Radiesse Filler
Radiesse Filler เรเดียส ฟิลเลอร์ตัวใหม่มาแรง ที่ได้รับความสนใจจากคนไข้ ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้าเป็นอย่างมากครับ Radiesse เป็นฟิลเลอร์จริง ๆ ไหม แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่ว ๆ ไปไหม อย่างไร ? ใครที่อยากมีผิวแน่น ผิวเฟิร์ม กระชับ หมอมีข้อมูลมาแนะนำอัปเดตกันครับ
Radiesse โดดเด่นช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง ? มีข้อดี – ข้อเสีย รวมถึงเหมาะกับใคร ? ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? แต่ละครั้งใช้กี่ CC ? หลังทำกี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ? นานเท่าไรจึงควรฉีดซ้ำ ? ทุกข้อสงสัยเหล่านี้ หมอรวบรวมมาให้แล้ว พร้อมข้อควรรู้ ก่อนและหลังฉีดมีอย่างไรบ้าง ? ราคาเท่าไร ? สุดท้าย ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ไหนดี ? พิจารณาอะไรบ้าง ? ติดตามอ่านได้ทั้งหมดครับ
สารบัญ Radiesse Filler
Radiesse ทำไมถูกเรียกว่าเป็น ฟิลเลอร์ ?
Radiesse Filler คือ ชื่อของผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ในการเสริมความงาม โดยเป็นนวัตกรรมฟื้นฟูสุขภาพและโครงสร้างผิว จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการ “เติมเต็ม” หรือ “ฟิลล์” ในพื้นที่ภายใต้ผิวหนังที่มีริ้วรอย ร่องลึก คล้ายกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ แต่มีความแตกต่างอยู่ที่ Radiesse Filler ไม่ได้มีไฮยาลูรอน เป็นส่วนประกอบหลัก แต่จะเป็น CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) แทน ซึ่งสามารถช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกได้เป็นอย่างดี และยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่น เฟิร์ม กระชับ ได้ครับ
แล้ว Radiesse ถือว่าเป็น สารกระตุ้นสร้างคอลลาเจน (Biostimulator) ไหม ?
Radiesse ถือว่าเป็น สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ครับ เพราะนอกจากเป็นฟิลเลอร์ที่เติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้าแล้ว ยังกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้นใหม่ได้ด้วย เพราะ Radiesse ประกอบด้วย CaHA (คา-ฮ่า) ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนด้วยตัวเอง ซึ่งผลของการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนนี้ ส่งผลให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
นอกจากนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีด Radiesse จะอยู่ได้ยาวนานขึ้น เนื่องจากมีการผลิตคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้นครับ
CaHA ใน Radiesse คือ อะไร ?
CaHA (คา-ฮ่า) หรือ Calcium Hydroxylapatite microsphere (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ไมโครสเฟียร์ ) คือ สารประกอบแร่ธาตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกาย พบได้ในเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน มีโครงสร้างทางเคมีที่ประกอบด้วยแคลเซียมและฟอสเฟตในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงซึ่งเรียกว่า Hydroxylapatite
ส่วน CaHA ที่เป็นส่วนประกอบหลักของ Radiesse เป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตเลี่ยนแบบ CaHA ตามธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนกับสารที่มีอยู่ในร่างกาย มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดอนุภาคสม่ำเสมอ 25-45 ไมครอน
สำหรับ CaHA ที่เป็นสารสังเคราะห์ ในทางการแพทย์ มีใช้มานานกว่า 25 ปีแล้วครับ และใช้เป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเติมเต็มบริเวณที่มีริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยบนผิวหน้า อย่าง Radiesse ซึ่งเป็นสารที่คิดค้นและวิจัยโดย Merz Aesthetics
ปัจจุบัน Radiesse ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ในหลายประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 มียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก
Radiesse มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โดดเด่นในกระบวนการผลิตอย่างไร ?
จุดเด่นของ Radiesse Filler คือเป็นฟิลเลอร์ที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โดดเด่นในกระบวนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของส่วนประกอบหลักและกลไกการทำงานครับ
- ส่วนประกอบหลัก : Radiesse ประกอบด้วย Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ที่มีความเข้ากันได้ดีกับร่างกายและมีความปลอดภัยสูง
- ความพิถีพิถันในกระบวนการผลิตเม็ดไมโครสเฟียร์: การผลิตเม็ดไมโครสเฟียร์ CaHA เป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต้องควบคุมอย่างละเอียด ทั้งขนาดและรูปทรงของเม็ดไมโครสเฟียร์ใน Radiesse Filler ทำให้เหมาะสมกับการฉีดเข้าไปในผิวหนัง ช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดดูธรรมชาติ ผิวเรียบเนียน และสม่ำเสมอ
- มีกลไกการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน: นอกจากจะเป็นฟิลเลอร์ที่เติมเต็มร่องลึกได้แล้ว Radiesse ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติในร่างกาย นับเป็นบทบาทสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว และซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผิวในระยะยาว
- ความยั่งยืนของผลลัพธ์: ผลลัพธ์ของ Radiesse สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน โดยจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี เป็นผลมาจากการที่เม็ดไมโครสเฟียร์ CaHA ทำงานร่วมกับการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติในร่างกายครับ
ด้วยความโดดเด่นนี้ ส่งผลให้ Radiesse ได้กลายเป็นหนึ่งในฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงในด้านการเสริมความงาม ซึ่ง V Square Clinic ก็มี Radiesse Filler ไว้ให้บริการดูแลคนไข้ด้วยเช่นกันครับ
อย่าฉีด Radiesse Filler เพราะกระแส ! แต่ต้องแก้ปัญหาได้ตรงจุด
การใช้ Radiesse Filler หรือผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์อื่น ๆ ก่อนใช้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เช่น ผลิตภัณฑ์ หรือตัวยานั้น ๆ มีคุณสมบัติอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไร ? มีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ? ดูความเหมาะสม ดูข้อดี- ข้อเสีย เพื่อให้ผลลัพธ์หลังทำเกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า และสามารถแก้ไขจุดบกพร่องได้อย่างตรงจุด
จุดเด่น – ข้อได้เปรียบ – ข้อดี – ข้อเสีย ของ Radiesse Filler
จุดเด่น
จุดเด่นของ Radiesse Filler คือสามารถ ฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Regenerative Biostimulator
เป็นการรักษาเชิงเวชศาสตร์ที่เน้นฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก โดยไม่เกิดการอักเสบ และอยู่ได้นาน
ข้อได้เปรียบ
Radiesse Filler สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ คือ
- Collagen Type I (เพิ่มขึ้น 150 %)
- Collagen Type III (เพิ่มขึ้น 130 %)
- Elastin (เพิ่มขึ้น 260 % ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น)
- Angiogenesis (ช่วยเสริมการไหลเวียนให้ผิวสุขภาพดี)
- Proteoglycan (สารอาหารผิว ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ)
ข้อดี
- มีความปลอดภัยสูง : เมื่อฉีดเข้าร่างกาย สามารถย่อยสลายได้หมด (Biodegradable sustain ) และได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม : รวมลิสต์ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. อัปเดตล่าสุด
- ผลลัพธ์ที่ธรรมชาติ: ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติภายในผิวหนัง ทำให้ผิวยืดหยุ่นและอ่อนเยาว์มากขึ้น.
- Healthier ช่วยให้ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ อิ่มฟูเด้ง ผิวคุณภาพดียิ่งขึ้น
- Younger สามารถลดริ้วรอย ยกกระชับขึ้น ทำให้ผิวดูเด็กลง
- Longer ยืดอายุผิวคุณภาพดีได้ยาวนาน
- ไม่ต้องทดสอบการแพ้ก่อนใช้ : เนื่องจาก Radiesse สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่พบในร่างกายมนุษย์ จึงลดความเสี่ยงของการแพ้ได้
ข้อเสีย
- Radiesse ไม่ใช้หัตถการที่ฉีดครั้งเดียวแล้วคงอยู่ถาวร เพื่อให้ผลลัพธ์ดีควรฉีดต่อเนื่อง เริ่มที่ 1-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา และระดับอายุของคนไข้ครับ
- หลังฉีดอาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกเจ็บ ๆ บริเวณที่ฉีดได้ (อาการเหล่านี้สามารถหายได้เอง)
ฉีด Radiesse Filler ช่วยแก้ปัญหาโดดเด่นในจุดไหนบ้าง ?
Radiesse Filler สามารถช่วยแก้ไขหลายปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเสริมความงามและการฟื้นฟูผิวหน้า ได้แก่
- ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก: Radiesse มีประสิทธิภาพในการเติมเต็มริ้วรอย เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวสามารถลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้มและร่องข้างจมูกได้
- ช่วยในการปรับรูปหน้า: ใช้ในการเสริมแก้ม, กราม, และบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้าเพื่อสร้างความสมดุลและเพิ่มมิติให้กับใบหน้า
- ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่: Radiesse เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator)ในผิวตามธรรมชาติทำให้ เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ จึงช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น
- ลดความหย่อนคล้อยและลดริ้วรอยแห่งวัย : ช่วยลดความหย่อนคล้อยและให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น แน่นขึ้น ลดความหย่อนคล้อยจากอายุที่มากขึ้นได้เป็นอย่างดี
- ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น: ผิวหน้าดูเนียนเรียบและอ่อนเยาว์ ช่วยเติมน้ำในผิว ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี
นอกจากนี้ยังมีการใช้ Radiesse ในการฟื้นฟูผิวหน้าหลังการบาดเจ็บหรือการผ่าตัด โดยใช้เพื่อช่วยฟื้นฟูรูปลักษณ์ของผิวหน้าหลังการบาดเจ็บหรือการผ่าตัดครับ
สำรวจตัวเองก่อนว่าเหมาะฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ไหม ?
Radiesse Filler เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังและรูปลักษณ์ของใบหน้า
ในผู้ที่สนใจฉีด Radiesse Filler แต่ไม่มั่นใจว่าเหมาะกับตัวเองหรือไม่ หมอมีแนวทางให้พิจารณาครับ
Radiesse Filler เหมาะกับใครบ้าง ?
- บุคคลที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้า เช่น คนที่ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ไม่มีวอลลุ่ม ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง ผิวหนังยุบลง มีรอยแผลเป็น มีรอยบุ๋ม หรือมีหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก ต้องการทำให้ผิวอิ่มเต็ม ชุ่มชื่น หรือในเคสที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ต้องปรับรูปหน้า แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย
- บุคคลที่มีริ้วรอยหรือร่องลึกบนใบหน้าเช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องมุมปาก
- บุคคลที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับมือ Radiesse สามารถใช้เพื่อเติมเต็มบริเวณที่มีผิวหย่อนคล้อยของหลังมือ รวมถึงผิวบริเวณลำคอได้
- บุคคลที่มองหาการเสริมความงาม ช่วยให้หน้าเด็กลง โดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีด Radiesse Filler เป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัดและสามารถทำได้เร็วโดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
- บุคคลที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป มีริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ต้องการมีผิวเด็ก อยากเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว
อย่างไรก็ตามการฉีด Radiesse Filler อาจไม่เหมาะสำหรับบุคคลบ่งกลุ่ม เช่น ผู้ที่มีประวัติการแพ้ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ หรือ ผู้ที่มีการติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด ดังนั้นก่อนฉีดควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดครับ
Radiesse Filler สามารถฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ CC ?
Radiesse Filler สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง เช่น ใบหน้า,หน้าแก้ม-ร่องแก้ม, ร่องนํ้าหมาก หรือ หลังมือ โดยปริมาณ CC ที่ใช้ในแต่ละบริเวณอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ
- เป้าหมายในการแก้ไข
- ความหนาแน่นของผิวหนัง
- บริเวณที่จะฉีด
ดังนั้นการใช้ Radiesse Filler กี่ CC ? ปริมาณที่แน่นอน จะต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ครับ
โดยปริมาณของ Radiesse Filler ที่อาจใช้ในแต่ละตำแหน่ง มีดังนี้
- ร่องแก้มและบริเวณแก้ม: ประมาณ 1.5 – 3 cc ในบริเวณนี้อาจต้องใช้ปริมาณมากกว่าบริเวณอื่นเนื่องจากมีพื้นที่กว้าง
- ร่องน้ำหมาก : ประมาณ 1 – 2 cc ขึ้นอยู่กับระดับของร่องลึกและปริมาณที่ต้องการเติม
- บริเวณกรามและขอบกราม: ประมาณ 1 – 3 cc ขึ้นอยู่กับรูปทรงและปัญหาที่ต้องการแก้ไข
- บริเวณมือ: ประมาณ 1 – 2 cc ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับระดับของความหย่อนคล้อย
ทั้งนี้ Radiesse Filler 1 กล่องจะมี 1 ไซริงค์ ซึ่งจะเท่ากับ 1.5 CC ครับ
ข้อควรรู้ : การฉีด Radiesse filler ไม่แนะนำให้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตา ร่องระหว่างคิ้ว จมูก ปาก และรอบปาก ซึ่งถ้าหากคนไข้มีปัญหาผิวและมีความกังวลในจุดนี้ก็สามารถเลือกทำหัตถการอื่น ๆ แทนได้ครับ
บทความแนะนำ : ฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดตำแหน่งไหนที่เพียงพอ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนบ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse แล้วกี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?
หลังการฉีดฟิลเลอร์ Radiesse จะสามารถเห็นผลได้ทันทีส่วนหนึ่ง โดยคนไข้สามารถรู้สึกได้ว่าผิวยกกระชับขึ้น ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น จากนั้น ประมาณ 3-4 สัปดาห์จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน ผิวแน่นขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น จากนั้นประมาณ 3-6 เดือน Radiesse จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจนเต็มที่ ทําให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ผิวยกกระชับ ยืดหยุ่น ใบหน้ามีวอลลุ่มมากขึ้น รวมถึงสุขภาพผิวมีความแข็งแรงมากขึ้นด้วยครับ
ด้านการคงผลลัพธ์ หลังฉีด Radiesse จะคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 2 ปีครับ ขึ้นอยู่กับความถี่ ในการฉีด (แนะนำฉีดติดต่อกัน 1-3 ครั้ง) รวมถึงการดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจนไว้เพื่อรักษาคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวให้อยู่ได้นาน ๆ ครับ
ฉีด Radiesse อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงไหม ?
การฉีด Radiesse มีความปลอดภัยสูงครับ มีเอกสารงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยรองรับ ซึ่งถูกเผยแพร่ทางสิ่งตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 250 ฉบับ ได้รับรองและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) รวมถึงในยุโรป (CE)
หากสนใจฉีด สามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยได้ครับ Radiesse สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่ก่อเกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน และสามารถสลายไปตามธรรมชาติอีกด้วย
ในส่วนของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวมและมีรอยช้ำ เป็นอาการปกติครับ จะหายไปเองภายใน 1-3 วัน
ข้อควรทราบและการดูแลตัวเองก่อน – หลังฉีด Radiesse Filler
การฉีด Radiesse Filler มีข้อควรรู้และข้อปฏิบัติที่ต้องการ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมทั้งก่อนและหลังการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง
ก่อนการฉีด Radiesse Filler
- ปรึกษาแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์และให้แพทย์ประเมินสุขภาพผิว และควรแจ้งประวัติให้แพทย์ทราบโดยละเอียดว่ามีอาการแพ้อะไรหรือไม่ คนไข้มีความกังวลอย่างไร เพื่อให้แพทย์แนะนำปริมาณการใช้อย่างเหมาะสม รวมถึงทราบงบประมาณค่าใช้ก่อนทำได้ครับ
- หลีกเลี่ยงยา และวิตามินบางชนิด: เมื่อตัดสินใจฉีดแล้ว ก่อนฉีดควรหลีกเลี่ยงตัวยาที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ เช่น แอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรืออาหารเสริมจำพวก Ginkgo
- ไม่ดื่มแอลกอฮอล์: หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
- การดูแลผิวหน้า: ก่อนฉีดควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงต่อผิว งดสครับผิว หรือครีมผลัดเซลล์ผิว เพื่อป้องกันการเกิดการอักเสบ
หลังการฉีด Radiesse Filler
- หลีกเลี่ยงการแตะ กด นวดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการอักเสบ รวมถึงการเคลื่อนของฟิลเลอร์จากบริเวณที่ต้องการ
- งดแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
- งดการใช้แรงหรือกิจกรรมหนัก ๆ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดเหงื่อออกมาก ๆ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด
- งดออกแดดหรือความร้อนสูง เช่น การอบสปาหรือซาวน่า 24 ชั่วโมงหลังทำ และควรหลีกเลี่ยงอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
Radiesse Filler รีวิว
ตัวอย่างรีวิวผลลัพธ์จาก Merz Aesthetic
Radiesse Filler ราคาเท่าไร ? ฉีดแล้วคุ้มค่าไหม ?
ราคาของ Radiesse Filler อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชื่อเสียง ความชำนาญของคลินิก และแพทย์ผู้ฉีด รวมถึงปริมาณตัวยาที่ใช้ ซึ่งในแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันครับ
ด้านความคุ้มค่า ถ้าเที่ยบกับฟิลเลอร์อื่น ๆ Radiesse Filler สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเพิ่มได้ จึงทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า แต่ทั้งหมดต้องขึ้นกับความเหมาะสมในการใช้เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยครับ
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ไปแล้ว นานเท่าไรจึงต้องฉีดซ้ำ ?
การฉีดฟิลเลอร์ Radiesse เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพแนะนำให้ต่อเนื่อง 1-3 ครั้งขึ้นไป ในแต่ละครั้งห่างกัน 1 เดือนครับ
เลือกฉีด Radiesse ดีไหม ? มีหัตถการงานผิวอะไรอีกบ้างในปัจจุบัน ?
ในส่วนของหัตถการงานผิวอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว การฉีด Rejuran, Exosome รวมถึงเมโสหน้าใสสูตรต่าง ๆ สามารถศึกษาข้อมูลแต่ละหัตถการได้จากคลิปด้านล่างครับ
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องงานผิวที่เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนหลายยี่ห้อครับ โดย Radiesse เป็นหนึ่งในนั้น รวมถึง Sculptra และ Gouri
Radiesse Filler ราคาเท่าไร ?
Radiesse Filler ราคา 1 กล่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 3x,xxx บาท หากต้องการทราบราคาที่แน่นอนควรเข้ารับขอคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรง เพื่อประเมินปัญหา สภาพผิว และปริมาณตัวยาที่ใช้ได้อย่างเหมาะสมในแต่ละบุคคล
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse คุ้มค่าไหม ?
ฉีดแล้วคุ้มค่าไหม ? จริง ๆ แล้ว ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความคาดหวังที่คนไข้ตั้งไว้ด้วยครับ เช่น
- ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย : Radiesse สามารถแก้ไขริ้วรอย ความหย่อนคล้อยได้
- ต้องการความยั่งยืนของผลลัพธ์ : Radiesse สามารถให้ยั่งยืนของผลลัพธ์ (ประมาณ 1-2 ปี)
- ต้องการความปลอดภัย : Radiesse เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ปัจจุบันได้รับความนิยมและถูกใช้งานโดยแพทย์ทั่วโลกมาแล้วนานกว่า 25 ปี
ฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี ?
การฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ไหนดี ? สิ่งสำคัญคือเรื่องของความปลอดภัยครับ การฉีด Radiesse Filler รวมถึงหัตถการอื่น ๆ จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการใช้ผลิตภัณฑ์
สำหรับฟิลเลอร์ Radiesse แพทย์ผู้ฉีดจะต้องผ่านการเทรนจากบริษัทนำเข้า Merz Aesthetic Thailand มาแล้วเท่านั้น เพราะก่อนฉีดจะต้องรู้เทคนิคการเตรียมและการผสมยาอย่างถูกต้อง รวมถึงควรฉีดฟิลเลอร์ Radiesse กับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือครับ
ต้องพิจารณาปัจจัยอะไรอีกบ้างก่อนตัดสินใจฉีด Radiesse ?
- คลินิกต้องเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีชื่อคลินิกชัดเจนและเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุขติดไว้ในที่เห็นได้ และมีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผย
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ และไม่โฆษณาเกินจริง คลินิกเสริมความงามที่รีวิวจากคนไข้ที่ใช้บริการจริง เป็นอีก 1 ข้อที่ควรพิจารณาครับ
รีวิวสามารถช่วยให้รู้ได้ว่า ผลลัพธ์หลังทำควรเป็นอย่างไร ควรทำหรือเหมาะกับตัวคนไข้หรือไม่ รวมถึงยังทำให้รู้รายละเอียดอื่น ๆ เช่น การให้บริการของคลินิก การดูแลจากแพทย์ การให้ข้อมูลคำแนะนำดีไหม ฝีมือเป็นอย่างไร เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจครับ
โดยไม่ควรดูรีวิวที่เป็นภาพถ่าย Before-After เคสสวย ๆ เท่านั้นครับ ควรดู Before-After จากคลิป VDO รีวิวเป็นหลักจะสามารถเชื่อถือได้มากกว่าภาพถ่าย
- คลินิกมีการติดตามผล
การฉีด Radiesse Filler ต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลที่ชัดเจน คลินิกควรมีการนัดติดตามผล และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อนทำ-หลังทำอย่างใกล้ชิด มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน เช่น มี Line@ ที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ทำเคสตัวเองได้โดยตรงตลอดเวลา เพราะการปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด และอยู่ได้นานครับ
ฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี ?
ฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี นอกจากสิ่งที่ควรพิจารณาตามที่กล่าวมาข้างต้น อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลย คือการ ตรวจเช็กผลิตภัณฑ์ตัวยาว่าเป็นของแท้ หรือไม่
วิธีเช็ก Radiesse ของแท้
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาอังกฤษ
- มี QR Code ติดไว้หน้ากล่อง เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าเป็น Rediesse ของแท้หรือไม่
- เลข Lot. ที่กล่องและซองตรงกัน
- มีใบรับประกัน Skin Rejuvenetioon Card หรือ Radiesse Club Card
- โทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด โทร.02 026 1111
ฉีด Radiesse ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
- ทีมแพทย์ V Square Clinic มีประสบการณ์การปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ และมีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา
- คนไข้จะได้รับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลส์ โดยจะประเมินปัญหาใบหน้าของคนไข้เป็นรายบุคคล ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
- แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มทุกความมั่นใจ “Feel Your Confidence”
- หมอสามารถประเมิน วิเคราะห์ปัญหาผิวและแนะนำปริมาณการฉีด จุดฉีด รวมถึงหัตถการอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับปัญหา ช่วยแก้ปัญหาความกังวลของคนไข้ได้อย่างตรงจุด คุ้มค่า
- V Square Clinic ใช้ผลิตภัณฑ์ Radiesse Filler ของแท้ แกะกล่องใหม่ทุกเคส สามารถนำกล่องและหลอดกลับบ้าน และเช็กกับบริษัทนำเข้าได้
- หลังฉีดมีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส
- มีราคาที่ย่อมเยา คุ้มค่าและสมเหตุสมผล
นอกจากนี้ V Square Clinic ยังได้รับความไว้วางใจจากดารา-เซเลบริตี้ แถวหน้าของเมืองไทยมากมาย มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงกว่า 200,000 เคสทั่วประเทศ และมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากการบอกต่อเป็นจำนวนมาก
โปรโมชั่น Radiesse Filler ที่ V Square Clinic
สรุป
Radiesse Filler เป็นอีกตัวเลือกสำหรับหัตถการงานผิวครับ สามารถช่วยฟื้นฟู ปรับสภาพผิวในระดับผิวชั้นตื้น และ ชั้นลึก ช่วยทำให้ผิวอิ่มฟูและยืดหยุ่นได้ดี จึงสามารถลดริ้วรอย ร่องลึก รวมถึงชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ เหมาะกับผู้ที่ต้องมีผิวเด็ก ผิวอ่อนเยาว์
ผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ Radiesse เบื้องต้นแนะนำให้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดเป็นไปตามที่ที่คาดหวังครับ
เอกสารอ้างอิง