เจาะลึกเรื่องฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือหัตถการที่ช่วยให้หน้าเด็กลง ผิวเต่งตึงขึ้นได้อย่างเห็นผล จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องครับ โดยสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งเช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์คาง ขมับ จมูก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ซึ่งแต่ละจุดฉีดอาจฉีดด้วยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันออกไป และใช้ปริมาณ CC ไม่เท่ากัน
สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ เป็นมือใหม่ สนใจฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก มีสิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีดอยู่ครับ ทั้งฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่ ? เจ็บไหม ? ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ราคาเท่าไร ? โปรโมชั่นเป็นอย่างไร ? และที่สำคัญต้องรู้วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ เพื่อไม่พลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งในบทความนี้หมอรวบรวมมาให้แล้ว พร้อมวิธีดูแล หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ? ฉีดแล้วเป็นก้อนแก้ไขอย่างไร ? ฉีดสลายได้ไหม ? ติดตามอ่านทั้งหมดนี้ได้เลยครับ
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ ดีอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ช่วยลดอายุใบหน้าให้กลับมาดูหนุ่มสาวขึ้นได้เป็นอย่างดี หลังทำเห็นผลทันที สามารถลดริ้วรอยร่องลึก ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน มีมิติได้ หากทำแล้วไม่ชอบ ก็สามารถแก้ได้ โดยการสลายออกด้วยเอนไซน์ไฮยาลูโรนิเดส
ในวงการความงาม จึงนิยมนำมาใช้แก้ปัญหาหน้าแก่ ผิวหย่อนคล้อย เช่น ในเคสที่แก้ม 2 ข้างหย่อนคล้อย การฟิลเลอร์ก็สามารถปรับยกผิวให้กลับขึ้นมา ทำให้ใบหน้าวีเชฟเหมือนเดิมได้ แต่ทั้งนี้การจะฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลดี ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ของแพทย์ร่วมด้วยครับ
ฟิลเลอร์ คือ HA ใช่หรือไม่ ?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มผิวครับ ในทางการแพทย์ จะหมายถึงการฉีดสารเติมเต็ม (Injectable Filler) ทุกชนิด ในต่างประเทศแบ่งออกได้ 4 ประเภท ดังนี้
- HA (Hyaluronic Acid) ปลอดภัย สลายหมด มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก
- Collagen จากสัตว์ ปัจจุบันไม่นิยมใช้เนื่องจากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ บวมแดงได้ง่าย
- Transplanted Fat หรือการฉีดไขมัน จะเหมาะกับคนที่ต้องการฉีดครั้งละมาก ๆ 10-20 CC
- Biosynthetic polymers เป็นกลุ่มของซิลิโคนเหลว ไม่สลาย ไม่ปลอดภัยและไม่ผ่าน อย.
ฟิลเลอร์ ที่ได้รับอนุญาตให้นำมาใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยร่องลึก จะเป็นฟิลเลอร์ประเภทที่ 1 HA หรือ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสาร Hyaluronic Acid หรือ กรดไฮยาลูรอน ที่มีตามธรรมชาติในร่างกาย ดังนั้นคำว่า ฟิลเลอร์ ที่พบในบทความ หรือ สื่อต่าง ๆ มักจะหมายถึง HA (Hyaluronic Acid) ครับ
HA (Hyaluronic Acid – กรดไฮยาลูรอน) คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภท HA (Hyaluronic Acid – ไฮยาลูรอนิค แอซิด) ซึ่ง HA หรือ ไฮยานั้น เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น เพราะเป็นตัวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้น (Hydration) เป็นสารที่นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์คิดค้นขึ้นมา เพื่อใช้ทดแทนไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ร่างกายผลิตขึ้นแต่จะผลิตได้น้อยและช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ มีริ้วรอย เหี่ยวย่น โดยค่าเฉลี่ยสำหรับคนทั่วไป ผิวของคนเราจะเริ่มเสื่อมตามวัยเมื่ออายุเกิน 20 ปีครับ
สำหรับฟิลเลอร์ สาร Hyaluronic Acid ที่ถูกผลิตขึ้น จะมีโครงสร้างเหมือนที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ 100 % ครับ เมื่อนำมาฉีดเข้าร่างกายจึงไม่ก่อให้เกิดอันตราย และยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง (Increase Elasticity) ถูกนำมาใช้เพื่อเติมริ้วรอยร่องลึกตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า สามารถช่วยให้ร่องลึกตื้นขึ้น ผิวเต่งตึง มีน้ำมีนวลมากขึ้น และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
HA ก็คือ ฟิลเลอร์ ด้วยใช่ไหม ? ทำไมบางคลินิกเรียกฉีดไฮยา แทน ฉีดฟิลเลอร์ ?
ฟิลเลอร์เป็นคำกว้าง ๆ ที่หมายถึงสารเติมเต็มตามที่กล่าวไปข้างต้น ในไทยที่แพทย์เรียกกันว่า ฟิลเลอร์ จะหมายถึง สารไฮยาลูรอนิค แอซิด ส่วนการฉีดไฮยา,ไฮย่า หรือ HYA จริง ๆ แล้วเป็นสารตัวเดียวกัน คือ สารไฮยาลูรอนิค แอซิด แต่เลี่ยงมาใช้คำว่า ฉีดไฮยา แทน คำว่า ฉีดฟิลเลอร์ เพราะเหตุผลทางการค้า
อีกกรณีที่พบคือใช้คำว่า ฉีดไฮย่า อาจเป็นการฉีดเมโสไฮย่า ที่เป็นส่วนประกอบของสารไฮยาลูรอนิค แอซิด ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคล้ายฟิลเลอร์ แต่จะมีความแตกต่างกันทางกายภาพ และขนาดโมเลกุลของ HA โดยเมโสไฮย่าจะเป็น HA แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-Linked) ที่ไม่มีการเชื่อมเกาะกัน เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวใต้ผิว เน้นทำให้ผิวชุ่มชื้น บำรุงผิว มากกว่าเติมเต็มแบบฟิลเลอร์ครับ
ปัญหาแบบไหน ถึงต้องแก้ไขด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ ?
การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาได้หลายด้านครับ ทั้งช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก ช่วยปรับรูปหน้า รวมถึงช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื่น เต่งตึงขึ้น
- ช่วยเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง
- ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึก
- ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
- ช่วยทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน
- ช่วยปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ คือสิ่งแรกที่ควรนึกถึงเมื่อตัดสินใจเข้าคลินิกใช่ไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่หมอแนะนำเป็นอันดับต้น ๆ ในการแก้ไขปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลงครับ เพราะเป็นหัตถการที่ทำแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น ต้องการใช้หน้าได้เลย นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ยังมีความปลอดภัย ฉีดแล้วสามารถสลายได้เอง 100% โดยไม่มีสารตกค้างครับ
แต่การฉีดฟิลเลอร์ ก็มีสิ่งที่ต้องระวังเช่นกัน คือ
- ห้ามฉีดฟิลเลอร์ประเภทซิลิโคนเหลว รวมไปถึงฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว
- ห้ามฉีดฟิลเลอร์กับผู้ที่ไม่ใช่หมอ หมอเถื่อน หมอกระเป๋า พยาบาล
- เลือกฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้น
หากใครสนใจการฉีดฟิลเลอร์ ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้
- การฉีดฟิลเลอร์ จำเป็นต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ และมีความรู้ความเข้าใจด้านกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี จึงจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม ตรงจุด ไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึ่งประสงค์ตามมา
- การฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง จะต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่มีการนำเข้า จัดเก็บอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาคุณภาพของตัวยาให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานครับ
ฉีดฟิลเลอร์ อันตราย ?
การฉีดฟิลเลอร์ HA เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยครับ ฟิลเลอร์ HA (Hyaluronic Acid) เป็นชนิดเดียวที่ปลอดภัยที่สุดและผ่านการรับรอง ฉีดแล้วสามารถสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย
ส่วนความอันตราย ผลข้างเคียงหลังฉีดที่หลาย ๆ คนกังวล หรือพบเห็นตามข่าวว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วเน่า หน้าพัง มักจะเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า ฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งอันตรายมากครับ หรือแม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่มีความปลอดภัยต่อร่างกาย แต่ฉีดกับหมอกระเป๋าที่ไม่รู้กายวิภาคบนใบหน้า ฉีดผิดตำแหน่ง ไม่รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง อาจฉีดเข้าเส้นเลือดจนเกิดภาวะ Hematoma (ภาวะเลือดคั่ง) ทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
ยกตัวอย่าง มีเคสผู้หญิงรายหนึ่ง ฉีดฟิลเลอร์ที่จมูก แล้วมีอาการจมูกขาวซีดเหมือนกระดาษ และอาการขาวกระจายไปที่หน้าผากหัวคิ้ว รวมถึงเปลือกตาทั้งสองข้าง ก่อนจะกายเป็นร่างแหสีม่วง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วในไม่กี่นาทีครับ นั่นคือ อาการของการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือด
ดังนั้นประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ผู้ฉีดจึงสำคัญมากครับ ตัวแพทย์ต้องรู้ Anatomy เป็นอย่างดี และมีเทคนิคในการฉีดที่ถูกต้อง จึงสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ หรือ แม้จะเกิดปัญหาก็สามารถแก้ไข ช่วยเหลือคนไข้ได้ทันท่วงทีครับ
ฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์จะไม่เจ็บมากครับ หรือบางคนอาจจะไม่เจ็บเลย เพราะก่อนฉีดคลินิกจะมีการประคบน้ำแข็ง หรือแปะยาชา โดยขณะฉีดคนไข้อาจจะรู้สึกตึง ๆ ที่ใบหน้าบ้าง
ในกรณีฉีดหลายซีซี หลังฉีดอาจจะรู้สึกตึง ๆ ระบมเล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองในเวลาไม่กี่วัน หากฉีดฟิลเลอร์กับหมอที่ชำนาญมีความพิถีพิถันก็จะยิ่งช่วยลดความเจ็บลงได้ครับ
ข้อดี – ข้อเสีย ของฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์ทั้งข้อดีและข้อเสียครับ
- ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ช่วยชะลอวัย แก้ไขปัญหาริ้วรอย และปรับโครงสร้างใบหน้าทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์
- หลังฉีดเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- สามารถเติมได้เรื่อย ๆ และปรับแต่งทรงได้หรือฉีดสลายออกโดยไม่เป็นอันตราย
- สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่มีปัญหาเรื่องสารตกค้างในร่างกาย
- มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากอย. ไม่ทำให้เกิดการแพ้
- แก้ไขในจุดที่เป็นปัญหาได้อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
- ใช้แก้ปัญหาในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม
- ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์
การฟิลเลอร์จะไม่คงอยู่ถาวร สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับสาร Hyaluronic Acid ที่ร่างกายผลิตขึ้น จึงต้องเติมเรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่จะฉีดกับใคร ที่ไหนก็ได้ จะต้องฉีดโดยแพทย์และใช้ฟิลเลอร์ประเภท HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น
ฉีดฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร ?
เนื่องจากฟิลเลอร์ คือ สาร Hyaluronic Acid ที่มีส่วนสำคัญต่อผิวหนัง จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิว เช่น
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องลึกใต้ตา ถุงใต้ตา ร่องแก้ม ร่องลึกมุมปาก ให้กลับมาเต่งตึงและเรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้สมดุลมากขึ้น เช่น ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น ขมับตอบ ริมฝีปากไม่เท่ากัน
- ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาคงความอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง ช่วยแก้ไขปัญหาผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ
- ผู้ที่มีปัญหากังวลเรื่องรูขุมขน หลุมสิวบนใบหน้า
เมื่อตัดสินใจ ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง ?
เมื่อรู้แล้วว่าการฉีดฟิลเลอร์สามารถคืนความอ่อนเยาว์ได้ หากใครสนใจฉีดฟิลเลอร์แต่ไม่รู้เริ่มต้นอย่างไร ฉีดตรงไหนก่อนดี หรือต้องใช้กี่ CC ถึงจะเหมาะสม หมอจะอธิบายเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ทราบข้อมูลในเบื้องต้นก่อนเดินเข้าคลินิกเสริมความงามครับ
ฟิลเลอร์ ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละเคส เช่น ริ้วรอย ร่องลึก หรือต้องการเสริมบริเวณไหน ตัวอย่างเช่น
- ฟิลเลอร์ยกหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า เป็นการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มริ้วรอยลึก ปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ และสร้างมิติให้แก่ใบหน้า ส่วนใหญ่จะเป็นการเติมเต็มบริเวณร่องแก้มและร่องใต้ตาควบคู่กันครับ เพราะหากคนไข้มีสาเหตุหลักมาจากกระดูกใต้ตายุบตัวลง แล้วหมอไปเน้นฉีดฟิลเลอร์ถมร่องแก้มเพียงอย่างเดียว ก็จะทำให้ปัญหาร่องแก้มของคนไข้แย่ลงกว่าเดิมได้ เพราะเนื้อจะยิ่งกองบริเวณเหนือร่องแก้ม ทำให้ดูเป็นก้อนมากขึ้น หน้าจะดูอูม ๆ ผิดธรรมชาติ
ดังนั้นการเติมฟิลเลอร์ใน 2 จุดนี้คู่กัน จะทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยเติมเต็มผิวหนังให้ฟูขึ้น ริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ก็จะตื้นขึ้น ผิวที่หย่อนคล้อยจะกระชับขึ้น ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลงครับ
- ฟิลเลอร์กรอบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า เป็นการปรับโครงสร้างหน้าให้คม มีมิติ ช่วยสร้างไลน์บริเวณกรอบหน้าให้คมชัด โดยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแก้ปัญหาบริเวณส่วนล่างของใบหน้า (Lower Face) ที่มีความหย่อนคล้อย กรอบหน้าและคอดูรวมกัน
ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อเจล มีความคงตัว ปั้นทรงได้ จะช่วยสร้างหรือเน้นเส้นกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูมีมิติ วีเชฟ และหลาย ๆ เคสก็ช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลงด้วยครับ
- ฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา ฉีดเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำ ช่วยให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์อีกครั้งครับ มักเป็นจุดแรกที่หมอแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย หน้าโทรม ไม่สดใส หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ใบหน้าจะดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติครับ
- ฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปทรงปากให้สวยงามมากขึ้น สามารถฉีดปรับทรงปากได้ทั้ง ปากสายฝอ ปากกระจับ ปากปีกนก ปากสายเกา รวมถึงแก้ไขปัญหาปากเป็นร่อง ปากบาง ปากแห้ง ปากลอกให้มีความชุ่มชื้น ดูอวบอิ่มยิ่งขึ้นได้ครับ โดยใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่มาก 1 CC ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว
- ฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ช่วยปรับรูปหน้า และเสริมคางให้เรียวสวย ใบหน้าวีเชฟขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียววีเชฟแบบไม่อยากเจ็บตัว หากฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะได้ผลดีไม่แพ้การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางครับ
- ฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถปรับรูปดั้งและสันจมูกให้โด่งขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถปรับแก้ไขทรงจมูกที่ไม่ได้สัดส่วน หรือจมูกเบี้ยว รวมถึงช่วยเสริมโหงวเฮ้ง และปรับปลายจมูกให้เป็นทรงหยดน้ำได้ด้วย
- ฟิลเลอร์ขมับ
ขมับเป็นจุดที่ถ้าไม่ได้มีปัญหามาก ๆ ขมับลึก ขมับตอบ หลายคนก็จะไม่ค่อยนึกถึงครับ แต่จริง ๆ แล้วขมับมีส่วนสำคัญในการปรับรูปหน้าให้มีมิติ เข้ารูปมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ขมับจะช่วยเติมเต็มใบหน้า ดูสดใสและเด็กลงครับ
- ฟิลเลอร์หน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบนแล้ว คนยังนิยมฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพิ่มเสริมโหงวเฮ้งด้วยครับ แต่จะต้องใช้ฟิลเลอร์หลาย CC เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ร่องแก้มก็เป็นอีกปัญหาที่หลายคนหนักใจครับ การมีร่องแก้มลึกจะทำให้หน้าแก่กว่าวัย ดูไม่สดใส ซึ่งสาเหตุการเกิดร่องแก้ม มีทั้งการยุบตัวของกระดูกบนใบหน้า และการแสดงสีหน้ามาก ๆ ยิ้มเยอะจนแก้มเกิดรอยพับ เมื่อเวลาผ่านไปก็ลึกขึ้นเรื่อย ๆ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการแก้ไขปัญหาร่องแก้มที่ตรงจุดและเห็นผลที่สุดครับ
- ฟิลเลอร์แก้มตอบ
เนื่องจากบริเวณแก้มเป็นบริเวณที่โดดเด่นของใบหน้า หากคนไข้มีปัญหาแก้มตอบ แก้มยุบลงไป จะทำให้หน้าโดยรวมดูโทรม ดูแก่ครับ การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ จะช่วยให้แก้มเต็มขึ้น เรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ดูมีมิติ ได้รูปและสัดส่วนที่สวยงาม
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ช่วยแก้ปัญหน้าหน้าโทรม หมองคล้ำ ไม่สดใส
- ฟิลเลอร์ยกมุมปาก
ในผู้ที่มีปัญหามุมปากตก ปากคว่ำ ใบหน้าจะดูบึ้งตึง ไม่เป็นมิตร การฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก หมอจะใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ลงไปบริเวณใบหน้าช่วงบนหรือช่วงแก้มให้ยกกระชับขึ้น ทำให้มุมปากที่ตกยกขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยยรอบ ๆ มุมปากได้ ทำให้มุมปากเต่งตึงขึ้น ดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้นได้ครับ
- ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก – ร่องมุมปาก
การฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก หรือฉีดฟิลเลอร์ร่องมุมปาก มักทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มครับ เพราะเป็นปัญหาที่มาคู่กัน เวลายิ้มก็จะทำให้เห็นริ้วรอยชัดขึ้นอีก
การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเติมเต็มบริเวณร่องมุมปาก ที่เห็นเป็นร่องลึก บุ๋มลงไป จะช่วยยกพยุงในชั้นผิวที่ยุบตัวหรือเสื่อมสภาพลงจนเกิดริ้วรอย ให้กลับมาเต็มและเรียบเนียนขึ้น ใบหน้าก็จะดูเด็กลง
- ฟิลเลอร์หลุมสิว
การฉีดฟิลเลอร์นอกจากช่วยปรับรูปหน้า เต็มเติมริ้วรอยร่องลึกได้แล้ว ฟิลเลอร์ยังสามารถแก้ปัญหาหลุมสิวได้ด้วย โดยหมอจะฉีดฟิลเลอร์เนื้อละเอียดเข้าไปบริเวณหลุมสิว เพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น เป็นการแก้ปัญหาหลุมสิวแบบเร่งด่วน หลังทำเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่ทิ้งรอยแผล และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ผิวอิ่มเต็ม กระชับและเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เติมเต็ม หลุมสิวตื้นขึ้นเห็นผลทันที
- ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว Skin Booster
ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว (Filler Skin Booster) เป็นการฉีดฟิลเลอร์ทั่วหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น ความอ่อนนุ่มและปรับให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ หรือรูขุมขนกว้าง อยากมีผิวหน้าสวยใส เรียบเนียนสุขภาพดี
บทความแนะนำ
- ฟิลเลอร์มือ/เท้า
ใครที่มีปัญหามือเท้าเหี่ยว มองเห็นเส้นเลือกปูดโปน มือเท้าดูแก่ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณมือ/เท้า เพื่อเข้าไปจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยแก้ปัญหาหลังมือแห้งกร้าน ทำให้ผิวกลับมาเปล่งปลั่ง ลดริ้วรอย ช่วยแก้ปัญหาผิวเหี่ยวย่นได้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง ใช้กี่ CC ?
การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่ง แต่ละคนอาจไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ แต่โดยทั่วไป แต่ละจุดจะใช้ปริมาณโดยเฉลี่ยดังนี้
- ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม 1-2 CC
- ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC
- ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC
- ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-5 CC
- ฟิลเลอร์จมูก 1 cc
บทความแนะนำ : ฉีดฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? เห็นผลจริงไหม ?
ในกรณีที่ฉีดไปแล้วยังไม่พอใจ สามารถทยอยฉีดได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ไม่จำเป็นต้องเติมทีเดียวเยอะ ๆ ครับ
คัมภีร์เลือก ยี่ห้อฟิลเลอร์ ให้ปลอดภัย และแก้ไขปัญหาตรงจุด
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะฉีดฟิลเลอร์ตรงไหน คราวนี้ก็มาถึงการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่จะนำมาฉีดครับ
ปัจจุบันมีให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ จากหลายประเทศ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีรุ่นย่อย ๆ ให้เลือกใช้หลายรุ่น แล้วควรเลือกฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ? เรามาทำความรู้จักฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์กันครับ
ยี่ห้อฟิลเลอร์ แบรนด์ยอดนิยมที่ได้รับการรับรอง มีอะไรบ้าง ?
ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในประเทศไทยและแพทย์ให้การยอมรับ หลัก ๆ จะผลิตจากประเทศ สวีเดน อเมริกา สวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี แต่ในระยะหลังฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ก็เริ่มได้รับความนิยมเช่นกันครับ
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ต้องดูที่ตำแหน่งฉีด และเนื้อฟิลเลอร์เป็นสำคัญ
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน แต่ละยี่ห้อมีกี่รุ่น เหมาะกับตำแหน่งใด หมอจะอธิบายแต่ละยี่ห้อ/รุ่น ดังนี้
- อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ?ฟิลเลอร์อเมริกา ยี่ห้อ Juvederm
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จากอเมริกา เป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้าโดยบริษัท Allergan เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง อยู่ได้นานและมีความเรียบเนียน ด้วยเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ผ่านการรับรองจากอย.ไทยว่าปลอดภัย มีดังนี้
1.Juvederm รุ่น Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความฟูระดับปานกลาง ยืดหยุ่นได้ดี เหมาะกับการฉีดเติมบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม และสามารถฉีดปรับรูปหน้าเติมคางและขมับได้อย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน
2. Juvederm รุ่น Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียด เหมาะกับคนผิวบาง เหมาะกับการฉีดร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก และเก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้น ปาก มุมปาก ระหว่างคิ้ว อยู่ได้นาน 12 เดือน
3.Juvederm รุ่น Ultra Plus XC เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เก็บกักน้ำได้ดี จึงฉีดแล้วฟูมากทำให้เต็มสวย ทนต่อการขยับ เหมาะสำหรับฉีดขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 12 เดือน
4.Juvederm รุ่น Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก มีความธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นาน 12 เดือน
5.Juvederm รุ่น Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะกับฉีดในผิวชั้นตื้น เก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิว มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดบริเวณใต้ตา บำรุงผิว (Skin booster) อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
6.Juvederm รุ่น Volux เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง คงรูปได้ดีที่สุด เหมาะกับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- ฟิลเลอร์สวีเดน ยี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จากประเทศสวีเดน เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่นำเข้าโดยบริษัท Galderma ได้การยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก ผ่านการรับรองจากอย. ไทยว่าปลอดภัย มีความโดดเด่นในเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ อย่าง NASHA techology และ OBT technology มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ดังนี้
- รุ่น Restylane รุ่น Perlane Lyft มีลักษณะเป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ฉีดแล้วไม่ฟูมากสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา/จมูก/คาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
- รุ่น Restylane รุ่น Classic ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับคนผิวบาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
- รุ่น Restylane รุ่น Vital เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา หน้าผาก ให้ผลเรียบเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน
- รุ่น Restylane รุ่น Vital Light เนื้อละเอียดมากที่สุด เจลอนุภาคเล็ก แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ใช้สำหรับเคสที่ผิวบาง ๆ เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียด ใต้ตา/ผิวชั้นตื้น/ปาก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- รุ่น Restylane รุ่น Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น ออกแบบมาเพื่อเติมชั้นผิวบริเวณใบหน้าให้อิ่มฟูขึ้น ใช้สำหรับฉีดเติมเต็มส่วนที่โหลลึกหรือตอบลง อยู่ได้นาน 18 เดือน
- รุ่น Restylane รุ่น Defyne ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้มาก ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา ปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- รุ่น Restylane รุ่น Refyne ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
- รุ่น Restylane รุ่น Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ช่วยสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น เติมความอวบอิ่ม และปรับสีปากให้ดูสดใส ออกแบบมาเพื่อฉีดและแก้ไขปัญหาริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฟิลเลอร์ สวิตเซอร์แลนด์ ยี่ห้อ Belotero
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยว่าปลอดภัย โดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิต CPM Technology ที่สามารถปรับแต่งสมดุลของความยืดหยุ่น ทำให้ฟิลเลอร์คงตัวได้ดี มีความยึดเกาะแนบแน่น ปั้นทรงสวย มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
- Belotero รุ่น Volume เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก ช่วยเพิ่ม Volume ให้ปากได้ดี เหมาะสำหรับทรงปากสายฝอ อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero รุ่น Intense เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความยืดหยุ่นสูง จุดเด่นคือการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมากๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังและจากการเสื่อมสภาพตามวัย เช่น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมแก้มตอบ เสริมคาง อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero รุ่น Revive เป็นฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เพิ่มส่วนผสมของ Hyaluronic Acid และ Glycerol ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่มีปัญหาในระยะเริ่มแรกจากการถูกทำลายจากแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ จึงนิยมใช้ฉีดบำรุงผิว เน้นการฟื้นฟู เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวได้ทั้งภายนอกและภายใน อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
บทความแนะนำ : ฟิลเลอร์ Belotero Revive ฟิลเลอร์งานผิวกระจก สวย จึ้ง ปัง แห่งยุค !
- ฟิลเลอร์ อิตาลี ยี่ห้อ Definisse
ฟิลเลอร์ Definsse คือ ฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลี ผลิตโดย Relife Company บริษัทด้านเวชศาสตร์ความงามระดับโลกจากประเทศอิตาลี นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิต ที่มีชื่อว่า XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ที่ช่วยให้ เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดี ปั้นทรงได้ง่าย และอยู่ได้นานขึ้น มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก THFDA หรือ อย.ไทย ฉีดแล้วสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย รุ่นที่นิยมได้แก่
- Definisse รุ่น Core เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มียาชาผสม เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face เช่น แก้มส้ม คาง และกรอบหน้าได้ อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Definisse รุ่น Restore เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง มียาชาผสม เหมาะเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปากได้ อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฟิลเลอร์เกาหลี ยี่ห้อ Flore
ฟิลเลอร์ Flore (ฟลอเร่) เป็นฟิลเลอร์แบรนด์น้องใหม่จากประเทศเกาหลี นำเข้าโดยบริษัท บอน-ชอง จำกัด ความปลอดภัย และผ่านการรับรองจาก อย.ไทย เรียบร้อยแล้ว มีจุดเด่นที่เทคโนโลยีการผลิต HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology ที่ทำให้ได้ฟิลเลอร์แบบ Biphasic Filler ที่ประกอบไป Cross-linked และ Non Cross-linked จนออกมาเป็นฟิลเลอร์เนื้อเจล (เนื้อแน่นและเนื้ออ่อนผสมกัน) รุ่นที่ได้รับความนิยม Flore Max
- Flore รุ่น Max เป็นฟิลเลอร์แน่น มีทั้งความแข็งและความยืดหยุ่น แน่นกระชับ สามารถเชื่อมกับ HA ได้แบบ 3 มิติ จึงคงรูปดี ไม่ไหลไปบริเวณอื่น และสลายตัวได้ช้าลง เหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก คาง ขมับ คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : Flore Max ฟิลเลอร์เกาหลีน้องใหม่ ถูก ดี คุ้มค่า !
- Flore รุ่น Full Aqua-S เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี แก้ปัญหาผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน นิยมนำมาฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวทั่วหน้า (Skinbooster Filler) หรือฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ในผิวชั้นตื้นให้กระชับ เรียบเนียนขึ้น รวมถึงช่วยปรับสภาพผิวทั่วหน้า อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
- ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ ยี่ห้อ Teoxane
- Teoxane รุ่น Ultra Deep เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น สามารถปั้นขึ้นรูปได้ดี เคลื่อนที่ยาก มีความคงตัวสูง เหมาะฉีดตำแหน่ง ขมับ แก้มส้ม คาง และกรอบหน้า อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Teoxane รุ่น RHA 2 เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มค่อนไปทางแน่นปานกลาง เหมาะสำหรับเติมเต็มแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนผิว เช่น หน้าผาก ใต้ตา ร่องแก้ม ขมับชั้นตื้น และใช้เติมเต็มเพิ่มวอลลุ่มให้กับริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Teoxane รุ่น RHA 3 เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มค่อนไปทางแน่นปานกลาง เหมาะสำหรับใช้กับริ้วรอยปานกลางถึงรุนแรง เช่น ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก ไม่ได้มาตรฐาน ระวังเจอฟิลเลอร์ปลอม !
การฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อที่กล่าวมาข้างต้น มีราคาแตกต่างกันครับ หากพิจารณาจากหลาย ๆ คลินิกที่เป็นคลินิกชั้นนำ ราคาของแต่ละยี่ห้อจะไม่ต่างกันมาก กรณีพบราคาฟิลเลอร์ถูกมาก ๆ สิ่งที่ต้องระวังคือฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว หรือไม่ก็หมอปลอมครับ
ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว อันตรายมากครับ เพราะไม่รู้ในตัวยาที่ฉีดประกอบด้วยสารอะไรบ้าง หรือมีสิ่งแปลกปลอมอะไรเจือป่นอยู่หรือไม่
ฟิลเลอร์ปลอม วิธีการสังเกต และผลเสีย
ฟิลเลอร์ปลอม ที่พบได้บ่อย ๆ ตามข่าว คือ ซิลิโคนเหลว พาราฟิน เป็นสารที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เมื่อเผลอฉีดเข้าไปแล้วจะอยู่ถาวร ทำลายเนื้อเยื้อ เกาะยึดเป็นพังผืด หรืออักเสบได้ในอนาคต
วิธีสังเกตหากฉีดไปแล้ว นานวันเข้าจะย้อยเป็นก้อนแข็ง อาจมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ อักเสบติดเชื้อ บวมแดง ทำให้ผิวขรุขระ รู้สึกเจ็บ และบางรายมีอาการหนักอาจเนื้อตายได้ครับ ต้องรีบเอาออก ซึ่งวิธีการเอาฟิลเลอร์ปลอมออกคือ ผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น และโดยส่วนมากไม่สามารถเอาออกได้หมดในครั้งครับ ต้องผ่าตัดแก้หลายรอบ และอาจทำให้ใบหน้าผิดรูปได้
ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ที่ไหน ต้องมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. นำเข้าอย่างถูกต้อง และฉีดโดยแพทย์เท่านั้น ส่วนจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ หมอมีวิธีตรวจเช็กให้ครับ
วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้
ในเบื้องต้นการสังเกตว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ ให้ดูที่ป้ายกำกับภาษาไทย เลข Lot. หรือสติกเกอร์ เพื่อความมั่นใจได้ว่าเป็นตัวยาที่มีอย. รับรอง และได้มาตรฐานครับ
เพื่อความสบาย คนไข้สามารถขอให้หมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า แล้วจึงพิจารณาตามจุดสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อตามคลิปวีดีข้างต้น ถ้าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานใช้ของฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ผ่านอย.ก็จะให้ตรวจสอบแบบสะดวกใจครับ
ยี่ห้อฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่าน อย.
ตัวอย่างรายชื่อฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. ประเทศไทย
ฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.จะมีการตรวจสอบมาตรฐานทุกปี และจะมียี่ห้อใหม่ ๆ ที่ผ่านอย.เข้ามาเพิ่มและไม่ใช่ทุกรุ่นในยี่ห้อนั้น ๆ จะผ่านทั้งหมดครับ ต้องดูเป็นรายตัว ดังนั้นคนไข้จึงต้องอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล อันตรายกว่าที่คิด
ใครที่สงสัยว่าฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วอันตรายขนาดไหน รักษาได้หรือไม่ ? หมอตอบได้เลยครับว่าอันตรายมาก และรักษาได้ยาก เพราะเมื่อฉีดเข้าไปแล้วฟิลเลอร์ปลอมจะเข้าไปสัมผัสเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ผิวหนังแพ้เป็นผื่นแดง คัน เกิดการอุดตันในเส้นเลือด บ้างเกาะแน่นกับกระดูกเป็นก้อนหรือไหลลง ทำให้ใบหน้าเสียทรง ที่ผ่านมาจะเห็นข่าวคนไข้ฉีดแล้วคางอักเสบ จมูกเน่า หรือ อาจรุนแรงถึงขั้นตาบอด นับเป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเสี่ยงครับ
ฟิลเลอร์เลอร์ไหล
กรณีฟิลเลอร์ไหล ใบหน้าจะผิดรูป เสียทรง และมีการอักเสบติดเชื้อร่วมด้วย หากรู้สึกถึงความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ ให้แพทย์ประเมินปัญหาและวิธีการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
ส่วนกรณีฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน อาจเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมด้วยเช่นกัน รวมถึงยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เช่น ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ใช้มากไป ใช้ผิดรุ่น เนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับจุดที่ฉีด
สุดท้ายคือตัวแพทย์ผู้ฉีดครับ จุดนี้สำคัญมาก ๆ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง แนะนำรุ่น ยี่ห้อ และปริมาณไม่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นก้อนไม่สวยงาม ซึ่งสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ครับ
ฉีดสลายฟิลเลอร์
การฉีดสลายฟิลเลอร์ คือใช้ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) ฉีดสลายฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ต้องการ ทำในเคสที่ไม่พอใจในผลลัพธ์ หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนมาครับ
สารไฮยาลูโรนิเดส สามารถสลายได้เฉพาะฟิลเลอร์ที่เป็น HA เท่านั้นครับ โดยแพทย์จะคำนวณตัวยาที่ใช้ฉีดจากปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดมา เพื่อให้ได้ปริมาณยาสลายที่เหมาะสม ตัวยาจะไม่กระทบเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ หลังฉีดสลายจะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลต่อเนื่องใน 1-3 วัน หากต้องการฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม ควรเว้นระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังฉีดสลายไปแล้ว
บทความแนะนำ : ฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด กลับมาฉีดฟิลเลอร์ใหม่อีกครั้งหนึ่งได้
ขูดฟิลเลอร์
หากอาการหลังฉีดเป็นก้อน เกิดจากฉีดฟิลเลอร์ปลอม วิธีการแก้ไขจำเป็นต้องขูด หรือผ่าตัดฟิลเลอร์ปลอมออกมาครับ และเมื่อขูดแล้วอาจไม่สามารถเอาออกได้หมด จะได้เพียง 60-70% เท่านั้น จึงไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ปลอมเด็ดขาดครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ถ้าอยากให้ปลอดภัย เห็นผลชัดเจน ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler นับว่ามีส่วนสำคัญมาก ๆ ครับ
ข้อควรรู้ ข้อควรปฏิบัติ และข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์
- ข้อควรรู้
หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
- ข้อควรปฏิบัติ และข้อห้าม
- หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพราะการดื่มน้ำจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปขยายตัว และรวมเข้ากับเนื้อเยื่อผิวหนังบริเวณที่ฉีด ช่วยให้เข้าที่เร็วมากขึ้นครับ
- ควรหลีกเลี่ยงความร้อน แสงแดด หรือหัตถการที่ทำให้เกิดความร้อน เลเซอร์ต่าง รวมถึงการออกกำลังกายหนัก ๆ เนื่องจาก ความร้อนส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์
- ไม่สัมผัสในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ งดการเกา นวด กด ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้เสียรูปทรง รวมถือหากมือสกปรก อาจจะให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้ครับ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ และอื่น ๆ เพราะจะส่งผลให้ เลือดภายในร่างกายเกิดการสูบฉีดมากขึ้น เกิดอาการบวมได้ง่าย หรือกระตุ้นการอักเสบได้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่เห็นผล อาจเกิดจากอะไรได้บ้าง ?
เคสที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่เห็น หรือเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อย มี 2 สาเหตุคือ
- แพทย์ผู้ฉีดแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ขาดประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์
- ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่น้อยเกินไป หรือเลือกประเภทของฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ต้องฉีด
ดังนั้นการเลือกหมอฉีดฟิลเลอร์ที่มีประสบการณ์ จึงสำคัญครับ
ฉีดฟิลเลอร์ แล้วหน้าบวมไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมเกิดขึ้นได้ครับ แต่จะบวมเล็กน้อย ประมาณ 4-5 วัน เป็นเรื่องปกติครับ สามารถหายได้เองใน 7-14 วัน โดยอาการบวมจะยุบลงและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน เนื้อฟิลเลอร์เข้าที่ใน 2-3 สัปดาห์
บทความแนะนำ : ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? หายเองได้ไหม ? ดูแลตัวเองอย่างไร ?
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์
อาการที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น รอยเขียวช้ำ ตึงผิว ๆโดยเฉพาะคนผิวบาง อาจเห็นรอยเขียวช้ำชัด เป็นอาการปกติครับ และไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เองประมาณ 1 สัปดาห์
อ่านก่อนตัดสินใจ : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? รวมทุกข้อควรรู้ที่พาตัวเองไปสู่จุดเสี่ยง และอันตราย
หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเห็นผลทันทีเลยไหม ? อยู่ได้นานกี่เดือน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 70-80% ครับ คนไข้สามารถใช้หน้าได้ตามปกติ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ในบางรายหลังฉีดฟิลเลอร์ที่มีอาการบวม ต้องรอให้ฟิลเลอร์ผสานเข้ากับผิวก่อน ซึ่งจะค่อย ๆ หายบวมไปเอง ประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ฟิลเลอร์เข้าที่ชัดเจน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ส่วนการคงผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไร จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด และยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ครับ
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ?
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?
การฉีดฟิลเลอร์ทุกตำแหน่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ประมาณ 70-80 % ตามที่กล่าวไป แต่จะอยู่ได้นานต่างกัน ตามยี่ห้อ/รุ่น ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ เฉลี่ยอยู่ได้นานดังนี้
- ฟิลเลอร์หน้าผาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฟิลเลอร์ใตต้า อยู่ได้นาน 6-18 เดือน
- ฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- ฟิลเลอร์ขมับ อยู่ได้นาน 12 -18 เดือน
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นาน 6-18 เดือน
ที่เป็นเช่นนี้เพราะฟิลเลอร์ต่างรุ่น ต่างยี่ห้อจะมีลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ต่างกัน ทั้งความคงตัว ความยืดหยุ่น การอุ้มน้ำ จึงเหมาะกับตำแหน่งฉีดที่ต่างกัน โดยหมอจะวิเคราะห์ปัญหา ประเมินใบหน้า และแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะกับแต่ละตำแหน่งที่ฉีดให้กับคนไข้แต่ละคน
ฟิลเลอร์ เติมหรือฉีดซ้ำได้ไหม เว้นห่างนานเท่าไรจึงจะฉีดซ้ำได้ ?
ฟิลเลอร์เติมหรือฉีดซ้ำได้ไหม ? ได้ครับ หากฉีดไปแล้วยังรู้สึกไม่พอใจ อยากฉีดเพิ่มสามารถทำได้ แต่ควรรอให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดครั้งแรกเข้าที่ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนก่อนแล้วค่อยเติมครับ ควรเว้นห่างประมาณ 2-4 สัปดาห์
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ แต่ละตำแหน่ง พิจารณาประกอบการตัดสินใจ
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ของหมอแต่ละคน หรือผลลงานของแต่ละคลินิกที่ฉีดเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ช่วยให้คนไข้สามารถตัดสินใจว่าได้จะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฉีดกับใคร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ และมีความปลอดภัยควบคู่กัน ซึ่งมีแนวทางในการพิจราณาอยู่ครับ
หลักการดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์ ที่น่าเชื่อถือ ไม่ถูกหลอก
หลักการดูรีวิวที่น่าเชื่อถือ คนไข้ต้องดูจากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ และมีความเป็นปัจจุบัน และควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดิโอก่อน-หลังทำ เพื่อเปรียบเทียบได้ชัดเจน โดยมีข้อควรพิจารณาดังนี้
- ไม่ควรดูรีวิวที่เป็นภาพถ่าย Before-After เคสสวย ๆ เพียงอย่างเดียว เพราะภาพถ่ายสามารถแต่งภาพได้ง่ายมาก ควรดู Before-After จากคลิป VDO รีวิวเป็นหลักจะสามารถเชื่อถือได้มากกว่าภาพถ่าย
- ควรสังเกตด้วยว่า Before-After มีการแต่งหน้าที่แตกต่างกันหรือไม่ เพราะรีวิวส่วนใหญ่ รูป Before จะเป็นหน้าสด แต่รูป After จะแต่งหน้าแบบจัดเต็ม ทำให้คนที่ดูรีวิวคาดหวังผลการรักษาที่เกินจริง และเกิดความผิดหวังได้
- ไม่ควรดูแต่รีวิวที่คลินิกเป็นผู้โพสต์เพียงอย่างเดียว เพราะก็จะเห็นแต่เคสสวยๆ ที่ได้ผลดีเอามาโชว์ ซึ่งเคสสวย ๆ ที่โชว์ 10 เคส จริง ๆ แล้วอาจจะมีเคสหลุดที่ไม่ได้โชว์เป็น 100 เคสก็ได้ ทางที่ดูควรจะดูรีวิวในแหล่งที่เป็นกลางควบคู่กันไปด้วย
- แหล่งรีวิวที่เป็นกลางได้แก่ Feedback ที่คนไข้เข้ามาโพสต์แล้วทางคลินิกไม่สามารถลบออกได้ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสของคลินิก เช่น แถบคำวิจารณ์ในเฟสบุ้ค คำวิจารณ์ใน Google Map หรือ รีวิวใน Pantip
รีวิวฉีด Filler แต่ละตำแหน่ง
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม+ฟิลเลอร์ใต้ตา
ตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์แก้มตอบ
ตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์ขมับ
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูก
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยงเจอฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว
ฉีด Filler ที่ไหนดี ? ได้หมอเก่ง ฝีมือดี รีวิวแน่น
ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี ? ราคาคุ้มค่า ชัดเจน
ฉีด Filler ที่ไหนดี ? ไม่ต้องโดนพนักงานบังคับขายคอร์สตามหลัง
ความกังวลเหล่านี้หมอเชื่อว่ามีคนไข้ที่คิดไม่ตกอยู่ครับ เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ตัดความกังวลของปัญหาเหล่านี้ ก่อนเดินเข้าคลินิกใด หมออยากให้ศึกษาข้อมูลของคลินิกนั้น ๆ ก่อนครับ
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี ?
- เลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีการจดทะเบียนตามกฎหมาย มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน
- เลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่แจ้งชื่อแพทย์ชัดเจน เพื่อให้คนไข้สามารถเช็กประวัติ ตรวจสอบก่อนได้ หรือตามหารีวิวของแพทย์ท่านนั้น ๆ ได้
- ฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่หาข้อมูลได้ ทั้งที่ตั้งสาขา รายละเอียดการให้บริการ มีการแจ้งราคาอย่างชัดเจน รวมถึงช่องทางการติดต่อที่สามารถติดต่อได้จริง
ฉีดฟิลเลอร์ราคา ตามมาตรฐาน ที่ดูปลอดภัยและเชื่อถือได้
เรื่องของราคาการฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละคลินิกก็สำคัญ ฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกมากก็เสี่ยง ฉีดฟิลเลอร์ราคาแพงมากก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะหัตถการการฉีดฟิลเลอร์มีราคามาตรฐานอยู่ครับ
ฟิลเลอร์ราคามาตรฐานมาจากอะไร ? ฟิลเลอร์ราคามาตรฐาน มาจากราคาต้นทุนเดิมของตัวยาฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ (คลินิกไหนมีสาขาเยอะ คนไข้เยอะก็จะสามารถสั่งซื้อตัวยาได้ครั้งละมาก ๆ ราคาต้นทุนก็อาจจะต่ำกว่าคลินิกทั่วไป ๆ) บวกค่าฝีมือหรือค่าประสบการณ์ความชำนาญของแพทย์แต่ละท่าน แพทย์ท่านไหนเก่ง ประสบการณ์สูง ๆ ราคาก็อาจสูงขึ้นเพื่อการันตีฝีมือครับ
ดังนั้นหากจะเปรียบเทียบราคาฉีดฟิลเลอร์ ควรดูราคาจากหลาย ๆ คลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งโดยทั่วไปไม่ต่างกันมากครับ กรณีพบฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกมาก ๆ ต่างกันครึ่งต่อครั้ง ให้ระวังไว้ก่อนครับ อาจเสี่ยงเจอฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วได้
ทำไม ฟิลเลอร์ราคา แต่ละตำแหน่งที่ฉีดถึงแตกต่างกัน
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งทำไม่ราคาต่างกัน ? คำตอบคือ
- ฉีดตำแหน่งเดียวกัน แต่ใช้ฟิลเลอร์ต่างรุ่น ต่างยี่ห้อ ราคาจึงต่างกัน
- ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ราคาต่างกัน เกิดจากปริมาณ CC ที่ใช้
- ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ฉีดตำแหน่งต่างกัน ใช้เทคนิคการฉีดต่างกัน ราคาจึงต่างกัน
ราคา Filler แบ่งตามรุ่น และยี่ห้อ
ฟิลเลอร์ ราคาจะแตกต่างกันตามยี่ห้อซึ่งตัวหลัก ๆ ที่นิยมและมีความปลอดภัย ได้แก่ ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน), ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา), ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี) และฟิลเลอร์เกาหลี ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและคุณสมบัติครับ
- ราคาฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน
- Restylane Perlane lyft ราคา 12,500.-/ 1 CC
- Restylane Volyme ราคา 14,000.- / 1 CC
- Restylane Defyne ราคา 14,000.- /1 CC
- Restylane Refyne ราคา 12,000.-/ 1 CC
- Restylane Vital light ราคา 12,000.-/ 1 CC
- Restylane Vital ราคา 16,900.-/ 1 CC
- Restylane Classic ราคา 9,900.-/ 1 CC
- Restylane Kysse ราคา 14,900.-/ 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา
- Juvederm Ultra Plus ราคา 6,990.- / 1 CC
- Juvederm Voluma ราคา 12,500.- / 1 CC
- Juvederm Volift ราคา 12,900.- / 1 CC
- Juvederm Volbella ราคา 11,000.- / 1 CC
- Juvederm Volite ราคา 12,900.- / 1 CC
- Juvederm Volux ราคา 18,000.- / 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์
- Belotero Intense ราคา 11,000.-/ 1 CC
- Belotero Volume ราคา 9,900.- / 1 CC
- Belotero Revive ราคา 14,000.- / 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี
- Definisse Restore ราคา 12,500.- / 1 CC
- Definisse Core ราคา 18,000.- / 1 CC
- Definisse Touch ราคา 12,000.- / 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์ Flore เกาหลี
- Flore Max ราคา 7,900.- / 1 CC
- Flore Aqua-S ราคา 9,900.- / 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์ Teoxane สวิตเซอร์แลนด์
- Teoxane Ultra Deep ราคา 16,000.-/ 1.2 CC
- Teoxane RHA 2 ราคา 12,900.- / 1 CC
- Teoxane RHA 3 ราคา 14,000.- / 1 CC
โปรโมชั่นฟิลเลอร์ราคา พิเศษ ที่ V Square Clinic
ราคาการฉีดฟิลเลอร์ จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและตำแหน่งที่ฉีด สำหรับที่ V square Clinic ฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งมีราคา ดังนี้
- ราคาฟิลเลอร์ใต้ตา เริ่มต้น 9,900.-/ 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์ปาก เริ่มต้น 14,900.-/ 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์คาง เริ่มต้น 11,000.-/ 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์ขมับ เริ่มต้น 6,990.-/ 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์หน้าผาก เริ่มต้น 16,900.- / 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้ม เริ่มต้น 6,990.-/ 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์แก้มส้ม เริ่มต้น 12,500.-/ 1 CC
- ราคาฟิลเลอร์จมูก เริ่มต้น 16,900.-/ 1 CC
[ฝากไว้ในอ้อมใจ] ฉีดฟิลเลอร์ ที่ V Square Clinic ปลอดภัย เห็นผลชัดเจน !
ที่ V Square Clinic จะเลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้แบรนด์ระดับโลก ที่ผ่าน อย. และนำเข้าในประเทศไทยอย่างถูกต้องเท่านั้น ฉีดโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ในการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
ปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากคนไข้ และดารา-เซเลบริตี้ใช้บริการจำนวนมาก และเปิดให้บริการครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลครับ
ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
- ให้คำปรึกษา ประเมินปัญหาและออกแบบการปรับรูปหน้าโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์
- แพทย์มีความรู้ด้านกายวิภาคบนใบหน้า ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษของ V Square หมอมือเบา บวมช้ำน้อย
- ใช้ศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) ในการแก้ไขปัญหาบนใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ดังระดับโลก ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่อง
- ฟิลเลอร์ราคาสมเหตุสมผล มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ตรงตามความต้องการและงบประมาณของคนไข้
คลินิกได้มาตรฐาน มีรางวัลการันตี 5 ปีซ้อน
V Square Clinic เรายึดมั่นในการดูแลคนไข้ด้วยผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน สั่งตรงจากบริษัทผู้จัดจำหน่ายอย่างถูกต้อง จนได้รับรางวัลคลินิกที่มียอดการฉีดฟิลเลอร์ Premium สูงสุดในประเทศไทย 5 ปีซ้อน (2018-2023) พร้อมด้วยทีมแพทย์ประสบการณ์สูง และให้บริการระดับพรีเมียม ในทุก ๆ สาขา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและสร้างความพึงพอใจให้กับคนไข้ได้มากที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ ที่ V Square Clinic 27 สาขา พร้อมให้บริการใกล้บ้านท่าน
1. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาสยามสแควร์วัน
V Square Clinic สาขาสยามสแควร์วัน
ตั้งอยู่ชั้น 6 ภายในห้างสยามสแควร์วัน
ติด BTS สยาม อยู่ระหว่างร้านนวดเซ็นเตอร์พอยท์
และร้านทำเล็บ Chaba Nail
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
2. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเกตเวย์ เอกมัย
V Square Clinic สาขาเกตเวย์ เอกมัย
ตั้งอยู่ในห้างเกตเวย์ เอกมัย ชั้น 1F
(จากทางเชื่อม BTS เอกมัย ขึ้นบันไดเลื่อน 1 ชั้น)
คลินิกอยู่ติดกับร้านทำฟัน
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
3. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว
ตั้งอยู่ใน The one park หน้าประตูเซ็นทรัล
ฝั่งที่เดินไป MRT
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
4. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน
V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน
ตั้งอยู่ตึกโรงหนัง ชั้น 3 จะติดทางขึ้นร้าน Blu-O
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
5. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ตั้งอยู่ชั้น 1 โซนโรบินสัน ติดกับร้านแว่น
และร้าน Samsonite
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
6. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา
ตั้งอยู่ ชั้น 14 อาคารเซ็นทรัลซิตี้ทาวเวอร์ (โซนออฟฟิศ)
ตรงข้ามกับสถาบันสอนภาษา ECC
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
7. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาซีคอน ศรีนครินทร์
V Square Clinic สาขาซีคอน ศรีนครินทร์
ตั้งอยู่ชั้น 3 ฝั่งโรบินสัน
ใกล้ทางเข้าออกอาคารจอดรถ ชั้น 2B
ติดกับคลินิกพรเกษม ร้าน blan และร้าน leeco
จะมีร้าน Trus อยู่ฝั่งตรงข้าม
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
8. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
ตั้งอยู่ชั้น 3 ตรงข้ามกับโซนเซ็นทรัลหน้าบันไดเลื่อน
ใกล้กับร้านกาแฟ Coffee World
ติดกับร้าน Vitamin Club
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
9. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2
ตั้งอยู่ชั้น 2 ข้างร้านหนังสือนายอินทร์
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
10. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะ พรอมานาด
V Square Clinic สาขาเดอะ พรอมานาด
ตั้งอยู่ชั้น 4 โซนความงาม ติดบันไดเลื่อน
(โถงรูปไข่ฝั่งอาคารจอดรถ)
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
11. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์
ตั้งอยู่ชั้น 3 ข้างร้าน Watsons ฝั่งโรงหนัง
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
12. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
ตั้งอยู่ชั้น 3 ตรงข้ามร้าน ซีเอ็ดบุ๊ค
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
13. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ
V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ
ตั้งอยู่ชั้น 1 ติดทางเข้าลานจอดรถ
อยู่หน้าบันไดเลื่อน ตรงข้ามไดโซะ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
14. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษก
V Square Clinic สาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษก
ตั้งอยู่ โซนร้านอาหาร ถัดจากร้านบาบีคิวพลาซ่า
เยื้องกับร้าน yayoi
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
15. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3
ตั้งอยู่ชั้น 4 บริเวณโถงลิฟท์แก้ว
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
16. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต
ตั้งอยู่ชั้น 2 อยู่ในโซนสุขภาพ & ความงาม
ใกล้กับ SE-ED Book Center และ Makalin คลินิก
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
17. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค
V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค
ตั้งอยู่ชั้น 1 หน้าบันไดเลื่อน ใกล้กับน้ำตกกลางห้าง
ติดกับร้าน Pen The Style Salon
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
18. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเอ็มควอเทียร์
V Square Clinic สาขาเอ็มควอเทียร์
ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 35 ตรงเข้ามาประมาณ 20 เมตร
คลินิกอยู่ซ้ายมือ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
19. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ
V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ
ตั้งอยู่ชั้น 3 ตรงข้าม BANANA IT
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
20. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเทอร์มินอล พระราม 3
V Square Clinic สาขาเทอร์มินอล พระราม 3
ตั้งอยู่ชั้น 3 โซนญี่ปุ่น ใกล้ทางขึ้นบันไดเลื่อน
ไปโซนโรงหนัง
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
21. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา
ตั้งอยู่ชั้น 3 โซนคลินิก
ติดกับร้าน Beyond Smile Dental Clinic
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
22. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเทอร์มินอล อโศก
V Square Clinic สาขาเทอร์มินอล อโศก
ตั้งอยู่ชั้น 6 โซนโรงหนัง ติดกับร้าน Huawei และ
ร้าน Take Care Salon of Beauty
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
23. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ศาลายา
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ศาลายา
ตั้งอยู่ชั้น 2 โซนพลาซ่า ใกล้กับคาเฟ่อเมซอน
ตรงข้ามเยื้องกับ Supersport
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
24. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์วิลล์
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์วิลล์
ตั้งอยู่ชั้น 1 ทางเดินไป watson อยู่ใกล้กับ istudio
โซน MHONG FAMILY ติดกับร้าน Minoso
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
25. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล นครปฐม
คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล นครปฐม
ตั้งอยู่ชั้น 2 โซนลานกิจกรรม ติดกับร้านKT OPTIC และ LUX OPTIC
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
26. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเมกาบางนา
V Square Clinic สาขา เมกาบางนา คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 1 ตรงข้ามธนาคารกรุงศรี
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-20.30 น
27. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาพระราม 9
V Square Clinic สาขา พระราม 9 คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 1 อาคารภคินท์ ตรงข้ามกับ เซ็นทรัล พระราม9
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.
28. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล มหาชัย
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัลมหาชัย คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 2 ข้างร้าน princess nail หน้าบันไดเลื่อน เยื่องๆฝั่งตรงข้ามซุปเปอร์สปอร์ต
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-20.30 น
29. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวิลด์
V Square Clinic สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 5 โซน Wellness ฝั่งลิฟต์แก้ว ข้างๆ ร้าน Lego
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-20.30 น
30. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาวัน แบงค็อก
V Square Clinic สาขาวัน แบงค็อก คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 4 โซน พาเหรด ติดกับ ร้าน Bigcamera
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-20.30 น
Q&A ฟิลเลอร์
Filler ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้บริการฉีดในไทย ดีกว่า หรือให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหรือไม่ ?
Filler ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้บริการฉีดในไทย หมายถึงฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย.ไทย ครับ ถ้าพบว่าคลินิกใดนำฟิลเลอร์เหล่านั้นมาใช้ ในเบื้องต้น คลินิกนั้นไม่น่าเชื่อถือแล้วครับ เพราะผิดกฎหมาย และผิด พ.ร.บ.ยา และฟิลเลอร์นั้นเป็นฟิลเลอร์หิ้วที่มีการลักลอบนำเข้ามา ตัวไม่ได้ถูกจัดเก็บอย่างเหมาะสม ทำให้เสื่อมคุณภาพ หรือมีสิ่งแปลกปลอมเจือปน เมื่อนำมาฉีด โอกาสแพ้สูงครับ แม้ราคาถูกแต่ได้ไม่คุ้มเสียครับ
ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน ฉีดโบท็อก เมโสแฟต ร้อยไหม Hifu Ulthera Thermage ต่างกันอย่างไร ? เลือกทำหัตถการให้ตรงกับปัญหา
ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน ฉีดโบท็อก เมโสแฟต ร้อยไหม Hifu Ulthera และ Thermage สามารถช่วยปรับรูปหน้าได้ครับ แต่มีจุดประสงค์และความเหมาะสมในการทำต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ ซึ่งแพทย์จะช่วยประเมินและแนะนำหัตถการที่เหมาะสมให้
- ฉีดฟิลเลอร์ :จะเหมาะกับการเติมเต็ม เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก รวมถึงช่วยปรับรูปหน้าคืนความอ่อนเยาว์ได้ดี เป็นหัตถการหลังทำเห็นผลทันที
- ฉีดไขมัน : เหมาะกับการเติมเต็มเช่นกัน แต่เป็นการแก้ไขปัญหาริ้วรอยและร่องลึก ด้วยไขมันของคนไข้เอง เป็นการปลูกเซลล์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ขั้นตอนการทำค่อนข้างยุ่งยาก หมอจะทำการเลือกไขมันส่วนเกินของคนไข้ แล้วใช้เครื่องดูดไขมันดูดออกมา ก่อนนำไปปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาผสมกับเนื้อเยื่อไขมัน แล้วนำไปเติมเต็มบริเวณต่าง ๆ ที่ต้องการแก้ไข ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเซตตัวของไขมัน ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- ฉีดโบท็อก : เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยตื้น ๆ เล็ก ๆ ช่วยให้รอยพับบนใบหน้าเรียบขึ้น และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
- เมโสแฟต : เหมาะกับการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น จากปัญหาไขมัน มีไขมันที่แก้มเยอะ สามารถฉีดเมโสแฟตเพื่อสลายไขมันเฉพาะจุดได้ ช่วยทำให้หน้าเล็ก เรียว และกระชับขึ้นได้ครับ
- ร้อยไหม : เหมาะกับคนที่อยากยกกระชับใบหน้า มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย แต่ไม่เหมาะกับคนที่กระดูกยุบมากครับ ถ้าหมอประเมินใบหน้าแล้ว มีปัญหากระดูกยุบ ก็ควรที่จะฟิลเลอร์ยกหน้า
- Hifu – Ulthera : สามารถช่วยยกหน้าได้ ในกรณีที่มีปัญหาไม่เยอะครับ และยังไม่มีปัญหาเรื่องกระดูกเบ้าตายุบตัว ข้อดีของทั้ง 2 เครื่องคือช่วยเพิ่มคอลลาเจนในผิว ในบางเคสหมออาจให้ทำ Hifu หรือUlthera กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แล้วใช้ฟิลเลอร์เก็บรายละเอียด ฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าเข้าช่วย ส่งผลให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
- Thermage : การทำ Thermage จะเหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ ยิ้มแล้วมีความรู้สึกหน้าอูม ๆ คนที่อายุมาก ผิวหนังหย่อนคล้อย ผิวที่มีริ้วรอยย่นมาก ๆ ขาดคอลลาเจน หรือคนที่มีไขมันกองในบริเวณคาง หรือที่เราเรียกกันว่ามีเหนียง ก็จะเหมาะกับการทำ Thermage
ฉีดฟิลเลอร์ผู้ชาย สามารถทำได้ไหม ? ต่างจากผู้หญิงฉีดฟิลเลอร์อย่างไรบ้างไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ผู้ชายสามารถทำได้ครับ และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะปัจจุบันผู้ชายหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ไม่ต่างจากผู้หญิงครับ เพียงแต่การฉีดฟิลเลอร์ผู้ชายจะเน้นปรับรูปหน้าและคืนความอ่อนเยาว์ แต่ยังคงความเป็นผู้ชายที่ดูดี
ผู้ชายจะนิยมรูปหน้าที่ดูคม มีเหลี่ยมมีมุมที่พอดี กรอบหน้าชัด รักษาจุดเด่นในแบบของผู้ชายเอาไว้ ซึ่งต่างกับผู้หญิงที่เน้นความละมุน นิยมปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก โค้งมน ดูอ่อนหวาน
ฉีดฟิลเลอร์ 1 ครั้งพร้อมกันหลาย ๆ ตำแหน่งได้ไหม ?
ได้ครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาที่คนไข้ต้องการให้ช่วยแก้ไข การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าสามารถฉีดพร้อมกันในหลายตำแหน่งเพื่อให้ใบหน้าเต็มอิ่ม และมีมิติมากขึ้น
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า คืนความอ่อนเยาว์หลายตำแหน่งใราคาฟิลเลอร์ Restylane สวีเดนนครั้งเดียว
ฉีด Filler พร้อมกับทำหัตถการอย่างอื่น ในเวลาเดียวกันเลยได้ไหม ?
ได้ครับ เป็นหนึ่งข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ ที่สามารถทำร่วมหัตถการอื่น ๆ ได้เช่น ฉีดโบท็อก ร้อยไหม ฉีดเมโสแฟต ฉีดเมโสหน้าใส ฉีดวิตามินผิว รวมถึงการทำหัตถการยกกระชับด้วย เช่น Ulthera Hifu Thermage ซึ่งลำดับก่อนหลังในการทำ แพทย์จะพิจารณาให้เป็นรายบุคคลครับ
ต้องรอให้ฟิลเลอร์เก่าสลายหมดก่อน ถึงจะฉีดใหม่ได้ จริงไหม ?
ไม่จริงครับ การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปแล้วสลายหมดก่อน ไม่มีผลเสียครับ
หลังฟิลเลอร์สลายแล้ว จะทำให้หน้าเหี่ยวหนักกว่าเดิม จริงหรือไม่ ?
หลังฟิลเลอร์สลายหมดจะไม่ทำให้หน้าแก่ขึ้น แต่จะช่วยชะลออายุผิวให้แก่ช้าลงครับ เพราะคอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกายก็จะยังคงอยู่ สภาพผิวก็จะดีกว่าตอนที่ยังไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ได้เหี่ยวหนักกว่าเดิม เพราะฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ผิวจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและมีน้ำไปหล่อเลี้ยงมากขึ้นกว่าเดิม คอลลาเจนและอิลาสตินก็จะถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยเช่นกัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ ล้างหน้า สครับผิวได้ไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ใน 3 ชั่วโมงแรกจะยังมีรอยเข็มอยู่บ้างครับ หากต้องการล้างหน้าสามารถทำได้ โดยควรโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที ล้างด้วยสบู่อ่อน ๆ ครับ
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่สามารถคืนความอ่อนเยาว์ได้อย่างเห็นผล ตรงจุด สะดวกและรวดเร็ว แต่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการรักษาเป็นอย่างสูง เพราะฉะนั้นความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ ทั้งในด้านฝีมือ การเลือกใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะกับแต่ละเคส จึงเป็นปัจจัยสำคัญมาก ๆ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ที่ไหน กับใคร ไม่ควรใจร้อน หรือเห็นแก่ราคาโปรโมชั่นถูก ๆ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด จนมั่นใจว่าคลินิกนั้นใช้ฟิลเลอร์แท้ หมอจริง มีฝีมือ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยมากที่สุดครับ