
Ulthera กับ Oligio
Ulthera กับ Oligio แตกต่างกันอย่างไร ? สำหรับผู้ที่เป็นสายเครื่องยกกระชับอยู่แล้ว คงจะคุ้นเคยกับ Ulthera ที่สามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำเพียงครั้งเดียว ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี นอกจากรุ่น Ulthera SPT ที่มีจุดเด่นในการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้ ยังมีรุ่น Ulthera Prime ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยไม่นาน โดยมีการอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้แม่นยำขึ้น ใช้เวลาทำลดลง เจ็บน้อยลง
แต่เมื่อมี Oligio ซึ่งเป็นน้องใหม่เครื่องยกกระชับ ที่เพิ่งผ่าน อย.ไทย เข้ามา หลายคนคงสงสัยว่าเครื่องนี้ดีอย่างไร และต่างจาก Ulthera ตรงไหนบ้าง ? บทความนี้หมอจะเปรียบเทียบข้อแตกต่างของแต่ละเครื่องให้ครับ และแนะนำวิธีเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาของคนไข้
คลิกอ่านหัวข้อ Ulthera กับ Oligio
Ulthera กับ Oligio คืออะไร ?
Ulthera กับ Oligio คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวแบบ Non-Invasive Skin Tightening & Lifting Treatment ซึ่งจะไม่พึ่งเข็ม ไม่ใช้มีด ไม่ก่อให้เกิดบาดแผลที่ผิวชั้นนอกครับ
หลักการทำงานของทั้ง 2 เครื่องจะเป็นการส่งพลังงานลงไปใต้ชั้นผิว ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้ชั้นผิวหดตัว และแน่นกระชับมากขึ้น รวมถึงยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า และสลายไขมันส่วนเกินได้
Ulthera กับ Oligio แตกต่างกันอย่างไร ?
Ulthera กับ Oligio มีความแตกต่างกันในหลายจุดครับ ทั้งพลังงานที่ใช้ ชั้นผิวที่ทำการรักษา หัวยิงพลังงาน และระยะเวลาของผลลัพธ์ หมอสรุปข้อมูลให้เป็นตาราง เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้

เปรียบเทียบเครื่องยกกระชับ Ulthera กับ Oligio
ในหัวข้อนี้ หมอจะลงรายละเอียดเทคโนโลยีและรุ่นของ Ulthera กับ Oligio ให้ครับ
เครื่อง Ulthera
Ulthera คือ เครื่องยกกระชับ Original ที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) ส่งพลังงานได้ลึกถึงผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการศัลยกรรมดึงหน้าให้ตึงกระชับ จึงสามารถแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย หน้าตก หนังตาตก ปรับรูปหน้าให้เรียว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟูอีกด้วย
จุดเด่นของเครื่อง Ulthera อยู่ที่หน้าจอแสดงผลชั้นผิว ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวคนไข้ได้แบบเรียลไทม์ และออกแบบการรักษาแบบ Customized เฉพาะบุคคลได้ ให้ผลลัพธ์การยกกระชับนานถึง 1 ปี ในการทำเพียงครั้งเดียว

ในปัจจุบันเครื่องอัลเทอร่าที่ได้มาตรฐานจะมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ เครื่อง Ulthera SPT และเครื่องรุ่นล่าสุดที่เพิ่งผ่าน อย.ไทย ไม่นานนี้ อย่าง Ulthera Prime ครับ

เครื่อง Ulthera Prime ได้พัฒนาต่อยอดมาจาก Ulthera SPT โดยยังใช้เทคโนโลยี MFU-V (Microfocus Ultrasound with Visualization) ซึ่งเป็นจุดเด่นของเครื่องอัลเทอร่าไว้ แต่มีการอัปเดตหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น และระบบประมวลผลที่เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มความแม่นยำ ลดเวลาทำงานหัตถการให้น้อยลง คนไข้ก็จะรู้สึกเจ็บน้อยลงครับ
เครื่อง Oligio
Oligio มีเพียงรุ่นเดียวครับ ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Wontech ประเทศเกาหลี เป็นนวัตกรรมยกกระชับที่มีต้นแบบมาจาก Thermage ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ส่งพลังงานลงไปในชั้นผิวตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้าจนถึงชั้นไขมัน ส่งผลให้ผิวเกิดการหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผิวจึงแน่นกระชับ เรียบเนียนมากขึ้น ริ้วรอยจางลง รวมถึงยังสามารถสลายไขมันส่วนเกินได้
จุดเด่นเครื่อง Oligio อยู่ที่ระบบ Cooling System ครับ ในระหว่างยิงพลังงานเครื่องจะมีระบบสั่น และปล่อยความเย็นออกมาต่อเนื่อง เพื่อปกป้องผิวจากความร้อน รวมถึงมีฟังก์ชันวัดอุณหภูมิของผิวแบบเรียลไทม์ ลดความเสี่ยงผิวไหม้ ผิวเบิร์น และลดความรู้สึกเจ็บ

เปรียบเทียบ Ulthera กับเครื่องยกกระชับอื่น ๆ
นอกจาก Oligio แล้ว Ulthera ยังนิยมนำมาเปรียบเทียบกับเครื่อง Hifu และ Thermage ซึ่งทั้ง 2 เครื่องแตกต่างจาก Ulthera ดังนี้
- Ulthera กับ Hifu : เครื่อง Hifu ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ และลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS เหมือนกับ Ulthera ครับ แต่ขนาดจุดโฟกัสเล็กกว่า และไม่มีหน้าจอแสดงผลชั้นผิวแบบเรียลไทม์ จึงเจ็บน้อยกว่า อยู่ได้สั้นกว่า และราคาถูกกว่า เหมาะกับผู้ที่ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ต้องการคงความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า


Hifu Ultraformer III (ซ้าย) – Hifu Ultraformer MPT (ขวา) เป็นเครื่องไฮฟู 2 รุ่นที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอย.ไทย
บทความแนะนำ Ultraformer III
- Ulthera กับ Thermage : เครื่อง Ulthera กับ Thermage เป็นนวัตกรรม Original ในการยกกระชับและผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปีเหมือนกันครับ แต่ตัวเครื่อง Thermage จะใช้พลังงาน Monopolar RF ในการยิงพลังงาน 1 ครั้งจะครอบคลุมผิวหนังแท้จนถึงชั้นไขมัน เด่นในเรื่องสลายไขมันและยกกระชับผิว เหมาะกับผู้ที่มีชั้นไขมันใต้ผิวหนา มีริ้วรอย มีเหนียง หรือมีแก้ม ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว


Thermage FLX เป็นเครื่องเทอร์มาจที่ได้มาตรฐาน รุ่นใหม่ล่าสุด
บทความแนะนำ Thermage
เครื่อง Ulthera กับ Oligio ยกกระชับผิวถึงชั้นไหน ?
Oligio ยกกระชับได้ถึงชั้นไขมัน ส่วน Ulthera ลงลึกได้มากกว่าถึงผิวชั้น SMAS
หลายคนอาจจะสงสัยว่าชั้นผิวมีผลอย่างไรต่อการยกกระชับ หมอขออธิบายแบบนี้ครับ ปัญหาความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าของเราสามารถเกิดได้จากทุกชั้นผิวครับ ซึ่งแต่ละชั้นผิวมีความสำคัญ ดังนี้

- ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) : ผิวชั้นนอกสุด มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำและ Lipid ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ให้ผิวอ่อนนุ่ม และทำหน้าที่ปกป้องผิวจากสารพิษและแบคทีเรีย
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) : โครงสร้างผิวชั้นนอกที่อยู่ถัดลงมาจากชั้นหนังกำพร้า ประกอบด้วยคอลลาเจน อิลาสติน และไฮยาลูโรนิก แอซิด ทำให้ผิวยืดหยุ่น แข็งแรง กักเก็บน้ำได้ดี มีความชุ่มชื้น
- ชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat) : ชั้นผิวที่มีความอ่อนนุ่ม ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานและปกป้องอวัยวะภายใน บริเวณแก้มและเหนียงจะมีชั้นนี้เยอะกว่าตำแหน่งอื่น ๆ บางรายจึงอาจมีปัญหาความหย่อนคล้อยจากชั้นนี้ได้ครับ
- ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) : ชั้นเนื้อเยื่อสำคัญของกล้ามเนื้อใบหน้า หากผิวชั้นนี้เสื่อมสภาพลงจะส่งผลให้ใบหน้าเกิดความหย่อนคล้อย และมองเห็นริ้วรอยร่องลึกตามมาได้ หากต้องการยกกระชับผิวให้เห็นผลและมีประสิทธิภาพมากที่สุด จำเป็นต้องทำที่ชั้นนี้
Oligio ที่ส่งพลังงานตั้งแต่ผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมันในการยิง 1 ครั้ง จึงเหมาะกับผู้ที่มีชั้นไขมันใต้ผิวค่อนข้างมาก มีแก้มและเหนียงจากไขมัน ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวได้รูป หรือต้องการเพิ่มคุณภาพผิวชั้นตื้น ๆ ให้เรียบเนียนและเด้งกระชับเป็นหลักครับ
ส่วนใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ หนังตาตก หางคิ้วตก หรือหน้าตกจะเหมาะกับเครื่อง Ulthera ที่ลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS ครับ นอกจากนี้หากแพทย์ประเมินว่า มีความหย่อนคล้อยในผิวชั้นตื้น ๆ ก็สามารถเลือกหัวยิงตามความลึกของชั้นผิวที่ต้องการโฟกัสได้

การทำ Ulthera กับ Oligio เหมาะกับใคร ?
การทำ Ulthera กับ Oligio เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด และไม่ต้องการฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกายครับ ซึ่งมีปัญหาหรือคาดหวังผลลัพธ์ ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับผิวหน้า ลำคอ และร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขน เพิ่มคุณภาพผิว ให้ผิวเรียบเนียน ยืดหยุ่น และแน่นกระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและร่องลึกที่ใบหน้าและร่างกาย เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยตีนกา รอยย่นที่ลำคอ
- ผู้ที่ต้องการเก็บกรอบหน้า ปรับใบหน้าให้ได้รูป V-Shape ลดไขมันและผิวหย่อนคล้อยส่วนเกินใต้คาง
- ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก เปลือกตาตก คิ้วตก หรือมุมปากตก แต่ไม่อยากผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ชะลอการเกิดริ้วรอย และผิวหย่อนคล้อยในอนาคต
Ulthera กับ Oligio ทำบริเวณใดได้บ้าง ?
พลังงานของ Ulthera กับ Oligio สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้าและร่างกายครับ ไม่เป็นอันตราย สำหรับภาพรวมตำแหน่งต่าง ๆ จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้
- ทั่วใบหน้าและลำคอ ปรับผิวให้แน่นกระชับ ลดริ้วรอยตื้น ๆ ทั่วใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มคุณภาพผิว
- รอบดวงตา ยกกระชับผิวรอบดวงตา ยกคิ้ว ยกหางตา แก้ริ้วรอยรอบดวงตา
- แก้ม สลายไขมันส่วนเกินและยกกระชับแก้มที่ห้อย ลดริ้วรอยร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- กรอบหน้า สลายไขมันส่วนเกินใต้คาง เก็บกรอบหน้าให้ชัด ปรับใบหน้าให้เรียวสวย
- ลำตัว เช่น หน้าท้อง ท้องแขน ต้นขา แก้ปัญหาผิวย้วย กระชับสัดส่วน
ทั้งนี้โปรแกรม Oligio จะเน้นที่บริเวณใบหน้าและลำคอเป็นหลัก เพราะตัวเครื่อง Oligio ยังไม่มีหัวยิงสำหรับร่างกาย (Body Tip) ที่เป็นพื้นที่กว้าง ๆ และในประเทศไทยมีแค่หัวทิปสำหรับใบหน้า (Face Tip) ยังไม่ได้นำเข้าหัวทิปสำหรับรอบดวงตา (Eye Tip)

ทำ Ulthera กับ Oligio เจ็บไหม ?
เจ็บในระดับที่ทนไหว ก่อนทำทางคลินิกจะแปะยาชาให้
หากเปรียบเทียบความรู้สึกของ 2 เทคโนโลยีนี้ จากรีวิวส่วนใหญ่รู้สึกว่า Oligio เจ็บน้อยกว่าครับ เพราะพลังงานของเครื่องจะก่อให้เกิดความร้อนที่ 40°C มักรู้สึกอุ่น ๆ จนถึงร้อน
ในขณะที่ Ulthera จะมีขนาดพลังงานใหญ่ และทำให้เกิดอุณหภูมิ 65-70°C คนไข้อาจรู้สึกร้อน ๆ จี๊ด ๆ ใต้ชั้นผิวได้ แต่ผลลัพธ์ในการยกกระชับก็คุ้มค่าครับ ซึ่งตัวเครื่อง Ulthera Prime รุ่นล่าสุดจะมีระบบประมวลผลที่รวดเร็ว และมีความแม่นยำมากขึ้น เวลาที่ทำหัตถการลดลง คนไข้ก็จะรู้สึกเจ็บน้อยลง
ผลข้างเคียงเมื่อทำ Ulthera – Oligio
หากใช้เครื่องที่ได้มาตรฐาน และทำหัตถการกับแพทย์ที่ผ่านการอบรมใช้งานเครื่อง หลังทำ Ulthera และ Oligio ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายครับ ในรายที่ผิวบอบบางเป็นทุนเดิม อาจมีอาการบวมเล็กน้อยประมาณ 2-3 วัน ส่วนอาการปวดระบมที่ผิวจะหายได้เองใน 2 สัปดาห์
ส่วนผลข้างเคียงอันตราย ที่หลายคนเคยเห็นในข่าว เช่น รอยไหม้ ผิวขรุขระ ใบหน้าผิดรูป เกิดจากการใช้เครื่องปลอมหรือหัวยิงปลอม ปล่อยพลังงานไม่เสถียร บางตำแหน่งเบาไปหรือแรงไป ก็อาจไม่เห็นผลได้ครับ
Ulthera กับ Oligio ทำกี่ครั้งเห็นผล ?
เห็นผลตั้งครั้งแรก ถ้าใช้จำนวนไลน์ (Line) และช็อต (Shot) เหมาะสมกับตำแหน่งและสภาพผิว
หลังทำ Ulthera สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 30% และเต็มที่ใน 2-3 เดือนครับ โดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 200 Line และทั่วใบหน้าจะใช้ครั้งละ 700 Line ขึ้นอยู่กับสภาพผิว

ส่วนการทำ Oligio สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที 20% และเต็มที่ใน 2-3 เดือน ในเคสทั่วไปนิยมทำครั้งละ 600 Shot เพื่อครอบคลุมพื้นที่ทั่วใบหน้าและลำคอครับ ในรายที่มีปัญหาผิวน้อยสามารถเริ่มที่ 300-600 Shot ได้ แต่ถ้าปัญหาผิวมาก ๆ อาจเพิ่มถึง 900-1,200 Shot
ผลลัพธ์ Ulthera กับ Oligio อยู่ได้นานไหม ?
Ulthera อยู่ได้นาน 1 ปี ส่วน Oligio อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองร่วมด้วยครับ
โดยทั่วไปการดูแลตัวเองหลังทำเครื่องยกกระชับจะไม่มีอะไรมาก สามารถใช้ชีวิตประจำวันและทาสกินแคร์ได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงความร้อนและเลเซอร์ร้อนในช่วงแรก เพื่อลดโอกาสเกิดการระคายเคืองผิว และให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน คนไข้สามารถดูรายละเอียดได้จากภาพการดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera ที่หมอแปะไว้ครับ

Ulthera กับ Oligio ราคาเท่าไหร่ ?
ทำ Ulthera กับ Oligio ราคาเริ่มต้นประมาณ 20,000.- ขึ้นอยู่กับรุ่น โปรโมชันของคลินิก และจำนวน Line/Shot ที่ใช้ ยิ่งใช้มาก ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยครับ เพราะหัวยิงของทั้ง 2 เทคโนโลยีเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง เมื่อครบจำนวน Line/Shot ก็ต้องเปลี่ยนหัวยิงใหม่ ใช้ซ้ำไม่ได้
- Ulthera SPT ราคาประมาณ 20,000.- / 200 Line
- Ulthera Prime ราคาประมาณ 26,000.- / 200 Line
- Oligio ราคาประมาณ 20,000.- / 300 Shot
สำหรับโปรแกรม Ulthera ของ V Square Clinic มีให้เลือกทั้ง Ulthera SPT และ Ulthera Prime ตามความต้องการและงบประมาณของคนไข้ครับ ก่อนทำทุกเคสมีบริการประเมินใบหน้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ตัวอย่างราคา Ulthera SPT และ Ulthera Prime ที่ V Square Clinic


Ulthera กับ Oligio ทำที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไร ?
หลักการเลือกคลินิกทำ Ulthera กับ Oligio เหมือนกันครับ เพื่อให้ได้บริการที่ปลอดภัย และเห็นผลที่ดี คนไข้ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้
- คลินิกเปิดถูกต้องตามกฎหมาย มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และป้ายชื่อแสดงไว้ชัดเจน ภายในสะอาด ปลอดโปร่ง แบ่งห้องทำหัตถการเป็นสัดส่วน
- ให้บริการกับแพทย์ ที่ผ่านการอบรมใช้งานเครื่อง มีใบรับรอง (Certification) ที่เกี่ยวข้อง เช่น Certificate of Attendance: Ultherapy Physician Training by MERZ Aesthetics
- คลินิกมีบริการก่อนและหลังที่ดี หากมีประเมินใบหน้าก่อนทำ และมีติดตามผลลัพธ์ ก็จะช่วยให้มั่นใจในการใช้บริการได้
- ใช้งานเครื่องของแท้และนำเข้ามาอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่นำเข้าเครื่องยกกระชับตัวนั้น ๆ ครับ
วิธีตรวจสอบเครื่อง Ulthera ของแท้

อ่านบทความเพิ่มเติม : ทำ Ulthera ที่ไหนดี ? แชร์ทริคเลือกคลินิกความงาม ไม่พลาดเจอเครื่องปลอม
รีวิวยกกระชับผิว Ulthera ที่ V Square Clinic
โปรแกรม Ulthera ของ V Square Clinic ดูแลโดยแพทย์ที่ผ่านการอบรมจาก MERZ Aesthetics โดยตรง ก่อนทำทุกเคสมีประเมินใบหน้าและสภาพผิวกับแพทย์ ไม่ผ่านเซลส์ เพื่อแนะนำจำนวนไลน์ที่เหมาะสม และเห็นผลหลังทำ


(นพ.ธนภัทร จิตร์ไทย เลข ว.49640)
หลังทำ Ulthera เห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 30% คนไข้จะรู้สึกผิวแน่นและกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลงครับ เมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เต็มที่ใน 2-3 เดือน
รีวิวทำ Ulthera ที่ V Square Clinic



Ulthera กับ Oligio เลือกยกกระชับผิวแบบไหนดีกว่ากัน ?
จำเป็นต้องปรึกษาและประเมินใบหน้ากับแพทย์โดยตรงครับ เพราะสภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน ทั้งความหย่อนคล้อย ความหนาของไขมัน และปัญหาเฉพาะจุดที่ต้องการแก้ไข


(พญ.อุษา ตั้นตระกูล เลข ว.63350)
ที่ V Square Clinic มีบริการประเมินใบหน้ากับแพทย์โดยตรง เพื่อสอบถามความกังวลใจ และแนะนำหัตถการที่เหมาะสมที่สุด
หากเปรียบเทียบในแง่ประสิทธิภาพการยกกระชับและความคุ้มค่า Ulthera มีข้อได้เปรียบ ที่สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้ถึงผิวชั้นลึก และยังมีหัวยิงอื่น ๆ สำหรับชั้นผิวที่ต้องการโฟกัสครับ อีกจุดเด่นอยู่ที่แพทย์สามารถออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้อย่างแม่นยำด้วยหน้าจอแสดงผลชั้นผิวแบบเรียลไทม์ จึงให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนด้วยการทำเพียง 1 ครั้ง
แต่สำหรับใครที่อยากเน้นเพิ่มคุณภาพผิว และลดไขมันส่วนเกินเป็นหลัก Oligio ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกครับ ซึ่งข้อดีอยู่ที่ระบบ Cooling System ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าระหว่างยิงพลังงาน สามารถเลือกทำโดยไม่แปะยาชาได้
Ulthera กับ Oligio ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ แต่ควรเว้นระยะเวลาให้เหมาะสม ซึ่งหมอจะช่วยเรียงลำดับให้ครับ
ถ้าเป็นการทำใน Session เดียวกัน แนะนำให้ทำเครื่องยกกระชับอย่าง Ulthera กับ Oligio ก่อน แล้วค่อยตามด้วยการฉีดฟิลเลอร์, โบท็อก, เมโสแฟต, เมโสหน้าใส หรือร้อยไหมครับ แต่ถ้าคนไข้ทำหัตถการกลุ่มดังกล่าวมาแล้ว ควรเว้น 2 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ค่อยทำเครื่องยกกระชับ
กรณีของกลุ่มฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) เช่น Sculptra และ Radiesse จะแนะนำให้ฉีดก่อน 1 เดือนแล้วค่อยทำ Ulthera กับ Oligio ครับ ส่วนเครื่องยกกระชับตัวอื่น ๆ อย่าง Hifu และ Thermage จะแนะนำให้ทำห่างกับ Ulthera และ Oligio 1 เดือน
ทำ Ulthera กับ Oligio ด้วยกันได้ไหม ?
ได้ครับ ช่วยให้ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
โดยใช้ Ulthera ยกกระชับผิวชั้น SMAS เพื่อแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยในผิวชั้นลึก หรือใช้ในตำแหน่งที่ผิวมีชั้นไขมันไม่หนามาก เช่น รอบดวงตา ลำคอ แล้วค่อยใช้เครื่อง Oligio สลายไขมันส่วนเกิน ปรับคุณภาพผิวชั้นตื้น ๆ ช่วยกระชับรูขุมขน และฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ผิวเด้ง
ข้อควรระวังเมื่อทำ Ulthera กับ Oligio
นอกจากเรื่องการเลือกคลินิก เลือกหมอ และเช็กเครื่องแล้ว การทำ Ulthera กับ Oligio มีข้อควรระวังในบุคคลบางกลุ่มครับ เช่น
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบประสาท
- ผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)
- ผู้ที่ผิวหนังมีอาการอักเสบ ติดเชื้อ แผลเปิด ในตำแหน่งที่ทำ
หากมีเงื่อนไขสุขภาพดังกล่าว หรือประวัติด้านสุขภาพใด ๆ ที่คนไข้กังวลใจ เช่น โรคประจำตัว ยาที่กินเป็นประจำ ประวัติการทำหัตถการความงาม แนะนำให้เตรียมข้อมูลไว้ให้พร้อม และแจ้งกับแพทย์ทุกครั้งครับ
ในส่วนการดูแลตัวเองก่อนการทำ Ulthera กับ Oligio ไม่มีข้อห้ามอะไรเป็นพิเศษครับ สามารถกินอาหารและวิตามินได้ตามปกติ รวมถึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ
สรุปทำ Ulthera กับ Oligio ให้เห็นผล ต้องเลือกให้เหมาะสมกับปัญหา
Ulthera กับ Oligio มีจุดเด่นต่างกัน เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน ควรเลือกให้เหมาะสมกับปัญหาที่ต้องการแก้ไขครับ โดย Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวชั้นลึก ลดความหย่อนคล้อยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเคสที่มีไขมันใต้ผิวน้อย จุดเด่นอยู่ที่ทำครั้งเดียว ผลลัพธ์อยู่ได้นานเป็นปี ซึ่ง Ulthera Prime รุ่นใหม่ที่พัฒนามาจาก Ulthera SPT ช่วยลดเวลาการทำหัตถการ รู้สึกเจ็บน้อยลงครับ
ส่วน Oligio เหมาะกับผู้ที่มีไขมันใต้ผิวหนา ต้องการปรับผิวให้เรียบเนียน กระชับรูขุมขนเป็นหลัก รู้สึกเจ็บน้อยกว่า แต่ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า Ulthera สุดท้ายแล้วควรทำหัตถการกับแพทย์ที่ผ่านการอบรม ใช้งานเครื่องที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย และคุ้มค่าที่สุดครับ
อ้างอิง