Coolsculpting สลายไขมันต้นขา ด้วยความเย็น เป็นเทคโนโลยีที่กำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างถาวร การันตีด้วยงานวิจัยกว่า 70 ชิ้น ทำให้ปัจจุบันเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
ใครที่มีปัญหาขาใหญ่ ขาเบียด ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินต้นขา และอยากทราบรายละเอียดการทำ Coolsculpting คืออะไร ? ช่วยได้อย่างไร ? ช่วยได้จริงไหม ? ข้อดี – ข้อเสีย มีอะไรบ้าง ? หมอมีข้อมูลเหล่านี้มาแนะนำครับ รวมถึงขั้นตอนการทำ กี่วันเห็นผล ? กี่ครั้งเห็นผลชัดเจน ต่างจากวิธีการอื่น ๆ อย่างไร ? ก่อนทำควรรู้อะไรบ้าง ? ราคาเท่าไหร่ ? ควรเลือกทำคลินิกไหนดี ติดตามอ่านทั้งหมดได้ที่นี่ครับ
สารบัญ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา
Coolsculpting สลายไขมันต้นขา คืออะไร ?
Coolsculpting สลายไขมันต้นขา คือ เทคโนโลยีกำจัดไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น -11°C โดยจะแช่เซลล์ไขมันบริเวณต้นขา เพื่อทำให้ไขมันตาย ก่อนถูกกำจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติ จึงช่วยแก้ปัญหาต้นขาใหญ่ ขาเบียด ได้อย่างเห็นผล
คุณสมบัติเด่นของตัวเครื่อง Coolsculpting คือ เป็นนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดได้อย่างถาวรครับ มีความปลอดภัยสูง เพราะจะแช่แข็งเฉพาะเซลล์ในชั้นไขมันเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ข้างเคียง
เนื่องจากเซลล์ไขมันจะมีความพิเศษ คือไวต่ออุณหภูมิมากกว่าเซลล์ชนิดอื่น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ถ้าเรานำอาหารที่มีไขมันไปแช่ตู้เย็นธรรมดา ส่วนที่เป็นไขมันจะแข็งตัวและแยกชั้นไวมาก โดยไม่มีผลกระทบต่อเซลล์อื่น ๆ ครับ
บทความแนะนำ
Coolsculpting ช่วยสลายไขมันต้นขาได้อย่างไร ?
หลักการทำงานของเทคโนโลยี Coolsculpting สลายไขมันต้นขา ตัวเครื่องจะใช้หัวดูดผิวเพื่อดึงชั้นไขมันเข้ามาไว้ในหัวของเครื่อง คล้าย ๆ เราหยิกไขมันที่พุงขึ้นมา ซึ่งในหัวดูดจะปล่อยความเย็นติดลบเข้าไปแช่แข็งเซลล์ไขมัน ที่ถูกดูดขึ้นมานาน 35 นาที ในแต่ละจุด เพื่อทำให้เซลล์ไขมันตาย จากนั้นร่างกายจะกำจัดออกไปเองตามธรรมชาติ จึงลดจำนวนไขมันลงได้อย่างถาวร โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก
กระบวนการสลายไขมันด้วย Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น บริเวณต้นขา คนไข้ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสียเลือด ไม่มีแผล ไม่ต้องฉีด จึงไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ
ขาใหญ่ ไขมันต้นขาเยอะ เกิดจากอะไร แก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง ?
ปัญหาขาใหญ่ ไขมันต้นขาเยอะ สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากไขมันส่วนเกินที่ระบบเผาผลาญไม่สามารถเผาผลาญพลังงานได้หมดครับ จึงเกิดไขมันสะสมอยู่ที่บริเวณต้นขา ทั้งด้านในและด้านนอก หากเกิดด้านใน จะทำให้เกิดปัญหาขาเบียด แต่หากเป็นด้านนอกจะทำให้ต้นขาใหญ่ ไม่เรียวสวย ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาทำได้หลายรูปแบบ ดังนี้
1.ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ลดต้นขา
การออกกำลังกาย เพื่อปรับรูปร่าง ลดไขมันส่วนเกินเป็นวิธีที่หมอแนะนำครับ เพราะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย แต่ต้องอาศัยความพยายามและความอดทนสูง เนื่องจากไขมันบริเวณต้นขาเป็นจุดที่ลดยาก
หลักการสำคัญของการออกกำลังกายลดต้นขา คือ การสร้างกล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้เราสามารถเผาผลาญ metabolism ในแต่ละวันได้มากขึ้น ร่วมกับการควบคุมอาหาร ร่างกายก็จะไปดึงไขมันที่เก็บสะสมตามส่วนต่าง ๆ มาใช้ ทำให้ไขมันส่วนเกินลดลงครับ
2.นวดสลายไขมันต้นขา
การนวดสลายไขมันต้นขา เป็นวิธีหนึ่งที่หลายคลินิกเปิดให้บริการ เพื่อช่วยให้ต้นขากระชับ เครื่องมือที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็น RF (Radio-Frequency) อ่อน ๆ ครับ เพราะเครื่องมือในการลดสัดส่วนที่ได้ผลนั้น จะต้องผ่านงานวิจัยทางการแพทย์และจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่มีการควบคุมพิเศษ แต่สถาบันลดสัดส่วนเหล่านี้ส่วนมากมักจะไม่มีแพทย์ประจำ และไม่ได้จดทะเบียนเป็นคลินิกเวชกรรม จึงไม่สามารถใช้เครื่องมือแพทย์ได้
หากใครเลือกวิธีนี้ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีว่า ใช้การนวดแบบใด เพราะถ้านวดธรรมดาจะสามารถสลายไขมันได้แต่ทำให้ผิวกระชับขึ้นเพียงเล็กน้อย จากการบวมของเนื้อเยื่อหรือการรีดน้ำออกเพียงชั่วคราว ในระยะ 3-7 วันเท่านั้น พอหยุดทำก็จะคืนสภาพเดิม แทบจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงครับ
3.ฉีดแฟตลดต้นขา
การฉีดเมโสแฟตเป็นการฉีดสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด โดยสารที่ใช้มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถออกฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมันได้อย่างปลอดภัย (ควรทำกับคลินิกที่มั่นว่าใช้ตัวยาเมโสแฟตที่ได้มาตรฐานเท่านั้น)
การฉีดเมโสแฟตจะฉีดตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการลดไขมัน บริเวณที่เห็นผลดี คือลดแก้ม ลดเหนียง แต่ในตำแหน่งต้นขาที่มีปริมาณไขมันจำนวนมาก อาจหวังผลได้ไม่แน่นอน จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในการนำมาลดไขมันต้นขาครับ อีกทั้งการออกฤทธิ์ของตัวยานั้นขึ้นกับปัจจัยของร่างกายแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน บางคนฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผลดีมาก บางคนก็ไม่เห็นผลครับ
4.ดูดไขมันต้นขา
การดูดไขมันต้นขา คือการดูดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณต้นขา เพื่อปรับปรุงรูปร่างส่วนล่างให้สมดุล เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันสะสมจำนวนมาก ๆ ครับ วิธีนี้สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่ต้องแลกมากับความเจ็บ มีแผลและอาจเกิดรอยช้ำนาน ต้องอาศัยระยะเวลาในการพักฟื้น และมีข้อจำกัดในผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท จึงควรทำกับโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความชำนาญพิเศษ เพื่อความปลอดภัย
5.Coolsculpting ต้นขา
การทำ Coolsculpting ขา เป็นวิธีที่หมอแนะนำครับ เพราะ Coolsculpting ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินโดยเฉพาะและมีความปลอดภัยสูง สามารถทำได้หลายตำแหน่ง ทั้งต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง พุง สะโพก เอว เป็นต้น สามารถสลายไขมันได้ถาวร เห็นผลจริง มีงานวิจัยรับรองทั้งผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินระดับปานกลาง (BMI < 35) ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย
ทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา กี่วันเห็นผล ?
หลังจากทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา 1-2 สัปดาห์แรก จะมีอาการบวมในจุดที่ไขมันตายและค้างอยู่ ก่อนที่ร่างกายจะค่อย ๆ ลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบเลือดและระบบน้ำเหลือง และใน 3-4 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนเล็กลง กระชับขึ้นชัดเจน โดยจะใช้เวลา 3 เดือน ถึงจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ครับ
ทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา ต้องทำกี่ครั้งเห็นผล ?
การสลายไขมันต้นขาด้วยความเย็น สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ทำครั้งแรกครับ โดยไขมันจะลดลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง ในกรณีที่มีไขมันเยอะ ต้องการลดไขมันได้มากขึ้น สามารถกลับมาทำซ้ำในจุดเดิม เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นได้ครับ
ข้อดี – ข้อเสีย ของการทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา
- ข้อดี
✓ มีความปลอดภัยสูง มีระบบ Freeze detect เครื่องจะหยุดทำงานทันทีที่ตรวจเจอความเย็นในผิวชั้นบนที่มากเกินไป จึงไม่เกิดกรณีผิวไหม้จากความเย็น
✓ ไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก ผิวไม่เขียวช้ำ ไม่มีแผล เมื่อยุบบวมเข้าที่จะไม่มีร่องรอยใด ๆ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องใช้ยาชาหรือยาสลบ
✓ สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้อย่างถาวร 25 % ต่อ 1 จุด
✓ มีงานวิจัยรับรอง และมีการใช้ CoolSculpting แล้วกว่า 74 ประเทศทั่วโลก
- ข้อเสีย
☓ ปัจจุบันมีเครื่องที่ลอกเลียนแบบ ที่ไม่ได้ใช้ชื่อ Coolsculpting หากพลาดเข้าใช้บริการอาจจะเสี่ยงต่อการเกิด freeze burn (ผิวไหม้จากความเย็น) เนื่องจากระบบความปลอดภัยไม่ได้มาตรฐาน
☓ ไม่เหมาะกับเคสที่มีปริมาณไขมันมาก ๆ หรือ BMI>35 เนื่องจากต้องกำจัดไขมันออกในปริมาณมาก จึงเหมาะกับการดูดไขมันมากกว่า
☓ ในคนที่ผิวบาง ช้ำง่าย หลังทำอาจมีรอยช้ำจากหัวที่ดูดผิวและการนวดหลังแช่แข็งเซลล์ไขมัน เพื่อให้เซลล์ไขมันถูกทำลาย
☓ ในขั้นตอนการนวดก้อนเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว จะรู้สึกปวดกล้ามเนื้อคล้ายการออกกำลังกายหนักครับ
เปรียบเทียบ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา VS การฉีดแฟตลดต้นขา
- สลายไขมันต้นขาด้วยเมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวบริเวณที่มีไขมันสะสม เพื่อเร่งการสลายไขมันตามธรรมชาติ และเร่งให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้ หลังฉีดเมโสแฟต ไขมันจะเกิดการแตกตัวและถูกปล่อยออกมาในรูปของก๊าซและไขมันเหลว โดยจะปนมากับการหายใจ เหงื่อ ปัสสาวะและอุจจาระ หลังฉีดจะเห็นผลชัดเจนประมาณ 1-3 สัปดาห์ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล นิยมฉีดลดแก้ม เหนียง มากกกว่าต้นขาต้นแขน) โดยสามารถสลายไขมันได้ 10-15% ต่อการฉีด 1 ครั้ง
- สลายไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting เป็นการกำจัดไขมันโดยตรงและมีผลงานวิจัยการันตีว่า เซลล์ไขมันลดลงได้แบบถาวร และไม่เพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก สามารถเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยการทำ 1 ครั้ง จะลดเซลล์ไขมันถาวรได้ประมาณ 25% ครับ
หากต้องการกำจัดไขมันบริเวณต้นขาอย่างเห็นผล การทำ coolsculpting เหมาะสมมากกว่าครับ เพราะสามารถคาดหวังผลลัพธ์ได้ แม้จะราคาสูงกว่าการฉีดเมโสแฟต แต่ถ้าประเมินราคาและผลลัพธ์แล้ว การทำ coolsculpting ถือว่าคุ้มค่ากว่าครับ
Coolsculpting สลายไขมันต้นขา กับ การดูดไขมัน เลือกแบบไหนดี ?
หัตถการใด จะเหมาะกับใคร ต้องดูที่ปัญหา และความต้องการของคนไข้แต่ละเคสครับ หากต้องการกำจัดไขมันบริเวณต้นขา ในเคสที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินระดับปานกลาง (BMI < 35) ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย และพยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว ก็ยังมีไขมันสะสมบริเวณต้นขาอยู่ แต่มีความต้องการให้ต้นขาเล็กลง ผิวกระชับ การทำ Coolsculpting เป็นวิธีที่เหมาะสมครับ
ในกรณีที่คนไข้มีน้ำหนักมาก และค่า BMI มากกว่า 35 มีปริมาณไขมันสะสมมากเกินไป ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่เร็ว ไม่กลัวเจ็บ มีเวลาพักฟื้น การดูดไขมันต้นขาน่าจะตอบโจทย์มากกว่าครับ หากใครยังไม่มั่นใจว่าตนเองเหมาะกับวิธีการใด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินความคุ้มค่าให้ครับ
ทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขาเจ็บ หรือช้ำไหม ?
ในขั้นตอนการทำ CoolSculpting ขา จะไม่เจ็บครับ แต่จะเจ็บตอนนวด (ความรู้สึกคล้ายปวดกล้ามเนื้อตอนออกกำลังกายหนัก ๆ) เพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตาย หากไม่นวดจะได้ผลน้อยลง 60% ครับ หลังทำอาจรู้สึกระบมในจุดที่ทำในช่วง 7-10 วัน และอาจจะมีอาการชาและคันเล็กน้อยในช่วง 1 เดือนแรก ส่วนอาการเขียวช้ำ อาจเกิดขึ้นได้ในบางเคสที่ผิวบางมาก ๆ หรือคนที่ผิวช้ำง่าย
รีวิว Coolsculpting ต้นขา
ตัวอย่างรีวิวการทำ CoolSculpting สลายไขมันต้นขา
ทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา พร้อมกับส่วนอื่นด้วยได้ไหม ?
การทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา สามารถทำร่วมกับตำแหน่งอื่น ๆ ได้ครับ โดยบริเวณที่ได้รับความนิยม คือ หน้าท้อง ลดเอว ลดพุง ลดสะโพก รวมถึงต้นแขน
สลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น
ไขมันบริเวณหน้าท้อง เอว สะโพก ห่วงยาง เป็นจุดที่ลดยาก แม้พยายามออกกำลังกายและควบคุมอาหาร การสลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น Coolsculpting เป็นตัวช่วยที่ดี สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เร็ว
โดยจะเริ่มเห็นผลว่าสัดส่วนเล็กลงใน 3-4 สัปดาห์ และยังเหมาะกับคุณแม่หลังคลอดที่อยากลดพุง อยากกระชับรูปร่าง
สลายไขมันต้นแขนด้วยความเย็น
Coolsculpting สลายไขมันต้นแขน ถือเป็นตัวช่วยที่ดี สามารถสลายไขมันส่วนเกินสะสมได้ ไม่ต่างจากต้นขา หน้าท้อง และพุงครับ
Coolsculpting สลายไขมันต้นขา ราคาแพงไหม ?
CoolSculpting ถือเป็นหัตถการที่ราคาไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์ รวมถึงความปลอดภัย และยังสามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันได้อย่างถาวร คนไข้ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น หรือเจ็บตัวเหมือนกับการผ่าตัดดูดไขมัน
ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting ต้นขา
การทำ Coolsculpting ต้นขา คนไข้ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากครับ สามารถรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเหมือนก่อนทำ treatment ทั่วไป
การปฏิบัติตัวหลังทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา
การดูแลตัวเองหลังทำ Coolsculpting ต้นขา เพื่อให้สามารถคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น ควรดูแลสุขภาพของตัวเองร่วมด้วย เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการสะสมของไขมัน โดยเฉพาะไขมันทรานส์ ที่ทำให้เซลล์ไขมันขยายตัวขึ้นอีกครับ
Coolsculpting สลายไขมันต้นขา ที่ไหนดี ?
การสลายไขมันต้นขา ต้นแขน หน้าท้องด้วยเครื่อง Coolsculpting เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน จึงทำให้มีการนำเครื่องลอกเลียนแบบมาใช้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ Coolsculpting ต้นขาที่ไหนดี ควรพิจารณาเลือกใช้บริการกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มั่นใจว่าเป็นเครื่องแท้ และดูแลโดยแพทย์หรือ Specialist สำหรับทำ Coolsculpting โดยเฉพาะ
สลายไขมันด้วยความเย็น ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
- ให้คำแนะนำและดูแล โดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านการทำ CoolSculpting มานานกว่า 3 ปี
- ให้บริการสลายไขมัน CoolSculpting โดยทำในห้องที่มีขนาดเหมาะสม สะดวกสบาย ไม่อึดอัด ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดอย่างน้อยประมาณ 20 ตารางเมตร
- ในขณะทำ CoolSculpting ทาง V Square Clinic ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย และต้องการให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย จึงเลือกใช้เก้าอี้ Lazboy รุ่นท็อป ที่มีความกว้างมากเป็นพิเศษ
- มีเทคนิคพิเศษในขั้นตอนการทำ CoolSculpting ที่จะช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติ
โปรโมชั่น Coolsculpting สลายไขมันต้นขา V Square Clinic
- 1 หนีบ 8,500.- (ปกติ 9,900.-)
- 2 หนีบ 17,000.- รับของแถม 1 รายการ
- 4 หนีบ 34,000.- รับของแถม 3 รายการ
- 6 หนีบ 51,000.- รับของแถม 5 รายการ
- 10 หนีบ 85,000.- รับของแถม 10 รายการ
ของแถมมูลค่า 2,000 บาท เลือกได้ตามรายการดังนี้
- วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน 1 ครั้ง
- มาเด้คอลลาเจน 1 ครั้ง
- เมโสแฟต Phytobella 6 CC
- โบท็อกซ์ 15 Unit (Nabota)
- Hifu Ultraformer lll 50 Line
สรุป
การทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นขา เป็นวิธีที่ลดไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขาได้อย่างถาวร ช่วยให้ต้นขาเล็ก เรียว สวยงามขึ้นได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงอันตราย หรือเจ็บตัวจากการผ่าตัด ใครที่สนใจทํา Coolsculpting หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือเท่านั้นครับ