ฟิลเลอร์ Belotero Revive ฟิลเลอร์งานคุณภาพผิว

Categories
ฉีดฟิลเลอร์
Belotero Revive

Belotero Revive

ฟิลเลอร์ Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์รุ่นใหม่ที่เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากตั้งแต่ปี 2023 ถึงปัจจุบันปี 2024 นี้ ถ้าหากจัดอันดับจะต้องมีติดอันดับแน่นอนครับ ในบทความนี้ หมอจะมาเจาะลึกว่า Belotero Revive คืออะไร ? ช่วยอะไรบ้าง ดีไหม ? เหมาะกับใคร ผิวแบบไหน ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ใช้กี่ CC กี่วันเห็นผล ทำ 1 ครั้ง อยู่ได้นานไหม ? ข้อปฏิบัติก่อน – หลังทำ ควรรู้อะไรบ้าง ?  ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร วิเคราะห์ข้อดี – ข้อเสียของ Belotero Revive vs Rejuran  ราคาเท่าไร โปรโมชั่น พร้อมแนะนำวิธีเลือกคลินิกที่ไหนดี ทุกคำถามที่อยากรู้เกี่ยวกับ Belotero Revive รวมไว้ในบทความนี้แล้วครับ

สารบัญ Belotero Revive

  1. รู้จัก Belotero Revive
  2. Belotero Revive คืออะไร ?
  3. Belotero Revive เป็น ฟิลเลอร์ ใช่ไหม ?
  4. Belotero Revive ช่วยอะไรบ้าง ?
  5. ฉีด Belotero Revive แล้ว ช่วยให้ผิวกระจก จริงไหม ?
  6. Belotero Revive ต่างจากฟิลเลอร์อื่น ๆ อย่างไรบ้าง ?
  7. Belotero Revive ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
  8. Belotero Revive เหมาะกับใครบ้าง ?
  9. ข้อดี – ข้อเสีย ของ Belotero Revive
  10. ก่อนฉีด Belotero Revive ควรรู้อะไรบ้าง ?
  11. Belotero Revive ใช้กี่ CC ?
  12. Belotero Revive รีวิว
  13. ฉีด Belotero Revive กี่วันเห็นผล ?
  14. Belotero Revive อยู่ได้นานไหม ?
  15. ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?
  16. Belotero Revive ดีไหม ?
  17. เปรียบเทียบ Belotero Revive กับ นวัตกรรมการยกกระชับ กระตุ้นสร้างคอลลาเจน ด้วยวิธีอื่น ๆ
  18. Belotero Revive ราคา
  19. ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ไหนดี ?
  20. ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
  21. โปรโมชั่น ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ V Square Clinic
  22. Q&A ฟิลเลอร์ Belotero Revive
  23. สรุป

รู้จัก Belotero Revive

Belotero Revive เป็นหนึ่งในรุ่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท Merz Healthcare (Thailand) จำกัด นอกจากรุ่น Belotero Revive แล้ว ทางบริษัทผู้นำเข้ายังมีฟิลเลอร์ Belotero รุ่นอื่น ๆ เช่น Belotero Intense, Belotero Volume และ Belotero soft ทุกรุ่นได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (ผ่าน อย.ไทย) รวมถึงองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาและยุโรปครับ 

จุดสังเกตของฟิลเลอร์ Belotero คือมีกล่องสีสันสดใส หรือที่บางคนเรียก Colorful filler ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ใช้เทคโนโลยี Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ในการผลิต ทำให้มีจุดเด่นคือเป็นฟิลเลอร์เนื้อเนียน ยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะได้ดี เมื่อสัมผัสแล้วเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน ฟิลเลอร์ Belotero ผลิตออกมาหลายรุ่นเพื่อที่จะสามารถนำไปใช้ฉีดตามตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้าที่มีโครงสร้างแตกต่างกันได้ และฟิลเลอร์รุ่นใหม่ล่าสุด คือ Belotero revive ครับ

belotero

Belotero Revive คืออะไร ?

Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์รุ่นแรกของโลก ที่มีการผสมผสานกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid; HA) และ กลีเซอรอล (Glycerol) เข้าด้วยกัน โดยคุณสมบัติเด่นของ HA คือเป็น high water-binding capacity จับกับน้ำได้ดี ช่วยกักเก็บน้ำในโมเลกุล ให้ความชุ่มชื้น และมีเนื้อเป็นเจล มีความยืดหยุ่นสูง

ส่วน กลีเซอรอล (Glycerol) เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีเช่นเดียวกัน และช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคืองของผิว ช่วยลดการอักเสบ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เป็นเกราะป้องกันผิวจากการถูกทำลาย (Skin Barrier) ป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในสกินแคร์และเครื่องสำอางครับ

ด้วยคุณสมบัติของ HA และ Glycerol ที่กล่าวข้างต้น ทำให้ Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ที่ช่วยบำรุงผิวที่ขาดน้ำ แห้งกร้าน ให้กลับมาชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว เพิ่มความแน่นกระชับและยืดหยุ่นให้แก่ผิว ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ดูเงาเป็นผิวกระจก (Glass skin) นอกจากนี้ยังช่วยลดเม็ดสีผิว ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วยครับ

ข้อมูลbelotero revive

Belotero Revive เป็น ฟิลเลอร์ ใช่ไหม ?

Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ครับ แต่มีความแตกต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นเนื่องจากมีส่วนผสมของกลีเซอรอลเอาไว้ด้วย เรียกได้ว่าเป็น Hyaluronic acid + Glycerol (Duo action) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวอย่างล้ำลึก ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นตั้งแต่ชั้นใต้ผิว และดูฉ่ำวาวได้จากผิวชั้นนอก เพิ่มความแข็งแรงฟื้นฟูสุขภาพผิว ดูเรียบเนียน กระชับ ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ครับ

บทความแนะนำ : ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? แจก checklists เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ให้เข้ากับปัญหาที่ต้องการแก้ไข

ฟิลเลอร์ Skin Booster คือ ?

ฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ (Filler skin booster) หรือ ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid (HA) เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้น อิ่มน้ำมากขึ้น โดยฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดจะเป็นฟิลเลอร์โมเลกุลเล็ก เนื้อฟิลเลอร์ละเอียดและเบาบาง กระจายตัวในผิวได้ดี ด้วยคุณสมบัติของ HA ที่สามารถดึงน้ำเข้าโมเลกุลได้มาก และช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ดูฉ่ำวาว อิ่มฟู เรียบเนียน และเพิ่มความยืดหยุ่น คล้ายกับผิวได้รับการบำรุงตลอดเวลาครับ

ฟิลเลอร์งานคุณภาพผิว คือ ?

ฟิลเลอร์งานคุณภาพผิว คือการฉีดสาร Hyaluronic acid เข้าไปในชั้นผิวหนัง โดยมีจุดประสงค์ให้ผิวดูชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี เปล่งปลั่ง เนียนใสมากขึ้น คล้ายกับผิวที่ได้รับครีมบำรุงตลอดเวลา โดยฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ ควรจะเป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก ฉีดในผิวชั้นตื้น ฟิลเลอร์รุ่นที่นิยม ได้แก่ Restylane vital light, Juvederm Volite และ Belotero Revive ครับ


Belotero Revive ช่วยอะไรบ้าง ?

  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดการสูญเสียน้ำในเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวฉ่ำ ไม่แห้งกร้าน
  • ช่วยทำให้ผิวกระชับแน่นขึ้น ดูอิ่มฟูหลังฉีด ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง ลดริ้วรอยชั้นตื้น
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เพิ่มความยืดหยุ่น เนียนใส ผิวนุ่มดูสุขภาพดี
  • ช่วยลดการเกิดเม็ดสีภายในเซลล์ผิว ลดโอกาสเกิดฝ้า กระ และป้องกันผิวจากแสงแดด

ฉีด Belotero Revive แล้ว ช่วยให้ผิวกระจก จริงไหม ?

ผิวกระจก คืออะไร เกิดจากอะไร มีลักษณะอย่างไร

ผิวกระจก หรือ Glass Skin คือ การที่ผิวมีความชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ เมื่อเจอแสงจะเห็นคล้ายผิวเป็นเงาสะท้อน ดูสวยโกลว์ คล้ายกับกระจกนั่นเองครับ ซึ่ง Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติดึงน้ำเข้าโมเลกุล ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียอักเสบให้ดูสุขภาพดีขึ้น จึงช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาวเป็นผิวกระจกได้ครับ


Belotero Revive ต่างจากฟิลเลอร์อื่น ๆ อย่างไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์รุ่นมาตรฐานที่นิยมใช้ทั่วไป จะเป็นสาร Hyaluronic acid (HA) 100% ครับ แต่ละรุ่นจะมีความเข้มข้นของ HA และเทคโนโลยีการ cross-link โมเลกุลที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดเป็นฟิลเลอร์เนื้อเจล ยี่ห้อและรุ่นต่าง ๆ ที่แตกต่างกันครับ

แต่ Belotero Revive ต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่นตรงที่มีส่วนผสมของ Glycerol เข้ามาในตัวยา ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เป็น Hyaluronic acid + Glycerol เป็นการช่วยเติมน้ำให้กับผิวพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูผิวที่เสียให้ดูสุขภาพดีขึ้นจากภายในครับ

เปรียบเทียบ Belotero Revive กับ Belotero รุ่นอื่น ๆ

Belotero มีใช้หลายรุ่น แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่ต่างกัน ดังนี้

  • Belotero Intense

ฟิลเลอร์ Belotero Intense เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเติมร่องริ้วรอยที่ลึกมาก ๆ ร่องที่เกิดจากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังและจากการเสื่อมสภาพตามวัย เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก เติมแก้มตอบ โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือนก่อนจะสลายหมดครับ

  • Belotero volume

ฟิลเลอร์ Belotero Volume มีความยืดหยุ่นและคงตัว ยึดเกาะได้ดี เหมาะกับการใช้ทดแทนโครงสร้างกระดูกที่เสียไปเมื่ออายุมากขึ้น เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตา แก้ปัญหาใบหน้าตอบ และนิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า คาง โหนกแก้ม ฟิลเลอร์อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน 

  • Belotero Soft

ฟิลเลอร์ Belotero Soft เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก นิยมใช้ในการฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดบนผิวชั้นตื้น เหมาะสำหรับแก้ไขริ้วรอยบนผิวชั้นนอก แก้ปัญหาใต้ตา เก็บรายละเอียดใต้ตา ฟิลเลอร์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน

ส่วน Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์งานผิวเป็นหลัก ไม่ได้เน้นการเติมเต็มเฉพาะจุด สามารถฉีดได้ทั่วหน้าเพื่อฟื้นฟูผิว ช่วยปรับสภาพผิว ผิวสวยเรียบเนียนเปล่งปลั่งดูสุขภาพดีทั่วใบหน้าครับ

เปรียบเทียบ Belotero Revive กับ Filler ยี่ห้ออื่น ๆ

หากจะเปรียบเทียบ Belotero Revive กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีขนาดโมเลกุลใกล้เคียงกัน เนื้อฟิลเลอร์คล้ายกัน และใช้ในการฉีดบำรุงผิวได้เช่นเดียวกัน หมอจะเปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ 2 รุ่น คือ Restylane Vital light กับ Juvederm volite ครับ

  • Restylane Vital light

ฟิลเลอร์ Restylane Vital light ฟิลเลอร์จากสวีเดนที่ใช้เทคโนโลยี NASHA (Non Animal Stabilized Hyaluronic Acid) ในการผลิต มีความเข้มข้นของ HA 12 mg/ml เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด อยู่ได้ 6-12 เดือน

  • Juvederm Volite

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยี Vycross ในการผลิต ทำให้โมเลกุลของฟิลเลอร์เกิดการยึดเกาะกันได้ดี มีความยืดหยุ่น เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความเข้มข้นของ HA 12 mg/ml อยู่ได้นาน 8-12 เดือนครับ

ส่วน Belotero Revive มีความเข้มข้นของ HA 20 mg/ml แม้จะมีความเข้มข้นของ HA ที่สูงแต่เนื้อเจลมีความละเอียดและยืดหยุ่นกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น เนื่องจากเทคโนโลยี CPM ที่ใช้ในการผลิต ที่ทำให้โมเลกุลของ HA เกิดการ cross-linked กันแบบพิเศษ เนื้อเจลจึงมีความเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน

และอีกข้อสำคัญที่ทำให้ Belotero Revive แตกต่างจากฟิลเลอร์รุ่นอื่น คือมีส่วนผสมของ Glycerol 17.5 mg/ml ที่ช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวตั้งแต่ชั้นใน (Dermis) จนถึงผิวชั้นนอกสุด (Stratum corneum) และช่วยให้การฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสีย ลดการอักเสบและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวครับ


Belotero Revive ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

Belotero Revive นิยมฉีดบริเวณใบหน้าและลำคอเป็นหลักครับ โดยฉีดตามตำแหน่งต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้

  • ผิวหน้าบริเวณข้างจมูกและแก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูฉ่ำโกลว์ ผิวหน้าโดยรวมดูเรียบเนียน
  • รอบดวงตา ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ลดรอยคล้ำรอบดวงตา
  • รอบปากและริมฝีปาก ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
  • คอและหน้าอก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณคอหรือหน้าอกที่แห้งกร้าน
  • หลังมือ ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นของหลังมือ 

Belotero Revive เหมาะกับใครบ้าง ?

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้า ต้องการปรับสภาพผิวให้สดใสเรียบเนียน อิ่มน้ำ ผิวกระจก
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ หน้ามัน
  • เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ตามวัย ร่องชนิดตื้นบนใบหน้า เริ่มมีรอยเหี่ยวย่น ไม่กระชับ
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งเสียจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว รอยดำรอยแดงจากสิว 
  • เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาทาครีมบำรุง และผู้ที่ไม่ชอบแต่งหน้าจัด ชอบงานผิว

ข้อดี – ข้อเสีย ของ Belotero Revive

ข้อดีของฟิลเลอร์ Belotero Revive คือเป็นตัวช่วยบำรุงผิวได้ตั้งแต่ผิวชั้นใน และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีตั้งแต่การฉีดครั้งแรก ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เด้งแน่นกระชับ อิ่มฟู เรียบเนียน และชุ่มชื้นฉ่ำวาว โดยคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6-9 เดือนครับ

หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดงบริเวณรอยเข็มได้ประมาณ 1 สัปดาห์ หากต้องการรีบใช้หน้าออกงาน แนะนำให้มาทำภายหลังครับ และการที่จะฉีดแล้วเห็นผลดีจะขึ้นกับคุณภาพผิวเดิมด้วย หากมีปัญหาผิวมาก อาจจะต้องฉีดหลายครั้ง 

และการฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียง การอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังครับ


ก่อนฉีด Belotero Revive ควรรู้อะไรบ้าง ?

การเตรียมตัวก่อนฉีด Belotero Revive

ก่อนที่จะตัดสินใจฉีด Belotero Revive ควรจะศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่ฉีด การสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำและรีวิว รวมถึงราคาแต่ละคลินิก เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่าครับ

ข้อควรรู้การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ เตรียมตัวอย่างไรให้ปลอดภัย

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าเลือกฉีดที่ไหนดี ควรเตรียมความพร้อมดังนี้ 

  • ควรงด ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว และการแว็ก ยาแอสไพริน ยา NSAIDs เช่น ibuprofen, diclofenac, ponstan เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ และควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนหยุดยา
  • งดวิตามิน St.John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง 
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่กินเป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
  • คนไข้ต้องตรวจสอบตัวเองว่าไม่มีประวัติแพ้สารไฮยาลูรอนิก ไม่มีประวัติแพ้กลีเซอรีน
  • ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์
  • ผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร หรือมีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนฉีด

Belotero Revive ใช้กี่ CC ?

โดยทั่วไปการฉีด Belotero Revive บริเวณผิวหน้าใช้ 1-2 cc ต่อการฉีด 1 ครั้งครับ ผู้ที่มีปัญหาผิวมาก แนะนำให้ฉีดติดต่อกัน 3 ครั้ง โดยห่างกันครั้งละ 4 สัปดาห์ครับ


Belotero Revive รีวิว

 ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์ belotero revive

รีวิว belotero revive
หลังฉีด Belotero Revive พบว่าผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น รอยแดงของผิวจางลง ริ้วรอยเล็ก ๆ ลดลง

ฉีด Belotero Revive กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีด Belotero Revive จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที จะสังเกตได้ว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นและจะเห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณ 3 เดือนครับ

โดยหลังการฉีด Belotero Revive จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวทั้ง 4 มิติ ดังนี้

  • Skin Hydration ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ความมันบนใบหน้าลดลง จะเห็นผลได้ยาวนานถึง 9 เดือน
  • Skin Glow ผิวหน้าดูเนียนใส เปล่งประกาย ดูโกลว์ฉ่ำวาวมากขึ้น ยาวนานถึง 9 เดือน
  • Skin Elasticity ผิวยืดหยุ่น หน้าเด้งยิ่งขึ้น เห็นผลได้นานถึง 7 เดือน
  • Skin Firmness ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น ริ้วรอยเล็กๆดูจางลง จนถึง 7 เดือน
ผลลัพธ์หลังฉีด belotero revive
กราฟแสดงผลการเปลี่ยนแปลงของผิวหลังฉีด Belotero Revive จำนวน 3 ครั้ง พบว่าความชุ่มชื้นและความเรียบเนียนของผิวมากขึ้น และ ความแดงจากการระคายเคืองของผิวลดลงต่อเนื่อง ยาวนานถึง 9 เดือน

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาถึงความพึงพอใจของผู้ที่เข้ารับการฉีด Belotero Revive จากผลการศึกษาพบว่า

ข้อมูลการศึกษาที่การันตีผลลัพธ์หลังฉีด 

  • 100% ของกลุ่มตัวอย่างแสดงผลด้านความงามที่ดีขึ้นทุกด้านในสัปดาห์ที่ 12
  • มากกว่า 80% ของกลุ่มตัวอย่างพึงพอใจกับผลลัพธ์ยาวนานถึง 28 สัปดาห์
  • มากกว่า 57% ของกลุ่มตัวอย่างพึงพอใจกับผลลัพธ์ยาวนานถึง 36 สัปดาห์
  • 90% ของกลุ่มตัวอย่างอยากจะแนะนำ บอกต่อกับเพื่อนและคนใกล้ชิด

Belotero Revive อยู่ได้นานไหม ?

ในคนที่มีปัญหาผิวไม่มาก สามารถฉีด Belotero เพียง 1 ครั้ง และจะคงผลลัพธ์ได้นาน 6-9 เดือน แต่ผู้ที่มีปัญหาผิวมาก ผิวแห้งรุนแรง หยาบกร้าน แนะนำให้ฉีดต่อเนื่องทุก 1 เดือนเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อปรับสภาพผิวก่อน จากนั้นผิวจะคงสภาพได้ 6-9 เดือนครับ


ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ให้ได้ผลดีและอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

หลังฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง โดยควรนอนให้หัวสูงกว่าหน้าอก ใน 2-3 คืนแรก เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้า
  • ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ 
  • หากมีอาการบวมแดง จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน จนถึง 1 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นอาการบวมเข็มครับ แต่ถ้า 3 วันแล้ว อาการดังกล่าวยังเป็นมากขึ้น ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
  • ทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
  • อยู่แต่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำครับ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด การดื่มแอลกอฮอล์
  • งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage เป็นเวลา 1 เดือน
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

Belotero Revive ดีไหม ?

Belotero Revive เป็นตัวช่วยบำรุงผิวที่ให้ผลดี ใช้ได้ทั่วใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นเพียงเล็กน้อย จนถึงผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งเสีย หมองคล้ำจากแดด ปัญหาสิวและจุดด่างดำ โดยนอกจากจะทำให้ผิวดูฉ่ำวาว เรียบเนียนแล้ว ยังช่วยให้ผิวมีเกราะป้องกันจากการถูกทำลาย ชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้อีกด้วยครับ


เปรียบเทียบ Belotero Revive กับ นวัตกรรมการยกกระชับ กระตุ้นสร้างคอลลาเจน ด้วยวิธีอื่น ๆ

Belotero Revive VS Radiesse Filler

ฟิลเลอร์ Belotero Revive มีส่วนประกอบเป็น Hyaluronic Acid + Glycerol เหมาะสำหรับคนที่ชอบงานผิว ต้องการปรับสภาพผิวหน้าเร่งด่วน เช่น คนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ หน้าโทรม ไม่สดใส มีริ้วรอยตื้น ๆ บริเวณใต้ตา มุมปาก มีหลุมสิวตื้น ๆ ด้วยความที่เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด จึงทำให้กลืนกับผิวหน้าได้ดี ผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติทันทีที่ฉีด คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-9 เดือน 

ส่วน Radiesse  Filler จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็มเช่นเดียวกับฟิลเลอร์ แต่ไม่ได้มี Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบหลัก มี CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ Fibroblast ให้สร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่น แน่น เฟิร์มกระชับ ริ้วรอยเล็ก ๆ ลดลง ผิวดูอ่อนเยาว์ เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว มีคุณภาพผิวที่ดี แข็งแรงถึงระดับโครงสร้างผิวชั้นลึก อายุ 30 ปีขึ้นไป คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี 

Radiesse ฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC ?

Belotero Revive VS Rejuran

Rejuran มี Polynucleotide (PN) เป็นส่วนประกอบหลัก ช่วยในการกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้เกิดการสร้างคอลลาเจน อีลาสตินและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ มีจุดเด่นในด้านการฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ลดรูขุมขน ลดหลุมสิวตื้น ๆ ได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นฉ่ำวาว อิ่มน้ำได้มากขึ้น จากการที่ร่างกายมีคอลลาเจนและเซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น จึงสามารถดึงดูดโมเลกุลน้ำเข้าเซลล์ได้มากขึ้น เห็นผลลัพธ์หลังฉีดประมาณ 3-5 วัน แนะนำให้ทำต่อเนื่อง 4 ครั้ง ทุก 2-3 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 6-8 เดือน   

ต่างจาก Belotero Revive ซึ่งเป็นการเติมสารที่มีคุณสมบัติกักเก็บน้ำเข้าชั้นผิวได้โดยตรง ซึ่งได้แก่ HA และ Glycerol จึงสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันทีครับ ผิวจะดูชุ่มชื้น ฉ่ำวาวมากขึ้น และช่วยลดการเกิดสิว ลดการอักเสบของผิวได้ด้วย ฉีด 1 ครั้งอยู่ได้นาน 6-9 เดือนครับ

Belotero Revive VS Sculptra

Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ Skin Booster ผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพผิว (Skin Quality) โดยเฉพาะ ด้วยความที่มี Hyaluronic Acid + Glycerol จึงให้ทั้งการเติมเต็มและล็อกความชุ่มชื้น ให้ผิวโกลว์ฉ่ำเหมือนผิวกระจก เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้าง หน้าโทรม ไม่สดใส ต้องการฟื้นฟูผิวเร่งด่วน เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ฉีด 1 ครั้ง อยู่ได้นาน 6-9 เดือน

ส่วน Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว (Collagen Biostimulator) มี PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นส่วนประกอบหลัก หลังฉีดจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ เพิ่มคอลลาเจน Type 1 ที่จำเป็นต่อผิวได้สูงถึง 66.5% จึงเหมาะกับการฟื้นฟูผิวชั้นลึก ปรับโครงสร้างผิวจากภายใน เติมเต็ม ยกกระชับใบหน้า และยังช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิว ผิวอิ่มฟู เต่งตึง แน่นกระชับ สุขภาพผิวดีขึ้น เริ่มเห็นผลหลังฉีด 3 สัปดาห์ ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2 ปีครับ เมื่อฉีด 2-3 ครั้งต่อเนื่องกัน

Belotero Revive VS Gouri

Belotero Revive หรือฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid + Glycerol เข้าไปในชั้นผิว เพื่อช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น (Increase Elasticity) เต่งตึง ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว เรียบเนียน เด้งกระชับ จะเหมาะกับคนที่ผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น มีริ้วรอยและหลุมสิวตื้น ๆ   

ส่วน Gouri จะเป็น Polycaprolactone ในรูปแบบของเหลว หรือ Liquid PCL มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงเหมาะกับคนที่ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเหี่ยวย่น โดยจะไปช่วยปรับสภาพผิวให้มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นดีขึ้น จากการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ผิวจึงแน่น กระชับ ชุ่มชื้น เรียบเนียน ริ้วรอยแห่งวัยลดลงครับ

ถ้าเทียบในแง่ของผลลัพธ์ที่ได้ ระยะเวลาอยู่ได้นาน รวมถึงราคา ไม่แตกต่างกันมากครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการเป็นหลัก โดยหลังฉีด Belotero Revive ผิวดูชุ่มชื้นขึ้นทันที ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ Gouri เห็นผลใน 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากต้องรอให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ คงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน 

หัตถการงานผิว
Belotero Revive VS หัตการงานผิวอื่น ๆ

Belotero Revive VS Exosome

Belotero Revive คือ ฟิลเลอร์งานผิวกระจก นำส่วนผสมของ Hyaluronic Acid และ Glycerol ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่มีปัญหาจากการถูกทำลาย จากแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ นิยมฉีดบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ผิวแน่นกระชับ 

ส่วน Exosome คือ นวัตกรรมฟื้นฟูผิวด้วยสารชีวโมเลกุลขนาดเล็ก กว่า 1,000 ชนิด ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมผิวชั้นบนให้เนียนใส แข็งแรงขึ้น ทั้ง Belotero Revive และ Exosome ช่วยฟื้นฟูผิวคล้าย ๆ กัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกัน หมอจะประเมินจากสภาพผิวของคนไข้เป็นหลัก ถ้าผิวแห้งมาก ๆ อยากบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน อิ่มฟู กระชับ และฉ่ำวาว จะเหมาะกับ Belotero Revive แต่ถ้าอยากลดริ้วรอย รอยดำ รอยสิว ฝ้า กระ และกระชับรูขุมขน จะเหมาะกับ Exosome

Belotero Revive VS Hifu – Ulthera – Thermage

Belotero Revive เป็นหัตถการงานฉีด เหมาะกับการฉีดผิวชั้นตื้น หรือชั้นหนังแท้ (Dermis) ปรับสภาพผิวให้ผิวดูดีขึ้นใน 4 มิติ คือ เรียบเนียน อิ่มฟู เด้งกระชับ และชุ่มชื้นฉ่ำวาว ส่วน Hifu, Ulthera, และ Thermage เป็น 3 เครื่องยกกระชับผิวยอดนิยม แก้ปัญหาผิวได้ลงลึกครอบคลุมทุกชั้น เด่นในเรื่องยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียว และยังสามารถกระตุ้น Collagen ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องผ่าตัด

แม้จะมีกระบวนการทำงานที่แตกต่างกัน แต่สามารถทำร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น หมอจะประเมินปัญหา สภาพผิว และความต้องการของคนไข้ ถ้าต้องการเน้นงานผิวโดยเฉพาะ เห็นผลลัพธ์ทันที ฟิลเลอร์ Belotero Revive จะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าอยากยกกระชับหน้า ลดผิวหย่อนคล้อยของผิว กระตุ้นคอลลาเจน ก็ต้องเครื่องยกกระชับ

ยกกระชับหน้า หมอกิ๊ป
Hifu ยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจนทุกชั้นผิว

Belotero Revive ราคา

ราคา Belotero Revive จะอยู่ในช่วง cc ละ 14,000-16,000 ครับ โดยทั่วไปใช้ 1-2 CC หมอจะประเมินจากคุณภาพผิวปัจจุบันและแนะนำตามความเหมาะสมกับปัญหาผิวครับ

AW_Banner_วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Belotero-Revive

ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ไหนดี ?

การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ต้องการความประณีตและความรู้ทางกายวิภาคในการฉีดเป็นอย่างมาก ดังนั้นไม่ใช่ว่าจะฉีดที่ไหนก็ได้ หมอจึงแนะนำให้เลือกคลินิกฉีด Belotero Revive ที่เข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  1. ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ 
  • คลินิกควรแสดง ชื่อ ภาพถ่าย รวมทั้งเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ของผู้ประกอบการ ให้เห็นได้อย่างชัดเจน 
  • คลินิกสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีแสงสว่างเพียงพอ มองเห็นชัดเจน ห้องหัตถการกว้างขวาง
  • อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ ถูกต้องตามหลักอนามัย 
  • คลินิกควรมีคุณหมอแบบ FullTime ประจำอยู่ด้วย
  • สถานที่ตั้งของคลินิก ควรอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรืออยู่ในบริเวณที่มีผู้คนผ่านเยอะในแต่ละวัน มีความปลอดภัย และเดินทางไปได้สะดวก โดยเฉพาะกรณีที่เกิดปัญหาที่ต้องรีบเข้ามาติดต่อที่คลินิก
  • คลินิกควรมีช่องทางติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Line@ หรือ Facebook สำหรับให้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับคุณหมอที่ทำเคสของตนเองโดยตรงได้อย่างสะดวก
  • ควรมีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เปรียบเทียบผลการรักษา ก่อนทำ-หลังทำ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
  1. ควรเลือกคลินิกที่ทำหัตถการและฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์เท่านั้น แพทย์สามารถตรวจประเมินและแนะนำหัตถการที่เหมาะกับปัญหาของคนไข้ได้ 
  • มีป้ายประจำตัวแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม นำชื่อ – นามสกุลของหมอไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
  • เป็นแพทย์ประจำของคลินิก ไม่ใช่แพทย์ Part-time เพราะแพทย์ประจำจะสามารถดูแลเคสได้ต่อเนื่อง สามารถติดตามตัวได้ และย่อมที่จะรักษาชื่อเสียงของคลินิก
  • พิจารณาจากรีวิวในแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น pantip, facebook ที่คลินิกไม่สามารถลบข้อความได้ ว่าคนไข้ที่เข้ามาฉีดฟิลเลอร์แล้วพอใจผลลัพธ์หรือไม่ การให้คำแนะนำของหมอท่านนั้นดีมากน้อยเพียงใด
  • สามารถเข้าไปปรึกษาและตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำได้
  • สามารถขออนุญาตคุณหมอเพื่อตรวจเช็กว่าฟิลเลอร์เป็นของแท้ ตรวจสอบได้ นำกล่องกลับบ้านได้

อ่านเพิ่มเติม : เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ควรพิจารณาอะไรบ้าง ?

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี? ฟิลเลอร์อันตรายไหม เลือกคลินิกฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ทำไมต้องเลือกฉีด Belotero Revive ที่ V Square Clinic ? 

ที่ V Square Clinic เป็นคลินิกด้านความงามที่มีแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ให้ความเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ใช้ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน รวมถึงราคาที่สมเหตุสมผล มั่นใจได้ว่าทุกท่านที่เข้ามาทำ Belotero Revive และบริการอื่น ๆ ของทางคลินิก จะได้รับความพึงพอใจที่สุดครับ

  • ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ นำเข้ามาจำหน่ายอย่างถูกต้อง แกะกล่อง แกะหลอดต่อหน้า สามารถตรวจสอบได้
  • แพทย์มีประสบการณ์ในการดูแลเรื่องการปรับรูปหน้าและการดูแลผิวมาอย่างยาวนาน
  • มีการตรวจติดตามผลหลังทำ สามารถปรึกษาแพทย์ทางช่องทางออนไลน์ได้ทั้งก่อนและหลังทำ เพื่อตอบข้อกังวลใจได้อย่างทันท่วงที
  • ราคาสมเหตุสมผล
Belotero Revive ที่ V Square Clinic ดีไหม โดย หมอโต้ง หมดเอก หมอแพร หมอบาส

โปรโมชั่น ฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ที่ V Square Clinic

โปรโมชั่น Belotero Revive ราคา cc ละ 14,000-16,000 บาท

โปรฟิลเลอร์-Belotero
รีจูรันราคา

Q&A ฟิลเลอร์ Belotero Revive

ฉีด Belotero Revive อันตรายไหม ?

ฉีด Belotero Revive ไม่อันตรายครับ ตัวยาปลอดภัยผ่านการรับจากองค์การอาหารและยา 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และในประเทศไทยครับ

แต่การฉีด Belotero Revive ให้ปลอดภัย ต้องใช้ฟิลเลอร์ของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพื่อลดการเกิดผลข้างเคียง

ฉีด ฟิลเลอร์ Belotero Revive หน้าบวมไหม ?

หลังฉีด Belotero Revive จะมีอาการบวมตามรอยเข็มที่ฉีดได้ในช่วง 2-3 วันแรก จนถึง 1 สัปดาห์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้หายบวมเร็วขึ้นครับ

ฉีด ฟิลเลอร์ Belotero Revive แล้วแพ้ ต้องแก้ไขอย่างไร ?

พบโอกาสแพ้ฟิลเลอร์ Belotero Revive พบน้อยมาก และส่วนใหญ่เป็นการแพ้ที่ไม่รุนแรง เช่น มีผื่น คันบริเวณที่ฉีด มีอาการบวมแดงนานกว่าปกติ ปวดศีรษะ หากพบอาการเหล่านี้ แนะนำให้เข้าพบแพทย์อีกครั้งเพื่อประเมินและรับยาตามอาการครับ

ในผู้ที่มีประวัติแพ้ Hyaluronic acid หรือแพ้ Glycerol แบบรุนแรง ควรหลีกเลี่ยงการฉีด Belotero Revive ครับ

Belotero Revive ฉีดซ้ำได้ไหม กี่เดือนถึงจะฉีดซ้ำได้ 

Belotero Revive สามารถฉีดซ้ำได้ใน 1 เดือนหากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผิวมาก ผิวแห้งมากหรือขาดการดูแลมานาน โดยแนะนำให้ฉีดทุก 1 เดือน เป็นเวลา 3 เดือน เมื่อสภาพผิวดีขึ้นจนอยู่ในระดับที่คงที่แล้ว สามารถเว้นช่วงการฉีดเป็น 6-9 เดือนได้ครับ


สรุป

Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ตัวแรกที่มีทั้ง HA และ Glycerol ผสมผสานกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นฉ่ำวาว อิ่มฟู เนียน เด้งกระชับ และช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกทำลายจากแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ ก่อนฉีดควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินคุณภาพผิวและวางแผนการฉีดที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดคงผิวสวยได้นาน และเพื่อความปลอดภัยควรเข้ารับบริการในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตัวยาของแท้ตรวจสอบได้ และแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้นครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน