
รู้จัก Sculptra ให้มากขึ้น
การฉีด Sculptra คืออะไร ? ทำไมถึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะมาเจาะลึกเรื่องนี้กันครับ
“ Sculptra ” เป็นหนึ่งในหัตถการความงามที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวดูเด็กลง คงผลลัพธ์ได้ยาวนาน หากใครสนใจ อยากรู้รายละเอียด การฉีด Sculptra ช่วยอะไรได้บ้าง ? เหมาะกับใคร ? ดีไหม ? เจ็บไหม ? ราคาเท่าไหร่ ? ปลอดภัยแค่ไหน ? ห้ามพลาดบทความนี้ครับ
คลิกอ่านหัวข้อ Sculptra
Sculptra คืออะไร ?
Sculptra คือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือ Collagen Biostimulator เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนตามกระบวนการธรรมชาติ ทำให้ผิวยืดหยุ่นแข็งแรง ยกกระชับ ริ้วรอยลดลง หน้าใส ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

ส่วนประกอบหลักของ Sculptra คือ PLLA (Poly-L-Lactic acid) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสารกึ่งถาวร คงรูปอยู่ได้นาน ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ว่ามีความปลอดภัย
Sculptra สกัดมาจากอะไร ?
Sculptra สกัดจากสาร PLLA (Poly-L-Lactic acid) ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยิน เพราะ PLLA เป็น 1 ในวัสดุที่ใช้ทำเส้นไหมละลายที่ใช้ในการร้อยไหม มีจุดเด่นในการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี แต่สำหรับ PLLA ใน Sculptra จะมาในรูปแบบที่แตกต่างออกไปครับ
PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid ใน Sculptra จะมาในรูปแบบผง PLLA Powder บรรจุอยู่ในขวด หมอจะต้องผสม sterile water ก่อนจะฉีดเข้าสู่ผิวชั้นลึก ประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G โดยใช้เทคนิคการฉีดแบบ cross-hatching หรือฉีดทแยงมุมไขว้กัน ซึ่งเป็นวิธีฉีด Sculptra ที่กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีที่สุด
Sculptra ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
การฉีด Sculptra สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น

- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น
- ช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ขมับ และกรอบหน้า
- ช่วยเติมเต็ม ยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยร่องลึก
- ช่วยกระชับผิวที่หย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง
- ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างชั้นลึกใต้ผิว ปรับโครงสร้างผิวจากภายใน
- ช่วยให้ผิวแข็งแรง แน่นกระชับ อิ่มฟู มีสุขภาพดีขึ้น
- ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า สามารถทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน
- ช่วยปรับสภาพผิวที่เป็นหลุมเป็นบ่อจากสิว
- ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น
Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างไร ?
การทำงานของ Sculptra หลังจากฉีดเข้าสู่ผิว ตัวยาจะกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเติมเต็มช่องว่างที่ทำให้เกิดรอยพับของผิวหรือริ้วรอย และจะเรียกเม็ดเลือดขาวแมคโครฟาส (Macrophage) เข้ามาเหนี่ยวนำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่ชื่อว่าไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ทำให้เกิดคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ตามธรรมชาติ

ในร่างกายของเรามีคอลลาเจนอยู่หลายชนิด (Type) คอลลาเจนที่ Sculptra กระตุ้นได้มากที่สุดจะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type 1) ซึ่งพบมากถึง 90% ในร่างกาย โดยเฉพาะในเส้นเอ็นและหลอดเลือด ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันเนื้อเยื่อไม่ให้ฉีกขาด และช่วยสมานแผลบนผิวหนังได้ดี จึงเป็นคอลลาเจนที่จำเป็นสำหรับผิว
มีการวิจัยศึกษาทดลองพบข้อมูลชัดเจนครับว่า “หลังฉีด Sculptra ในระยะเวลา 3 เดือน จะมีคอลลาเจน Type 1 ในผิวเพิ่มขึ้นถึง 66.5%”

Sculptra มีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง ?
ข้อดีการฉีด Sculptra
- หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น ไม่เกิดรอยแผล
- กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวใส
- ผิวยืดหยุ่น ยกกระชับ อิ่มฟู ริ้วรอยลดลง
- หน้าเด็ก ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
- คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี
ข้อเสียการฉีด Sculptra
- หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้เทคนิคการฉีด อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
- หากใช้ Sculptra ของปลอม ไม่ผ่าน อย. อาจเกิดผลข้างเคียงได้
Sculptra เหมาะ-ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?
การฉีด Sculptra เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับคนที่มีอายุ 25 ขึ้นไป ที่ต้องการฟื้นฟูผิว
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหนังขาดคอลลาเจน
- เหมาะกับคนที่ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวย้วย ผิวไม่เฟิร์ม
- เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน
- เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดเจน
- เหมาะกับคนที่อยากมีผิวหน้าอ่อนเยาว์
- เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนาน เพราะ Sculptra คงผลลัพธ์ได้นานถึง 2 ปี

การฉีด Sculptra ไม่เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ประวัติแพ้ PLLA
- ผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน
- ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
- ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำ
- ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
Sculptra ดีไหม ? คุ้มค่าไหม ?
ข้อดีของ Sculptra หลัก ๆ คือ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยสามารถกระตุ้นการผลิต Collagen Type I สูงถึง 66.5% ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ผิวของเราต้องการมากที่สุด ส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีคุณภาพผิวที่ดี
อีกข้อดีสำคัญ คือ Sculptra มีความปลอดภัยสูง หลังฉีดร่างกายสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ปลอดภัย ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) รวมถึงประเทศไทย
เมื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคา ถือว่าคุ้มค่า และผลลัพธ์ยังอยู่ได้นานถึง 2 ปี ซึ่งถ้าต้องการเน้นงานผิว Sculptra เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่มีประสิทธิภาพครับ

Sculptra ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?
Sculptra สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณนั้น ๆ แน่น และกระชับมากขึ้น โดยตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมีดังนี้

- ขมับ : เป็นจุดที่หากยุบตัวลง จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุอย่างเห็นได้ชัด การฉีด Sculptra จุดนี้จะช่วยฟื้นฟูผิวให้อิ่มฟู เต่งตึง แก้ปัญหาขมับตอบ
- หน้าแก้ม (Midface) : ช่วยเพิ่มความเต่งตึงและยกกระชับผิวแก้ม แก้ปัญหาหน้าตอบ และลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
- กรอบหน้า : ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยบริเวณแนวกรอบหน้า
หมายเหตุ : การฉีด Sculptra จำเป็นต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากการฉีด Sculptra ต้องฉีดด้วยเทคนิคการฉีดแบบ cross-hatch ลงใต้ชั้นผิว 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีที่สุดครับ
Sculptra อันตรายไหม ?
การฉีด Sculptra มีความปลอดภัยครับ เนื่องจากตัวยามีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีงานวิจัยรองรับมากกว่า 50 ฉบับ และตัวอนุภาค Poly-L-Lactic Acid (PLLA-SCA) ใน Sculptra ซึ่งเป็น Original Collagen Biostimulator ยังได้รับการจดสิทธิบัตรในเรื่องของกระบวนการผลิต เพื่อคัดเลือกให้ได้ขนาดอนุภาคที่ออกฤทธิ์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ปัจจุบัน Sculptra ได้ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US.FDA) รวมถึง อย.ไทย ว่ามีความปลอดภัย จึงมั่นใจได้ว่า Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ไม่อันตราย ใช้ได้อย่างปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
รีวิวฉีด Sculptra เปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อน-หลัง


*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย


Sculptra ยังสามารถนำมาช่วยแก้ปัญหาผิวบริเวณอื่น ๆ หรือ Sculptra Body เช่น บริเวณหน้าท้อง ช่วยทำให้ผิวหน้าท้องกระชับ ลดความหย่อนคล้อยได้

*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
เทียบการฉีด Sculptra กับ การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยวิธีอื่น ๆ
ปัจจุบันหัตถการที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนยังมีอีกหลายแบบครับ ซึ่งมีทั้งแบบทางตรงและทางอ้อม ยกตัวอย่างเช่น
Sculptra กับ Radiesse
หากเปรียบเทียบ Sculptra กับ Radiesse ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ช่วยเรื่องงานผิวที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนคล้ายกัน เมื่อดูลงในรายละเอียดจะเห็นว่าจะมีส่วนประกอบหลัก จุดเด่น และผลลัพธ์ที่แตกต่างกันดังรูปด้านล่าง

คลิกอ่านบทความเพิ่มเติม
Sculptra กับ เมโสหน้าใส
Sculptra และ เมโสหน้าใส มีเป้าหมายในการกระตุ้นการสร้างคอลาเจน และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ แต่ต่างจุดประสงค์กันครับ
Sculptra มีส่วนประกอบหลักคือ Poly-L-lactic acid (PLLA) จึงเหมาะกับการฟื้นฟูผิวชั้นลึก กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่แบบธรรมชาติ เน้นทำให้ผิวแน่นกระชับ เต่งตึง ผิวมีความยืดหยุ่น สามารถฟื้นฟูโครงสร้างใบหน้าที่เสื่อมตามวัย ลดริ้วรอย และยกกระชับผิวได้ดี
ซึ่งต่างจากการฉีดเมโสหน้าใส ที่ใช้สารบำรุงที่มีคุณสมบัติกระตุ้นคอลาเจน เช่น vitamin A B C E, Transamin, Glutathione และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ฉีดลงไปใต้ผิวหนังชั้นตื้นทั่วไปหน้า เพื่อฟื้นฟูผิว เน้นความใสและความชุ่มชื้นของผิว

ปัจจุบันเมโสหน้าใสมีหลายสูตรครับ เช่น มาเด้ คอลลาเจน, Filorga / Revs, Alpha arbutin, Tensonez และ Neo-Glutanex Glow หากสนใจ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อแนะนำสูตรที่เหมาะสมให้ได้
คลิกอ่านบทความเพิ่มเติม
Sculptra กับ ฟิลเลอร์
Sculptra กับ ฟิลเลอร์ สามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้เช่นกัน โดยการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid- HA) เมื่อฉีดเข้าไปผิวจะมี Volume หรือเพิ่มปริมาตรของผิวในบริเวณนั้นโดยตรง แล้วจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาเฉลี่ย 6-24 เดือน โดยไม่มีสารตกค้าง
ฟิลเลอร์ทั่วไปส่วนใหญ่ไม่ได้กระตุ้นคอลาเจนโดยตรงครับ เน้นเติมเต็มเพื่อเพิ่มปริมาตร แต่ก็มีฟิลเลอร์บางชนิดที่อาจมีคุณสมบัติกระตุ้นคอลาเจนเล็กน้อย ในขณะที่ Sculptra จะถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยตรง
Sculptra กับ Belotero Revive
ช่วงหลัง ๆ ผู้คนจะให้ความสำคัญกับคุณภาพผิว (Skin Quality) ทำให้ Belotero Revive ถูกพูดถึงมากขึ้น เพราะเป็นฟิลเลอร์งานผิวโดยเฉพาะ (Skin Booster) สามารถช่วยชะลออายุของผิว ลดการเสื่อมโทรมของผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวได้ แต่ก็ต่างวัตถุประสงค์กับการฉีด Sculptra ครับ

Belotero Revive เน้นฉีดแล้วผิวอิ่มฟู ผิวฉ่ำ ผิวกระจก ชุ่มชื้นเนียนใส เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-9 เดือน ส่วน Sculptra เน้นฉีดแล้วกระชับ แน่น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว และผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไป แต่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวได้ในระยะยาว
Sculptra กับ Gouri
Sculptra กับ Gouri ถูกนำมาเปรียบเทียบความเหมือนและความต่างเช่นกัน เนื่องจากเป็นนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวเหมือนกัน แต่ Gouri จะใช้สาร PCL (Polycaprolactone) ขณะที่ Sculptra ใช้สาร PLLA (Poly-L-Lactic acid) นำมาฉีดเข้าสู่ชั้นผิว
ด้วยคุณสมบัติของ Gouri สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว เน้นฟื้นฟูผิว และแก้ไขผิวที่เสื่อมสภาพตามวัยให้มีคุณภาพดีขึ้น ผิวอิ่มน้ำ รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง มีความแน่นฟู กระชับ และเรียบเนียน แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานไม่เท่า Sculptra โดยอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือนครับ
Sculptra กับ เครื่องยกกระชับผิว
เครื่องมือยกกระชับ เช่น Hifu Ultraformer III, Ulthera SPT (คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง) และ Thermage FLX (คลื่นวิทยุ) จะเป็นการใช้คลื่นเสียงในการช่วยยกกระชับผิวและลดริ้วรอย
โดยคลื่นเสียงนี้จะไปกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย ให้กลับมายืดหยุ่น เต่งตึง ลดริ้วรอย ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ข้อดีคือไม่มีแผล เหมาะกับคนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด เริ่มเห็นผลชัดเจนใน 3 เดือนขึ้นไป

ส่วน Sculptra จะเป็นการเสริมความแข็งแรงให้กับผิวจากภายใน ผิวหนังที่เสื่อมสภาพได้รับการซ่อมแซม มีการฟื้นฟูตัวเองจากภายใน ช่องว่างที่ทำให้ผิวเกิดรอยพับหรือริ้วรอยถูกเติมเต็ม ทำให้ได้ผิวที่ดูเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่อยู่ได้นาน
ฉีด Sculptra ต้องใช้กี่ CC ?
การฉีด Sculptra ในเบื้องต้นจะใช้ 1 ขวด หรือ 10 CC ครับ
แต่หากมีปัญหามาก หรือเริ่มมีอายุ มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ อายุ 30 ปีขึ้นไป แนะนำให้ฉีดครั้งละ 2 ขวด หรือ 20 CC หรือตามที่แพทย์แนะนำ
โดยฉีดต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง ระยะเวลาห่างกันครั้งละ 1 เดือน จากนั้นจะคงสภาพผิวได้ประมาณ 2 ปีครับ
ข้อควรรู้และการเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra
Sculptra เป็นหัตถการที่ใช้การเตรียมตัวไม่มาก หากสนใจ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการฉีดที่เหมาะสมกับตัวคนไข้ได้ และเมื่อตัดสินใจฉีด จะมีขั้นตอนการเตรียมตัว ดังนี้
- งดยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น กลุ่มยาแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ฯลฯ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำที่อาจเกิดขึ้นได้
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด
- ไม่อยู่ในภาวะการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาใด ๆ อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด Sculptra ครับ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Sculptra
ในส่วนของข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Sculptra ที่สำคัญคือ การนวดเพื่อช่วยให้ยากระจายตัวได้ทั่วใบหน้า เรียกว่า Triple 5 ซึ่งหมอจะวิธีการนวดในหัวข้อถัดไป
นอกจากการนวดแล้ว การดูแลตัวหลังฉีด Sculptra ในด้านอื่น ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยคนไข้ควรปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การอบซาวน่า การอบไอน้ำ งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวีให้มากที่สุด จนกว่าอาการบวมและแดงจะหายเป็นปกติ
- หากต้องการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า แนะนำเว้นช่วง 2-4 สัปดาห์ครับ
Step การนวดหลังฉีด Sculptra
วิธีการการนวด Triple5 คือ การทำให้ตัวยาดูดซึมกระจายเข้าสู่พื้นผิวให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลังฉีดจะต้องทำการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน และต้องทำติดต่อกัน 5 วัน โดยวิธีการนวดมี 4 ท่า ดังนี้
- Step 1 : ใช้นิ้วโป้งของเรานวดขมับทั้ง 2 ข้างแล้วใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากหน้าผากไปขมับ
- Step 2 : ยกนิ้วโป้งขึ้น แนบไปตรงหน้าแก้ม ทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนจากหน้าแก้มไปข้าง ๆ แก้ม
- Step 3 : ใช้อุ้งมือกดช่วงข้าง ๆ แก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากล่างขึ้นบนไปถึงตรงโหนกแก้ม
- Step 4 : ท่าสุดท้าย ทำมือคล้าย ๆ กับท่าที่สอง ยกนิ้วโป้งขึ้น เริ่มจากที่คางไล่ไปตามแนวกรามกรอบหน้าด้านข้าง

Sculptra ราคาเท่าไหร่ ?

ฉีด Sculptra กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีด Sculptra จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยเริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 2-3 อาทิตย์
Sculptra จะค่อย ๆ เข้าไปทำปฏิกิริยาในผิวชั้นลึก ทำให้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติ โดยจะเห็นผลชัดเจนในช่วง 3 เดือนครับ
Sculptra อยู่ได้นานไหม ? อยู่ได้กี่เดือน กี่ปี ?
ผลลัพธ์หลังการฉีด Sculptra สามารถอยู่ได้นาน 2 ปี ในกรณีที่ฉีดอย่างต่อเนื่อง
แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้งในช่วงแรกเพื่อปรับสภาพผิว ให้ผิวได้สร้างคอลลาเจนอย่างเต็มที่ จากนั้นจะอยู่ได้นาน 2 ปีครับ
แต่ถ้ากรณีฉีดครั้งเดียว โดยไม่ได้ฉีดซ้ำ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 2-4 เดือนครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์และการดูแลตัวเองหลังฉีดของคนไข้
ฉีด Sculptra มีผลข้างเคียงไหม ?
ฉีด Sculptra ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือเป็นอันตราย ในบางเคสอาจมีอาการบวม แดง ช้ำ หรือมีอาการปวดเล็กน้อย เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ หายได้เองใน 2-3 วัน
ในกรณีฉีด Sculptra เป็นก้อน หรือหลังฉีดคลำเจอตุ่มนูนหรือก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ให้เน้นนวดบริเวณที่ฉีด Sculptra เพื่อให้อนุภาคของสารที่ฉีดไม่ไปเกาะกลุ่มกันเป็นก้อน
Sculptra ฉีดซ้ำได้ไหม ทำบ่อยแค่ไหน ?
การฉีด Sculptra สามารถฉีดซ้ำได้ ในช่วงแรกแนะนำให้ฉีด 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะในทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่คงอยู่ยาวนานและให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
แนวทางการเลือกคลินิกฉีด Sculptra ที่ไหนดี ?
เลือกคลินิกฉีด Sculptra ไม่ควรพิจารณาจากราคาเพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลายปัจจัยให้ต้องพิจารณา หมอลิสต์มาให้เป็นข้อ ๆ ไว้เป็นเช็กลิสต์ (Checklist) ครับ
- มาตรฐานของคลินิก ต้องไม่ลืมว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ นี่จึงเป็นข้อแรกที่หมอหยิบยกขึ้นมา เพราะถ้าติดตามข่าวจะเห็นว่าผลข้างเคียงหรืออันตรายจากการทำหัตถการต่าง ๆ เมื่อตรวจสอบมาตรฐานคลินิก ส่วนใหญ่จะเป็นคลินิกเถื่อนที่ไม่ได้เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง
- แพทย์ที่ผ่านการอบรม เนื่องจากการฉีด Sculptra ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วย Skin Rejuvenation มีเทคนิคการฉีดเฉพาะซึ่งไม่ใช่แพทย์ทุกคนจะฉีดได้ครับ ต้องเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการที่ผ่านการอบรมเท่านั้น
- Sculptra ของแท้ ผลิตภัณฑ์ต้องได้มาตรฐาน เป็นของแท้ ตรวจสอบได้ นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด

รายละเอียดวิธีเช็ก Sculptra ของแท้
- มีสติกเกอร์โมโนแกรมพร้อมชื่อแบรนด์อยู่บนกล่อง ซึ่งกล่องต้องไม่มีรอยฉีกขาด ไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน
- มีสัญลักษณ์ลายน้ำ S นูนหน้ากล่อง สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกว่าตัวอักษรมีความนูนได้ชัดเจน
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยติดอยู่ข้างกล่อง มีระบุเลข lot. วัน/เดือน/ปีที่ผลิต ที่ตรงกับฉลากหน้ากล่อง
- ขวดสุญญากาศ ด้านในเป็น PLLA Powder ไม่มีของเหลวผสม และฝาขวดด้านบนจะมีลักษณะเป็นจุกยาง ไม่มีรอยแกะ รอยขาด หรือรอยเจาะที่บ่งบอกถึงการใช้งานมาก่อน
- สแกน QR Code ผ่านแอป eZTRacker เพื่อตรวจสอบได้ เมื่อสแกนแล้วระบบจะขึ้นข้อมูลของสินค้า ทั้งหมายเลขสินค้า วันผลิต และวันหมดอายุ ซึ่งจะต้องตรงกันกับเอกสารข้างกล่อง
ฉีด Sculptra ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

- V Square Clinic ให้บริการฉีด Sculptra โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ ผ่านการอบรมเทคนิคการฉีด sculptra ที่ถูกต้อง โดยจะต้องฉีดเข้าสู่ผิวชั้นลึก ประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G จงมีความปลอดภัยสูง

(ก่อนฉีด Sculptra แพทย์จะประเมินสภาพผิว
และรับฟังความกังวลใจของคนไข้ เพื่อแนะนำแผนการรักษาที่เหมาะสม )
- คนไข้สามารถมั่นใจตัวยา ที่ V Square Clinic ใช้ตัวยา Sculptra ของแท้ ผ่าน อย. ก่อนฉีดมีการแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ให้กล่องและขวดกลับบ้านเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจ
- ในด้านการบริการ V Square Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการถูกต้อง สามารถตรวจสอบชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ จำนวน 11 หลัก
- มีหลายสาขา เดินทางสะดวก สังเกตได้ง่าย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในห้างและใกล้ห้าง มีที่จอดรถ เดินทางได้ทั้งรถส่วนตัว และรถสาธารณะ
หากสนใจสามารถสอบถามหรือปรึกษากับแพทย์ได้โดยตรง ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายหรือปรึกษาออนไลน์ สามารถส่งรูปหน้ามาให้หมอประเมินก่อนได้ ทางโทรศัพท์, Facebook หรือ Line@ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด Sculptra
Sculptra ฉีดขวดเดียวได้ไหม ?
การฉีด Sculptra สามารถฉีด 1 ขวดเพื่อดูผลลัพธ์ก่อนได้ครับ จากนั้นแพทย์จะนัดมาประเมินอีกครั้งว่าควรฉีดเพิ่มหรือไม่
Sculptra หน้าบวมกี่วัน ?
หลังฉีด Sculptra สามารถเกิดหน้าบวมได้ครับ เนื่องจากมีตัวยาเข้าสู่ผิว ถือเป็นอาการปกติ ที่สามารถหายเองได้ โดยทั่วไปจะมีอาการบวมประมาณ 3 วัน จากนั้นอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง
ฉีด Sculptra เจ็บไหม ?
การฉีด Sculptra จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากเข็มที่ใช้ฉีดมีขนาดเล็กมาก และก่อนทำจะมีการแปะยาชา ช่วยลดความเจ็บขณะฉีดได้ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีด และน้ำหนักมือของหมอแต่ละคนด้วยครับ
ฉีด Sculptra แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?
ในเคสที่ฉีด Sculptra แล้วไม่เห็นผล อาจเกิดจากการฉีดกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ประเมินปัญหาได้ไม่ตรงจุด ประเมินตัวยาไม่เหมาะสม ใช้ Sculptra ของปลอม ไม่ได้คุณภาพ ไม่ผ่าน อย.
นอกจากนี้ความถี่ในการฉีด Sculptra ที่ไม่ต่อเนื่อง ก็อาจทำให้ไม่เห็นผลหรือเห็นผลไม่ชัดเจนได้ด้วยเช่นกัน
ฉีด Sculptra ร่วมกับการทำหัตถการอื่นได้ไหม ?.
การฉีด Sculptra สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เพราะ Sculptra ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ไม่ว่าจะทำร่วมกับหัตถการอะไรก็สามารถทำได้ แต่ต้องเว้นระยะเวลาให้เหมาะสมครับ ยกตัวอย่าง
- ฉีด Sculptra แล้ว ทำ HIFU หรือ Ulthera เพื่อเสริมประสิทธิภาพการยกระชับ หรือจะเป็นการฉีดเสริมกับการรักษาหลุมสิว เพื่อเพิ่มให้ผิวมีสารตั้งต้น ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทั้งนี้การฉีด Sculptra ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ควรงด 2-4 อาทิตย์ ก่อนฉีด Sculptra เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้พร้อม หรือฉีด Sculptra ไปแล้ว 4-6 สัปดาห์ ถึงจะทำหัตถการอื่นในตำแหน่งเดียวกันได้ครับ
สรุปเรื่องฉีด Sculptra กระตุ้นคอลลาเจนคืนความอ่อนเยาว์
การฉีด Sculptra สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เป็นการฟื้นฟูสภาพผิวจากผิวชั้นลึก เมื่อคอลลาเจนถูกสร้างขึ้นจะทำให้ผิวหน้าค่อย ๆ เต่งตึง กระชับ และแข็งแรงขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
ก่อนฉีดหมอแนะนำให้ศึกษาหาข้อมูล ปรึกษาหมอก่อนเพื่อประเมินปัญหาและวางแผนร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการครับ ที่ V Square Clinic สามารถปรึกษาหมอได้ทางออนไลน์ฟรี ก่อนนัดคิวเข้ามาใช้บริการครับ
อ้างอิง
- Sculptra. Instructions for Use. Galderma Laboratories, L.P. 2023.
- Data on file. 43USSA1812EXT clinical study report. Fort Worth, TX: Galderma Laboratories, L.P. 2022.
- Bohnert K. et al. Randomized, Controlled, Multicentered, Double-Blind Investigation of Injectable Poly-L-Lactic Acid for Improving Skin Quality Dermatol Surg2019;45:718–724.
- Bergeret-Galley C. Comparison of Resorbable Soft Tissue Fillers. Aesthetic Surg J 2004; 24:33-46.
_______________________________________________________________________