ฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ติดอันดับความนิยม เป็นแบรนด์ระดับโลก ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่รับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัยระดับโลก ฟิลเลอร์จูวีเดิมมีหลายรุ่นครับ Juvederm แต่ละรุ่น มีลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ต่างกัน เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เนื้อละเอียด ฟิลเลอร์ Juvederm Volift เนื้อนิ่ม ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เนื้อแน่น ก่อนฉีดฟิลเลอร์จูวีเดิมจึงจำเป็นต้องรู้จักฟิลเลอร์แต่ละรุ่นที่หมอจะนำมาฉีดให้ก่อนครับ
ตำแหน่งฉีด Juvederm ใต้ตา Juvederm ฉีดปาก ใช้จูวีเดิม รุ่นไหนดี ? Juvederm อยู่ได้นานไหม ? Juvederm ราคาเท่าไหร่ ? ฉีดฟิลเลอร์จูวีเดิมของแท้ ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ? พร้อมข้อมูลเปรียบเทียบ Filler Juvederm กับฟิลเลอร์ประเทศอื่น ๆ ที่ควรรู้ เพราะในการแก้ปัญหาบนใบหน้า หมออาจใช้ฟิลเลอร์ 1-2 รุ่น ที่ต่างยี่ห้อกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและสวยงามครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm ประเทศไหนเป็นผู้ผลิต ดีกว่าฟิลเลอร์ประเทศอื่น ๆ ไหม ?
Juvederm คือ ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid ที่ในวงการแพทย์ความงามรู้จักกันเป็นอย่างดีครับ เป็นฟิลเลอร์แบรนด์ระดับโลกที่ผ่านการรับรองจาก US FDA แพทย์ความงามทั่วโลกไว้วางใจในเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อแรก ๆ ที่นำมาใช้ในประเทศไทย ปัจจุบันมี 6 รุ่นที่ผ่านอย.ไทย ให้แพทย์เลือกใช้เพื่อเติมเต็ม ปรับโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ให้ได้สัดส่วนสวยงาม
โดย ฟิลเลอร์ Juvederm ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ผลิต บริษัทที่ผลิต คือ Allergan Aesthetics ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิตโบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทย โดยบริษัท Allergan Aesthetics Thailand
ถ้าลองหาข้อมูลเกี่ยวกับยี่ห้อฟิลเลอร์ จะเห็นว่านอกจากฟิลเลอร์จูวีเดิม ยังมีฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. อีกหลายยี่ห้อให้เลือกครับ แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน ทั้งจุดเด่น ประเทศผู้ผลิต เทคโนโลยีการผลิต ทำให้ฟิลเลอร์ที่ออกมามีคุณบัติเฉพาะตัว เหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหา ฉีดในตำแหน่งที่ต่างกัน หมอจะมาเปรียบเทียบฟิลเลอร์ Juvederm กับฟิลเลอร์ของประเทศอื่น ๆ ให้ได้เข้าใจกันมากขึ้นครับ
บทความแนะนำ : ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? แจก checklists เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ให้เข้ากับปัญหาที่ต้องการแก้ไข
Juvederm กับ Restylane ฟิลเลอร์สวีเดน
ฟิลเลอร์ Juvederm กับ Restylane เป็นฟิลเลอร์พรีเมียม แบรนด์ระดับโลก มาจากฝั่งยุโรปทั้งคู่ Juvederm ของอเมริกา ส่วน Restylane ของสวีเดน ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เฉพาะของแต่ละแบรนด์
โดย Juvederm จะเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ นำมาฉีดยกกระชับได้ดี เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะฉีดได้หลายตำแหน่ง ส่วน Restylane จะมีความยืดหยุ่น คงตัว ปรับทรงได้หลากหลาย ฉีดได้หลายตำแหน่งเหมือนกัน เติมแก้มส้ม ฉีดเสริมจมูกให้ผลลัพธ์ดี
ถ้าจะหมอฟันธงว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากัน ทั้งฟิลเลอร์ Juvederm และ Restylane ต่างก็มีข้อดีทั้งคู่ อยู่ที่ประสบการณ์ของแพทย์และความถนัดในการเลือกใช้ สามารถฉีดร่วมกันได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ยกตัวอย่างเคสนี้ คนไข้มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบริเวณใต้ตาและร่องแก้มจากกระดูกทรุดตัว การแก้ปัญหาเพื่อให้ใบหน้าโดยรวมของคนไข้ดูเด็ก ดูสดใสขึ้น หมอเลือกใช้ฟิลเลอร์ 2 ยี่ห้อ 3 รุ่น ซึ่งมีลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ต่างกัน
- Juvederm Voluma 2 CC ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เติมเต็มร่องใต้ตาให้ตื้นขึ้น
- Restylane Vital Light 1 CC ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เก็บรายละเอียดใต้ตา
- Juvederm Volift 1 CC ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะกับคนที่มีผิวบาง เติมร่องแก้มดูตื้นขึ้น
Juvederm กับ Belotero ฟิลเลอร์สวิสเซอร์แลนด์
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นแบรนด์ยุโรปเช่นกัน จุดเด่น คือ มีความยืดหยุ่นสูง คงตัว และปั้นทรงสวย ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก ผิวหนัง และปรับรูปหน้า รวมทั้งมีรุ่นที่เป็น Skin Booster ถ้าเทียบกับ Juvederm แม้จะมีรุ่นให้เลือกใช้น้อยกว่าครับ แต่ก็เป็นฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงอีกหนึ่งยี่ห้อที่แพทย์ความงามไว้วางใจ
ฟิลเลอร์ Juvederm กับ Definisse จากอิตาลี
ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง Juvederm กับ Definisse ฟิลเลอร์อิตาลี แม้จะเข้ามาทำตลาดหลังจูวีเดิม แต่แต่ถ้าพูดถึงคุณสมบัติแล้วถือว่ามีความโดดเด่นครับ สามารถฉีดยกพยุงผิว ปรับรูปหน้า หลังฉีดเห็นผลยกกระชับทันที ไม่มีอาการบวมน้ำ หรือบวมเล็กน้อย แต่เนื่องจากมีจำนวนรุ่นน้อยกว่า อาจไม่ครอบคลุมทุกตำแหน่งบนใบหน้า สามารถฉีดร่วมกับ Juvederm ได้ เพราะในการปรับรูปหน้า อาจจะเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์มากกว่า 1 ยี่ห้อ
ฟิลเลอร์ Juvederm กับ ฟิลเลอร์ Flore สัญชาติเกาหลี
สำหรับ Flore เป็นฟิลเลอร์จากฝั่งเอเชีย นำเข้าจากเกาหลี เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คงรูปได้ดี และมีความเป็นธรรมชาติ นิยมนำมาฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกหรือเติมเต็มโครงสร้างใบหน้า ราคาย่อมเยากว่า Juvederm หรือฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปยี่ห้ออื่น ๆ แต่ระยะเวลาจะอยู่ได้สั้นกว่า
ฟิลเลอร์จูวีเดิม กับ Biohyalux Filler สัญชาติจีน
ฟิลเลอร์จีน Biohyalux ราคาจะพอ ๆ กับฟิลเลอร์เกาหลี เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาครับ เพราะราคาเริ่มต้นต่อ CC ไม่ถึงหมื่น ถ้าคนไข้มีงบประมาณจำกัด หมอจะแนะนำฟิลเลอร์ฝั่งเอเชียให้ แต่ถ้าคนไข้ไม่ติดเรื่องงบ ไม่อยากต้องมาเติมบ่อย ๆ เชื่อมั่นในแบรนด์จากอเมริกามากกว่า หมอแนะนำฉีด Juvederm ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ด้วยครับ
Juvederm แต่ละรุ่น มีลักษณะเนื้อเป็นอย่างไร ? เหมาะสำหรับฉีดจุดใดบ้าง ?
Juvederm มีหลายรุ่น แต่ละรุ่นจะลักษณะเนื้อต่างกัน แบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ลักษณะเนื้อแน่น คงตัวมากที่สุด ยกผิวในชั้นกระดูกได้ใกล้เคียงกับกระดูก ได้แก่
- Juvederm Voluma เนื้อแน่น ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง เหมาะฉีด ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม ปาก คาง
- Juvederm Volux เนื้อแน่น ยืดหยุ่นสูง คงรูปดี ปั้นทรงสวย เหมาะฉีดใต้ตา ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก คาง
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ลักษณะเนื้อเจล คล้ายเยลลี่ ไม่เป็นน้ำ เนื้อนุ่ม ไม่เป็นก้อน
- Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่ม ฟูมาก เหมาะฉีดขมับ ร่องแก้ม ปาก
- Juvederm Volbella เนื้อนิ่ม โมเลกุลละเอียด เหมาะฉีดหน้าผาก
- Juvederm Volift เนื้อนิ่ม โมเลกุลละเอียด เหมาะกับคนที่มีผิวบาง ฉีดใต้ตา หว่างคิ้ว แก้มตอบ ร่องแก้ม มุมปาก
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ลักษณะเนื้อเจล มีความเบาบางเหมือนน้ำ เหมาะสำหรับฉีดผิวชั้นตื้น เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ และเพิ่มความชุ่มชื้น
- Juvederm Volite (Skin Booster) เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะฉีดใต้ตา มือ
ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ตำแหน่งไหน ? ใช้รุ่นอะไร ? กี่ CC ?
ฟิลเลอร์ Juvederm ออกแบบมาตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาบนใบหน้าได้แทบจะทุกตำแหน่ง มีหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ครับ ใช้ Juvederm รุ่นอะไร ? หมอจะต้องประเมินปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ก่อนครับ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถเลือกรุ่นฟิลเลอร์ และ CC ที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม
ปริมาณ CC คร่าว ๆ ในแต่ละจุด และรุ่นฟิลเลอร์ Juvederm ที่เหมาะกับตำแหน่งนั้น ๆ เช่น
- ใต้ตา Juvederm Voluma, Juvederm Volite, Juvederm Volux 2-4 CC
- ร่องแก้ม Juvederm Ultra Plus, Juvederm Voluma, Juvederm Volift, Juvederm Volux 1-3 CC
- แก้มตอบ Juvederm Volift 2-4 CC
- คาง Juvederm Voluma, Juvederm Volux 1-2 CC
- ขมับ Juvederm Ultra Plus, Juvederm Voluma, Juvederm Volux 2-4 CC
- หน้าผาก Juvederm Vobella 3-5 CC
- ปาก Juvederm Ultra Plus, Juvederm Voluma, Juvederm Volift, Juvederm Volite 1-2 CC
- มุมปาก Juvederm Volift 1-2 CC
- กรอบหน้า Juvederm Voluma, Juvederm Volux 2-4 CC
- มือ Juvederm Volite 1-2 CC
ฟิลเลอร์ Juvederm เหมาะบุคคลกลุ่มไหนเป็นพิเศษ ?
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก จากการที่กระดูกยุบตัวตามอายุที่มากขึ้น
- ผู้ที่มีใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ต้องการปรับรูปหน้าให้สมส่วน สวยงาม
- ผู้ที่มีปัญหาผิว เช่น ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิวตื้น ๆ ต้องการปรับสภาพผิว
- ผู้ที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากมีรอยแผล ไม่มีเวลาพักฟื้น
- ผู้ที่อยากเห็นผลลัพธ์เร็ว ฉีดฟิลเลอร์เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด
- ผู้ที่มั่นใจในประสิทธิภาพของฟิลเลอร์แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดี ฉีดออกมาแล้วสวย เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ไม่อยากต้องมาเติมฟิลเลอร์บ่อย ๆ Juvederm อยู่ได้นาน 8-24 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ฉีดและการดูแลตัวเองหลังฉีด)
ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm แล้ว รีวิวผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง ?
หมอเลือกฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ฉีดเติมร่องลึกใต้ตาดูตื้นขึ้น คล้ำน้อยลง
หมอฉีด Filler ยี่ห้อ Juvederm Volux เพื่อสร้างกรอบหน้าให้คมชัด
โดยฉีดเข้าไปที่บริเวณด้านหน้าของใบหู แนวขากรรไกรล่าง ไปจนถึงปลายคาง
ฉีดซัปพอร์ตหน้าแก้มที่หย่อนคล้อย ให้ตื้นขึ้น หน้ายกกระชับ
Juvederm ราคา แบ่งตามรุ่น เนื้อฟิลเลอร์ และตำแหน่งฉีด
ฟิลเลอร์ Juvederm ราคา แต่ละรุ่นไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับปัญหา ตำแหน่งฉีด บางตำแหน่ง เช่น ปาก หน้าผาก Skin Booster ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง ราคาก็จะสูงกว่าตำแหน่งอื่น และยังขึ้นอยู่กับปริมาณ CC ที่ใช้ หมอจะแนะนำรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และตรงกับงบประมาณให้ครับ
ที่ V Square Clinic ฉีด Filler Juvederm ราคาเริ่มต้น 6,990-18,000.-/CC
- Juvederm Voluma ราคา 12,500.-/CC ปกติ 14,500.-
ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฉีดใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม ปาก คาง
- Juvederm Volite ราคา 12,900.-/CC ปกติ 15,000.-
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ฉีดใต้ตา หน้าใส มือ
- Juvederm Volift ราคา 12,900.-/CC ปกติ 15,000.-
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดใต้ตา หว่างคิ้ว แก้มตอบ ร่องแก้ม มุมปาก
- Juvederm Ultra Plus ราคา 6,990.-/CC ปกติ 14,000.-
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดขมับ ร่องแก้ม ปาก
Juvederm Vobella ราคา 11,000.-/CC ปกติ 14,000.-
- ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดหน้าผาก
Juvederm Volux ราคา 18,000.-/CC
- ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฉีดใต้ตา ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก คาง
ผลลัพธ์หลังฉีด Juvederm อยู่ได้นาน เท่าไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm อยู่ได้นาน 8-24 เดือน ฟิลเลอร์แท้ สลายได้เองตามธรรมชาติ ถ้าอยากให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นาน
- งดกด บีบ นวด และขยับใบหน้าเยอะในช่วงแรก เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น เลเซอร์ร้อน ซาวน่า ตากแดด
- งดสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ เพราะหลอดเลือดจะขยายตัว ทำให้ยุบบวมช้า
- 2-3 คืนแรก ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก งดนอนตะแคง
- งดรับประทานอาหารหวานจัด อาหารหมักดอง อาหารดิบ เพราะจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะฟิลเลอร์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป และอยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีด Juvederm แล้วไม่เห็นผล อาจเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมไหม ?
โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่ถ้าฉีด Juvederm แล้วไม่เห็นผล เกิดได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือ การฉีดฟิลเลอร์หิ้ว แม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acids เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ได้มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ถูกต้อง ลักลอบนำเข้ามา คลินิกไม่ได้ซื้อจากนำเข้าโดยบริษัทนำเข้าอย่างเป็นทางการ ก็ถือว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม โอกาสสูงที่ตัวยาจะเสื่อมสภาพ ฉีดแล้วไม่เห็นผล อายุการใช้งานสั้นลง หรือเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามมา
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ Juvederm จึงควรเช็กก่อนครับว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบได้ในเบื้องต้นก่อนฉีด
- ฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้ ต้องมีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
- กล่องมี 2 cc และเลข lot. ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
- เลข lot. ที่กล่อง
- เลข lot. ที่ซอง
- เลข lot. ที่สติกเกอร์
- เลข lot. ที่หลอด
- สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่งบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด โทร 02 460 7717
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปลอม ให้โทษและอันตรายกว่าที่คิด ! ควรรู้วิธีตรวจสอบโดยละเอียด
หลังฉีด Juvederm มีวิธีดูแลตัวเองได้เหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm และยี่ห้ออื่น ๆ การดูแลตัวเองจะคล้าย ๆ กัน สามารถใช้ชีวิต ใช้หน้าได้ตามปกติ แต่จะมีวิธีการดูแลตัวเองที่หมอเน้นย้ำ คือ
- อย่าบีบ นวด แกะ เกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- อยู่แต่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF, Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
- เลี่ยงการเข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด ดื่มแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำ 8-10 แก้ว (1.5-2 ลิตร) ฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป เข้าที่เร็ว
นอกจากนี้การดูแลโดยทั่วไปแล้ว ในบางตำแหน่ง หลังฉีดฟิลเลอร์ ยังมีวิธีดูแลดูแลแตกต่างกันออกไป จะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำให้อีกที หรือหากมีข้อสงสัยก็สามารถโทรเข้ามาสอบได้ครับ
นอกจาก Juvederm แล้วมีฟิลเลอร์อเมริกายี่ห้ออื่น ๆ แนะนำอีกไหม ?
ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ จากหลายประเทศ สำหรับฟิลเลอร์อเมริกาที่ผ่านอย. ไทย มี Juvederm ยี่ห้อเดียวครับ ถ้ามียี่ห้อใหม่ ๆ เข้ามา แนะนำให้ตรวจสอบกับเว็บไซต์ของ อย. หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้น ๆ ให้ถี่ถ้วนก่อน เพื่อความปลอดภัย
ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม ?
ข้อดีของฟิลเลอร์ คือ สามารถเติมเต็ม ปรับรูปหน้า และปรับสภาพผิว ให้ผลลัพธ์ดีและมีความปลอดภัย ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพและรับรองความปลอดภัยจาก US FDA และอย.ไทย จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์พรีเมียม แบรนด์ระดับโลกที่แพทย์ความงามให้ความไว้วางใจ และ V Square Clinic เลือกใช้ครับ
สรุป
ฟิลเลอร์ Juvederm มีหลายรุ่น ปัจจุบันที่ผ่านอย.ไทย มีทั้งหมด 6 รุ่น คือ Juvederm Ultra Plus, Juvederm Voluma, Juvederm Volbella, Juvederm Volift, Juvederm Volite และ Juvederm Volux สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง เช่น ใต้ตา หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบ ปาก คาง ลักษณะเนื้อฟิลเลอร์มีครบทั้งเนื้อแน่น เนื้อนิ่ม เนื้อละเอียด แพทย์สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ แก้ปัญหาได้ตรงจุด
นอกจากยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานแล้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังฉีดฟิลเลอร์ ยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ในการเลือกใช้รุ่นฟิลเลอร์นั้น ๆ เทคนิคการฉีด จำนวน CC ที่เหมาะสม ดังนั้นควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้ และฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
