส่วนบุคคล โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมได้แก่ Restylane vital ligh และ Juvederm Volite ครับ
ฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที เนื่องจากฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์จะมีลักษณะเป็นเจลเนื้อละเอียด แพทย์จะใช้เทคนิคการฉีดเพื่อให้ผิวเต็มขึ้นมาเท่าผิวเดิมให้ได้มากที่สุด ซึ่งบริเวณจุดที่ฉีดอาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเล็กน้อยได้เป็นเรื่องปกติ จะหายได้เองตามธรรมชาติใน 2-3 วัน จากนั้นผิวบริเวณที่ฉีดจะเรียบเนียนขึ้น
อีกทั้งการฉีดหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้นขึ้น รูขุมขนแคบลง ซึ่งต่างจากการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีอื่น เพราะไม่ทำให้เกิดรอยแผล หลังฉีดสามารถใช้หน้าได้ตามปกติครับ
ฟิลเลอร์หลุมสิว ราคา
ฟิลเลอร์หลุมสิว ราคา ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ซึ่งแต่ละคลินิกก็จะมีการจัดโปรโมชั่นแข่งขันราคากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละเคสแพทย์จะเป็นผู้ประเมินลักษณะ และความรุนแรงของหลุมสิวที่ต้องอาศัยความชำนาญในการรักษาของแพทย์ การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดี โดยแพทย์จะช่วยประเมินปัญหา และแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ครับ
ฟิลเลอร์หลุมสิว Juvederm Volite
ฟิลเลอร์หลุมสิว Restylane Vital Light
ฟิลเลอร์หลุมสิว อยู่ได้นานไหม ?
โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ 1 ครั้ง จะให้ผลลัพธ์ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น การดูแลตัวเองของคนไข้ก็มีส่วนสำคัญครับ
ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ฟิลเลอร์หลุมสิวอยู่ได้นาน คือ การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นการอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูและคงรูปได้นาน อีกทั้งการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อยู่ในอาการที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน ก็จะช่วยยืดอายุของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวด้วยฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ สามารถสลายหมดไปได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง การเติมฟิลเลอร์หลุมสิวใหม่จึงสามารถทำได้ และไม่เป็นอันตรายตามคำแนะนำของแพทย์ครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว ดูแลตัวเองอย่างไร ?
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีด Hyaluronic acid หลุมสิวมีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ การดูแลตัวเองหลังฉีดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ดูแลตัวเองอย่างไร ? เพื่อให้คงผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานขึ้น แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้ครับ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวบริเวณที่ฉีด : หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ไม่ควรสัมผัส แกะ เกา หรือกด บริเวณที่ฉีด เพื่อเลี่ยงการอักเสบ ติดเชื้อ หากมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำ เป็นเรื่องปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน
- ทานยาตามแพทย์แนะนำ : คลินิกจะมียาให้กลับไปหลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เช่น ยาลดบวม ยาฆ่าเชื้อ หลังทำหัตถการควรทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ครับ
- หลีกเลี่ยงอาการร้อน : หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คนไข้ควรอยู่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด รวมถึงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น การทานอาหารปิ้งย่างหน้าเตาร้อน ๆ ออกกำลังกายหนัก ๆ อบซาวน่า รวมถึงการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงลึกถึงชั้นผิว (อย่างน้อย 1 เดือน)
- อย่าขยับหน้าบ่อย : การแสดงสีหน้าบ่อย ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ครับ ในช่วง 3 วันแรกหลังฉีด จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษครับ
- งดอาหารบางประเภท : เนื่องจากอาหารบางอย่างส่งผลต่อการอักเสบ บวม และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง อาหารรสหวานจัด อาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
- งดสูบบุหรี่ : เนื่องจากมีสารนิโคติน ทำให้ยุบบวมช้า และส่งผลให้การรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วยครับ
อ่านเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ ทุกเรื่องที่ควรรู้ และการดูแลตัวเอง ให้ผลลัพธ์ชัดเจน และปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี ?
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว หรือฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์รักษาหลุมสิว ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิว ให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้อย่างตรงจุด เป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์หลังทำทันที รวดเร็วไม่ทำให้เกิดแผล ใช้เวลาไม่นาน ไม่เสียเวลาพักฟื้น หลังทำสามารถให้หน้าได้เลย อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวยังทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้ได้ผลดียิ่งขึ้นครับ
ก่อนตัดสินใจรักษาหลุมสิว ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เริ่มที่การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์หลุมสิวแท้ผ่านการรับรอง อย. แพทย์มีประสบการณ์ สามารถประเมินระดับของหลุมสิว วางแผนการรักษา ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยได้มากที่สุดครับ
บทความแนะนำ : ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? มีข้อควรรู้และวิธีเลือกพิจารณาคลินิกฉีดฟิลเลอร์อย่างไรบ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
ที่ V Square Clinic คนไข้สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ประจำสาขา พร้อมประเมินปัญหาผิวให้ตรงตามความต้องการ แนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ประเมินจำนวนครั้งในการรักษา คำนวณราคาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้คนไข้นำไปประกอบการตัดสินใจ อีกทั้งหากคนไข้ไม่สะดวกเดินทางมายังคลินิก สามารถส่งรูปมาประเมินผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง Facebook Messenger และ Line@ VSquareClinic ก็สามารถทำได้ครับ หมอเป็นผู้ให้คำปรึกษาเอง
สรุป
การรักษาหลุมสิว ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น รอยแผลจากสิวจางลง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวอิ่มฟูขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าแบบเร่งด่วน แต่การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวต้องอาศัยแพทย์มีประสบการณ์ มีความละเอียดในการฉีด ลงลึกในระดับชั้นผิวที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้เข้ารับการปรึกษากับหมอโดยตรงที่ V Square Clinic ทุกสาขา หรือทางออนไลน์ได้เลยครับ